ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วุ่นซะจิง~''~ จะมีรักทั้งที

    ลำดับตอนที่ #2 : ~ นั ด บ อ ด ~

    • อัปเดตล่าสุด 26 เม.ย. 50


    อรุณสวัสดิ์จ๊ะน้องรัก เราทักน้องเราก่อนนะวันนี้ (เช้านี้อารมณ์ดี อิอิ) แล้วแถมให้ด้วยการเข้าไปกอดแน่นเหมือนคิดถึงจัด

    อรุณสวัสดิ์พี่สาว หลับไงมั่ง?  อึนจูก็กอดตอบพร้อมๆ กับหอมแก้มพี่สาวฟอดนึง (เฮ้ย สาวๆ อย่าหึงหล่ะ พี่กับน้องกัน รักกันเป็นเรื่องธรรมดา ฮ่าๆๆๆๆ)

    อึ๋ย มีอะไรจะอ้อนเราหละ ถ้านายหอมแก้มเราเนี่ย ไม่เป็นการรายงานข่าวประจำวันธรรมดาแน่ สายตาจับพิรุธของเรากำลังปฏิบัติงานให้พล่านเลย

    มีแค่เรื่องนี้หละมั๊งที่หมี่รู้ทันผมน่ะ ฮึ? อึนจูยิ้มอวดเขี้ยวสองข้าง ตาหยีซ๊า ...  ดีหน่อยที่เรามีเครดิตเป็นพี่สาวมันไม่อย่างนั้นคงหลงมันได้เรื่องเหมือนกัน

    จะบอกมาตอนที่เราอารมณ์ดี หรือจะให้เราไล่เตะก้นนายสักป๊าบก่อนค่อยพูด ฮึ? เนี่ยนับเป็นพรสวรรค์ของเรานะทั้งเรื่องการขู่และหาเรื่องชวนปวดหัวแบบแสบๆ เนี่ยเราถนัดนัก

    โห ยังหลับไม่เต็มที่อีกเหรอหมี่ ... เออๆๆ อย่าจ้องแบบนั้นสิ คือว่า ..... ผมถูกเพื่อนจับไปงานนัดบอดต่างคณะน่ะ หมี่ไปเป็นเพื่อนหน่อยสิ ดุๆ อย่างหมี่ไม่มีสาวไหนตื้อผมแน่

    ปกตินายไม่ยอมให้เพื่อนบังคับนายไม่ใช่เหรอ . . . ไมคราวนี้ถึงฝีมืออ่อนหัดนักล่ะ ดีกรีความเป็นพี่สาวที่เอาใจใส่น้องนุ่งขนาดนั้นไม่ใช่มะหมี่หรอกนะ (เว้นแต่มีการแลกเปลี่ยนทางธุรกิจถึงจะคุยกันได้ อิอิ)

    ผมถูกขู่ไว้น่ะครับ ที่ต้องไปเพราะเห็นแก่เพื่อน แต่หมี่ก็ช่วยผมได้นี่ นะ หมี่นะ ไปเป็นเพื่อนผมหน่อย เวลาที่น้องอ้อนนี่ก็รู้สึกดีไปอีกแบบ อิอิ (ซาดิสส์หรือเปล่าหว่าเรา?)

    เราต้องทำไรบ้างล่ะ เพื่อนนายเค้ารู้เหรอว่านายมีพี่สาวฝาแฝดน่ะ ที่ถามอย่างนั้นไปเพราะว่าไม่ค่อยมีใครจะรู้ว่าเราเป็นฝาแฝดกันเพราะเราเรียนกันคนละคณะ และไม่ค่อยได้ไปไหนด้วยกันในมหาวิทยาลัย

    ก็นั่งเฉยๆ คุยๆ เล่นๆ หมดเวลาก็กลับบ้าน ผมกะจะเปิดตัวหมี่ด้วยไงพี่สาวคนเดียวในดวงใจของผม ตกลงไหม? อึนจูพยายามทำให้ดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย

    ไม่ตกลง ถ้าขากลับนายไม่พาเราไปดูหนัง

    ได้ . . ไปดูหนังกัน ดีล?

    เยส..งั้นเราไปแต่งตัวก่อนนะ จะเอาแบบห้าวๆ ไปเลย อิอิ สนุกหละสิได้ควงน้องชายแถมยังได้อาละวาดบรรดาสาวๆ ที่มาเกาะแกะน้องชายเรา ถ้าย้อนเวลาไปได้หน่อยหนึ่งนะจะคิดก่อนเห็นแก่ความสนุก

     

    กลุ่มนัดบอดครั้งนี้รวมตัวกันขึ้นที่ห้างใจกลางเมือง แหล่งวัยรุ่นทุกประเภทสุมหัวกันอยู่นั่นแหละ อย่าว่านู่นว่านี่เลยนะ ครั้งนี้เราก็ไปกินกันอีกตามเคยแหละ แต่เป็นร้านอาหารที่ดีขึ้นมาหน่อย มีเพลงเบาๆ มีเครื่องดื่ม ของว่างและอาหาร อีกอย่างหนึ่งก็คุ้มแสนคุ้มเพราะมีมุมเป็นของกลุ่มนัดบอดเลยก็ว่าได้ พอเข้าไปก็เจอกับเพื่อนๆ ของอึนจูก่อนประมาณ 3-4 คน เด็กแสบที่หาเรื่องนัดบอดก็อึ้งไปเหมือนกันที่เจอหน้าพี่สาววัยห่างแค่ 5 นาทีของนายอึนจู ปณิวัฒน์ หน้าตาเราทั้งคู่คล้ายๆ กันขัดกันก็ที่ความต่างเพศที่ทำให้ดูแตกต่างออกไปนิดหน่อยเท่านั้นเอง นั่งเก๊กไปเก๊กมาอึนจูขอตัวไปห้องน้ำ พวกเพื่อนที่เหลือก็นั่งจ้องเราเหมือนไม่เคยเห็น ให้เดานะ มันคงอยากถามว่าเธอเป็นผู้หญิงจริงๆ หรือเปล่าแน่เลย สิ่งที่กวนอารมณ์ดีๆ ของเราเห็นจะเป็นนายคนหนึ่งที่ชื่อกฤช ที่เอาแต่จ้องเราเงียบๆ ตั้งแต่หัวจดเท้าอ่ะ กำลังจะอ้าปากป่วนประสาท ก็มีคนกลุ่มหนึ่งเข้ามานั่งด้วยซะก่อน ยิ่งที่ทำให้ตกใจไปกว่านั้นคือ

    อึนจู มาจริงๆ ด้วยเหรอ ว้าย ... วันนี้แต่งตัวเท่ห์จัง เพิ่งเคยเห็นอึนจูใส่หมวกนะเนี่ย สาวนางนี้ก็มานั่งติดชิดกะเราซะเฉยเลย ไอ้เราก็ทำหน้าปั้นยากสิ  ดันมาเข้าใจว่าเราเป็นอึนจูไปซะได้ บรรดาเพื่อนของอึนจูก็พากันกลั้นหัวเราะกุมท้องกันเป็นแถวๆ

    เอ่อ เข้าใจไรผิดกันป่ะ? ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าเป็นอารมณ์ไหนที่ไม่ยอมหลุดคำว่า ค่ะ ชี้ชัดเพศให้ซึ้งกันไปซะที

    เฮ้ย นี่น่ะเหรอนายอึนจูที่เธอคลั่งไคล้นักหนา หยิ่งจะตาย สาวอีกคนนั่งใกล้ๆ กับนายกฤชกำลังมองด้วยลักษณะดูถูกเลยแหละ สายตาเหยียดหยาม ไม่เป็นมิตร ดูท่าเจ้าหล่อนก็เอาเรื่องเหมือนกันนะเนี่ย พอโดนจ้องคืนสาวเจ้าก็สะบัดหน้าหนีไปทางอื่นซะอย่างนั้น (โถ น้องชายช้าน ต้องเจอมนุษย์แปลกๆ แบบนี้ตลอดเลยเหรอเนี่ย คิดว่าแค่พี่สาวคนเดียวก็ทำให้ปวดหัวอยู่นะ ไม่น่าเลย)

    ชิ หน้าก็หวานยังกะผู้หญิง ฉันว่าเธอตาถั่วแล้วแหละรดา พี่อิงค์ว่าไง นั่นแค่คำบ่นออกจากปากเธอนะ แต่ที่ทำให้เราชะงักเลยก็คือชื่อของอีกบุคคลหนึ่งนี่แหละ ทันทีที่หันไปมองก็เจอหน้านายอิงค์ที่เราคุ้นเคยแหละกำลังยืนอยู่ตรงหัวโต๊ะด้านนอกเลย ช็อกกว่านั้นคือพี่แกกำลังจ้องแหวนตรงนิ้วนางเราพอดี (ความเผอเรอที่ไม่คิดว่าจะมีคนรู้จักมาด้วยกันในวันนี้ เลยไม่ได้เปะลาสเตอร์มาเหมือนที่เคยทำตามปกติ และเราก็ดันวางมือไว้บนโต๊ะอ่ะดิ)

    เฮ้ย ทำไมแกมีแหวนวงนั้นวะ? เมื่อมองหน้ากันถนัดหน่อย นายนั่นทำท่าเหมือนตกใจ ตาเบิกกว้างเหมือนไม่เคยพบไม่เคยอะไรที่แปลกประหลาดมาก่อน

    เฮ้ ทุกคนผมคิดว่าเราแนะนำตัวกันดีมั้ย ใครชื่อไร อย่าปล่อยให้คนอื่นกลายเป็นส่วนเกินไปสิ นี่เป็นคำแซวของคนที่มาใหม่อีกคนหนึ่งนะ ได้จังหวะเราก็หลบหน้าลงทันที อะไรมันจะเกิดขึ้นหว่าเนี่ย ยัยรดาอะไรนี่ก็ไม่ยอมถอยห่างเลย มือไม้ก็อยู่ไม่นิ่งมาเกาะมาจับอยู่ได้ อยากตะโกนดังๆ รำคาญโว้ย แต่ก็ทำได้แค่คิดในใจ ไอ้น้องชายตัวแสบเราหายไปนานจริงๆ เลยว่ะ

    เฮ้ ชื่อไรน่ะเรา ทุกคนต่างหันมามองตาเดียวกันที่เรา เพราะมัวแต่คิดเลยไม่รู้ว่ามาถึงคิวเราแนะนำตัวตั้งแต่เมื่อไหร่ เอาไงดีวะเนี่ย

    มะหมี่ เราชื่อมะหมี่ เรียนคณะวิทยาการคอมฯ ได้ผลคนอื่นๆ พากันแตกตื่นหมด ทั้งรดาและผู้หญิงอีกคนที่ว่าเราไว้ซะแหลกด้วย

    ไม่ใช่ นายคืออึนจูไม่ใช่เหรอ อึนจูอย่ามาอำกันเลย นั่นคือรดา

    ประสาทกลับแล้วสิ เสียงก็ออกผู้หญิงขนาดนั้น นายนั่นคงขยาดเธอมากกว่ารดา คนไม่จริงใจจะไปหลงอะไรมันนักหนาส่วนรายนี้ก็คือจอมจองล้างจองผลาญกะอึนจูแน่เลย กัดไม่เลิก

    คนนี้ไม่ใช่อึนจูหรอก คุณชอบคนภาษาอะไร ดูไม่ออกว่าเขาเป็นหญิงเป็นชาย นี่น่ะพี่สาวฝาแฝดของอึนจูมัน คนที่ไม่คาดคิดว่าจะออกโรงช่วยก็คือนายกฤช คงจะรำคาญหน้าปั้นยากของเราเต็มแก่

    ใช่ เราเป็นพี่สาวฝาแฝดของอึนจู อึนจูไปห้องน้ำน่ะ เดี๋ยวก็คงมา แล้วเราก็เลยหันไปตรงทางออก สบสายตาเข้ากับนายอิงค์ที่เอาแต่จ้องเราไม่รู้จบ คิ้วขมวดๆ เหมือนไม่พอใจอะไรอย่างหนัก

    ฮะ ฮ่าๆๆ พี่สาวฝาแฝดเหรอ ไม่ยักกะรู้ว่าอึนจูมีฝาแฝดด้วยนะเนี่ย อุ้ยหน้าตาหวานเหมือนกันเลย แต่พี่สาวก็เท่ห์ไม่หยอกเลยนะคะ คนตาถั่วทำเป็นกลบเกลื่อนเรื่องหน้าแตกของตัวเองแหละ จะบอกอะไรให้นะไอ้น้องคะแนนเธอตกต่ำไปเยอะในสายตาของพี่สาวอึนจูมันรู้ไว้ซะด้วย

    เธอล่ะ ชื่อไร ทีนี้เป็นทีเรา ผู้หญิงคนที่หาเรื่องเรา ต้องเก็บชื่อไว้ในบัญชีซะหน่อย

    นิล สั้นได้ความ

    หวัดดีครับ อ้าว มากันครบแล้วเหรอ? นั่นคือคำสุนทรพจน์ของน้องชายเดี๊ยนเองแหละค่ะ หลบโลกให้พี่สาวโดนทึ้งอยู่รายเดียว ฝากไว้ก่อนเถอะ กลับบ้านไปจะไล่เตะก้นขาวๆ ของมันให้ช้ำเลย

    เฮ้ย .. มีเวทีแย่งพี่สาวแกให้วุ่น แกหายไปไหนมานานวะ

    อ๊ะ ผมอึนจูครับ พี่สาวเค้ามาร่วมด้วยเพราะเรามีนัดกันต่อประสาครอบครัวน่ะครับ เห็นได้อ่ะนะว่าเรื่องการเอาตัวรอดก็พอๆ กันทั้งคู่

    กรี๊ด อึนจู เพิ่งเคยเห็นอึนจูใส่ชุดอื่นที่ไม่ใช่ชุดนักศึกษา หล่อจัง เกินไปหละยัยรดา เฮ้อ มิน่าล่ะ น้องชายเราถึงต้องการไม้กันหมาชนิดดีอย่างเรา

    เอาหละเริ่มลงมือกันกินได้แล้วว่ะ สัญญาณของการทำความรู้จักส่วนตัวของแต่ละคนในกลุ่มก็เกิดขึ้น เพื่อนๆ อึนจูก็ทำเนียนไปว่าเราเป็นเพื่อนของมันไปด้วยซะอย่างนั้น คนที่เตะตาเรามากๆ คงจะเป็นนายกฤช ดูเหมือนเจ้าตัวไม่ชอบงานนัดบอดนี้เลย แต่มาทำไมหว่า มาแล้วก็นั่งๆ เงียบจ้องคนอื่นไม่วางตา (มานั่งจ้องเรายังกับเราเป็นของแปลกที่สงวนไว้ไม่ให้สูญพันธ์) อีกรายหนึ่งก็คงเป็น นิล ที่จ้องจับผิดแต่นายอึนจู ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน เรื่องนิสัย น้องชายเราโดนสวนคืนแบบโหดๆ และคนสุดท้ายก็คงจะเป็นนายอิงค์ที่ไม่ยอมพูดจากะใครเขาก็ด้วย เอาแต่นั่งคิ้วขมวด นอกนั้นสาวๆ หนุ่มๆ ก็คุยกันอย่างครื้นเครง

     

    เราไปห้องน้ำก่อนนะ เวลาผ่านไปชั่วโมงกว่าๆ แล้ว เราชักจะเบื่อๆ แล้วเหมือนกัน เลยเดินเอื่อยๆ ออกไปห้องน้ำ รดาก็ทำท่าดี๊ด๊าใส่อึนจู แต่ก็มีนิลเป็นคนขัดตลอด อึนจูก็ทำหน้าเอือมๆ ไปแต่ก็ยังตอบคำถามอย่างสุภาพ อย่างนี้เราเลยชะแว๊บได้สักแป๊ปนึงแหละ พอออกมาจากห้องน้ำหญิง กวาดตามองไปเลยเจอเจ้าของแหวนหายนะยืนอยู่ตรงด้านหน้ามองมาเหมือนมีเรื่องจะกวนโอ๊ยเรา

    มีไร หน้าตานายไม่น่าจะคุยด้วยเลยรู้ป่ะ ไม่สุภาพนะที่มายืนแบบนี้

    ทำไมเธอใส่แหวนวงนั้นของเรา เฮ้ย ลืมสนิทว่าเรายังมีคดีที่ต้องทำให้คลี่คลายกะนายนี่

    เราเก็บได้ ไม่รู้ว่าเป็นของใครตั้งแต่แรกนี่ ปดไปงั้นแหละ จะไปบอกได้ไงเล่าว่าบ้าจี้ตามความฝันน่ะ

    แต่มันมีชื่อเราสลักอยู่ข้างใน เธอก็น่าจะเห็น

    ใช่ เราเพิ่งจะเห็น และเราก็ถอดมันไม่ออกด้วย จะให้เราตัดนิ้วเอาแหวนคืนให้นายรึไง?

    ไหน ถอดไม่ออกยังไง ไม่ใช่แค่คำพูดนะ นายนั่นจับมือเราไปดึงแหวนออกซะยกใหญ่

    โอ๊ย เจ็บนะโว้ย โวยคืนมั่งเพราะแหวนกำลังบีบกระดูกกับเนื้อนิ้วของเรา แถมแรงนายอิงค์ก็น้อยซะที่ไหน เมื่อยังไม่มีการเห็นแก่น้ำใจต่อไป เราก็เลยเอาหัวโขกเข้ากับหน้าผากที่ก้มลงมาของนายนั่นอย่างจัง

    โอ๊ย ร้องมันซะทั้งคู่นั่นแหละ แล้วถึงแยกออกจากกันได้ซะทีนึง

    ลูกหมี เธอทำบ้าอะไรของเธอน่ะ

    นายล่ะ เราบอกว่าเจ็บนายก็ยังจะบังคับถอดแหวนออกจากนิ้วเราอยู่ได้ ตั้งวงมวย คราวนี้นายอย่าแม้แต่จะคิดว่าจะได้เข้าใกล้มาดึงมือเราไปอีกนะนายอิงค์ ไม่เลี้ยงนายไว้แน่

    แต่เธอก็ไม่สมควรจะเอาแหวนคนอื่นไปใส่พร่ำเพรื่อนี่หน่า

    เรารู้อยู่หรอกน่ะ ได้บทเรียนแล้วยังจะมาซ้ำเติมกันอีกเหรอ ถ้านายอยากได้คืนเดี๋ยวเราซื้อใช้ให้ก็ได้ เอาวะให้มันสิ้นเรื่องกันไปซะที

    แหวนวงนั้นมีความรู้สึกและความหลังอยู่ ต่อให้เธอหามาใช้คืนได้เหมือนก็ไม่มีค่าเท่าอันนั้นหรอก เออว่ะ ทำเป็นละครน้ำเน่าจนได้นะนาย ไม่คิดถึงความจริงบ้างหล่ะว่ามันอยู่ในนิ้วเรา และเราก็ไม่มีปัญญาเอามันออก

    ไว้ให้เราถอดมันออกมาได้เมื่อไหร่ เราจะเอามาคืนนาย พอใจยัง

    เธอนี่จริงๆ เลย ยายลูกหมีเซ่อซ่าคงจะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่เจอพี่ศิที่เห็นนายนี่ยิ้มเป็นเรื่องเป็นราวขนาดนี้ หน้าตาก็ดูดีไม่ขาดแคลนความหล่อเลยนะเนี่ย

    เออ ขอบใจว่ะที่ชม

    โป๊ก .. คือมืออันหนาใหญ่ของมันจะสับลงตัวหัวเราพอดี

    เขาอนุรักษ์ความเป็นเพศให้ถูกตามกำเนิดมาอยู่นะ เธอก็อย่าทำให้มันเสื่อมเสียสิ

    อิ๊ว ... เราเป็นหญิงแท้แน่นอนย่ะ อย่ามาหาเรื่องตีกันนะ แล้วเราทั้งคู่ก็เดินกลับเข้ามาไปในร้านอีกครั้ง ดูเหมือนว่าทุกคนเตรียมตัวจะแยกกันไปแล้วด้วยซ้ำ อึนจูเดินตรงมาลาอิงค์ (เหมือนรู้จักกันนานเป็นปีเลยนะคู่นี้ ทั้งๆ ที่เพิ่งเคยเจอกัน ยังสงสัยอยู่นะเนี่ยเอาเวลาไหนไปคุยกันในเมื่อรดาคอยจ้องตะครุบเวลาของอึนจูทุกลมหายใจเข้าออก)

    ไปเหอะ หมี่ อึนจูเดินมาจูงมือเราออกไป เราเลยโบกมืออำลาไอ้พวกนัดบอด นอกจากอึนจู นายอิงค์แล้วเราคงไม่ต้องเจอใครอีกต่อไปแล้วแหละ จากไปด้วยภาพงามๆ แบบนี้แหละนะจ๊ะ

    หมี่ลำบากใจหรือเปล่าที่มาแบบนี้ เราไม่แปลกใจเลยแม้แต่น้อยที่ได้ยินคำถามนี้ อึนจูเป็นคนใส่ใจกับความรู้สึกของคนอื่นเสมอ คนที่ได้กำไรที่สุดเห็นจะเป็นเรา เพราะมีกันอยู่แค่สองคนที่ติดกันมาตลอด พ่อกับแม่วุ่นแต่การเดินทางข้ามประเทศ ทำงานไม่เป็นเวลา เราสองคนพี่น้องเลยชอบทำอะไรที่สนุกและป่วนๆ ด้วยกันเสมอ ทะเลาะชกต่อย ก็ร้องไห้ด้วยกัน เวลาที่ความสุขก็ฉลองให้กันและกัน เวลาที่ป่วยไข้ก็เฝ้ากันดูแลจนล้มป่วยมันซะทั้งคู่ ร้อนถึงพ่อกับแม่ที่ต้องคอยเฝ้าดูแล

    ไม่นี่ สนุกดีออก หมายความตามนั้นจริงๆ แม้ว่าจะเจอกับเจ้าของแหวนหายนะที่ทำให้กังวลจนเบลอไประยะหนึ่ง

    ผมได้ยินเรื่องที่รดาเข้าใจผิดคิดว่าหมี่เป็นผม ผมเลยไม่แน่ใจที่ชวนหมี่มาให้เจอกับสภาพแบบนี้น่ะ

    ฮ่าๆๆ อย่าห่วงเลยน่ะ มันอุบัติเหตุเองนะ อีกอย่างพี่สาวเธอก็ไม่ได้อ่อนหัดชนิดที่ต้องวิ่งหนีจากสถานการณ์อย่างนี้ซะหน่อย วางใจเถอะน่ะ ถ้ามันหนักใจเราเกิน เราจะบอกตรงๆ กับนายแน่นอนอึนจู แต่ก็ขอบใจที่ให้เรามาด้วยวันนี้ เพราะหลายสิ่งหลายอย่างคลี่คลายด้วยดี

    หมี่เป็นเพื่อนกับอิงค์เหรอ?แหน่ะ ได้ทีก็ไล่เช็คความสัมพันธ์ใหญ่เลยนะน้องชายเรา

    ใช่ เรียนคณะเดียวกัน กลุ่มรายงานกลุ่มเดียวกันน่ะ แต่ไม่ยักกะรู้จะได้มาเจอกันวันนี้ นายล่ะ รู้จักกับเด็กที่ชื่อนิลงั้นเหรอ?

    เพิ่งเจอกันวันนี้แหละ แต่เด็กอะไรไม่รู้ปากคมกว่ากรรไกรอีกแน่ะ ครั้งแรกนะเนี่ยที่จะได้ยินน้องชายวิพากษ์วิจารณ์คนอื่น

    อืม ผู้หญิงนี่ก็มีหลายแบบเนาะ …. มองไร นายอึนจู?

    หมี่พูดยังกับหมี่ไม่ใช่ผู้หญิงกับคนเขางั้นแหละ

    เฮ้ย ... นายนี่ เด๊ยะโดนของหนัก

     

     สรุปว่าวันนี้เราก็กอดคอกันไปดูหนังกันนะ อีตอนเข้าไปในโรงหนังน่ะก็หนุกดี แต่พอใกล้ๆ จบเรื่องปรากฏคนที่ง่วงจะหลับคาโรงหนังเนี่ยกลับเป็นเรา ส่วนอึนจูก็ซึ้งไปกับหนังแทบจะร้องไห้ออกมาซะอย่างนั้น เดือดร้อนคนเป็นพี่ต้องช่วยอารมณ์อินของน้องเป็นการด่วน ออกมาจากโรงหนังได้เราก็ไปเป็นเพื่อนน้องชายซื้อหนังสือในร้านหนังสือ พิสดารหน่อยนึงก็คือเจอพวกนายกฤชอยู่ที่นั่น หนึ่งในเพื่อนของกฤชขอเบอร์โทรเรา (ซึ่งแปลกที่มีคนขอเบอร์โทรเรา ... แต่นานๆ ทีจะมีเหยื่อมาให้ตะครุบเราก็เลยไม่ปล่อยไว้ให้เขี้ยวยากหรอก อิอิ) หลังจากนั้นพี่น้องฝาแฝดก็พากันไปอวดความเป็นแฝดตรงย่านสยาม หาอาหารเย็นกิน แล้วขึ้นรถไฟฟ้ากลับบ้าน ต่อกิจวัตรของวันนั้นด้วยการนอนอ่านหนังสือของใครของมันสักพักที่โซฟาแล้วต่างคนก็ต่างจะหลับจะนอนแต่มีสงคราม แย่งผ้าห่มกันให้วุ่นวาย ก่อนที่จะหลับสนิทในที่สุด (ครั้งนี้เราแพ้น้องชายเรานะ เค้าได้ผ้าห่มไป ¾ น่ะ ส่วนเราก็จำใจนอนมันทั้งอย่างนั้น)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×