ตอนที่ 3 : Chapter 2 :: การทดสอบ I
‘อาซาเอล…’
‘อาซาเอล’
‘อาซาเอล!!’
เฮือก!
แผ่นอกอันประกอบด้วยกล้ามเนื้อสมตัวสะท้อนเฮือกก่อนที่เจ้าตัวจะผวาลืมตาตื่น แพขนตาดำยาวกระพริบถี่เพื่อปรับทัศนวิสัยที่พร่าเลือนเพราะเพิ่งตื่นนอนอย่างไม่เต็มใจ
ใครเรียก
ยันตัวขึ้นนั่งแล้วหันซ้ายหันขวาหาที่มาของเสียง หากแต่ก็ไม่พบใครอื่น รอบตัวยังเป็นห้องนอนที่คุ้นเคยของเขาเหมือนเดิม มีเพียงเขาและ…
นกตัวจ้อยที่ร่างกายเป็นกระดาษแต่กลับขยับได้สมจริงราวมีชีวิต มันยืนนิ่งจ้องหน้าเจ้าของห้องด้วยดวงตาสีดำสนิทอันเกิดจากการระบายด้วยหมึก ดูแล้วชวนให้ขนคอลุกชัน
ภูตจดหมาย
เสียงทุ้มเข้มที่เรียกเขาจนตื่นจากฝันเมื่อครู่ คงเป็นเสียงของเจ้าของนกตัวนี้ หรือก็คือผู้ที่เขียนจดหมายถึงชายหนุ่มขี้เซา
ส่งมาเช้าขนาดนี้ราวกับตั้งใจก่อกวนกัน
อาซาเอลขมวดคิ้วใส่เจ้าภูตกระดาษโดยหวังว่ามันอาจส่งกระแสความคิดไปถึงคนเสียมารยาทได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วทำไม่ได้หรอก ได้แต่ถอนหายใจแล้วตั้งสติเพื่อจัดการกับเหตุการณ์ตรงหน้า
“เงื่อนไขการเปิดอ่านล่ะ”เสียงนุ่มติดปลายเสียงแหบพร่าเพราะเพิ่งตื่นนอนเอ่ยถาม
นกกระดาษขยับหันหลังให้ แล้วโทนเสียงทุ้มเข้มเมื่อครู่ก็เอื้อนเอ่ยออกมาอีกครั้ง มันกังวานก้องราวกระซิบอยู่ในหัวมากกว่าจะเป็นสิ่งที่ได้ยินผ่านหู
‘ประทับตราเลือด’
อาซาเอลถอนหายใจ
นิ้วเรียวยกจรดริมฝีปากก่อนจะใช้ฟันคมกัดลงบนปลายนิ้ว ความรู้สึกแสบนั้นทำให้ต้องเบ้หน้าและนึกหงุดหงิดในใจว่าทำไมต้องทำอะไรให้ยุ่งยาก แต่ในเมื่อเป็นกติกาก็ต้องปฏิบัติ ท้ายที่สุดอาซาเอลก็แตะปลายนิ้วเปื้อนเลือดลงบนหลังภูตน้อยแล้วดึงนิ้วกลับมาใช้ลิ้นเลียทำความสะอาดแผลสด
นกกระดาษคลี่ออกกลายเป็นจดหมายหนึ่งแผ่น ก่อนจะได้กวาดตาอ่านเนื้อความ เพียงแค่เห็นตราประทับบนหัวกระดาษเขาก็รู้ทันทีว่าใครเป็นผู้ส่ง
ใบตอบรับจากสถาบัน
นั่นหมายความว่าวันนี้เขาโดนเรียกตัวไปรับการทดสอบ หลังผ่านมาหนึ่งอาทิตย์นับจากวันที่เขา(กัดฟัน)ส่งใบสมัครไป ภาวนาไว้อยู่เชียวว่าขอให้ใบสมัครของเขาตกหล่นไปเสีย แต่นั่นคงเป็นไปไม่ได้ เวทมนต์มีอัตราการผิดพลาดต่ำกว่าวิทยาศาสตร์หรือวิทยาการยุคเก่าอยู่มาก
เจ้าของกลุ่มดาวสามดวงบนแก้มซ้ายกวาดตาอ่านรายละเอียดในจดหมายซึ่งบอกเวลาและสถานที่ เมื่ออ่านจบก็พับจดหมายวางไว้หัวเตียง ถอนหายใจอีกเฮือกจนอดคิดไม่ได้ว่าเขาจะต้องถอนหายใจอีกกี่ครั้งกว่าจะอายุครบยี่สิบห้าปี
ร่างสูงหยัดตัวลงจากเตียง ขายาวพาตัวเองเข้าห้องน้ำเพื่อจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยแล้วค่อยลงไปแจ้งข่าวให้พ่อกับแม่รู้ แน่นอนว่าสีหน้าของพ่อกับแม่ตอนรู้ข่าวนั้นช่างแช่มชื่นอย่างเห็นได้ชัด คนพูดน้อยอย่างพ่อเขายังยิ้มร่า ในขณะที่เขาทำหน้าเหมือนพร้อมอาเจียนตลอดเวลาที่นั่งรถคันหรูขับเคลื่อนด้วยเวทมนต์ไปตามทางในแผนที่
ผ่านไปแค่สองชั่วโมง เขาก็มายืนอยู่หน้าสถานที่จัดการทดสอบ ยืนอยู่คนเดียวหน้าอาคารที่เกิดจากการบิดต้นไม้หลายสิบหรืออาจจะหลายร้อยต้นให้กลายเป็นอาคารขนาดกลาง ต้นไม้เหล่านั้นยังคงเจริญเติบโตต่อไปแม้รูปร่างจะคดเคี้ยวด้วยเวทมนต์จากผู้สร้างตึก
สถาปัตยกรรมรักโลก
สถานที่แห่งนี้ รวมถึงบริเวณโดยรอบที่ไม่รู้กินพื้นที่กว้างเท่าไร ทั้งหมดถูกคลุมด้วยม่านพลังงานของใครบางคน ที่ต้องมีพลังมหาศาลมากแน่นอน เพราะเท่าที่ประสาทสัมผัสดีเลิศอันเป็นคุณสมบัติพิเศษของทรานส์อย่างเขาสัมผัสได้นั้น ราวกับภูเขาทั้งลูกนี้อยู่ใต้การควบคุมของใครบางคน
ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่ใครจะเข้ามาก็ได้ หากเขาไม่มีจดหมายเชื้อเชิญอยู่กับตัว เกรงว่าคงต้องวนรถหลงอยู่ที่ไหนสักแห่ง ไม่อาจเข้าถึงตัวอาคารได้แน่นอน
“มาติดต่ออะไรคะ”พนักงานต้อนรับเอ่ยถามเสียงหวานเมื่อเขาเดินเข้าไปมองซ้ายมองขวา เห็นกันชัดๆว่ากำลังต้องการความช่วยเหลือ
“ทดสอบครับ”อาซาเอลตอบพร้อมรอยยิ้มชวนฝันที่อาจทำให้ไฮบ์สาวตรงหน้าลุกขึ้นมาขย้ำเขาก็ได้ แต่ดูเหมือนเจ้าหน้าที่ของสถาบันนี้จะผ่านการอบรมมาอย่างดี สาวสวยผมสีแดงเพลิงตรงหน้าถึงได้ทำแค่ยิ้มหวานกลับมาพร้อมผายมือให้เขาเดินเข้าด้านใน
“อ่านรายละเอียดเรียบร้อยแล้วใช่มั้ยคะ การทดสอบจะใช้เวลาทั้งสิ้นสามวัน ในช่วงเวลานั้นไม่อนุญาตให้ผู้เข้ารับการทดสอบออกนอกพื้นที่ และไม่อนุญาตให้มีการเข้าเยี่ยม หากยอมรับเงื่อนไข เชิญขึ้นไปชั้นสองเพื่อเข้ารับการทดสอบได้เลยค่ะ”
นี่ก็อีกเรื่อง
ทดสอบเข้าเรียนหรือเข้าค่ายกักกัน ทำไมต้องใช้เวลายาวนานขนาดนั้น แถมยังห้ามพบปะครอบครัวอีก
อาซาเอลพยักหน้าแล้วค้อมหัวขอบคุณคำแนะนำ ไม่ลืมส่งสายตากรุ้มกริ่มที่ได้รับรอยยิ้มการค้ากลับมาเป็นของตอบแทน ยอมรับเลยว่าเสียฟอร์มอยู่หน่อยๆ ขายาวก้าวเข้าสู่ด้านในตัวอาคาร เนื้อไม้ชั้นดีบิดม้วนเป็นบันไดวนนำเขาขึ้นสู่ชั้นบน สิ่งแรกที่เห็นคือประตู ประตูเพียงบานเดียวจากระเบียงที่ทอดยาวขนาดนี้ ไม่เหลือทางเลือกใดให้กันเลย
หน้าประตูติดป้ายขนาดใหญ่ที่ถ้ามองไม่เห็นก็นับว่าสายตาแย่เต็มทีเอาไว้ เนื้อความบอกขั้นตอนการเข้ารับการทดสอบ ซึ่งมีแค่ขั้นตอนเดียว ‘บอกรหัสการสมัคร’
อาซาเอลเอ่ยรหัสการสมัครของตัวเองด้วยเสียงเรียบนิ่ง มือเรียวล้วงลงในกระเป๋ากางเกงสีดำสนิทของตัว ท่วงท่ารอประตูเปิดที่ดูมั่นใจพร้อมรับทุกสถานการณ์ช่างขัดกับจังหวะรัวเร็วของหัวใจที่ระทึกอยู่ในอก
จะอะไรก็มาเถอะ รีบเปิดก่อนที่เขาจะเปลี่ยนใจหันหลังวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ แม้จะรู้ดีแก่ใจว่าทำไม่ได้เพราะบันไดไม้ที่เขาผ่านมาเมื่อครู่ได้อันตรธานหายไปราวกับไม่เคยอยู่ตรงนั้น
“ยินดีต้อนรับเข้าสู่การทดสอบครับ คุณอาซาเอล”
สีหน้ากังวลจนเหงื่อซึมขมับถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจอีกครั้งเมื่อคนตรงหน้าเป็นหนุ่มน้อยตัวเล็ก รอยยิ้มกว้างจนตาเรียวยิบหยีลงนั้นชวนให้ใจชื้นขึ้นมาบ้าง ต้องขอบคุณใครกันที่ส่งคนคนนี้มาเป็นด่านแรกในการก้าวเท้าเข้าสู่นรก ช่างหลอกลวงกันเสียจริง วูบหนึ่งสมองเขาคิดว่ากำลังเดินเข้าสู่ประตูสวรรค์ด้วยซ้ำไป
“ผมชื่อแบคอน จะเป็นผู้ช่วยคุณตลอดการทดสอบนี้ ฝากตัวด้วยนะครับ”คนตัวเล็กค้อมหัวลงจนคนที่คาดคะเนแล้วว่าตนน่าจะอายุน้อยกว่าแม้คนตรงหน้าจะน่ารักน่าชังเพียงใดต้องรีบค้อมหัวตอบ
มันอาจจะดีกว่าที่คิดก็ได้อาซาเอล ไอ้การทดสอบเสมือนติดอยู่ในค่ายกักกันนี้น่ะ
รอยยิ้มที่เคยแต้มบนมุมปากตลอดการเดินเข้าสู่ห้องทดสอบที่แบ่งเป็นประตูย่อยๆอีกนับสิบหุบฉับลงพร้อมความคิดแง่บวกที่มลายหายไป เมื่อคนทั้งคู่หยุดยืนอยู่หน้าห้องๆหนึ่ง รอยยิ้มเดิมระบายบนใบหน้าคนตัวเล็ก หากแต่คำพูดที่ปากบางเอ่ยออกมานั้นทำให้อาซาเอลเกือบจะอ้าปากเหวออย่างเสียการควบคุม
“ผมมาส่งแค่นี้นะครับ เมื่อคุณผ่านการทดสอบในห้องนี้แล้วเปิดประตูออกมา จะเจอผมยืนอยู่ตรงนี้แน่นอน สู้ๆนะครับ”
มือบางเอื้อมมือจับมือเขาแล้วเขย่าเบาๆอย่างให้กำลังใจ
การเป็นผู้ช่วยตลอดการทดสอบหมายถึงแค่เดินมาส่ง แล้วก็รับออกจากห้อง นำไปส่งห้องถัดไป
แค่นี้หรอ…
สรุปเขาก็ต้องเผชิญนรกด้วยตัวคนเดียวเหมือนเดิมไม่ใช่หรือไง
โธ่
หลอกลวง นี่มันหลอกลวง!
hf
ห้องรับการทดสอบสีขาวสะอาดตา เครื่องมือทางการแพทย์วางอย่างเป็นระเบียบ จมูกที่ดีเกินไฮบ์ทั่วไปของร่างสูงรับกลิ่นของน้ำยาฆ่าเชื้อได้บางเบา นอกจากนั้นยังมีกลิ่นอะไรบางอย่างที่ทำให้เขาต้องเลิกคิ้วขึ้นแล้วสูดจมูกฟุดฟิดจนอีกคนในห้องหันมามองอย่างสนใจ
ไม่ใช่อะไรบางอย่าง แต่เป็นกลิ่นของ บางคน
แค่ได้กลิ่นก็รู้สึกคันๆอยากกลั่นแกล้งให้ร้องไห้แบบนี้
กลิ่นแมว
“เป็นอะไรรึเปล่าครับคุณคาดิเนียล กลิ่นยาฆ่าเชื้อในห้องแรงไปสำหรับคุณหรอครับ”น้ำเสียงของอาจารย์ที่ทำการทดสอบเขาฟังดูห่วงใยจากใจจริง ใบหน้ากลมแต่น่ามองดูซีดลงเล็กน้อยอย่างคนขี้กลัวจนผู้เข้ารับการทดสอบต้องยิ้มกว้างจนดวงตายิบหยีเพื่อประโลมคนอายุมากกว่า
“ไม่ใช่อย่างนั้นครับอาจารย์”
“บอกแล้วไงครับว่าอย่าเรียกผมว่าอาจารย์ ตอนนี้คุณยังไม่ได้เข้าเรียนในสถาบันนะครับ เรียกผมว่ายูจีนเถอะครับ”อีกคนขัดขึ้นท้ายประโยคจนผู้รับการทดสอบได้แต่หัวเราะแห้ง
คาดิเนียล พยักหน้าอย่างว่าง่าย เขารู้ดีว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนในอาคารนี้เป็นอาจารย์ของสถาบันที่เข้ามาทำหน้าที่คัดกรองนักเรียน พี่ชายเขาย้ำเป็นร้อยครั้งเห็นจะได้ว่าให้ทำตัวดีๆกับทุกคนเข้าไว้ หากเผลอทำอะไรขัดใจขัดตาบุคคลเหล่านี้ เห็นทีจะได้ลำบากในภายหลัง
ว่าแต่เจ้ากลิ่นนี่มันกวนสมาธิเขาจริงๆ
“อาจา…เอ่อ คุณยูจีนครับ ก่อนผมเข้ามา มีทรานส์ใช้ห้องนี้หรอครับ”คาดิเนียลถามออกไปตามจิตใต้สำนึกที่เริ่มจะวุ่นวายเพราะกลิ่นที่ก่อกวนจมูกและสัญชาตญาณในตัวเขา รีบจนเกือบเผลอเรียกคนตัวเล็กกว่าว่าอาจารย์ ทั้งที่อีกฝ่ายออกปากห้ามเป็นครั้งที่สามแล้ว
ยูจีนเงยหน้าจากแฟ้มประวัติของเด็กตรงหน้าขึ้นมาสบตาอีกฝ่ายด้วยแววงุนงง ตลอดการตรวจร่างกายในห้องแรกของการทดสอบ คาดิเนียลทำทุกอย่างที่เขาสั่งโดยไม่ตั้งคำถาม ดูเป็นมิตรแถมใบหน้าได้รูปนั้นก็มีรอยยิ้มระบายอยู่เสมอ บรรยากาศอบอุ่นเหมือนกลิ่นไอของฤดูใบไม้ผลิรอบตัวคนๆนี้ทำให้ทรานส์ขี้กลัวที่ได้รับมอบหมายให้ทดสอบไฮบ์อย่างยูจีนคลายกังวลลงไปมาก นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เด็กตัวโตถามเขาด้วยใบหน้าจริงจัง
แถมเป็นคำถามที่เขาไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นเสียด้วย
“ไม่มีหรอกครับ ภูเขาทั้งลูกถูกปกคลุมด้วยเวทมนต์ของผู้อำนวยการ เป็นการบิดมิติพื้นที่และเวลา ตอนคุณเข้ามา คุณไม่เห็นคนอื่นเลยใช่มั้ยครับ”
คาดิเนียลพยักหน้า แต่สีหน้ายังฉายแววสงสัย ไม่แปลกหรอกที่เพียวหรือไฮบ์ขั้นบีกินเนอร์จะไม่สามารถสัมผัสพลังงานบางเบาที่ปกคลุมอาคารทั้งหมดไว้ ถึงจะเป็นไฮบ์ที่มีสัมผัสดีเยี่ยมจนเขาต้องบันทึกลงในแฟ้มประวัติของเด็กตัวโตว่าเป็นผู้มีความสามารถควรจับตามอง และจัดให้เจ้าของดวงตายิ้มได้อยู่ในคลาสA
อย่างมากก็คงรู้ตัวว่าเดินเข้ามาในอาณาเขตของคนอื่น แต่ไม่มีทางรู้ได้เลยว่ามันเป็นอีกมิติหนึ่งที่ตัดขาดกับโลกที่เขาเคยอยู่
ยูจีนยิ้มก่อนจะอธิบายต่อ
“ในตอนนี้ ณ วินาทีนี้ มีคนเข้ารับการทดสอบที่นี่ทั้งหมดสองพันคน ทั้งเพียว ไฮบ์ และทรานส์”
ยูจีนเว้นจังหวะเพราะหลุดหัวเราะออกมากับสีหน้าตื่นเต้นของอีกฝ่าย
เจ้าหนูตัวโตนี่แสดงออกชัดมากว่าในร่างกายมีเลือดของสุนัขไหลเวียนอยู่ จนเขาเผลอจินตนาการว่าคาดิเนียลกำลังสะบัดหางอย่างใคร่รู้
ถ้าเป็นทรานส์ ตอนลอสคงน่ารักมากทีเดียว
“แล้วยังไงต่อครับ”
“ที่คุณไม่เห็นใครเลยเพราะคนอื่นๆอยู่ในมิติพื้นที่อื่นไงครับ อาคารนี้ถูกบิดให้เกิดมิติพื้นที่ขึ้นมากมาย เพื่อรองรับผู้เข้ารับการทดสอบทั้งหมด และเพื่อป้องกันการพบหน้าก่อนเวลาอันสมควร พวกคุณถึงต้องโดนจับแยกกันตั้งแต่เข้ามาในอาณาเขตภูเขา ที่นั่งตรงนี้ ในอีกมิติหนึ่ง ก็จะมีคนอื่นนั่งอยู่ ส่วนที่นั่งตรงนั้น ก็มีคนอื่นนั่งอยู่ด้วยครับ”การอธิบายของยูจีนเป็นไปอย่างเข้าใจง่ายและอ่อนโยน นิ้วมือป้อมเล็กชี้ที่นั่งของตนกับอีกคนประกอบ จนคาดิเนียลอดคิดไม่ได้ว่า หากเขาได้มีโอกาสเรียนกับอาจารย์คนนี้ก็คงจะดีไม่น้อย
“เราไม่มีทางสัมผัสได้ถึงคนที่กำลังนั่งอยู่ตำแหน่งเดียวกับเราในมิติอื่นหรอครับ”คาดิเนียลถามย้ำกับอาจารย์ผู้ทรงภูมิที่ทำหน้าคิดหนักหลังได้ยินคำถาม
“ครับ แทบเป็นไปไม่ได้เลย”
ยกเว้นว่าผู้ที่อยู่ในอีกมิติมีพลังมหาศาล ถ้าเป็นกรณีนั้น ยูจีนต้องสัมผัสได้ก่อนคาดิเนียลแน่นอน
หรืออีกกรณี ที่ยังไม่มีใครเคยพิสูจน์ได้ว่าจริงแท้เพียงใด นั่นคือคนสองคนที่อยู่คนละมิติพื้นที่ มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงบางประการทำให้สัมผัสตัวตนอีกฝ่ายได้
หืม
ยูจีนหรี่ตาเรียวของตนก่อนจะตัดสินใจเอ่ยถามเด็กหนุ่มที่ยังนั่งขมวดคิ้วมุ่นเหมือนคำถามในใจยังไม่ได้รับการไขให้กระจ่าง
“มีอะไรหรือเปล่าครับ คุณสัมผัสได้ถึงใครบางคนหรอ”
คาดิเนียลทำหน้าคิดหนัก ไม่รู้ว่าควรบอกออกไปดีไหม ในเมื่ออาจารย์ยืนยันหนักแน่นว่าไม่อาจเกิดขึ้นได้ แต่สุดท้ายเขาก็พูดตามความเป็นจริง
“ครับ ผมได้กลิ่นทรานส์…กลิ่นแมว”
ยูจีนเบิกตาเล็กๆของตน แต่มันก็ไม่ได้ดูโตจนคาดิเนียลผิดสังเกต
คาดิเนียลเป็นไฮบ์ที่สายเลือดเข้มข้นมากจนน่าแปลกใจที่ไม่ใช่ทรานส์ สัญชาตญาณสัตว์ป่าในตัวเขาพลุ่งพล่านกว่าทรานส์แท้ๆด้วยซ้ำไป หากแต่ผลการตรวจที่ยูจีนตรวจเองกับมือย้ำชัดว่าคนๆนี้ไม่มีอาการลอส ถึงกระนั้น ดูเหมือนว่าสัญชาตญาณนักล่าของเขาจะดึงดูดกับใครบางคนเข้าแล้ว
ในฐานะทรานส์คนหนึ่ง รู้สึกห่วงเด็กคนนั้นจับใจ หากแต่เขาก็ไม่อาจรู้ได้ว่าทรานส์คนใดที่กำลังตกเป็นเป้าของเด็กตายิ้มแต่ภายในเดือดพล่านด้วยความกระหายคนนี้
“แต่มันเป็นไปไม่ได้ใช่มั้ยล่ะครับ ผมคงคิดไปเอง”อีกครั้งที่คาดิเนียลปิดท้ายประโยคด้วยรอยยิ้ม ยูจีนแค่นยิ้มตอบแล้วไม่ออกความเห็นใดอีก
ก่อนบทสนทนาจะทำให้แมวตัวใดเป็นอันตรายไปมากกว่านี้ ยูจีนจัดการส่งมอบแฟ้มประวัติให้เจ้าของ แล้วกล่าวลาเพื่อส่งต่อผู้เข้ารับการทดสอบไปห้องถัดไป
ที่น่าห่วงก็คือ กระบวนการคัดสรรในแต่ละมิติจะดำเนินไปพร้อมกัน ในขณะที่คาดิเนียลลุกออกจากที่นั่งตอนนี้ ทรานส์คนนั้นก็อาจกำลังลุกขึ้นเหมือนกัน ตลอดสามวัน พวกเขาจะต้องใช้ชีวิตในต่างมิติไปพร้อมๆกัน
ถ้าคาดิเนียลสัมผัสตัวตนเด็กคนนั้นได้มากกว่านี้ ต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆเลย
“อาจารย์มิทานอสครับ เชคให้ผมหน่อยได้มั้ย ว่ามีทรานส์ที่สืบเชื้อสายแมวเข้าร่วมการทดสอบนี้กี่คน เอ๊ะ เยอะมากหรอครับ อ่า ถ้าลำบากก็ไม่เป็นไรครับ”
ทันทีที่คาดิเนียลเดินลับประตูไป เครื่องมือสื่อสารระยะไกลถูกต่อสายตรงหาคนที่สำนักงานใหญ่ทันที คำขอของเขาอาจจะมากไป
เดิมทีสัตว์ที่วิวัฒเทียบชั้นมนุษย์นั้นประกอบด้วยสัตว์หลากหลายชนิด แต่ส่วนใหญ่ล้วนเป็นสัตว์นักล่า เมื่อผ่านการรับโทษทัณฑ์ เชื้อสายที่หลงเหลืออยู่มีไม่มากนัก หากแยกเป็นกลุ่มใหญ่ๆคงแยกได้สามกลุ่มเท่านั้น สุนัข แมว และอื่นๆ
สุนัข หมายรวมถึง หมาป่า จิ้งจอก และสายพันธุ์ใกล้เคียง
แมว หมายรวมถึง สิงโต เสือ และญาติสนิทอื่นๆทางพันธุกรรม
ให้หาแมวทั้งหมด เป็นงานที่ไม่ง่ายเลย
ถึงกระนั้นปลายสายก็เอ่ยเสียงนุ่มทุ้มที่ทำให้คนฟังยิ้มจนแก้มกลมขึ้นสีเรื่อ
“ไม่ลำบากหรอกครับ ถ้าเป็นคุณขอ… เดี๋ยวผมจะส่งข้อมูลไปให้ในพอกเกตนะครับ ว่าแต่อาจารย์ยูจีนจะเอาไปทำอะไรหรอครับ”
“ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมแค่สงสัยอะไรนิดหน่อย ขอบคุณมากนะครับ ผมจะรอข้อมูลนะ”
พูดมากกว่านี้ไม่ได้ เพราะเรื่องนี้เป็นเพียงข้อสันนิษฐานของตัวเขาเอง รอให้ผ่านสามวันนี้ไปก่อน หากเป็นเรื่องจริงขึ้นมา ค่อยปรึกษาเพื่อหาทางช่วยเหลือคงยังไม่สาย
หวังว่าจะยังไม่สายนะ
hf
“เชิญไปห้องถัดไปได้เลยครับ คุณอาซาเอล”
อาซาเอลค้อมหัวลงขอบคุณอีกฝ่ายตามมารยาทแล้วรับแฟ้มประวัติของตนมาถือไว้ อดไม่ได้ที่จะลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก
ห้องแรกยังไม่มีอะไร
เป็นเพียงการตรวจร่างกาย ส่วนสูง น้ำหนัก กรุ๊ปเลือด รวมถึงโรคประจำตัวต่างๆซึ่งเขาไม่มี สัมภาษณ์ถึงสภาพร่างกายในช่วงนี้ อาการเมื่อเกิดลอส ระยะเวลาในการลอส และลงบันทึกว่าเขาลอสครั้งล่าสุดเมื่อไร ดูๆไปแล้วเป็นการเตรียมการเพื่อช่วยเหลือทรานส์อย่างเขาเสียมากกว่าการทดสอบ
ลำบากใจก็ตรงต้องเปลือยเปล่าต่อหน้าคนที่เพิ่งเจอหน้าได้แค่สองนาที แต่สาบานด้วยเกียรติทรานส์ผู้เพียบพร้อมไปเสียทุกด้านจนได้รับเกรดA จากการตรวจร่างกายครั้งนี้เลยว่า ตอนที่คุณหมอเดินเข้ามาตรวจร่างกายเขาในสภาพไร้เสื้อผ้าชิ้นใดปกปิดนั้น เขาสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างที่แผ่ซ่านมาจากหลังบานประตู คุณหมอหน้าซีดเผือดไปเลย ถึงเขาจะไม่เข้าใจเท่าไร แต่ก็รับรู้ได้ว่าเราควรอยู่ห่างกันไว้ดีกว่า
“เอ่อ คุณอาซาเอลครับ”
“ครับ”
อาซาเอลชะงักเท้า มือค้างอยู่กับลูกบิดประตู
“ฝากบอกคนหน้าห้องหน่อยนะครับ ว่าผมแค่ทำตามหน้าที่”
อาซาเอลเลิกคิ้ว ก่อนจะผิวปากหวิวเมื่อเข้าใจสถานการณ์
“ได้สิครับคุณหมอชาร์ล”
วูบ…
อีกแล้ว พลังงานแบบนี้ ชวนขนลุก แต่ไม่ใช่ของคุณแบคอน ตลอดการตรวจเขาสัมผัสได้ถึงมันบางเบา เพราะตัวตนของคุณแบคอนที่ยืนอยู่หน้าประตูนั้นชัดเจนกว่า หากแต่ตอนนี้เขาสัมผัสพลังงานแปลกปลอมนี้ได้ชัดมาก มันไม่ได้มุ่งเข้าหาคุณหมอชาร์ล
มันพุ่งเข้าสำรวจเขา
ราวกับโดนรินรดลมหายใจบนหลังคอ
บ้าจริง ตัวสั่นอีกแล้ว
เรื่องนี้อาจมีเกสรับเชิญจากหลายๆวงมาโผล่ในหลายๆตอนนะคะ
ลองเดาจากชื่อและลักษณะดูนะว่าเป็นใครกันบ้าง 555
ดีใจที่ทุกคนชอบนะคะ เราก็อยากอ่านเด็กโปรดิ้วแบบแฟนตาซีเหมือนกัน แต่ไม่มีก็เลยลงเอยด้วยการแต่งเองซะเลย
เรื่องนี้ไม่ได้มีแค่เนียลองนะ มีอีกหลายคู่เลย
Tip
คาดิเนียล
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

อ่านซ้ำกี่ครั้ง
ที่รู้ๆเนี่ยมีชาลแบคด้วยอ่าาาา
เปิดตัวพระเอกเราแล้วว กรี๊ดดดดด ชาร์ลกับแบคอน นี่ชานแบคไหมคะ .////. อาซาเอลของเราจะปลอดภัยไหมมม แงงง
จมูกดีจังคาดิเนียล
ㅜ //// ㅜ
คุณต้องใจเย็นๆนะคะ นี่ขนาดยังไม่เห็นหน้านะ อรุ่มมม
ชอบในความข้างนอกสดใสข้างในพร้อมล่ามากๆเลยค่ะ -.,-