อธิษฐานอีกครั้ง ขอให้นายมีชีวิต - นิยาย อธิษฐานอีกครั้ง ขอให้นายมีชีวิต : Dek-D.com - Writer
×

    อธิษฐานอีกครั้ง ขอให้นายมีชีวิต

    สาวออฟฟิศ ที่ชีวิตการงานช่างยุ่งเหยิง ตัดสินใจย้ายมาอยู่กรุงเทพตัวคนเดียวในคอนโดใจกลางเมือง ทว่ามีรูมเมทอีกคนที่ไม่ได้รับเชิญอยู่ด้วยนี่สิ หรือว่า ฉันจะลงเอยกับ"ผี"อย่างหมอนี่กันนะ!!!

    ผู้เข้าชมรวม

    134

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    134

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  1 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  22 มี.ค. 65 / 12:32 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    EP.1 สายแล้วๆ!!!

    09:15 น.

    ตึงๆ ตึงๆ !!! เสียงฝีเท้าวิ่งลงมาจากชั้นบน สภาพหัวฟู เหมือนเพิ่งตื่น หอบข้าวของเต็มมือด้วยความกระหืดกระหอบ

    “โอ้ย ยัยเน แกค่อยๆเดินก็ได้ บ้านน่ะมันจะพังหมดแล้วว้อยย”

    “โห่แม่ สายป่านนี้แล้ว จะให้เดินแล้วหนูจะเข้างานทันมั้ยล่ะเนี่ย”

    “เอ้าๆ แล้วนี่ข้าวปลาแกไม่กินรึไง เดี๋ยวไปทำงานก็ปวดท้องอีกหรอก”

    “ไม่เป็นไรค่า เดี๋ยวหนูแวะซื้อข้างทาง ไปก่อนนะแม่ หอมก่อนทีนึง” …>//<

    เพราะบ้านอยู่ตั้งแถบชานเมือง ถึงจะอยู่ในกรุงเทพก็เถอะ แต่รถนี่ติดได้ติดดีจริงๆสิน่า กว่าจะเดินออกมาปากซอย ขึ้นรถพี่วินมอเตอร์ไซค์มาที่ป้ายรถเมล์ แล้วต้องวิ่งเข้าซอยมาที่ออฟฟิศอีก เห้อ…เหนื่อยสายตัวแทบขาด

    “แกจ่ายฉันมาเลย 20!”

    “โห่ ปกติฉันไม่เคยแพ้แกเลยนะเนี่ย”

    “อะไรของพวกแก มาเล่นอะไรกันแถวโต๊ะทำงานฉัน”

    “ก็แกมาสายอ่ะ ฉันกับยัยเป้เลยพนันกันคนละ20”

    “นี่ถ้าพวกแกมีเงินเยอะก็มาให้ฉันซื้อข้าวนี่มา ไร้สาระจริงๆ”

    “เออนี่ ปกติแกมาคนแรกตลอดเลยนะ แล้วทำไมวันนี้มาสายวะ”

    “ถ่านนาฬิกาปลุกมันหมดอ่ะ…ฮืออ”

    “นาฬิกาปลุก!!!/นาฬิกาปลุก!!!”

    12:20 น.

    “นี่เนเน่ ฉันรู้ว่าหล่อนน่ะงานยุ่ง งานเยอะ แล้วก็บ้างานมากๆนะ แต่สมัยนี้มือถือน่ะมันก็ตั้งปลุกได้นะยะ”

    “ไอ้เปรม ฉันก็รู้ว่ามันปลุกได้ แต่เสียงมันดังสู้นาฬิกาจริงๆไม่ได้นี่หว่า”

    “ว๊ายย แกเรียกฉันไอ้เปรมแบบนี้ไม่ได้แล้วนะ ฉันชื่อเปรมมี่ค่าาา”

    “จ้ะ ถอดวิกมาแกก็เป็นไอ้เปรมของแม่ฉันอยู่ดีแหล่ะ 55”

    “เออนี่ จะว่าไปไม่ได้ไปเที่ยวบ้านแกนานแล้วเนาะ คิดถึงกับข้าวฝีมือแม่แกอ่ะ”

    “เออจริง เอางี้งั้นอาทิตย์นี้ไปบ้านแกกัน พวกฉันเบื่อกับข้าวบริษัทจะแย่แล้วอ่ะ ป้าจิ๋มแกทำแต่แกงกับต้มจืด55”

     

    ชานเมืองของกรุงเทพ มีหมู่บ้านเล็กๆ มีซอยเยอะๆ รถเด็กแว๊นก็เสียงดังขี่รถกันทั้งวัน แถวนี้มีแต่บ้านหลังเก่าๆเล็กๆ และแน่นอนว่ามีบ้านหลังของเนเน่กับแม่ และน้องชาย ซึ่งจะว่าไปที่นี่ นับว่าเป็นที่ที่สงบที่สุดในกรุงเทพแล้วก็ว่าได้ 

    วันอาทิตย์ 10:00 น.

    “สงบอะไรล่ะ แออัดม้าก ร้อนก็ร้อน โอ๊ยเมคอัพฉันเยิ้มหมดแล้วเนี่ย”

    “ไอ้เปรม แกเป็นคนบอกเองนะว่าคิดถึงบ้านฉัน”

    “อ่ะงั้นกระเทยกลับค่ะ เชอะ”

    “อ้าว ไอ้เปรม! ไอ้เปรมของแม่ใช่มั้ยน่ะ”

    “แม๊!!! เปรมมี่ เดี๋ยวผู้ชายแถวนี้เค้าก็รู้หมดว่าหนูเป็นกระเทยอ่ะ”

    “โอ้ย ไม่ต้องเรียกเค้าก็รู้ว่าเป็นกระเทย ก็เล่นจิกวิกสีแดงเป็นแอเรียลมาซะขนาดนี้ นี่หมาในซอยมันไม่ไล่กัดเอาก็ดีแล้วนะเนี่ย 55”

    สี่สาว แม่ เนเน่ ปูเป้ และ เปรมมี่ ลงครัวทำอาหาร และนั่งกินข้าวพูดคุยถึงเรื่องความหลังสมัยเรียนปี1 ถึงปี4 ด้วยกัน เรียกได้ว่า เพื่อนสาวทั้งสามคนร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่กันมานานจริงๆ เพราะตั้งแต่ที่เนเน่เสียพ่อไปตั้งแต่ปี2 ชีวิตของทางบ้านก็ผ่านมาได้อย่างยากลำบาก เนเน่ต้องทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยเพื่อส่งน้องชายให้ได้เรียนต่อ แม่ก็ขายข้าวเก็บเงินจนเปิดร้านเล็กๆตั้งตัวได้อีกครั้ง น้องชายเรียนจบม.ปลาย เพื่อนสาวก็คอยให้กำลังใจ และช่วยเหลือมาตลอด จนได้ทำงานที่เดียวกันในทุกวันนี้

     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น