ตอนที่ 15 : อ้อยคว่ำครั้งที่ 14
บทที่ 14
ไม่ทันให้ผมได้ตั้งตัวตั้งสติ
ปากได้รูปประกบเข้ากระแทกปากอย่างแรงจนรู้สึกเจ็บจะอ้าปากร้องเสียงก็กลืนลงคอไปถูกถูกปิดปากอย่างรุนแรงต่างจากครั้งก่อนมากถ้าครั้งก่อนเรียกว่าดีครั้งนี้คือดีในดี ป่าเถื่อนราวสัตว์ร้ายกำลังคลุ้มคลั่ง จังหวะการขยับปากของพี่เก้าคือหนักหน่วงจนผมหายใจไม่ออกตอกย้ำกดลงมาไม่ออมแรงคล้ายจะลบสัมผัสของพี่คิวก่อนหน้านี้ออกไป
จะตาย
กูจะตายแล้ว
เรียกลบไม่ได้หรอกแบบนี้เขาเรียกกระชากเลยต่างหาก ปากผมบวมเจ่อขึ้นในเวลาไม่นานก็อีกฝ่ายเล่นกัดขบเขี้ยวขย้ำปากผมจนอยากถามว่ากินลงไปเลยมั้ยพี่แต่กลัวใจว่าพี่มันจะกลืนกินบางผมลงไปจริงๆ หายใจแลกอากาศกันอย่างเร่าร้อนผมเปิดปากโดยการบังคับของพี่เก้าลิ้นร้อนที่เคยมอบจูบหอมหวานดั่งปุยเมฆเปลี่ยนเป็นเหล้าดีกรีแรงทำให้ผู้คนมอมเมาและร้อนร่านไปทั้งตัว
“ อื้อ ”
ถูกป้อนรสจูบไม่ให้ได้หยุดพักจนตาเริ่มลายอากาศในปอดชักจะน้อยคนบ้าคลั่งก็เอาแต่จูบสูบวิญญาณกระชากจิตไม่หยุดรสฝาดของเลือดคลุ้งไปทั่วเสริมเพิ่มความดิบของอารมณ์ให้พุ่งสูงสุดมันดียิ่งกว่าดีฟคิสดูดดื่มลำล้ำตอกย้ำความเป็นเจ้าของและพร้อมจะฆ่าทุกสัมผัสฝังตัวตนให้ผมโหยหาแค่จูบของคน
เมื่อปากผละออกให้ผมได้หายใจหายคอก็ต้องนิ่วหน้าเจ็บขมเคี้ยวฝังลงบนรอยสักของผมอย่างแรงตีตราจองถอนฟันออกจากเนื้อหนังผิวขาวปลายลิ้นชื้นชุ่มด้วยน้ำลายเลียแผลแผ่วสร้างความสยิวให้กับคนใต้ร่างไม่น้อย
ถ้าคุณคิดว่าพี่เก้าจะหยุดแค่นี้
คุณคิดผิด!
ริมฝีปากร้อนฉ่าแนบลงบนลำคอพรมจูบไปทั่วอย่างหื่นกระหายเสียงสูดลมหายใจดอมดมกลิ่นกายของผมมันทำให้ผมสั่นเป็นลูกนก รอยกัดใหญ่คงไม่ทำให้พอใจง่ายลงคงสร้างรอยแดงไว้รอบคอมากกว่าห้าจุด กระดุมเสื้อผมถูกปลดไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่ทราบพอรู้ตัวก็รีบดันตัวพี่เก้าออกแต่อีกฝ่ายกลับเพียงเปรยตามองนิ่งๆ ประกายความร้อนแรงเต็มดวงตาจนผมมือไม้อ่อนระทวย
“ อย่าดื้อกับพี่ ”
เราสองคนจ้องตากันนานมองไม่มีใครพูดอะไรและไม่มีการเคลื่อนไหว ผมค่อยๆ เบือนหน้าไปอีกทางเพราะตอนนี้สีหน้าพี่เก้าโคตรน่ากลัวจนผมไม่กล้าจะหือด้วย
เวอร์ชั่นแบดๆ ของพี่เก้าผมก็ชอบนะ
แต่อันนี้เถื่อนเกิ๊น!
คนเหนือหัวเหมือนจะได้สติขึ้นมาบ้างเขาเม้มปากหลับตาแน่นก่อนจะลุกออกจากตัวผมกลับไปนั่งที่เดิม ผมมองตามแล้วตั้งคำถามในใจ
พี่เก้ายกมือกุมหน้าตัวเองแล้วเอ่ยเสียงแผ่ว “ ลงไป ”
“ หะ ”
“ บอกให้ลงไป!! ”
ผมผงะกับเสียงตวาดเข้มของพี่เก้าเป็นครั้งแรกโคตรดุดันแฝงไปด้วยความอดกลั้น ร่างกายแข็งทื่อไม่กล้าขยับพี่เก้าตวัดตามองแล้วข่มใจ
“ ลงไปครับ ก่อนที่พี่จะหมดความอดทน ”
“ เฮ้ย พี่โกรธผมเหรอ ” แทนที่ผมจะเชื่อฟังพี่เก้ากลับดึงดันจะคุยเคลียร์กันมากกว่า พี่เก้าชักมือหลบราวกับหนีของร้อน
“ นับสอง ถ้าอยู่ต่อพี่ไม่รับประกันความปลอดภัย ”
“ ... ”
“ ถ้ายังไม่อยากข้ามขั้นไปเป็นเมียก็ลงไปครับ ”
ไม่ต้องรอให้พี่เก้าพูดซ้ำสอง ไอ้นับก็กระโดดลงรถแทบจะติดปีกบินเลยครับ ประตูยังไม่ทันปิดดีรถหรูก็วิ่งทะยานออกไปไม่เห็นแม้แต่ฝุ่น
ผมยืนกอดกระเป๋าอยู่นานก่อนจะได้สติเดินลอยๆ กลับเข้าห้องแต่ดันไปเคาะห้องไอ้มาร์คซะงั้นคนเปิดประตูเป็นเชี่ยไวท์ที่เดินมาพร้อมกดเกมในมือไปด้วย
“ อ้าว มึงเองเหรอ มีไรๆ ” ไวท์ละสายตาจากเกมนิดนึง นิดจริงๆ
“ มึง ”
“ ว่า ”
“ กูเกือบโดนพี่เก้าปล้ำ ”
พอผมบอกออกไปไอ้ไวท์ถึงกับทำโทรศัพท์ร่วงหันขวับคอแทบหักมองผมอย่างตกใจก่อนจะเห็นสภาพยุ่งเหยิงของผม มือเล็กคว้าให้ผมเข้ามาในห้องก่อนจะปิดประตู
เพื่อนตัวเล็กมองสำรวจผมแล้วเบะปากจะร้องไห้ แน่สิสภาพผม...
“ มึงโดนรุมโทรมมารึไงวะ ”
ปากแตก หัวฟู ตาลอย รอยดูดเต็มคอ เสื้อถูกแกะกระดุมเกลี้ยง
ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง
“ มึงๆ ให้กูแจ้งตำรวจมั้ย ” ไวท์ยกโทรศัพท์ขึ้นมองผมด้วยความเป็นห่วง
ปัดโทรศัพท์ออกจากมือเพื่อน “ ไม่ต้อง ”
“ แต่พี่เก้าเกือบปล้ำมึงน่ะเว้ย! ”
“ เออเกือบไง! ” ผมยีหัวตัวเองอย่างหงุดหงิด “ แค่เกือบ! ”
“ มึงอย่าบอกนะ ”
“ เหี้ยฉิบ ”
“ ... ”
“ ทำไมไม่ปล้ำกูไปเลยวะ กูพร้อมมากนะมึง ”
“ ... ”
“ กูทั้งเอ็กซ์ เซ็กส์ขนาดนี้มีตรงไหน... ”
โครม!!
“ เชี่ยไวท์ ไอ้เพื่อนเหี้ย ”
ผมอ้าปากด่ามันรอบที่สิบได้แล้วแต่เพื่อนเหี้ยก็ยังลอยหน้าเล่นเกมไม่เลิกไม่ได้สนใจเลยว่าเพื่อนคนนี้กำลังหัวปูดช้ำเลือดช้ำนอง หลังจากโดนขาคู่ของเพื่อนตัวเล็กถีบเข้ายอดอกผมก็กลิ้งหัวโขกเข้ากับขาโต๊ะ
เลยต้องมานั่งประคบน้ำแข็งอยู่นี่ไง
“ ดีกว่ามึงแล้วกันไอ้เพื่อนแรด ” ถือว่าเป็นคำชมแล้วกัน
ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่พลางประคบน้ำแข็งเบาๆ รอบหน้าผากเขียวอ่อนๆ อีกสักพักมันต้องม่วงแน่ๆ “ แล้วนี่ไอ้มาร์คไปไหน ”
“ พาสาวไปกินข้าว ” ไวท์ละสายตาจากเกมมามองสภาพผมแล้วส่ายหน้า “ สภาพนี้มึงรอดจากพี่เก้ามาได้ยังไง ”
“ กูโดดลงจากรถมาก่อน ”
“ อือหือ บนรถ ” ไวท์ผงะถอยหลังก่อนจะถามต่อ “ กูงงกับมึงจริงๆ พี่เขาจะปล้ำมึง มึงก็เต็มใจซะขนาดนี้แล้วจะโดดลงรถมาเพื่อ! ”
ผมเบะปากแล้วขึ้นถึงสภาพตอนนี้ “ ก็ไม่ให้กูโดดได้ไงล่ะ พี่เก้าบอกว่าจะเอากูเป็นเมีย ”
“ สมใจมึงแล้วนี่ ”
“ สมใจได้ไงก็ไม่ได้อยากเป็นเมียเขา ” ผมจ้องหน้าเพื่อนรักอย่างหงุดหงิด
“ แล้วมึงอยากเป็นอะไร ”
“ กูอยากเป็นผัวเขา ”
ส่วนเรื่องที่โดนลงจากรถคือรีแอคชั่นยามได้ยินคำว่าเมีย
เตรียมใจถูกโดนปล้ำให้พี่เก้าออนท็อปไร
ไม่ใช่ผมเป็นฝ่ายถูกเสียบซะเอง!
เกิดความเงียบทันทีไอ้ไวท์มองสารรูปผมขึ้นๆลงๆด้วยสายตาเอือมระอา ก่อนจะกลับไปเล่นเกมราวกับเรื่องของผมมันไม่ได้น่าสนใจอีกต่อไป “ สารรูปอย่างมึงจะเอาอะไรไปงัดกับพี่เก้า ”
“ กูสู้เขาไม่ได้ตรงไหน ”
“ ไปส่องกระจกไป ”
มือยังคงถือถุงน้ำแข็งแล้วพาตัวเองเดินไปหน้าโต๊ะกระจก “ ก็หล่อเหมือนเดิม ”
“ ฮ่วย! กูให้ดูที่คอ! ”ไวท์แทบจะปาโทรศัพท์ใส่หัวผมสายตาจิกแรงมาก
“ คอกูมีอะไร ”
“ รอยดูดขนาดนั้นมึงยังจะสู้พี่เก้าอีกเหรอ ” มองผมราวกับคนโง่ไอคิวต่ำ
“ ทำไมอ่ะ ” ผมลูบคอตัวเองไปมาแล้วคิด
เมียทำรอยคิสมาร์คบนคอผัวก็ไม่เห็นจะแปลก
พอถูกถามไปแบบนั้นไอ้ไวท์ก็จนปัญญาคร้านจะคุยโบกมือไล่ผมจะไปไหนก็ไป เออไง มึงเป็นเจ้าของห้องไง จะไล่แขกยังไงก็ได้
ผมมองเพื่อนตัวเล็กที่โคตรจะติดเกมแล้วถอนหายใจหนักมาก อยากรู้ว่าแฟนมันจะเป็นคนแบบไหน ไม่สิ ต้องถามว่าคนแบบไหนที่จะดึงไอ้ห่าไวท์ออกจากเกมได้
ผมนั่งอยู่ห้องไอ้ไวท์อีกแปบก็กลับมาห้องเห็นเพื่อนรักตัวโตในสภาพบ๊อกเซอร์ตัวเดียวกำลังเทข้าวกล่องใส่จาน บ๊ะ! ไหนๆมึงก็ซื้อข้าวกล่องมาแล้วก็แดกในกล่องไปเลยสิ จะใช้จานให้สิ้นเปลืองทำซากอะไร
“ เชี่ยอะไรของมึงเนี่ยเหี้ยนับ! ”
จินจะหันมากวนตีนผมแต่แล้วต้องชะงักเบิกตาโพล่งมองสารรูปของผม สภาพผมมันย่ำแย่ขนาดนั้นเลยเหรอวะ พี่เก้านี่สายรุนแรงจริงๆ
“ นิดหน่อย ” ยักไหล่แล้วเดินผ่านหน้ามันไปเพื่อจะไปอาบน้ำ
“ นิดพ่อมึงสิ ใครดักฉุดมึง ” ไอ้เพื่อนสนิทเดินหน้าตาตื่นตามเข้ามาในห้องนอน “ อือหือ รอยกัดก็มี ” มือใหญ่จับคอผมเงยขึ้นลงหันซ้ายขวาเพื่อดูลำคอของผม
“ ไม่ได้ดักฉุด กูยอมเองน่า ” ปัดมือเพื่อนขี้ตกใจออก
“ พี่เก้าเหรอ ” จินมองอย่างไม่เชื่อส่ายหน้าก่อนจะทำหน้าเหนื่อยใจแล้วเดินไปเปิดลิ้นชักยาส่งหลอดยาสำหรับทามาให้ผม “ มึงอาบน้ำเสร็จก็ทาซะ ป่วยขึ้นมาจะลำบากกู ”
จินทำหน้าปลงตกมองสำรวจผมอีกครั้งเน้นสายตามาลงสะโพกผมแล้วพยักหน้าหงึกๆราวกับเข้าใจทุกอย่างแล้ว ผมเอียงคอมองท่าทีของมันแล้วเกาหัวมือรับหลอดยาไว้ไม่ใช่มันเสียน้ำใจ
แต่ยังมึนอยู่หน่อยๆ ทำไมต้องทายา แถมไม่ทาก็ป่วยอีก สงสัยเรียนหนัก
เดินเข้าห้องน้ำไปพร้อมหลอดยาแบบไม่คิดอะไรคงจะเป็นยาทาแผลธรรมดาให้ทารอยบนคอมั้ง หลังจากอาบน้ำเรียบร้อยเขาเดินมาหยุดหน้ากระจกตรงอ่างล้างน้ำยังไม่ได้ออกจากห้องน้ำ
“ เพื่อนเรานี่มันก็มีใจห่วงเป็นเหมือนกัน ” ปกติจะเป็นจะตายยังไม่เหลียวแล
ฝ่ามือพลิกเปิดหลอดยาเตรียมจะบีบเนื้อยาแต่แล้วสีหน้าต้องแข็งทื่อยามอ่านตัวอักษรวิธีการใช้ยา...
วิธีใช้ : ใช้สำหรับทาบริเวณทวารหนักเท่านั้น
“ ไอ้เหี้ยจินนนนน!!! ”
กูยังแมน!!
“ ใครจะไปรู้ว่ายังไม่โดนสอย ”
หลังจากเกรี้ยวกราดในห้องน้ำไปออกมาแต่งตัวก็กระชากคอเพื่อนตัวดีมาเขย่าคออยากจะเด็ดหัวมาเตะเล่นสักรอบ แล้วดูคำพูดมันสิ
ทำไมมีแต่คนคิดว่าเขาจะต้องโดนสอยตูดฮะ!
ไม่คิดว่าจะเป็นพี่เก้าที่โดนรึไง!
“ มึงกำลังส่งเสริมให้เพื่อนไปเป็นเมียเขาอย่างงี้ได้ไง ”
“ สารรูปมึงเป็นผัวเขาไม่ขึ้นหรอก ” ดูถูกไปอีก “ ถ้าอยากเป็นผัวแนะนำให้ไปหาคนที่ตัวเล็กกว่ามึงแล้วกัน ”
ผมมองไอ้จินที่กำลังพับเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเป้แล้วยกยิ้ม “ งั้นเป็นผัวมึงก็ได้ใช่ไป เตี้ยกว่ากูหนึ่งเซน ”
“ ไอ้เหี้ย ไปไกลตีนกู! ” ขวดน้ำหอมถูกปาใส่หัวผมทันควันดีที่รับได้ทันก่อนจะเข้าหน้า กะจะฆ่ากันเลยใช่มั้ยถึงได้ปาขวดน้ำหอมแก้วมาเนี่ย
“ กูล้อเล่นมั้ยล่ะ ” กลอกตาเหม็นเบื่อใส่หน้ามันไปอีกแล้วเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อจัดกระเป๋าตัวเองเช่นกัน
จริงด้วย ลืมบอกเลยว่าพรุ่งนี้เราจะไปค่ายเก็บตัวดาวเดือนกันที่ทะเล นัดตีสี่รถออกตีห้า ใครเลทก็ตามไปที่ทะเลเอง ไม่ได้ขู่แต่ปีที่แล้วมีคนตกรถต้องไปทะเลเองจริงๆ ให้ทายว่าคณะไหน
ไอ้พี่คณะบังเกิดเกล้าผมที่ชื่อลมไง เป็นที่จดจำสุดๆ
“ มึงเคยไปหาดเกาะลังกาจิวปะ ” จินถามขึ้นท่ามกลางความเงียบ
“ ชื่อกูยังไม่เคยได้ยินแล้วจะเคยไปมั้ยล่ะ ” ตอบกลับไปอย่างฉุนๆ เพราะยังเคืองอยู่ “ ทะเลกูไปแต่เสม็ด ”
“ หัวมึงมีแต่เรื่องพวกนี้ใช่มั้ย ” ทำไมต้องถอนหายใจแรงเบอร์นั้น ส่ายหน้าส่ายหัวก่อนจะเลิกสนใจผม
ผมไม่รู้จักหาดที่ว่าแค่นี้ต้องเลิกคุยเหรอ ใจคับแคบเสียจริงเพื่อนกู ผมใช้เวลาเลือกเสื้อผ้าไม่นานนักเพราะส่วนใหญ่ก็เสื้อยืดเสื้อกล้ามกางเกงขาสั้นให้เหมาะกับการไปทะเล
อืม... พี่เก้าก็ไปทะเลด้วย
แอบหวังซิกแพคเปียกน้ำนิดๆ
คิดแล้วใจมันก็ซี๊ดซ่านเลย จิ๊ปากนิดหน่อยก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากองผ้ายังพับไม่เสร็จแต่ดันคิดถึงพี่เก้าซะก่อน จะว่าไปพี่เก้ามันอารมณ์ค้างขนาดไหนจะไปลงที่ไหนวะ คิดอย่างกังวลใจไม่ได้แดกกูแล้วไปลงที่คนอื่นนี่มันก็ช่วยไม่ได้ ยังไงดี... คนคุยไงแค่คนคุยไม่มีสิทธิ์หึงหวง
เจ็บใจชะมัด...
แต่ถึงเจ็บใจแต่คิดว่าคนหน้าด้านแบบผมจะท้อเหรอไม่มีทาง กดจิ้มตรวจดูโซเซี่ยลทันทีว่ามีการเช็กอินตามผับตามบาร์รึเปล่าพบว่าไม่มี ปกติพี่เก้าไปผับเขาก็เช็กอินตลอดโนสนโนแคร์ว่าจะมีนักข่าวตามเก็บภาพหรือหาเรื่องโจมตี
พอไม่เห็นการเคลื่อนไหวพลันคิดถึงสีหน้าพี่เก้าตอนกำลังช่วยตัวเองในห้องน้ำ... อ่า อยากฟังเสียงจัง จินตนการถึงสีหน้าร้อนแรงหลับตาพริ้มกัดปากเสียงครางทุ้มๆอย่างพี่เก้าแล้วมันมวนท้องขึ้นมา
แค่จินตนาการก็ขึ้นแล้วเหรอ
ช่างอ่อนหัดจริงๆ กูเนี่ย
ขนาดเอาออกไปสองน้ำแล้วนะ อ้อ คราวนี้กัดปากแน่นมากเพราะไม่อยากให้ไอ้จินมาล้อแบบพี่เก้าอีก กำลังเบรกตัวเองให้สงบจจิตสงบใจเสียงริงโทนสายเรียกเข้าก็พลันสะดุ้ง
สายเรียกเข้า : 9
คิดถึงก็มาเลยแฮะ... หลับหูหลับตาดึงสติกลับมาก่อนแล้วจึงรับสายพยายามทำตัวปกติที่สุด
“ ฮัลโหลว่าไงครับ ถึงห้องยัง นี่ว่าจะโทรไปแต่ผมเตรียมกระเป๋าไปทะเลอยู่เลยไม่ได้โทร ว่าแต่พี่จัดกระเป๋ายัง เอาเสื้อสีไรไปบ้าง ”
ผมว่าผมทำตัวปกตินะ แต่ทำไมปลายสายเงียบ เงียบซะจนเหงื่อซึมบนหน้าผากไม่นานเสียงปลายสายก็หัวเราะออกมาเบาๆ
( พี่ควรตอบคำถามไหนก่อนดีครับ ) เทียบกับพี่เก้าแล้วเขาดูปกติมากจนผมรู้สึกอาย
ผ่อนลมหายใจแล้วดึงสายหูฟังออกมาใส่ “ ตอบมาทุกคำถามนั้นแหละ ” หยิบผ้ามาพับต่อ
( ถึงห้องนานแล้ว ส่วนกระเป๋าจัดไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ส่วนเสื้อเหรอ... พี่เอาสีโทนฟ้ากับเขียวมิ้นท์ไปครับ )
“ อ่าฮะ ” โชคดีที่มีเสื้อยืดสีฟ้าอยู่
( ถามทำไมครับ ) ปลายเสียงว่าอ่อนทุ้มแล้วแซว ( จะใส่คู่กับพี่เหรอ )
“ ถ้าใช่จะทำไมครับ ” พอเห็นว่าพี่เก้าทำตัวปกติไม่พูดถึงเรื่องบนรถชวนเสียตัวมันก็พลอยทำให้ผมโล่งใจไปหน่อยเพราะตอนนี้ยังไม่น่าตอบโต้อีกฝ่ายได้
( ไม่ต้องใส่สีตามพี่หรอก )
“ ... ”
( มาใส่เสื้อคู่จริงๆเลยเถอะครับ )
...โครม
คล้ายมีรถอ้อยสองคันมาคว่ำตรงหน้าเป็นการคว่ำเบาๆ เพราะถ้าคว่ำแรงมันจะมาประมาณร้อยคันรถ ผมเม้มปากไม่ให้ตัวเองยิ้มกว้างแล้วถามลองเชิง
“ ผมมีเสื้อคู่นะ จะให้เอาไปด้วยมั้ย ”
( นับสองก็มีเหรอ ) น้ำเสียงพี่เก้าดูสนใจไม่น้อย ( ถ้ากล้าก็เอามาครับ )
“ อยู่ที่ว่าพี่จะกล้าใส่รึเปล่า ”
( ขนาดถอดเสื้อพี่ยังไม่ต้องใช้ความกล้าเลยครับ )
“ ...! ”
( พี่ว่าไม่ต้องใส่ก็ได้นะเพราะสุดท้ายก็ถอดอยู่ดี )
ไอ้พี่เก้า!! ฟสฟสยาเอ
อ้อยเต็มห้องเเล้วเว้ยยย
ขอถอนคำพูดเมื่อกี้ที่ว่ามันจะไม่พูดถึงเรื่องบนรถแต่สุดท้ายก็โยงจนได้แถมเสื้อที่ถูกถอดไปนั้นก็เป็นกระดุมแถมคนแกะยังใช้เวลาแกะสั้นๆบ่งบอกความช่ำชองสุดๆ เสื้อหลุดไปตอนไหนผมก็ยังไม่รู้เลย
( แต่ยังไงเรื่องบนรถพี่ก็ไม่ขอโทษนะครับ ) คราวนี้น้ำเสียงจริงจังไม่มีแฝงความขี้เล่น
“ พี่ทำผมกลัวนะ ” กลัวจริงๆ แรงโคตรเยอะด้วย ว่าแล้วก็ลูบรอยกัดตรงรอยสักสวย เป็นรอยฟันชัดกระแทกตาตั้งแต่สามร้อยเมตรได้
( ก็ทำให้กลัวจะได้เข็ดไง )
“ ผมยังไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะ ” โวยวายลั่นลืมไปเสียสนิทว่าวันนี้ทำอะไรไปบ้างจะแก้ตัวก็ไม่ทันแล้ว
เสียงลมหายใจแรงๆดังขึ้นรอบหนึ่งก่อนคล้ายกำลังพยายามใจเย็น
( แน่ใจเหรอครับว่าไม่ผิด )
“ ไหนว่าจะไม่โกรธเรื่องไอ้พี่คิวไง ”
( พี่บอกเหรอว่าไม่โกรธ ) เออ... ก็จริง พี่มันแค่ปัดตกเรื่องนี้ไปก่อนเพราะต้องไปกินข้าว กลืนน้ำลายดังอึกเลยทีเดียว
“ ผมไม่รู้จริงๆว่าพี่มีแฝดที่หน้าเหมือนกันขนาดนี้ ” ยังไงก็ไม่ยอม “ ใครใช้ให้มันทำผมสีเดียวกับพี่เล่า! ”
( ไว้พี่จะบอกให้คิวไปเปลี่ยนนะ ) ดี ดีมาก! ( แต่เรื่องที่สนามบาสพี่ยังไม่ได้ชำระนะ )
คดีเดียวกูก็รู้สึกแทบจะคิดสวรรค์ชั้นเก้าแล้ว
ถ้ารวมความผิดทั้งหมดในวันนี้
สภาพคงลุกจากเตียงไม่ได้เป็นเดือน
“ พี่ๆเพื่อนๆทั้งนั้น ” เป็นคนเฟรนลี่!
( ก็ไม่ได้ครับ )
ผมมุ่ยหน้าก่อนจะปิดกระเป๋าเมื่อจัดเสร็จ “ ขี้หวงว่ะ ”
( พี่ก็บอกแล้วว่าพี่ขี้หวง ) ปลายสายยอมรับแต่โดยดีไม่บิดพริ้ว ( ถ้ามีอีกจะโดนแบบวันนี้ครับ )
งั้นคงต้องทำบ่อยๆ
สกินชิพอีกนิด ลวนลามอีกหน่อย จบด้วยการลงโทษ
กำไรเน้นๆ
( ยั่วพอดีๆอย่าให้พี่หวงพี่หึงขึ้นหน้าแล้วกันครับ ) ขนาดยังไม่ขึ้นนะมึงยังทำให้กูมีสภาพโดนรุมทึ้งขนาดนี้ ถ้าโดนจริงๆไม่อยากคิดสภาพ
“ ทำไมครับ? ” ผมลุกขึ้นไปนอนกลิ้งบนเตียงนุ่ม “ จะจูบผมให้สลบไปข้างเลยรึไง ”
( จูบเหรอ ...เบาไปมั้งครับ )
“ ยังจะมีขั้นกว่าอีกเหรอ ”
ผมควรไปหาคู่ซ้อมเพื่อมาสู้กับพี่เก้าดีมั้ย
( ถ้าคิดว่าวันนี้คือที่สุดแล้ว ) หยุดไปนิด ( คิดผิดแล้วครับ )
“ ... ”
( แด๊ดดี้ไม่ได้มีดีแค่นั้นครับ )
แปลตรงๆได้ว่า...
ผัวไม่ได้มีดีแค่นั้นครับ
...
...
...
กูบอกแล้วไงว่าไม่เป็นเมีย
จะเป็นผัวพี่เก้าเว้ยยยยยยยย!!
----------------------
ยอมเเพ้เถอะนับสอง
ไม่ได้มาหลายวันเลย
จริงๆตาหายเเดงเเล้วเเต่ยังรู้สึกปวดตา เดือนพรายเป็นคนที่สายตาสั้นข้างเดียว อีกข้างปกติ (250 / 0)
ทำให้จะตาเเดงบ่อยเเล้วก็ปวดบ่อยๆ
ฮอลลล ใครเคยทำเลสิคบ้าง
#นับเก้ารัก
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

รู้สึกร่างกายขาดเลือดดดดด