ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The wizard of skyworld : ศึกป่วนดาต้า ป่วนเวหาผ่าปฐพี

    ลำดับตอนที่ #7 : สายลมสู่สมรภูมิ(อัพจบตอนแล้ว)

    • อัปเดตล่าสุด 13 ก.พ. 48


    “ออฟชั่นการ์ด โปรแกรม วิหคอัคคี”



    วิหคอัคคีตัวหนึ่งพลันปรากฏ ดวงตาสีฟ้าใสกับปีกและทั่วทั้งร่างที่ลุกด้วยเปลวแห่งอัคคีชวนให้ผู้พบเห็นหวั่นเกรง   เหิรเวหาเข้าหาเจ้าไวรัสขนาดใหญ่อย่างรวดเร็ว  



    แควกๆ



    เสียงร้องบาดแก้วหูของเจ้านกอัคคีดังขึ้น ก่อนที่มันจะเข้าไปต่อสู้กับเจ้าไวรัสอย่างดุเดือด  เจ้านกอัคคีใช้กรงเล็บกับเปลวเพลิงบนร่างของตนเข้าโรมรันเจ้าไวรัส  ในขณะที่เจ้าดรารอสไวรัสก็ใช้หัวทั้งสามของมันเข้าต่อสู้อย่างดุดันไม่แพ้กัน



    โฮก! .....โครม



    เสียงของการปล่อยคลื่นเสียงของเจ้าดรารอสไวรัสดังลั่น  ในขณะที่เจ้านกอัคคีบินโฉบตัดฉากหลบรอดคลื่นเสียงจากทั้งสามหัวของเจ้าดรารอสไวรัสได้อย่างเฉียดฉิวทุกครั้ง  



    แควก...บึมๆ



    เปลงเพลิงจากปากเจ้านกอัคคีโตกลับเจ้าดรารอสไวรัสในทันทีที่มันบินโฉบหลบการโจมตีมาอยู่ด้านหลังของคู่ต่อสู้ที่ตัวใหญ่กว่าหลายเท่า   เปลวเพลิงโดนหนึ่งในสามหัวของเจ้าไวรัส          อย่างจัง  แต่กระนั้นก็ยังคงทำได้เพียงแค่ทำให้เจ้าไวรัสหยุดชะงักการโจมตีไปเพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้นก่อนที่มันจะหันกลับมาไล่โจมตีเจ้านกอัคคีต่อไปโดยแผลที่ถูกเปลวเพลิงนั้นก็ค่อยๆสมานตัวเองไปในที่สุด



    หากแต่เหตุการณ์นี้เองก็อยู่ในความคาดหมายของหญิงสาวแม่มดแดงชาช่าอยู่แล้ว  เพราะตัวหล่อนเองก็รู้อยู่แก่ใจว่า  วิหคอัคคีของตนคงไม่อาจเอาชัยต่อคู่ต่อสู้รายนี้ของมันได้แน่  แต่สิ่งที่หล่อนต้องการนั้น  คือการที่เจ้าวิหคอัคคีจะช่วยเป็นตัวล่อให้เจ้าดรารอสไวรัสบินเข้าไปสู่จุดระยะหวังผลโจมตีของเหล่านักดูแลระบบที่ได้ประสานงานกันไว้แล้วต่างหาก



    เจ้าไวรัสโผบินไล่ตามเจ้าวิหคอัคคีอย่างกระชันชิด พร้อมกับยิงคลื่นเสียงไล่ล่าเจ้าวิหคอัคคีที่บังอาจมาขัดความสำราญของมัน  ในขณะที่เจ้านกเพลิงก็บินฉวัดเฉวียงหลบหลีกไปได้ทุกครั้ง  แต่กระนั้นเองความเร็วของเจ้าดรารอสก็เริ่มไล่ตามเจ้าวิหคอัคคีใกล้เข้ามาเรื่อยๆและในขณะเดียวกัน มันก็ค่อยๆเข้ามาใกล้จุดระยะยิงของนักแม่นปืนและบรรดานักคอมพิวเตอร์ทั้งหลายที่ใช้อาวุธโจมตีระยะใกลและมีพลังทำลายน้อยเมื่อเทียบกับผู้ใช้โปรแกรมแห่งเวทย์ทั้งหลาย



    แผนการของชาช่าใกล้จะสำเร็จเมื่อเจ้าดรารอสที่บินไล่ล่าวิหคอัคคีอยู่นั้นเข้าใกล้จุดปะทะเข้าทุกที  ใกล้เข้ามา ๆ และมันน่าจะสำเร็จ ถ้าเพียงแต่ไม่เพราะว่า..



    “ออฟชั่นการ์ดโปรแกรม ผึ้งแห่งสายฟ้า”



    เสียงของจอมเวทย์โปรแกรมผู้หนึ่งดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของฝูงผึ้งตัวเท่าวัวฝูงหนึ่งที่ตามตัวเต็มไปด้วยประกายแห่งสายฟ้า   เจ้าของมันคือเด็กหนุ่มผู้หนึ่งที่คงจะพึงนึกได้ละมั้งว่าตนเองก็มีการ์ดโปรแกรมเหมือนกัน เด็กหนุ่มผมฟูอยู่ในชุดฮิบผอบแบบที่กำลังนิยมกันอยู่ในปัจจุบัน ท่าทางมั่นใจในตนเองสูง  แต่น่าเสียดายนักที่เขาดันมามั่นใจผิดเวลา ผิดสถานที่และผิดกาลเทศะอย่างยิ่งยวด



    ในที่แห่งนี้ที่เต็มไปด้วยเหล่านักคอมพิวเตอร์ผู้ดูแลระบบทั้งหลาย  แน่นอนเลยว่าการที่ผู้คนเหล่านี้จะมีการ์ดโปรแกรมติดตัวสักคนละใบสองใบย่อมไม่ใช่เนื่องที่ผิดปกติ  แต่การที่ไม่มีใครสักคนเลยที่จะเรียกการ์ดโปรแกรมมาใช่เลยนั้น  ย่อมเกิดจากเหตุผลที่ว่า



    1.ดูแล้วรู้ถึงแผนการของชาช่าที่ได้ใช้เจ้าวิหคอัคคีเข้าหลอกล่อดรารอสไวรัสให้เข้าไปสู่จุดปะทะที่ตนได้ว่างแผนไว้



    2.เชื่อมั่นในวิหคอัคคี A.I. ระดับ คราส A ที่สร้างชื่อให้กับชาช่าไว้ตั้งแต่เข้ามารับหน้าที่ผู้ดูแลระบบที่พึ่งจบใหม่ๆ  ถ้าหากว่า A.I. ระดับคราส A ยังเอาชนะไม่ได้ก็ป่วยการณ์ที่จะส่ง A.I.ตนไปสู้



    3.เจียมตัวรู้อยู่แล้วว่าระดับของA.I.ในการ์ดตนนั้นมีระดับแตกต่างจากเจ้าดรารอสไวรัส อย่างเห็นได้ชัด เพราะแค่เห็นก็รู้แล้วว่าเจ้าไวรัสนั้นนะ คราส S ระดับสูงที่สุดของA.I. โปรแกรมที่ใช้ต่อสู้แล้ว!



    4.กลุ่มสุดท้าย  พวกที่มัวแต่ตะลึงในการต่อสู้อันดุเดือนระหว่างเจ้าดรารอสไวรัสกับวิหคอัคคี  จนพึ่งจะคิดได้ว่า เอ....เราก็มี การ์ดโปรแกรมนี้หว่า จากนั้นก็ทะลึ่งพรวดพราดใช้การ์ดโปรแกรมของตนออกไปสู้กับเจ้าดรารอสไวรัสโดยไม่ได้ดูตาม้าตาเรือตาเสีอตาสิงห์   กาลเทศะ  แย่ที่สุดคือไม่ได้ดูความสามารถและฝีมือของตัวเองเลยนี้สิ



    แชด!



    เสียงสายฟ้าเส้นเล็กๆแหวกอากาศมาแต่ไกลก่อนที่จะเข้าสะกิดผิวหนังของเจ้าดรารอสไวรัสที่กำลังหลงกลตั้งหน้าตั้งตาตามล่าวิหคอัคคีอยู่อย่างไม่ลดละ  และดูเหมือนมันจะได้ผลเสียด้วย  แต่บังเอิญจริงๆที่ว่า  มันเป็นผลเสียมากกว่าผลดีนะสิ



    โฮก!



    เจ้าดรารอสไวรัสเปลี่ยนเป้าหมายก่อนที่ร่างของมันจะเข้าสู่จุดปะทะ  ร่างที่ใหญ่โตหากแต่ปราดเปรียวกลับหันร่างกลับมาตามจัดการเจ้าฝูงผึ้งตัวน้อยที่บังอาจมากวนใจมันในเวลาที่มันกระหายเลือดจากศัตรูที่มีฝีมือเก่งกาจพอตัว(ทั้งที่เป็นA.I.นี้นะมีเลือดด้วย) และควรคู่ให้มันทำการล่า



    “บ้าชะมัด  ไอ้หน้าโง่ที่ไหนทำเราเสียแผนหมด” ชาช่าส่งเสียงลั่นด้วยความโกรธที่มีคนทำแผนของตนเสียหายหมดก่อนที่จะพุ่งร่างเข้าหาเจ้าดรารอสไวรัสเพื่อหาท่าดึงความสนใจกลับมาพร้อมๆกับหาทางช่วยชีวิตเจ้านักคอมพิวเตอร์ไร้สมองที่กำลังยืนทำหน้าเอ๋อเหรอดูเจ้าผึ้งสายฟ้า A.I.ตนถูกเจ้าดรารอสซัดซะเลอะอยู่บนยอดหอคอยแห่งหนึ่ง



    โดยไม่รู้เรื่องเลยว่า ตนเองจะเป็นเป้าหมายต่อไปของดรารอสไวรัสที่กำลังโกรธจัดเพราะถูกขัดความสุข



    ..................



    “ออฟชั่นเมจิคโปรแกรม 3 เพลิงแห่งสายลม”



    เสียงเรียกโปรแกรมของชาช่าดังลั่น  ก่อนที่เจ้าตัวจะพุ่งร่างเข้าไปขวางเจ้าไวรัสตัวร้ายที่กำลังกระโจนเข้าหาชายหนุ่มจอมบื้อที่มั่วแต่ตกใจเลยไม่ยอมหนี  หลังจากที่เจ้าไวรัสได้จัดการกระทืบฝูงผึ้งแห่งสายฟ้าไปเรียบร้อยแล้วอย่างรวดเร็ว



    เปลวเพลิงสายลมพุ่งเข้าปะทะหัวด้านซ้ายของเจ้าดรารอสไวรัสทันที       ทำให้มันชะงักไปชั่วขณะ  ก่อนที่เจ้าวิหคอัคคีจะรีบทะยานมาช่วยซ้ำแผลเดิมของเจ้าไวรัสเพื่อเปิดโอกาสให้แม่มดแดงนายสาวของตนบินโฉบด้วยไม้กวาดไปคว้าเอาร่างของเด็กหนุ่มออกจากหอคอยได้ทัน  ก่อนที่ 1 ใน 3 ของหัวเจ้าดรารอสไวรัสจะปล่อยคลื่นเสียงออกมาทำลายหอคอยนั่นจนเลอะ แล้วจากนั้นเพื่อนสนิทผู้รู้ใจของแม่มดแดงก็แทรกตัวเข้ามาช่วยอีกแรงหนึ่ง



    “ออฟชั่นเมจิคโปรแกรม 2 ลำแสงหยุดเนตร”



    แสงทรงกลมสีขาวพุ่งออกมาจากมือแม่มดขาวเจนีเวียเข้าหาเจ้าดรารอสไวรัสในจังหวะที่หัวที่สามของมันกำลังจะทำหน้าที่โจมตีชาช่าเป็นจังหวะที่สามหลังจากที่อีกสองหัวทำงานผิดพลาดนั้นเอง   แสงทรงกลมล่องลอยเข้าหาเจ้าดรารอสไวรัสก่อนที่จะระเบิดลำแสงสีขาวเจิดจ้าบาดสายตาผู้คนไปทั่ว  แต่ก็แน่ละว่าผู้ที่จะเจ็บหนักจากการโจมตีครั้งนี้ยอมไม่ใช่ผู้คนที่ล้อมมันอยู่แน่ๆ  หากแต่เป็นเจ้าดรารอสไวรัสที่ดวงตาทั้งสามคู่บนหัวสามหัวของมันได้รับผลของการโจมตีไปเต็มๆในทั้นทีซึ้งผลของการโจมตีนั้นเองก็คือการที่มันจะต้องตาบอดไปชั่วคณะหนึ่งนั้นเอง



    “ทำได้ดีนี้คุณแม่มดขาว” ชาช่าร้องบอกเจนีเวียที่เข้ามาช่วยหล่อนได้อย่างทันถ่วงที



    “เธอก็ไม่เบาคุณแม่มดแดง” เจนีเวียยิ้มตอบกลับเพื่อนของหล่อนอย่างสนิทสนม  ด้วยความที่ทั้งหล่อนและชาช่านั้นเป็นเพื่อนร่วมเรียนมาด้วยกันใน วิชาด้านการดูแลระบบคอมพิวเตอร์ ของมหาวิทยาลัยที่ทั้งสองได้จบการศึกษามา  



    ทำให้ทั้งสองรู้จักมักคุ้นและเข้าขากันดีในการต่อสู้ภายในระบบคอมพิวเตอร์  ทันทีที่ชาช่าเหลือบมามองที่หอคอยที่ถูกถูกถล่มเมื่อกี่และขยับตัว เจนีเวียก็รู้แล้วว่าหล่อนกำลังคิดจะทำอะไร  จึงสามารถพุ่งทะยานมาช่วยในจังหวะที่ชาช่าต้องการได้ทันถ่วงที  แต่กระนั้นเองหลังจากที่เพื่อนสนิททั้งสองส่งยิ้มให้กันยังไม่ทันจะลบรอยยิ้มนั้นเองทั้งสองก็ต้องพบกับ



    โฮก..ฮูม!



    จังหวะที่ชาช่าและเจนีเวียเผลอนั้น  เจ้าดรารอสไวรัสที่โดนทำลายประสาทตาไปชั่วขณะจนทำให้ไม่สามารถมองเห็นได้และกำลังทำอาละวาดอยู่บนพื้นเนื่องจากไม่สามารถมองเห็นเหยื่อที่กำลังล่าอยู่นั้นเอง  มันก็กลับมาเปลี่ยนวิธีการโจมตีเพื่อที่จะพยายามป้องกันตนเองจากผู้ดูแลระบบทั้งหลายที่กำลังพุ่งทะยานมาจากอีกทางหนึ่ง  เนื่องจากเจ้าไวรัสถูกหยุดการเคลื่อนไหวไกลออกมาจากจุดที่จะโจมตีถึงตามที่ตกลงกันไว้  



    คลื่นพลังลมทำลายมหาศาลถูกส่งออกมาจากปีกทั้งสองของเจ้าไวรัสด้วยความรุนแรงไปรอบทุกทิศทุกทาง  กวาดเอาเหล่าผู้ดูแลระบบที่พุ่งนำหน้ามาก่อนเป็นพวกแรกปลิวกลับไปยังทิศทางที่ตนจากมาทันใด  แน่นอนในเมื่อมันเป็นการโจมตีทุกทิศทุกทางโดยไม่ได้สนใจเป้าโจมตีของเจ้าดรารอสไวรัสนั้นย่อมหมายความว่า   ชาช่าและเจนีเวียที่ยังลอยตัวอยู่ใกล้เจ้าดรารอสไวรัสมาก กว่าใครเพื่อนย่อมต้องได้รับผลจากการโจมตีนี้เป็นพวกแรก!



    “ว้าย”



    ชาช่าร้องด้วยความตกใจทันทีที่คลื่นพลังกระทบถูกตัวส่งร่างลอยละลิ้วปลิวตกจากเจ้าเพกาซัสคู่ชีพหลับตาด้วยความตกใจ       ทันใดร่างบางล่วงหล่นลงสู่พื้นอย่างรวดเร็วจนใครๆก็ไม่อาจคาดคิดและยื่นมือช่วยเหลือไว้ได้  นอกจากอุ้มมือใหญ่อุ้มมือหนึ่ง  อุ้มมือของนักรบหนุ่มผู้หนึ่งในชุดเกราะนักรบไทยโบราณ!



    “ไม่เป็นอะไรนะครับคุณผู้หญิง”



    ทันทีที่หญิงสาวลืมตาขึ้นก็พบกับใบหน้าของชายหนุ่มผู้หนึ่งในชุดเกราะโบราณ  ชายหนุ่มผู้มีนามว่า “ไกร  แดนดวง”



    ....................



    ในขณะที่หญิงชาวผู้มีอาภรณ์สีขาวได้รับการช่วยเหลือจากชายหนุ่มในชุดเกราะโบราณ  อีกด้านหนึ่งหญิงสาวผู้มีอาภรณ์สีแดงกลับไม่โชคดีเช่นเดียวกับเพื่อนของหล่อน  ชาช่าถูกแรงอัดกระเด็นตกจากไม้กวาดคู่ชีพล่วงหล่นลงสู่ดาดฟ้ายอดตึกแห่งหนึ่งในเว็บไซด์ชาลาล่า  ร่างบอบบางแน่นนิ่งไปพักหนึ่งด้วยผลแห่งแรงอัดของพลังการทำลายของเจ้าสัตว์ประหลาด  แม้จะโชคดีอยู่บ้างที่ร่างของหล่อนไม่ได้ล่วงหล่นลงสู่พื้น  หากแต่กลับล่วงลงกระแทกพื้นดาดฟ้าตึกที่อยู่ใกล้ๆ  ถึงอย่างนั้นก็ตาม  แค่นั้นก็เพื่อพอแล้วที่จะทำให้หญิงสาวน็อคไปได้ครู่ใหญ่!

    กรร...



    เสียงกำรามต่ำๆหากแต่ดังก้องเข้าสู่โสตประสาทของหญิงสาวช่วยปลุกให้ชาช่าตื่นจากการสลบ  หญิงสาวสลัดหัวด้วยความมึนงง  พร้อมกับคอยๆลืมตาขึ้นมองภาพตรงหน้าและพยายามปรับสายตาที่จะมองภาพตรงหน้าให้ชัดเจน  



    ในที่สุดหลังจากพยายามสลัดความงุนงงอยู่พักใหญ่หล่อนก็มองเห็นภาพๆหนึ่ง  ภาพของแววตาของเจ้าสัตว์ร้ายที่กำลังจ้องและพร้อมที่จะเข้าตะครุบเหยื่อตัวน้อยๆของมันให้แหลกลาน  เจ้าดรารอสไวรัสผู้ซึ่งเต็มไปด้วยความโมโหโกรธาที่มากับดวงตาที่หายสนิทจากการรักษาตัวเอง!



    โฮก!



    คลื่นเสียงทำลายล้างพุ่งเข้าหาศัตรูตัวฉกาจที่เจ้าดรารอสไวรัสจำได้ในระยะประชิดด้วยความรวดเร็ว  รวดเร็วเกินหลบทัน  รุนแรงเกินรับไหว ยากที่จะหาใครต้านทาน  นอกจากคนผู้หนึ่ง



    “ออฟชั่นเมจิคโปรแกรม 1 กระจกเวททมิฬ”



    กระจกเวทย์สีดำเป็นมันวาวพุ่งเข้าขวางการโจมตีในจังหวะสุดท้ายส่งพลังการโจมตีของเจ้าดรารอสไวรัสคืนสู่เจ้าของ



    บึม...โฮก



    ร่างน้อยๆในชุดสูทจีนพุ่งทะยานเข้ามาหาชาช่าหลังจากที่ส่งเมจิคโปรแกรมมาเข้าช่วยเหลือหญิงสาว  ทันทีที่อุ้มมือน้อยแตะแขนของหญิงสาวการโจมตีของเจ้าดรารอสไวรัสถูกส่งมาอีกครั้ง



    ปลิว ปลิว ปลิว



    เสียงการสะท้อนการโจมตีของกระจกเวทย์ทมิฬที่ขยายขนาดใหญ่ขึ้นดังติดกันสามครั้งส่งพลังการโจมตีเข้าไปหาเจ้าดรารอสไวรัสอีกครั้ง



    บึมๆๆ..โฮก!



    เจ้าดรารอสไวรัสร้องลั่นอีกครั้งหลังจากถูกพลังของตนพุ่งกลับไปทำร้าย  ด้วยพลังโจมตีที่รุนแรงของมันเอง  ทำให้เจ้าไวรัสร่างใหญ่ถูกซัดกระเด็นถ่อยห่างออกไปไกลจากจุดเดิมที่ยืนอยู่  ทเป็นโอกาสที่วายุจะช่วยพยุงร่างของชาช่าลุกขึ้นมาก่อนพาร่างของตนเองและหญิงสาวพุ่งทะยานขึ้นท้องฟ้าออกห่างจากจุดเดิมอย่างรวดเร็ว  



    เจ้าดรารอสไวรัสเห็นดังนั้นก็รีบพุ่งติดตามมาอย่างดุดัน  ปากทั้งสามยังปล่อยพลังไล่ล่าหนึ่งเด็กชายผู้มาใหม่และหนึ่งหญิงสาวผู้บาดเจ็บอย่างไม่ลดละ  



    แควก!



    ในขณะที่การไล่ล่าเปิดฉากขึ้นอีกครั้งตัวละครอีกตัวหนึ่งที่ถูกลืมไปแล้วก็พลันกลับคืนสู่การต่อสู้อีกครั้ง    เจ้าวิหคอัคคีเข้าโจมตีขัดขวางการไล่ล่าของเจ้าดรารอสไวรัสกลางอากาศอย่างรุนแรงที่สุดเท่าที่ร่างกายอันบาดเจ็บจากการโจมตีครั้งที่แล้วของเจ้าไวรัสผู้ชั่วร้ายจะทำได้  กรงเล็บเพลิงของเจ้านกอัคคีพุ่งเข้าขย้ำที่ศรีษะด้านซ้ายของเจ้าไวรัสอย่างรุนแรงทำให้เจ้าดรารอสไวรัสจำเป็นต้องหันไปจัดการกับผู้ขัดขวางอีกครั้ง



    ศรีษะทั้งสามของเจ้าไวรัสส่งเคี่ยวอันแหลมคมจากปากเข้าขย้ำตอบกลับการโจมตีของเจ้าวิหคอัคคีอย่างเมามันส์และเนื่องจากขนาดที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดประกอบกับอีกสามปากที่เต็มไปด้วยเคี่ยวอันแหลมคม  ทำให้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าฝ่ายที่ต้องถูกเล่นงานจนย้ำแย่ก็คงต้องเป็นเจ้านกอัคคีผู้ซื่อสัตย์ต่อเจ้านายอย่างแน่นอน!



    “วิหคอัคคี” เสียงร้องของหญิงสาวนามชาช่าดังขึ้น  เมื่อเห็นเจ้านคอัคคีผู้ซื่อสัตย์กำลังถูกเล่นงานจนย้ำแย่เพื่อปกป้องตนเอง  



    เด็กชายในชุดสูทสีเงินจ้องมองไปยังภาพการต่อสู่ระหว่าง  2  โปรแกรมแห่งโลกคอมพิวเตอร์ ในขณะที่มือน้อยทั้งสองข้างยังคงเกาะกุมร่างบางผู้สูงวัยกว่าไว้ในอ้อมแขนพลางพาทะยานเหาะไปกลางเวหาทิ้งห่างจากระยะการต่อสู้ที่ตนมองเห็นอยู่    



    สมองอันชาญฉลาดเกินวัยรีบประมวลสถานการณ์อย่างรวดเร็ว  ถึงแม้ว่าเจ้าวิหคอัคคีจะเป็นเพียง A.I. โปรแกรมที่ไม่มีชีวิตแต่ในขณะนี้การเสียผู้ช่วยที่เข้มแข็งอย่างเจ้าวิหคอัคคีไปคงไม่ดีแน่   เมื่อคิดได้ดังนั้นวายุจึงตัดสินใจได้แล้วว่าคงต้องถึงเวลาเข้ารุมสกัมเจ้าไวรัสตัวโตนี้แล้ว



    “ฟังก์ชั่นเมจิคโปรแกรม 2 กรงจักรเวทย์ทมิฬ”



    ………………



    โปรดติดตามตอนต่อไป



    ดาบคมเยือกแข็ง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×