NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic kage no jitsuryokusha ni naritakute] จักรพรรดิแห่งเงาผู้มาพร้อมกับพลังผลปีศาจ

    ลำดับตอนที่ #12 : ค่ำคืนแห่งความผิดบาป

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 412
      21
      6 มิ.ย. 66

     

    หลังจากที่ซิดได้ส่งของให้กับเชอร์รี่เสร็จสิ้นที่หรือก็แค่รอให้เธอคนนี้แก้รหัสอาติแฟกต์ได้เพียงเท่านั้น…

     

     

    ตัวของเขาได้มองไปรอบๆก็เห็นว่า ชาโดว์การ์เดนและแกรมม่ายืนแสตนบายรอคำสั่งของเขาเพียงเท่านั้น ส่วนด้านนอกกองอัศวินฝั่งนั้นก็เตรียมตัวบุกเข้ามาเท่าที่จะทำได้แล้วเช่นเดียวกัน

     

     

    "ทำได้แล้วล่ะค่ะ" เชอร์รี่ได้พูดขึ้นมาเพราะในตอนนี้อาติแฟกต์ที่เธอรหัสได้สมบูรณ์แล้วล่ะ

     

     

    "สุดยอดเลยเนอะ" ซิดได้เห็นก็อดที่จะชมไม่ได้เลย เพราะเขาเองก็ไม่มีความรู้เรื่องนี้เลยสักติดเดียวเลยเนี่ยสิ

     

     

    "ค่ะ ทำสำเร็จแล้วล่ะค่ะ" เชอร์รี่ได้ยกมันขึ้นมาเพื่อที่จะใช้ในแผนการจัดการดวงตาแห่งความละโมบอีก "ทีนี้เราก็จะสามารถควบคุมนัยต์ตาแห่งความละโมบที่คอยผนึกพลังเวทย์ได้แล้วค่ะ" 

     

     

    "แล้วทางลับที่ว่าล่ะ" ซิดได้ถามออกไปว่าทางลับที่ว่าคือที่ไหนอย่างนั้นเหรอ

     

     

    "อ๊ะ ค่ะถ้าตามที่ท่านพ่อบอกมา…" พอเชอร์รี่ได้ยินแบบนั้นก็เดินไปที่หน้าชั้นเก็บหนังสือและหยิบหนังสือเล่มนึงที่อยู่ตรงเกือบกลางริมขวายกออกมาและได้ปรากฎว่ามีทางลับได้เปิดออกเผยให้เห็นถึงทางลับอย่างที่ว่ามาด้วย

     

     

    "โอ้โฮ" ซิดเห็นก็รู้สึกขึ้นมาในใจว่า เอาเรื่องเลยนะเนี่ย กลไกแบบนี้เนี่ย

     

     

     "เท่านี้ก็ไปช่วยท่านพ่อได้แล้วค่ะ หวังว่าคุณพ่อจะไม่เป็นอะไรนะ" ในระหว่างที่เชอร์รี่กำลังจะเดินไปนั้นเธอก็ได้หันมามองซิด

     

     

    "ซิดคุง ขอบคุณมากนะ" พร้อมกับกล่าวขอบคุณที่ช่วยเหลือเธอมาโดยตลอดจนถึงตอนนี้ซึ่งตัวเขาก็พูดปัดๆไปเล็กน้อย 

     

     

    "ผมเองก็แค่ช่วยนิดๆหน่อยๆเอง ไม่มีอะไรที่ผมช่วยได้แล้วล่ะที่เหลือก็ฝากเธอช่วยโลกด้วยความสามารถของเธอทีนะ" ซิดได้พูดให้กำลังใจเธอให้ทำสำเร็จให้ได้ล่ะ

     

     

    "จะพยายามนะคะ" เชอร์รี่ได้พูดจบและก็รีบวิ่งไปในทันที ส่วนซิดนั้นที่เห็นว่าเธอได้ไปแล้วเขาก็เดินถอยหลังไปทางหน้าต่างของห้องพร้อมกับพูดว่า

     

     

    "ดีล่ะ เราเองก็ต้องเตรียมลงมือเองบ้างแล้วสิ…" ซิดจะเปลี่ยนเป็นชุดของชาโดว์

     

     

    "ค่ำคืนแห่งเงามันจะเริ่มต่อจากนี้ยังไงล่ะ" ชาโดว์ได้กระโดดพุ่งออกไปทางหน้าต่างในทันที… ส่วนด้านของทางนักเรียนและโรสนั้น

     

     

    ระหว่างที่พวกเขากำลังนั่งกัดฟันหาทางออกว่าจะสามารถหลุดจากเจ้าพวกนี้ไปได้ยังไงกัน ระหว่างนั้นก็ถูกชาโดว์การ์เดนใช้ปืนรอบยิงใส่นักเรียนบางคนอีก

     

     

    ปัง!!! 

     

     

    พวกมันอยากจะหาอะไรทำข้ามเวลาจึงได้ใช้นักเรียนเป็นตัวล่อเป้าข้ามเวลาแถมยังยิ้มชอบใจเวลาได้ทรมานอีก ซึ่งโรสเห็นแบบนั้นก็ได้แต่รู้สึกเจ็บใจที่ไม่สามารถตอบโต้หรืออะไรเลยแม้แต่น้อย

     

     

    "อึก" เพราะถ้าเกิดว่าพวกเขาตอบโต้ทั้งที่ยังถูกผนึกพลังเวทย์อยู่ก็ตายเปล่าอยู่ดี….แถมยังมีชายในชุดเกราะอัศวินคนนั้นที่มีพลังเวทย์มหาศาลอยู่อีกด้วย

     

     

    "ประธานโรส" นักเรียนคนนึงได้เรียกขึ้นมาว่าได้เวลาตัดสินใจแล้ว 

     

     

    "ไม่ได้นะ ถ้าเกิดสู้ในขณะที่ใช้พลังเวทย์ไม่ได้มีหวัง…." ในขณะที่โรสกำลังนั่งคิดหาทางกันอยู่นั้น ด้านของเชอร์รี่ที่ลอบเข้ามาได้สำเร็จและมองหาดูว่าอาติแฟกต์อีกอันอยู่ตรงไหนกันแน่นั้น

     

     

    "นั่นมัน…" เชอร์รี่เห็นเข้าก็ไม่รอช้าเตรียมหยิบมันขึ้นมาและเตรียมเปิดใช้งานมันขึ้นมา

     

     

    "ท่านพ่อ รอหนูก่อนนะคะ" ก่อนที่เชอร์รี่จะปาอาติแฟกต์ไปจนเกิดแสงสว่างจ้าขึ้นมา…

     

     

    "นั่นแสงอะไรน่ะ" โรสได้สงสัยขึ้นมาก่อนที่อาติแฟกต์ที่อยู่ในมือของอัศวินคนนั้นจะเกิดปฏิกิริยาบางอย่างขึ้นมาทำให้อาณาเขตที่กางอยู่รอบๆโรงเรียนได้หายไปแทบจะในทันที

     

     

    "นี่มัน…" นักเรียนคนนึงได้เอ่ยขึ้นมาว่าเมื่อกี้มันอะไรกันแน่น่ะ

     

     

    "ประธาน!!" แต่ทว่าดูเหมือนโรสจะรู้ตัวเสียก่อนแล้ว

     

     

    "อ้ากกก" เธอได้พุ่งเข้ากระโดดเตะใส่พวกชาโดว์การ์เดนจนคอหักและล้มลงไป โรสคว้าดาบของมันก่อนจะชูขึ้นและปล่อยพลังเวทย์ของเธอออกมา

     

     

    "พลังเวทย์ถูกปลดปล่อยแล้ว ได้เวลาโต้กลับแล้ว" เธอได้สั่งให้นักเรียนทุกคนลุกขึ้นมาสู้กับพวกมันได้เลย

     

     

    "โอ้ว!!!!" ซึ่งทุกคนไม่รอช้ารีบกระโจนพุ่งเข้าใส่พวกมันทันที

     

     

    "แย่งดาบจากพวกมันมา/ล้อมเอาไว้" นักเรียนคนนึงเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับแย่งดาบมาและไล่จัดการพวกมันไปด้วย

     

     

    "โถ่เว้ย!!"

     

     

    "มัวทำอะไรกันอยู่ ฆ่าพวกมันซะ" ในระหว่างที่อัศวินพูดจบไปแล้วก็หันไปด้านข้างก็เห็นว่ามีอาติแฟกต์ของเชอร์รี่ทิ้งเอาไว้อยู่ด้วย

     

     

    ฝั่งของโรสเองก็ต้านพวกชาโดว์การ์เดนอีก 3 คนพร้อมๆกันถึงฝีมือของเธอจะสูงพอสมควรแต่ทว่า "พลังเวทย์ยังไม่กลับมา ต้องรีบจัดการมันระหว่างที่ยังพอมีแรงอยู่" โรสเองก็สู้ลำบากเช่นกันซึ่งในขณะที่เธอกำลังจะเสียท่าอยู่นั้น

     

     

    "หนอย มาได้แค่นี้เองเหรอ"

     

     

    "ไม่หรอก ต่อให้เราแพ้ทุกคนก็จะสานต่อที่เหลือให้เหมือนที่เราสืบทอดเจตนารมณ์ของเขา" โรสที่จะเตรียมใจตายแล้วนั้นเธอก็ได้นึกถึงใบหน้าของซิดขึ้นมาในชั่วพริบตานึง คงเป็นเพราะว่าเธอถูกใจในตัวเขาสินะ..

     

     

    แต่ทว่าก็กลับมีกระจกด้านบนอาคารแต่แตกออกมาและก็ได้ปรากฎแสงสีเหลืองได้พุ่งเข้าใส่กลางหน้าอกพวกชาโดว์การ์เดนทั้งสามคนที่กำลังจะฆ่าโรสไปได้อย่างง่ายดาย

     

     

    ร่างของชาโดว์จะแลนดิ่งลงมาเสริมอีกด้วย เขาได้ยืนขึ้นมาและหันไปมองโรส "ยอดเยี่ยมมาก ผู้กวัดแกว่งดาบอันแสนงดงามเอ๋ย" 

     

     

    "หือ" อัศวินคนนั้นได้เห็นชาโดว์ก็รู้สึกสนใจขึ้นมาทันที

     

     

    "อ้ากกก/แอ้กกก" ก่อนที่จะได้ยินเสียงร้องออกมาจากด้านบนก็เห็นว่าพวกคนของตนถูกฆ่าจากด้านบนของอาคาร ก่อนจะปรากฎร่างของเหล่าหญิงสาวสวมฮูดและผ้าคลุมสีดำกำลังยืนล้อมรอบระเบียงอาคารแห่งนี้เอาไว้เรียบร้อยแล้ว

     

     

    "นี่มัน….." โรสเองก็ตกใจว่านี่มันคืออะไรกัน

     

     

    ชาโดว์จะไม่รอช้าชักดาบของตนขึ้นมาไปบนฟ้า…เหนือหัวของตัวเองอย่างงดงามพร้อมกับกล่าวขึ้นมา

     

     

    "เราคือชาโดว์การ์เดน…"

     

     

    "ผู้ที่ซ่อนเร้นในเงาและไล่ล่าในเงา"

     

     

    ก่อนที่ซิดจะชี้ดาบไปด้านหน้าราวกับออกคำสั่งว่า ฆ่าพวกมันทิ้งให้หมด

     

     

    ชาโดว์การ์เดนของซิดนั้นจะพุ่งเข้าไปไล่ฆ่าพวกมัน ซึ่งกำลังหลักนำโดยนิวจะเข้าไปฆ่าพวกมันทีละคนถึงจำนวนจะพอๆกันแต่ทว่าดูเหมือนด้านฝีมือและเพลงดาบนั้นทางของฝั่งชาโดว์การ์เดนของซิดนั้นจะดูเหนือกว่ามาก

     

     

    แถมจำนวนของอีกฝั่งดูเหมือนว่าจะเสียเปรียบไปเรื่อยๆอีกด้วย โรสถึงกับตะลึงเมื่อเห็นทุกคนที่ดูมีฝีมือเพลงดาบสูงเป็นมากขนาดนั้น…

     

     

    "รีบออกไปจากหอประชุมเดี๋ยวนี้เลย แบกคนเจ็บออกไปด้วย" โรสเห็นโอกาศนี้รีบสั่งการให้นักเรียนทุกคนรีบออกไปจากอาคารแห่งนี้ให้เร็วที่สุด

     

     

    "ครับ" / "เร่งมือเร็ว" ก่อนที่นักเรียนทุกคนจะพากันอพยพออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด ในระหว่างนั้นชาโดว์ก็หันไปมองอัศวินคนนั้นพลางเห็นบางสิ่งออกมาจากคนๆนั้น

     

     

    "เห…อย่างงี้นี่เอง" เสมือนว่าชาโดว์จะรู้อะไรบางอย่างแล้ว แต่ว่าขอปล่อยให้มันหนีจนสุดทางก่อนค่อยไปเจอก็แล้วกันนะเพราะยังมีเรื่องที่อยากจะถามกับเจ้านั่นอยู่ด้วยสิ

     

     

    "นี่มัน ไฟไหม้งั้นเหรอ!!" แต่ทว่าก็เกิดเหตุไฟไหม้ทั่วทั้งอาคารของโรงเรียนเลยก็ว่าได้ ทุกคนที่เห็นแบบนั้นก็ตกใจแตกตื่นออกมา

     

     

    "ประธานคะ" 

     

     

    "ใช้แรงดันดาบฝ่ากำแพงออกไปให้ได้…" โรสได้สั่งให้ทุกคนรีบใช้ดาบดันหรือทำลายประตูให้พังแล้ววิ่งออกไปจากอาคารให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เร็วเข้า

     

     

    ชาโดว์ที่กำลังยืนอยู่ท่ามกลางกองเพลิงอยู่นั้นตัวของเขาก็มองไปรอบๆพลางคิดในใจไปว่า กะจะเล่นทุกวิธีเลยแฮะ งั้นก็เอาเป็นแบบนี้ก็แล้วกันนะ

     

     

    "ช่วยไม่ได้สินะ" ชาโดว์ได้เอ่ยจบในขณะนั้นเองก็ได้เกิดความปกติบนร่างกายของชาโดว์ก็เพราะว่ามีน้ำแข็งได้ปรากฎตามเสื้อและร่างกายบางส่วนของชาโดว์อีกด้วย

     

     

    "ไอซ์ เอจ!!!"

     

     

    คำกล่าวของชาโดว์ก่อนที่เท้าของชาโดว์ที่เหยียบอยู่กับพื้นของอาคารอยู่นั้นก็เริ่มกลายเป็นน้ำแข็งพร้อมกับขยายไปทั่วทั้งหอประชุมในชั่วพริบตาเท่านั้นเอง

     

     

    อาคารที่ประชุมใหญ่ที่กำลังถูกเพลิงแผดเผาอยู่แต่ทว่ากลับถูกน้ำแข็งแช่แม้กระทั่งไฟเองก็ถูกแช่แข็งไปด้วยอย่างง่ายดาย โรสได้เห็นเข้าก็ถึงกับตะลึงซึ่งทุกคนในอาคารก็รู้สึกเช่นเดียวกันกับเธอ

     

     

    "นะ นี่มัน เกิดอะไรขึ้นกันแน่" 

     

     

    "อาคารหอประชุมกลายเป็นน้ำแข็งไปหมดเลยอย่างนั้นเหรอ!!" โรสที่เห็นว่าเพลิงเมื่อกี้นั้นที่กำลังไหม้อยู่ถูกน้ำแข็งแช่แข็งจนหมดในช่วงเสี้ยววินาทีเนี่ยนะ

     

     

    "นี่มัน หรือว่า…" พอโรสได้หันกลับไปก็ไม่เห็นชาโดว์หรือผู้หญิงที่อยู่ในชุดคลุมสีดำเหล่านั้นเสียแล้ว ที่กองกันอยู่นั้นก็มีเพียงแค่ชายในชุดคลุมสีดำเพียงเท่านั้นเอง…

     

     

    โดยที่โรสได้แต่คิดว่า ผู้มากฝีมือเหล่านี้ เป็นใครจากไหนกัน….

     

     

     

     

    ด้านของแกรมม่าที่อยู่บนอาคารพร้อมกับได้เชยชมพลังของนายท่านของเธอแกรมม่าอดที่จะปลื้มไม่ได้ที่ได้เห็นความองอาจและความงดงามของผู้เป็นนายท่านของเธอ จนกระทั่งนิวได้เข้ามารายงานกับแกรมม่า….

     

     

    "เก็บกู้ของที่จำเป็นมาหมดแล้วค่ะ" นิวได้รายงานให้กับแกรมม่า ในตอนนี้ของที่จำเป็นได้เก็บกู้มาทั้งหมดเรียบร้อยแล้วไปแล้วล่ะ

     

     

    "เหนื่อยหน่อยนะ ที่เหลือก็…" พอแกรมม่าจะหันไปทางเจ้าหญิงไอริสที่แอบให้สัญญาณอยู่เงียบๆเท่านั้น ก่อนที่ไอริสจะเดินไปที่กองอัศวินต่อในทันที

     

     

     ณ ห้องผู้อำนวยการได้เกิดมีเพลิงได้ถูกจุดขึ้นมาก่อนจะเห็นว่าเป็นชายในชุดเกราะอัศวินกำลังเผาหนังสือหลายเล่มที่เกี่ยวกับเรื่องของอาติแฟกต์อยู่ในนั้นด้วย

     

     

    จนเมื่อเพลิงได้เผาหนังสือไปนั้นก็ได้มีร่างของเด็กคนนึงที่กำลังนั่งอยู่บนริมหน้าต่างพร้อมกับอ่านหนังสือในมืออยู่ก็ได้พูดขึ้นมา "ใส่ชุดแบบนั้น ทำอะไรอยู่เหรอครับ…" 

     

     

    เมื่อชายในชุดอัศวินได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกตกใจขึ้นมาว่ามีคนอยู่ด้วยแถมยังเป็นเสียงที่เขาเคยได้ยินมาก่อนอีกด้วยพอเขาหันไปก็พบเข้ากับซิด "รองผู้อำนวยการรุสรัน บาร์เนตต์" ที่กำลังเอ่ยเรียกชื่อของชายในชุดอัศวินออกมา

     

     

    "ซิด คาเกโน่คุง" ชายในอัศวินได้ยินเช่นนั้นก็เห็นว่าปกปิดกับซิดไปก็เปล่าประโยชน์จึงถอดหน้ากากของตนเผยให้เห็นว่ารองผู้อำนวยการรุสรันจริงๆด้วย

     

     

    "ทำไมถึงรู้ล่ะ" รุสรัน

     

     

    "แค่ดูก็รู้แล้วครับ" ซิด

     

     

    "งั้นเหรอ วิธีการเดินหรือไม่ก็ท่าทางสินะ ตาดีเหมือนกันนี่" รุสรันหยิบแว่นขึ้นมาสวมใส่อีกครั้งก่อนจะถอดชุดเกราะที่ตัวเอกใส่ออกไปด้วย

     

     

    "ผมขอถามเป็นข้อมูลบ้างได้ไหมครับ" ซิดได้หันมาถามรุสรันทันที

     

     

    "อะไรเหรอ" 

     

     

    "ทำแบบนี้ไปทำไมครับ คุณไม่เหมือนคนที่สนใจเรื่องพวกนี้เลยนะ" ซิด

     

     

    "ทำไมน่ะเหรอ ในอดีตฉันเคยยืนอยู่บนจุดสูงสุดของวิชาดาบเรื่องมันเกิดขึ้นก่อนที่เธอจะเกิดซะอีก" รุสลัน

     

     

    "ได้ยินว่าคุณเคยชนะเทศกาลบุชินใช่ไหมครับ" ซิดเองก็สงสัยเช่นกันว่า เขาเองก็เคยเป็นผู้ชนะของเทศกาลบุชินไม่ใช่เหรอการประลองนั่นน่าจะอยู่จุดสูงสุดของเขาแล้วแท้ๆนี่นา

     

     

    "ก็แค่เทศกาลบุชิน" รุสรันได้แย้งขึ้นมากะแค่เทศกาลบุชินสำหรับตัวเขาแล้วมันก็แค่เกียรติยศเบื้องหน้าและเล็กน้อยมากกับจุดสูงสุดที่ต้องการ…ก่อนจะย้อนความในอดีตของตนให้กับซิดได้ฟัง

     

     

    "จุดสูงสุดที่แท้จริงมันอยู่ไกลกว่านั้นอีกถึงจะบอกเธอไป เธอก็คงไม่เข้าใจอยู่ดี แต่พอขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุดได้แวปเดียวฉันก็ป่วยเกียรติยศที่ฉันลำบากปีนไปคว้ามาก็ต้องจบลงในพริบตา" รุสลันตัวของเขาที่แม้จะอยู่จุดสูงสุดแล้วก็ตามแต่ก็ถูกความชรากลืนกินไปทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับเขาและรวมถึงเกียรติยศในจุดสูงสุดของเขาเช่นเดียวกัน….

     

     

    "หลังจากนั้นฉันก็แสวงหาวิธีรักษาอาการป่วย จนพบความเป็นไปได้ในอาร์ติแฟกต์ชิ้นหนึ่ง" รุสลัน

     

     

    "เรื่องจะยาวไหมครับ" ซิดได้ถามออกไป

     

     

    "ก็นิดหน่อยน่ะ คนที่วิจัยมันอยู่คือแม่ของเชอร์รี่ เธอเป็นหญิงผู้โชคร้ายที่หัวดีเกินไปจนสมาคมเกลียด" รุสลันได้นึกถึงอดีตวันที่เขาได้พบกับแม่ของเชอร์รี่

     

     

     

     

    "ฉันสนับสนุนเธอ ส่วนเธอก็จดจำอยู่กับงานวิจัย เราสนิทกันดีเลยล่ะ" "และฉันก็ได้พบกับอาติแฟกต์ที่กำลังตามหาแต่ว่านะ….หญิงสาวผู้โง่เขลาคนนั้นก็บอกว่านัตต์ตาแห่งความละโมบเป็นสิ่งที่อันตราย มิหนำซ้ำยังบอกว่าจะให้อาณาจักรเก็บมันเอาไว้" ก่อนที่รุสรันจะเล่าเหตุการณ์วันนั้น วันที่เขาได้ทำให้ฝันร้ายของเชอร์รี่ได้เกิดขึ้นครั้งแรกในชีวิตของเธอ

     

     

    "ฉันเลยแทงเธอไปเรื่อยๆตั้งแต่ปลายแขนขาจนถึงกลางตัว สุดท้ายฉันก็แทงไปที่หัวใจแล้วคว้านมันซะ" 

     

     

    "ส่วนเชอร์รี่ก็รับช่วงต่องานวิจัยของผู้เป็นแม่โดยที่ไม่รู้และไม่สงสัยอะไรแล้วก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันคือคนฆ่า เธอเป็นลูกสาวที่น่ารักน่าชังแถมยังโง่เขลา" รุสรันได้เอ่ยจบลงไปพร้อมกับหันไปหาซิด "เป็นยังไงบ้างล่ะ พอจะได้ข้อมูลอะไรไหม" 

     

     

    "ก็ส่วนใหญ่น่ะครับ แต่มีเรื่องหนึ่งที่ผมสงสัย" ซิดเองก็ยังมีเรื่องสงสัยอยู่เช่นเดียวกัน

     

     

    "อะไรเหรอ" รุสรันได้เดินไปทางดาบของตนที่วางพิงเอาไว้อยู่ที่กำแพง

     

     

    "ที่ว่าคุณหลอกใช้เชอร์รี่เป็นเรื่องจริงหรือเปล่าครับ" ซิดได้ถามเขาออกไปซึ่งรุสรันได้ยินก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่ซิดถามเรื่องนี้ไป

     

     

    "ก็ต้องเป็นเรื่องจริงอยู่แล้วสิ เธอโกรธเหรอ?" 

     

     

    "ก็ไม่รู้สิครับ เพราะผมแบ่งอะไรที่สำคัญกับไม่สำคัญสำหรับผมออกจากกันอย่างชัดเจน ยิ่งใช้ชีวิตไปเรื่อยๆทุกคนต่างก็มีสิ่งสำคัญเพิ่มขึ้น มีเพื่อน มีแฟน มีงานทำ" ซิดได้นึกถึงตนเองในอดีตที่ได้ละทิ้งหลายสิ่งหลายอย่างไปเรื่อยๆ จนเหลือเพียงแค่ไม่กี่สิ่งเพียงเท่านั้น

     

     

    "…แต่ผมก็ตัดออกไปเรื่อยๆและที่ปลายทางของมันก็เหลือแค่สิ่งที่ไม่มีทางทิ้งไปได้ เพราะงั้นอะไรนอกเหนือจากนั้นจะเป็นยังไงก็ช่างครับ" ซิดได้พูดปิดท้ายพร้อมกับมองดูหนังสือในมือของตนที่ถูกเพลิงเผาไหม้หน้าหนังสือไปเรื่อยๆ

     

     

    "สองแม่ลูกผู้โง่เขลาจะเป็นยังไงก็ช่างมันงั้นเหรอ" รุสรันเองก็อดที่จะถามไม่ได้เช่นเดียวกันว่าจะเป็นยังไงกันแน่น่ะ

     

     

    ซึ่งสำหรับตัวของซิดแล้วมองเชอร์รี่เป็นยังไงกันแน่นะ…ถ้าสำหรับตัวของซิดแล้วก็เป็นสิ่งสำคัญที่คงจะให้เธอมารับรู้อดีตและมาเสียใจกับความจริงอันแสนโสมมเช่นนี้เด็ดขาด

     

     

    "เรามาเริ่มกันเลยไหมครับ ขืนมัวโอ้เอ้ เดี๋ยวจะมีตัวเกะกะมาขวางซะก่อน" ซิดปิดหนังสือนั้นไปพร้อมกับโยนทิ้งและเดินมาหาในขณะที่ชักดาบออกมาเช่นเดียวกับรุสรัน

     

     

    "ก็จริงนะ น่าเสียดายแต่ถึงเวลาต้องจากกันแล้ว" รุสรันเอ่ยจบไปแล้วทั้งคู่ก็เตรียมตั้งท่าอยู่นั้นก็ได้เกิดเสียงดังขึ้นมา

     

     

    เพล้ง!!!

     

     

    เกิดของในห้องได้ถูกฟันจนขาดพร้อมกับร่างของซิดได้ถูกฟันไปจนที่หน้าอกจนเลือดพุ่งออกมาก่อนที่ร่างของซิดจะล้มลงไปท่ามกลางกองเพลิงที่กำลังแผดเผาทุกสิ่งไป

     

     

    พร้อมกับที่รุสรันได้พูดทิ้งท้ายกับซิดไป "ลาก่อนนะ ซิด คาเกโน่คุง" 

     

     

    แต่ในระหว่างที่รุสรันจะเดินออกไปนั้นก็ได้มีเสียงเรียกจากด้านหลังของเขาขึ้นมา 

     

     

    "จะคิดไปไหนกัน" 

     

     

    "หือ" เมื่อรุสรันหันไปด้านหลังก็พบเข้ากับชายในชุดคลุมสีดำสนิทได้โผล่มาในท่านั่งไขว้ขวาอยู่แล้ว ส่วนร่างของซิดก็หายไปท่ามกลางกองเพลิงนั้นแล้วด้วย

     

     

     

     

    "แกคือ….ชาโดว์" รุสรันเมื่อได้เห็นหัวหน้าของชาโดว์การ์เดนแล้ว ตัวของเขาก็คิดว่าถึงเวลาที่ต้องแสดงพลังของเขาและอาติแฟกต์ชิ้นนี้ให้ดูแล้ว….

     

     

    "ฉันก็เป็นคนที่เคยใช้ชีวิตอยู่กับดาบ แค่ได้เผิญหน้าฉันก็พอจะรู้หลายๆอย่างแล้ว รวมถึงเรื่องที่ตอนนี้ตัวฉันเป็นฝ่ายเสียเปรียบ" รุสรันได้หยิบนัยต์ตาแห่งความละโมบให้กับชาโดว์ได้ดู

     

     

    "ขอโทษนะ…แต่ฉันขอบุกสุดกำลังตั้งแต่แรกเลยแล้วกัน" 

     

     

    "พลังที่แท้จริงของนัยต์ตาแห่งความละโมบจะสำแดงออกมาเมื่อรวมเข้ากับอุปกรณ์ควบคุมของมัน" รุสรันไม่รอช้าปลดล็อคพลังของดวงตาแห่งความละโมบที่หลอมหลวมเข้ากับอุปกรณ์ควบคุมจนทำให้เกิดพลังเวทย์อันมหาศาลไหลออกมาและพุ่งเข้าใส่ร่างของรุสรัน

     

     

    "แบบนี้ไงล่ะ อ้ากกกกก ตอนนี้แหละ ฉันจะได้เกิดใหม่" พลังเวทย์มากมายได้เพิ่มพลังให้แก่รุสรันทั้งหมดแถมยังทำให้สภาพของรุสรันกลับมาแข็งแกร่งเหมือนในสมัยก่อนอีกครั้งนึง

     

     

    "ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมจริงๆ พลังกลับมาแล้ว อาการป่วยก็หายไป" รุสรันที่ได้หลอมรวมร่างกายของตนเข้ากับดวงตาแห่งความละโมบเสียแล้ว "สัมผัสได้หรือเปล่าพลังเวทย์ที่บ้าคลั่งนี้ พลังที่ก้าวข้ามมนุษย์ไปไกลแสนไกล" 

     

     

    "ขอลองกับแกก่อนเลยแล้วกัน" รุสรัสพุ่งเข้าโจมตีใส่ชาโดว์ด้วยความรวดเร็ว เมื่อดาบทั้งสองได้ปะทะกันจนเกิดแรงกระแทกขึ้นมา

     

     

    เพล้ง!!!!

     

     

    ชาโดว์ก็สามารถใช้ดาบป้องกันเอาไว้ได้ทันเสียก่อน "ป้องกันได้ดีเลยนี่ ถ้างั้นลองนี่หน่อยเป็นไง" รุสรันที่เห็นว่าตนเองคงสู้แรงดาบของชาโดว์ไม่ได้คงต้องเน้นการใช้ความเร็วแทนก็แล้วกัน

     

     

    รุสรันใช้ความเร็วเข้าโจมตีใส่ชาโดว์รอบๆไปมาเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าจะเปล่าประโยชน์เพราะเพลงดาบของรุสรันกลับโดนชาโดว์ปัดป้องได้ทั้งหมดทั้งที่ตัวของเขาไมได้ขยับขาหรือแขนที่เหลืออยู่เลยด้วยซ้ำไป….

     

     

    "ต้องยอมรับเลยว่าแกแข็งแกร่ง ฉันขอนับถือความแข็งแกร่งของแกด้วยการเอาจริงบ้างก็แล้วกัน" รุสรันกระโดดไปด้านหลังพร้อมกับเบ่งพลังเวทย์จากอาติแฟกต์ทั้งหมดออกมา

     

     

    "แกทำให้ฉันเอาจริงได้ จงไปภูมิใจอยู่ที่โลกหน้าซะเถอะ" รุสรันใช้เพลงดาบพุ่งเข้าใส่ชาโดว์ด้วยพลังเวทย์อันมหาศาลทำให้ความเร็วและพลังกายทุกอย่างมากที่สุดสำหรับรุสรันแล้ว…

     

     

    เพล้งๆๆๆๆ!!!

     

     

    ด้วยความรุนแรงของเพลงดาบรุสรันทำให้กำแพงที่อยู่ด้านหน้าของรุสรันได้ถูกคลื่นดาบตัดจนกำแพงได้ถูกฟันจนขาดอย่างง่ายดาย…

     

     

     

     

    "อ้ากกก!!!" รุสรันรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่แล่นผ่านร่างกายของเขาและได้เห็นว่ามีเลือดได้พุ่งกระเซ็นออกมาจากไหล่จนถึงลำตัวจากการถูกดาบของชาโดว์ฟันไป

     

     

    "คงทำได้แค่จริงๆสินะ" พอรุสรันหันไปหาชาโดว์ก็ปรากฎว่าชาโดว์กลับไม่ได้มีแม้แต่รอยขีดข่วนเลยด้วยซ้ำไปและสังเกตุว่าดาบของชาโดว์ได้เห็นว่ามีคลื่นพลังเวทย์อยู่ในดาบนั้นอีกด้วย….รุสรันได้เห็นก็ถึงกับเหงื่อตกและช็อกทั้งที่ได้พลังกลับมาขนาดนี้แล้วแท้ๆแต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย

     

     

    "ยัง มันยังไม่จบ" รุสรันยอมรับไม่ได้และพุ่งเข้าฟันใส่ชาโดว์ด้วยความบ้าคลั่งแต่ชาโดว์ก็ใช้ดาบในมือปัดได้ทั้งหมด….

     

     

    "ไม่นึกเลยว่าแกจะมีฝีมือมากขนาดนี้ แต่ต่อให้แกจะแข็งแกร่งแค่ไหนมันก็จบสิ้นแล้ว" รุสรันได้ยิ้มขึ้นมาเพราะแผนการของเขาที่จะทำให้ชาโดว์ถูกหมายหัวมันได้สำเร็จไปเป็นที่เรียบร้อยไปแล้วล่ะ… "เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นฉันจัดฉากให้เป็นฝีมือของพวกแกแล้ว ทั้งคำให้การ ทั้งหลักฐาน ทุกสิ่งทุกอย่าง ที่นี้พวกแกก็จะถูกทั้งโลกไล่ล่าเพราะเป็นตัวตนที่เป็นปฏิปักษ์ต่อให้เก่งแค่ไหนก็ทำอะไรไม่ได้หรอก"

     

     

    ในขณะที่ชาโดว์ผู้ที่ได้ยินคำลมปากของรุสรันไปแล้วตัวของเขาก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างหน่ายใจ "เฮ้อ น่าขันจริงๆ"

     

     

    "ว่าไงนะ" รุสรัน

     

     

    "มันช่างน่าขัน…ที่แกคิดว่าเราจะจบเพราะเรื่องแค่นั้นเดิมทีเราไม่ได้เดินบนเส้นทางความถูกต้อง แต่ก็ไม่ได้เดินเส้นทางแห่งความชั่วร้าย เราก็เป็นแค่ผู้ที่เดินบนทางของเราเอง" ชาโดว์ได้พูดทิ้งท้ายกับรุสรันเอาไว้ว่าต่อให้ทั่วทั้งโลกเป็นศัตรูเขาก็ไม่คิดกลัวแม้แต่น้อย

     

     

    "ถ้าแกมีปัญญาก็เชิญเอาความผิดของทั้งโลกมาเลย ฉันจะแบกรับทุกอย่างเอาไว้เอง แต่ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปหรอกแต่ถึงอย่างนั้น ผม…"

     

     

    "เราจะทำสิ่งที่ต้องทำให้สำเร็จ"

     

     

    "แกจะบอกว่าต่อให้เป็นศัตรูกับทั้งโลกแกก็ไม่กลัวงั้นเหรอ" รุสรันได้ยินทำให้รู้สึกหงุดหงินขึ้นมาก่อนจะเร่งพลังทั้งหมดจนปรากฎเป็นคลื่นพลังเวทย์ออกมาคล้ายคลึงกับเชือกก่อนจะถอยหลังไปก่อนจะยื่นดาบไปข้างหน้า

     

     

    "จะหยิ่งผยองเกินไปแล้ว ชาโดว์" และใช้แรงดีดของผ้านั้นพุ่งเข้าใส่ชาโดว์หมายจะปลิดชีวิตของมันซะเลย…

     

     

    เฉ้ง!!! 

     

     

    แต่ทว่าในการโจมตีที่สุดแรงขนาดนั้นแล้วแท้ๆแต่กลับโดนชาโดว์ใช้แทงทะลุดาบจนไปถึงมือของรุสรัน….ในขณะนั้นดวงตาของชาโดว์ได้เกิดเป็นออร่าสีแดงแล่นผ่านออกมาจากดวงตาทั้งสองข้างของชาโดว์

     

     

    "!!!!"

     

     

    ชาโดว์ไม่รอช้าชักดาบออกมาจากมือของรุสรันและแทงใส่ขาซ้ายตามด้วยขาขวาและตามด้วยมือซ้ายและไหล่ซ้ายไปเรื่อยๆ จนทั่วทั้งตัวของรุสรันได้เป็นเกิดรูทั่วทั้งร่างชาโดว์จะจับผมของรุสรันให้ยืนขึ้นต่อ…

     

     

    "แทงไปเรื่อยๆจากปลายแขนขาไปถึงกลางตัวแล้วจบที่หัวใจใช่ไหม" ชาโดว์ได้พูดถามออกไปว่าประมาณนี้ใช่ไหม ซึ่งรุสรันได้เห็นก็รู้สึกตกใจว่าทำไมชาโดว์ถึงได้ล่วงรู้เรื่องนี้ได้ยังไงกัน…

     

     

    "อว้ากกกก!!!" ก่อนที่ชาโดว์จะแทงใส่หัวใจของรุสรันในขณะนั้นในชั่วพริบตาภายในความคิดของรุสรันนั้นได้นึกขึ้นมาได้ว่าเป็นใครกันแน่ 

     

     

    "อ้ากกกกกก" แต่ทว่าชาโดว์ก็ได้ทำลายปล่อยคลื่นพลังสายฟ้าสีดำเส้นสีแดงออกมาจากดาบสีดำของชาโดว์จนทำให้ดวงตาแห่งความละโมบได้แตกสลายลงไปในขณะนั้น

     

     

    ภายในดวงตาของรุสรันที่จดจ้องมาที่ชาโดว์ ไม่สิ ซิดต่างหากล่ะ "แก….คือ ซ-" คำพูดสุดท้ายของรุสรันนั้นได้ถูกเอ่ยขึ้นมาก่อนที่ภายในดวงตาของรุสรันจะพล่ามัวลงไปและตายไปในที่สุด….

     

     

    ในตอนนี้ชายชราผู้ทะเยอทะยานก็ได้จบสิ้นลงไปท่ามกลางกองเพลิงที่ลุกไหม้อยู่ เลือดที่ไหลผ่านออกมาจากทั่วทั้งร่างได้ไปทั่วพื้นที่นอนอยู่ ใบหน้าที่บิดเบี้ยวและร่างกายที่มีสภาพดูไม่ได้อีก และทุกอย่างนั้นก็อยู่ในสายตาของเด็กสาวคนนึงที่ได้มาเห็นเข้าโดยบังเอิญราวกับว่าจะเป็นจังหวะนรกสุดๆ

     

     

    ชาโดว์ได้เดินจากไปในขณะนั้นเสียงร้องไห้เด็กสาวก็ได้ดังออกมา…. "ท่านพ่อ" 

     

     

     

     

    "ท่านพ่อคะ" 

     

     

    "ไม่นะ ไม่นะ ทำไมกันเป็นนี้ได้ยังไงกัน" ท่ามกลางความเศร้าโศกและหัวใจที่แตกสลายไปของเธอ เพราะครอบครัวที่เหลืออยู่ของเธอได้จากไปเสียแล้ว… "ท่านพ่อ ท่านพ่อคะ" 

     

     

    ชาโดว์ได้เหลือบไปมองพลางเชอร์รี่เล็กน้อย

     

     

    "เธอน่ะไม่ต้องรู้อะไรแหละ ดีแล้วล่ะ" ชาโดว์ได้พูดทิ้งท้ายเอาไว้ตามที่เขาเคยคิดนั่นแหละ 

     

     

    สิ่งนี้อาจจะดีสำหรับเธอแล้วก็ได้….ความจริงบางสิ่งก็อาจจะเป็นสิ่งที่โหดร้ายซะยิ่งกว่านั้น เพราะฉะนั้นแล้วจงก้าวผ่านความเศร้าโศกนั้นแล้วเดินหน้าต่อไปซะ เชอร์รี่จัง…

     

     

    "ท่านพ่อคะ ไม่จริง" ในขณะที่ท่ามกลางความเศร้าโศกของเชอร์รี่นั้นชาโดว์ก็ได้กระโดดจากตึกก่อนที่จะหายไปในที่สุด….

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×