คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : แรกเริ่มเดิมที
ตอนบ่าย4โมงหลังเลิกเรียนวันนี้ เหล่านักเรียนชายและหญิงหลายคนวิ่งแย่งกันขึ้นรถเมล์รวมทั้งผมและเพื่อนด้วย “เฮ่ย อย่าเบียดดิวะ ข้าจะตกแล้ว” “หลีกดิ๊....ข้ารีบ”
หลายคนแย่งกัน บ้างก้อผลักถีบกัน (รุนแรงไปหน่อยรึป่าววะ) เพื่อที่จะรีบขึ้นรถกลับบ้าน ผมเองก้อคิดในใจว่าพวกนี้ช่างเป็นเด็กที่ดีเหลือเกิน เลิกเรียนแล้วก็รีบขึ้นรถกลับบ้านไม่ได้ไปเถลไถลที่ไหน พ่อแม่คงดีใจน่าดู
“ไอ้เดี่ยวมานั่งนี่ดิ ข้าจองที่ไว้ให้เอ็งว่ะ” ป๊อดเพื่อนซี้ของผมเรียกผมไปนั่งในขณะที่ผมเบียดผู้คนเพื่อขึ้นรถมาได้ “ป๊อดเอ็งช่างมีบุญคุณกับข้าเหลือเกินเพื่อนรัก ข้ารักเอ็ง ถ้าไม่มีเอ็งข้าคงได้โหนรถเมล์แล้วหล่ะมั้ง ถ้ามีโอกาสข้าจะตอบแทนบุญคุณเอ็งนะเว่ยเพื่อนรัก” ผมพูดพร้อมกับโอบไหล่ของป๊อด “เฮ้ยเอ็งไม่ต้องพูดมากหรอกว่ะข้าจะอ๊วก” ผมรีบลงไปนั่งที่ทันที “เดี่ยวเลิกเรียนนี้ข้าจะไปเล่นเกมส์ที่ร้านเน็ตว่ะไปด้วยกันป่ะ” “ไอ้ป๊อด เอ็งอย่าบอกนะว่าที่เอ็งรีบวิ่งขึ้นรถก่อนใครก็เพราะว่าเอ็งจะไปจองเครื่องคอมที่ร้านเน็ต” “ก็เออดิวะ เรื่องอะไรข้าจะรีบกลับบ้านไปฟังแม่บ่น เอ็งรู้ป่าววะ ที่ข้าไม่กลับบ้านเร็วเพราะอะไร” “แล้วข้าจะไปรู้กะเอ็งรึไงวะ ถามโง่ๆ”
“ก้อวันนั้นข้าอุตส่าห์รีบกลับบ้าน แต่ข้าดันโดนแม่ด่าซะยาวเลย หาว่าข้าหนีเรียน ข้าโค-ตรสงสารตัวเองเลยว่ะ” “เหอะๆๆๆๆโค-ตรซวยเลย ดีนะที่พ่อกะแม่ข้าทำงานที่ต่างจังหวัดข้าเลยอยู่คนเดียวสบายดีว่ะ มันเป็นส่วนตัวดี” “อิจฉาว่ะไอ้ฟาย” ระหว่างที่ผมกำลังคุยสนุกอยู่กับป๊อดก็มีเด็กผู้หญิงหน้าตาดีคนนึงรุ่นราวคราวเดียวกับผมเนี่ยแหละ มายืนอยู่ข้างๆเบาะที่ผมนั่ง แล้วผมเป็นคนชอบทำดีซะด้วย ผมจึงไม่รอช้าที่จะ..... .ลุกขึ้นทันทีแล้วสะกิดเทอคนนั้น “น้องครับ ที่นั่งว่างครับนั่งได้เลยครับ” เทอก้มหัวให้ผมแล้วลงนั่งที่นั่งของผม “ขอบคุณมากเลยค่ะ” เทอพูด “อ้าวไอ้เดี่ยวข้าจะลุกอยู่พอดีเลย” ป๊อดพูด แล้วป๊อดก็ลุกขึ้นเดินลงจากรถไปเพราะว่าถึงร้านเน็ตที่มันจะเล่นพอดีผมจึงไปนั่งข้างๆเทอคนนั้น ด้วยความที่ผมมนุษยสัมพันธ์ดีผมจึงหาเรื่องที่จะพูดกับเทอ “น้องเรียนไหนเหรอคับ” “เรียนที่โรงเรียนAAAAAน่ะ แล้วพี่หล่ะ”
“เรียนที่เดียวกันกับพี่เลยแต่พี่ไม่เคยเจอหน้าน้องเลยนะ แล้วน้องเรียนมอไรอ่ะ” “มอ4ค่ะ เพิ่งเข้าใหม่น่ะเรียนศิลปภาษาค่ะ” “อืมพี่อยู่มอ5นะเรียนสายวิทย์” “เหรอคะเก่งจัง แล้วเกรดเฉลี่ยปีที่แล้วเท่าไหร่เหรอ” “3.74น่ะ” “โห พี่นี่เก่งมากๆเลยนะ” “ฮะๆๆไม่เท่าไหร่หรอก ฮะๆๆ” ความจิงผมเรียนสายศิลปเกรดเฉลี่ย2.8 แต่ผมแค่อยากเท่ห์ในสายตาเทอเท่านั้น เหอๆๆๆ
“น้องพี่จะลงแล้วนะ หวังว่าจะได้เจอกันอีกนะ บายคับ” “บายค่ะ” ผมเดินลงจากรถ แปลกจังผมรู้สึกว่าวันนี้ผมมีความสุขสุดๆเลย ผมถือกระเป๋าเดินเข้าหมู่บ้านคนเดียว ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมมักจะปากหมากับป้าแก่ๆที่ขายของหน้าหมู่บ้านหรือแม่ม่ายที่ขายขนมหรืออีกหลายๆคนแถวนั้นเป็นประจำ ผมเดินผิวปากตลอดทางเดิน “ไงป้าวันนี้ขายของดีป่ะ” “แปลกว่ะไอ้เดี่ยววันนี้พูดดีกับข้า กินยาผิดป่าววะ” “คนมัน moodดีอ่ะป้า วันนี้ป้าดูหน้าอ่อนขึ้นเยอะนะเนี่ย” “มูดเมิดอะไรของเอ็งวะข้าไม่รู้จัก” “เจ๊ปลาวันนี้ไมสวยจังอ่ะ สงสัยจะหาคนดูแลใจได้แล้วหล่ะมั้ง” “ไอ้เดี่ยวเอ็งก้อหล่อขึ้นนะเว่ย เหอๆๆ สงสัยวันนี้ชั้นคงจะต้องรีบเก็บร้านแล้วล่ะมั้ง ฝนคงจะตกว่ะ” ผมแซวคนแถวนั้นมาตลอดทางเดิน ทุกวันถ้าผมเดินมาแถวเซเว่นจะเจอหมาสีดำตัวนึง มันชอบเห่าผม ผมจะไล่เตะปากมันประจำ แล้ววันนี้มันก้อเห่าผมเหมือนทุกวัน และผมก็วิ่งไปทางมัน มันก้อยังเห่าไม่หยุด ผมยื่นมือไปลูบหัวมัน มันคงจะตกใจล่ะมั้งที่วันนี้ผมไม่เตะปากมันเหมือนทุกวัน ผมเห็นมันเงียบไม่ยอมเห่าเหมือนกับทุกทีเลย ผมล่ะไม่เข้าใจจริงๆเลย
ผมเดินมาจนถึงบ้าน วันนี้การบ้านมีติ๊ดเดียว ค่อยทำทีหลังก้อได้มั้ง ผมเดินทิ้งกระเป๋าลงบนโต๊ะแล้วเดินมาเปิดทีวีดู “กริ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” โทรศัพท์บ้านดังแล้ว (ดังยาวไปรึป่าวเนี่ย) ผมค่อยๆเดินไปรับ “โหล ใครวะ” “ไอ้เดี่ยวข้าเอง บอยเว่ย ออกไปขี่มอเตอร์ไซค์กินลมกันป่าว ไอ้ป๊อดก้อมานะเว่ย เพื่อนข้าก้อมาเพียบ” “มีหญิงด้วยป่าว ถ้ามีข้าไป” “แน่นอน น้องข้ากะเพื่อนมันอีก2คน ตกลงจะไปป่าว” “ ไอ้บิวใช่ป่ะ” “เออดิ” “ไม่เอาข้าไม่ไป เดี๋ยวมันหาเรื่องทะเลาะกะข้า พอข้าอยู่กะมันจีบสาวคนไหนไม่ค่อยติดเลย” “ไปเหอะ อย่างน้อยก้อยังมีเพื่อนมันนะเว่ยน่ารักทั้งนั้น” “เอ็งมารับที่บ้านข้าดิ ข้าถึงจะไป” “เออ เดี๋ยวข้าไปรับ” “แค่นี้นะ บาย” ผมรีบไปเปลี่ยนชุดออกจากชุดนักเรียน แล้วเดินมาดูทีวีต่อ
บรื้นๆๆๆๆ .ๆๆๆๆๆ “ไอ้เดี่ยว ข้ามาแล้ว” “เออมาแล้วเหรอวะรอเดี๋ยวข้าหากุญแจรถก่อน” ผมวิ่งไปหยิบกุญแจรถ แล้วก้อเข็นมอเตอร์ไซค์ออกไป เพื่อที่จะไปซิ่งกับเพื่อนๆ “ไอ้เดี่ยว เห็นหน้านายแล้วปวดอึว่ะ” “น้องบิว ไม่นับถือพี่เดี่ยวคนนี้เลยรึไงฮะ อายุห่างกันตั้ง 1 ปีแน่ะ” “ไม่นับถือแล้วจะทำไม ชั้นยังไม่ลืมนะ เรื่องวันนั้นน่ะ” “ก้อบอกแล้วไงว่าพี่ไม่ได้ตั้งใจ มันบังเอิญน่ะบังเอิญ” “ชั้นไม่เชื่อน้ำหน้าอย่างพี่หรอก อย่ามาโกหก” “ไม่เชื่อก้ออย่าเชื่อ คนหน้าตาดีอย่างพี่ไม่ทำสิ่งทุเรศอย่างนั้นหรอก” “หน้าตาดีตายอ่ะ อุบาทว์ดิไม่ว่า” บิวยังทะเลาะกับผมไม่หยุดในขณะที่เทอซ้อนมอเตอร์ไซค์ของบอยพี่ชาย
“บิวแนะนำเพื่อนแกให้เพื่อนพี่รู้จักหน่อยดิ” “เออช่ายแนะนำหน่อย น่ารักอย่างนี้ใครๆก้ออยากรู้จัก” “ก้อได้พี่บอยคนนี้ชื่อแก้ว แล้วก้อ น้ำฝน นะ” “น้องน้ำฝนกับน้องแก้วนึกไงมาคบกับยัยปากจัดนี่ได้อ่ะ” ผมถามเพื่อนๆของเทอ “บิวเค้าชอบช่วยเหลือคนอื่นน่ะ บิวยังเคยช่วยน้ำฝนเลยตอนที่เรายังไม่ค่อยสนิทกันน่ะ” “ใช่ๆถึงบิวจะปากจัดนะ แต่ก้อนิสัยดีมากเลย” “โห พวกแกพูดอย่างนี้ชั้นก้อเขินดิวะ หุๆๆๆ”
“ไม่อยากจะเชื่อเล้ย” “ไม่เชื่อก้อต้องเชื่อไอ้เดี่ยว” “ไม่พูดก้อได้ ไม่อยากทะเลาะกับบิวแล้ว” “เฮ้ยเดี่ยวมานี่ดิ๊ ข้ามีไรจะคุยด้วยว่ะ” “มีไรวะบอย” “ข้าสงสัยว่ะทำไมเอ็งไม่ค่อยถูกกะไอ้บิว” “ก้อวันนั้นอ่ะดิ วันที่ไปบ้านเอ็งอ่ะ แล้วเอ็งไม่อยู่ บิวก้อบอกว่านั่งรอสักพักก้อได้เดี๋ยวพี่บอยก้อมา” “ข้าก้อเลยนั่งรอ .แล้วมันปวดฉี่มันขึ้นมาข้าก้อเลยเดินไปห้องน้ำ” “แล้วไงต่อ” “มันจะมีตะกร้าผ้าอยู่หน้าห้องน้ำ แล้วข้าก้อสะดุดตะกร้าแล้วชุดชั้นในน้องเอ็งก้อกระจายเต็มพื้นแล้วมือข้ามันไม่ได้ตั้งใจที่จะไปจับ บราของน้องเอ็ง ตอนนั้นน้องเอ็งออกจากห้องน้ำพอดี มันก้อด่าข้ายับเลย ไล่ข้าออกจากบ้านด้วย ข้าอ่ะโค-ตรงงเลย กะอีแค่มีเสื้อในน้องเอ็งอยู่ในมือแค่นั้นเอง” “เออว่ะข้าเข้าใจแล้ว น้องข้ามันไม่ชอบให้ใครไปยุงกะของส่วนตัวมันแล้วยิ่งเสื้อในกางเกงในซะด้วย เอ็งโค-ตรซวยเลยว่ะฮะๆๆ” “เออข้าเกิดมาซวย” “เฮ้ยข้าว่าดึกแล้วกลับเหอะว่ะ” “เออก้อดี” “เฮ้ยไอ้ป๊อดจีบ 2 เลยเหรอวะ ทั้งน้องน้ำฝนทั้งน้องแก้ว” “ความสุขเล็กๆน้อยๆเว่ย เหอะๆๆ” “กลับเหอะดึกแล้ว” “อืมก้อได้” แล้วทั้งหมดก็ทยอยกันกลับบ้าน
ตอนเช้าเนี่ยอากาศดีจิงๆเลยนะ ผมคิดกับตัวเองหลังจากตื่นนอน ผมบิดขี้เกียจแล้วลุกไปอาบน้ำแต่งตัวและ กินข้าว วันนี้ผมนำมอเตอร์ไซค์ตัวโปรดของผมไปโรงเรียนด้วย ทำไมน่ะเหรอคับ เพราะผมไม่อยากไปวิ่งตามรถเมล์ยังไงล่ะคับ นานๆทีผมถึงจะนำรถไปโรงเรียนคับ สาเหตุที่ผมไม่ขับรถไปโรงเรียนก็เพราะว่าผมชอบลืมหมวกกันน็อกหรือไม่ก็ใบขับขี่ประจำเลย ผมก็เลยตัดปัญหาโดยการนั่งรถเมล์ไปดีกว่า
“บรื้นๆๆ” ผมพามอเตอร์ไซค์สุดโปรดแล่นออกไปในถนนใหญ่ “เฮ่ยไอ้เดี่ยว วันนี้เอามอเตอร์ไซค์ไปเหรอวะ ข้าไปด้วยดิ น้องชายข้ามันเอาไปก่อนแล้วว่ะ” ป๊อดเพื่อนผมพูดแล้วรีบวิ่งมาซ้อนรถผม ขณะที่ผมจอดรอมันอยู่ “เอ็งไม่ต้องบอกหรอกว่าน้องเอ็งเอาไป ข้ารู้ว่าน้องเอ็งตื่นก่อนเอ็ง มันก็เลยฉกมอเตอร์ไซค์เอ็งไปขี่” “เออๆ มันเอามอเตอร์ไซค์ข้าไปโรงเรียนทุกวันแหละ น้องข้านี่มันเลวจริงๆเลยว่ะ” “ช่างเหอะๆ นั่งของข้าก็ได้” ผมขี่เร็วมากๆเพื่อที่จะไปให้ถึงโรงเรียนเร็วๆ เอี๊ยด.....ดดด “ลงๆ ถึงแล้วเว่ย” “ไอ้เดี่ยว เอ็งขับโดนใจข้ามากเลยว่ะครั้งเนี่ย โค-ตรซิ่งอ่ะ” “เฮ้ย ไอ้ป๊อดข้ารู้สึกว่าข้าลืมอะไรไปบางอย่างว่ะ ตั้งแต่ออกจากบ้านแล้วนะเว่ยเนี่ย” “เอ็งลองนึกให้ดีๆดิ๊ว่าเอ็งลืมอะไร” “เออช่างเหอะ ไปสนามฟุตบอลกันดีกว่า” “เออว่ะ ไปเล่นบอลตอนเช้าๆเนี่ยหนุกดี” ป๊อดเห็นด้วยกับผม ผมเอากระเป๋าไปวางกำลังจะเดินไปหยิบลูกบอลพอดี แต่ว่า...... “ ป๊อดเอ็งทำการบ้านเสร็จยังวะ ขอข้าลอกหน่อย เมื่อวานข้าดูหนังเพลินจนลืมทำว่ะ” “เออๆ หยิบจากกระเป๋าข้าอ่ะ” กายขาประจำยืมการบ้านเพื่อนไปลอกทุกวัน แต่มันก็ยังเรียนเก่ง เพราะว่าพ่อมันเป็นครู ผมเคยถามมันครั้งนึงว่ามันทำการบ้านไม่เป็นรึงไงในเมื่อมันเรียนเก่ง มันบอกผมว่ามันทำเป็น แต่ต้องใช้เวลาในการทำ ถ้าลอกเพื่อนจะเร็วกว่า ผมก็เลยเข้าใจมัน แต่เอ๊ะ ผมรู้สึกว่าผมลืมอะไรไปบางอย่างนะ “เฮ้ย
ป๊อดแป๊บนึง ข้าว่าข้าลืมทำการบ้านว่ะ” “โหไอ้เดี่ยวงี้ข้าก็ไม่มีเพื่อนเล่นบอลดิวะ”
“พี่ป๊อด เดี๋ยวบิวกะพี่บอยเล่นด้วยเอาป่าว” “อ้าวบิววันนี้มาเช้าแฮะ” ป๊อดตกใจที่เห็น 2 พี่น้องคู่นี้มาเช้า “ก็วันนี้พี่บอยนึกอะไรก็ไม่รู้ตื่นซะเร้ว..เร็ว” บิวพูดอย่างทะเล้น “จะไม่ให้ตื่นเร็วได้ไงอ่ะ ก็บิวอ่ะดิ เล่นเดินเข้ามาห้องข้าแล้วก็ถีบข้าตกเตียง มันบอกว่า อยากไปโรงเรียนเช้าๆมั่ง ทุกวันมัวแต่รอข้า ข้าก็เลยอยากตามใจมันเว่ย” “ฮะๆๆมีน้องผู้หญิงนี่ต้องเอาใจเป็นพิเศษเว่ย” ผมแทรก “นายเดี่ยว ลืมทำการบ้านมาเหรอยะ” “ป่าวลืมนะน้องบิว ก็หลังจากที่พี่ขับมอเตอร์ไซค์เล่นแล้วคนข้างบ้านป่วยเลยพี่เลยพาขี่มอเตอร์ไซค์ไปหาหมออ่ะ” “ไม่ค่อยอยากจะเชื่อเลย นายยิ่งขี้โม้อยู่ด้วย” บิวว่า “ไม่เชื่อแหละดีแล้ว เมื่อวานพี่เห็นหลังจากที่ทุกคนกลับกันแล้วพี่ไปเจอมันที่ร้านค้า มันไปนั่งจีบลูกสาวเค้าอยู่ตั้งนานสองนาน” ป๊อดมันรู้ความจิงได้ไงอ่ะว่าผมไปจีบสาว โถ่ไม่น่าเล้ย “ไอ้เดี่ยวหน้าม่อ” บิวด่าผม โห ยิ่งเสียความเชื่อถือใหญ่เลย ผมน่าจะพูดว่าไม่มีเวลาซะยังจะดีกว่าอีก
ความคิดเห็น