NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic kage no jitsuryokusha ni naritakute] จักรพรรดิแห่งเงาผู้มาพร้อมกับพลังผลปีศาจ

    ลำดับตอนที่ #11 : เงาผู้ไล่ล่าเหยื่อ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 330
      26
      3 มิ.ย. 66

     

    "ซิดคุง" เชอร์รี่ถึงกับหน้าแดงเพราะซิดนั้นได้มาโอบร่างของเธอเอาไว้แถมยังอยู่แนบชิดกันอีกด้วย ซึ่งซิดนั้นก็พยุงร่างของเธอเล็กน้อยพร้อมกับยื่นสิ่งที่คล้ายกับจี้สร้อยคอให้กับเชอร์รี่ "นี่ของเธอ" 

     

     

    "ขะ ขอบคุณค่ะ" เชอร์รี่พูดขอบคุณซิดที่ช่วยเธอเอาไว้อีก แต่พอเธอได้สังเกตุดูดีๆแผลที่เสื้อของซิดมีเลือดไหลออกมาเยอะเอามากๆอีก

     

     

    "นี่ซิดคุงแผลนั่น" เชอร์รี่ที่เห็นซิดมีแผลเลือดออกก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมากอีก พอซิดเห็นแบบนั้นก็คิดว่าต้องกลบเกลื่อนเพื่อไม่ให้ความแตกไปก่อน "อ๋อ ไม่เป็นไรๆ ผมแค่รอดตายมาแบบปฏิหารน่ะ"

     

     

    "ช่างเรื่องนั้นเถอะ ผมมีเรื่องจะบอกเธอเพียบเลยล่ะ" ซิดเองก็มีเรื่องที่จะมาบอกเธอถึงกับต้องมาปรากฎตัวให้เธอเห็นแบบนี้ด้วย ก่อนที่ซิดจะชี้นิ้วชี้ขึ้นมาไปที่เชอร์รี่

     

     

    "เช่นเลิกพูดคนเดียวดีกว่านะ เลิกเดินไปด้วยคิดไปด้วยดีกว่านะหรือไม่ก็ให้ดูพื้นด้วยนะ แต่อย่างแรกเลย…."

     

     

     "ถอดสลิปเปอร์เสียงแตะๆ นั่นก่อนเถอะ" ซิดเอ่ยจบไปก่อนที่ทั้งคู่จะมุ่งหน้าเดินไปต่อในทันที ระหว่างทางซิดเองก็ต้องจัดการเพิ่มไปอีก 5 คน ไม่ให้เชอร์รี่รู้อีก

     

    ณ ห้องรองผู้อำนวยการ

     

     

    "เอ จำได้ว่ามันถูกเก็บเอาไว้ตรงนี้นี่นา" เชอร์รี่กำลังค้นหาของภายในห้องอยู่วุ่นๆนั้นเอง ซิดก็ได้แต่ทำหน้าเหนื่อยใจเพราะก่อนจะมาหาเชอร์รี่เขาต้องจัดเก็บห้องที่มันโครตรกนี่ให้เรียบร้อยให้เชอร์รี่ตามหาของอยู่เนี่ยแหละ

     

     

     ในระหว่างที่เชอร์รี่กำลังหาของอยู่ ซิดก็ได้มองไปที่เธอพลางคิดในใจไปด้วยว่า 

     

     

    สงสัยว่าเธอคงเป็นตัวละครหลักของคราวนี้จริงๆแฮะ แต่แค่เธอคนเดียว….จะเคลียร์เนื้อเรื่องได้ยังไง เวลาแบบนี้ต้องมีพวกตัวละครคู่หูอยู่ด้วยสิ 

     

    แต่ก็ดันไร้วี่แวว พล็อตโฮลใหญ่เลยนะเนี่ย

     

     

    เมื่อซิดคิดจบไปเชอร์รี่ก็ได้พูดขึ้นมา "เจอแล้วค่ะ!!!" 

     

     

    "หือ" ซิดได้เดินไปดูของที่เชอร์รี่ค้นเจอในเกะห้องของผู้อำนวยการ ก่อนจะหยิบหนังสือปูให้ซิดได้เห็นดูด้วย และสิ่งที่ซิดได้เห็นก็คือรูปร่างของอาติแฟกต์ลูกกลมๆถูกวาดเอาไว้อยู่ด้วย

     

     

    "นี่อะไรเหรอ" ซิดได้เอ่ยถามเชอร์รี่ด้วยความสงสัยว่ามันคืออะไร

     

     

    "อาติแฟกต์ชื่อนัยต์ตาแห่งความละโมบค่ะ" เชอร์รี่บอกชื่อของมันให้กับซิดก่อนจะอธิบายเสริมเกี่ยวกับความสามารถของมันให้ซิดได้ฟังด้วย "มันเป็นต้นเหตุที่ทำให้พลังเวทย์ถูกสกัดกั้น นัยต์ตาแห่งความละโมบสามารถดูดซับพลังเวทย์" 

     

     

    "จากนักดาบและร่างพลังเวทย์ที่อยู่ในขอบเขตพลังแล้วกักเก็บพลังนั่นได้ชั่วคราวค่ะ ผลของมันทำให้การขัดเกลาพลังเวทย์ในบริเวณโดยรอบเป็นไปได้ยาก" 

     

     

    "แต่พวกที่ใส่ชุดสีดำสนิทใช้พลังเวทย์ได้ปกติเลยนะ" ซิดเองก็รู้สึกสงสัยเหมือนกันว่าพวกนักดาบเวทย์อย่างรุ่นพี่โรสไม่สามารถใช้พลังเวทย์ได้แต่ทว่าพวกชาโดว์การ์เดนผู้ก่อการร้ายพวกนั้นมันกลับใช้ได้เสียอย่างนั้น

     

     

    "เราสามารถทำให้มันจดจำความยาวคลื่นของพลังเวทย์ที่ไม่อยากให้ดูดซับได้ค่ะ ไม่อย่างนั้นพลังเวทย์ของผู้ใช้งานเองก็จะพลอยโดดดูดซับไปด้วย" เชอร์รี่

     

     

    "อย่างนี้นี่เอง น่าสนใจจังเลยแฮะ" ซิดได้เห็นก็รู้สึกสนใจมันขึ้นมาด้วยเช่นกัน

     

     

    "ถ้างั้นมันก็จะดูดซับพลังเวทย์ที่ไม่รู้จักไปหมดเลยเหรอ" ซิดได้หันไปถามเชอร์รี่

     

     

    "ฉันก็ไม่แน่ใจนะคะ…แต่มันน่าจะไม่สามารถดูดซับพลังเวทย์ที่ละเอียดจนตรวจจับได้ไม่หมดรวมถึงพลังเวทย์เกินความจุของมันได้ค่ะ แต่มนุษย์ในตอนนี้ไม่มีใครใช้พลังเวทย์แบบนั้นได้หรอกค่ะ" เชอร์รี่

     

     

    "นั่นสิเนอะ" ซิดก็พยักหน้าเข้าใจเล็กน้อย

     

     

    "แค่นี้มันก็เป็นอาติแฟกต์ที่รับมือยากอยู่แล้ว แต่ฉันได้ยินว่านัยต์ตาแห่งความละโมบจะสะสมพลังเวทย์เท่าที่จะทำได้แล้วปลดปล่อยออกมาในครั้งเดียวค่ะ" เชอร์รี่

     

     

    "ในครั้งเดียวเหรอ??" ซิด

     

     

    "ใช่ค่ะ มันจะทำลายทุกอย่างในครั้งเดียว" เชอร์รี่

     

     

    "ซิดคุง คุณบอกว่านักเรียนทุกคนในโรงเรียนถูกสั่งให้ไปรวมกันที่หอประชุมใหญ่ใช่ไหมคะ ถ้าคิดถึงประสิทธิภาพในการดูดซับพลังเวทย์ก็ต้องใช้พลังเวทย์ปริมาณมากพวกนั้นน่าจะติดตั้งนัยต์ตาแห่งความละโมบไว้ที่หอประชุมใหญ่ซึ่งมีนักเรียนนักดาบเวทย์หลายคนถูกจับไว้ค่ะ" เชอร์รี่ 

     

     

    "ถ้ามีพลังเวทย์ที่กักเก็บไว้เกินกว่าปริมาณที่นัยต์ตาแห่งความละโมบจะรับไหว จนถูกปลดปล่อยออกมาในครั้งเดียวล่ะก็…" เชอร์รี่พูดจบซิดที่เข้าใจขึ้นมามากขึ้นแล้วก็ได้พูดต่อว่า

     

     

    "โรงเรียนก็จะถูกเป่ากระจุยสินะ" 

     

     

    "ใช่ค่ะ แต่ท่านพ่อก็เห็นถึงความอันตรายของมันเลยไม่เปิดเผยในงานสัมมนาแล้วให้อาณาจักรเก็บรักษานัยต์ตาแห่งความละโมบเอาไว้นี่นา" เชอร์รี่ 

     

     

    "ถ้าไม่มีของแบบเดียวกันอีกอันหนึ่ง ก็ต้องถูกขโมยไปสินะ แล้ววิธีรับมือล่ะ" ซิด

     

     

     "ค่ะ อันนี้ค่ะ" เชอร์รี่ได้หยิบสิ่งนั้นให้ซิดดูที่เขาได้คว้าเอาไว้ในตอนนั้นนั่นเอง "อ๋อ จานบินเมื่อกี้นี่"

     

     

    "อาติแฟกต์นี้เป็นอุปกรณ์ควบคุมนัยต์ตาแห่งความละโมบค่ะ พอถอดรหัสมันในที่สุดฉันก็เข้าใจค่ะ" เชอร์รี่ได้พูดออกไปพร้อมกับคิดจะถอดรหัสของมันเพื่อที่จะสามารถควบคุมนัยต์ตาแห่งความละโมบและหยุดไม่ให้ระเบิดโรงเรียนได้อีก "แต่เดิมนัยต์ตาแห่งความละโมบเป็นอาติแฟกต์…ที่ต้องใช้อุปกรณ์ควบคุมอันนี้เพื่อเก็บพลังเวทย์ในระยะยาว" เชอร์รี่

     

     

    "เก็บระยะยาว ก็แปลว่ามันหยุดการปล่อยพลังเวทย์ได้สินะ" ซิด

     

     

    "ใช่แล้วล่ะค่ะ สุดยอดไปเลยใช่ไหมคะ ถ้าจำลองวิทยาการที่สามารถเก็บพลังเวทย์และนำมาใช้ได้อย่างอิสระได้ล่ะก็….ก็จะได้สิ่งใหม่ที่มาแทนเครื่องจักรไอน้ำ" เชอร์รี่

     

     

    "แล้วจากนี้จะเอายังไงต่อล่ะ" ซิดถามเชอร์รี่ว่าจะถอดรหัสแล้วจะทำยังไงต่อกันแน่ล่ะ ซึ่งเชอร์รี่ก็เริ่มอธิบายแผนการให้ซิดได้ฟัง "ถ้าถอดรหัสอาติแฟกต์ตอนนี้ได้หมดเมื่อไหร่ ฉันจะไปที่หอประชุมใหญ่ผ่านทางใต้ดินค่ะ" 

     

     

    "อาคารทุกหลังในโรงเรียนเชื่อมต่อกันด้วยทางลับ เพื่อใช้หลบหนีในกรณีฉุกเฉินค่ะ" เชอร์รี่

     

     

    "ดีเลยนี่" ซิด

     

     

    "ถ้าเราเอาอาติแฟกต์ที่ทำงานแล้วไปใกล้กับนัยต์ตาแห่งความละโมบได้ มันก็น่าจะหยุดทำงานค่ะ" เชอร์รี่ได้อธิบายแผนการจบแล้ว ซิดก็คิดพลางวิเคราะห์ของแผนของเชอร์รี่ไปด้วยอีกทีนึง

     

     

    เป็นแผนที่ตรงไปตรงมากว่าที่คิดดีนะ ถึงช่วงสุดท้ายจะดูหละหลวมไปหน่อยแต่ก็น่าจะเป็นโอกาศให้เราได้อาละวาดในฐานะชาโดว์ ไม่เป็นไรหรอกมั้ง 

     

     

    "เพียงแต่…" เชอร์รี่พูดด้วยน้ำเสียงกังวลเป็นอย่างมาก "ฉันลืมอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการปรับแต่งอาติแฟกต์ไว้ที่ห้องวิจัยน่ะค่ะ" 

     

     

    "ถ้างั้นเดี๋ยวผมไปหยิบมาให้น่ะ" ซิดเสนอตัวว่าจะเอาเองให้เลย แต่ทว่าเชอร์รี่เห็นซิดจะออกไปก็รีบพูดห้ามเขาขึ้นมา 

     

     

    "เอ๊ะ ไม่ได้นะคะ ซิดคุงยังบาดเจ็บอยู่..." เพราะด้านนอกมีพวกชาโดว์การ์เดนและหนึ่งในนั้นจัดการอัศวินสีชาดไปได้สองคนสบายๆอีกด้วย

     

     

    "เธอเองก็รีบไขปริศนาเถอะ ไม่ต้องห่วงฉันไม่เป็นไรแน่นอน" ซิดก็หันมามองเชอร์รี่พร้อมกับพูดให้ความหวังเธอว่าไม่เป็นอะไรหรอก ซึ่งเชอร์รี่เห็นสายตาของซิดแล้วเธอก็รู้สึกว่า ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วล่ะ

     

     

    "ซิดคุง ต้องกลับมาให้ได้นะ" เชอร์รี่พูดทิ้งท้ายและหวังว่าซิดจะกลับมาอย่างปลอดภัยให้ได้ ส่วนความคิดของซิดนั้นก็คือ 

     

     

    ท่าจะกินเวลาไปกระทืบผู้ร้ายเล่นดีกว่า ตัวของซิดไม่คิดจะนั่งดูเชอร์รี่ถอดรหัสหรอก เพราะฉะนั้นว่างๆไปกระทืบพวกนั้นซะเลยดีกว่า….แฮะ

     

     

    ตัดมาที่ด้านของหอประชุมใหญ่

     

     

    ชายในชุดเกราะอัศวินสีเงินผู้ที่เป็นหัวหน้าของชาโดว์การ์เดนผู้ก่อการร้ายก็ได้หันไปหาเร็กซ์ที่เป็นลำดับที่ 1 กำลังเดินมาหา "ยึดโรงเรียนได้เกือบหมดแล้ว มีพวกกองอัศวินโหวกเหวกอยู่ข้างนอกแต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร" 

     

     

    "เรื่องนั้นจะยังไงก็ช่าง" 

     

     

    "ห๊ะ" 

     

     

    "การเก็บอาติแฟกต์ไปถึงไหนแล้ว" อัศวินได้หันมาถามเร็กซ์ถึงอาติแฟกต์ว่าตามเจอหรือยัง

     

     

    "อาติแฟกต์น่ะเหรอ คุณหนูคนนั้นเก็บเอาไว้ไม่ใช่เหรอ เอาน่าฉันพอจะรู้ว่าอยู่ที่ไหน หือ…" พอเร็กซ์ตอบนี้ไปอัศวินนั้นก็ดูจะไม่พอใจแบบสุดๆ ทั้งที่รู้อยู่แล้วแต่กลับไม่รีบไปเอามาอีก "แกรู้ไหมว่าการเล่นไร้สาระของแกมันขัดขวางแผนการขนาดไหน" 

     

     

    "อ๊ะ อย่าโกรธกันน่า" เร็กซ์พยายามจะให้เขาใจเย็นลงไป

     

     

    "ถ้าต่อไปแกทำพลาดฉันจะฆ่าแกซะ" มันได้ขู่เอาไว้และดูเหมือนจะทำจริงแน่นอนถ้าเกิดเร็กซ์ทำพลาดอีกล่ะก็… 

     

     

    "เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้วน่า" เร็กซ์ยอมทำตามแต่โดยดี "จะไปเอาเดี๋ยวนี้แหละ" แต่ก่อนที่เร็กซ์จะไปก็หันมาบอกกับอัศวินไปด้วยว่า "อ๋อ จริงๆด้วย นอกจากเธิร์ดพวกเซคันด์ก็ถูกเก็บไปแล้วสองคนมียอดฝีมือปะปนอยู่ที่นี่ด้วย น่าจะเป็นไอนั่นหรือเปล่า" 

     

     

    "พวกชาโดว์การ์เดน ในที่สุดก็โผล่ออกมาแล้วสินะ" อัศวินนั้นได้พูดชื่อออกมาเพราะแผนนี้จะเป็นแผนการที่ล่อชาโดว์การ์เดนออกมาโดยเฉพาะเลย

     

     

    "นายก็ระวังตัวไว้ให้ดีก็แล้วกัน" เร็กซ์พูดเตือนเอาไว้ทิ้งท้ายก่อนจะเดินจากไป

     

     

    "บอกให้ฉันคนนี้ระวังตัวงั้นเหรอ" อัศวินตนนั้นได้พูดขึ้นมาพลางมองดูอาติแฟกต์ที่เป็นดวงตาแห่งความละโมบอยู่นั่นเอง

     

     

    "ในที่สุดทุกอย่างก็จะเป็นจริงแล้ว ฉันจะทวงตำแหน่งอัศวินโต๊ะกลมกลับคืนมา…." อัศวินตนนั้นได้พูดทิ้งท้ายเอาไว้พลางหัวเราะชอบใจขึ้นมา…และเร็กซ์ที่กำลังออกตามหาอาติแฟกต์กลับมาอยู่นั้น

     

     

    "มีร่องรอยพลังเวทย์ อาติแฟกต์อยู่แถวนี้แหงๆ" เร็กซ์เอ่ยพร้อมกับกำลังหาคุณหนูผมสีชมพูอยู่นั้น "คิดว่าจะหนีพ้นรึ รีบจับๆมาดีกว่า" 

     

     

    "เอือก!!!/อัก!!!" แต่ทว่าชาโดว์การ์เดนที่เดินประกบเร็กซ์ดันหลังก็ถูกด้านสีขาวพุ่งเข้ามาลัดร่างของทั้งสองคนออกไปอย่างรวดเร็ว

     

     

    "หือ!!!" จนเร็กซ์หันไปด้านหลังก็ไม่พบทั้งสองคนนั้นอยู่เสียแล้ว ทำให้เร็กซ์ถึงกับเหงื่อตกออกมาก่อนที่อีกด้านที่ประกบก็ถูกด้ายสีขาวจับไปต่อแทบจะในทันที "อ้ากกก!!!/อ้ากก!!" 

     

     

    "นี่มันอะไรกัน" เร็กซ์ที่เห็นก็ถึงกับตะลึงว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ล่ะ

     

     

    "มีคนเล่นงานเราอยู่งั้นเหรอ" พอเร็กซ์ได้หันไปด้านหลังก็เห็นว่า มีมือของใครบางคนกำลังแบรออยู่แล้วก่อนจะเห็นว่า

     

     

    "ห๊ะ!!" เป็นซิดที่ใช้มือประกบไปที่หน้าของเร็กพร้อมกับเกิดแรงกระแทกใส่หน้าของเร็กซ์ "อัก!!!" จนกระเด็นไปด้านหลังจนล้มลงไปนอน

     

     

    "บ้าเอ้ย เร็วจนมองไม่ทันเลย" เร็กซ์ไม่รอช้ารีบลุกขึ้นมายืนก่อนจะชักดาบและมีดขึ้นมาพร้อมๆกัน "อาติแฟกต์เพิ่มความเร็วตัวเองหรือไงห๊ะ" และใช้ด้ามทั้งคู่ประกบเข้าหากันจนเกิดเวทย์ออกมาจากตรงที่ประกบเข้ากันพอดี

     

     

    "ถ้างั้นต้องเจอตาข่าย" ตาข่ายพลังเวทย์สีดำแดงได้ล้อมรอบตัวของเร็กซ์เอาไว้ "รู้ไหมว่าฉันทำอะไร ใช่แล้ว ตาข่ายไง ต่อให้เคลื่อนไหวเร็วแค่ไหนแต่ทันทีที่มาติดตาข่าย ฉันก็จะรู้ตัวแกจะทนแบกภาระจากอาติแฟกต์ได้อีกกี่รอบเชียว" เร็กซ์พล่ามเยาะเย้ยซิดอยู่นั้นโดยหารู้ไม่ว่าด้านหลังของมันนั้นได้ปรากฎร่างเงาของใครบางคนอยู่ด้านหลังเสียแล้วเนี่ยน่ะสิ

     

     

    "สองเหรอ หรือว่าสามชุดนักเรียนแกโชกเลือดไปหมดแล้วนะฝืนเอาการเลย…" พอเร็กซ์หันหลังไปก็เจอเข้ากับซิดที่ใช้ฝ่ามือที่มีคลื่นพลังสีขาวกระแทกใส่หน้าของเร็กซ์เต็มๆอีกรอบนึง

     

     

    "อัก!!!!" จนกระเด็นไปชนกับที่บานประตูห้องเรียนนึงเต็มๆ "อ่าห์ บัดซบที่สุด" พอเร็กซ์จะคิดตอบโต้ไปแต่ก็หันไปเห็นว่ามีขาของซิดกำลังง้างด้วยขาเคลือบแสงสีเหลืองรออยู่เลย

     

     

    ปัง!!!!!

     

     

    "อ้ากกกกกก" เร็กซ์ถูกเตะใส่ร่างไปชนเข้ากับกำแพงภายในห้องเรียนเต็มๆ 

     

     

    "อึก บ้าเอ้ย เกือบจะสลบไปเลยเมื่อกี้…มันอะไรกันวะ" เร็กซ์ที่โดนท่าเมื่อกี้ของซิดเข้าก็ถึงประคองสติไม่ค่อยอยู่ไปเลยทีเดียวแต่ก็ยังสงสัยเมื่อกี้อยู่เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นตอนแรกกันแน่นะ 

     

     

    "แต่ว่าฉันโดนเล่นงานจากด้านในตาข่ายงั้นเหรอ มันจะเป็นไปได้ยังไง!!" เร็กซ์ที่พยายามจะหาทางโต้กลับซิดให้ได้ "ไอ้หมอนั่นมันใช้อาติแฟกต์ประเภทไหนกันแน่"

     

     

    "หา…." แต่พอเร็กซ์ลองดูข้างในห้องเรียนดูดีๆแล้วก็พบเข้ากับ

     

     

    "!!!" บางสิ่งที่ทำให้มันถึงกับช็อคแทบจะหยุดหายใจก็เพราะว่า เหล่าคนในลัทธิมากกว่า 20 คนถูกฆ่าทิ้งทั้งหมด "อะไรกัน" 

     

     

    "อะไรเนี่ย" เร็กซ์ตะโกนขึ้นมาด้วยน้ำเสียงสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวเป็นอย่างมาก "นี่มันอะไรกัน!!!" 

     

     

    "นายนี่สุดยอดไปเลยนะ" พอมันถอยหลังก็ได้แหงนมองไปด้านบนก็เห็นเข้ากับร่างของซิดที่ห้อยหัวอยู่

     

     

     

     

    พร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มแย้มราวกับว่ากำลังสนุกแต่สำหรับภายในสายตาของเร็กซ์มันน่ากลัวกว่าทุกสิ่งที่เคยเจอมาซะอีก

     

     

    "เฮือกกกก" พอชั่วพริบตานั่นก็ได้มีสิ่งพุ่งเข้าไปหาเร็กซ์ภายในห้องเรียนอันแสนมืดมิดที่มีเพียงแค่แสงของพระอาทิตย์ที่กำลังจะตกลงไปและเข้าสู่ช่วงยามค่ำคืนนั้นจากหน้าต่างเท่านั้นที่ได้ส่องเข้ามาเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้นท่ามกลางกองเลือดและศพมากมายที่กองรวมกันนั้น 

     

     

    "อ้ากกกกกกกกกก" ก็ได้มีเสียงกรีดร้องของเร็กซ์ที่ร้องก้องออกมาเพียงเท่านั้นโดยไม่มีใครล่วงรู้เลยแม้แต่น้อย…

     

     

     

    "ฟู่ว เสร็จไปแล้วอีกหนึ่ง…." ซิดที่ทำการเก็บกวาดพวกน่ารำคาญไปได้แล้วก็กำลังจะเดินออกไปก็หันไปมองด้านหลังของตัวเอง

     

     

    "ฝีมือใช้ได้เลยนี่ แต่น่าเสียดายที่ต้องมาจบน่าสิ้นหวังแบบนี้น่ะ" ซิดได้หันหลังให้กับหัวของเร็กซ์ที่ถูกตัดขาดออกจากตัวไม่สิถูกตัดออกเกือบทุกส่วนเลยก็ว่าได้

     

     

     

    อีกด้านนึง….

     

    "ยังไม่ตายงั้นเหรอ….แต่ว่าพอถูกผนึกพลังเวทย์แล้วก็ถูกจัดการได้ง่ายๆเลยนะ" นิวที่มาเห็นอัศวินสีชาดที่กำลังนอนจากการได้รับบาดแผลแต่ว่าก็ยังพอมีชีพจรเต้นอยู่เล็กน้อยแต่สตินั้นก็น่าจะไม่มีแล้วล่ะ

     

     

    แต่พอนิวหันไปด้านหลังก็พบเข้าอัศวินสีชาดอีกคนนึง "มาร์โก้ เกรนเจอร์นายเข้ากองอัศวินสีชาดแล้วสินะ…" นิวที่เห็นว่าสภาพของมาร์โก้นั้นดูจะสภาพไม่เละเท่าอีกคนเท่าไหร่ 

     

     

    "ทำอะไรอยู่รึ นิว" ซิดได้โผล่ขึ้นมาจากด้านหลังของเธอตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้

     

     

    "ท่านชาโดว์" นิวหันไปในทันที ก่อนที่เธอจะมองไปยังมาร์โก้พร้อมกับบอกกับชาโดว์ให้ฟังไปด้วย "เขาเคยเป็นคู่หมั้นฉันน่ะค่ะ นักดาบเวทย์ฝีมือดีที่ยึดมั่นคุณธรรมในงานเลี้ยงสังสรรค์ ฉันจะถูกพาไปติดตัวเหมือนเป็นเครื่องประดับของเขามานึกดูแล้วๆตอนนั้นมีแต่ทำตามที่รอบข้างว่าโดยไม่มีเจตจำนงของตัวเองเลย"

     

     

    นิวเอ่ยด้วยสีหน้าดูจะข่มขื่นอยู่พอสมควร ก็นะคงจะรู้สึกอย่างนั้นมานานมากพอดูเลยล่ะ "เป็นเพียงแค่การใช้ชีวิตอันแสนน่าเบื่อเท่านั้น…" 

     

     

    "จะเรื่องไหน ก็เป็นอดีตที่อยากจะลืมเลือ-" นิวพูดยังไม่ทันจะจบไปซิดก็เข้ามาลูบหัวของเธอเบาๆ "ฉันเองก็คงจะพูดอะไรไม่ได้มากหรอกนะ" 

     

     

    "นิว ตัวเธอในอดีตจะเป็นยังไงช่าง แต่ว่าสำหรับฉันในตอนนี้เธอคือชาโดว์การ์เดนเป็นคนของฉันแล้ว ถ้ามีปัญหาอะไรก็มาคุยกับฉันได้เสมอนั่นแหละ" เมื่อซิดเอ่ยเพราะไม่อยากจะเร่งบรรยากาศให้มันดูขัดกันเกินไปเพียงเท่านั้นเอง แต่ทว่านิวกลับรับรู้ถึงความอบอุ่นจากนายท่านของเธอ 

     

     

    ใบหน้าของนิวแดงขึ้นมาเล็กน้อย "ท่านชาโดว์….ขอบคุณมากค่ะ" นิวได้เอ่ยขอบคุณก่อนจะกุมมือของซิดเอาไว้แน่นด้วยความรู้สึกขอบคุณในตัวของเขาจริงๆ

     

     

    "อาจจะสายไปสักหน่อย แต่ขอรายงานนะคะ" นิวได้เข้าสู่โหมดจริงจังในทันทีพร้อมกับรายงานขึ้นมา "ขณะนี้ชาโดว์การ์เดนล้อมรอบเอาไว้หมดแล้วค่ะ หากสั่งเมื่อไหร่ สามารถลงมือได้ทันที" 

     

     

    "แต่การต่อสู้ในสภาวะที่พลังเวทย์ถูกจำกัดจะมีความเสี่ยงตามค่ะ คนที่สามารถเคลื่อนไหวได้ตามปกติมีเพียงแค่เงาทั้งเจ็ดทุกท่าน แต่คนที่อยู่ในเมืองหลวงตอนนี้มีแค่ท่านแกรมม่าเท่านั้นค่ะ ก็เลยแบบว่า…" นิวพอพูดถึงเรื่องแกรมม่าก็ถึงกับพูดไม่ออกเสียเท่าไหร่นัก "ท่ามแกรมม่า ดูจะไม่ค่อยสันทัดเรื่องพวกนี้เท่าไหร่" 

     

     

    "อืม เซนส์เป็น 0 เลยเนอะ" ซิดพูดตรงๆออกไปก็นะรู้จักกันมาตั้งนานก็คงจะรู้อยู่แล้วล่ะ

     

     

    "เอ่อ…ค่ะ" นิวได้ตอบเล็กน้อยเท่านั้น "ตัวฉันเองก็ใช้พลังได้ไม่ถึงครึ่งของปกติค่ะ" 

     

     

    "งั้นเหรอ…" ซิดได้ฟังก็หาของในชั้นวางไปด้วยในระหว่างที่นิวกำลังรายงานสถานการณ์ในแต่ละที่ไปด้วย "ขณะนี้ท่านแกรมม่ากำลังออกคำสั่งทุกฝ่ายอยู่ค่ะ ท่ามแกรมม่าคาดว่าสภาวะที่พลังเวทย์ถูกจำกัดเอาไว้…อาจจะคงอยู่ได้ไม่นานขนาดนั้น" 

     

     

    "โดยที่พวกมันนั้นคงจะใช้เวลาจากการผนึกให้นานที่สุด และเสริมแนวป้องกันเพิ่มขึ้นอีก" นิว 

     

     

    "ส่วนกองอัศวินองค์หญิงไอริสเองก็เป็นแนวเบื้องหน้าให้กับพวกเราอยู่ค่ะ แต่ว่าด้วยความขัดแย้งภายในทำให้เกิดปัญหาการบังคับบัญชาอยู่ค่ะ" นิว

     

     

    "งี้นี่เอง" ซิดได้ยินเรื่องของไอริสก็พลางคิดว่า ไอริสคอยช่วยตัวเขาอยู่อย่างนั้นสินะ…

     

     

    "หากไม่มีคำสั่งของท่านชาโดว์ เราก็จะรอจนกว่าจะมีการเคลื่อนไหวค่ะ" นิว

     

     

    "อืม" ซิดได้หันไปนิวพร้อมกับถามไปด้วยว่า "รู้ไหมว่าแหนบมิธริลอยู่ตรงไหน" 

     

     

    "ค่ะ วางอยู่ทางนี้ค่ะ" นิว

     

     

     "กระดูกผงมังกร แล้วก็…." ซิด

     

     

     

    หลังจากช่วยกันสักพักนึงแล้ว ซิดก็หันมาขอบคุณกับนิว "ขอบใจนะนิว ช่วยได้มากเลย"

     

     

    "ไม่หรอกค่ะ ขอถามได้ไหมคะว่าจะเอาไปทำอะไร" นิวได้ถามออกไปว่าซิดนั้นคิดจะทำอะไรกับของพวกนั้นกันแน่ล่ะซึ่ง ซิดก็ตอบไปตามตรงเลยว่า "กำลังปรับแต่งอาร์ติแฟกต์น่ะ" 

     

     

    "อาติแฟกต์เหรอคะ รู้เรื่องพวกนั้นด้วยเหรอคะ" นิวรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากที่ซิดรู้เรื่องของการอาติแฟกต์ด้วยอีก

     

     

    "อื้ม" ซิดพยักหน้าเล็กน้อย "ที่จริงแล้วสาเหตุที่ถูกรบกวนมันมาจากทําให้พลังเวท ชื่อว่า [เนตร โลภะ] อาร์ติแฟค" 


     

    "การจะหยุดสิ่งนั้นต้องใช้อาร์ติแฟคกำลังทําการอีกอัน ซึ่งตอนนี้วิเคราะห์กันอยู่" เมื่อซิดอธิบายจบนิวก็รู้สึกได้ถึงความสามารถของซิดในตอนนี้แบบสุดๆ

     

     

    นี่ทราบสาเหตุ และเตรียมมาตรการ รับมือไว้แล้วด้วยอีกและถ้าพูดถึงการวิเคราะห์อาร์ติแฟคก็ต้องใช้ความรู้ระดับสุดยอดของประเทศเลยนะ

     

     

    "สมกับเป็น ท่านชาโดว์" สติปัญญาของเขาคนนี้…ช่างเหลือล้ำ

     

     

    "นั่นสิเนอะ คิดว่าน่าจะเสร็จก่อนพระอาทิตย์ตกดินนะ" ซิดบอกทั้งหมดไปก็จริง แต่ว่าก็ไม่ได้บอกไปว่าจะปรับอาติแฟกต์เองซะหน่อย…

     

     

    "ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็จะเตรียมตัวให้พร้อมลงมือในเวลานั้นค่ะ" นิวได้ก้มลงให้กับผู้เป็นนายก่อนที่ซิดจะเดินจากไปนั่นเอง

     

     

    นิวได้ยิ้มขึ้นมาพลางคิดในใจไปด้วยว่า เอาไว้ค่อยชวนนายท่านไปเที่ยวด้วยจะดีกว่าไหมนะ

     

     

    "………." แต่ทว่านิวก็กลับเงียบไปชั่วครู่นึงเพราะเธอได้ยินเสียงลมหายใจได้แรงขึ้นมาจากมาร์โก้

     

     

    "ที่พูดไปเมื่อกี้" เธอได้ชักดาบสไลม์ออกมาจากใต้แขนเสื้อและชี้ไปที่มาร์โก้ในทันที "คงไม่ได้ยินสินะ??"

     

     

    นิวได้มองไปที่มาร์โก้เห็นแค่ว่าเขาหายใจแรงขึ้นจากสภาวะใกล้จะตายเพียงเท่านั้นเอง นิวได้ถอดแว่นตาและกิ๊บหนีบผมของเธอออกไปด้วย 

     

     

    "ผู้ที่ล่วงรู้ตัวตนที่แท้จริงของท่านชาโดว์ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ยกโทษให้ไม่ได้"

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×