ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The wizard of skyworld : ศึกป่วนดาต้า ป่วนเวหาผ่าปฐพี

    ลำดับตอนที่ #8 : ดาบคมเยือกแข็ง(ครึ่งแรก)

    • อัปเดตล่าสุด 17 ก.พ. 48


    กรงจักรสีดำทมิฬสองอันพุ่งเข้าจู่โจมเจ้าดรารอสไวราสเข้าที่ปากอันแหลมคมของมัน  ที่กำลังเข้าขย้ำปีกเจ้าวิหคอัคคีอยู่ในขณะนี้อย่างรุนแรง  เชือดเฉือนเข้าเนื้อที่ริมฝีกปากของเจ้าไวรัสร่างใหญ่เป็นเหตุให้มันต้องปลดปล่อยเจ้านคอัคคีที่มันกำลังขย้ำอยู่ให้เป็นอิสระ  



        “วิหคอัคคี”



        เสียงเรียกของเจ้านายสาวสุดสวยดังมา  เมื่อเจ้าวิหคอัคคีบินเข้ามาหาหลังจากหลุดจากการขย้ำของเจ้าไวรัสแล้ว



        “แควกๆ” เสียงร้องตอบกลับมาของเจ้าวิหคอัคคีประหนึ่งจะบอกให้นายของมันรู้ว่ามันยังปล่อยภัยดีอยู่แม้จะบาดเจ็บไปทั้งตัวก็ตาม  



        โฮก!



        เจ้าไวรัสตัวโตหลังจากเสียเหยื่อของมันไปอีกครั้งก็ต้องหันมารับมือกับกรงจักรสีดำทั้งสองที่บินโฉบของเฉือนร่างของมัน  โดยพยายามที่จะใช้เคี่ยวในปากทั้งสามของมันเข้างับเจ้ากรงจักรทั้งสองที่บินอยู่ให้ได้แต่ด้วยร่างกายอันใหญ่โตของมันจึงทำให้ยากที่จะตามความเร็วของกรงจักรทั้งสองได้ทันและถึงแม้บาดแผลที่โดยเจ้ากรงจักรทำร้ายจะสามารถรักษาให้หายได้ไม่ยาก  แต่การที่ต้องมาคอยรักษาบาดแผลอยู่เรื่อยๆแบบนี้ก็สร้างความรำคาญใจแก่มันได้มากพอดู  จนในที่สุดสติของมันก็ขาดพึงและตัดสินใจพุ่งเข้าไปหาศัตรูของมันที่เห็นลอยตัวตัวข้างหน้าโดยไม่สนใจเจ้ากรงจักรทั้งสองอีกต่อไป!



        ……………



        “ขอบใจเธอมากนะหนูน้อย”



        เจนีเวียกล่าวขอบคุณวายุหลังจากที่มัวแต่ตกใจกับการโจมตีระยะประชิดของเจ้าดรารอสไวรัสเมื่อกี่นี้ กับมัวเป็นห่วงเจ้าวิหคอัคคีคู่ใจอยู่จนไม่ทันได้สนใจผู้ที่มาช่วยหล่อน



        ร่างบางมองสำรวจร่างน้อยๆที่โอบร่างของตนอยู่อย่างนวดเร็ว  เด็กน้อยผิวขาวในชุดสูทสีเงินแบบจีนดูสะดุดตากับใบหน้าที่อ่อนหวานซะจนทำให้หล่อนยังแยกไม่ออกว่าเป็นเด็กผู้หญิงหรือเด็กผู้ชาย  ซึ่งความจริงในใจหล่อนลึกๆเอนเอียงไปทางเลือกแรกซะมากกว่า  แต่ไม่ว่าจะเป็นทางเลือกไหนในใจของหล่อนก็บอกได้อย่างเต็มปากเต็มคำเลยว่า



        “โอ้  แม่เจ้า  นรกประทาน  เทวาประเทือน เด็กอะไรน่ารักขนาดนี้  น่ารักที่สุด  พระเจ้าจอร์นมันยอดมากๆๆเลย”



    หญิงสาวเพ้อออกมาคนเดียว  พร้อมทำตาหวานเชื่อมด้วยความชื่นชม โดยมีเจ้าวิหคอัคคีที่แอบมองดูด้วยความขนลุกขนพ้อง  เมื่อเห็นเจ้าหน้าผู้ตัดช่องน้อยแต่พอตัว  หนีไปสร้างโลกส่วนตัวของหล่อนโดยไม่สนใจสถานการณ์ที่กำลังย้ำแย่อยู่ในขณะนี้เลย  พลางคิดในใจว่า



        “โรคเอ่อกำเริบอีกแล้วนะเจ๊”



        ในขณะที่เด็กชายผู้กำลังถูกเข้าใจว่าเป็นเด็กหญิงกำลังตั้งหน้าตั้งตาบังคับกรงจักรสีดำทั้งสองเข้าต่อสู้กับเจ้าไวรัส  จนในที่สุด



        โฮ!



        เสียงร้องคำรามก้องมาแต่ไกลช่วยฉุดรั้งสติของหญิงสาวในชุดแดงกลับมาสู่โลกแห่งความจริง   ร่างใหญ่โตของเจ้าไวรัสที่ตัดสินใจพุ่งเข้ามาหา  ทั้งอดีตเหยื่อที่หนีรอดทั้งสอง  กับอีกหนึ่งเหยื่อที่มาใหม่อย่างรวดเร็วและดุดัน  เหนือความคาดหมายของทั้งหญิงสาวและเจ้าวิหคอัคคี  ที่ตกใจจนตั้งตัวไม่ติดที่เจ้าไวรัสที่เห็นไล่งับกรงจักรเป็นพัลวันอยู่เมื่อกี่กลับเปลี่ยนเป้าจู่โจมทันทีทันใด

    แต่ก็ยังดีที่มีอีกหนึ่งคนที่ยังคงมีสติและการตัดสินใจที่รวดเร็วอยู่



        “ฟังก์ชั่นเมจิคโปรแกรม 4 ประตูข้ามมิติ”



        เสียงเรียกฟังก์ชั่นเสริมของกรงจักรเวทย์ทมิฬดังขึ้นอย่างรวดเร็ว  พร้อมๆกับที่กรงจักรเวทย์ทมิฬหนึ่งในสองที่ส่งไปลอยละลิ้วกลับมาอยู่ตรงหน้าวายุ  ก่อนที่เจ้าไวรัสจะเข้ามาถึงตัวเพียงเสี่ยวนาที  



        วูบ!



        กรงจักรเวทย์ที่บัดนี้คือสู่สถานะกระจกบานหนี่งที่กั้นกลางระหว่างวายุและเจ้าไวรัสตัวใหญ่พลันขยายขนาดใหญ่ขึ่นเพื่อรองรับการส่งวัตถุที่ใหญ่ขึ้น  วัตถุที่มีชื่อว่าดรารอสไวรัส!



        เจ้าไวรัสตัวโตที่พุ่งเข้ามากลับหายเข้าไปยังกระจกบานใหญ่ที่อยู่ตรงหน้ามัน   ก่อนที่จะทะลุไปยังกระจกอีกบานหนึ่งที่ลอยอยู่ไกลออกไป   ตามแผนการรับมือที่คิดขึ้นอย่างรวดเร็วของวายุที่มีว่า   ในเมื่อรับก็ไม่ไหว   หนีก็ไม่พ้น  ดังนั้นการหลีกเลี่ยงคงเป็นทางที่ดีที่สุด



        ส่วนเจ้าไวรัสเมื่อหลุดออกมาจากกระจกได้ก็ทำหน้างุนงงสงสัย  ในเมื่ออยู่ๆเป้าหมายตรงหน้าก็หายไป  พร้อมกับที่ตนมาปรากฏตัวในอีกที่หนึ่งได้อย่างไรก็ไม่ทราบได้

        

        …………………….



        “ชาช่า  เป็นอะไรมากไหมเธอ” เสียงเรียกดังมาจากด้านหลังหลังจากนาทีระทึกรอบที่สองในวันนี้ของชาช่าจบลง



        “ไม่เป็นอะไรนะครับคุณวายุ” เสียงอีกเสียงดังขึ้นตามมาติดๆ



        เมื่อชาช่าหันไปก็พบแม่มดขาวเจนีเวียบนหลังเจ้าเพกาซัสม้าสีขวา   ผู้บินมาพร้อมกับชายหนุ่มผิวหมึกในชุดเกราะโบราณที่เหาะตามมาติดๆโดยไม่จำเป็นต้องใช้พาหนะใดๆ



        “ปลอดภัยดีนะครับคุณเจนีเวีย” เสียงแรกจากปากน้อยๆดังขึ้นให้ชาช่าได้ชื่นชมเป็นครั้งแรก  ก่อนจะหันไปพูดกับชายหนุ่มผู้มาใหม่ว่า



        “พี่ไกรครับ  คิดว่างานนี้พอจะหาทางจัดการได้ไหมครับ”



        วายุกล่าวกับชายหนุ่มที่ตนเรียกขอความช่วยเหลือมาอย่างด่วนที่สุด  ถึงแม้ที่นี้จะมีผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์มากแค่ไหน  แต่ถ้าได้ทำงานกับคนที่รู้จักมักคุ้นกันดียอมช่วยให้งานสำเร็จง่ายไปกว่าครึ่ง



        “ผมว่ามันอันตรายเกินไปนะครับคุณวายุ   ทีนี้ให้พวกผู้ดูแลทางนี้จัดการไปดีกว่า  ถ้าเกิดคุณวายุเป็นอะไรไปละก็  คุณวาทะเอาผมตายแน่”

        ไกรท้วงด้วยความเป็นห่วงแม้จะรู้ว่าถึงวายุจะเป็นเด็ก   แต่ลักษณะของวุฒิภาวะทางจิตใจที่ต้องเข้มแข็งเพื่อสู้กับโรคประจำตัวมาตั้งแต่เด็ก  ทำให้วายุค่อนข้างจะเป็นผู้ใหญ่เกินตัวไปมาก   แต่กระนั้นบางครั้งก็ยังมีความเป็นเด็กหลงเหลืออยู่ในตัวอยู่ดี  



    ทำให้ลักษณะที่แสดงออกมาแม้จะดูนิ้มนวล  เยือกเย็นและดูเป็นเด็กว่านอนสอนง่ายไม่เคยร้องงอแงเอาอะไรแบบเด็กๆ   แต่เมื่อรองเขาตัดสินใจจะทำอะไรแล้วละก็  เอาจรวดรุ่นใหม่ที่แรงดีที่สุดของนาซ่ามาฉุดก็ยังไม่แน่ว่าจะเอาอยู่   หรือจะพูดให้ถูกต้องตรงประเด็นเลยก็คือ  เป็นพวกดื้อเงียบและร้ายลึกๆนั้นเอง!



    “คุณเจนีเวียครับทางผู้ดูแลเว็บชาลาล่ามีแผนการณ์ยังไงบ้างครับ”  วายุหันไปถามเจนีเวียโดยทำเป็นไม่ได้ยินคำเตือนของไกร



    เจนีเวียเล่าแผนการณ์ที่ได้ตกลงกันใว้ให้วายุฟัง  โดยเจ้าของแผนการณ์ที่แท้จริงกลับนิ่งเฉยไม่ยอมพูดเองอยู่บนหลังเจ้าเพกาซัสด้านหลังเจนีเวีย  เพราะมัวแต่ยืนพริ้มตาลอยชื่นชมเสียงหวานใสๆของหนูน้อย “นรกประทาน เทวาประเทือน” ของหล่อนอยู่หลังจากที่หายตกใจจากการจู่โจมครั้งล่าสุดของเจ้าดรารอสไวรัสแล้ว



    “คุณเจนีเวียพอจะมีโปรแกรมอะไรที่พอจะกักมันให้อยู่กับที่นิ่งๆได้  ภายในทันทีไหมครับ  แบบว่าไม่ต้องให้อยู่นานนักก็ได้  ขอแค่ให้มันอยู่นิ่งๆสักแป๊บหนึ่งนะครับ”



    “จะว่าไปก็มีหรอกนะจ๊ะ  แต่ว่าเมจิคโปรแกรมที่พอจะกักมันไว้ได้นะ  สำหรับเจ้าตัวโตนั้นคงต้องทำให้มันอยู่ในบริเวณที่แคบลงกว่านี้หน่อย  ไม่ใช่บินไปบินมาอย่างนี้  แล้วที่สำคัญ ดูจากขนาดของมันแล้ว โปรแกรมของฉันคงจะรังมันไว้ได้ไม่ถึงนาทีตัวซ้ำไป”



    เจนีเวียตอบอีกครั้ง แม้จะสงสัยในคำถามอยู่บ้าง  เพราะตลอดเวลาที่รู้จักกันมา  วายุในสายตาของหล่อนก็คือเด็กน้อยหน้าตาน่ารักและท่าทางเงียบเหงาคนหนึ่งที่มักจะเข้ามาอ่านหนังสือในเว็บของหล่อนเท่านั้น  แต่ในขณะนี้ท่าทางที่สุขุมเกินวัยและสายตาคมกล้าแม้จะป่นความหวานซึ้งอยู่บ้างก็ตาม   รัศมีแห่งผู้นำที่หล่อนไม่รู้ว่ามันอยู่ในตัว”เพชรเทวา”ทุกคนที่ส่องออกมาจากตัววายุ  ก็สามารถทำให้เจนีเวียตอบคำถามทุกคำของวายุอย่างโดยดี



    “เอ่อ  คุณวายุครับผมว่า….” ไกรที่เป็นผู้ถูกลืมอีกคนพยายามพูดขัดขึ้นเนื่องจากสังหรณ์แปลกๆเมื่อเห็นท่าทางที่ครุ่นคิดของวายุ  แต่ยังไม่ทันได้จบประโยควายุก็ชิงพูดขึ้นมาว่า



    “เปลี่ยนแผนครับ    คุณรีบแจ้งไปยังผู้ดูแลเว็บชาลาล่านี้ว่าให้พวกเขาพานักคอมพิวเตอร์ที่ยังพอสู้ได้ทั้งหมดมาที่บริเวณสวนสาธารณะที่อยู่ตรงกลางเว็บนี้   ที่นั้นเราสามารถโจมตีพร้อมกันได้ดีกว่าจุดเดิมที่คุณบอก  

    พอถึงเวลาที่เจ้าไวรัสนั้นไปถึง   มันจะถูกล่อให้บินอยู่ด้านบนของสวนสาธารณะนั้น  จากนั้นให้คุณใช้เมจิคโปรแกรมของคุณหยุดการเคลื่อนไหวของมันให้นานเท่าที่จะทำได้  จากนั้นจะมีคนที่จะช่วยหยุดการทำงานของเจ้าดรารอสไวรัสนั้นให้ต่อจากคุณอีก

    ทันทีที่เขาหยุดการทำงานของมันได้แล้ว  ให้พวกผู้ดูแลและนักคอมพิวเตอร์ทุกคนใช้ทุกอย่างที่เรามีทำลายร่างโปรแกรมของมันให้สิ้นซากไปเลย”



    วายุสั่งการอย่างรวดเร็วจนทุกคนในที่นั้นเริ่มตามไม่ทัน  โดยเฉพาะเจนีเวียผู้รับคำสั่ง  ที่ทั้งงุนงงกับการสั่งการของวายุและสงสัยในคำสั่ง  โดยเฉพาะที่พูดว่า “ จะมีคนมาหยุดการทำงานของเจ้าไวรัสนั้น” แทนที่จะใช้คำว่า “หยุดการเคลื่อนไหวของเจ้าไวรัสต่อจากหล่อน”



    “เดี่ยวนะวายุ  ใครจะไปเป็นตัวล่อนั้นละ” เจนีเวียถามคำถามออกมาจนได้ หลังจากงุนงงไปพักหนึ่ง

        

        วายุแย้มยิ้มที่ดูน่ารักน่ากอดซะจนกระชากใจแม่มดแดงผู้เป็นหัวหน้าผู้ดูแลเว็บไซด์นี้ตัวจริงไปอย่างหมดใจ  ก่อนที่จะพูดประโยชน์ที่ทำให้ไกรแทบหยุดหายใจขึ้นว่า



        “ผมเองครับ”



        จากนั้นพุ่งทะยานไปหาเจ้าดรารอสไวรัสที่กำลังบินเข้ามาหาทางด้านนี้เช่นกัน  หลังจากที่มันจัดการไล่ตะเพิดหน่วยผู้ดูแลระบบหน่วยหนึ่งที่เกิดโชคดี  ได้พบเจ้าไวรัสที่โผล่ออกมาจากกระจกเวทย์ทมิฬที่อย่างงงๆโดยวายุเป็นผู้ส่งไป



        “เดียวก่อนครับคุณวายุ   รอผมด้วย” ไกรร้องลั่นก่อนพุ่งทะยานตามวายุไปอีกคน



        ………….



        ร่างน้อยๆในชุดสูทสีเงินที่เหาะด้วยความเร็วสู้เกินกว่าผู้เป็นอาจารย์จะตารมทัน   สร้างความตกใจให้แก่ไกรเป็นอันมาก  เพราะนับจากวันสุดท้ายที่เขาได้พาเด็กชายเข้ามายังสกายเวิล์ด

    เป็นครั้งสุด  ก่อนที่จะมาพบกันในโลกนี้อีกครั้ง  เมื่อตอนที่ปะทะกับนักแฮกเกอร์ที่เข้ามาขโมยข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัทเพชรเทวาโอสถ    



    เด็กชายได้สร้างความประหลาดใจให้เขานับครั้งไม่ถ้วน  ไม่ว่าจะเป็นเมจิคโปรแกรมที่ร้ายกาจ   หรือแม้กระทั้งการต่อสู้ในโลกแห่งคอมพิวเตอร์ที่ดูเหมือนเด็กชายจะเรียนรู้ด้วยตนเองมาโดยตลอดและในตอนนี้ก็ยังเป็นความเร็วในการท่องเวหาของเด็กชายที่เวลานี้ได้ก้าวผ่านระดับความเร็วของเขาไปแล้ว



    ความคิดของไกรหยุดลงเมื่อพบว่าเจ้านายของตนได้หยุดร่างของตนไว้กลางอากาศรอคอยการมาของเขาอยู่



    “คุณวายุครับรู้ตัวไหมว่าคิดจะทำอะไร” ไกรเริ่มสวดขึ้นแบบผู้ใหญ่ที่คุ้นเคยกันมานานสั่งสอนเด็กในความดูแล



    “ผมยอมรับนะครับว่าคุณวายุเก่งมาก  จนสามารถพูดได้ว่าอัจฉริยะเลยก็ได้ที่สามารถทำอะไรต่ออะไรที่ยากๆและผู้ใหญ่บางคนยังทำไม่ได้  แต่ถึงยังไงคุณก็ยังเป็นเด็กอยู่   เป็นเด็กที่ควรจะอยู่ในความดูแลของผู้ใหญ่  ไม่ใช่ว่าคิดว่าจะทำอะไรก็ทำได้นะครับ   ทุกคนเป็นห่วงนายน้อยมากเลยรู้ไหมครับ”



    ไกรหยุดพูดเพราะเริ่มหอบจากการสวดวายุซะเลอะอย่างฟิวฟ์ขาดสุดๆ  ในสายตาของเขาวายุเป็นทั้งเจ้านายและน้องชายที่เขาห่วงมากคนหนึ่ง  ในขณะที่คนถูกสวดยืนนิ่งไม่โต้ตอบใดๆตามแบบฉบับของตนรอให้ไกรพูดจบ  จากนั้นตอบออกไปด้วยเสียงเรียบๆเช่นเคยว่า



    “ขอโทษนะครับพี่ไกร  ผมรู้ว่าทุกคนห่วงผมแค่ไหน  ห่วงผมที่ในสายตาของทุกคนมักคิดว่าผมเป็นเด็กที่อ่อนแอ่อยู่เสมอ  ใช่ครับในโลกจริงนะผมอ่อนแอจริงๆ  ทุกๆวันผมมักแต่เฝ้าคิดบ้างว่าจะมีสักครั้งหรือสักอย่างไหมนะที่ผมจะมั่นใจว่าตัวเองจะทำได้ดีพอที่จะไม่ต้องให้ใครมาห่วงเกินจำเป็นอีก  

    จนในที่สุดผมก็พบแล้ว  พบโลกที่ผมสามารถทำในหลายๆสิ่งที่คนอื่นเขาทำกันได้และพี่เองก็เป็นคนพาผมมายังโลกนี้  โลกที่หลายสิ่งที่ผมฝันถึงเป็นจริงได้  ขอร้องเถอะครับให้ผมได้ทำตามความฝันของผม  ความฝันที่จะสามารถช่วยเหลือคนอื่นได้บางไม่ใช่เฝ้ารอคอยคนอื่นทำให้แต่ฝ่ายเดียว”



    ไกรยืนนิ่งแบบเดียวกับเด็กชายเมื่อได้ฟังความในใจของวายุ   ความในใจที่น้อยครั้งจะมีผู้ใดได้ฟังก่อนจะรีบพูดกับเด็กชายต่อว่า



    “ผมเข้าใจนะครับคุณวายุ  แต่คุณวายุก็ไม่จำเป็นต้องมาเสี่ยงแบบนี้นี่ครับ  ยังมีอะไรอย่างอื่นอีกมากที่คุณจะสามารถทำให้คนอื่นได้อยู่”



    “ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกันละครับพี่ไกร”



    “แต่” ยืนนิ่งไปสักพักก่อนจะพูดต่อว่า



    “ดูเหมือนเจ้านั้นมันจะไม่ยอมให้ผมเปลี่ยนใจซะแล้ว”



    เมื่อไกรหันไปยังที่เส้นขอบฟ้าที่เด็กชายมองอยู่ก็พบว่า  เจ้าไวรัสตัวใหญ่กำลังบินมาในทิศทางที่ตนและเจ้านายตัวน้อยยืนอยู่  เจ้าไวรัสที่พกพาความโกรธาบินมาแต่ไกลและหมายมั่นที่จะกวาดเอาผู้ที่ขวางทางมันทุกคนในวันนี้ให้แหลกสลายไป!  



        “ออฟชั่นเมจิคโปรแกรมสองฟังก์ชั่นที่สอง”

        

        “ออฟชั่นเวคพอยโปรแกรมหนึ่ง”



        เสียงเรียกโปรแกรมดังขึ้นในขณะที่เจ้าไวรัสพุ่งเข้ามาใกล้ทุกขณะจิต  ใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามาจนในที่สุด



        “ กรงจักรเวทย์ทมิฬ”



        “ดาบคู่เหล็กน้ำพี้”



        สิ้นเสียงเรียกโปรแกรม 2 ศิษย์อาจารย์ก็พุ่งทะยานเข้าปะทะเจ้าไวรัสในทันที!



        ……………

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×