ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    All favored love: รักหลากรส

    ลำดับตอนที่ #4 : รักหลากรส บทที่1 : ยินดีที่ได้รู้จัก(part 3)

    • อัปเดตล่าสุด 14 ต.ค. 48




        “นี่คุณ เฮ้คุณ” ชายหนุ่มตะโกน แต่หญิงสาวปิดประตูขังเขาไว้ข้างในบ้านพักของเธอ ทำให้หนุ่มหน้าตี๋ต้องปีนออกทางหน้าต่างทั้งๆกางเกงในบ๊อกซ์เซอร์ วิ่งตามหล่อนออกไป

        “เฮ้คุณ” ชายหนุ่มจับมือทราย “คุณโกรธผมหรอ”

        “เป็นคุณ คุณจะโกรธมั๊ยล่ะ”



        หญิงสาวผิวเข้มเหยียบภูเก็ตโดยที่ไม่มีใครมาด้วยเป็นครั้งแรกก็เมื่อเช้านี้เอง เธอมีความสุขมากที่ได้มาเที่ยวคนเดียวและไม่มีคนคอยตามตอแย สาวน้อยผิวสีน้ำผึ้งเดินแบกร่างอรชรไปที่ริมชายหาดสีขาวสะอาด พร้อมกับทิ้งตัวลงนั่งลงบริเวณที่มีแค่เพียงทราย และ น้ำทะเล ผู้คนจำนวนน้อย-จนเกือบจะไม่มีเลย ส่งเสียงพูดคุยเบาๆ ราวกับพวกเค้าเหล่านั้นไม่มีตัวตน

        

    ท่ามกลางความเพลิดเพลิน หญิงสาวผิวเข้มไม่ทันได้ระวังลูกฟุตบอลชายหาดที่ลอยข้ามหาดตรงเข้ากระแทกที่กลางศีรษะเธอ หญิงสาวมือกุมศีรษะ ด้วยความมึนงง หันไปด้านหลังมองหาเจ้าของลูกฟุตบอล แล้วเธอก็พบชายหนุ่มผิวขาวสะอาดพอๆ กับเม็ดทรายบริเวณนั้นกึ่งเดินกึ่งวิ่งมายังลูกฟุตบอลของเค้า เมื่อถึงที่ชายหนุ่มก็หยิบลูกฟุตบอลออกไปโดยไม่คิดแม้แต่จะทิ้งคำขอโทษไว้ให้หญิงสาว



    “นี่คุณ ไม่คิดจะขอโทษชั้นบ้างเลยหรือไง” หญิงสาวแผดเสียงด้วยความโกรธ

    หล่อนลุกขึ้นจากพื้นทราย ด้วยท่าทางเอาเรื่องสุดๆ แต่สิ่งที่หญิงสาวได้รับจากชายหนุ่มคนนั้นคือการหันหลังให้และโบกมือ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น



    เท่านั้นยังไม่พอหลังจากที่หญิงสาวผมสีน้ำตาลคนนี้เดินออกจากชายทะเลไปแล้ว เธอก็พบกับชายหนุ่มคนเดิมที่ร้านอาหารในเวลากลางวัน ชายหนุ่มดับร้อนให้เธอด้วยน้ำอัดลมขวดใหญ่ที่เขาบังเอิญทำหกใส่ตัวเธอ ในส่วนนี้เธอพยายามเข้าใจเพราะร้านนี้พนักงานน้อยและพื้นที่ค่อนข้างเล็ก เขาจึงต้องถือน้ำเองแต่แน่หละ ทำน้ำหกใส่คนอื่นก็ต้องกล่าวคำขอโทษแต่ผมตอบแทนที่ได้รับคือคำขอโทษที่กองๆไว้ ไม่ใช่ความรู้สึกที่จริงใจ หากแต่เป็นการของโทษพอเป็นพิธี



    และขณะนี้ชายหนุ่มคนนั้นกำลังมองหน้าเธอด้วยแววตาที่ดูแล้วน่าสงสารสุดๆ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามชายหนุ่มคนนี้ก็พยายามตีสนิทกับเธอ ซึ่งทรายเองพอเห็นหน้าที่เว้าวอนก็ใจอ่อน ยอมคุยด้วยแต่ก็ยังคงไว้ด้วยท่าทีที่แสดงให้เห็นว่า ชั้นใหญ่



    “ผมขอโทษนะครับสำหรับเรื่องเมื่อเช้า ผมเองรีบมากไม่ทันได้ระวัง ไม่ทันได้ขอโทษคุณด้วย เอาเป็นว่าผมขอโทษคุณก็แล้วกัน เราเป็นเพื่อนกันได้มั๊ยครับ” ได้ยินดังนั้น ทรายเองก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เย็นลงมากแล้ว “ผมชื่อเอกครับ”



    “ชั้นเองก็ไม่ได้โกรธอะไรมากมายหรอกนะเรื่องมันก็แล้วไปแล้ว ถึงชั้นเองจะคุ้นเคยกับวัฒนธรรมตะวันตก แต่คำขอโทษเวลาที่ทำผิดชั้นเองก็อยากได้ยินเหมือนกัน แม้แต่ฝรั่งมังค่าที่คนไทยบอกไร้วัฒนธรรม ไร้มารยาทนั่น คำว่า sorry ก็ไม่เคยที่จะลืมเวลาทำผิด แต่ยังพูดอย่างกับสายฝนเวลาที่เขาทำผิดไปจริงๆ

    แต่นี่อะไรอ่ะ คนไทยนะคุณ คนไทย มีวัฒนธรรมเก่าแก่มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว กับอีคำว่าขอโทษเนี่ย กว่ามันจะหลุดออกจากปากคุณได้ ใช้เวลานานมากเลยนะ” หญิงสาวเริ่มกลับไปเดือดอีกตรง 2ประโยคสุดท้าย แม้ว่าหญิงสาวคนนี้จะดูไม่ค่อยคิดอะไรแต่เธอก็อารมณ์ร้อนเหมือนกัน

    “ก็ผมขอโทษไงครับผมขอโทษจริงๆนะ ถ้าคุณไม่ยกโทษให้ผม ผมจะ...”

    “นายจะทำไม” หญิงสาวขัดขึ้นก่อนที่หนุ่มผู้นี้จะพูดจบประโยค

    “ผมจะตามง้อคุณ จนกว่าคุณจะให้อภัยผม” ชายหนุ่มพูดอ้อนอีกครั้ง



    แต่หญิงสาวในเสื้อเชิ้ตซีทรู ไม่ทันได้พูดอะไรเธอก็เดินกระทืบเท้าออกไปจากบริเวณนั้น

    แล้ว แต่พอห่างจากเค้าคนนั้น เธอก็เผยยิ้มกว้างเดินอย่างสบายใจไปยัง Information counter เพื่อเช็คเอ้าท์แล้วรีบกลับกรุงเทพ แต่ไม่วายชายหนุ่มคนนั้นก็วิ่งตามเธอมาอีก มันจะอะไรนักหนาตามอยู่ได้

        “ เฮ้คุณ คุณ!” ชายหนุ่มใช้เสียงไล่ตามเธอมาติดๆ ทันทีที่เข้ามาใกล้กันพอได้ยิน เขาก็ถามเธออีกครั้ง แต่ใช้เสียงที่เบาขึ้นและนุ่มขึ้นกว่าเดิม

        “คุณจะไปไหน”

        “กลับกรุงเทพ” หญิงสาวกระแทกเสียงใส่ผู้ที่ตามมาข้างหลัง

        “ทำไมคุณรีบกลับจังล่ะครับ เพิ่งมาถึงเอง” ... “หรือว่ารำคาญผมที่ผมมาอยู่บ้านข้างๆ”

        “ไม่เกี่ยวกับคุณ” หญิงสาวเร่งฝีเท้าเพื่อตีตัวออกห่างชายหนุ่มให้มากยิ่งขึ้น

        “แล้วคุณจะเอายังไง นี่ถ้าคุณไม่ยกโทษให้ผม ผมจะขับรถตามคุณไปกรุงเทพ”

        หญิงสาวยังคงรอยยิ้มไว้แต่ไม่ให้ชายหนุ่มที่ตามมาข้างหลังเห็น



        ในที่สุดหญิงสาวก็แบกร่างของตัวเองมาถึง Information Counter พร้อมๆกับชายหนุ่มผู้ติดตามมาจากบ้านพักในรีสอร์ท พนักงานเคาน์เตอร์เห็นทั้งสองคนเดินไล่ๆกันมาก็หันหน้าเข้าหากันขำๆนิดๆ เพราะทั้งสองคนดูคล้ายกับคู่สามีภรรยาที่เพิ่งนอนด้วยกันมาแล้วทะเลาะกัน อย่างที่คนเห็นแล้วห้ามใจไม่ให้คิดอย่างนี้ไม่ได้ เพราะอะไรหนะหรือ เพราะทรายอยู่ในชุดที่ไม่เรียกว่าโป๊ก็เกือบโป๊กางเกงยีนส์ขาสั้นก็สั้นจนเกือบจะเหมือนกางเกงใน ซ้ำยังดูเหมือนรีบร้อนจะใส่ แม้แต่เสื้อเชิ้ตซีทรูก็เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อจนมองเห็นบราเซีย สีทองเลื่อมขลิบดำ ตัวชายหนุ่มอีกคนก็มีแต่กางเกงบ๊อกเซอร์ ที่ถูกกิ่งไม้ข่วนมีเศษกิ่งไม้เล็กๆ และเศษใบไม้ติดตามขากางเกง ทั้งสองคนชุ่มเหงื่อและผมเผ้าของทั้งสองก็ยุ่งจนดูไม่ได้

        “เช็คเอาท์ค่ะ” ทรายพูดอย่างรีบร้อน โดยไม่สนใจชายหนุ่มที่มองตาละห้อยอยู่ข้างหลัง หรือพนักงานที่ยังคงหัวเราะคิกคักอยู่หลังเคาน์เตอร์

        “แต่คุณจองไว้ตั้งสามวันนะคะ เพิ่งเช็คอินไปเมื่อเที่ยงเองนี่คะ” พนักงานสาวตอบ

    “ชั้นจะไปธุระ แล้วก็จะรีบไปจากอีตานี่” ทรายยกนิ้วโป้งข้ามไหล่ตัวเองไปเพื่อที่จะชี้ให้พนักงานเห็นเอก แต่ทันทีที่พนักงานสาวเห็นก็อดที่จะพูดออกมาไม่ได้

    “ชีวิตคู่ก็อย่างนี้แหละค่ะ ไม่ถูกใจกันบ้างแต่เดี๋ยวก็ดีกันเองแหละค่ะ”

    เอกฟังเข้าดังนั้นก็รีบตรงเข้าสวมบทบาททันที

    “ใช่แล้วที่รัก เธอต้องให้โอกาสชั้นอธิบายนะ”

    “นี่นาย เกินไปแล้ว ชั้นจะกลับกรุงเทพไม่มีเวลาทำตัวติงต๊อง” ทรายทิ้งกุญแจไว้ที่เคาน์เตอร์ แล้วรีบเดินจ้ำออกไป

    “แล้วคุณผู้ชายจะเช็คเอาท์ด้วยมั๊ยคะ” พนักงานถาม

    “นายไม่ต้องตามชั้นมาเลยนะ นายเอก” ทรายตะโกนดักไว้กลัวว่าชายหนุ่มจะเช็คเอาท์ตามไป แต่เธอก็ไม่ได้รอดูผล ด้วยความรีบร้อนทรายจึงถลาไปที่รถโดยที่ลืมจ่ายค่าห้อง!!! คนที่เป็นเดือดเป็นร้อนแทนทรายก็คือนายเอก ที่พนักงานเคาน์เตอร์คิดว่าเป็นแฟนกัน ชายหนุ่มจึงต้องรีบวิ่งตามเธอไปเพื่อเรียกเธอมาจ่ายค่าที่พัก แต่ทรายได้แล่นรถออกไปแล้ว แล้วไงต่อน่ะหรือ เอกก็ต้องจ่ายเงินแทนทรายน่ะสิ



    ทรายขับรถออกจากตัวเกาะภูเก็ตมาได้ร่วมชั่วโมงแล้ว ทีแรกเธอจองตั๋วเครื่องบินไว้ว่าจะกลับในอีก 3วัน แต่ในเมื่อเพื่อนมีเรื่องทุกข์ร้อนทรายจึงต้องยกเลิกทริปนี้ไปโดยปริยาย เธอกะจะรีบซิ่งไปให้ถึงบ้านของอู๋เลย แต่ว่าขณะนี้ในนาฬิกาโชว์เวลาไว้ที่ 21: 54 น.



    “เฮ้อ อู๋นะอู๋ งั้นพรุ่งนี้ชั้นค่อยไปหาละกันนะ อีกแปดชั่วโมงกว่าจะถึงกรุงเทพขอกลับไปงีบก่อนละกันนะ”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×