คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : ยายตัวยุ้ยกับนายขี้เก๊ก
ด๊อกเตอร์ พี.วี.สตอม นักธุรกิจหนุ่มผู้ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ทั้งในวงการธุรกิจของภาคพื้นทวีปเอเชียและยุโรป แทบไม่เคยมีใครไม่รู้จักนามบริษัท พี.วี.กรุ๊ป และเช่นเดียวกันว่าแทบไม่มีใครเลยในวงการธุรกิจในระดับสากลและในวงการวิทยาศาสตร์จะไม่เคยได้ยินชื่อ ของด๊อกเตอร์ พี.วี.สตอม หากแต่ในขณะเดียวกันกลับแทบไม่คอยจะมีใครสักกี่คนนักที่จะรู้จักหน้าคาดตาชายหนุ่มนักธุรกิจ
ด้วยเหตุที่ทางบริษัทมักอ้างสุขภาพร่างกายที่ไม่แข็งแรงและความรักความเป็นส่วนตัวของของชายหนุ่ม จึงมักส่งตัวแทนในบริษัทไปออกงานต่างๆเสมอ หรือไม่ก็พี่ชายเขานั้นละก็จะถูกบังคับให้ไปออกหน้าแทนน้องชายเสมอ
และด้วยความเก็บเนื้อเก็บตัวแบบนี้เอง ชายหนุ่มจึงกลายเป็นบุคคลปริศนาที่บรรดานักธุรกิจรวมทั้งเหยี่ยวข่าวธุรกิจทั้งหลายหมายตาเอาไว้มากมายโดยเฉพาะหลังๆนี้มีข่าวว่ามีสมาพันธ์นักข่าวแห่งหนึ่งในทวีปเอเชียนี้เริ่มลงขันกันตั้งค่าหัว ไม่สิต้องใช้คำว่าตั้งค่ารูปถ่ายที่เห็นใบหน้าชัดๆของบุคคลปริศนาผู้นี้แล้วด้วยถึงจะถูก
รูปร่างหน้าตารวมทั้งคำบอกเล่านินทากาเลในวงการธุรกิจนั้นมีทั้งบอกว่าชายหนุ่มป่วยเป็นโรคประหลาดที่หน้าตาแลดูเหมือนคนแก่ชราภาพเหี่ยวย่นจนเจ้าตัวไม่กล้าออกมาเปิดเผยตัวเองหน้าสาธารณะชนบ้าง เป็นโรคหวาดกลัวผู้คนบ้าง เป็นอัจฉริยะประเภทผิดปกติหรือคนปัญญาอ่อนบ้างละ
แต่ในขณะนี้สิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นเรื่องเหลวไหลซะเหลือเกินในความคิดของโกโบริ นักธุรกิจหนุ่มหนุ่มใหญ่ลูกสอง เมื่อเขาได้พบว่า บุคคลตรงหน้าช่างห่างไกลจากเรื่องเล่าเหล่านั้นโดยสิ้นเชิง!
ใบหน้าอ่อนเยาว์เหมือนดั่งเช่นผู้ที่มีอายุไม่น่าจะเกิด 20 ปี ไม่สิไม่น่าจะเกิด16-17 ปีซะมากกว่า กับผิวขาวนวลที่ออกซีดหน่อยๆ ดูอ่อนเยาว์และน่ารักน่าทะนุถนอม หากไม่เพราะได้เห็นบุคคลดังกล่าวขึ้นยืนอยู่หน้าเวทีเมื่อครู่
ผู้ผ่านโลกมากว่า 50 ปีเช่นเขาก็แทบจะไม่อยากเชื่อเลยว่าบุคคลตรงหน้าเป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ ที่ประสบความสำเร็จและโด่งดังติดอันดับเจ้าของธุรกิจยักษ์อันดับต้นๆของโลกในปัจจุบัน!
“สวัสดีครับผมยินดีเป็นอย่างยิ่งครับที่ได้รู้จักคุณและขอต้อนรับคุณยามางิและครอบครัวที่กรุณามาเป็นแขกให้กับผมในวันนี้ครับ”
ภาษาญี่ปุ่นคำพูดแรกที่ออกเสียงชัดถอยคำตรงตามสำเนียงเจ้าของภาษาออกมาจากชายหนุ่มหน้าหวานที่ยื่นมือมาสัมผัสกับมือของเขา หน้าห้องอาหารรับรองพิเศษที่สร้างไว้กลางหมู่แมกไม้และดอกไม้อันสวยสดงดงามของสวนดอกไม้ในโรงแรมแห่งนี้ หลังจากที่วิเชียร ได้ทำการแนะนำทั้งสองฝ่ายให้รู้จักกัน
“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ ผมเองก็ขอขอบคุณ คุณมากนะครับสำหรับการต้อนรับ แถมยังมารบกวนเวลาที่คุณมีงานสำคัญด้วย”
โกโบริยิ้มพร้อมกับสัมผัสมือและกล่าวตอบคำทักทายของชายหนุ่ม ด้วยรอยยิ้มอันเปรี่ยมไปด้วยไมตรีเช่นเดียวกับผู้เป็นภรรยา หลังจากหายจากอาการตื่นตกใจเมื่อได้พบบุคคลตรงหน้าอย่างใกล้ชิด
หากแต่หญิงสาวอีกคนที่ติดตามบิดามารดามาด้วยนี้สิ แววตาที่เคยสดใสและมุ่งมั่นกลับปรากฏรอยขุ่นมัวบางอย่างขึ้น
รอยขุ่นมัวอันเกิดจากความรู้สึกบางอย่างหลังจากหายจากอาการตกใจเมื่อได้รู้ถึงฐานะที่แทนจริงของชายหนุ่มหน้าหวานและดูอ่อนเยาว์ตรงหน้า!
“ไม่เป็นอะไรมิได้ครับ สำหรับผู้ที่จะร่วมธุรกิจด้วยกันแล้ว ทางเพชรเทวากรุ๊ปของเราเองก็ถือว่าคุณเองก็เป็นแขกวีไอพีรายสำคัญของเราด้วยเช่นกันครับ”
ชายหนุ่มเผยรอยยิ้มบางๆที่ทำให้ผู้พบเห็นต้องปันป่วนหัวใจและอดที่จะหันกลับมามองไม่ได้ให้แก่แขกผู้มาเยื่อนอีกครั้ง พร้อมกับสัมผัสมือผู้เป็นภรรยาของโกโบริ หากแต่ก่อนที่จะได้กล่าวอะไรต่อไป วายุก็สัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่ถูกส่งออกมาทางสายตาของหญิงสาวผู้เป็นบุตรตรีของแขกผู้มาเยือน
บางสิ่งอันประกอบไปด้วยความขุ่นเคืองในจิตใจและความเขยอายต่อชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าบ้าน ที่แม้หญิงสาวจะพยายามปกปิดมันไว้ด้วยท่าทีที่เงียบสงบและนิ่งเฉยขนาดใหนแต่ก็ยังมิอาจหลุดรอดสายตาไปจากชายหนุ่มผู้ละเอียดรอบคอบอยู่เสมอ วายุหยุดคิดเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะส่งรอยยิ้มที่มีต่อบิดามารดาของหล่อนต่อไปยังหญิงสาว
“พบกันอีกแล้วนะครับคุณมาอิ”
ชายหนุ่มหน้าหวานเอ่ยอย่างเรียบๆพร้อมกับสัมผัสมือของหญิงสาว
“สวัสดีคะ” มาอิกล่าวตอบได้เพียงแค่นั้นเพราะยังพยายามควบคุมอารมณ์อยู่
“อ้าว! นี้รู้จักกันแล้วเหรอครับ”
วิเชียรกล่าวขึ้นเมื่อเห็นการทักทายของสองหนุ่มสาว
“ ค่ะ เราได้เคยพบกันมาแล้วค่ะ”
หญิงสาวกล่าวตอบได้เพียงแค่นั้นก่อนพยายามสงบสติอารมณ์ลงให้ได้เมื่อสบตากับสายสดใสและแฝงประกายเจิดจ้าของชายหนุ่มผู้ดูอ่อนเยาว์เกิดจริงมากนักตรงหน้า ความน่าสนใจและน่าค้นหาเกิดขึ้นก่อนในตอนแรกที่พบกันเมื่อกลางวันนี้
ความตกใจและมึนงงเกิดขึ้นมาหลังจากได้พบกันอีกครั้งในงานเลี้ยงเมื่อครู่ หากแต่ความรู้สึกสุดท้ายกลับกลายเป็นความขุ่นมัวเมื่อสำนึกได้ว่า บุคคลตรงหน้าเหมือนจะแกล้งทำเป็นไม่รู้ว่าหล่อนเป็นผู้หนึ่งในครอบครัวยามางิ ปิดบังฐานะที่แท้จริง อีกทั้งทำให้หล่อนและน้องสาวเข้าใจผิดคิดไปเองว่าเขาเป็นบุคคลที่เป็นแขกผู้มาเข้าพักในโรงแรมนี้เช่นเดียวกับหล่อน ทั้งที่ จริงๆแล้วตัวเองเป็นถึงเจ้าของโรงแรมแห่งนี้!
“ผมกับคุณมาอิบังเอิญได้พบกันมาก่อนที่สวนของโรงแรมเมื่อตอนกลางวันนี้เองละครับคุณวิเชียร”
ผมกับคุณมาอิบังเอิญได้พบกันมาก่อนที่สวนของโรงแรมเมื่อตอนกลางวันนี้เองละครับคุณวิเชียร”
วายุกล่าวตอบวิเชียรเสริมคำพูดของมาอิ เพื่อให้ท่าทางสนอกสนใจของคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็น วิเชียร โกโบริ มาลี ลดลงบ้าง อ้อ! จะว่าไปแล้วก็ไม่รวมเพียงแค่วารี หญิงสาวผมยาวสลวยที่แต่งไว้ด้วยชุดสูทสตรีสากลสีดำอีกคนที่ยืนอยู่ข้างหลังของเขา เพราะเจ้าหล่อนเองก็เป็นอีกคนที่ได้พบกับมาอิในตอนกลางวัน
จะว่าไปแล้วก็ไม่รวมเพียงแค่วารี หญิงสาวผมยาวสลวยที่แต่งไว้ด้วยชุดสูทสตรีสากลสีดำอีกคนที่ยืนอยู่ข้างหลังของเขา เพราะเจ้าหล่อนเองก็เป็นอีกคนที่ได้พบกับมาอิในตอนกลางวัน“อย่างนั้นเหรอครับ”
โกโบริเอ่ยขึ้นพร้อมส่งสายตาไปยังลูกสาวคนโตว่า กลับห้องคืนนี้อย่าลืมอธิบายให้เขาฟังด้วยว่ามันเป็นมายังไงกันแน่ ในขณะที่มาลีผู้เป็นมารดาก็อดอมยิ้มนิดๆพร้อมกับคิดในใจไม่ได้ว่า “เฮ่ย โรคหวงลูกสาวกำเริบอีกแล้วสิ!”
“อ้อ ผมข้อแนะนำให้รู้จักอีกคนนะครับ นี้ วารี เลขาส่วนตัวของผมครับ”
“เฮ่ย โรคหวงลูกสาวกำเริบอีกแล้วสิ!”
วายุหันกลับไปแนะนำหญิงสาวอีกคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเขามาตลอดให้แขกผู้มาเยือนรู้จักอีกคน
“สวัสดีคะ”
หญิงสาวผู้มีผมยาวสลวยกล่าวพร้อมยิ้มบางๆตามมารยาทให้กับแขกผู้มาเยือนทั้งสามพร้อมโค้งคำนับ ไม่เขามาสัมผัสมือเช่นเดียวกับชายหนุ่มที่ทำก่อนหน้า
“แล้วไม่ทราบว่าคุณมาเอะไม่มาด้วยเหรอครับ”
วายุถามมาอิด้วยรอยยิ้มบางๆเช่นเคย แต่ผู้ตอบกลับเป็นโกโบริที่เริ่มหวงลูกสาวที่ดันบังเอิญไปรู้จักหนุ่มหน้าตาดีที่ไหนแล้วดันไม่ยอมบอกกล่าวเขาให้รู้
“ลูกสาวคนเล็กของผมเขาบอกว่าขอตัวไปเข้าห้องน้ำสักครู่นะครับ แล้วถึงจะตามมาทีหลัง”
วายุยิ้มรับอีกครั้งก่อนจะเชิญครอบครัวยามางิเข้าสู่ห้องอาหาร
…………………
เสียงสดใสเจื้อยแจ้วดังตามทางเดินในสวนของโรงแรมชื่อดัง มันเป็นเสียงที่ออกมาจากปากของสาวน้อยน่ารักนามมาเอะที่ตอนนี้แม้ว่าจะเดินกระเพรกๆเพราะสะดุดล้มจนขาแพรง ต้องให้คนอื่นช่วยพยุงก็ตาม ปากบางๆก็ยังคงพร้ำบ่นไม่ยอมหยุดถึงวันแห่งความซวยของตน ให้คุณน้าคนสวยที่ทำหน้าที่พยุงฟังตลอดทาง โดยเน้นเฉพาะตรงที่เรื่องราวของ
“อีตาขี้เก๊ก” ผู้รั้งตำแหน่งตัวซวยที่สาวน้อยเพิ่งแอบยกให้หมาดๆ
“นี้นะคนอะไรก็ไม่รู้นะคะ ทำเป็นหล่อตายละ เก๊กหน้าตายอยู่ตลอดเวลา สงสัยตอนเด็กๆที่บ้านพ่อแม่คงมีแต่คนคอยเอาใจ ถึงได้มาเป็นพวกขี้เก๊ก ซะขนาดนี้”
ความคิดเห็น