ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ศึกป่วนดาต้าฤทธาเจ้าแฮกเกอร์

    ลำดับตอนที่ #4 : ปฏิบัติการกู้รถไฟ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 95
      0
      27 ก.ย. 47

    ศึกป่วนดาต้าฤทธาเจ้าแฮกเกอร์

    ตอนที่ 4 ปฏิบัติการกู้รถไฟ

        

    เหนือน่านฟ้าไทย เส้นทางกรุงเทพมหานครสู่จังหวัดจันทบุรี

        เสียงของเครื่องบินพิเศษแห่งหน่วยรักษาความสงบเฉพาะกิจดังก้องไปทั่วน่านฟ้า  ขณะที่ตัวเครื่องบินทั้ง 3 ลำบินแหวกท้องฟ้าผ่ากระแสงลมบินไปยังจุดหมายอย่างเต็มกำลัง



    “เหลือเวลาอีกกี่นาที”



    ผู้การหนุ่มหันไปหาลูกน้องคนหนึ่งที่ทำหน้าที่สื่อสารข้อมูลกับศูนย์ควบคุมรถไฟที่ตนเพิ่งออกมา



    “ไม่ถึง 5 นาทีครับ”



    “แล้วเวลาที่เราน่าจะไปถึงละ”



    ผู้การหนุ่มถามต่อ



    “เอ่อ..ประมาณ 6 นาทีครับ”



    “บ้ะ  นี่มันเครื่องบินพิเศษสำหรับหน่วยเรานะ  บินเหนือเสียงได้ด้วยซ้ำ  บอกให้นักบินเร่งความเร็วขึ้นอีกซิ”



    ลูกน้องคนเดิมหันไปติดต่อกับนักบินสักพักแล้วหันกลับมาบอกว่า



    “นักบินบอกว่าตอนนี้สภาพอากาศแถบนี้มีพายุเข้า  เร่งเครื่องมากไม่ได้จะเกิดอันตราย อาจตายหมู่ได้ครับ”



    “โว้ย นี้ฉันจะบอกอะไรให้นะ  มีคนครึ่งพันกำลังจะตายหมู่ในรถไฟนั้น  ไปไม่ทันเราก็ถูกด่าเลอะแน่   อาจถูกเด้งหรือไม่ก็ตกงานด้วยซ้ำไป  ฉันนะไม่เป็นไรหรอกแต่พวกแกซิจะแย่  เลือกเอาระหว่างตายหมู่กับตกงานแกจะเอาอันไหน”



    ผู้การหนุ่มขึ้นเสียงอย่างฟิวขาดสุดๆส่วนลูกน้องตัวดีได้ยินดังนั้นก็ทำท่าทางเหลอหลาหันไปติดต่อนักบินที่ห้องนักบินด้านหน้าของเครื่องผ่านเครื่องสื่อสารว่า



    “งั้นแบบนี้  ท่านนักบินทั้งหลายเยียบมิดเลยเพ่   ระหว่างตกงานกับตายหมู่  ฉันเลือกตายหมู่ดีกว่าเว้ย”

    …………….



    ชายร่างอ้วนนั่งมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่กำลังแสดงภาพเส้นทางการเดินของรถไฟฟ้าทั้ง 4 ขบวน พร้อมตัวเลขนับถอยหลังด้วยสายตาแข็งกร้าว พร้อมรอยยิ้มที่พร่างพราวเต็มหน้า

        ตัวเลขที่แสดงการนับถอยหลังเวลาที่รถไฟทั้งสองขบวนจะชนกันใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ด็อกเตอร์สติแตกจ้องมองตาไม่กระพริบไปที่จอคอมพิวเตอร์วันนี้ละเขาจะได้แก่แค้นแล้วใช่แก้แค้นที่คนอย่างเข้าถูกทำลายทุกสิ่งที่เขาเฝ้าพยายามแย่งชิงมาด้วยมือของเขานี้ตลอดชีวิตเข้าไม่รู้หรอกว่าไอ้คนที่มันมาทำลายชีวิตเขานั้นเป็นใครแต่วันนี้ละเข้าจะแสดงให้เห็นว่าคนอย่างเขานั้นไม่ยอมศูนย์เสียแต่เพียงฝ่ายเดี่ยวหรอกดังนั้นในเมื่อเขาหาคนที่เขาต้องการตัวไม่ได้เขาก็จะใช้ชีวิตของเหล่าผู้บริสุทธิ์ทั้งหลายบนรถไฟฟ้านี้เป็นเครื่องมือระบายไฟแค้นของเขาแทน!

        แต่ในขณะที่ตัวเลขบนจอคอมพิวเตอร์นับถอยหลังมาจนถึงตัวเลข 2 นาที นั้นเองสัญญาณเตือนก็ดังขึ้น



    หว่อๆๆ



    ด็อกเตอร์สติแตกสะดุ้งตกใจ  เหตุเพราะสัญญาณที่ดังนั้นเป็นสิ่งที่เตือนว่ามีผู้บุกรุกเข้ามาในระบบคอมพิวเตอร์ของตน และในยามที่แผนการณ์ก่อการร้ายของตนกำลังจะปรากฏความสำเร็จอย่างนี้แน่นอนว่าฝ่ายที่เข้ามาต้องมีจุดประสงค์เพื่อหยุดยั้งเขาเป็นแน่! ด็อกเตอร์สติแตกคิดได้ดังนั้นก็รีบหยิบเครื่องสวมหัวสีทองของตนขึ้นสวมทันใด

    .........



    ตูมๆๆ



    เสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั่วโลกแห่งไซเบอร์ภายในระบบของด็อกเตอร์คงสิทธิ ภาพที่ปรากฏแก่สายตาของด็อกเตอร์  คือภาพของเศษซากระบบกันภัยด้านหน้าของฐานข้อมูลของตนที่จมกองของหิมะขาวโพรนไปทั่ว   และกลางซากนั้นชายหนุ่มชุดทัคซีโด้สีเงินยืนเด่นเป็นสง่ารอคอยเขาอยู่



    “แกเป็นใคร”



    สิ่งแรกที่เจ้าของระบบกล่าวเมื่อหายตกตะลึง



    “คนที่แกต้องการพบยังไงเล่า”



    “หมายความว่าไง”



    “หมายความว่า ฉันคือคนที่แฉความเลวร้ายของแก่เองไงละ”



    จบการเจรจาชายหนุ่มก็ส่งแก้งผลึกสีขาวพุ่งตรงเข้าหาด็อกเตอร์ผู้ก่อการร้ายในทันใด   แน่ละในเวลาที่เร่งรีบอย่างนี้สิ่งเดียวที่ควรจะให้ความสำคัญคือการหยุดรถไฟที่กำลังจะประสานงานก่อนสิ่งอื่นใดและวิธีที่ง่ายที่สุด โดยไม่ต้องมานั่งบังคับให้เจ้าด็อกเตอร์สติเฟื่องนี้บอกรหัสที่จะเข้าควบคุมรถคือ  แช่แข็งระบบคอมฯของเจ้าด็อกเตอร์บ้านี้ให้หมด  เมื่อเครื่องคอมฯหยุดทำงานคลื่นวิทยุที่ส่งไปควบคุมรถไฟทั้ง 4 ขบวนก็ต้องหยุดระบบทำงานไปด้วย!



    ตูมๆๆ



    ด็อกเตอร์จอมแผนร้ายกระโดดหลบได้ก่อนที่จะถูกทำร้ายอย่างหวุดหวิด  ร่างอ้วนฉุของเขากลับกระโดดลอยตัวไปอย่างรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ  จากนั้นรีบเรียกอาวุธคู่กาย ของตนออกมาทันใด



    “ออฟชั่นไอเทม เดอะ คิลกัน”



    สิ้นคำกล่าวปืนสีดำเป็นมันวาวก็ปรากฏอยู่บนมือทั้งสองข้างของด็อกเตอร์สติแตก  จากนั้นปืนคู่ทั้งสองกระบอกบนมือก็รัวเข้าใส่ชายหนุ่มในชุดทัคซีโด้อย่างไม่ยั้ง



    “แก่ทำลายชีวิตฉัน  วันนี้แกต้องตาย”



    เปรี้ยงๆๆ



    กระสุดคลื่นสายฟ้าสีดำพุ่งทะยานเข้าหาชายหนุ่มอย่างรุนแรง  แต่ก่อนที่จะกระทบถูกตัวชายหนุ่มกระสุนก็ต้องเจอกับ



    “ออฟชั่นเมจิคโปรแกรม3กระจกเงาทมิฬ”



    ปริ่งๆๆ



    กระสุนสายฟ้าสีดำถูกสะท้อนออกไปสู่ผู้ส่งมันมาทันใด  หากแต่ด็อกเตอร์ผู้แค้นเคืองก็ยังสามารถหลบกระสุนเหล่านั้นไปได้และเมื่อเท้าทั้งสองของด็อกเตอร์สติแตกลงสู่พื้นอีกครั้งการโต้ตอบของชายหนุ่มก็เกิดขึ้น



    “แก้วละอองหิมะ”



    ......................



    เสียงการต่อสู้ดังขึ้นทันทีที่หน่วยของผู้การหนุ่มทิ้งตัวลงสู่ที่หมาย   ลูกน้องด็อกเตอร์คงสิทธิถูกวางกำลังไว้อารักขาผู้เป็นนายอย่างพร้อมเพียงในกรณีที่ถูกบุกโจมตีจากเจ้าหน้าที่  



    ปังๆๆ ตูมๆๆ



    เสียงกระสุนดังติดต่อกันแหวกอากาศมาเป็นระยะๆ ผู้การหนุ่มนำทีมเข้าบุกอย่างดุเดือด  แม้จะสามารถมา ถึงเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วด้วยการบินแหลกเหนือเสียงท้าตายกับพายุตามคำสั่งผู้การหนุ่มของนักบิน   แต่ต้องมาติดที่ปากทางเข้าโรงงานที่ถูกเมื่อดีบนหอคอยด้านหน้า  คอยยิงสกัดไว้อย่างหนักทำให้ไม่อาจบุกคืบหน้าเข้าไปได้  และยิ่งต้องแข็งกับเวลาแบบนี้ยิ่งสร้างความกดดันเป็นอย่างมาก



    “เหลืออีกแค่ 2 นาทีเท่านั้นเอง   บอกเครื่องบินของเราว่ามีอาวุธอะไรให้ใส่พวกมันไม่ยั้งกวาดไอ้พวกบนหอคอยกับข้างหน้าที่ขวางทางให้หมด”



    สิ้นเสียงสั่งการเพียงไม่นานเสียงระเบิดก็ดังกึกก้องไปทั่วสนามการสู้รบ  

    บึ้มๆๆปังๆๆๆ



    หอคอยตรงหน้าย่อยยับทันใจ  ส่วนแนวป้องกันด้านหน้าถูกกวาดด้วยกระสุนเรียบจนพวกที่เหลืออยู่พากันถอยร้นสู่ตัวตึกที่ตนเฝ้าป้องกัน



    “บุก”



    ผู้การตะหวาดลั่นพร้อมนำกำลังภาคพื้นเข้าบุกสู่ประตูทางเข้า  ลูกน้องของด็อกเตอร์คงสิทธิถูกกวาดไปที่ละคนสองคน จนกระทั้งจับเป็นได้คนหนึ่งที่ประตูด้านในตัวตึก



    “ห้องคอมฯที่ใช้ส่งคลื่นวิทยุไปคุมรถไฟอยู่ที่ไหน”



    เจ้าหน้าโหดแต่สำออยหลังจากถูกลงทันฑ์เล็กๆจากเท้าผู้การหนุ่มก็เปิดปาก







    “คลื่นวิทยุอะไรผมไม่รู้  แต่ถ้าห้องที่มีคอมพิวเตอร์เยอะๆละก็ นาย สิทธิคุ้มอยู่ที่ห้องด้านในสุดของทางขวามือชั้นล่างครับ”







    หลังจากถามเส้นทางที่ห้องที่อยู่ของตัวการ  ผู้การหนุ่มก็รีบนำกำลังบุกไปทันที







    ปังๆๆ







    เสียงดังเข้ามาทุกขณะ  แต่คนในห้องคอมฯด้านในกลับไม่รับรู้สิ่งใด







    “นายสิทธิครับ  ๆ  พวกเจ้าหน้าที่มาแล้วรีบหนีเถอะ  โธ่ตอบหน่อยสิครับ”







    ลูกน้องผู้พักดีนายหนึ่งพยายามร้องเรียกเจ้านายผ่านเครื่องสื่อสารด้านหน้าห้อง  เนื่องจากห้องนี้ถือเป็นห้องที่ห่วงแหนที่สุดของเจ้านายเข้า  ประตูและผนังถูกสร้างด้วยโลหะพิเศษแข็งแรงทนทานแถมกันเสียงอีก  จึงทำให้การติดต่อภายนอกต้องผ่านเครื่องสื่อสารเท่านั้น  แต่เจ้าลูกน้องนั้นคงไม่รู้หรอกว่าที่เจ้านายของมันไม่ตอบนั้นก็เพราะว่า  เจ้านายของมันเองก็กำลังรับศึกหนักอยู่ภายในโลกอีกโลกหนึ่ง   เหมือนกัน







    ปังๆๆ







    เจ้าลูกน้องผู้อยู่หน้าห้องก็ร่วงไปอีกคนก่อนที่ผู้การหนุ่มจะนำกำลังเข้ามาสู่หน้าห้อง  เวลาที่ตั้งนับถอยหลังไว้บนนาฟิกาขอมือของชายหนุ่มเลืออีกแค่เพียง 15 วินาที







    ปิดๆๆ







    ผู้การหนุ่มกดปุ่มสั่งเปิดประตูตรงหน้าแต่ไม่เป็นผล  เสียงร้อยเอกคนสนิทดังมาว่า







    “ผมเปิดได้แต่ต้องใช้เวลาอย่างน้อย  ยี่สิบนาทีครับ”







    ผู้การหนุ่มได้ยินดังนั้นก็สายหน้าพรางก้าวถอยออกมาจากประตู เวลาที่เหลือ 9 วินาที







    “ใครมีระเบิดเหลือบ้าง”







    “ใช้หมดทุกคนเลยครับ”







    “งั้นพวกเราช่วยกัน”







    ทุกคนพร้อมใจกันหันปากกระบอกปืนไปที่ประตู เวลาเหลือ 5 วินาที







    ปังๆๆๆ



    ประตูไม่สะดุ้งสะเทือนแต่อย่างใด







    เวลาที่เหลือ 4 3 2 1 0!







    หมดเวลา!







    “โว้ย....”







    ผู้การร้องลั่นแล้วถีบเอาที่ประตูอีกครั้งอย่างระบายอารมณ์  







    พวกเขามาไม่ทันหรือนี้!







    ทันใดนั้นเองสัญาญาณมือถือของเขาก็ดังขึ้น







    “ผู้กองวาที  ยินดีด้วยที่คุณไปทันรถไฟทุกขบวนที่ถูกคนร้ายสั่งวิ่งอยู่หยุดวิ่งหมดแล้ว”







    “หาว่าไงนะครับ”







    ผู้การหนุ่มถามด้วยความตกใจก็เข้าไปไม่ทันนี้นาแล้วมันจะหยุดได้อย่างไร







    “รถไฟทั้งหมดหยุดนิ่งก่อนที่จะถึงขั้นประสานงากันก่อนประมาณ 30 วินาทีเท่านั้นเอง”







    เสียงฝ่ายควบคุมรถไฟฟ้าคนเดิมรายงานมา



    ........................







    เอียดๆๆๆ







    เสียงรางรถไฟเสียดสีล้อรถดังกึกก้อง หลังจากสัญญาณวิทยุที่ส่งมายังตัวรถไฟขาดหายลง  ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของตัวรถไฟฟ้ารุ่นใหม่นี้ในปัจจุบันนั้นมีอยู่ว่า  หากคลื่นวิทยุที่ใช้ส่งมาควบคุมตัวรถจากศูนย์ควบคุมตัวรถขาดหายไปตอนไหน  ตอนไหนนั้นเองระบบคอมพิวเตอร์บนตัวรถจะทำการรีเซตระบบตัวเองพร้อมกับทำการหยุดรถอัตโนมัติด้วยเบรคที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในปัจจุบัน  เพื่อป้องกันเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นหากมีปัญหาที่ศูนย์ควบคุมอันจะทำให้ไม่สามารถส่งคลื่นวิทยุมาควบคุมรถได้  ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยจึงต้องให้รถหยุดการทำงานไปก่อน  และขณะนี้เบรคที่ทรงประสิทธิภาพมากที่สุดในปัจจุบันกำลังได้แสดงความสามารถของมันออกมาแล้ว







    ครื่นๆๆ







    รถไฟฟ้าทั้ง 4 ขบวนหยุดตัวเองได้ในที่สุด  ก่อนที่จะประสานงากัน  โดยห่างจากที่หมายประสานงาเพียงแค่ 100 เมตรเท่านั้น!







    ........







    ภายในโลกอีกโลกหนึ่งระบบทั้งระบบของคอมพิวเตอร์แห่งนี้ถูกแช่แข็งด้วยหิมะขาวโพรนไปทั่วทุกแห่ง  ด็อกเตอร์คงสิทธิเริ่มรู้ตัวว่าเขาคิดผิด ที่ว่าเป้าหมายของคู่ต่อสู้นั้นอยู่ที่เขาแต่แท้จริงแล้วมันอยู่ที่ระบบเขาต่างหาก!



                    ด็อกเตอร์คงสิทธิรู้ตัวเมื่อเกือบทุกอย่างในระบบขาวโพรงไปทั่วนั้นเอง  ตลอดเวลาการต่อสู้เพียงไม่กี่นาทีของตนกับผู้เข้ามายั้งระบบของเขานี้ ฝ่ายตรงขาวเอาแต่ส่งแก้วผลึกสีขาวอันมีคุณสมบัติแช่แข็งโปรแกรมไปทั่วทั้งระบบโดยไม่สนใจตัวผู้ดูแลระบบอย่างเขาเลย  เอาแต่ใช้กระจกเงาสีดำสะท้อนการโจมตีออกมาเท่านั้น  ทั้งสองต่อสู้กันอย่างรวดเร็วชนิดมองตามแถบไม่ทัน  จนการปะทะครั้งสุดท้ายเริ่มขึ้น







    “ฟังชั่นไอเทมสเปเชียลกระสุน 10 ทิศ”







    ท่าไม้ตายออกมาแล้ว ร่างที่มีเพียงหนึ่งของผู้ใช้ปืนคู่กายเพิ่มจำนวนนับร้อย  ปรากฏล้อมรอบคู่ต่อสู้ทุกทิศทุกทาง พร้อมกับลั่นไกปืนเข้าใส่ชายหนุ่มชุดทัคซีโด้







    กระแสลมก่อเกิดล้อมรอบตัวชายหนุ่มทันทีที่ท่าไม้ตายฝ่ายตรงข้ามปรากฏ  ร่างของชายหนุ่มพุ่งทะยานหนีวิถีกระสุนขึ้นสู่ด้านบนอย่างรวดเร็ว  เมื่อร่างของชายหนุ่มมาถึงจุดสูงสุดของกระแสลมท่าไม้ตายของฝ่ายผู้บุกรุกก็โต้กลับทันใด



    “ฟังชั่นเมจิคโปรแกรม 2 แก้วละอองหิมะดาวตก”







    ดาวตกหิมะพุ่งทะยานเข้าหาร่างของคู่ต่อสู้ที่เป็นตัวต้นกำเนิดร่างกอปปี้ที่ยืนรายล้อมอยู่ข้างล่าง ทันใด  เสียงดังแผ่นดินสันสะเทือนของแรงปะทะก็ก้องไปทั่ว  เมื่อละอองหิมะที่พร่างพราวจางหายผลึกก้อนน้ำแข็งขนาดมหึมาที่แช่งแข็งไว้ด้วยร่างของด็อกเตอร์สติเฟื่องก็ปรากฏขึ้นต่อสายตาหมชุดทัคซีโด้ผลการต่อสู้ปรากฏแล้ว!



    ....................



    ขณะที่ผู้การหนุ่มยืนอยู่หน้าห้องคอมฯเพื่อรอให้ลูกน้องไปเอาเครื่องมือเพื่อแก้รหัสผ่านที่ประตูเพื่อเปิดเข้าไปด้วยความงุงงงสงสัยในสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่นั้นเอง  ประตูบานใหญ่ที่ทำยังไงก็เปิดไม่ได้นั้นเองก็เริ่มเคลื่อนที่    ประตูเปิดออกเองภายใน



                                    ภาพที่ปรากฏแก่สายตาผู้อยู่ ณ ที่นั้นคือร่างของด็อกเตอร์คงสิทธิที่นั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่หน้าจอคอมพิวเตอร์   บนหน้าจอมีภาพของชายหนุ่มผู้หนึ่งสวมชุดทัคซีโด้สีเงินยวงสวมทับด้วยเสื้อคลุมตัวใหญ่ปิดบังหน้าตาที่แท้จริง







    “สวัสดีครับเจ้าหน้าที่ทุกท่าน  นี้คือของขวัญในวันปีใหม่  อภินันทนาการโดยแฮกเกอร์ผู้หวังดี



    ราตรีสวัสครับ”







    กล่าวจบร่างบนหน้าจอก็หายไปจากสายตา!







    .........................







    10 นาทีต่อมาหลังจากเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมทุกอย่างในโรงงานนี้ได้  ผู้การหนุ่มก็ได้รับโทรศัพท์จากบุคคลผู้หนึ่ง







    “ว่าไงครับพี่  คดีนี้เรียบร้อยไหม”







    เสียงน้องชายตัวดีโทรมาทักทาย







    “เรียบร้อยแล้วละ  แต่คงจะดึกหน่อยละถึงจะกลับถึง”







    “ไม่เป็นไร  ดึกแค่ไหนก็จะรอ”



    “ได้ครับคุณน้องเดียวจะรีบกลับให้เร็วที่สุด”







    “จริงสิวันนีฉันบอกพี่หรือยัง”







    น้องชายถามมา







    “อะไรละ”







    “สวัสดีวันปีไหม่ครับพี่  ขอให้สุขขีในปีนี้”







    น้องชายกล่าวมาพร้อมรอยยิ้ม







    “นายก็ด้วยไอ้น้องรัก”







    กล่าวจบทั้งพี่และน้องก็พากันหัวเราะดังลั่นผ่านเครื่องอิเล็คทอนิคที่ตนใช้สื่อสารอยู่



    โปรดติดตามตอนต่อไป



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×