ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ห้องเรียนผู้วิเศษและพรหนึ่งประการ

    ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ 8 : เพื่อนสนิทสมัยเด็ก

    • อัปเดตล่าสุด 11 ม.ค. 64



    ทั้งสองได้เห็นข้อความที่ถูกส่งมาก็ตกใจ---


    "อะไร!? มันพึ่งโดนปล่อยตัวเองนะ!"


    "มันเองก็เป็น 'ผู้ใช้พลังจิต' ชนิดเดียวกับฉันก็จริง แต่ไม่นึกว่าจะถึงขั้นทำลายตึกวิทยาศาสตร์เลยนะ!"


    "แล้วจะเอาไงต่อ!"


    สิทหันไปถามเอ็มด้วยความร้อนรน 

    เอ็มลุกขึ้นมา ก่อนจะตัดสินใจแบบไม่ยาก


    "นายเก่งด้านหาของกว่าฉัน นายไปเอาคำตอบอีกอันส่วนฉัน……………….."


    เอ็มเว้นประโยคและเดินไปยังทางออกโดยทิ้งสิทไว้


    "ขอไปชำละแค้นกับเพื่อนสมัยเด็ก…………"



    …..

    ….

    ..

    .

    .





    ภายใต้กองเพลิง แต่กลับมีแค่ความเงียบสงัด แม็กซ์ที่อยู่ด้านหน้าของเปลวเพลิงเหล่านั้นเมื่อมองตรงไปก็ยกยิ้มและหัวเราะขึ้น


    "ฮ่าๆๆๆ! รู้แล้วว่าต้องเป็นแกที่มา!"


    "เอ่อสิ! กูจะมา 'ฆ่า' มึงด้วยมือนี้!"


    ว่าไปหมัดซ้ายที่กำแน่นก็ถูกยกขึ้นมา แม้ทางข้างหน้าจะมีเปลวไฟที่ร้อนระอุ มีแต่ความเจ็บปวด เอ็มก็ได้วิ่งไปหาแม็กซ์ 

    ไฟฟ้าสีดำได้ถูกปล่อยออกมา---


    "มาทำให้วงเวียนความแค้นนี้มันสนุกขึ้นกันเถอะ!"


    เปรี้ยงงงงงงงงงงงงงงงง!!!


    ไฟฟ้าสีฟ้าและดำได้เข้าปะทะกัน ท้องฟ้ายังสะเทือน อากาศได้สั่นไหว พื้นดินได้แตกออก---



    ________________________________________


    ป.4 ผมเผลอไปช็อตครูโรงเรียนเก่าเข้า เพราะตอนนั้นควบคุมตัวเองไม่ได้หรืออะไร แล้วก็ทนคำด่าทอน สายตาที่มองเสมือนมีด และการโดนรังแกมาได้จนขึ้นป.5


    และผมก็ถูกย้ายโรงเรียนอีกที หวังว่าครั้งนี้จะอยู่ได้อย่างสงบสุขนะ

    เมื่อมาวันแรก ไม่เหมือนที่คิด มีคนเอาข่าวลือเสียๆ หายๆ เกี่ยวกับผมทาปล่อยที่นี่


    "ผมเด็กชาย 'อนัยศันท์ ภักดี' ชื่อเล่นว่า 'เอ็ม' ครับ"


    นั่นไง เงียบกริบ มีคนแบบนินทาเรื่องเราด้วยขนาดต่อหน้านะเนี่ย…

    แล้วครูก็บอกให้ผมไปนั่งที่ที่ต้องการได้เลย และในขณะนั้นเองผมก็ได้เจอ….


    เด็กผู้หญิงที่ผมบรรยายไม่ออกเลย ทั้งหัวในตอนนั้นมีแต่คำว่า 'น่ารัก' สำหรับเธอตอนนี้ สายตาเธอตอนนั้นเจิดจ้าเสมือนดวงอาทิตย์ หัวใจผมสั่นระรัวขึ้น


    และผมก็ตัดสินใจนั่งโต๊ะที่อยู่ข้างๆ เธอ…แล้วมันก็บังเอิญกับที่ผมได้เจอ…


    "สวัสดีเด็กใหม่~!"


    มันชื่อว่า 'แม็กซ์' มันดูบ้าๆ มาก แต่ก็เป็นไม่กี่คนที่เข้ามาทักผมเอง และไม่สนเรื่องข่าวลือบ้าๆ

    ผมและแม็กซ์สนิทกันมาก พวกเราทำอะไรด้วยกันตลอดในตอนนั้น ไม่ว่าจะถูกหรือผิดมันก็จะอยู่ข้างๆ ผมตลอด


    แม็กซ์มันเป็นคนมีเพื่อนเยอะ และการที่ผมได้เป็นเพื่อนสนิทมันเท่ากับผมเองก็มีโอกาสที่จะรู้จักเพื่อนมันไปอีก โชคดีจริงๆ


    และวันหนึ่ง หลังจากเพื่อนในห้องได้บอกชอบคนที่เขาชอบ ซึ่งมันเป็นคนที่ทุกคนชอบล้อพวกมันมาตลอดแบบโต้งๆ ในห้อง...ซึ่งคนส่วนใหญ่ยินดีและโล่งใจซะที ที่จะไม่ต้องล้อให้พวกมันคบกันซะที...ดูเหมือนจะชอบกันซะด้วย


    แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องหลัก….

    ผมผิดเองในตอนนั้นที่……………


    "เอ่อแม็กซ์…."


    "อะไรไอ้เอ็มเพิลรัก?"


    "เอ็งชอบใครมั้ยวะ? ตูจะได้พอช่วยเองได้"


    มันเงียบสักพัก ผมในตอนนั้นกะจะหัวเราะกลบเกลื่อน แต่มันยิ้มออกมาแล้วมองไปทาง 'นิรันท์' ….ผู้หญิงที่ผมเจอตอนแรก และหน้าแดงขึ้น………………….


    ตอนนั้นเองความสิ้นหวัง 'จริงๆ' ได้มาเยือน ไม่ได้รู้สึกแบบนี้นานแล้วแฮะ…….

    อะไรนะ? แม็กซ์ชอบนิรันท์?????????????

    แต่คิดดีๆ...มันก็เหมาะนะ…

    ผมที่ไม่มีอะไรดี..

    กับแม็กซ์ที่มีทุกอย่าง…


    เฮอะ คงจะรู้ว่านิรันท์เลือกใคร…

    ไม่สิ! แม็กซ์อาจจะไม่มองนิรันท์ก็ได้! ใช่!

    ผมเริ่มกลับมามีความหวังอีกครั้ง แต่มันก็แค่การหลอกตัวเองก็เถอะ

    และคำพูดต่อมา...มันทำลายผมจริงๆ


    "เพิลรัก...กู...ชอบนะ---"


    "นะ……….?"



    อย่า!อย่า!อย่า!อย่า!

    ผมอ้อนวอนทุกสิ่งศักดิ์สิทธิ์เลยในตอนนั้น อย่า ขอร้องเถอะ

    มันคงจะอายเลยมาพูดใกล้ๆ หูผม……….


    " นิรันท์…..กูชอบนิรันท์ ชอบ ชอบมานานแล้ว ชอบสุดๆ "


    ".............."


    ผมได้แต่สับสน เงียบ ไร้คำพูด…………..

    ตอนเย็นผมเป็นเวรทำความสะอาดวันนี้ เฮ้อ………

    การกวาดห้องโดยที่สายตาและหัวใจว่างเปล่า ขอเถอะ…


    "ขอโดดตึกตายดีกว่าาาาาาาาาาาาาาา!!!"


    "ยะ---อย่านะะะะะะะะะะะะะะะะ!!"


    ผมกะจะปลอบตัวเองโดยการแกล้งจะโดดตึกจากชั้น 3 แต่ก็ไม่โดดจริงหรอก แล้วก็มีเสียงตอบกลับมา...ไรวะ?


    "รู้ว่าต้องทำเวรคนเดียว แต่อย่าโดดตึกเลยนะ!"


    แล้วเจ้าของเสียงก็วิ่งเข้ามากอด(รัด)ตัวผม


    "นิรันท์!?"


    "เราไม่อยากเห็นคนที่ 'แอบชอบ' ตายน่ะ!"


    นิรันท์! นิรันท์กอดตัวเราอยู่! โอ๊ยยยยยยยยยยย ตายได้แล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย พ่อครับแม่ครับขอบคุณที่ทำให้ผมเกิดมาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!...ว่าแต่ 'แอบชอบ?'


    แล้วหลังจากนั้นทั้งผมและเธอก็นั่งคุยกันใต้แสงสีส้มจากพระอาทิตย์ยามเย็น


    "สรุป...นิรันท์ชอบผม?"


    "อายอ่ะ"


    โอ๊ยยยยยยยย น่ารักโว้ยยยยยย แม้เอามืดปิดหน้าตอนอายก็น่ารักกกกกกกกกกกกกก


    "ใช่...ตั้งแต่เห็นเอ็มหัวใจเราก็เต้นตุบๆ หน้าแดงขึ้นจนไม่กล้าแม้แต่จะคุย พอเราไปถามอาการแบบนี้กับพี่ก็ได้รู้ว่า 'เราชอบเอ็ม' น่ะ"


    ขอบคุณพระบิดาและมารดาอีกครั้งขอรับที่ให้ช้างน้อยคนนี้ได้เกิดมา….


    "อืมมมมม แล้วเธอคิดยังไงกับ 'แม็กซ์' ล่ะ?"


    "กะ---ก็แค่เพื่อนที่ 'ไว้ใจ' ได้น่ะ"


    ทำไมนะ ทั้งรู้สึกดี และผิดขนาดนี้………….

    นิรันท์เอียงตัวมาทางผมจบจะทับกัน

    สายตาที่เธอมองมามันสะท้อนตัวผม น่ารักสุดๆ


    "เป็นเรา………...ไม่ได้เหรอ?"


    น้ำเสียงที่แผ่วเบาและเล็กน่ารัก เธอเอียงคอนิดหน่อย ริมฝีปากสีชมพูอ่อนอันเล็กน้อยของเธอ...น่ารัก


    "อะ---อืม! ได้สิ…."


    แล้วเราก็ตกลงคบหากัน...โดยเก็บไว้เป็น 'ความลับ' จากทุกคน….ใช่ทุกคน….



    ________________________________________








    ________________________________________



    โย่ววววววววว ผมแม็กซ์รูปหล่อพ่อรวย อยู่ๆ ไอ้เพิลรัก 'เอ็ม' มันก็ถามผมว่า 'เอ็งชอบใครมั้ยวะ? ตูจะได้พอช่วยเองได้?' สุดยอดเลยไอ้เพิลรัก! เอ็งต้องช่วยให้ตูคบกับนิรันท์ได้แน่!


    เห็นว่าวันนี้เวรเพื่อนมันตายx่ากันหมด(โดด) ผมที่เป็นเพื่อนสนิทมันหลังจากซ้อมบอลเสร็จก็เลยจะไปช่วยมันสักหน่อย


    ระหว่างทางผมเห็น...นิรันท์? ทำท่าด้อมๆ มองๆ ในห้องเราอยู่ คงอยากจะไปช่วยเพิลเอ็มสินะ! ทั้งน่ารักทั้งใจดี สมแล้วที่เป็นนิรันท์! 

    ผมได้ตัดสินใจแอบมองเหมือนกัน...เอาความจริงก็ได้แค่ผมอยากมองนิรันท์เอง เพิลรักตูขอโทษนะ


    อยู่ๆ ไอ้เอ็มมันก็ตะโกนออกมาว่า 


    "ขอโดดตึกตายดีกว่าาาาาาาาาาาาาาา!!!"


    เฮ้ยยยยยยยยย!! แค่ทำเวรคนเดียวเองคิดสั้นซะล่ะ!

    แต่ที่ทำให้ผมอึ้งคือนิรันท์เธอเองตะโกนออกมา


    "ยะ---อย่านะะะะะะะะะะะะะะะะ!!"


    ไม่พอแค่นั้น ทำไม ทำไมกันนะ? แล้วเธอก็เข้าไปกอด(รัด)ตัวเอ็ม...แล้วบอก…


    "เราไม่อยากเห็นคนที่ 'แอบชอบ' ตายน่ะ!"


    แอบชอบ.. คำๆ นั้นวนเวียนอยู่ในหัวหลายร้อยครั้ง เจ็บ เจ็บสุดๆ เลย…..

    ผมแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยซ้ำ แต่ก็ต้องเงียบไว้ 

    ผมเอาตัวที่แทบไม่มีแรงพิงกำแพงไว้และยังทนฟังต่อ


    สรุปนิรันท์...เธอชอบเอ็ม ชอบมากๆ เลยด้วย…

    ใช่! เอ็ม! นายบอกจะช่วยเราสินะ! ปฎิเสธเธอไปแล้วทำเหมือนเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นสิ!

    ความหวังของผมไม่ได้อยู่ที่ตัวเองหรือนิรันท์ แต่เป็นเอ็ม


    นิรันท์เอียงตัวเข้าไปใกล้เอ็มจนแทบจะทับกัน แล้วพูดออกมา…


    "เป็นเรา………...ไม่ได้เหรอ?"


    หัวใจได้แตกสลาย สายลมที่พัดพายมาเป็น 'สายลมแห่งความสิ้นหวัง' โดยแท้จริง ผมริเริ่มร้องไห้ออกมาอย่างช้าๆ……………..

    เอ็ม……………..เหลือแค่นาย…


    "อะ---อืม! ได้สิ…."


    …………………………………………………………..

    ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………


    นั่นแหละ ทั้งสองตกลงลองคบหากันโดยปิดไว้เป็น 'ความลับ' ต่อทุกคน...ใช่ทุกคน………...




    ________________________________________




    ฝนได้เริ่มตกลง เสียงฟ้าผ่าได้ดังสนั่นไปทั่ว เปลวไฟยังลุกโชน แต่ถึงกระนั้นกลับไม่มีใครหรือรถดับเพลิงมาซักคัน


    เอ็มได้ล้มลง สติค่อยๆ ดับลง…

    ระดับไฟฟ้ามันต่างกันเกินไป ทั้งพลังและทักษะเอ็มเทียบไม่ติด เลย……….


    "มีดีแค่นี้จะฆ่ากู? ไปตายแล้วหวังไปเกิดใหม่ซะเถอะ!"


    "ไอ้……..แ ม็…..ซ์……กู ขอ…….โ…..ษ"


    "หา? ไม่ได้ยินว่ะอะไรนะ? ชั่งเถอะคำพูดของแมลงมันไร้ความหมายอยู่แล้ว"


    ไฟฟ้าสีดำถูกปล่อยออกมาอีกครั้ง---



    …..

    ….

    ..

    .

    .




    สิท ระหว่างที่หา 'คำตอบ' อยู่แรงกดดันกลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะระหว่างการเดาหา 'กระจก' ที่มีคำตอบอยู่นั้นเองสิทเองก็ได้ยินเสียงเหมือนฟ้าผ่าเรื่อยๆ


    แม้ฝนจะไม่ได้ตกก็เถอะ….


    "เรื่องแล้วไง คำตอบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ------------อ่ะ…"


    เปรี้ยงงงงงงงงงงงงง!!


    ระหว่างที่เกิดฟ้าผ่าอีกครั้งนึง สิทนึกถึงคำพูดของพ่อที่เคยสอนเขาได้---



    ---"เวลาคนเราจะ 'หาที่ตาย' สมองจะคิดได้แค่สถานที่ที่ทำให้เราคิดว่า 'อยากตาย' แหละ"



    "ขอบคุณมากพ่อ!!"


    สิทคิดได้ดังปาฏิหาริย์ในตอนที่สิ้นหวังก่อนจะวิ่งไปยัง 'ห้องฝึกด้านวิชาการ' ถ้าเป็นที่นั่นล่ะก็!


    เมื่อมาถึง แน่นอนที่นี่มันยิ่งกว่าหลังละครเวทีซะอีก ความเงียบที่ดูวังเวง ความมือที่มีแค่ทางที่ไฟฉายส่องไปเท่านั้นที่จะมองเห็น เสียงลมที่วนเวียนไปทั่วห้อง...เดี๋ยวลม?


    "นี่มันห้องฝึกทักษะด้านคณิต...ถูกปิดทุกด้านไม่มีหน้าต่าง….มีลมได้ไงวะ?"


    สิทมองไปทางซ้ายทีขวาทีก่อน จะเห็นกระจกที่มุมห้อง---

    เมื่อเข้าไปใกล้ กระจกบานใหญ่เท่าตัวมันสะท้อนภาพตัวสิทและทุกอย่างข้างหลัง...ใช้ข้างหลัง


    ภาพเงาของคนๆ นึงกำลังนั่งกิดเข่า---

    สิทหันหลังและส่องไฟฉายไปตรงนั้นทันใด แต่กลับไม่มีอะไร….

    โล่งใจและหันกลับมาก็พบกับเงาเด็กคนเดิมที่ยืนสะท้อนแทนตัวเขาอยู่---


    "เxี้ย!!!"


    "หยาบคาย…."


    เพล้ง! สิทต่อยกระจกจนแตกกระจายออกทันที…

    พอรู้ตัดอีกทีมือข้างซ้ายก็เต็มไปด้วยเลือด


    "อ๊ากกกกกกกก เจ็บบบบบบบบ"


    "ต่อยกระจกจนแตกใครจะไม่เจ็บล่ะ...บาดทะยักกินแน่…"


    เงาของเด็กสาวที่อยู่ในเหล่ากระจกที่แตกออกได้เข้าไปลูบหัวเงาของสิทที่สะท้อนในกระจก---


    "เอ๊ะ? เกิดอะไรขึ้น?"


    เมื่อสิทตั้งสติได้ เขากลับมาเป็นเหมือนเดิม...ใช่เขาไม่ได้ต่อยกระจก ไม่มีเลือด ไม่มีรอยอะไรบนกระจกซักนิด


    "ความสามารถของเธอสินะ?"


    "ใช่…."


    เงาที่สะท้อนอยู่พยักหัวตอบรับ

    สิทรับรู้ได้แล้วว่าเงาที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดี จึงใจเย็นลง


    "แล้วใช่รุ่นพี่ที่ฆ่าตัวตายใช่ไหมครับ?"


    "อื้อ~! เราเองตอนนี้ทั้งเจ็บแล้วทรมานแป๊บเดียวก็โล่งหมดเลย!~~~~"


    เงาของหญิงสาวได้ยืดตัวขึ้นด้วยความดีใจเหมือนกับเด็ก


    "เสียงโหยหวนนั่นด้วยสินะ?"


    "อื้อ! คนที่ไม่มี 'สัมผัสที่หก' จะได้ยินเสียงเราคล้ายๆ กับเสียงร้องน่ะ!"


    เห~ สิทร้องด้วยความน่าสนใจก่อนที่เงาสีดำจะหายไป และเด็ก? อายุประมาณ 11-12 ปีในชุดเดรสสีขาวยาวโผล่ออกมา


    "เห็นว่ารุ่นพี่แต่ไม่นึกว่าจะเด็กขนาดนี้แฮะ"


    สิทยิ้มก่อนจะมองไปยังรอบๆ ตัวเธอที่อยู่ในกระจก

    เมื่อเห็นอย่างนั้นเธอก็รู้สึกอายขึ้นมาที่มีคนมามองตัวเอง แบบชัดๆ ไม่เคยมีแบบนี้มาหลายปีแล้ว


    "ไม่ใช่หรอก แต่เดิมฉันก็อายุ 16 ปี แต่เมื่อตายไป 'บุญ' ที่ฉันสะสมมาตลอดก็ส่งผล และ 'บุญ' ที่ได้รับมาตอนเป็นวิญญาณก็ช่วยทำให้ฉันทำอะไรได้หลายๆ อย่างน่ะ แต่เพราะมีห่วงเลยไปเกิดไม่ได้น่ะ เลยต้องมาช่วยครูวิซสอนนักเรียนน่ะ"


    เห….สิทร้องด้วยความสนใจอีกครั้งก่อนจะบรรจงถามอะไรหลายๆ อยากจากเธอไป แล้วเธอก็ตอบมาทั้งหมด สรุปได้ว่า…


    เธอมีชื่อว่า 'ธิดา' เธอเป็นคนที่ชอบ 'ทำบุญ' และ 'ทำความดี' มาก จนวันหนึ่งพ่อและแม่ของเธอก็ประสบอุบัติเหตุพร้อมกัน มีแค่ธิดาคนเดียวที่รอด เวลาต่อมาเธอก็ถูกส่งไปอยู่กับญาติ แต่ก็อยู่ได้ไม่นาน เพราะมีปัญหาเพราะญาติที่เป็นผู้ชายพร้อมลูกของเขา ของเธอกระทำชำเราเธอมากมาย รวมทั้งเรื่องที่โรงเรียนที่เป็นการแข่งขันวิชาการด้วย เรื่องแฟนยิ่งเข้าไปอีก ทำให้เธอตัดสินใจคิดสั้นหน้ากระจก แต่ก่อนหน้านั้นเธอได้ทิ้งปริศนาบางอย่างไว้ แต่ก็ไม่มีใครแก้ได้ ไม่สิ 'ไม่คิดจะหา' มากกว่า ตัวเธอที่ยังมีห่วงอยู่นั้นไม่สามารถไปเกิดใหม่ได้ เธอได้แต่นั่งรอ…… คนวันหนึ่งมีชายส่วมหน้ากากแปลกๆ ถือกระดาษ 3 แผ่นที่มีแต่ตัวเลขมา--- สายตาเธอดูมีความหวังขึ้น


    สิทได้ฟังเรื่องราวแบบกระชั้นชิดก็เช็ดน้ำตาแล้วพูดออกมา


    "ฮึก น่าเศร้ามากเลยครับ ขอโทษที่ด่าพี่นะครับ…"


    "ไม่ขนาดนั้นหรอก เราแหละมากนี่คงจะมาหา 'คำตอบ' สินะ?"


    ธิดาเข้าประเด็นหลักเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ

    สิทยกยิ้มขึ้น ก่อนจะลุกขึ้นตามแล้วเก็บ 'น้ำตาปลอม' 


    "ของปลอมหรอกเหรอ!"


    "ก็พยายามร้องจริงๆ แล้วน้ำตามันไม่ออกหนิ"


    สิททำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ก่อนธิดาจะถ่อนหายใจอย่างเอือมระอา

    แล้วสิทก็หัวเราะดังขึ้น


    "เอาล่ะ ป่านนี้เพื่อนผมตายแล้วล่ะ...คงต้องรีบแล้วแหละ"


    โห้… ธิดาร้องอย่างตื่นเต้นก่อนจะพูดต่อ


    "แล้วจะไขปริศนายังไงล่ะ? คำตอบอยู่ไหน?"


    "ง่ายๆ"


    สิทหยักไหล่เบาๆ ด้วยความมั่นใจที่เต็มเปี่ยมก่อนจะหมุนตัว---ปลายเท้าถูกยกขึ้นทำให้ธิดาต้องหนีออกจากเงาที่สะท้อนออกจากกระจก

    รองเท้าได้กระแทกไปในกระจกเต็มๆ จนแตกกระจายอีกครั้ง ก่อนที่จดหมายสีดำจะร่วงหล่นลงมา


    สิทหยิบจดหมายก่อนจะนำมันเก็บลงไปในกระเป๋า


    "รุ่นพี่วันหลังผมจะมาให้สอนการบ้านนะ!"


    "ยะ---อย่าอยู่ๆ ก็ทำผิดกฎอย่างเตะกระจกสิยะะะะะะะะ!!"


    "ฮ่าๆๆๆๆๆๆ ไม่ขอโทษหรอก…!!"


    สิทวิ่งออกมาพร้อมเสียงหัวเราะและรอยยิ้ม

    และเมื่อออกมาฝนได้ตกลง เปลวไฟได้ส่องสว่างขึ้นสิ่งเปลี่ยนสีหน้าและวิ่งตรงไป















    --จบ--


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×