ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ปฏิบัติการกู้รถไฟ
ศึกป่วนดาต้าฤทธาเจ้าแฮกเกอร์
ตอนที่ 4 ปฏิบัติการกู้รถไฟ
   
เหนือน่านฟ้าไทย เส้นทางกรุงเทพมหานครสู่จังหวัดจันทบุรี
    เสียงของเครื่องบินพิเศษแห่งหน่วยรักษาความสงบเฉพาะกิจดังก้องไปทั่วน่านฟ้า  ขณะที่ตัวเครื่องบินทั้ง 3 ลำบินแหวกท้องฟ้าผ่ากระแสงลมบินไปยังจุดหมายอย่างเต็มกำลัง
“เหลือเวลาอีกกี่นาที”
ผู้การหนุ่มหันไปหาลูกน้องคนหนึ่งที่ทำหน้าที่สื่อสารข้อมูลกับศูนย์ควบคุมรถไฟที่ตนเพิ่งออกมา
“ไม่ถึง 5 นาทีครับ”
“แล้วเวลาที่เราน่าจะไปถึงละ”
ผู้การหนุ่มถามต่อ
“เอ่อ..ประมาณ 6 นาทีครับ”
“บ้ะ  นี่มันเครื่องบินพิเศษสำหรับหน่วยเรานะ  บินเหนือเสียงได้ด้วยซ้ำ  บอกให้นักบินเร่งความเร็วขึ้นอีกซิ”
ลูกน้องคนเดิมหันไปติดต่อกับนักบินสักพักแล้วหันกลับมาบอกว่า
“นักบินบอกว่าตอนนี้สภาพอากาศแถบนี้มีพายุเข้า  เร่งเครื่องมากไม่ได้จะเกิดอันตราย อาจตายหมู่ได้ครับ”
“โว้ย นี้ฉันจะบอกอะไรให้นะ  มีคนครึ่งพันกำลังจะตายหมู่ในรถไฟนั้น  ไปไม่ทันเราก็ถูกด่าเลอะแน่  อาจถูกเด้งหรือไม่ก็ตกงานด้วยซ้ำไป  ฉันนะไม่เป็นไรหรอกแต่พวกแกซิจะแย่  เลือกเอาระหว่างตายหมู่กับตกงานแกจะเอาอันไหน”
ผู้การหนุ่มขึ้นเสียงอย่างฟิวขาดสุดๆส่วนลูกน้องตัวดีได้ยินดังนั้นก็ทำท่าทางเหลอหลาหันไปติดต่อนักบินที่ห้องนักบินด้านหน้าของเครื่องผ่านเครื่องสื่อสารว่า
“งั้นแบบนี้  ท่านนักบินทั้งหลายเยียบมิดเลยเพ่  ระหว่างตกงานกับตายหมู่  ฉันเลือกตายหมู่ดีกว่าเว้ย”
.
ชายร่างอ้วนนั่งมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่กำลังแสดงภาพเส้นทางการเดินของรถไฟฟ้าทั้ง 4 ขบวน พร้อมตัวเลขนับถอยหลังด้วยสายตาแข็งกร้าว พร้อมรอยยิ้มที่พร่างพราวเต็มหน้า
    ตัวเลขที่แสดงการนับถอยหลังเวลาที่รถไฟทั้งสองขบวนจะชนกันใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ด็อกเตอร์สติแตกจ้องมองตาไม่กระพริบไปที่จอคอมพิวเตอร์วันนี้ละเขาจะได้แก่แค้นแล้วใช่แก้แค้นที่คนอย่างเข้าถูกทำลายทุกสิ่งที่เขาเฝ้าพยายามแย่งชิงมาด้วยมือของเขานี้ตลอดชีวิตเข้าไม่รู้หรอกว่าไอ้คนที่มันมาทำลายชีวิตเขานั้นเป็นใครแต่วันนี้ละเข้าจะแสดงให้เห็นว่าคนอย่างเขานั้นไม่ยอมศูนย์เสียแต่เพียงฝ่ายเดี่ยวหรอกดังนั้นในเมื่อเขาหาคนที่เขาต้องการตัวไม่ได้เขาก็จะใช้ชีวิตของเหล่าผู้บริสุทธิ์ทั้งหลายบนรถไฟฟ้านี้เป็นเครื่องมือระบายไฟแค้นของเขาแทน!
    แต่ในขณะที่ตัวเลขบนจอคอมพิวเตอร์นับถอยหลังมาจนถึงตัวเลข 2 นาที นั้นเองสัญญาณเตือนก็ดังขึ้น
หว่อๆๆ
ด็อกเตอร์สติแตกสะดุ้งตกใจ  เหตุเพราะสัญญาณที่ดังนั้นเป็นสิ่งที่เตือนว่ามีผู้บุกรุกเข้ามาในระบบคอมพิวเตอร์ของตน และในยามที่แผนการณ์ก่อการร้ายของตนกำลังจะปรากฏความสำเร็จอย่างนี้แน่นอนว่าฝ่ายที่เข้ามาต้องมีจุดประสงค์เพื่อหยุดยั้งเขาเป็นแน่! ด็อกเตอร์สติแตกคิดได้ดังนั้นก็รีบหยิบเครื่องสวมหัวสีทองของตนขึ้นสวมทันใด
.........
ตูมๆๆ
เสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั่วโลกแห่งไซเบอร์ภายในระบบของด็อกเตอร์คงสิทธิ ภาพที่ปรากฏแก่สายตาของด็อกเตอร์  คือภาพของเศษซากระบบกันภัยด้านหน้าของฐานข้อมูลของตนที่จมกองของหิมะขาวโพรนไปทั่ว  และกลางซากนั้นชายหนุ่มชุดทัคซีโด้สีเงินยืนเด่นเป็นสง่ารอคอยเขาอยู่
“แกเป็นใคร”
สิ่งแรกที่เจ้าของระบบกล่าวเมื่อหายตกตะลึง
“คนที่แกต้องการพบยังไงเล่า”
“หมายความว่าไง”
“หมายความว่า ฉันคือคนที่แฉความเลวร้ายของแก่เองไงละ”
จบการเจรจาชายหนุ่มก็ส่งแก้งผลึกสีขาวพุ่งตรงเข้าหาด็อกเตอร์ผู้ก่อการร้ายในทันใด  แน่ละในเวลาที่เร่งรีบอย่างนี้สิ่งเดียวที่ควรจะให้ความสำคัญคือการหยุดรถไฟที่กำลังจะประสานงานก่อนสิ่งอื่นใดและวิธีที่ง่ายที่สุด โดยไม่ต้องมานั่งบังคับให้เจ้าด็อกเตอร์สติเฟื่องนี้บอกรหัสที่จะเข้าควบคุมรถคือ  แช่แข็งระบบคอมฯของเจ้าด็อกเตอร์บ้านี้ให้หมด  เมื่อเครื่องคอมฯหยุดทำงานคลื่นวิทยุที่ส่งไปควบคุมรถไฟทั้ง 4 ขบวนก็ต้องหยุดระบบทำงานไปด้วย!
ตูมๆๆ
ด็อกเตอร์จอมแผนร้ายกระโดดหลบได้ก่อนที่จะถูกทำร้ายอย่างหวุดหวิด  ร่างอ้วนฉุของเขากลับกระโดดลอยตัวไปอย่างรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ  จากนั้นรีบเรียกอาวุธคู่กาย ของตนออกมาทันใด
“ออฟชั่นไอเทม เดอะ คิลกัน”
สิ้นคำกล่าวปืนสีดำเป็นมันวาวก็ปรากฏอยู่บนมือทั้งสองข้างของด็อกเตอร์สติแตก  จากนั้นปืนคู่ทั้งสองกระบอกบนมือก็รัวเข้าใส่ชายหนุ่มในชุดทัคซีโด้อย่างไม่ยั้ง
“แก่ทำลายชีวิตฉัน  วันนี้แกต้องตาย”
เปรี้ยงๆๆ
กระสุดคลื่นสายฟ้าสีดำพุ่งทะยานเข้าหาชายหนุ่มอย่างรุนแรง  แต่ก่อนที่จะกระทบถูกตัวชายหนุ่มกระสุนก็ต้องเจอกับ
“ออฟชั่นเมจิคโปรแกรม3กระจกเงาทมิฬ”
ปริ่งๆๆ
กระสุนสายฟ้าสีดำถูกสะท้อนออกไปสู่ผู้ส่งมันมาทันใด  หากแต่ด็อกเตอร์ผู้แค้นเคืองก็ยังสามารถหลบกระสุนเหล่านั้นไปได้และเมื่อเท้าทั้งสองของด็อกเตอร์สติแตกลงสู่พื้นอีกครั้งการโต้ตอบของชายหนุ่มก็เกิดขึ้น
“แก้วละอองหิมะ”
......................
เสียงการต่อสู้ดังขึ้นทันทีที่หน่วยของผู้การหนุ่มทิ้งตัวลงสู่ที่หมาย  ลูกน้องด็อกเตอร์คงสิทธิถูกวางกำลังไว้อารักขาผู้เป็นนายอย่างพร้อมเพียงในกรณีที่ถูกบุกโจมตีจากเจ้าหน้าที่ 
ปังๆๆ ตูมๆๆ
เสียงกระสุนดังติดต่อกันแหวกอากาศมาเป็นระยะๆ ผู้การหนุ่มนำทีมเข้าบุกอย่างดุเดือด  แม้จะสามารถมา ถึงเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วด้วยการบินแหลกเหนือเสียงท้าตายกับพายุตามคำสั่งผู้การหนุ่มของนักบิน  แต่ต้องมาติดที่ปากทางเข้าโรงงานที่ถูกเมื่อดีบนหอคอยด้านหน้า  คอยยิงสกัดไว้อย่างหนักทำให้ไม่อาจบุกคืบหน้าเข้าไปได้  และยิ่งต้องแข็งกับเวลาแบบนี้ยิ่งสร้างความกดดันเป็นอย่างมาก
“เหลืออีกแค่ 2 นาทีเท่านั้นเอง  บอกเครื่องบินของเราว่ามีอาวุธอะไรให้ใส่พวกมันไม่ยั้งกวาดไอ้พวกบนหอคอยกับข้างหน้าที่ขวางทางให้หมด”
สิ้นเสียงสั่งการเพียงไม่นานเสียงระเบิดก็ดังกึกก้องไปทั่วสนามการสู้รบ 
บึ้มๆๆปังๆๆๆ
หอคอยตรงหน้าย่อยยับทันใจ  ส่วนแนวป้องกันด้านหน้าถูกกวาดด้วยกระสุนเรียบจนพวกที่เหลืออยู่พากันถอยร้นสู่ตัวตึกที่ตนเฝ้าป้องกัน
“บุก”
ผู้การตะหวาดลั่นพร้อมนำกำลังภาคพื้นเข้าบุกสู่ประตูทางเข้า  ลูกน้องของด็อกเตอร์คงสิทธิถูกกวาดไปที่ละคนสองคน จนกระทั้งจับเป็นได้คนหนึ่งที่ประตูด้านในตัวตึก
“ห้องคอมฯที่ใช้ส่งคลื่นวิทยุไปคุมรถไฟอยู่ที่ไหน”
เจ้าหน้าโหดแต่สำออยหลังจากถูกลงทันฑ์เล็กๆจากเท้าผู้การหนุ่มก็เปิดปาก
“คลื่นวิทยุอะไรผมไม่รู้  แต่ถ้าห้องที่มีคอมพิวเตอร์เยอะๆละก็ นาย สิทธิคุ้มอยู่ที่ห้องด้านในสุดของทางขวามือชั้นล่างครับ”
หลังจากถามเส้นทางที่ห้องที่อยู่ของตัวการ  ผู้การหนุ่มก็รีบนำกำลังบุกไปทันที
ปังๆๆ
เสียงดังเข้ามาทุกขณะ  แต่คนในห้องคอมฯด้านในกลับไม่รับรู้สิ่งใด
“นายสิทธิครับ  ๆ  พวกเจ้าหน้าที่มาแล้วรีบหนีเถอะ  โธ่ตอบหน่อยสิครับ”
ลูกน้องผู้พักดีนายหนึ่งพยายามร้องเรียกเจ้านายผ่านเครื่องสื่อสารด้านหน้าห้อง  เนื่องจากห้องนี้ถือเป็นห้องที่ห่วงแหนที่สุดของเจ้านายเข้า  ประตูและผนังถูกสร้างด้วยโลหะพิเศษแข็งแรงทนทานแถมกันเสียงอีก  จึงทำให้การติดต่อภายนอกต้องผ่านเครื่องสื่อสารเท่านั้น  แต่เจ้าลูกน้องนั้นคงไม่รู้หรอกว่าที่เจ้านายของมันไม่ตอบนั้นก็เพราะว่า  เจ้านายของมันเองก็กำลังรับศึกหนักอยู่ภายในโลกอีกโลกหนึ่ง  เหมือนกัน
ปังๆๆ
เจ้าลูกน้องผู้อยู่หน้าห้องก็ร่วงไปอีกคนก่อนที่ผู้การหนุ่มจะนำกำลังเข้ามาสู่หน้าห้อง  เวลาที่ตั้งนับถอยหลังไว้บนนาฟิกาขอมือของชายหนุ่มเลืออีกแค่เพียง 15 วินาที
ปิดๆๆ
ผู้การหนุ่มกดปุ่มสั่งเปิดประตูตรงหน้าแต่ไม่เป็นผล  เสียงร้อยเอกคนสนิทดังมาว่า
“ผมเปิดได้แต่ต้องใช้เวลาอย่างน้อย  ยี่สิบนาทีครับ”
ผู้การหนุ่มได้ยินดังนั้นก็สายหน้าพรางก้าวถอยออกมาจากประตู เวลาที่เหลือ 9 วินาที
“ใครมีระเบิดเหลือบ้าง”
“ใช้หมดทุกคนเลยครับ”
“งั้นพวกเราช่วยกัน”
ทุกคนพร้อมใจกันหันปากกระบอกปืนไปที่ประตู เวลาเหลือ 5 วินาที
ปังๆๆๆ
ประตูไม่สะดุ้งสะเทือนแต่อย่างใด
เวลาที่เหลือ 4 3 2 1 0!
หมดเวลา!
“โว้ย....”
ผู้การร้องลั่นแล้วถีบเอาที่ประตูอีกครั้งอย่างระบายอารมณ์ 
พวกเขามาไม่ทันหรือนี้!
ทันใดนั้นเองสัญาญาณมือถือของเขาก็ดังขึ้น
“ผู้กองวาที  ยินดีด้วยที่คุณไปทันรถไฟทุกขบวนที่ถูกคนร้ายสั่งวิ่งอยู่หยุดวิ่งหมดแล้ว”
“หาว่าไงนะครับ”
ผู้การหนุ่มถามด้วยความตกใจก็เข้าไปไม่ทันนี้นาแล้วมันจะหยุดได้อย่างไร
“รถไฟทั้งหมดหยุดนิ่งก่อนที่จะถึงขั้นประสานงากันก่อนประมาณ 30 วินาทีเท่านั้นเอง”
เสียงฝ่ายควบคุมรถไฟฟ้าคนเดิมรายงานมา
........................
เอียดๆๆๆ
เสียงรางรถไฟเสียดสีล้อรถดังกึกก้อง หลังจากสัญญาณวิทยุที่ส่งมายังตัวรถไฟขาดหายลง  ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของตัวรถไฟฟ้ารุ่นใหม่นี้ในปัจจุบันนั้นมีอยู่ว่า  หากคลื่นวิทยุที่ใช้ส่งมาควบคุมตัวรถจากศูนย์ควบคุมตัวรถขาดหายไปตอนไหน  ตอนไหนนั้นเองระบบคอมพิวเตอร์บนตัวรถจะทำการรีเซตระบบตัวเองพร้อมกับทำการหยุดรถอัตโนมัติด้วยเบรคที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในปัจจุบัน  เพื่อป้องกันเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นหากมีปัญหาที่ศูนย์ควบคุมอันจะทำให้ไม่สามารถส่งคลื่นวิทยุมาควบคุมรถได้  ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยจึงต้องให้รถหยุดการทำงานไปก่อน  และขณะนี้เบรคที่ทรงประสิทธิภาพมากที่สุดในปัจจุบันกำลังได้แสดงความสามารถของมันออกมาแล้ว
ครื่นๆๆ
รถไฟฟ้าทั้ง 4 ขบวนหยุดตัวเองได้ในที่สุด  ก่อนที่จะประสานงากัน  โดยห่างจากที่หมายประสานงาเพียงแค่ 100 เมตรเท่านั้น!
........
ภายในโลกอีกโลกหนึ่งระบบทั้งระบบของคอมพิวเตอร์แห่งนี้ถูกแช่แข็งด้วยหิมะขาวโพรนไปทั่วทุกแห่ง  ด็อกเตอร์คงสิทธิเริ่มรู้ตัวว่าเขาคิดผิด ที่ว่าเป้าหมายของคู่ต่อสู้นั้นอยู่ที่เขาแต่แท้จริงแล้วมันอยู่ที่ระบบเขาต่างหาก!
                ด็อกเตอร์คงสิทธิรู้ตัวเมื่อเกือบทุกอย่างในระบบขาวโพรงไปทั่วนั้นเอง  ตลอดเวลาการต่อสู้เพียงไม่กี่นาทีของตนกับผู้เข้ามายั้งระบบของเขานี้ ฝ่ายตรงขาวเอาแต่ส่งแก้วผลึกสีขาวอันมีคุณสมบัติแช่แข็งโปรแกรมไปทั่วทั้งระบบโดยไม่สนใจตัวผู้ดูแลระบบอย่างเขาเลย  เอาแต่ใช้กระจกเงาสีดำสะท้อนการโจมตีออกมาเท่านั้น  ทั้งสองต่อสู้กันอย่างรวดเร็วชนิดมองตามแถบไม่ทัน  จนการปะทะครั้งสุดท้ายเริ่มขึ้น
“ฟังชั่นไอเทมสเปเชียลกระสุน 10 ทิศ”
ท่าไม้ตายออกมาแล้ว ร่างที่มีเพียงหนึ่งของผู้ใช้ปืนคู่กายเพิ่มจำนวนนับร้อย  ปรากฏล้อมรอบคู่ต่อสู้ทุกทิศทุกทาง พร้อมกับลั่นไกปืนเข้าใส่ชายหนุ่มชุดทัคซีโด้
กระแสลมก่อเกิดล้อมรอบตัวชายหนุ่มทันทีที่ท่าไม้ตายฝ่ายตรงข้ามปรากฏ  ร่างของชายหนุ่มพุ่งทะยานหนีวิถีกระสุนขึ้นสู่ด้านบนอย่างรวดเร็ว  เมื่อร่างของชายหนุ่มมาถึงจุดสูงสุดของกระแสลมท่าไม้ตายของฝ่ายผู้บุกรุกก็โต้กลับทันใด
“ฟังชั่นเมจิคโปรแกรม 2 แก้วละอองหิมะดาวตก”
ดาวตกหิมะพุ่งทะยานเข้าหาร่างของคู่ต่อสู้ที่เป็นตัวต้นกำเนิดร่างกอปปี้ที่ยืนรายล้อมอยู่ข้างล่าง ทันใด  เสียงดังแผ่นดินสันสะเทือนของแรงปะทะก็ก้องไปทั่ว  เมื่อละอองหิมะที่พร่างพราวจางหายผลึกก้อนน้ำแข็งขนาดมหึมาที่แช่งแข็งไว้ด้วยร่างของด็อกเตอร์สติเฟื่องก็ปรากฏขึ้นต่อสายตาหมชุดทัคซีโด้ผลการต่อสู้ปรากฏแล้ว!
....................
ขณะที่ผู้การหนุ่มยืนอยู่หน้าห้องคอมฯเพื่อรอให้ลูกน้องไปเอาเครื่องมือเพื่อแก้รหัสผ่านที่ประตูเพื่อเปิดเข้าไปด้วยความงุงงงสงสัยในสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่นั้นเอง  ประตูบานใหญ่ที่ทำยังไงก็เปิดไม่ได้นั้นเองก็เริ่มเคลื่อนที่    ประตูเปิดออกเองภายใน
                                ภาพที่ปรากฏแก่สายตาผู้อยู่ ณ ที่นั้นคือร่างของด็อกเตอร์คงสิทธิที่นั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่หน้าจอคอมพิวเตอร์  บนหน้าจอมีภาพของชายหนุ่มผู้หนึ่งสวมชุดทัคซีโด้สีเงินยวงสวมทับด้วยเสื้อคลุมตัวใหญ่ปิดบังหน้าตาที่แท้จริง
“สวัสดีครับเจ้าหน้าที่ทุกท่าน  นี้คือของขวัญในวันปีใหม่  อภินันทนาการโดยแฮกเกอร์ผู้หวังดี
ราตรีสวัสครับ”
กล่าวจบร่างบนหน้าจอก็หายไปจากสายตา!
.........................
10 นาทีต่อมาหลังจากเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมทุกอย่างในโรงงานนี้ได้  ผู้การหนุ่มก็ได้รับโทรศัพท์จากบุคคลผู้หนึ่ง
“ว่าไงครับพี่  คดีนี้เรียบร้อยไหม”
เสียงน้องชายตัวดีโทรมาทักทาย
“เรียบร้อยแล้วละ  แต่คงจะดึกหน่อยละถึงจะกลับถึง”
“ไม่เป็นไร  ดึกแค่ไหนก็จะรอ”
“ได้ครับคุณน้องเดียวจะรีบกลับให้เร็วที่สุด”
“จริงสิวันนีฉันบอกพี่หรือยัง”
น้องชายถามมา
“อะไรละ”
“สวัสดีวันปีไหม่ครับพี่  ขอให้สุขขีในปีนี้”
น้องชายกล่าวมาพร้อมรอยยิ้ม
“นายก็ด้วยไอ้น้องรัก”
กล่าวจบทั้งพี่และน้องก็พากันหัวเราะดังลั่นผ่านเครื่องอิเล็คทอนิคที่ตนใช้สื่อสารอยู่
โปรดติดตามตอนต่อไป
ตอนที่ 4 ปฏิบัติการกู้รถไฟ
   
เหนือน่านฟ้าไทย เส้นทางกรุงเทพมหานครสู่จังหวัดจันทบุรี
    เสียงของเครื่องบินพิเศษแห่งหน่วยรักษาความสงบเฉพาะกิจดังก้องไปทั่วน่านฟ้า  ขณะที่ตัวเครื่องบินทั้ง 3 ลำบินแหวกท้องฟ้าผ่ากระแสงลมบินไปยังจุดหมายอย่างเต็มกำลัง
“เหลือเวลาอีกกี่นาที”
ผู้การหนุ่มหันไปหาลูกน้องคนหนึ่งที่ทำหน้าที่สื่อสารข้อมูลกับศูนย์ควบคุมรถไฟที่ตนเพิ่งออกมา
“ไม่ถึง 5 นาทีครับ”
“แล้วเวลาที่เราน่าจะไปถึงละ”
ผู้การหนุ่มถามต่อ
“เอ่อ..ประมาณ 6 นาทีครับ”
“บ้ะ  นี่มันเครื่องบินพิเศษสำหรับหน่วยเรานะ  บินเหนือเสียงได้ด้วยซ้ำ  บอกให้นักบินเร่งความเร็วขึ้นอีกซิ”
ลูกน้องคนเดิมหันไปติดต่อกับนักบินสักพักแล้วหันกลับมาบอกว่า
“นักบินบอกว่าตอนนี้สภาพอากาศแถบนี้มีพายุเข้า  เร่งเครื่องมากไม่ได้จะเกิดอันตราย อาจตายหมู่ได้ครับ”
“โว้ย นี้ฉันจะบอกอะไรให้นะ  มีคนครึ่งพันกำลังจะตายหมู่ในรถไฟนั้น  ไปไม่ทันเราก็ถูกด่าเลอะแน่  อาจถูกเด้งหรือไม่ก็ตกงานด้วยซ้ำไป  ฉันนะไม่เป็นไรหรอกแต่พวกแกซิจะแย่  เลือกเอาระหว่างตายหมู่กับตกงานแกจะเอาอันไหน”
ผู้การหนุ่มขึ้นเสียงอย่างฟิวขาดสุดๆส่วนลูกน้องตัวดีได้ยินดังนั้นก็ทำท่าทางเหลอหลาหันไปติดต่อนักบินที่ห้องนักบินด้านหน้าของเครื่องผ่านเครื่องสื่อสารว่า
“งั้นแบบนี้  ท่านนักบินทั้งหลายเยียบมิดเลยเพ่  ระหว่างตกงานกับตายหมู่  ฉันเลือกตายหมู่ดีกว่าเว้ย”
.
ชายร่างอ้วนนั่งมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่กำลังแสดงภาพเส้นทางการเดินของรถไฟฟ้าทั้ง 4 ขบวน พร้อมตัวเลขนับถอยหลังด้วยสายตาแข็งกร้าว พร้อมรอยยิ้มที่พร่างพราวเต็มหน้า
    ตัวเลขที่แสดงการนับถอยหลังเวลาที่รถไฟทั้งสองขบวนจะชนกันใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ด็อกเตอร์สติแตกจ้องมองตาไม่กระพริบไปที่จอคอมพิวเตอร์วันนี้ละเขาจะได้แก่แค้นแล้วใช่แก้แค้นที่คนอย่างเข้าถูกทำลายทุกสิ่งที่เขาเฝ้าพยายามแย่งชิงมาด้วยมือของเขานี้ตลอดชีวิตเข้าไม่รู้หรอกว่าไอ้คนที่มันมาทำลายชีวิตเขานั้นเป็นใครแต่วันนี้ละเข้าจะแสดงให้เห็นว่าคนอย่างเขานั้นไม่ยอมศูนย์เสียแต่เพียงฝ่ายเดี่ยวหรอกดังนั้นในเมื่อเขาหาคนที่เขาต้องการตัวไม่ได้เขาก็จะใช้ชีวิตของเหล่าผู้บริสุทธิ์ทั้งหลายบนรถไฟฟ้านี้เป็นเครื่องมือระบายไฟแค้นของเขาแทน!
    แต่ในขณะที่ตัวเลขบนจอคอมพิวเตอร์นับถอยหลังมาจนถึงตัวเลข 2 นาที นั้นเองสัญญาณเตือนก็ดังขึ้น
หว่อๆๆ
ด็อกเตอร์สติแตกสะดุ้งตกใจ  เหตุเพราะสัญญาณที่ดังนั้นเป็นสิ่งที่เตือนว่ามีผู้บุกรุกเข้ามาในระบบคอมพิวเตอร์ของตน และในยามที่แผนการณ์ก่อการร้ายของตนกำลังจะปรากฏความสำเร็จอย่างนี้แน่นอนว่าฝ่ายที่เข้ามาต้องมีจุดประสงค์เพื่อหยุดยั้งเขาเป็นแน่! ด็อกเตอร์สติแตกคิดได้ดังนั้นก็รีบหยิบเครื่องสวมหัวสีทองของตนขึ้นสวมทันใด
.........
ตูมๆๆ
เสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั่วโลกแห่งไซเบอร์ภายในระบบของด็อกเตอร์คงสิทธิ ภาพที่ปรากฏแก่สายตาของด็อกเตอร์  คือภาพของเศษซากระบบกันภัยด้านหน้าของฐานข้อมูลของตนที่จมกองของหิมะขาวโพรนไปทั่ว  และกลางซากนั้นชายหนุ่มชุดทัคซีโด้สีเงินยืนเด่นเป็นสง่ารอคอยเขาอยู่
“แกเป็นใคร”
สิ่งแรกที่เจ้าของระบบกล่าวเมื่อหายตกตะลึง
“คนที่แกต้องการพบยังไงเล่า”
“หมายความว่าไง”
“หมายความว่า ฉันคือคนที่แฉความเลวร้ายของแก่เองไงละ”
จบการเจรจาชายหนุ่มก็ส่งแก้งผลึกสีขาวพุ่งตรงเข้าหาด็อกเตอร์ผู้ก่อการร้ายในทันใด  แน่ละในเวลาที่เร่งรีบอย่างนี้สิ่งเดียวที่ควรจะให้ความสำคัญคือการหยุดรถไฟที่กำลังจะประสานงานก่อนสิ่งอื่นใดและวิธีที่ง่ายที่สุด โดยไม่ต้องมานั่งบังคับให้เจ้าด็อกเตอร์สติเฟื่องนี้บอกรหัสที่จะเข้าควบคุมรถคือ  แช่แข็งระบบคอมฯของเจ้าด็อกเตอร์บ้านี้ให้หมด  เมื่อเครื่องคอมฯหยุดทำงานคลื่นวิทยุที่ส่งไปควบคุมรถไฟทั้ง 4 ขบวนก็ต้องหยุดระบบทำงานไปด้วย!
ตูมๆๆ
ด็อกเตอร์จอมแผนร้ายกระโดดหลบได้ก่อนที่จะถูกทำร้ายอย่างหวุดหวิด  ร่างอ้วนฉุของเขากลับกระโดดลอยตัวไปอย่างรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ  จากนั้นรีบเรียกอาวุธคู่กาย ของตนออกมาทันใด
“ออฟชั่นไอเทม เดอะ คิลกัน”
สิ้นคำกล่าวปืนสีดำเป็นมันวาวก็ปรากฏอยู่บนมือทั้งสองข้างของด็อกเตอร์สติแตก  จากนั้นปืนคู่ทั้งสองกระบอกบนมือก็รัวเข้าใส่ชายหนุ่มในชุดทัคซีโด้อย่างไม่ยั้ง
“แก่ทำลายชีวิตฉัน  วันนี้แกต้องตาย”
เปรี้ยงๆๆ
กระสุดคลื่นสายฟ้าสีดำพุ่งทะยานเข้าหาชายหนุ่มอย่างรุนแรง  แต่ก่อนที่จะกระทบถูกตัวชายหนุ่มกระสุนก็ต้องเจอกับ
“ออฟชั่นเมจิคโปรแกรม3กระจกเงาทมิฬ”
ปริ่งๆๆ
กระสุนสายฟ้าสีดำถูกสะท้อนออกไปสู่ผู้ส่งมันมาทันใด  หากแต่ด็อกเตอร์ผู้แค้นเคืองก็ยังสามารถหลบกระสุนเหล่านั้นไปได้และเมื่อเท้าทั้งสองของด็อกเตอร์สติแตกลงสู่พื้นอีกครั้งการโต้ตอบของชายหนุ่มก็เกิดขึ้น
“แก้วละอองหิมะ”
......................
เสียงการต่อสู้ดังขึ้นทันทีที่หน่วยของผู้การหนุ่มทิ้งตัวลงสู่ที่หมาย  ลูกน้องด็อกเตอร์คงสิทธิถูกวางกำลังไว้อารักขาผู้เป็นนายอย่างพร้อมเพียงในกรณีที่ถูกบุกโจมตีจากเจ้าหน้าที่ 
ปังๆๆ ตูมๆๆ
เสียงกระสุนดังติดต่อกันแหวกอากาศมาเป็นระยะๆ ผู้การหนุ่มนำทีมเข้าบุกอย่างดุเดือด  แม้จะสามารถมา ถึงเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วด้วยการบินแหลกเหนือเสียงท้าตายกับพายุตามคำสั่งผู้การหนุ่มของนักบิน  แต่ต้องมาติดที่ปากทางเข้าโรงงานที่ถูกเมื่อดีบนหอคอยด้านหน้า  คอยยิงสกัดไว้อย่างหนักทำให้ไม่อาจบุกคืบหน้าเข้าไปได้  และยิ่งต้องแข็งกับเวลาแบบนี้ยิ่งสร้างความกดดันเป็นอย่างมาก
“เหลืออีกแค่ 2 นาทีเท่านั้นเอง  บอกเครื่องบินของเราว่ามีอาวุธอะไรให้ใส่พวกมันไม่ยั้งกวาดไอ้พวกบนหอคอยกับข้างหน้าที่ขวางทางให้หมด”
สิ้นเสียงสั่งการเพียงไม่นานเสียงระเบิดก็ดังกึกก้องไปทั่วสนามการสู้รบ 
บึ้มๆๆปังๆๆๆ
หอคอยตรงหน้าย่อยยับทันใจ  ส่วนแนวป้องกันด้านหน้าถูกกวาดด้วยกระสุนเรียบจนพวกที่เหลืออยู่พากันถอยร้นสู่ตัวตึกที่ตนเฝ้าป้องกัน
“บุก”
ผู้การตะหวาดลั่นพร้อมนำกำลังภาคพื้นเข้าบุกสู่ประตูทางเข้า  ลูกน้องของด็อกเตอร์คงสิทธิถูกกวาดไปที่ละคนสองคน จนกระทั้งจับเป็นได้คนหนึ่งที่ประตูด้านในตัวตึก
“ห้องคอมฯที่ใช้ส่งคลื่นวิทยุไปคุมรถไฟอยู่ที่ไหน”
เจ้าหน้าโหดแต่สำออยหลังจากถูกลงทันฑ์เล็กๆจากเท้าผู้การหนุ่มก็เปิดปาก
“คลื่นวิทยุอะไรผมไม่รู้  แต่ถ้าห้องที่มีคอมพิวเตอร์เยอะๆละก็ นาย สิทธิคุ้มอยู่ที่ห้องด้านในสุดของทางขวามือชั้นล่างครับ”
หลังจากถามเส้นทางที่ห้องที่อยู่ของตัวการ  ผู้การหนุ่มก็รีบนำกำลังบุกไปทันที
ปังๆๆ
เสียงดังเข้ามาทุกขณะ  แต่คนในห้องคอมฯด้านในกลับไม่รับรู้สิ่งใด
“นายสิทธิครับ  ๆ  พวกเจ้าหน้าที่มาแล้วรีบหนีเถอะ  โธ่ตอบหน่อยสิครับ”
ลูกน้องผู้พักดีนายหนึ่งพยายามร้องเรียกเจ้านายผ่านเครื่องสื่อสารด้านหน้าห้อง  เนื่องจากห้องนี้ถือเป็นห้องที่ห่วงแหนที่สุดของเจ้านายเข้า  ประตูและผนังถูกสร้างด้วยโลหะพิเศษแข็งแรงทนทานแถมกันเสียงอีก  จึงทำให้การติดต่อภายนอกต้องผ่านเครื่องสื่อสารเท่านั้น  แต่เจ้าลูกน้องนั้นคงไม่รู้หรอกว่าที่เจ้านายของมันไม่ตอบนั้นก็เพราะว่า  เจ้านายของมันเองก็กำลังรับศึกหนักอยู่ภายในโลกอีกโลกหนึ่ง  เหมือนกัน
ปังๆๆ
เจ้าลูกน้องผู้อยู่หน้าห้องก็ร่วงไปอีกคนก่อนที่ผู้การหนุ่มจะนำกำลังเข้ามาสู่หน้าห้อง  เวลาที่ตั้งนับถอยหลังไว้บนนาฟิกาขอมือของชายหนุ่มเลืออีกแค่เพียง 15 วินาที
ปิดๆๆ
ผู้การหนุ่มกดปุ่มสั่งเปิดประตูตรงหน้าแต่ไม่เป็นผล  เสียงร้อยเอกคนสนิทดังมาว่า
“ผมเปิดได้แต่ต้องใช้เวลาอย่างน้อย  ยี่สิบนาทีครับ”
ผู้การหนุ่มได้ยินดังนั้นก็สายหน้าพรางก้าวถอยออกมาจากประตู เวลาที่เหลือ 9 วินาที
“ใครมีระเบิดเหลือบ้าง”
“ใช้หมดทุกคนเลยครับ”
“งั้นพวกเราช่วยกัน”
ทุกคนพร้อมใจกันหันปากกระบอกปืนไปที่ประตู เวลาเหลือ 5 วินาที
ปังๆๆๆ
ประตูไม่สะดุ้งสะเทือนแต่อย่างใด
เวลาที่เหลือ 4 3 2 1 0!
หมดเวลา!
“โว้ย....”
ผู้การร้องลั่นแล้วถีบเอาที่ประตูอีกครั้งอย่างระบายอารมณ์ 
พวกเขามาไม่ทันหรือนี้!
ทันใดนั้นเองสัญาญาณมือถือของเขาก็ดังขึ้น
“ผู้กองวาที  ยินดีด้วยที่คุณไปทันรถไฟทุกขบวนที่ถูกคนร้ายสั่งวิ่งอยู่หยุดวิ่งหมดแล้ว”
“หาว่าไงนะครับ”
ผู้การหนุ่มถามด้วยความตกใจก็เข้าไปไม่ทันนี้นาแล้วมันจะหยุดได้อย่างไร
“รถไฟทั้งหมดหยุดนิ่งก่อนที่จะถึงขั้นประสานงากันก่อนประมาณ 30 วินาทีเท่านั้นเอง”
เสียงฝ่ายควบคุมรถไฟฟ้าคนเดิมรายงานมา
........................
เอียดๆๆๆ
เสียงรางรถไฟเสียดสีล้อรถดังกึกก้อง หลังจากสัญญาณวิทยุที่ส่งมายังตัวรถไฟขาดหายลง  ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของตัวรถไฟฟ้ารุ่นใหม่นี้ในปัจจุบันนั้นมีอยู่ว่า  หากคลื่นวิทยุที่ใช้ส่งมาควบคุมตัวรถจากศูนย์ควบคุมตัวรถขาดหายไปตอนไหน  ตอนไหนนั้นเองระบบคอมพิวเตอร์บนตัวรถจะทำการรีเซตระบบตัวเองพร้อมกับทำการหยุดรถอัตโนมัติด้วยเบรคที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในปัจจุบัน  เพื่อป้องกันเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นหากมีปัญหาที่ศูนย์ควบคุมอันจะทำให้ไม่สามารถส่งคลื่นวิทยุมาควบคุมรถได้  ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยจึงต้องให้รถหยุดการทำงานไปก่อน  และขณะนี้เบรคที่ทรงประสิทธิภาพมากที่สุดในปัจจุบันกำลังได้แสดงความสามารถของมันออกมาแล้ว
ครื่นๆๆ
รถไฟฟ้าทั้ง 4 ขบวนหยุดตัวเองได้ในที่สุด  ก่อนที่จะประสานงากัน  โดยห่างจากที่หมายประสานงาเพียงแค่ 100 เมตรเท่านั้น!
........
ภายในโลกอีกโลกหนึ่งระบบทั้งระบบของคอมพิวเตอร์แห่งนี้ถูกแช่แข็งด้วยหิมะขาวโพรนไปทั่วทุกแห่ง  ด็อกเตอร์คงสิทธิเริ่มรู้ตัวว่าเขาคิดผิด ที่ว่าเป้าหมายของคู่ต่อสู้นั้นอยู่ที่เขาแต่แท้จริงแล้วมันอยู่ที่ระบบเขาต่างหาก!
                ด็อกเตอร์คงสิทธิรู้ตัวเมื่อเกือบทุกอย่างในระบบขาวโพรงไปทั่วนั้นเอง  ตลอดเวลาการต่อสู้เพียงไม่กี่นาทีของตนกับผู้เข้ามายั้งระบบของเขานี้ ฝ่ายตรงขาวเอาแต่ส่งแก้วผลึกสีขาวอันมีคุณสมบัติแช่แข็งโปรแกรมไปทั่วทั้งระบบโดยไม่สนใจตัวผู้ดูแลระบบอย่างเขาเลย  เอาแต่ใช้กระจกเงาสีดำสะท้อนการโจมตีออกมาเท่านั้น  ทั้งสองต่อสู้กันอย่างรวดเร็วชนิดมองตามแถบไม่ทัน  จนการปะทะครั้งสุดท้ายเริ่มขึ้น
“ฟังชั่นไอเทมสเปเชียลกระสุน 10 ทิศ”
ท่าไม้ตายออกมาแล้ว ร่างที่มีเพียงหนึ่งของผู้ใช้ปืนคู่กายเพิ่มจำนวนนับร้อย  ปรากฏล้อมรอบคู่ต่อสู้ทุกทิศทุกทาง พร้อมกับลั่นไกปืนเข้าใส่ชายหนุ่มชุดทัคซีโด้
กระแสลมก่อเกิดล้อมรอบตัวชายหนุ่มทันทีที่ท่าไม้ตายฝ่ายตรงข้ามปรากฏ  ร่างของชายหนุ่มพุ่งทะยานหนีวิถีกระสุนขึ้นสู่ด้านบนอย่างรวดเร็ว  เมื่อร่างของชายหนุ่มมาถึงจุดสูงสุดของกระแสลมท่าไม้ตายของฝ่ายผู้บุกรุกก็โต้กลับทันใด
“ฟังชั่นเมจิคโปรแกรม 2 แก้วละอองหิมะดาวตก”
ดาวตกหิมะพุ่งทะยานเข้าหาร่างของคู่ต่อสู้ที่เป็นตัวต้นกำเนิดร่างกอปปี้ที่ยืนรายล้อมอยู่ข้างล่าง ทันใด  เสียงดังแผ่นดินสันสะเทือนของแรงปะทะก็ก้องไปทั่ว  เมื่อละอองหิมะที่พร่างพราวจางหายผลึกก้อนน้ำแข็งขนาดมหึมาที่แช่งแข็งไว้ด้วยร่างของด็อกเตอร์สติเฟื่องก็ปรากฏขึ้นต่อสายตาหมชุดทัคซีโด้ผลการต่อสู้ปรากฏแล้ว!
....................
ขณะที่ผู้การหนุ่มยืนอยู่หน้าห้องคอมฯเพื่อรอให้ลูกน้องไปเอาเครื่องมือเพื่อแก้รหัสผ่านที่ประตูเพื่อเปิดเข้าไปด้วยความงุงงงสงสัยในสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่นั้นเอง  ประตูบานใหญ่ที่ทำยังไงก็เปิดไม่ได้นั้นเองก็เริ่มเคลื่อนที่    ประตูเปิดออกเองภายใน
                                ภาพที่ปรากฏแก่สายตาผู้อยู่ ณ ที่นั้นคือร่างของด็อกเตอร์คงสิทธิที่นั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่หน้าจอคอมพิวเตอร์  บนหน้าจอมีภาพของชายหนุ่มผู้หนึ่งสวมชุดทัคซีโด้สีเงินยวงสวมทับด้วยเสื้อคลุมตัวใหญ่ปิดบังหน้าตาที่แท้จริง
“สวัสดีครับเจ้าหน้าที่ทุกท่าน  นี้คือของขวัญในวันปีใหม่  อภินันทนาการโดยแฮกเกอร์ผู้หวังดี
ราตรีสวัสครับ”
กล่าวจบร่างบนหน้าจอก็หายไปจากสายตา!
.........................
10 นาทีต่อมาหลังจากเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมทุกอย่างในโรงงานนี้ได้  ผู้การหนุ่มก็ได้รับโทรศัพท์จากบุคคลผู้หนึ่ง
“ว่าไงครับพี่  คดีนี้เรียบร้อยไหม”
เสียงน้องชายตัวดีโทรมาทักทาย
“เรียบร้อยแล้วละ  แต่คงจะดึกหน่อยละถึงจะกลับถึง”
“ไม่เป็นไร  ดึกแค่ไหนก็จะรอ”
“ได้ครับคุณน้องเดียวจะรีบกลับให้เร็วที่สุด”
“จริงสิวันนีฉันบอกพี่หรือยัง”
น้องชายถามมา
“อะไรละ”
“สวัสดีวันปีไหม่ครับพี่  ขอให้สุขขีในปีนี้”
น้องชายกล่าวมาพร้อมรอยยิ้ม
“นายก็ด้วยไอ้น้องรัก”
กล่าวจบทั้งพี่และน้องก็พากันหัวเราะดังลั่นผ่านเครื่องอิเล็คทอนิคที่ตนใช้สื่อสารอยู่
โปรดติดตามตอนต่อไป
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น