คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : เงาผู้ไล่ล่าเหยื่อ
"ซิดคุง" เชอร์รี่ถึงกับหน้าแดงเพราะซิดนั้นได้มาโอบร่างของเธอเอาไว้แถมยังอยู่แนบชิดกันอีกด้วย ซึ่งซิดนั้นก็พยุงร่างของเธอเล็กน้อยพร้อมกับยื่นสิ่งที่คล้ายกับจี้สร้อยคอให้กับเชอร์รี่ "นี่ของเธอ"
"ขะ ขอบคุณค่ะ" เชอร์รี่พูดขอบคุณซิดที่ช่วยเธอเอาไว้อีก แต่พอเธอได้สังเกตุดูดีๆแผลที่เสื้อของซิดมีเลือดไหลออกมาเยอะเอามากๆอีก
"นี่ซิดคุงแผลนั่น" เชอร์รี่ที่เห็นซิดมีแผลเลือดออกก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมากอีก พอซิดเห็นแบบนั้นก็คิดว่าต้องกลบเกลื่อนเพื่อไม่ให้ความแตกไปก่อน "อ๋อ ไม่เป็นไรๆ ผมแค่รอดตายมาแบบปฏิหารน่ะ"
"ช่างเรื่องนั้นเถอะ ผมมีเรื่องจะบอกเธอเพียบเลยล่ะ" ซิดเองก็มีเรื่องที่จะมาบอกเธอถึงกับต้องมาปรากฎตัวให้เธอเห็นแบบนี้ด้วย ก่อนที่ซิดจะชี้นิ้วชี้ขึ้นมาไปที่เชอร์รี่
"เช่นเลิกพูดคนเดียวดีกว่านะ เลิกเดินไปด้วยคิดไปด้วยดีกว่านะหรือไม่ก็ให้ดูพื้นด้วยนะ แต่อย่างแรกเลย…."
"ถอดสลิปเปอร์เสียงแตะๆ นั่นก่อนเถอะ" ซิดเอ่ยจบไปก่อนที่ทั้งคู่จะมุ่งหน้าเดินไปต่อในทันที ระหว่างทางซิดเองก็ต้องจัดการเพิ่มไปอีก 5 คน ไม่ให้เชอร์รี่รู้อีก
ณ ห้องรองผู้อำนวยการ
"เอ จำได้ว่ามันถูกเก็บเอาไว้ตรงนี้นี่นา" เชอร์รี่กำลังค้นหาของภายในห้องอยู่วุ่นๆนั้นเอง ซิดก็ได้แต่ทำหน้าเหนื่อยใจเพราะก่อนจะมาหาเชอร์รี่เขาต้องจัดเก็บห้องที่มันโครตรกนี่ให้เรียบร้อยให้เชอร์รี่ตามหาของอยู่เนี่ยแหละ
ในระหว่างที่เชอร์รี่กำลังหาของอยู่ ซิดก็ได้มองไปที่เธอพลางคิดในใจไปด้วยว่า
สงสัยว่าเธอคงเป็นตัวละครหลักของคราวนี้จริงๆแฮะ แต่แค่เธอคนเดียว….จะเคลียร์เนื้อเรื่องได้ยังไง เวลาแบบนี้ต้องมีพวกตัวละครคู่หูอยู่ด้วยสิ
แต่ก็ดันไร้วี่แวว พล็อตโฮลใหญ่เลยนะเนี่ย
เมื่อซิดคิดจบไปเชอร์รี่ก็ได้พูดขึ้นมา "เจอแล้วค่ะ!!!"
"หือ" ซิดได้เดินไปดูของที่เชอร์รี่ค้นเจอในเกะห้องของผู้อำนวยการ ก่อนจะหยิบหนังสือปูให้ซิดได้เห็นดูด้วย และสิ่งที่ซิดได้เห็นก็คือรูปร่างของอาติแฟกต์ลูกกลมๆถูกวาดเอาไว้อยู่ด้วย
"นี่อะไรเหรอ" ซิดได้เอ่ยถามเชอร์รี่ด้วยความสงสัยว่ามันคืออะไร
"อาติแฟกต์ชื่อนัยต์ตาแห่งความละโมบค่ะ" เชอร์รี่บอกชื่อของมันให้กับซิดก่อนจะอธิบายเสริมเกี่ยวกับความสามารถของมันให้ซิดได้ฟังด้วย "มันเป็นต้นเหตุที่ทำให้พลังเวทย์ถูกสกัดกั้น นัยต์ตาแห่งความละโมบสามารถดูดซับพลังเวทย์"
"จากนักดาบและร่างพลังเวทย์ที่อยู่ในขอบเขตพลังแล้วกักเก็บพลังนั่นได้ชั่วคราวค่ะ ผลของมันทำให้การขัดเกลาพลังเวทย์ในบริเวณโดยรอบเป็นไปได้ยาก"
"แต่พวกที่ใส่ชุดสีดำสนิทใช้พลังเวทย์ได้ปกติเลยนะ" ซิดเองก็รู้สึกสงสัยเหมือนกันว่าพวกนักดาบเวทย์อย่างรุ่นพี่โรสไม่สามารถใช้พลังเวทย์ได้แต่ทว่าพวกชาโดว์การ์เดนผู้ก่อการร้ายพวกนั้นมันกลับใช้ได้เสียอย่างนั้น
"เราสามารถทำให้มันจดจำความยาวคลื่นของพลังเวทย์ที่ไม่อยากให้ดูดซับได้ค่ะ ไม่อย่างนั้นพลังเวทย์ของผู้ใช้งานเองก็จะพลอยโดดดูดซับไปด้วย" เชอร์รี่
"อย่างนี้นี่เอง น่าสนใจจังเลยแฮะ" ซิดได้เห็นก็รู้สึกสนใจมันขึ้นมาด้วยเช่นกัน
"ถ้างั้นมันก็จะดูดซับพลังเวทย์ที่ไม่รู้จักไปหมดเลยเหรอ" ซิดได้หันไปถามเชอร์รี่
"ฉันก็ไม่แน่ใจนะคะ…แต่มันน่าจะไม่สามารถดูดซับพลังเวทย์ที่ละเอียดจนตรวจจับได้ไม่หมดรวมถึงพลังเวทย์เกินความจุของมันได้ค่ะ แต่มนุษย์ในตอนนี้ไม่มีใครใช้พลังเวทย์แบบนั้นได้หรอกค่ะ" เชอร์รี่
"นั่นสิเนอะ" ซิดก็พยักหน้าเข้าใจเล็กน้อย
"แค่นี้มันก็เป็นอาติแฟกต์ที่รับมือยากอยู่แล้ว แต่ฉันได้ยินว่านัยต์ตาแห่งความละโมบจะสะสมพลังเวทย์เท่าที่จะทำได้แล้วปลดปล่อยออกมาในครั้งเดียวค่ะ" เชอร์รี่
"ในครั้งเดียวเหรอ??" ซิด
"ใช่ค่ะ มันจะทำลายทุกอย่างในครั้งเดียว" เชอร์รี่
"ซิดคุง คุณบอกว่านักเรียนทุกคนในโรงเรียนถูกสั่งให้ไปรวมกันที่หอประชุมใหญ่ใช่ไหมคะ ถ้าคิดถึงประสิทธิภาพในการดูดซับพลังเวทย์ก็ต้องใช้พลังเวทย์ปริมาณมากพวกนั้นน่าจะติดตั้งนัยต์ตาแห่งความละโมบไว้ที่หอประชุมใหญ่ซึ่งมีนักเรียนนักดาบเวทย์หลายคนถูกจับไว้ค่ะ" เชอร์รี่
"ถ้ามีพลังเวทย์ที่กักเก็บไว้เกินกว่าปริมาณที่นัยต์ตาแห่งความละโมบจะรับไหว จนถูกปลดปล่อยออกมาในครั้งเดียวล่ะก็…" เชอร์รี่พูดจบซิดที่เข้าใจขึ้นมามากขึ้นแล้วก็ได้พูดต่อว่า
"โรงเรียนก็จะถูกเป่ากระจุยสินะ"
"ใช่ค่ะ แต่ท่านพ่อก็เห็นถึงความอันตรายของมันเลยไม่เปิดเผยในงานสัมมนาแล้วให้อาณาจักรเก็บรักษานัยต์ตาแห่งความละโมบเอาไว้นี่นา" เชอร์รี่
"ถ้าไม่มีของแบบเดียวกันอีกอันหนึ่ง ก็ต้องถูกขโมยไปสินะ แล้ววิธีรับมือล่ะ" ซิด
"ค่ะ อันนี้ค่ะ" เชอร์รี่ได้หยิบสิ่งนั้นให้ซิดดูที่เขาได้คว้าเอาไว้ในตอนนั้นนั่นเอง "อ๋อ จานบินเมื่อกี้นี่"
"อาติแฟกต์นี้เป็นอุปกรณ์ควบคุมนัยต์ตาแห่งความละโมบค่ะ พอถอดรหัสมันในที่สุดฉันก็เข้าใจค่ะ" เชอร์รี่ได้พูดออกไปพร้อมกับคิดจะถอดรหัสของมันเพื่อที่จะสามารถควบคุมนัยต์ตาแห่งความละโมบและหยุดไม่ให้ระเบิดโรงเรียนได้อีก "แต่เดิมนัยต์ตาแห่งความละโมบเป็นอาติแฟกต์…ที่ต้องใช้อุปกรณ์ควบคุมอันนี้เพื่อเก็บพลังเวทย์ในระยะยาว" เชอร์รี่
"เก็บระยะยาว ก็แปลว่ามันหยุดการปล่อยพลังเวทย์ได้สินะ" ซิด
"ใช่แล้วล่ะค่ะ สุดยอดไปเลยใช่ไหมคะ ถ้าจำลองวิทยาการที่สามารถเก็บพลังเวทย์และนำมาใช้ได้อย่างอิสระได้ล่ะก็….ก็จะได้สิ่งใหม่ที่มาแทนเครื่องจักรไอน้ำ" เชอร์รี่
"แล้วจากนี้จะเอายังไงต่อล่ะ" ซิดถามเชอร์รี่ว่าจะถอดรหัสแล้วจะทำยังไงต่อกันแน่ล่ะ ซึ่งเชอร์รี่ก็เริ่มอธิบายแผนการให้ซิดได้ฟัง "ถ้าถอดรหัสอาติแฟกต์ตอนนี้ได้หมดเมื่อไหร่ ฉันจะไปที่หอประชุมใหญ่ผ่านทางใต้ดินค่ะ"
"อาคารทุกหลังในโรงเรียนเชื่อมต่อกันด้วยทางลับ เพื่อใช้หลบหนีในกรณีฉุกเฉินค่ะ" เชอร์รี่
"ดีเลยนี่" ซิด
"ถ้าเราเอาอาติแฟกต์ที่ทำงานแล้วไปใกล้กับนัยต์ตาแห่งความละโมบได้ มันก็น่าจะหยุดทำงานค่ะ" เชอร์รี่ได้อธิบายแผนการจบแล้ว ซิดก็คิดพลางวิเคราะห์ของแผนของเชอร์รี่ไปด้วยอีกทีนึง
เป็นแผนที่ตรงไปตรงมากว่าที่คิดดีนะ ถึงช่วงสุดท้ายจะดูหละหลวมไปหน่อยแต่ก็น่าจะเป็นโอกาศให้เราได้อาละวาดในฐานะชาโดว์ ไม่เป็นไรหรอกมั้ง
"เพียงแต่…" เชอร์รี่พูดด้วยน้ำเสียงกังวลเป็นอย่างมาก "ฉันลืมอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการปรับแต่งอาติแฟกต์ไว้ที่ห้องวิจัยน่ะค่ะ"
"ถ้างั้นเดี๋ยวผมไปหยิบมาให้น่ะ" ซิดเสนอตัวว่าจะเอาเองให้เลย แต่ทว่าเชอร์รี่เห็นซิดจะออกไปก็รีบพูดห้ามเขาขึ้นมา
"เอ๊ะ ไม่ได้นะคะ ซิดคุงยังบาดเจ็บอยู่..." เพราะด้านนอกมีพวกชาโดว์การ์เดนและหนึ่งในนั้นจัดการอัศวินสีชาดไปได้สองคนสบายๆอีกด้วย
"เธอเองก็รีบไขปริศนาเถอะ ไม่ต้องห่วงฉันไม่เป็นไรแน่นอน" ซิดก็หันมามองเชอร์รี่พร้อมกับพูดให้ความหวังเธอว่าไม่เป็นอะไรหรอก ซึ่งเชอร์รี่เห็นสายตาของซิดแล้วเธอก็รู้สึกว่า ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วล่ะ
"ซิดคุง ต้องกลับมาให้ได้นะ" เชอร์รี่พูดทิ้งท้ายและหวังว่าซิดจะกลับมาอย่างปลอดภัยให้ได้ ส่วนความคิดของซิดนั้นก็คือ
ท่าจะกินเวลาไปกระทืบผู้ร้ายเล่นดีกว่า ตัวของซิดไม่คิดจะนั่งดูเชอร์รี่ถอดรหัสหรอก เพราะฉะนั้นว่างๆไปกระทืบพวกนั้นซะเลยดีกว่า….แฮะ
ตัดมาที่ด้านของหอประชุมใหญ่
ชายในชุดเกราะอัศวินสีเงินผู้ที่เป็นหัวหน้าของชาโดว์การ์เดนผู้ก่อการร้ายก็ได้หันไปหาเร็กซ์ที่เป็นลำดับที่ 1 กำลังเดินมาหา "ยึดโรงเรียนได้เกือบหมดแล้ว มีพวกกองอัศวินโหวกเหวกอยู่ข้างนอกแต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร"
"เรื่องนั้นจะยังไงก็ช่าง"
"ห๊ะ"
"การเก็บอาติแฟกต์ไปถึงไหนแล้ว" อัศวินได้หันมาถามเร็กซ์ถึงอาติแฟกต์ว่าตามเจอหรือยัง
"อาติแฟกต์น่ะเหรอ คุณหนูคนนั้นเก็บเอาไว้ไม่ใช่เหรอ เอาน่าฉันพอจะรู้ว่าอยู่ที่ไหน หือ…" พอเร็กซ์ตอบนี้ไปอัศวินนั้นก็ดูจะไม่พอใจแบบสุดๆ ทั้งที่รู้อยู่แล้วแต่กลับไม่รีบไปเอามาอีก "แกรู้ไหมว่าการเล่นไร้สาระของแกมันขัดขวางแผนการขนาดไหน"
"อ๊ะ อย่าโกรธกันน่า" เร็กซ์พยายามจะให้เขาใจเย็นลงไป
"ถ้าต่อไปแกทำพลาดฉันจะฆ่าแกซะ" มันได้ขู่เอาไว้และดูเหมือนจะทำจริงแน่นอนถ้าเกิดเร็กซ์ทำพลาดอีกล่ะก็…
"เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้วน่า" เร็กซ์ยอมทำตามแต่โดยดี "จะไปเอาเดี๋ยวนี้แหละ" แต่ก่อนที่เร็กซ์จะไปก็หันมาบอกกับอัศวินไปด้วยว่า "อ๋อ จริงๆด้วย นอกจากเธิร์ดพวกเซคันด์ก็ถูกเก็บไปแล้วสองคนมียอดฝีมือปะปนอยู่ที่นี่ด้วย น่าจะเป็นไอนั่นหรือเปล่า"
"พวกชาโดว์การ์เดน ในที่สุดก็โผล่ออกมาแล้วสินะ" อัศวินนั้นได้พูดชื่อออกมาเพราะแผนนี้จะเป็นแผนการที่ล่อชาโดว์การ์เดนออกมาโดยเฉพาะเลย
"นายก็ระวังตัวไว้ให้ดีก็แล้วกัน" เร็กซ์พูดเตือนเอาไว้ทิ้งท้ายก่อนจะเดินจากไป
"บอกให้ฉันคนนี้ระวังตัวงั้นเหรอ" อัศวินตนนั้นได้พูดขึ้นมาพลางมองดูอาติแฟกต์ที่เป็นดวงตาแห่งความละโมบอยู่นั่นเอง
"ในที่สุดทุกอย่างก็จะเป็นจริงแล้ว ฉันจะทวงตำแหน่งอัศวินโต๊ะกลมกลับคืนมา…." อัศวินตนนั้นได้พูดทิ้งท้ายเอาไว้พลางหัวเราะชอบใจขึ้นมา…และเร็กซ์ที่กำลังออกตามหาอาติแฟกต์กลับมาอยู่นั้น
"มีร่องรอยพลังเวทย์ อาติแฟกต์อยู่แถวนี้แหงๆ" เร็กซ์เอ่ยพร้อมกับกำลังหาคุณหนูผมสีชมพูอยู่นั้น "คิดว่าจะหนีพ้นรึ รีบจับๆมาดีกว่า"
"เอือก!!!/อัก!!!" แต่ทว่าชาโดว์การ์เดนที่เดินประกบเร็กซ์ดันหลังก็ถูกด้านสีขาวพุ่งเข้ามาลัดร่างของทั้งสองคนออกไปอย่างรวดเร็ว
"หือ!!!" จนเร็กซ์หันไปด้านหลังก็ไม่พบทั้งสองคนนั้นอยู่เสียแล้ว ทำให้เร็กซ์ถึงกับเหงื่อตกออกมาก่อนที่อีกด้านที่ประกบก็ถูกด้ายสีขาวจับไปต่อแทบจะในทันที "อ้ากกก!!!/อ้ากก!!"
"นี่มันอะไรกัน" เร็กซ์ที่เห็นก็ถึงกับตะลึงว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ล่ะ
"มีคนเล่นงานเราอยู่งั้นเหรอ" พอเร็กซ์ได้หันไปด้านหลังก็เห็นว่า มีมือของใครบางคนกำลังแบรออยู่แล้วก่อนจะเห็นว่า
"ห๊ะ!!" เป็นซิดที่ใช้มือประกบไปที่หน้าของเร็กพร้อมกับเกิดแรงกระแทกใส่หน้าของเร็กซ์ "อัก!!!" จนกระเด็นไปด้านหลังจนล้มลงไปนอน
"บ้าเอ้ย เร็วจนมองไม่ทันเลย" เร็กซ์ไม่รอช้ารีบลุกขึ้นมายืนก่อนจะชักดาบและมีดขึ้นมาพร้อมๆกัน "อาติแฟกต์เพิ่มความเร็วตัวเองหรือไงห๊ะ" และใช้ด้ามทั้งคู่ประกบเข้าหากันจนเกิดเวทย์ออกมาจากตรงที่ประกบเข้ากันพอดี
"ถ้างั้นต้องเจอตาข่าย" ตาข่ายพลังเวทย์สีดำแดงได้ล้อมรอบตัวของเร็กซ์เอาไว้ "รู้ไหมว่าฉันทำอะไร ใช่แล้ว ตาข่ายไง ต่อให้เคลื่อนไหวเร็วแค่ไหนแต่ทันทีที่มาติดตาข่าย ฉันก็จะรู้ตัวแกจะทนแบกภาระจากอาติแฟกต์ได้อีกกี่รอบเชียว" เร็กซ์พล่ามเยาะเย้ยซิดอยู่นั้นโดยหารู้ไม่ว่าด้านหลังของมันนั้นได้ปรากฎร่างเงาของใครบางคนอยู่ด้านหลังเสียแล้วเนี่ยน่ะสิ
"สองเหรอ หรือว่าสามชุดนักเรียนแกโชกเลือดไปหมดแล้วนะฝืนเอาการเลย…" พอเร็กซ์หันหลังไปก็เจอเข้ากับซิดที่ใช้ฝ่ามือที่มีคลื่นพลังสีขาวกระแทกใส่หน้าของเร็กซ์เต็มๆอีกรอบนึง
"อัก!!!!" จนกระเด็นไปชนกับที่บานประตูห้องเรียนนึงเต็มๆ "อ่าห์ บัดซบที่สุด" พอเร็กซ์จะคิดตอบโต้ไปแต่ก็หันไปเห็นว่ามีขาของซิดกำลังง้างด้วยขาเคลือบแสงสีเหลืองรออยู่เลย
ปัง!!!!!
"อ้ากกกกกก" เร็กซ์ถูกเตะใส่ร่างไปชนเข้ากับกำแพงภายในห้องเรียนเต็มๆ
"อึก บ้าเอ้ย เกือบจะสลบไปเลยเมื่อกี้…มันอะไรกันวะ" เร็กซ์ที่โดนท่าเมื่อกี้ของซิดเข้าก็ถึงประคองสติไม่ค่อยอยู่ไปเลยทีเดียวแต่ก็ยังสงสัยเมื่อกี้อยู่เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นตอนแรกกันแน่นะ
"แต่ว่าฉันโดนเล่นงานจากด้านในตาข่ายงั้นเหรอ มันจะเป็นไปได้ยังไง!!" เร็กซ์ที่พยายามจะหาทางโต้กลับซิดให้ได้ "ไอ้หมอนั่นมันใช้อาติแฟกต์ประเภทไหนกันแน่"
"หา…." แต่พอเร็กซ์ลองดูข้างในห้องเรียนดูดีๆแล้วก็พบเข้ากับ
"!!!" บางสิ่งที่ทำให้มันถึงกับช็อคแทบจะหยุดหายใจก็เพราะว่า เหล่าคนในลัทธิมากกว่า 20 คนถูกฆ่าทิ้งทั้งหมด "อะไรกัน"
"อะไรเนี่ย" เร็กซ์ตะโกนขึ้นมาด้วยน้ำเสียงสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวเป็นอย่างมาก "นี่มันอะไรกัน!!!"
"นายนี่สุดยอดไปเลยนะ" พอมันถอยหลังก็ได้แหงนมองไปด้านบนก็เห็นเข้ากับร่างของซิดที่ห้อยหัวอยู่
พร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มแย้มราวกับว่ากำลังสนุกแต่สำหรับภายในสายตาของเร็กซ์มันน่ากลัวกว่าทุกสิ่งที่เคยเจอมาซะอีก
"เฮือกกกก" พอชั่วพริบตานั่นก็ได้มีสิ่งพุ่งเข้าไปหาเร็กซ์ภายในห้องเรียนอันแสนมืดมิดที่มีเพียงแค่แสงของพระอาทิตย์ที่กำลังจะตกลงไปและเข้าสู่ช่วงยามค่ำคืนนั้นจากหน้าต่างเท่านั้นที่ได้ส่องเข้ามาเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้นท่ามกลางกองเลือดและศพมากมายที่กองรวมกันนั้น
"อ้ากกกกกกกกกก" ก็ได้มีเสียงกรีดร้องของเร็กซ์ที่ร้องก้องออกมาเพียงเท่านั้นโดยไม่มีใครล่วงรู้เลยแม้แต่น้อย…
"ฟู่ว เสร็จไปแล้วอีกหนึ่ง…." ซิดที่ทำการเก็บกวาดพวกน่ารำคาญไปได้แล้วก็กำลังจะเดินออกไปก็หันไปมองด้านหลังของตัวเอง
"ฝีมือใช้ได้เลยนี่ แต่น่าเสียดายที่ต้องมาจบน่าสิ้นหวังแบบนี้น่ะ" ซิดได้หันหลังให้กับหัวของเร็กซ์ที่ถูกตัดขาดออกจากตัวไม่สิถูกตัดออกเกือบทุกส่วนเลยก็ว่าได้
อีกด้านนึง….
"ยังไม่ตายงั้นเหรอ….แต่ว่าพอถูกผนึกพลังเวทย์แล้วก็ถูกจัดการได้ง่ายๆเลยนะ" นิวที่มาเห็นอัศวินสีชาดที่กำลังนอนจากการได้รับบาดแผลแต่ว่าก็ยังพอมีชีพจรเต้นอยู่เล็กน้อยแต่สตินั้นก็น่าจะไม่มีแล้วล่ะ
แต่พอนิวหันไปด้านหลังก็พบเข้าอัศวินสีชาดอีกคนนึง "มาร์โก้ เกรนเจอร์นายเข้ากองอัศวินสีชาดแล้วสินะ…" นิวที่เห็นว่าสภาพของมาร์โก้นั้นดูจะสภาพไม่เละเท่าอีกคนเท่าไหร่
"ทำอะไรอยู่รึ นิว" ซิดได้โผล่ขึ้นมาจากด้านหลังของเธอตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้
"ท่านชาโดว์" นิวหันไปในทันที ก่อนที่เธอจะมองไปยังมาร์โก้พร้อมกับบอกกับชาโดว์ให้ฟังไปด้วย "เขาเคยเป็นคู่หมั้นฉันน่ะค่ะ นักดาบเวทย์ฝีมือดีที่ยึดมั่นคุณธรรมในงานเลี้ยงสังสรรค์ ฉันจะถูกพาไปติดตัวเหมือนเป็นเครื่องประดับของเขามานึกดูแล้วๆตอนนั้นมีแต่ทำตามที่รอบข้างว่าโดยไม่มีเจตจำนงของตัวเองเลย"
นิวเอ่ยด้วยสีหน้าดูจะข่มขื่นอยู่พอสมควร ก็นะคงจะรู้สึกอย่างนั้นมานานมากพอดูเลยล่ะ "เป็นเพียงแค่การใช้ชีวิตอันแสนน่าเบื่อเท่านั้น…"
"จะเรื่องไหน ก็เป็นอดีตที่อยากจะลืมเลือ-" นิวพูดยังไม่ทันจะจบไปซิดก็เข้ามาลูบหัวของเธอเบาๆ "ฉันเองก็คงจะพูดอะไรไม่ได้มากหรอกนะ"
"นิว ตัวเธอในอดีตจะเป็นยังไงช่าง แต่ว่าสำหรับฉันในตอนนี้เธอคือชาโดว์การ์เดนเป็นคนของฉันแล้ว ถ้ามีปัญหาอะไรก็มาคุยกับฉันได้เสมอนั่นแหละ" เมื่อซิดเอ่ยเพราะไม่อยากจะเร่งบรรยากาศให้มันดูขัดกันเกินไปเพียงเท่านั้นเอง แต่ทว่านิวกลับรับรู้ถึงความอบอุ่นจากนายท่านของเธอ
ใบหน้าของนิวแดงขึ้นมาเล็กน้อย "ท่านชาโดว์….ขอบคุณมากค่ะ" นิวได้เอ่ยขอบคุณก่อนจะกุมมือของซิดเอาไว้แน่นด้วยความรู้สึกขอบคุณในตัวของเขาจริงๆ
"อาจจะสายไปสักหน่อย แต่ขอรายงานนะคะ" นิวได้เข้าสู่โหมดจริงจังในทันทีพร้อมกับรายงานขึ้นมา "ขณะนี้ชาโดว์การ์เดนล้อมรอบเอาไว้หมดแล้วค่ะ หากสั่งเมื่อไหร่ สามารถลงมือได้ทันที"
"แต่การต่อสู้ในสภาวะที่พลังเวทย์ถูกจำกัดจะมีความเสี่ยงตามค่ะ คนที่สามารถเคลื่อนไหวได้ตามปกติมีเพียงแค่เงาทั้งเจ็ดทุกท่าน แต่คนที่อยู่ในเมืองหลวงตอนนี้มีแค่ท่านแกรมม่าเท่านั้นค่ะ ก็เลยแบบว่า…" นิวพอพูดถึงเรื่องแกรมม่าก็ถึงกับพูดไม่ออกเสียเท่าไหร่นัก "ท่ามแกรมม่า ดูจะไม่ค่อยสันทัดเรื่องพวกนี้เท่าไหร่"
"อืม เซนส์เป็น 0 เลยเนอะ" ซิดพูดตรงๆออกไปก็นะรู้จักกันมาตั้งนานก็คงจะรู้อยู่แล้วล่ะ
"เอ่อ…ค่ะ" นิวได้ตอบเล็กน้อยเท่านั้น "ตัวฉันเองก็ใช้พลังได้ไม่ถึงครึ่งของปกติค่ะ"
"งั้นเหรอ…" ซิดได้ฟังก็หาของในชั้นวางไปด้วยในระหว่างที่นิวกำลังรายงานสถานการณ์ในแต่ละที่ไปด้วย "ขณะนี้ท่านแกรมม่ากำลังออกคำสั่งทุกฝ่ายอยู่ค่ะ ท่ามแกรมม่าคาดว่าสภาวะที่พลังเวทย์ถูกจำกัดเอาไว้…อาจจะคงอยู่ได้ไม่นานขนาดนั้น"
"โดยที่พวกมันนั้นคงจะใช้เวลาจากการผนึกให้นานที่สุด และเสริมแนวป้องกันเพิ่มขึ้นอีก" นิว
"ส่วนกองอัศวินองค์หญิงไอริสเองก็เป็นแนวเบื้องหน้าให้กับพวกเราอยู่ค่ะ แต่ว่าด้วยความขัดแย้งภายในทำให้เกิดปัญหาการบังคับบัญชาอยู่ค่ะ" นิว
"งี้นี่เอง" ซิดได้ยินเรื่องของไอริสก็พลางคิดว่า ไอริสคอยช่วยตัวเขาอยู่อย่างนั้นสินะ…
"หากไม่มีคำสั่งของท่านชาโดว์ เราก็จะรอจนกว่าจะมีการเคลื่อนไหวค่ะ" นิว
"อืม" ซิดได้หันไปนิวพร้อมกับถามไปด้วยว่า "รู้ไหมว่าแหนบมิธริลอยู่ตรงไหน"
"ค่ะ วางอยู่ทางนี้ค่ะ" นิว
"กระดูกผงมังกร แล้วก็…." ซิด
หลังจากช่วยกันสักพักนึงแล้ว ซิดก็หันมาขอบคุณกับนิว "ขอบใจนะนิว ช่วยได้มากเลย"
"ไม่หรอกค่ะ ขอถามได้ไหมคะว่าจะเอาไปทำอะไร" นิวได้ถามออกไปว่าซิดนั้นคิดจะทำอะไรกับของพวกนั้นกันแน่ล่ะซึ่ง ซิดก็ตอบไปตามตรงเลยว่า "กำลังปรับแต่งอาร์ติแฟกต์น่ะ"
"อาติแฟกต์เหรอคะ รู้เรื่องพวกนั้นด้วยเหรอคะ" นิวรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากที่ซิดรู้เรื่องของการอาติแฟกต์ด้วยอีก
"อื้ม" ซิดพยักหน้าเล็กน้อย "ที่จริงแล้วสาเหตุที่ถูกรบกวนมันมาจากทําให้พลังเวท ชื่อว่า [เนตร โลภะ] อาร์ติแฟค"
"การจะหยุดสิ่งนั้นต้องใช้อาร์ติแฟคกำลังทําการอีกอัน ซึ่งตอนนี้วิเคราะห์กันอยู่" เมื่อซิดอธิบายจบนิวก็รู้สึกได้ถึงความสามารถของซิดในตอนนี้แบบสุดๆ
นี่ทราบสาเหตุ และเตรียมมาตรการ รับมือไว้แล้วด้วยอีกและถ้าพูดถึงการวิเคราะห์อาร์ติแฟคก็ต้องใช้ความรู้ระดับสุดยอดของประเทศเลยนะ
"สมกับเป็น ท่านชาโดว์" สติปัญญาของเขาคนนี้…ช่างเหลือล้ำ
"นั่นสิเนอะ คิดว่าน่าจะเสร็จก่อนพระอาทิตย์ตกดินนะ" ซิดบอกทั้งหมดไปก็จริง แต่ว่าก็ไม่ได้บอกไปว่าจะปรับอาติแฟกต์เองซะหน่อย…
"ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็จะเตรียมตัวให้พร้อมลงมือในเวลานั้นค่ะ" นิวได้ก้มลงให้กับผู้เป็นนายก่อนที่ซิดจะเดินจากไปนั่นเอง
นิวได้ยิ้มขึ้นมาพลางคิดในใจไปด้วยว่า เอาไว้ค่อยชวนนายท่านไปเที่ยวด้วยจะดีกว่าไหมนะ
"………." แต่ทว่านิวก็กลับเงียบไปชั่วครู่นึงเพราะเธอได้ยินเสียงลมหายใจได้แรงขึ้นมาจากมาร์โก้
"ที่พูดไปเมื่อกี้" เธอได้ชักดาบสไลม์ออกมาจากใต้แขนเสื้อและชี้ไปที่มาร์โก้ในทันที "คงไม่ได้ยินสินะ??"
นิวได้มองไปที่มาร์โก้เห็นแค่ว่าเขาหายใจแรงขึ้นจากสภาวะใกล้จะตายเพียงเท่านั้นเอง นิวได้ถอดแว่นตาและกิ๊บหนีบผมของเธอออกไปด้วย
"ผู้ที่ล่วงรู้ตัวตนที่แท้จริงของท่านชาโดว์ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ยกโทษให้ไม่ได้"
ความคิดเห็น