ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เจ้าหญิงเรนัส

    ลำดับตอนที่ #1 : หญิงอาภัพ

    • อัปเดตล่าสุด 16 มิ.ย. 50


    วิภา  ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งกำลังนอนฝันหวานถึงชีวิตที่แสนสุขสบายซึ่งตรงข้ามกับความเป็นจริงของชีวิตเธอโดยสิ้นเชิง ในความฝันที่เธอกลายเป็นเจ้าหญิงที่ประชาชนเคารพรัก ทุกคนมองเธอด้วยความชื่นชมพร้อมกับตะโกนเรีย"เจ้าหญิง ๆ" ด้วยความสรรเสริญ วิภาอยู่ในชุดที่สวยหรูยิ้มพร้อมกับโบกมือให้ประชาชนของเธอ ชีวิตที่แสนสุขในฝันของเธอต้องจบลงพร้อมกับรุ่งอรุณของเช้าวันใหม่  และสัญญาณเตือนก็คือเสียงนาฬิกาปลุกของเธอนั่นเอง  หลังจากถูกปลุกขึ้นจากความสุขก็ถึงเวลาที่ต้องประเชิญกับความโหดร้ายของโลกใบนี้  วิภาแต่งตัวออกจาบ้านหลังเก่าๆที่ใกล้พังเต็มที่  ในบ้านหลังนั้นมีคนที่สำคัญในชีวิตเธอมากมาย  ทั้งพ่อ  แม่  พี่สาว  หลานชาย  และพี่เขย  ทุกอย่างดูเหมือนดีในเมื่อที่บ้านมีแต่ความรักและความอบอุ่น  แต่รายได้ของบ้านกลับสวนทางกับสมาชิกอันมากมายของครอบครัวซะเหลือเกิน พี่สาวของวิภาเป็นเพียงพนักงานขายธรรมดาๆของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง  พี่เขยก็เป็นเพียงช่างไฟของบริษัทเอกชน  พ่อกับแม่ของวิภาก็เลิกทำงานตั้งแต่วิภาเรียนจบ  ส่วนวิภาเป็นพนักงานบัญชีที่เพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่นานหลังจากจบการศึกษา 
            หลังจากเดินออกจาบ้านมาถึงหน้าปากซอยวิภาก็อดไม่ได้ที่จะต้องเหลือบมองเข้าไปในบ้านหลังใหญ่บริเวณปากซอย  ในบ้านหลังนั้นวิภาเห็นชายหนุ่มรูปงามกำลังก้าวเท้าขึ้นรถคันหรูเพื่อออกไปทำงานนอกบ้าน  ชายหนุ่มคนนี้คือเมอร์แลน เป็นทายาทคนเดียวของตระกูลเศรษฐีตระกูลหนึ่ง  วิภาเจอร์เขาครั้งแรกตั้งแตสมัยที่ยังเรียนอยู่ ม.ปลาย ในสายตาของวิภา  เมอร์แลนเป็นดุจเทพบุตร เป็นเจ้าชาย เป็นเทวดา หรืออะไรก็ตามเท่าที่วิภาจะคิดออก  หลังจากนั้นทุกครั้งที่เดินผ่านวิภามักจะอดเหลือบมองไม่ได้  มันแทบจะกลายเป็นการกระทำที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเธอไปแล้ว 
              หมดเวลาเชยชมเทพบุตร วิภาเดินทางมาทำงานที่บริษัทของตนเอง  ชีวิตที่เป็นมนุษย์เงินเดือนก็ไม่ใช่ทุกตำแหน่งหรอกที่จะได้รับเงินเดือนอันคุ้มค่า  สำหรับวิภาเงินเดือนในแต่ละเดือนไม่ส่มารถทำให้เธอกับครอบครัวมีชีวิตที่สุขสบายได้เลย เมื่อนึกถึงสร้อยทองซึ่งเป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายของแม่ที่ขายไปเมื่เดือนก่อนเพื่อใช้เป็นค่าเทอมของหลายชายวัย4ขวบ วิภาก็อดคิดไม่ได้ว่าคงจะดีกว่านี้ถ้าเธอสามารถทำให้ครอบครัวมีชีวิตที่สุขสบายได้  วิภามองชีวิตอันวุ่นวายรอบข้างแล้วถอนหายใจด้วยความอนาถในชีวิตก่อนจะก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเองเป็นการยอมรับชะตากรรมที่ไม้อาจหลีกเลี่ยงได้

    กริ๊งๆ  เสียงเรียกเข้าพื้นฐานในโทรศัพท์มือถือของวิภา ดังขึ้นเพื่อเตือนถึงการมีสายเข้า  วิภามองซายมองขวา เพื่อให้แน่ในว่าหัวหน้าแผนกของเธอไม่ได้อยู่แถวนี้ก่อนจะกดรับสายที่โทรมาจาก ที่บ้าน

                ฮัล โหลวิภากรอกเสียงลง โทรศัพท์

                วิหรอลูก วิกลับมาลา งานมาครึ่งวันได้ไหม ครูประจำชั้นของตานัดโทรมาบอกว่าตานัดอาการกำเริบอีกแล้ว ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล แม่โทรหายัยเวกับตากฤษแล้ว แต่สองคนนั้นลางานไม่ได้ วิกลับมาดูหลานหน่อยนะลูก แม่ของวิภาโทรมาบอกถึงอาการโรค หัวใจของเวนัสหลายชายคนเดียวของบ้านที่มักจะมีอาการกำเริบขึ้นมาบ่อยๆ ซึ่งมันก็ ทำให้วิภาร้อนใจไม่น้อย  หลายครั้งที่หมอเคยแนะนำให้ พาเวนัสไปผ่าตัด แต่ก็ติดอยู่ที่ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดที่สูงลิบ ลิ้ว 

                ค่ะ เดี๋ยววิจะไป เดี๋ยวนี้แหละค่ะวิภารับปากแม่ก่อนจะวางสายโดยไม่ได้คิด เลยว่าหัวหน้าจะอนุญาตรึปล่าวเธอคว้ากระเป๋าถือของตัวเองและลุกขึ้นจากโต๊ะทำงาน ทันที

                นี่ๆ วิภาเธอจะไปไหน น่ะเสียงนฤนาทหัวหน้าแผนกฝ่ายบัญชีที่เดินผ่านมาพอดีร้อง ทักขึ้นในขณะที่วิภากำลังลุกจากโต๊ะทำงาน

             พี่นาทค่ะ วันนี้วิขอลาหยุดวันนึงนะ หลานวิไม่สบาย ตอนนี้อยู่โรง พยาบาล วิขอกลับไปดูหลานหน่อยนะค่ะพี่นาท วิภา วิงวอน

             เอาเถอะๆ คราวนี้พี่จะให้ลาไปก่อน แต่คราวหน้าไม่ได้แล้วนะ บริษัทมี บัญชีที่ต้องทำเยอะแยะ ถ้าลาหยุดบ่อยๆ การเงินบริษัทก็ล่มกันหมดพอ ดี

             ขอบคุณค่ะด้วยความเป็นห่วงหลานทำให้วิภาแทบจะ เหาะออกจากบริษัทเลยทีเดียว ด้วยความเร่งรีบ วิภาเดินข้ามถนนโดยไม่ทันได้มอง ซ้ายมองขวาให้ดีก่อน รถยนต์หรูคันหนึ่งแล่นตรงมายังวิภาด้วยความเร็ว คนขับ เหยียบแบรกกระทันหัน รถหยุดก่อนที่จะชนวิภาไม่เกิน 1 เซนติเมตร ทำให้เธอไม่ได้ รับบาทเจ็บ แต่ด้วยความตกใจทำให้วิภาสะดุดขาตัวเองล้มลง คนขับรถลงมาจากรถแล้ว ช่วยประคองวิภาลุกขึ้น คนๆนั้นก็คือเอเมอร์ เจ้าชายรูปงานที่วิภาแอบปลื้มอยู่ นั่นเอง

             เป็นอะไรมากไหมครับ บาทเจ็บตรงไหนรึปล่าว เอ เมอร์ถามวิภาด้วยความสุภาพในขณะที่ผู้หญิงอีกคนลงมาจากรถด้วยท่าทางไม่พอ ใจ

             หัดดูตาม้าตาเรือซะบ้างสิ อยากตายนักรึไง หล่อน เริ่มโวยวาย

             เชอร์รี่! อย่าพูดอย่างนี้สิครับ คุณเองไม่ใช่หรอ ที่บอกให้ผมขับรถเร็วๆเพราะกลัวจะไปถึงร้านอาหารช้า เอ เมอร์ปราม

             แต่มอสค่ะ คุณก็เห็นว่าผู้หญิงคนนี้เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ เอง

             เชอร์รี่! ผมบอกให้พอไง ถ้าคุณยังไม่หยุดพูด จาหยาบคายคราวหน้าผมคงจะไปทานข้าวที่ไหนกลับคุณไม่ได้อีก เอเมอร์ส่งสายตาไม่พอใจไปที่เชอร์รี่จนเธอต้องหยุด พูด

             ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แฟนคุณพูดถูก ฉันกำลังรีบเลยไม่ทันได้ดูว่ามีรถมา ขอ โทษด้วยนะค่ะ

             เอ่อคือไม่ใช่นะครับคือเราไม่ได้เป็น.... เอ เมอร์กำลังจะอธิบายต่อว่าเขากับเชอร์รี่ไม่ได้เป็นแฟนกัน แต่วิภากลับเดินหนีไป ซะแล้ว เธอรีบขึ้นแท็กซี่คันที่ใกล้ที่สุดไปโรงพยาบาล ระหว่างทางก็อดคินไม่ได้ ว่าภาพที่เธอเจอบ่งบอกได้อย่างเดียวว่าเจ้าชายที่เธอใฝ่ฝัน บัดนี้กลับมีเจ้า หญิงที่เพียบพร้อมเคียงข้างซะแล้ว

             ที่โรงพยาบาลวิภามีโอกาสได้คุย กับหมอที่รักษาอาการของเวนิสหลานชาย

             ผมว่าคุณควรจะรีบพาเขาไปผ่าตัดได้แล้วนะครับ ยิ่งปล่อยไว้นานโอกาสรอดก็ ยิ่งมีน้อยหมอกล่าวแนะนำกับ วิภา

             ค่ะ แล้วฉันจะพยายามนะค่ะวิภาเองก็อยากพาหลานไป ผ่าตัดให้เร็วที่สุดเหมือนกัน แต่ก็ติดเรื่องค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดที่มากมาย เกินกว่าที่เธอจะหามาให้หลานชายได้ ครั้น จะไปกู้เงินมาผ่าตัด หนี้สินที่เคยกู้ ยืมมารัษาตัวเวนิสที่มีมากมายของเดิมก็ยังใช้ไม่หมด วิภาทอดสายตามองหลานชายที่ นอนหลับอยู่บนเตียงคนไข้และอดเสียใจไม่ได้ถ้าหากจะต้องสูญเสียหลานชายคนนี้ไป เว นิสเป็นแก้วตาดวงใจของคนทั้งบ้าน จะมีทางไหนบ้างไหมที่เธอจะช่วยชีวิตดวงใจของ ครอบครัวดวงนี้ไว้ได้ วิภายินดีจะแลกกับทุกสิ่งทุกอย่างในของเธอเพื่อหลานชาย ทุกอย่างแม้แต่ชีวิตของเธอเอง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×