ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Bad Mafia's ได้โปรดเถอะนาย! ไว้ชีวิตหัวใจฉันที

    ลำดับตอนที่ #5 : ความจริง 2

    • อัปเดตล่าสุด 26 ก.ย. 59


              คุณลุงได้ปลอบประโลมฉัน จนฉันเริ่มที่จะทรงตัวได้ เขาเลยประคองฉันให้ขึ้นมานั่งบนเก้าตามเดิม แล้วเขาก็เล่าทุกอย่างที่ฉันยังไม่รู้ออกมา 
              "คือว่า...จริงอยู่ว่าตอนอุบัติเหตุ หนูถูกพวกกลุ่มมาเฟียโจมตี แต่มาเฟียเหล่านั้นไม่ใช่พวกลลุงแน่นอน ลุงขอสาบานเลย"
              ไม่ใช่พวกเขา... ( ' ' )
              แล้วมันจะเป็นใครกันล่ะ นี่บนโลกนี้ยังมีมาเฟียมากกว่าหนึ่งกลุ่มอีกงั้นเหรอ!
              "แล้ว...พวกมันคือ"
              "ตามที่สืบสาวมาได้ น่าจะเป็นพวกบีทเทิ้ล กลุ่มมาเฟียที่มาพี่ชายของพ่อหนูเป็นบอสไงล่ะ"
              พี่ชายของพ่อ! คุณลุงบีทเทิ้ลที่พ่อบอกว่าไม่ชอบเขาน่ะเหรอ!
              นี่พ่อของฉันติดต่อกับมาเฟียกี่แก๊งค์กันเนี่ย ถึงได้มีญาติสนิทมิตรสหายเยอะขนาดนี้ ชักจะอยากรู้แล้วสิว่าพ่อยิงปืนหรือต่อสู้เป็นรึเปล่า -_-
              "คุณลุงบีทเทิ้ลน่ะเหรอคะ"
              "ใช่ ไอ้หมอนั่นแหละที่เป็นคนทำ -*-"
              คุณลุงเล็คเตอร์ทำหน้าตาเคร่งเครียดขึ้นมาหลังจากพูดถึงคุณลุงบีทเทิ้ล ดูเหมือนว่าเขาก็คงจะแค้นคุณลุงบีทเทิ้ลไม่น้อยเหมือนกัน เพราะพ่อกับคุณลุง
    เล็คเตอร์น่ะเป็นเพื่อนกัน แต่เพราะพ่อมีอายุน้อยกว่าเลยให้ฉันเรียกเขาว่าคุณลุง แต่คุณลุงบีทเทิ้ลน่ะเป็นพี่ชายของพ่อฉัน แต่เพราะพ่อฉันไม่ชอบลุงบีทเทิ้ลเท่าไหร่ เลยไม่ค่อยได้คุยกับเขาเลย ส่วนมากก็จะได้คุยแต่กับลุงเล็คเตอร์นี่แหละ และดูเหมือนเขาก็มีลูกชายนี่นา ฉันจำได้ว่าเขาชื่อ เอ็ท แต่ไม่รู้ตอนนี้เป็นยังไงบ้างแล้วล่ะ
              "คุณลุงบีทเทิ้ล ก็เป็นมาเฟียอย่างงั้นเหรอคะ"
              "แน่นอน แต่เพราะเขาเป็นคนที่ชอบเอาเปรียบและนิสัยเสียมากๆ เลยแยกตัวออกจากพี่ชายเขา แล้วมาหาชีวิตที่มีความสุขกับลุงที่เป็นเพื่อนสนิทของเขา พ่อของหนูน่ะต่อสู้เก่งมากๆเลยนะรู้รึเปล่า แม่ของหนูก็ยิงธนูเก่งมากๆเลย ทักษะการต่อสู้ระยะประชิดก็หาใครเปรียบไม่ได้ แต่แม่หนูก็ต้องหยุดเรื่องพวกนั้นไปพอรู้ว่ามีหนูอยู่ในท้อง และแน่นอนว่าตอนนั้นเมียของลุงก็กำลังตั้งท้องอยู่เหมือนกัน พวกเธอสองคนเลยชอบอยู่ด้วยกันบ่อยๆ แต่เพราะเมียลุงเป็นคนนิ่งแต่เถื่อน เลยสร้างเรื่องป่วนไปเรื่อยเลย แล้วก็ได้ลูกชายตัวแสบออกมาเหมือนแม่มัน แต่ไอ้นี่จะนิ่งมากกว่า หนูอาจจะจำไม่ได้ก็ได้...."
              "เอ็ท :)"
              ฉันพูดชื่อเพื่อนสมัยเด็กของฉันสวนขึ้นมาเป็นสัญลักษณ์ว่าฉันจำเขาได้ และยังคงจำได้ไม่ลืม เพราะเขาเป็นผู้ชายที่ฉันชอบเล่นด้วยมากที่สุดในตอนเด็กๆ 
              "หนูยังจำมันได้ด้วยเหรอ o_o"
              "เด็กดื้อแบบนั้น จำได้ไม่ลืมหรอกค่ะ ฮ่าๆ ^^"
              ฉันหัวเราะออกมา ทำเอาคุณลุงก็หัวเราะตามเหมือนกัน จนสักพักลุงก็ได้หยิบอะไรบางอย่างออกมา แล้วยื่นให้ฉันดู ฉันสำรวจดูสักพักก็รู้ว่ามันเป็นโบว์ผูกผมของแม่ฉันที่นางมักจะใส่อยู่บ่อยๆ ทำเอาฉันอดกลั้นน้ำตาคลอไม่ได้
              "นางฝากไว้ให้ลุงตอนก่อนตาย นางบอกว่ายังไม่เคยให้ของขวัญวันเกิดที่เป็นของประดับตกแต่งเลยสักชิ้น เลยอยากจะให้หนูน่ะ ^^"
              "ขอบคุณมากนะคะ หนูจะเก็บรักษาอย่างดีเลย :)"
              ฉันเอาโบว์ของแม่ใส่กระเป๋ากระโปรง แล้วก็ปาดน้ำตาที่คลอของฉันให้เรียบร้อยก่อนจะมาคุยกันกับคุณลุงต่อ ฉันจะมามัวเสียใจไม่ได้ ฉันต้องเอาให้รู้เรื่องก่อนสิ แล้วค่อยคิดว่าจะเอายังไงต่อไป
              "ลุงคิดว่าหนูน่าจะกลับมาที่นี่ได้ตั้งนานแล้ว พ่อกับแม่ของหนูทำงานเป็นที่ปรึกษานอกแก๊งค์ของพวกเรา เพราะฉะนั้นหนูก็กลับมาทำงานแทนพ่อแม่ก็ได้นะ"
              "ที่ปรึกษานอกแก๊งค์คืออะไรเหรอคะ -_-"
              ฉันก็สงสัยมาตลอดแหละนะว่าพ่อกับแม่อยู่ที่นี่ในฐานะอะไร ต้องทำยังไงบ้าง และมันหนักหนาสาหัสขนาดไหนกันแน่ 
              "เป็นหน้าที่เล็กๆนั่นแหละ เขาจะคอยให้คำปรึกษาเราและวางแผนกำลังรบ โดยที่จะไม่ค่อยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้ถ้าไม่จำเป็นน่ะนะ ลุงว่าหนูน่าจะทำงานสบายๆนี้ได้ แน่ๆ ลุงเชื่อ..."
              วางแผนการรบ....
              ถ้าให้ฉันมาคิดเรื่องพวกนี้ มีหวังได้ตายกันหมดยกครัวแน่ ฉันไม่ได้ถนัดเรื่องพวกนี้เลยซักกะติ๊ด จะให้มานั่งคิดอะไรแบบนี้คงได้ไปขึ้นสวรรค์กันทั้งแก๊งค์แน่นอนจ้า ไม่ไหวแน่ๆถ้าต้องทำอะไรแบบนี้ ขอบายได้มั้ยยย T_T
              "ลุงคะ หนูไม่ได้เก่งขนาดนั้นนะคะ จะให้หนูมาทำหน้าที่นี้มันก็..."
              "ไม่เป็นไรหรอกน่า ค่อยๆเป็นค่อยๆไปนะ ลุงเชื่อว่าหนูต้องทำได้ ขนาดพ่อแม่หนูยังทำได้เลย จริงมั้ยล่ะ ^^"
              เออเนอะ ถ้าพ่อแม่ทำได้ ก็ต้องลองซักตั้งสินะ *_*
              "ค่ะลุง แต่ว่ามีเรื่องหนึ่งที่หนูอยากรู้มากๆเลยน่ะค่ะ"
              "อะไรล่ะ"
              "ทำไมคุณลุงบีทเทิ้ลต้องฆ่าครอบครัวหนูด้วยล่ะคะ?"
              ฉันถามคุณลุงออกไปอย่างสงสัย มันเป็นคำถามที่ค้างคาใจฉันมานาน ก็รู้นะว่าพ่อไม่ชอบเขา แต่ไม่เห็นจะต้องรบราฆ่าฟันกันขนาดนี้เลยนี่นา มันโหดร้ายไปนะถ้าเขาจะทำแบบนี้ ฉันเชื่อว่ามันต้องมีเหตุผลสิ
              "เรื่องนั้นลุงเองก็ไม่แน่ใจ แต่ว่าถ้าเกิดพวกมันรู้ว่าหนูยังมีชีวิตอยู่ ไม่นานมันคงต้องตามมาเก็บหนูแน่ๆ ยังไงก็ต้องอยู่กับลุงไปก่อน แล้วค่อยๆสืบสาวราวเรื่องไปอีกทีน่ะนะ ตอนนี้หนูคงจะยังไม่เข้าใจมากๆ ลุงก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่เดี๋ยวเราจะจับอะไรหลายๆอย่างมาเชื่อมโยงกัน แล้วหาสาเหตุของการถูกฆ่าล้างบางตระกูลของหนูอีกทีนะ ไม่ต้องห่วง อีกไม่นานหรอก :)"
              เขาตบไหล่ฉันเบาๆ แล้วเขาก็รื้อของในเก๊ะบนโต๊ะของเขาแล้วหยิบอะไรบางอย่างออกมาแล้วชูให้ฉันดู
              "เอ่อ...อะไรเหรอคะ?"
              "จำได้มั้ยว่าในรูปนั่นใคร :)"
              ฉันพยายามมองไปที่รูปนั้น มันเป็นรูปของฉันตอนเด็กแล้วก็มีเด็กผู้ชายอีกคนนึงกำลังเล่นขุดดินกับฉัน ซึ่งฉันจำได้ดีว่าเขาเป็นใคร ^^
              "เอ็ทไงคะ ว่าแต่...เขาอยู่ไหนล่ะคะ ทำไมฉันรู้สึกไม่เจอหน้าเขาเลยล่ะ"
              ปกติฉันจำคนเก่งนะ ทำไมถึงจำไม่ได้นะว่าเค้าคือคนไหนน่ะ -_-
              "ฮ่าๆ มันก็อยู่ในห้องนี้แหละ ^o^"
              0.0
              หนึ่งในชายฉกรรจ์พวกนี้น่ะเหรอ! ปะ...เป็นไปไม่ได้ ทำไมฉันรู้สึกไม่คุ้นหน้าสักคนเลยล่ะ นี่หรือว่าเขาจะแอบแกล้งฉัน ฉันรีบปราดสายตามองไปรอบๆ แล้วสายตาก็ไปสะดุดกับอีตาคุณเอเทอร์ ที่ยืนกอดอกอยู่ในมุมมืดของห้อง ซึ่งนั่นทำให้ฉันนึกถึงเหตุการณ์อะไรบางอย่างในตอนเด็กได้ เวลาที่เอ็ทมาบ้านฉัน หมอนั่นจะชอบอยู่ในที่ลับสายตาจนฉันมองไม่เห็น พอเดินผ่านแล้วมองไม่เห็นเขา หมอนี่ก็จะส่งเสียงออกมาเพื่อบอกให้รู้ว่าเขายืนอยู่ตรงนั้น และทำให้ฉันตกใจทุกครั้ง ซึ่งฉันรู้สึกได้ว่าคนที่กำลังยืนกอดอกอยู่ตรงนั้น คือหมอนั่น เอเทอร์ คนที่ยืนพิงกำแพงอยู่ตรงนั้น ต้องใช่แน่ๆ หมอนี่ต้องจงใจเปลี่ยนชื่อสินะ หลอกฉันไม่ได้หรอกย่ะ :)
              "คนนั้นใช่มั้ยคะ? ( ' ')/"
              ฉันชี้เป้าไปที่อีตาเอเทอร์ ทำให้พอร์ชที่ยืนอยู่ข้างๆเขา แกล้งเขยิบตัวออกห่างเขาทันที เขาที่ยืนกอดอกมองเลยเดินเข้ามาใกล้ๆ ทำให้ฉันเริ่มจะมองเห็นโครงหน้าที่ชัดเจนของเขา เขามองฉันด้วยหน้าที่นิ่งเงียบ เย็นชา และเยือกเย็น
              "ใช่ ไม่นึกว่าหนูจะจำได้นะเนี่ย เพราะมันเปลี่ยนสีผมไม่เคยซ้ำเลยตั้งแต่มันเป็นวัยรุ่น นี่ก็สีล่าสุดของมัน ย้อมมาได้สักสี่ปีแล้วล่ะสีนี้ เป็นสีที่น่าจะนานที่สุดแล้วล่ะมั้ง ฮ่าๆ ^^"
              ยิ่งคุณลุงพูดยืนยัน เลยยิ่งทำให้ฉันตกใจในตัวผู้ชายร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้า เขาต่างจากตอนเด็กมาก ตอนนั้นเขาเป็นคนที่ไม่ค่อยยิ้ม พูดเสียงเรียบ แต่คงเพราะรูปพรรณสัณฐานตอนเด็กล่ะมั้ง เลยทำให้ดูไม่มีพิษภัยอะไร ไม่นึกว่าพอโตมากับนิสัยที่เหมือนเดิม จะน่ากลัวเหมือนสิงโตขนาดนี้นะ o_o
              "นี่น่ะเหรอคะ เอ็ท....แต่ว่าหมอนี่ชื่อเอเทอร์ไม่ใช่เหรอคะ? หรือว่าจะเปลี่ยนชื่อ"
              "ก็ชื่อเดิม แต่ฉันก็แค่ให้เธอเรียกฉันแบบสั้นๆเท่านั้น ยัยเซ่อร์ -_-"
              เขาบอกฉันหน้านิ่ง แล้วก็ทำให้ฉันนึกขึ้นมาได้ว่า คำว่าเอเทอร์ พอย่อขนาดคำเข้ามาก็จะเป็นคำว่าเอ็ทจริงๆด้วย ทำไมฉันถึงไม่เอะใจกันนะ โถ่เอ้ยย บ้าจริงๆเลยเรา
              "ฮ่าๆๆ พวกเธอยังเข้ากันได้ดีเหมือนเดิมเลยนะ เอาเป็นว่าพ่อฝากเพิร์ลไว้กับลูกด้วยนะเอ็ท แล้วก็หนูเพิร์ล ทำตัวตามสบายเลยนะ คิดซะว่านี่เป็นบ้านหนูไปเลยก็ได้ ยังไงลุงก็เคยช่วยพ่อแม่หนูตั้งชื่อหนูขึ้นมาด้วย ^^"
              "เห...จริงเหรอคะ"
              "จริงสิ ก็พ่อหนูชื่อว่า บีชเชอร์ ที่แปลว่าชายหาด แม่ของหนูชื่อ เชล ที่แปลว่าหอย เมื่อหอยไปอยู่ในชายหาดที่แสนสวย ก็จะสามารถสร้างสิ่งสวยงามที่เรียกว่า ไข่มุกได้ ลุงเลยเสนอชื่อนี้ไป พ่อหนูเลยถูกใจมากๆเลยล่ะ ^^"
              นี่คุณลุงนี่ทำให้ฉันเกือบจะทุกอย่างเลย ตั้งแต่ตั้งชื่อ ยันประเคนชีวิตใหม่ให้ ฉันอยากจะถลาเข้าไปกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ที่เท้าเค้างามๆสักยี่สิบที แต่ก็กลัวอายชาวบ้านชาวช่องเขาอยู่เหมือนกัน
              "ขอบคุณมากๆเลยนะคะลุง สำหรับหลายๆอย่าง ^/\^"
              ฉันยกมือไหว้ให้เขา เขาก็รับไหว้ฉันแล้วตบไหล่ฉันเบาๆ
              "เอาเถอะ ยังไงตอนนี้ก็ไปพักผ่อนก่อนนะ พ่อฝากเพิร์ลด้วยนะเอ็ท"
              "..." เขาพยักหน้ารับเบาๆ
              "ถ้าหากว่ามันแกล้งอะไรหนูมาฟ้องลุงได้เลยนะ ^^"
              "ได้เลยค่ะลุง :)"
              "หึ....ผมไม่อยากจะเจี๊ยะยัยนี่หรอกนะ"
              เขากล่าวขึ้นมาโดยที่ไม่มองหน้าฉัน เหมือนจะพูดลอยๆ หน็อย! นี่ฉันนึกว่าไอ้การกวนประสาทของเขานี่จะเป็นแค่ตอนเด็กซะอีก ไหนโตมาแล้วมันหนักกว่าเดิมได้ล่ะ ฉันว่าฉันกับเขาตอนเด็กนี่ปั่นประสาทกันมันส์แล้วนะ สงสัยตอนโตนี่ได้ปั่นประสาทกันมันส์หนักกว่าเดิมแน่ๆเลย
              "นาย...ว่าไงนะ! o_o"
              "ฮ่าๆๆ ไม่เอาไม่ทะเลาะกันสิ 14 ปีผ่านมาแล้วยังชอบด่ากันเองไม่เลิกอีกรึไง ไปๆๆ เอ็ท พาเพิร์ลไปทัวร์คฤหาสน์ แล้วพาไปอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อยซะไป อย่าตีกันให้มากนักล่ะ ^^"
              ฉันคิดไปเองรึเปล่าว่าสิ่งที่ลุงขอจะไม่เป็นจริง!
              "ไปสิ"
              "อะไร!"
              "..."
              ฟึ่บ!
              "กรี๊ดดด ปล่อยฉันนะ จะพาฉันไปไหนน่ะ ม่ายยย!"
              ไม่พูดไม่กล่าว อีตาเอ็ทจับฉันอุ้มแล้วพาออกไปนอกห้องแล้วจ้าา ฉันว่าหลังจากนี้ฉันคงอยู่ไม่สุขของจริงแล้วล่ะ ให้ตายเถอะ จะบ้าตายย ><

    [โปรดติดตามตอนต่อไป]
    อย่าลืมโหวดหรือเม้นท์เป็นกำลังใจให้ด้วยเน้ออ
    .
    .
    .
    .
    .
          "ใกล้สอบแล้ว อย่าลืมอ่านหนังสือเยอะๆนะ"
    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×