ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ห้องเรียนผู้วิเศษและพรหนึ่งประการ

    ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่ 10 : ประธานนักเรียนและสรุปร้านจะเปิดหรือปิด!?

    • อัปเดตล่าสุด 11 ม.ค. 64



    วันๆ หนึ่งที่โรงเรียนไทย-ญี่ปุ่นศักดิ์ดาวิทยาคม

    โรงเรียนที่สุดแสนจะธรรมดา...ในแสงสว่าง

    แต่ในเงานั่นรับสอนและเป็นแหล่งรวม 'ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ' 

    ฝึกสอน...เพื่อให้ใช้ชีวิตในสังคม 

    เรียนรู้...เพื่อรู้จักโลก 

    มอบคติ..เพื่อรับในสิ่งที่ตนมี


    นาย 'เอกสิทธิ์ ราชสิงห์ทองคำ' หรือ 'สิท' วันนี้ก็เข้าสู่สัปดาห์ที่ 3 หลังจากเปิดเทอม

    ชีวิตมัธยมต้นปี 3 ที่แสนจะธรรมดาได้ดำเนินต่อไป


    ---ม.3 ห้อง2 (3/2)

    คาบนี้เป็นวิชาวัฒนธรรมญี่ปุ่น---ใช่ โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนไทย-ญี่ปุ่น ที่รวมสองวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน ด้วยความที่ว่ามีไม่กี่โรงเรียนที่เป็นแบบนี้ นี่ก็เพื่อนำความเป็นไทยไปสู่ญี่ปุ่นในอนาคต 

    20% ของนักเรียนเป็นชาวญี่ปุ่น และแน่นอนอีกฝั่งที่ญี่ปุ่นก็เป็นแบบเดียวกัน


    วิชาวัฒนธรรมญี่ปุ่นมีครูผู้สอนชื่อว่า 'ครูฟิว' เป็นหนึ่งในตำนานโรงเรียนนี้ก็ว่าได้

    ด้วยความที่ 'ไม่รับส่งงานย้อนหลัง' แม้จะเป็นครูผู้ชายแต่ก็มีวินัยสุดๆ ทำให้มีหลายคนติดร. กับวิชาเขามาก


    และวันนี้เองจะได้พิสูนจ์ตนเพราะว่า!?


    "ชิบหายล่ะ...ลืมทำการบ้านวิชาครูฟิว"


    เขาพูดออกมาอย่างหน้าซีดและเปิดสมุดที่ขาวสะอาด (โจทย์มึงก็ไม่จด?)


    หลังจากนั่งขอโจทย์ผ่านแชทกลุ่มและทำโดยใช้เวลา 10 นาทีเสร็จ สิทก็ขึ้นไปบนตึกม.3---


    เมื่อสิทแอบอยู่หน้าห้อง หัวใจได้เต้นระรัวก่อนจะได้ยินเสียง---


    "สมชายไม่ทำการบ้านสินะ? ไปล้างห้องน้ำ!"


    เสียงที่เด็ดขาดทำให้นายสมชาย(ใครวะ?)น้ำตาซึมและวิ่งออกไปยังห้องน้ำของตึก 

    สิทหน้าซีดขึ้นไปอีก ไม่เอาไม่ล้างห้องน้ำด้วยหรอก!


    "ว่าแต่ 'เอกสิทธิ์' ยังไม่มาอีกเหรอ?"


    ครูฟิวถามไปยังคนในห้อง

    สิทได้หวังแต่ให้เพื่อนในห้องที่เขาไม่ได้เป็นเพื่อนด้วย ช่วยเขาให้รอดจากสถานการนี้โดยบอกว่า 'วันนี้มันลาครับ'


    "มันบอกในแชทเดี๋ยวมาครับขอทำการบ้านครูก่อน"


    "โห? ชักอยากจะเห็นแล้วสิ"


    ไอ้เวรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร…!!!

    สิทร้องในใจ ก็นะ สิทไม่มีเพื่อนในห้องนี้เลยหนิ? คงต้องหาเพื่อนหน่อยแล้ว เพื่ออนาคตที่สดใสของตัวเอง


    สิทคุกเข่าลงและจับหัวด้วยความคิด 'อยากโดดตึกโว้ยยยยยยยยย' แล้วบิดตัวด้วยสีหน้าอยากจะร้องไห้


    ก่อนจะตัดสินใจได้และเดินเข้าไปแบบตรงๆ--!!

    ครูฟิวเองก็ยักคิ้วข้างหนึ่งด้วยความประหลาดและสนใจ


    "โฮ่โฮ…? ไม่คิดจะหนีแต่กลับเข้ามาตรงๆ งั้นรึ?"


    "ถ้าไม่เข้าไปก็ส่งงานครูไม่ได้น่ะสิ!!"


    สิทเดินเข้าไปเรื่อยๆ ด้วยความมั่นใจ พร้อมกับเสียงจากคนทั้งห้องที่ตะโกนออกมา


    """จะหน้าด้านไปส่งอีกเรอะ!!!!!??!!?????"""


    บรรยากาศเริ่มอคดอัดขึ้น หลายๆ คนเริ่มจริงจังกับความปัญญาอ่อนของสองครูศิษย์

    ก่อนที่สิทจะหยิบสมุดออกมาและส่งไปข้างหน้า!?


    "ขอส่งงา---"


    " 'MUDA! (เปล่าประโยชน์!)' ช้าเกินไปแล้ว!! จงรับหน้าที่เวร---"


    ทั้งสองต่างขัดคำพูดของกันและกัน สิทแสยะยิ้มขึ้นมาทำให้ครูฟิวหยุดลง


    ทำไมถึงยังยิ้มอยู่ได้!? แต่ก็ชั่งยังไงเราก็ชนะ!

    ความคิดอันตื้นเขินทำให้ครูฟิวตัดสินใจจะพูดต่อแต่สิทไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือไป


    "ถ้าอย่างนั้นผมจะบอกครูเมฆว่าครูฟิวแอบซ่อน---"


    "จ๊ากกกกกกกก!!? รับ!รับแล้ว!!!"


    ซ่อนเงินไว้---นั่นคือคำพูดที่สิทกำลังจะเอ่ยจนจบแต่ครูฟิว ไม่สิ ฟิวก็ได้ยินแพ้ทันที

    ฟิวและครูเมฆเป็นแฟนกัน...สิทเองก็ไม่รู้อะไรมากเขาได้ยินมาจากเอ็มต่อ แล้วฟิวตอนว่างๆ ชอบแอบหยิบสมาร์ทโฟนมาเล่นเกม แต่นั่นก็เป็นเหตุบังเอิญที่สิทไปเห็นเข้า เลยลองเดาว่าฟิวอาจจะแอบซ่อนเงินไว้เติมเกม


    'แต่ก็ไม่นึกว่าจะแอบจริงๆ แฮะ...'


    หลังจากรับงาน ถึงจะงงๆ แต่สิทได้รับการยกย่องว่าเป็นคนที่สามที่สามารถ 'ทำ' ให้ครูฟิวรับงานได้..?!

    และเป็นหนึ่งในตำนานเล่าต่อๆ กันมา… 'ชายคนแรกในประวัติศาสตร์โรงเรียนที่สามารถทำให้ครูวัฒนธรรมสุดโหดยอมแพ้ได้'


    …..

    ….

    ..

    .

    .


    สิท… หลังจากนั้นเพื่อนๆ ในห้องก็ต่างเข้ามาหา สำหรับคนที่อยู่เงียบๆ มาโรงเรียนจะพูดก็แค่ตอนที่ครูถาม หรือตอนงานกลุ่มก็ไม่พูดอะไรพอสั่งสิทก็ทำแบบไม่พูดไม่คุย สิททำแบบนั้นมาตลอด 2 ปี ที่ไม่มีใครเข้ามาคุยเพราะถึงเข้ามาสิทก็สน...ในสายตาคนอื่นน่ะนะที่จริงมันหลับ 


    แต่ครั้งนี้ทำให้มีคนเข้ามาหาเขาและน่าจะเป็นครั้งที่สองที่สิทคุยอย่างสนิทสนมกับเพื่อนร่วมชั้นแบบนี้


    เวลา 12:30 หลังจากการกินข้าวร้านเจ๊จิบอันเลื่องชื่อเสร็จ 

    สิทไปซื้อขนมกินเล่นและไปนั่งใต้ต้นไม้ข้างๆ ตึกม.2 

    ถึงจะบอกข้างๆ แต่ก็อยู่ข้างหลังอยู่แหละจึงไม่ค่อยมีคนมานั่งมากนัก ที่สิทมาเจอที่นี่ได้คงเพราะ 'โชค' แหละ


    สายลมเบาๆ ที่พัดผ่าน เสียงใบไม้ที่ขยับและเสียงคนตะโกนโหวกเหวกตามภาษาโรงเรียนทั่วไป 

    สิทหยิบเฮดโฟนขึ้นมาจากในกระเป๋าก่อนจะเชื่อมและใส่มันลง


    " ได้แต่มองและบอกไปว่าไม่มีอะไร~...."


    การฮัมเพลงที่กำลังฟังเบาๆ อย่างมีความสุข ทำให้สิทเผยใบหน้าที่ยิ้มแย้มออกมา

    ในตอนนั้นเขาไม่สนอะไรทั้งสิ้น ถึงแม้โลกจะแตกเขาก็อาจจะไม่รู้ตัวสักนิดเลยก็ได้


    เมื่อเพลงจบลง...สิทลืมตาขึ้นพร้อมกับเห็นผู้หญิงที่นั่งตรงข้ามที่กำลังนั่งฟังอย่างใจจดใจจ่อ

    สิททำท่าทางครุ่นคิดสักพักก่อนจะ


    "เธอ...รู้สึกจะชื่อวันสินะ!"


    "วินย่ะ!"


    เพี๊ยะะะะะะะะ!! พัดทำเล่นจากฟิวเจอร์บอร์ดที่วินทำเล่นๆ ตอนเห็นของเหลือจากทำงานกลุ่มเมื่อคาบเช้าได้ฟาดไปที่หัวสิทเต็มๆ


    สิทโดนไปเช่นนั้นแต่ก็ตาเป็นประกาย ก่อนจะยกนิ้วโป้งไปให้


    "ตบมุขได้สวย"


    "สวยบ้าอะไร! เชื่อเขาเลย!"


    วินงอนแก้มป่องและหันไปอีกทางด้วยท่าทางที่อารมณ์เสีย

    สิทเกาหัวด้วยอาการสำนึกผิดและขอโทษไป แล้ววินก็ให้อภัยเพราะรู้ว่าสิทก็แค่อยากจะเล่นเฉยๆ ไม่ได้จำไม่ได้จริง...รึจำไม่ได้จริงๆ กันนะ?


    "แล้วคุณรุ่นพี่มาทำอะไรเหรอครับ?"


    "ฮิๆ แค่มาฟังคนร้องเพลงน่ะ ว่าแต่นายฟังเพลงแนวเศร้าๆ นะไม่เหมาะกับตัวนายเลย"


    สิท...หรี่ตาลง พรางนึกเรื่องในวันนั้น...วันที่แม่ของตนออกจากบ้านไป ถึงแม้ตัวเองจะรั้งไว้เพียงใดแต่เธอก็ไม่สนและไม่หันกลับมา…


    "แม่ครับ! อย่าไปนะ!"


    "แม่คะ!?"


    " 'เรน' จะไปจริงๆ สินะ…. "


    ไม่นานก็มีผู้ชายคนนึงที่ลงมาจากรถสปอร์ตที่จอดรอหน้าบ้าน เขาได้โอบกอดไหล่ของ 'เรน' ไว้ ก่อนทั้งสองจะเดินออกไปพร้อมพูดทิ้งท้าย---


    "อืม...ขอโทษนะ สิงห์...ฉันเจอคนที่เหมาะแล้วล่ะ"


    "จะโกรธแค้น...จงแค้นตัวพวกแกซะ...ที่เกิดมา 'ไร้ทุกสิ่งทุกอย่าง' "


    ตามคำขอ นัยน์ตาที่แฝงไปด้วยความเศร้าได้แปรเปลี่ยนไปเป็น 'ความแค้น' 

    จากนั้นร่างกายของเฟียร์ก็อ่อนแอลง…


    สิทถ่อนหายใจออกมา---

    เพลงแนวเศร้าๆ ไม่เหมาะกับตัวเราจริงๆ นั่นแหละ...ควรเลิกดีมั้ยนะ?


    "เอาน่า...ผมไม่ค่อยชอบการเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่ ก็เลยฟังแต่เพลงพวกนี้แหละ"


    "เอ๋~~~ฟังแต่เพลงเดิมๆ ซ้ำๆ ไปซ้ำๆ มาสินะ!?!"


    สิทหยักหน้าตอบรับ วินดูท่าทางตกใจสุดๆ

    หลังจากนั้นก็มีผู้หญิงคนนึงเดินมาหา


    "วิน...เกิดเรื่องแล้วล่ะ มีนักเรียนม.5 คนนึงไปเรียกร้องให้จัดเวรทำความสะอาดห้องน้ำใหม่น่ะ เขาบอกจะคุยกับ 'ประธานนักเรียน' อ่ะ"


    เมื่อได้ยินวินพยักหน้าก่อนจะลุกขึ้น เธอหันไปทางสิทก่อนจะเอ่ย "ไว้เจอกันนะพอดีมีงานเข้า" 

    แต่ไม่ทันไปสิทได้จับมือวินไว้ก่อน…

    วินหน้าแดงขึ้นก่อนจะดึงมือออก หัวใจเธอเริ่มเต้นรัวขึ้น


    เป็นครั้งแรกที่ตานี่จับตัวเราสินะ...จับมือ...ทำไมมันดู...ตื่นเต้นจัง

    เธอคิดเช่นนั้น ผู้หญิงที่เดินมาหาได้เอามือปิดปากพรางร้อง อุ๊ปส์~ ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มเสมือนได้เห็นฉากซีนพระเอกและนางเอกจับมือแล้วอาย เธอสิ่งเสียงเชียร์ดังๆ ในใจก่อนจะเดินออกไปจะได้ไม่เป็นกขค.


    "มะ---มือะไร"


    น้ำเสียงที่ดูประหม่าเป็นเครื่องบ่งบอกให้รู้ว่าเธอเขินอายจริงๆ กับการรุก?ของสิทเมื่อกี้


    "เขาบอก 'ประธานนักเรียน' เธอจะไปทำไม?"


    สิ้นเสียง...ความเขินอายถูกแปรเปลี่ยนไปด้วยรอยยิ้ม

    เธอหยิบปลอกแขนที่มีสัญลักษณ์ 'จันทราที่ลอยขึ้นสู่ฟ้า' และใส่ในแขนซ้ายที่ลงมาจากไหล่นิดหน่อย

    วินเธอยึดปลอกแขนไว้แน่นก่อนจะพูดออกมาด้วยความมั่นใจ


    "ฉัน 'พันธิตร บุญนิษา' หรือ 'วิน' ประธานนักเรียนที่ชนะด้วยคะแนนโหวต 65% ของโรงเรียนเมื่อตอนม.3 และยังรับหน้าต่อไปก่อนจะมีการเลือกตั้งประธานนักเรียนครั้งใหม่"


    …..

    ….

    ..

    .

    .


    "ฮ่าๆๆๆๆ! ไม่น่าเชื่อเลยว่าเอ็งจะไม่รู้จักวินน่ะ"


    "ตอนเห็นเรียกตัวเองว่าเป็นประธานนักเรียนตูนี่เหว๋อสุดๆ"


    เอ็มกำลังหัวเราะจนท้องแข็งข้างๆ โต๊ะของสิท

    ผ่านมาจนถึงตอนเย็นแล้ววันนี้ก็เหมือนวันปกติทั่วๆ ไปที่ต้องมาเข้าเรียนที่ 'ห้องจักรพรรดิ' หรืออีกชื่อ 'ห้องเฉพาะผู้อยู่เหนือธรรมชาติ' เป็นห้องเรียนที่รวมเหล่าคนที่...เอ่อ หลายประเภทน่ะนะ


    และห้องเรียนนี้ก็ทำให้สิทรู้ถึงการมีตัวตนของ 'สิ่งเหนือธรรมชาติ' อย่างถ่องแท้ ถึงแม้สิทจะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งกับพวก 'ผี' แต่เมื่อเจอ 'กระสือ' จริงๆ แล้วมันก็ทำให้เชื่อขึ้นมาทันที 

    ไม่พอยังต้องเจอกับ 'ผู้ใช้พลังจิต' ที่สามารถปล่อยไฟฟ้าได้อีก 

    และยังคาดว่ามีคนที่สามารถ 'ทำให้คนธรรมดากลายเป็นผู้อยู่เหนือธรรมชาติ' ได้อีก สิทเอาเรื่องนี้ไปบอกกับนัทและครูวิซแล้ว พวกเขาจึงนำเรื่องนี้ไปต่อกับทางผู้ใหญ่และวันนี้ผลที่ได้ก็จะออกมาอย่างชัดเจนตามที่ครูวิซบอกเมื่อวาน


    ว่าไปชายผู้ส่วมหน้ากากแปลกๆ ก็เข้ามา---

    แต่วันนี้ดูแปลกไปหน่อย แต่เดิมส่วมแค่หน้ากากหน้ายิ้มสีขาวราคาสิบยี่สิบบาทเฉยๆ กับชุดที่ดูเหมือนภารโรงสีฟ้าๆ 

    แต่วันนี้เป็นถ้ากากหนังสีน้ำตาลที่ถูกถักและเย็บด้วยด้ายสีเขียวสว่างที่สามารถส่องสว่างได้ในยามมืดมิด ชุดที่เป็นชุดหนังและถุงมือสีน้ำตาล

    ทั้งชุดก็มีรอยเย็บไปด้วยด้ายสีเขียวสว่างเช่นเดียวกันจนไปทั่ว


    "ฮะโฮะๆๆๆ! มาเข้าเรียนกันเลยครับ!"


    """.........."""


    ครูวิซนั่นเอง ในชุดใหม่ที่หลอนกว่าเดิม ไปเดินในโรงเรียนแล้วมีคนไปเห็นเข้าคงได้มีตำนานใหม่แน่ๆ


    "อะอ่าว? ทำไมเงียบอย่างนั้นกันล่ะครับ!?"


    """เฮ้ยยยยยยยไม่รู้จริงดิ!!!"""


    การตอบอย่างพร้อมเพรียง ทำให้ครูวิซหันหลังและทำท่าทางเขินอายเสมือนสาวม.ปลายที่คนรักสังเกตตนที่เปลี่ยนแปลงไปได้


    "ไม่ต้องมาอายเลย!"


    "โฮะๆๆๆ นั่นแหละๆ คุณริวนี่ชั่งสังเกตจริงนะครับ"


    """เฮ้ยยยยยยยยยยย เรียกเล่นชื่อด้วยยยยยยยยย"""


    เสียงที่ออกมาอย่างพร้อมเพรียงยกเว้นสิทในครั้งนี้ได้ออกมาอีกครั้ง สิทได้แต่เอียงคอสงสัย


    "ทำไมวะเอ็ม?"


    "ครูวิซเคยบอกว่า 'การเรียกด้วยชื่อจริงเป็นการให้เกียรติศิษย์' น่ะ แต่ครั้งนี้เขาเรียกเอ็งด้องชื่อเล่น…"


    เอ็มตอบกับพรางเหงื่อไหลออกมา

    หลังจากนั้นครูวิซก็เหล่าเรื่องทั้งหมด---

    หลังจากเขาเอาเรื่องที่สิทบอก 'คนที่คาดว่ามีคนที่สามารถ ทำให้คนธรรมดากลายเป็นผู้อยู่เหนือธรรมชาติ ได้' กับพวกผู้ใหญ่ พวกเขาได้ตัดสินใจอย่างยากลำบากก่อนจะได้คือ 'ให้ปรับหลักสูตรใหม่' เพื่อเตรียมพร้อมกับผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อ คนที่สามารถ ทำให้คนธรรมดากลายเป็นผู้อยู่เหนือธรรมชาติได้ ยังไม่รู้ตัวและจับตัวไม่ได้ยังเที่ยวให้พลังพิเศษคนอื่นไปทั่ว ผลกระทบมันอยู่เหนือจินตนาการของทุกๆ คนด้วยซ้ำ


    แต่ไอ้เปลี่ยนเครื่องแบบเนี่ย… แบบเดิมก็น่ากลัวแล้วนะอันใหม่น่ากลัวกว่าอีก


    "ก็อย่างที่ว่าแหละ อาจจะมีการปฏิบัติจริงมากขึ้นแต่รับรองได้เลยทั้งหมดก็เพื่อตัวพวกคุณและยังแน่นอนว่าที่คุณต้องเรียนเพราะเหตุผลเดิม 'สามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้' ผมจะไม่เอาพวกคุณไปเจออันตรายเด็ดขาด!"


    หลังจากนั้นทุกๆ คนก็รับและตกลงกัน

    มีแค่สิทที่ยังคิดกับคำว่า 'ผมจะไม่เอาพวกคุณไปเจออันตรายเด็ดขาด'...? แปลว่า 'อาจจะไปเจออันตรายได้' และ 'มีคนจะเอาพวกเราไปเจออันตราย' สินะ?

    ถึงจะคิดมากไป แต่ตอนนี้สิทก็ตอบตกลงไปก่อน


    และวันนี้เป็น 'วิชาสายพันธุ์เหนือธรรมชาติ(ตัวตนที่ถูกปิด)' 

    เป็นวิชาที่จะอธิบายถึงสายพันธุ์ต่างๆ ที่อยู่เหนือธรรมชาติ เช่น วิญญาณ สัตว์มายา ปีศาจ ทวยเทพ 

    ครูวิซจะอธิบายถึงจุดเด่นจุดด้อยต่างๆ ของแต่ละสายพันธ์ุที่ไม่น่ามีตัวตนจริงๆ อย่าง 'ลิง' ในตำนานต่างๆ อย่างใน 'รามเกียรติ์' หรือ 'ไซอิ๋ว' ก็มีลิงในตำนานสุดแข็งแกร่งที่สามารถ 'ป่วนสวรรค์' หรือ 'ต่อยฟ้าดินถล่มทลาย' จนได้สองฉายาสุดแกร่ง


    'ทหารเอกของพระราม'


    'ฉีเทียนต้าเซิ่น (ผู้ยิ่งใหญ่เสมอฟ้าดิน)'


    …..

    ….

    ..

    .

    .


    หลังจากการสอนจบลง อย่างน้อยเรียนกับครูวิซก็ไม่ต้องจดหรือสั่งการบ้านนะ ครูวิซดูเหมือนจะดูนักเรียนทุกคนและปรับการสอนของตัวเองให้เข้าใจง่ายขึ้น


    แต่เดิมคนเราเมื่อได้เรียนอะไรที่ 'ไม่เคยเจอ' สมองคนเราจะตีความว่า 'ไม่น่าเบื่อ' และจดจำได้ดีกว่า

    ครูวิซใช้ส่วนนี้พร้อมกันคำว่า 'เหนือธรรมชาติ' จึงทำนักเรียนสามารถจดจำได้มากกว่าปกติ


    "น่าจะได้เวลาเลิกเรียนแล้ว กลับบ้านอย่างปลอดภัยนะครับ ใครที่แอบหนีพ่อแม่มาก็ใช้ทริคที่ผมสอนไปนะ โฮะๆๆๆ"


    เสียงหัวเราะกวนประสาทดังลั่น เมื่อประกาศเลิกเรียนแล้วแต่ละคนก็เดินออกจากห้องไปทีละกลุ่ม จนเหลือแค่ สิท เอ็ม ริว และชายอีกคนนึง


    "เอ็ม? เอ็งไม่กลับเรอะ?"


    สิทลุกขึ้นจากโต๊ะพร้อมที่จะกลับบ้าน แต่เมื่อเห็นเอ็มยังนั่งอยู่ที่เดิมจึงถาม


    "เอ่อๆ เอ็งกลับไปเถอะ ตูจะรอริวมันก่อน"


    "หืม?"


    สิทเปร่งเสียงเชิงสงสัยออกมา ก่อนจะมองไปที่ริว สาวแว่นประจำห้องเรียน

    เธอกำลังนั่งอ่านบางอย่าง แบบใจจดใจจ่ออยู่


    "อ่านหนังสือแฟนตาซีอีกล่ะ?"


    "......."


    ไร้เสียงตอบรับ เธอยังคงตั้งใจอ่านจนไม่ได้ยินเสียงของสิท


    "ริวเธอชอบอ่านหนังสือพวกนี้แหละ บางครั้งเธออ่านจนคนออกจากห้องหมดแล้วค่อยรู้ตัวเองด้วยซ้ำ"


    "นั่นสิๆ แล้วต้องเป็นเอ็มกับตูนี่แหละที่ต้องกลับมาโรงเรียนเพื่อมารับตัวเนี่ย ยัยนี่ขี้กลัวสุดๆ"


    จู่ๆ ก็มีชายอีกคนมาแทรกการสนทนาของเอ็มกับสิท---

    สิทเอียงคอสงสัย แล้วทำหน้าประมาณจะถามว่า "เอ็งเป็นใคร"


    "ตู 'นิว' เฟ้ยยยย วันก่อนเราก็คุยกันเนี่ย!??"


    "อ๋อ~นิวนี่เอง…"


    "นั่นสิๆ นิวสินะ"


    สิทและเอ็มทุบมือเสมือนพึ่งนึกออก

    เจ้าตัวที่โดนเล่นแบบนี้ก็เอาพัดทำเล่นจากฟิวเจอร์บอร์ดไปฟาดหัวสองตัวนั่นดัง เพี๊ยะ!


    "ทำไมเดี๋ยวนี้คนตบมุขมันเยอะจังฟะ?!"


    "นั่นสิๆ คนตบมุขในนิยายนี้มันหน้าที่ตูเฟ้ยยยยย"


    "....สิท...เอ็ม ตูงงคำพูดพวกเอ็งว่ะ"


    นิว---ม.4/2 เป็นหนึ่งในคนของห้องพิเศษ ในห้องปกติไม่ได้เป็นเพื่อนกับทุกๆ คนแต่ยังพอรู้จักกับใครบางคนอยู่ ปัจจุบันสนิทกับเอ็มสุดๆ


    "อืม...ไหนๆ ก็ไหนๆ ล่ะมาทำความรู้จักใหม่กันมะ?"


    "นั่นสิๆ ไหนๆ สิทมันก็ลืมเอ็งไปล่ะ นิวทำความรู้จักใหม่กับมันโลด!"


    "เฮ้อ...ก็ได้ๆ เซ้าซี้จัง"


    นิวถ่อยหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะพูดต่อ---


    "ฉัน 'คณิน ศิลปกาล' หรือ 'นิว' ม.4/2 ห้องเดียวกับเอ็ม 'ผู้ใช้อำนาจศักดิ์' "


    " 'ผู้ใช้อำนาจศักดิ์' ? "


    สิทเอียงคออีกครั้งด้วยความสงสัยก่อนเอ็มจะตอบ


    "เอ็งก็เคยได้ยินหนิ? ตัวตนที่อยู่เหนือธรรมชาติมีมากมาย โดยทั้งหมดนั้นจะถูกจัดแบ่งประเภทใหญ่ๆ 3 ประเภท 1.'ตัวตนที่ถูกปิด' 2.ผู้ใช้พลังจิต' 3.'ผู้ใช้อำนาจศักดิ์' "


    สิทพยักหน้าเป็นคำตอบว่ารู้ ก่อนนิวจะเอ่ยต่อ


    "มันก็คล้ายๆ กับ 'ผู้ใช้พลังจิต' แหละ...'ผู้ใช้อำนาจศักดิ์' จะสร้างพลังออกมาในร่างกายและปล่อยออกมาจากภายนอก แต่จะมีข้องแตกต่างกันที่ 'ผู้ใช้พลังจิต' จะใช้พลังได้จากการคำนวณของสมอง แต่ 'ผู้ใช้อำนาจศักดิ์' จะใช้พลังได้จาก 'การฝึกฝน' หรือ 'การกระทำ' น่ะ เมื่อผ่านมาได้แล้วผู้ใช้พลังประเภทตูไม่จำเป็นต้องคำนวณแต่จะใช้พลังได้เลยเหมือนการหายใจน่ะ"


    สิ้นเสียง สิทเอามือลูบคางพรางสงสัย


    "ครูวิซเคยบอกอยู่ 'ผู้ใช้อำนาจศักดิ์จะมีพลังขึ้นอยู่กับ 'ผลบุญ' และ 'ผลบาป' ' หนิ?"


    นิวพยักหน้าตอบว่าใช่


    " 'บุญ' และ 'บาป' สำหรับ 'ผู้ใช้อำนาจศักดิ์' แล้ว สำคัญมากๆ พลังจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหรือจะลดลงวูบวาบก็ขึ้นอยู่กับส่วนนี้แหละ"


    สรุปคือ 'ผู้ใช้อำนาจศักดิ์' คือผู้ใช้พลังพิเศษเช่นเดียวกับ 'ผู้ใช้พลังจิต' แต่ไม่จำเป็นต้องใช้สมองในการใช้พลังอย่างเดียว สามารถใช้ได้เสมือนกายหายใจ แล้วแต่การฝึกฝนของผู้ใช้ ส่วนผล 'บุญ' และ 'บาป' ผู้ใช้อำนาจศักดิ์จะใช้พลังได้แข็งแกร่งแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับส่วนนี้ด้วย


    เมื่อผลบุญมากขึ้น พลังทุกอย่างจะเพิ่มขึ้น บรมีที่สะสมมาจะช่วยตัวเรา ไม่ว่าจะเป็น

    'ยามทีชีวิต' หรือ 'ยามไร้ชีวิต'

    'ยามรู้ตัว' หรือ 'ยามไม่รู้ตัว'

    'เมื่อตื่น' หรือ 'เมื่อหลับ' 

    ตามคำสอนต่างๆ ที่ว่า 'ยิ่งบุญเยอะเมื่อตายไปก็จะได้ขึ้นสวรรค์' ที่จริงคำว่า 'สวรรค์' อาจจะแปลว่า 'ตัวเราที่เป็นอยู่' ก็ได้?



    เมื่อผลบาปมากขึ้น พลังจะลดลง ยกเว้น 'ผล

    บาป' มีมากเกินมันจะกลับกัน บาป จะเป็นเครื่องที่ช่วยในการเพิ่มพลังได้อย่างมหาศาล แต่ มันก็เป็นแค่ของชั่วคราว ไม่ทันใดมันก็จะหายไป

    ตามคำสอนต่างๆ ที่ว่า 'ยิ่งบาปเยอะเมื่อตายไปก็จะได้ลงนรก' ที่จริงคำว่า 'นรก' อาจจะแปลว่า 'ตัวเราที่เป็นอยู่' ก็ได้?


    "แล้วปกติการจะได้ 'บุญ' ของเอ็งต้องทำยังไงบ้างล่ะ?"


    สิทถามไปทางนิวด้วยความสงสัย

    นิวยิ้มอ่อนๆ ก่อนจะนั่งลงบนโต๊ะของเอ็มแล้วมองไปยังเพดานก่อนจะพูด…


    " 'ทำความดี' ล่ะมั้ง? ตูมันก็ไม่ค่อยเข้าวัดเข้าวาซะด้วย ตูอยู่ๆ ไปก็ใช้ 'อำนาจศักดิ์' ที่มีพลังมากมายในการช่วยคนอื่นแหละ"


    "อืมๆ อำนาจศักดิ์ของนิวมันโกงมากๆ โกงขนาดจะประกาศก่อสงครามก็ได้ด้วยซ้ำ ว่าแต่เอ็งได้บาปแน่ถ้ายังไม่ลงจากโต๊ะตู"


    "หืม? แล้ว 'อำนาจศักดิ์' ของเอ็งคืออะไรล่ะ?"


    อำนาจศักดิ์ตามที่ครูวิซบอกจะไม่เหมือนกับพลังจิตนอกจากตรงที่ 'วิธีการใช้' กับ 'ไม่สนโลกโดยถ่องแท้' นั่นเองก็ทำให้สิทสงสัย

    นิวลงมาจากโต๊ะของเอ็ม ก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้สิท---


    " 'เสริมพลัง' การเสริมพลังทั้งร่างกาย รวดเร็วยิ่งกว่าลม พลังยิ่งกว่าวายุ ความคงทนยิ่งกว่าปฐพี พลังของตูในตอนนี้สามารถทำลายเมืองทั้งเมืองทิ้งได้สบายๆ~"


    รอยยิ้มที่ดูเหมือนปีศาจถูกปล่อยออกมา

    นั่นเองถึงกับทำให้สิทเหงื่อตก---

    เอ็มกุมขมับอย่างเอือมระอาแล้วพูดเบาๆ "มันโม้อีกแล้ว"

    และจังหวะนั้นเองไฟในห้องก็ได้ถูกปิดลง


    "ฉันกลับล่ะ? เอ่อ ครูวิซบอกใครออกจากห้องคนสุดท้ายทำความสะอาดด้วยวันนี้เขาไม่ว่าง"


    ริวที่ยืนมือมาปิดไฟในขณะที่เธอออกจากห้องไปแล้ว

    ทั้งสามหนุ่มเมื่อได้ยินว่า 'ใครออกจากห้องคนสุดท้ายทำความสะอาดห้องด้วย' ทั้งสามค้างสักพักก่อนสิทจะออกตัววิ่งก่อน


    "ต้องไม่ใช่กูแน่ๆ!!"


    เอ็มรีบไปจับคอเสื้อสิทและดึงกลับมา โดยใช้แรงเหวี่ยง


    "เอ่อ มึงแหละกูไม่ทำ!!"


    นิวจับขาเอ็มและใช้พลังนิดๆ หน่อยๆ จนยกตัวเอ็มและโยนไปด้านหลัง


    "ไม่ๆ พวกมึงแหละต้องทำเพราะตูหิวข้าวจะไปกินเนื้อย่างล่ะ!!"


    จังหวะนั้นเองสิทวิ่งและทิ้งตัวสไลด์ตัวเองก่อนจะเตะขานิวจนล้ม


    "เนื้อย่างส้นxีนดิดึกล่ะป่านนี้ปิดไปแล้วมั้งเนี่ย!"


    "หน๋อยยยยยย!! ร้านประจำตูไม่ปิดหรอก!"


    "เรื่องของเอ็งตูจะแดรกบิงซู!!"


    "ก็บอกแล้วป่านนี้ปิดไปแล้วไงฟะะะะะะะะ!!"


    "ไม่ปิดเฟ้ยยยยยย ร้านประจำตูเขาเปิด 24 ชั่วโมง!"


    "นั่นใช่ร้านเดียวกับตูมะ!?"


    "โอ๊ยยยยยยยยย!!! ปวดหัวกับพวกมึงจริงๆ!!!"


    และแล้วทั้งสามก็ทะเลาะกันจนเช้า...เรื่องร้านเปิดหรือปิด

    จนสุดท้ายครูวิซกลับมาก็เห็นห้องเละและให้ทั้งสามทำความสะอาดโดยที่ริวกลับบ้านไปตั้งนานแล้ว



    --จบ--


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×