ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : รักหลากรส บทที่1 : ยินดีที่ได้รู้จัก(part 5)
          “เฮ้! นายพัท” เสียงที่ร่าเริงสดใสของทรายดังออกมาจากโทรศัพท์มือถือของชายหนุ่มคนหนึ่งที่ขับรถด้วยความรีบร้อนอยู่บนถนนใจกลางเมือง เจ้าของรถเป็นหนุ่มที่ดูดีมีสไตล์แต่งกายด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวที่เรียบสนิทราวกับว่าไม่เคยใส่มาก่อน และกางเกงแสลคสีดำที่พอดีตัวราคาไม่แพงแต่เมื่อขึ้นมาอยู่บนเรือนร่างของพัทคนนี้ก็ดูดีราวกับสั่งตัดที่ร้านตัดเสื้ออย่างดี
ชายหนุ่มผิวขาวสะอาด หน้าตาดี ดวงตาเป็นประกายพร้อมจะมอบความสุขให้แก่คนที่พบเห็น แฝงเอาไว้ซึ่งความเศร้า จากเหตุผลที่ไม่มีใครเข้าใจได้ ชายหนุ่มเปิดกระจกรถไว้ด้านหนึ่ง ทำให้ผมยาวแค่คอปลิวไสวตามแรงลม รับโทรศัพท์ของเพื่อนสาวที่โทรมาได้ถูกเวลาพอดี
“ว่าไงทราย” เสียงที่ตอบกลับไปเป็นเสียงที่เคยนุ่มนวลน่าฟัง แต่เนื่องจากไม่ได้คุยกับใครมานานมันจึงแหบพร่า และดูไร้ชีวิตชีวาแฝงอยู่ในน้ำเสียงนั้น
“นี่นายอยู่ไหน”
“กำลังไปทำงาน มีงานใหม่แล้ว” ชายหนุ่มพูดสั้นห้วนแบบที่ไม่ใช่ตัวตนของเขาเลย
“อ๋อหรอ ทำอะไรอ่ะ อยู่ที่ไหนแผนกไหน”
“บริษัท ผลิตอาหารเสริมน่ะ ชื่อนูทรีพลัส เราไปเป็นเลขาของประธานบริษัท”
“โอ้โห ประธานบริษัทเชียวนะยะ” ทรายทำเสียงสูง “แต่ทำไมรับเลขาฯเป็นผู้ชายล่ะ”
“ไม่รู้เหมือนกัน แต่เค้าดูประวัติแล้วก็รับเข้าเลย” เขาหยุดสักพักราวกับจะกระตุ้นความทรงจำในวันที่ไปสมัครงาน “จำได้ว่าให้ใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ไป รับผู้ชายอายุ 20-25 เท่านั้น แล้วก็ดูหน้าตาพินิจพิจารณาหยั่งกับจะไปเทสต์หน้ากล้องดาราแน่ะ” ผู้พูดอดขำไม่ได้
“หูยระวังตัวให้ดีนะ เผื่อเค้าจับไปถ่ายหนังโป๊” ทรายหัวเราะกลับมา แต่ก็ถูกผู้ที่สนทนาด้วยสวนกลับ “เออเราเองก็อยากถ่ายอยู่พอดี”
ทั้งคู่หัวเราะออกมาอย่างมีความสุข
“ไม่หรอกน่า บริษัทเค้ามีชื่อนะ”
“จ้าๆ เราก็ล้อเล่น” พอเสียงหัวเราะซาลง ทรายก็เริ่มเข้าเรื่อง “นายทำใจได้แล้วหรอ เรื่อง นั้นน่ะ”
“อืม เราก็เลยหางานใหม่ทำไง เราไม่มัวมานั่งเสียใจนานๆหรอก” พัทลดเสียงลง “ก็เรามีทรายอยู่แล้วทั้งคนจะไปกังวลทำไมเรื่องแฟนเก่า เนอะ”
“ช่ายๆ เราอยู่ข้างนายทั้งคน”
“ทรายเดี๋ยวเราว่าจะเข้าไปหาทรายที่ร้านวันพรุ่งนี้แต่ว่าคงจะไม่ได้ เพราะว่าเราคงต้องทำงานหนักหน่อยเผื่อจะได้ลืมใครบางคนไปได้บ้าง” น้ำเสียงเค้าดูเศร้าลงตรงช่วงท้ายประโยค
“เอาเถอะ พรุ่งนี้จะยังไงก็ช่าง แต่มีข้อแม้ว่าวันนี้ นายต้องมากินข้าวฝีมือเรา ที่บ้านฝ้าย”
“เย้ ดีจังได้กินข้าวฝีมือทรายอีกแล้ว” ชายหนุ่มตอบในขณะที่เลี้ยวรถเข้าจอดในลานจอดรถของบริษัท นูทรีพลัส “เราต้องเตรียมยาแก้ท้องเสียไปด้วยมั๊ย”
“เอาเถอะ ไม่อยากกินก็ไม่ต้องมา” ทรายแกล้งงอน
“เราพูดเล่น” พัทก้าวลงจากรถก่อนที่จะเดินไปยังลิฟต์ของบริษัท
“โอเคแค่นี้แหละขอให้สนุกกับงานใหม่นะจ๊ะ”
“ค๊าบ แค่นี้นะ คิดถึง บาย”
ทันทีที่ปลายสายวางลง พัทก้อกระโดดลงจากรถด้วยความเร่งรีบ เพราะในไม่ถึง 5 นาทีเจ้านายคนใหม่ของเขาก็จะมารอที่ห้องทำงาน พัทวิ่งมาจนถึงหน้าลิฟต์ด้วยความที่รีบร้อนไม่ทันดูอะไรจึงกดลงไปที่ปุ่มขึ้น โดยที่ไม่รู้เลยว่ามีมือของใครอีกคนวางอยู่บนปุ่มนั้นอยู่ก่อนแล้ว ทันทีทันใดที่มือทั้งสองมือสัมผัสกันกระแสไฟฟ้าก็ไหลเวียนจากที่หนึ่งไปสู่อีกที่อย่างรวดเร็ว ทั้งคู่รู้สึกหวิวๆ ในสัมผัสที่เกิดขึ้น แต่ในไม่กี่นาทีหลังจากที่ทั้งคู่รู้สึกตัว มือของเค้าทั้งสองก็แยกออกจากกัน
มือของเขาทั้งสอง
ไม่ใช่มือของเขาและเธอ!!!
เหตุใดถึงได้รู้สึกวาบหวิวใจ ทั้งๆที่ทั้งคู่เองก็เป็นผู้ชาย พัทถอนมือออกจากมือของอีกฝ่าย เจ้าของมือสีแทนนั้น ยิ้มให้อย่างเป็นกันเองก่อนที่จะเอ่ยคำขอโทษกันทั้งพัท และชายหนุ่มคนนั้น แต่ก่อนที่จะพูดอะไรได้มากไปกว่านั้นลิฟต์ตัวที่อยู่ข้างหน้าเค้าสองคนก็มาถึงชั้นที่พวกเค้าอยู่พอดี ทันทีที่ลิฟต์เปิดชายหนุ่มทั้งสองก็ถูกดันเข้าไปในลิฟต์เพราะเหล่าพนักงานที่เบียดกรูกันเข้ามา หน้าของพัทถูกอัดเค้ากับมุมผนังลิฟต์ตามมาติดๆด้วยชายหนุ่มอีกคนที่เจอกันหน้าลิฟต์อัดติดกันกับตัวพัท หน้าอกของชายหนุ่มคนนั้นเบียดติดกับแผ่นหลังของพัทชนิดที่ว่าอะไรๆอย่างอื่นก็พลอยแนบสนิทกันไปด้วย!
“คุณคับผมขอโทษนะ แต่ว่ามันเบียดจริงๆ ผมไม่ได้ตั้งใจนะ”
ทันทีที่ได้ยินดังนั้นพัทก็หันกลับมาเพื่อที่จะตอบโดยลืมไปว่าตัวเองอยู่ในท่าไหน ทันทีที่พัทหมุนตัวกลับมาเขาก็ประจันหน้ากับชายหนุ่มคนนั้นอย่างที่เรียกได้ว่าวัดเป็นเซนติเมตรได้เลย และในนาทีนั้นเองลมหายใจของชายหนุ่มผู้นั้นก็ปะทะลงมาที่หน้าของพัทเป็นลมหายใจแรกที่พัทรู้สึกว่ามันคือลมพายุที่แรงกล้าที่พัดหัวใจของเขาให้หลุดออกไปจากช่องอก
เมื่อมาอยู่ใกล้ๆกันจริงๆพัทก็ตระหนักได้ว่าชายหนุ่มตรงหน้าช่างหล่อเหลาราวกับเทพบุตรจริงๆ ดวงตาคมเข้มสีดำขลับทั้งสองดวงแม้จะมองลอกแล่กไปมาแต่ก็ดูเท่ราวกับพระเอกหนัง จมูกที่วางอยู่ที่ตรงตำแหน่งกลางใบหน้าก็โด่งได้รูป รับกันกับดวงตา เหนือริมฝีปากเนียนบางมีไรหนวดประดับอยู่ เคราที่คางโกนไว้เรียบร้อยดูดีมีระเบียบเสริมความคมเข้มแบบหนุ่มไทยเต็มรูปแบบ สรุปแล้วก็คือนายคนนี้ดูสมบูรณ์แบบเหมือนกับเคาะออกมาจากพระเอกวรรณคดีไทยเลยจริงๆ
“เอ่อผม... คือผม” พัทอึกอัก เพราะทุกครั้งที่เค้าอ้าปาก ทุกครั้งที่ลมหายใจแล่นออกจากหน้าก็ปะทะเข้ากับหน้าของชายหนุ่มคนนั้น มันทำให้เค้าไม่กล้าแต่แต่จะปล่อยลมหายใจ
“เอ่อ... คือ” แต่ทันใดนั้นลิฟต์ก็เปิดออกที่ชั้น 3 ชายหนุ่มทั้งสองไม่อยากจะให้มีใครออกไปจากลิฟต์เลย อยากให้อยู่อย่างนี้ ถ้าเป็นไปได้ตลอดไปก็ดีแต่เค้าทั้งสองไม่ได้อยู่ในท่าเดิมนั้นแล้วแหละ เพราะเมื่อถึงชั้น3 คนก็ออกไปแค่ 3 คน แต่คนที่เข้ามาเพิ่มคือ 6 คน ทำให้ยิ่งเบียดกันเข้าไปใหญ่ จนหน้าของทั้งสองคนไม่สามารถห่างกันแค่ ไม่กี่เซนติเมตรได้อีกแล้วมันจึงทำให้พัทต้องเอียงหัวไปอีกทาง หัวของชายหนุ่มคนนั้นยื่นเกยไหล่ของพัทไว้
ไม่นานนักลิฟต์ตัวนี้ก็เปิดออกพนักงานมาก มายก็กรูกันออกไปจากลิฟต์พัทกับชายหนุ่มคนนั้นจึงต้องผละกันออกไปด้วยความจำเป็น ทันทีที่พัทออกจากลิฟต์เค้าพยายามที่จะเรียกชายหนุ่มคนนั้นแต่เขากลับสาวเท้าไปเสียก่อนแล้ว
ชายหนุ่มผิวขาวสะอาด หน้าตาดี ดวงตาเป็นประกายพร้อมจะมอบความสุขให้แก่คนที่พบเห็น แฝงเอาไว้ซึ่งความเศร้า จากเหตุผลที่ไม่มีใครเข้าใจได้ ชายหนุ่มเปิดกระจกรถไว้ด้านหนึ่ง ทำให้ผมยาวแค่คอปลิวไสวตามแรงลม รับโทรศัพท์ของเพื่อนสาวที่โทรมาได้ถูกเวลาพอดี
“ว่าไงทราย” เสียงที่ตอบกลับไปเป็นเสียงที่เคยนุ่มนวลน่าฟัง แต่เนื่องจากไม่ได้คุยกับใครมานานมันจึงแหบพร่า และดูไร้ชีวิตชีวาแฝงอยู่ในน้ำเสียงนั้น
“นี่นายอยู่ไหน”
“กำลังไปทำงาน มีงานใหม่แล้ว” ชายหนุ่มพูดสั้นห้วนแบบที่ไม่ใช่ตัวตนของเขาเลย
“อ๋อหรอ ทำอะไรอ่ะ อยู่ที่ไหนแผนกไหน”
“บริษัท ผลิตอาหารเสริมน่ะ ชื่อนูทรีพลัส เราไปเป็นเลขาของประธานบริษัท”
“โอ้โห ประธานบริษัทเชียวนะยะ” ทรายทำเสียงสูง “แต่ทำไมรับเลขาฯเป็นผู้ชายล่ะ”
“ไม่รู้เหมือนกัน แต่เค้าดูประวัติแล้วก็รับเข้าเลย” เขาหยุดสักพักราวกับจะกระตุ้นความทรงจำในวันที่ไปสมัครงาน “จำได้ว่าให้ใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ไป รับผู้ชายอายุ 20-25 เท่านั้น แล้วก็ดูหน้าตาพินิจพิจารณาหยั่งกับจะไปเทสต์หน้ากล้องดาราแน่ะ” ผู้พูดอดขำไม่ได้
“หูยระวังตัวให้ดีนะ เผื่อเค้าจับไปถ่ายหนังโป๊” ทรายหัวเราะกลับมา แต่ก็ถูกผู้ที่สนทนาด้วยสวนกลับ “เออเราเองก็อยากถ่ายอยู่พอดี”
ทั้งคู่หัวเราะออกมาอย่างมีความสุข
“ไม่หรอกน่า บริษัทเค้ามีชื่อนะ”
“จ้าๆ เราก็ล้อเล่น” พอเสียงหัวเราะซาลง ทรายก็เริ่มเข้าเรื่อง “นายทำใจได้แล้วหรอ เรื่อง นั้นน่ะ”
“อืม เราก็เลยหางานใหม่ทำไง เราไม่มัวมานั่งเสียใจนานๆหรอก” พัทลดเสียงลง “ก็เรามีทรายอยู่แล้วทั้งคนจะไปกังวลทำไมเรื่องแฟนเก่า เนอะ”
“ช่ายๆ เราอยู่ข้างนายทั้งคน”
“ทรายเดี๋ยวเราว่าจะเข้าไปหาทรายที่ร้านวันพรุ่งนี้แต่ว่าคงจะไม่ได้ เพราะว่าเราคงต้องทำงานหนักหน่อยเผื่อจะได้ลืมใครบางคนไปได้บ้าง” น้ำเสียงเค้าดูเศร้าลงตรงช่วงท้ายประโยค
“เอาเถอะ พรุ่งนี้จะยังไงก็ช่าง แต่มีข้อแม้ว่าวันนี้ นายต้องมากินข้าวฝีมือเรา ที่บ้านฝ้าย”
“เย้ ดีจังได้กินข้าวฝีมือทรายอีกแล้ว” ชายหนุ่มตอบในขณะที่เลี้ยวรถเข้าจอดในลานจอดรถของบริษัท นูทรีพลัส “เราต้องเตรียมยาแก้ท้องเสียไปด้วยมั๊ย”
“เอาเถอะ ไม่อยากกินก็ไม่ต้องมา” ทรายแกล้งงอน
“เราพูดเล่น” พัทก้าวลงจากรถก่อนที่จะเดินไปยังลิฟต์ของบริษัท
“โอเคแค่นี้แหละขอให้สนุกกับงานใหม่นะจ๊ะ”
“ค๊าบ แค่นี้นะ คิดถึง บาย”
ทันทีที่ปลายสายวางลง พัทก้อกระโดดลงจากรถด้วยความเร่งรีบ เพราะในไม่ถึง 5 นาทีเจ้านายคนใหม่ของเขาก็จะมารอที่ห้องทำงาน พัทวิ่งมาจนถึงหน้าลิฟต์ด้วยความที่รีบร้อนไม่ทันดูอะไรจึงกดลงไปที่ปุ่มขึ้น โดยที่ไม่รู้เลยว่ามีมือของใครอีกคนวางอยู่บนปุ่มนั้นอยู่ก่อนแล้ว ทันทีทันใดที่มือทั้งสองมือสัมผัสกันกระแสไฟฟ้าก็ไหลเวียนจากที่หนึ่งไปสู่อีกที่อย่างรวดเร็ว ทั้งคู่รู้สึกหวิวๆ ในสัมผัสที่เกิดขึ้น แต่ในไม่กี่นาทีหลังจากที่ทั้งคู่รู้สึกตัว มือของเค้าทั้งสองก็แยกออกจากกัน
มือของเขาทั้งสอง
ไม่ใช่มือของเขาและเธอ!!!
เหตุใดถึงได้รู้สึกวาบหวิวใจ ทั้งๆที่ทั้งคู่เองก็เป็นผู้ชาย พัทถอนมือออกจากมือของอีกฝ่าย เจ้าของมือสีแทนนั้น ยิ้มให้อย่างเป็นกันเองก่อนที่จะเอ่ยคำขอโทษกันทั้งพัท และชายหนุ่มคนนั้น แต่ก่อนที่จะพูดอะไรได้มากไปกว่านั้นลิฟต์ตัวที่อยู่ข้างหน้าเค้าสองคนก็มาถึงชั้นที่พวกเค้าอยู่พอดี ทันทีที่ลิฟต์เปิดชายหนุ่มทั้งสองก็ถูกดันเข้าไปในลิฟต์เพราะเหล่าพนักงานที่เบียดกรูกันเข้ามา หน้าของพัทถูกอัดเค้ากับมุมผนังลิฟต์ตามมาติดๆด้วยชายหนุ่มอีกคนที่เจอกันหน้าลิฟต์อัดติดกันกับตัวพัท หน้าอกของชายหนุ่มคนนั้นเบียดติดกับแผ่นหลังของพัทชนิดที่ว่าอะไรๆอย่างอื่นก็พลอยแนบสนิทกันไปด้วย!
“คุณคับผมขอโทษนะ แต่ว่ามันเบียดจริงๆ ผมไม่ได้ตั้งใจนะ”
ทันทีที่ได้ยินดังนั้นพัทก็หันกลับมาเพื่อที่จะตอบโดยลืมไปว่าตัวเองอยู่ในท่าไหน ทันทีที่พัทหมุนตัวกลับมาเขาก็ประจันหน้ากับชายหนุ่มคนนั้นอย่างที่เรียกได้ว่าวัดเป็นเซนติเมตรได้เลย และในนาทีนั้นเองลมหายใจของชายหนุ่มผู้นั้นก็ปะทะลงมาที่หน้าของพัทเป็นลมหายใจแรกที่พัทรู้สึกว่ามันคือลมพายุที่แรงกล้าที่พัดหัวใจของเขาให้หลุดออกไปจากช่องอก
เมื่อมาอยู่ใกล้ๆกันจริงๆพัทก็ตระหนักได้ว่าชายหนุ่มตรงหน้าช่างหล่อเหลาราวกับเทพบุตรจริงๆ ดวงตาคมเข้มสีดำขลับทั้งสองดวงแม้จะมองลอกแล่กไปมาแต่ก็ดูเท่ราวกับพระเอกหนัง จมูกที่วางอยู่ที่ตรงตำแหน่งกลางใบหน้าก็โด่งได้รูป รับกันกับดวงตา เหนือริมฝีปากเนียนบางมีไรหนวดประดับอยู่ เคราที่คางโกนไว้เรียบร้อยดูดีมีระเบียบเสริมความคมเข้มแบบหนุ่มไทยเต็มรูปแบบ สรุปแล้วก็คือนายคนนี้ดูสมบูรณ์แบบเหมือนกับเคาะออกมาจากพระเอกวรรณคดีไทยเลยจริงๆ
“เอ่อผม... คือผม” พัทอึกอัก เพราะทุกครั้งที่เค้าอ้าปาก ทุกครั้งที่ลมหายใจแล่นออกจากหน้าก็ปะทะเข้ากับหน้าของชายหนุ่มคนนั้น มันทำให้เค้าไม่กล้าแต่แต่จะปล่อยลมหายใจ
“เอ่อ... คือ” แต่ทันใดนั้นลิฟต์ก็เปิดออกที่ชั้น 3 ชายหนุ่มทั้งสองไม่อยากจะให้มีใครออกไปจากลิฟต์เลย อยากให้อยู่อย่างนี้ ถ้าเป็นไปได้ตลอดไปก็ดีแต่เค้าทั้งสองไม่ได้อยู่ในท่าเดิมนั้นแล้วแหละ เพราะเมื่อถึงชั้น3 คนก็ออกไปแค่ 3 คน แต่คนที่เข้ามาเพิ่มคือ 6 คน ทำให้ยิ่งเบียดกันเข้าไปใหญ่ จนหน้าของทั้งสองคนไม่สามารถห่างกันแค่ ไม่กี่เซนติเมตรได้อีกแล้วมันจึงทำให้พัทต้องเอียงหัวไปอีกทาง หัวของชายหนุ่มคนนั้นยื่นเกยไหล่ของพัทไว้
ไม่นานนักลิฟต์ตัวนี้ก็เปิดออกพนักงานมาก มายก็กรูกันออกไปจากลิฟต์พัทกับชายหนุ่มคนนั้นจึงต้องผละกันออกไปด้วยความจำเป็น ทันทีที่พัทออกจากลิฟต์เค้าพยายามที่จะเรียกชายหนุ่มคนนั้นแต่เขากลับสาวเท้าไปเสียก่อนแล้ว
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น