ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Audition นางเอกด๊อง >> พี่เจ
Actress of Donghae
ใบสมัครนางเอก ...Donghae...(สีฟ้า ตอบสีดำนะ)
ส่วนประวัติผู้สมัคร
ชื่อผู้สมัคร :: เกด
อายุ :: 14 ปี
ยินดีที่ได้รู้จักนะ :: Nice to Meet U too ยินดีเช่นกันค่ะ ^^
ส่วนประวัติตัวละคร
ชื่อ (เกาหลี ขอมีความหมาย) :: เชว มีโซ (แปลว่า รอยยิ้มค่ะ)
Name (เป็นภาษาอังกฤษ) :: Choi Miso
อายุ (ไม่ต่ำกว่า 19 และไม่มากกว่าทงเฮ) :: 20
บุคลิก ::เด็กๆ แบ๊วๆ ดูอิเซนส์ ซื่อๆ ผมยาว อารมณ์ดีเป็นนิจ ผมสีน้ำตาลเข้มยาวซอยไล่ๆ โกรธยากหายยาก
นิสัย (5 บรรทัด up!!) :: เอ๋อๆ รั่วๆ บ้าๆ ฮาๆ มีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะติดตัวเป็นสัญลักษณ์ ขี้วีนเล็กน้อยถึงปานกลาง ออกแนวเพ้อฝัน บ้าๆบอๆต๊องๆ หลงตัวเองว่าสวยน่ารัก นิสัยเหมือนเด็กไม่รู้จักโต เวลาทำอะไรผิดชอบทำตาโตๆซื่อๆ แล้วหาเรื่องกวนๆใส่ เวลาโมโหจะวีนๆแล้วก็กลับมาอารมณ์ดี แต่ถ้าเวลาโกรธจะทำเหมือนคนนั้นเป็นอากาศธาตุไม่มีตัวตนในโลกนี้ และหายโกรธยาก ชอบฟังเพลง วาดรูป อ่านนิยาย ร้องไห้ยาก เซ่อซ่าซู่มซ่าม หัวช้า แต่เรียนดี (ขัดกันพิลึก) เปลี่ยนอารมณ์เร็ว ปากตรงกับใจ คิดอะไรพูดอย่างงั้น วันนึงมีหลายอารมณ์จัด พยายามจะโกหก แต่ไม่เคยสำเร็จ เวลาเฟค สมจริงอยู่สามนาที กระเป๋าตังค์หนักตลอดเวลา กว่าจะควักตังค์จ่ายของได้นี่ลังเลคิดเป็นชาติ จนคนข้างๆเซ็งกับความัธยัทจัดจนออกเงินให้ทุกที ขี้เหนี่ยวขี้ตืด เค็ม นิยามของการดำรงชีวิตคือไร้สาระ =o=
ประวัติ (ข้ามไปก็ได้เพราะเป็นน้องสาวซีวอน) :: ฮับ
ชอบ :: ขนม เทคโนโลยี หนังสือนิยาย อะไรที่ทำแล้วมันมีความสุข ยิ้ม หัวเราะ ของฟรี
ไม่ชอบ / เกลียด :: โดนแกล้ง โดนหลอก บรรยากาศเครียดๆ
กลัว :: อดีตเศร้าๆ
ความสามารถพิเศษ :: วาดรูป สามารถสะดุดพื้นเปล่าได้ ประหยัดเงินได้อย่างไม่น่าเชื่อ
อื่นๆ :: ไม่มี
อิมเมจนางเอก (3 รูปพอ ไม่เล็กไม่ใหญ่ไปนะ! บอกชื่อเจ้าของอิมเมจด้วยจ้า) :: บัน ยูนฮี
อิมเมจคู่ (3 รูปพอ ไม่เล็กไม่ใหญ่ไปนะ!)::
ส่วนข้อตกลงนิดหน่อย
1.ถ้าติดให้เวลารายงานตัว 1 อาทิตย์ (7 วัน) โอเคนะ
:: จะพยายามนะคะ คือมีเหตุว่าอยู่ประจำ บางอาทิตย์กลับมาบ้านจึงไม่ได้เข้าเน็ตมาดู และประจำไม่มีเน็ต (เศร้า)
2.ติดแล้วต้องมาเม้น+โหวตสม่ำเสมอนะ อย่างน้อยก็ทุกครั้งที่อัพ
::รับทราบฮับ
ปล.อาจจะได้อาทิตย์ล่ะหนนะ เพราะอยู่ประจำ หรือบางอาทิตย์ไม่ได้กลับ อาจไม่ได้เม้น อย่าถือสากันเลยเน้อ
3.ถ้าจะหายได้โปรดแจ้งด้วยนะ ถ้าหายไปเฉยๆ เจจะให้เจ๊ยิงนางเอกคุณทิ้งซะเลย 55+ ตกลงนะ
:: อย่างที่บอกอ่ะค่ะ ถ้าหายไปคือไม่ได้เปิดคอมแน่ๆ
4.อาจจะมีการปรับเปลี่ยนคาแรกเตอร์เล็กน้อยเพื่อความเหมาะสม
:: ได้งับ
5.อยากได้บทสำรองอะไรไหม
:: ต้องการบทด๊องเท่านั้นอ่า
ส่วนคำถาม
1.คุณรู้จักกับทงเฮมาเจ็ดปีแล้ว และในความทรงจำของคุณ ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่คุณไม่ถูกเขาหลอก ไม่ว่าจะเป็นกุเรื่องงี่เง่าปัญญาอ่อนมา หรือเรื่องที่น่าเหลือเชื่อสุดๆ มาเล่าให้คุณฟัง คุณก็จะเชื่อเขาไปหมดเสียทุกครั้ง -*- วันหนึ่ง...คุณกับเขาออกไปเดินเที่ยวซื้อของด้วยกัน และอยู่ดีๆ เขาก็บอกว่าวิธีเรียกเนื้อคู่ที่รวดเร็วและได้ผลที่สุดคือให้คุณไปซื้อกุหลาบแดงมาและนั่งหลับตาอยู่ที่น้ำพุ แล้วภายในสามสิบนาทีเนื้อคู่ของคุณก็จะโผล่มา! ฟังดูไร้สาระสุดๆ แต่คุณก็เชื่อ - -+ และทำตามที่เขาบอก ...แต่ผ่านไปเกือบสองชั่วโมงที่คุณนั่งหลับอยู่ที่หน้ารูปปั้นน้ำพุ ก็ยังไม่เห็นจะไม่ใครโผล่มาเลยซักคน จนในที่สุดคุณก็ทนไม่ไหวและเริ่มออกเดินตามหาทงเฮพร้อมด้วยอารมณ์โกรธสุดๆ แล้วคุณก็เจอเขานั่งกินไอติมกับสาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มคนหนึ่งอย่างมีความสุข คุณถึงกับโกรธจัดจนควันออกหูที่เขาหลอกแกล้งคุณแล้วตัวเองก็มานั่งจีบสาวอย่างสบายใจ คุณจะทำอย่างไรต่อไป? (บทพูด+บรรยาย 10 บรรทัดอัพ ตั้งแต่ตอนเดินเที่ยวด้วยกันแล้วเขาเล่าวิธีเลือกเนื้อคู่ให้คุณฟัง)
:: “นี่ ไอ้หนังสือเล่มเตอะอย่างนี้ เธออ่านเข้าไปได้ไงเนี่ย อ่านจนไม่ยอมกินข้าวเนี่ยนะ ทั้งที่ชั้นอุตสาห์ควักตังค์เลี้ยง” ทงเฮเอ่ยถามเหมือนเห็นสาวเจ้าเอาแต่อ่านหนังสือตลอด ตั้งแต่ตอนที่เขามากินข้าว
“ไม่ต้องบ่นเลย กะอีแค่นี้ ที่ควงสาวเดตหมดไปตั้งเยอะล่ะยะ” เด็กสาวเปลี่ยนจากอ่านมากอดหนังสือไว้
“แล้วเรื่องนี้มันหนุกมากเลยรึไง”
“ช่าย นิยายเรื่องนี้หนุกมากเลยแหละ” ดวงตาโตๆประกายเพ้อฝันวิ้งวับ
“เรื่องน้ำเน่าอะไรอีกล่ะ- -*”
“อะไรยะ ไม่น้ำเน่านะ เป็นความรักบริสุทธิ์ของนางเอกกับพระเอกที่เกิดมาเป็นเนื้อคู่กันตั้งแต่ชาติก่อน >_< ทำไมชีวิตเรามันไม่เหมือนนิยายบ้างน้า~~ “ ประกายวิ้งวับในตาดูทวีมากขึ้น จนคนฟังแอบหมั่นไส้
“นี่วิธีหาเนื้อคู่ดีๆก็มีนะ”
“อะไรล่ะ นายก็หลอกชั้นอีกน่ะสิ -3- “
“คราวนี้ไม่หลอกแน่ๆ ชั้นไม่อยากเจ็บตัวหรอกน่า”
“งั้น บอกมาๆ”
“เธอก็แค่...ไปซื้อกุหลาบแดงนะ แล้วไปนั่งรอที่น้ำพุ”
“หา!!”
“ช่าย แค่30นาทีเท่านั้นแหละ เธอก็จะพบเนื้อคู่”
“ไร้สาระสุดๆ เชื่อก็โง่และ -0- “
“ไม่เชื่อก็ตามใจ เธอจะได้ขึ้นคานต่อไปไง^^”
“ไอ้.....”
“อ๊ะๆๆ ดูสิคนเข้าร้านดอกไม้ไปซื้อกุหลาบแดงเต็มเลย มันต้องจริงแน่ๆ” ใบหน้าหล่อๆกวนเท้า ยิ้มกวน มีโซหันสายตาไปมองเด็กสาวกลุ่มหนึ่งที่กะโกนโหวกเหวกหน้าร้านขายดอกไม้
เด็กสาวชั่งใจคิดนิดนึง เปิดกระเป๋าเงินดู พบว่าธนบัตรแน่นเอี้ยดเต็มที่
ก็นานๆทีจะเปิดกระเป๋าจ่ายอ่ะเนอะ
“นี่เธอเพิ่งได้เงินค่าขนมไม่ใช่เรอะ กะอีแค่ดอกกุหลาบดอกเดียวไม่ตายหรอก”
มีโซมองคนพูดเคืองๆ ก่อนเดินตรงไปยังร้านดอกไม้
“ลองเชื่อก็ได้(วะ)”
ไม่นานนักร่างเล็กก็เดินออกมาจากร้านพร้อมดอกกุหลาบแดงหนึ่งดอกในมือ
“ถ้ามันไม่จริงนะนายตายแน่”
“อือ” เด็กสาวตวัดสายตามองหนึ่งทีแล้วเดินไปที่รูปปั้นน้ำพุด้วยรอยยิ้มหวาน นั่งจุ้มปุ๊กลง แล้วหลับตาพริ้ม
30 นาทีผ่านไป
..
ทำไมยังไม่มีใครเดินมาเลยอ่ะ
1 ชั่วโมงผ่านไป
..
คนเราต้องอดทน!! มุ่งมั่น ตั้งใจ ไปให้ถึงฝัน(ไม่ใช่และ)
2 ชั่วโมงผ่านไป
ลานน้ำพุคงยังไม่มีใครหล่อๆที่จะเป็นเนื้อคู่โผล่มาให้เห็นซักคน
แง่งง~~ คนสวยชักทนไม่ได้แล้วนะ
สุดท้ายเมื่อลานน้ำพุยังเปล่าเปลี่ยวไร้ผู้คนผู้ซึ่งจะมาเป็นเนื้อคู่ มีแต่คนที่มองเธอด้วยสาวยตาแปลก ประมาณว่า
‘อินี่ยังเต็มอยู่รึเปล่า’
พอรู้ตัวว่าถูกหลอกแน่ๆ ก็ลุกขึ้นทันทีด้วยอารมณ์โกรธพลุ่งพล่าน ออกตามหาคนแนะวิธีต๊องๆ มือบางกำดอกกุหลาบแน่น เดินจ้ำๆไม่สนสายตาชาวบ้านประชาชีที่มองมาแปลกๆ ใบหน้าหวานขึ้นสีจัดทั้งจากความอายและความโกรธ แล้วตาโตๆที่เกือบจะถลนก็แลไปเห็นตัวการที่นั่งขายขนมจีบอยู่ในร้านไอติมอย่างสุขสันต์
“อี ทง เฮ!!!!” เสียงหวานตวาดลั่นร้านทันทีที่ประตูเปิดออก เจ้าของชื่อหันมามีอันเป็นต้องสะดุ้ง เมื่อร่างเล็กยืนถมึงทึงควันออกหูเป็นรถไฟปู๊นๆ ดอกกุหลาบเมื่อสองชั่วโมงที่แล้วยังสีแดงสวยสด ปัจจุบันแทบจะแหลกช้ำคามือคนซื้อ มีโซเดินตึงๆมายังโต๊ะแล้วทุบโต๊ะดังปั้ง ถ้าตาไม่ฝาด เค้าร็สึกเห็นายฟ้าผ่าเปรี้ยงที่หัวตาคนโกรธ
“นาย หลอก ชั้น อีก แล้ว!!!”
“เอ่อ มีโซ” ยิ้มแหยๆ เรียกเสียงอ่อยๆ
“ชั้นต้องมาเสียเงินกับการหลอกลวงของนาย สนุกมากนักรึไงที่หลอกชั้นอยู่ได้อ่ะฮะ!!”
“ปะ เปล่า เธออาจจะยังไม่มีบุญเจอก็ได้”
“อ๋อออออ งั้นเหรอ” มีโซฉีกยิ้มเหี้ยมเตะเก้าอี้ที่ร่างสูงนั่งอยู่ จนคนนั่งตกลงไปกระแทกพื้นแล้วเดินสะบัดไปยังเคาท์เตอร์ไอติม
“พี่คะ^^ เอาอันนี้ค่ะ แล้วก็อันนี้ อันนี้ อันนี้นะคะใส่กล่องกลับบ้าน ส่วนอันนี้ทานนี่ค่ะ คิดเงินที่ผู้ชายคนนั้นนะคะ” เสียง
ใสสั่งๆ แล้วเดินไปนั่งโต๊ะตัวเล็กห่างๆ จากคนขี้แกล้ง
ทงเฮตะเกียกตะกายลุกขึ้นมานั่ง หันไปยิ้มให้สาวสวยหมวยเอ็กซ์ที่ยังคงเหลือแววความตกใจเสียงหวาน เธอคนนั้นพยักหน้าน้อย โปรยยิ้มให้แล้วเดินออกไปจากร้าน จากนั้นทงเฮก็เดินมาที่โต๊ะคนหน้าบูด
“มีโซ~~~”
“...............................” ตักไอติมใส่ปากเร็วๆ
“นี่~~~~ ทีแต่ก่อนไม่เห็นจะโกรธขนาดนี้เลยอ่า >_<”
“..................... =________=+++++++”
“ปกติมีแต่โวยๆนี่นา โกรธอย่างนี้มันไม่น่ารักหรอกนะ”
“.........................”
แก๊ง~!
พอไอติมหมดถ้วย เธอก็หอบเอาของที่สั่งไว้เดินลิ่วออกจากร้าน ทงเฮรีบควักตังค์จ่ายเงิน เดินตามคนง้อยากต้อยๆ
“มีโซ~~”
“...................” ไม่มีสัญญาณตอบรับจำหมายเลขที่ท่านเรียก ร่างบางเดินไปที่รถแล้วหันกลับมาประจันหน้าด้วยหน้าบูดบึ้ง
“กุญ....แจ” สำหรับคนโดนโกรธทางเดียวคือส่งกุญแจให้ พอได้สิ่งที่ต้องการปุ๊บ เธอกันหันหลังขวับเปิดรถแล้วสตาร์ทออกไป โดยไม่รอผู้ติดตาม
“เฮ้ย มีโซ๊~~~~~”
1 วันหลังจากนั้น
โทรศัพท์สีชมพูหวาน แบบที่เจ้าของชอบแผดเสียงริงโทนอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย แต่เจ้าของกลับเฉยเมย จนเสียงมันหยุด แล้วก็ดังใหม่เป็นจังหวะๆ มีโซกดตัดสายทิ้งครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ดูคนโทรก็ยังไม่ยอมแพ้ จนสุดท้ายต้องกดรับ
“...................”
[ในที่สุดเธอก็ยอมดีด้วยแล้วใช่ม้า]
“................”
[พูดดอะไรหน่อยสิ คนสวย]
“.......................”
[โถ่ อะไรอ่ะ แค่ชั้นหลอกเธอเล่นๆเองน้า]
“เอาคำพูดหวานๆไปบอกเด็กนายไป แล้วไม่ต้องโทรมาหาชั้นอีก!!!!!!!!!!!!”
ติ๊ด
ตัดสายทันทีพอวีนแตกเสร็จ ตามด้วยการปิดเครื่อง
วันที่ 2
“มีโซ น้องรัก”
“มีอะไรเหรอโอปป้า” เธอละจากคอมพิวเตอรหันมาหาพี่ชายสุดรัก
“เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยไปไหนมาไหนกับทงเฮเลยนะ”
“เฮอะ”
“ทงเฮมันบ่นๆถึงเธอนะ”
“ชิ”
“โกรธอะไรกันรึเปล่า”
“เปล่า”
“เห็นเจ้านั่นมันบอกแค่ว่า มันไปแกล้งอะไรเธอนิดน่อยเอง อย่าไปโกรธมันเล๊ย” มีโซหันขวับ ดวงตาโตขึ้นประกายกร้าวอย่างเห็นชัด
“นิดหน่อยบ้านพ่อมันสิ ไม่เอาแล้ว ไม่อยากจะยุ่งกับพวกคนหลอกลวง!!!” ซีวอนแอบสะดุ้งกับบทโกรธน้องสาว พอเหลือบไปมองรูปที่คนด่าฉอดๆกำลังตัดต่ออยู่ ก็เหงื่อตกแทนคนในรูป
ก็นะ รูปทงเฮโดนขีดฆ่า เลือดกระฉูด ข้อความเลือดตัวโตด่านั่นอีก
ตกดึกพอเปิดเครื่องปุ๊ป รายการมิสคอลก็พุ่งพรวดเกือบ 20 สาย กับข้อความเสียงอีกเพียบ
//นี่ เวลาเธอโกรธนี่มันน่ากลัวชะมัด//
//ชั้นง้อเธอสุดๆแล้วนะ ให้อภัยเถอะนะคนสวย//
//เดี๋ยวพาไปเลี้ยงไอติมก็ได้นะ แต่วันนั้นเธอก็ให้ชั้นจ่ายซะเยอะเชียว//
//หายงอนเธอนะ ที่รัก//
//ถ้าเธอไม่หายงอนนะ พรุ่งนี้ชั้นจูบเธอแน่!!//
แอบอมยิ้มเล็กน้อย ให้พูดจริงๆมันก็โหวงๆที่ไม่มีใครมาป่วนประสาท
แต่.. เรื่องอะไรจะดีง่ายๆ ไอ้บ้านั่นก็เหลิงสิ ทนต่อไปอีกซักอาทิตย์นึงละกันนะ ขอเล่นตัวหน่อยละกัน
//รู้ป่ะว่าอาทิตย์นึงไม่มีเธอมันเหงามากๆเลย อยากอยู่ใกล้ ที่แกล้งเพราะรักนะ
คนน่ารักอ่ะ จะให้อภัยเมื่อไหร่ นี่งอนนิดหน่อยมันก็น่ารักนะ แต่นานๆไม่ก็บั่นทอนความสวยของเธอลดนา
ถ้าเธอยังไม่หายโกรธอีกนะ เธอโดนชั้นจูบแน่//
ข้อความน้ำเน่าส่งมาอีกหลังจากผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ คนอ่านแทบอ้วกกับข้อความ ร่างเล็กเดินออกจากบ้าน แล้วแทบหลบไม่ทันแต่ก็ช้ากว่าอีกคน
“นี่ชั้นง้อสุดๆแล้วนะ เธอมันง้อยากจริงๆ”
“ชิส์”
“นี่ หายโกรธนะ” เอานิ้วจิ้มแก้มป่องๆ อย่างหมั่นไส้
“ถ้าคนอื่นชั้นไม่ทำอย่างงี้หรอกนะ ถ้าไม่หายโกรธชั้น” พูดพร้อมฉกหน้าเร็วๆ
“เฮ้ยอย่านะ!!! >///< “
“หายโกรธสิ”
“ไม่”
“งั้นจูบจริงด้วย”
“ไม่เอา” แกล้งจงใจเอาหน้ามาใกล้ๆ เฉียดจมูกใกล้ๆกับแก้มแดงๆ
“เออๆ หายโกรธแล้วๆ พอใจย๊างงงงง”
“ก็แค่นี้แหละ ^^ “
2.คราวนี้ คุณบอกกับตัวเองว่าจะไม่มีวันยอมหลงเชื่อทงเฮอีก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม ...พอใกล้ถึงวันเกิดคุณ แน่ล่ะว่าพี่ชายคุณ(ซีวอน)ต้องจัดงานวันเกิดให้คุณอยู่แล้ว...แต่ทงเฮก็มาบอกคุณว่าเขาอยากให้คุณไปพบเขาที่สวนสาธารณะ เขาจะจัดปาร์ตี้เซอร์ไพรส์ให้คุณ แต่ด้วยความตั้งใจที่ว่าจะไม่มีวันเชื่อคำพูดของทงเฮอีก คุณจึงไม่ยอมไปตามนัด และฉลองในงานที่ซีวอนจัดให้คุณ...แต่คุณก็รู้สึกแปลกๆ...พอวันต่อมา คุณไม่เห็นวี่แววของทงเฮเลย แม้แต่เงาก็ไม่เห็น คุณเริ่มกังวลใจเพราะว่าปกติเขาจะต้องมาหาเรื่องแกล้งคุณตั้งแต่เช้า...และพอไปถามลูกน้องคนหนึ่งก็ได้ความว่าทงเฮนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลเพราะนอนตากน้ำค้างที่สวนสาธารณะทั้งคืนจนไข้ขึ้น นั่นแปลว่าเขาไม่ได้โกหกเรื่องทีเขาจะจัดงานเซอร์ไพรส์วันเกิดในคุณ! คุณรู้สึกตกใจมากและเสียใจที่ไม่ยอมเชื่อเขา คุณรีบไปหาเขาที่โรงพยาบาล ...และก็ได้เห็นทงเฮนอนซมอยู่ เขาตักพ้อคุณว่าเขาเสียใจมากที่คุณไม่ยอมเชื่อเขา และบอกว่าเขารอคุณทั้งคืนจนฟุบไป คุณรู้สึกผิดและเสียใจมาก คุณจะทำอย่างไรต่อไป จะง้อเขายังไง? (บทพูด 10 บรรทัดอัพ เอาตั้งแต่ได้รู้ว่าทงเฮอยู่โรง‘บาลและไปเยี่ยมเขา)
: ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ใจมันโหวงแปลกๆแฮะ
มีโซนอนกลิ้งอยู่บนเตียง เธออายุ20แล้ว ปกติตาปลาบ้านั่นต้องมาบอกว่าแก่ขึ้นอีกปีแล้วไม่ใช่รึไง แล้ววันนี้หายหัวไปไหนล่ะ
มือบางหยิบโทรศัพท์มากดๆเบอร์ที่จำได้แม่น เสี่ยงริงโทนดังเป็นเวลานาน จนมีเสียงตู๊ดๆ แสดงว่าอีกฝ่ายไม่มีการตอบรับ
มีโซเริ่มกระสับกระส่าย โทรหาทุกเบอร์ สุดท้ายก็คือเบอร์ลูกน้องคนสนิทของทงเฮ
“นี่ วันนี้ทงเฮเจ้านายนายหายไปไหนอ่ะ”
“คุณทงเฮเหรอครับ ไม่สบายนอนไข้ขึ้นอยู่โรงพยาบาลน่ะครับ”
“หา!! อะไรนะ ไอ้ถึกนั่นไข้ขึ้นเหรอ”
“ครับ เห็นบอกว่าไปนอนตากน้ำค้างอยู่ที่สวนสาธารณะน่ะครับ”
“อะ อือ ขอบใจ” ร่างบางกระเด้งตัวออกจากเตียง ลุกขึ้นไปหยิบเสื้อผ้าแต่งตัวใหม่ แล้วพุ่งไปยังโรงพยาบาล
ห้อง 950
คนไข้ : อี ทงเฮ
ในห้องตอนนี้มีแค่คนป่วนนอนหลับ มีโซเปิดประตูเบาๆ ย่องเดินเข้าไปใกล้ร่างสูง
“นี่นายไปรอชั้นจริงเหรอเนี่ย”
“ก็ใช่น่ะสิ” ดวงตาเปิดโพลง พร้อมเสียงทุ้มที่หลุดออกมาจากริมฝีปากซีด
น้ำเสียงตัดพ้อซะจนคนฟังใจสั่น รู้สึกผิดเต็มประตู
“ขอโทษ ขอโทษที่ไม่เชื่อนาย ก็นายหลอกชั้นมาตลอดเลยนี่นา” พร่ำขอโทษ แต่ประโยคหลังก็ยังโยนความผิดไปให้อยู่ดี
“เออ ชั้นผิดเองที่หลอกเธอบ่อย คงเหมือนเด็กเลี้ยงแกะสินะ หลอกจนไม่มีใครเค้าเชื่อ”
“ง่า ชั้นเสียใจจริงๆนะ ที่คราวนี้ไม่ยอมเชื่อนายอ่ะ T^T “
“......ทั้งที่คราวนี้ชั้นตั้งใจแท้ๆ เธอกลับไม่เชื่อชั้นนี่”
เอาล่ะสิ ทงเฮงอนเข้าให้แล้ว
“งื้อ~~ อย่างอนเลยนะ”
แง่ม คนตัวโตถึกๆงอนอ่ะ มันไม่น่าดูหรอกนะ -_-^^^^^^
ทำไงดีฟระ
“ทงเฮอ่า” เรียกเสียงหวาน แต่คนงอนพลิกตัวหันหน้าหนีไปอีกทาง มีโซใจเสียทันที เธอเอามือเกาะแขนทงเฮอ้อนๆ
“ขอโทษน้า ชั้นเสียใจจริงๆนะ รู้งี้ชั้นเชื่อนายอีกครั้งก็หรอก”
“..............”
“เพราะชั้นนายเลยไข้ขึ้น นายเลยต้องนอนซมอยู่โรงบาล ชั้นมันไม่ดีใช่มั้ย” เริ่มบทพรรณนาร้อยพัน ทงเฮชักขมวดคิ้ว รู้สึกแปลกๆกับคำพูด
มันน้ำเน่าแปลกๆแฮะ
“นี่ ชั้นขอโทษจริงๆน้า จริงๆ” พอเฟคเสร็จคนงอนยังไม่หาย เลยเริ่มเศร้าจริงๆ เสียงใสๆมันหม่นลงได้อย่างชัดเจน
“ขอโทษที่ไม่เชื่อนาย ทำไมชั้นไม่ยอมเชื่อนายอีกครั้งเนอะ” ขอบตาร้อนผ่าว น้ำตาทำไม่ไหลมานานเหมือนจะไหล
“ชั้นไปรอเธอทั้งคืน รอจนฟุบไป โผล่มาอีกทีอยู่โรงบาลเธอจะไม่ให้ชั้นรู้สึกอะไรเลยรึไง” เสียงดุๆ ทำเอาคนตัวเล็กเสียงสั่น
“ทงเฮ ฮึก ฮึก” น้ำใสๆไหลลงมาราวทำนบแตก
“เฮ้ย!~” ร่างสูงหันขวับ พอเจอน้ำตาสาวที่ไหลพรากๆ เหมือนเขื่อนแตก ก็เป็นอันอึ้ง
รู้ดีที่สุดว่ายัยนี่ร้องไห้ยากยิ่งกว่าอะไร นอกจะเจอเรื่องหนักๆจริงๆ
ซีวอนจะเอาเค้าตายมั้ยหว่า
“มีโซ”
“ขอโทษ ฮึก ฮึก ที่ทำให้นายไข้ขึ้น ที่ไม่เชื่อนาย ชั้น ฮึก ชั้นเสียใจจริงนะ โฮววววววววววว~~” เอามือปิดหน้า เสียงสะอื้นหลุดออกมาให้ว้าวุ่นเล่น
“เอ่อ....” กะจะโกรธ สุดท้ายเค้าก็ต้องมาปลอบใช่มั้ยเนี่ย
“ฮึก ฮึก ฮืออออ” ร้องทีกว่าจะหยุดก็ยากบรรลัยสุดๆ ทงเฮถอนหายใจ รั้งหัวเล็กเข้ามาจมอก เอามือลูบหลังปลอบ
“หยุดร้องนะ ชั้นไม่โกรธแล้วก็ได้ หยุดร้องซะนะ” ได้ผลทันใด เสียงสะอื้นฮักๆ เงียบทันที มีโซเงยหน้ามอง ริมฝีปากฉีกยิ้ม
“จริงๆนะ”
“=___=”
“ฮึก ฮึก ฮึก”
“เออๆ หายแล้วๆ”
“รักทงเฮที่สุดเล๊ย” แล้วก็โถมกอดอีกคนซะหงายหลัง
“เฮ้ย ชั้นป่วยอยู่น้า~~~”
3.คุณกับเขาคบกันเป็นแฟน(ไวเนอะ - -+ชอบกันตอนไหนเนี่ย) พวกคุณรักกันมากและเขาก็เลิกหลอกแกล้งคุณแล้ว...แต่แล้ววันหนึ่ง คุณกลับได้รับรู้ว่าที่จริงแล้วเขาเป็นสายของตระกูลปาร์ค และเขากำลังตกอยู่ในวงล้อมปืนของซีวอน ทงเฮอาศัยจังหวะจับคุณเป็นตัวประกันและอาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไป...ในตอนนั้นคุณรู้สึกเหมือนหัวใจแตกสลาย...เจ็บปวดที่สุด คุณกลายเป็นคนกลัวความรักไปและปิดตายหัวใจว่าจะไม่รักใครอีก คุณขอซีวอนไปอยู่อเมริกา ตั้งใจจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ปราศจากความรัก...ผ่านไปสองปี และวันหนึ่ง คุณก็ได้พบกับทงเฮโดยบังเอิญ! เขายิ้มและทักทายคุณอย่างเป็นกันเองเหมือนตอนที่สนิทกัน...คุณจะทำอย่างไรต่อไปเมื่อพบกับคนที่ทำให้คุณเสียใจจนปิดตายหัวใจตัวเองอีกครั้ง?(บทพูด+บรรยาย 15 บรรทัดอัพ! นี่คือตอนจบของคู่คุณ อิสระในการตอบ เนรมิตเต็มที่เลยว่าคุณกับทงเฮจะจบอย่างไร)
:: “มีซ ชั้นยืมนิยายเรื่องนึงสิ” เสียงเพื่อนสาวเรียก
:: “มีซ ชั้นยืมนิยายเรื่องนึงสิ” เสียงเพื่อนสาวเรียก
“เลือกเลยตามชั้นน่ะแหละ” เธอตอบกลับไปเสียงใส ไม่นานนักเพื่อนของเธอก็เดินออกมาพร้อมหนังสือ
“เลือกได้ยังมีเรีย”
“อือ เล่มนี้แหละ” มีเรียนั่งลงบนโซฟา เปิดหนังสืออ่าน แต่อะไรบางอย่างในเล่มทำให้เธอสะดุดใจเก็บ
มันคือรูปมีซเพื่อนของเธอยืนกอดคอยิ้มแฉ่งกับผู้ชายอีกคนที่จัดได้ว่าหน้าตาดีทีเดียว มุมล่างเขียนด้วยลายมือคิขุ
//เดทครั้งแรก 15/10/20xx//
“มีซ~~” มีโซหันจากคอมพิวเตอร์พร้อมรอยยิ้มใส
“อะไรอีกล่ะ ไม่เข้าใจตรงไหนรึเปล่า” มีเรียเป็นรูมเมทที่อเมริกาของมีโซ ที่พูดภาษาเกาหลีได้พอสมควรแต่เวลาอ่ารนก็ยังทีบ้าง ที่ไม่เข้าใจ เธอเลยกลายเป็นครูสอนให้โดยปริยาย
“เปล่า รูปนี้น่ะ แฟนเหรอ ไม่เห็นเคยบอกเลย” รอยยิ้มใสพลันเป็นรอยยิ้มเศร้าพอเห็นรูป ริมฝีปากตอบเพื่อนแผ่วเบา
“ก็... อดีตน่ะ เดี๋ยวชั้นมานะ” ผลุนผลันออกจากห้อง ซ่อนน้ำตาไม่ให้เพื่อนสนิทได้เห็น
ทันทีที่ประตูปิด น้ำตาก็ไหลทะลัก
2 ปีที่อยู่มาโดยไม่มีนาย
2 ปีที่ชั้นอยู่โดยปราศจากความรักใดๆ
ให้ตายเหอะ ตามมาหลอกหลอกทุกเวลาที่เหม่อ ทุกครั้งที่ฝัน เห็นอะไรก็นึกถึงนายไปหมด
ความรู้สึกโกรธๆมันจางหายไปตามเวลา มีแค่แผลใจที่มันไม่จางหาย
เมื่อไหร่นะ ชั้นถึงจะตัดใจจากนายได้
เมื่อไหร่นะ ชั้นถึงจะตัดใจจากนายได้
“มีเรีย ชั้นไปข้างนอกหน่อยนะ ไม่ต้องรอข้าวเย็น เดี๋ยวหาอะไรกินเองแหละ”
“มีซ เป็นอะไรรึเปล่า”
“ไม่หรอก”
สวนสาธารณะ ดอกไม่สีสวยกำลังปลิว รูปปั้นน้ำพุตระหง่านเด่น
ยังจำวันที่ถูกหลอกให้นั่งถือดอกกุหลาบแดงรอเนื้อคู่ วันนั้นพอรู้ว่าถูกหลอก เราโกรธฟึดฟัด ตานั่นก็ง้อซะยกใหญ่ ที่จริงหายตั้งแต่สองวันแรกแต่ก็เล่นตัวไปอีกอาทิตย์
ยังจำได้ วันที่นายมารอตากน้ำค้างจนไข้ขึ้น
เหตุการณ์ที่ถูกเก็บไว้ลึกๆ พร่างพรูออกมาเต็มไปหมด
เด็กสาวสูดหายใจลึก
มีโซ ไฟท์ติ้งเค้าไว้ อย่าไปนึกถึงตานั่นอีก
หนาวชะมัด ลืมหยิบเสื้อโค้ตออกมาซะด้วย
หาอะไรร้อนๆกินก็คงดี
คิดได้ดังนั้นก็เดินจ้ำอ้าวไปร้านคอฟฟี่ชอปใกล้ ประตูร้านเปิดออก มีโซเดินไปที่เคาท์เตอร์
“เอาโกโก้ร้อนแก้วนึงกับ เค้กชิ้นนี่ค่ะ” สั่งเสร็จก็หาโต๊ะนั่ง
“คาปูชิโน่ที่นึงครับ” เสียงแว่วคุ้นหู ทำให้ใจดวงเล็กที่สงบมานานระรัวขึ้น สะบัดหัวไล่ความคิดออก มองไปที่คนสั่งกำลังหันหลังอยู่ เต๊ะท่าเหมือนใครคนนั้น
“เอาวิปครีมเยอะๆนะครับ” อีกแล้ว เหมือนอีกแล้ว พระเจ้ากลั่นแกล้ง แค่นี้มันก็เจ็บจะแย่อยู่แล้วนะ
น้ำตามันไหลเงียบๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เธอขี้แยขนาดนี้
อาจจะเป็นตั้งแต่ตอนที่ไม่มีคนคุ้นใจมาอยู่ข้างๆ
เสียงฝีเท้าย่ำเข้ามาใกล้
“ยังกินขนมเมือนเดิมเลยนะ ที่รัก” เสียงคุ้นสุดๆ ฟังทันทีก็รู้ว่าใคร ก้มหน้าไม่มอง กลัวว่าความจริงที่คิด จะเป็นจริงๆ
“ไง มีโซ อะไรกันไม่เจอกันตั้งนาน ไม่คิดจะมองหน้าเลยรึไง” คนพูดยังพูดลื่นไหล มีโซกัดปากจนเจ็บ ระงับความสุขที่มันพลุ่งพล่านเก็บลงไปลึกๆเก็บแล้วย้ำกับตัวเองว่าคนตรงหน้าเคยทำอะไรไว้ ย้ำให้เจ็บมากๆ
“นี่...” ในที่สุดมีโซก็เงยหน้า รัวภาษาอังกฤษใส่
“ทักคนผิดรึเปล่าคะ ชั้นไม่ได้ชื่อมีโซ” เสียงนิ่งๆ เรียบๆ ยากนักกับคนที่แสดงละครไม่เก่งอย่างเธอ
“นี่อย่ามาเล่นตัวน่า”
“อะไรคะ คุณเมารึเปล่า ชั้นไม่ใช่คนที่คุณตามหา”
“พูดอย่างงี้แหละใช่เลย เธอเล่นละครไม่เก่งหรอกนะ” คนอื่นๆงงกันเป็นแถว พอเห็นไอ้สองตัวนี้มัน
โต้ตอบกันสองภาษา ทงเฮเลื่อนเก้าอี้นั่น จับคางเล็กหันมาสบตาตรงๆ
“มีโซอ่ะ อย่าเล่นตัวสิ ชั้นลำบากใจนะ” ภาพหน้าหวานนิ่ง พูดแต่ลำคำก็เย็นชาจับจิต ตาโตๆนั้นยังติดแดงๆ
หวนนึกถึก ภาพตอนนั้นเมื่อสองปีที่แล้ว ที่คนตัวเล็กยืนตาแดงก่ำ น้ำตาที่ไหลออกมาโดยไร้เสียงสะอื้นกับแววตาผิดหวัง มันยังหลอกหลอนอยู่จนแทบบ้า
“............” จุกจนพูดไม่ออก ก้อนสะอื้นมันมาจุดอยู่ตรงคอ ทำไมการตัดใจมันถึงได้ยากนักหนา
ใครบอกว่ากาลเวลาจะช่วยรักษาบาดแผล โกหกทั้งเพ
“คนสวยยยยยยย” ร่างเล็กลุกขึ้นเดินไปจ่ายเงินแล้วเดินออกไป พ่วงด้วยทงเฮตามต้อยๆ
“อากาศก็หนาว เธอยังจะท้าลมหนาว โดยการใส่เสื้อแขนกุดมาเดินโดยไร้เสื้อโค้ตอีกเหรอ”
“..............”
“ตอบบ้างสิ ชั้นห่วงเธอนะ”
“...................ฮึก” เสียงสะอื้นแผ่วเบา
“ร้องไห้อีกแล้วเหรอ อย่าร้องน้า ชั้นแพ้น้ตาเธอนะยัยเฟอะ”
“....................”
“มีโซ” คว้าไหล่บางให้หันมา พอจะเห็นอยู่ว่าตาแดงๆนั้นมันกลั้นน้ำตาสุดจะทน เลยจัดการรั้งตัวเข้ามากอดซะ
ขอบตาร้อนจัด น้ำตาร้อนๆไหลเปียกแฉะตามเสื้อ มือหนาลูบหัวปลอบช้าๆ ส่วนคนที่เป็นเด็กก็ยังเด็กวันหยังค่ำ ซุกหน้าลงร้องไห้ระบายความอัพอั้น จะขัดขืน แต่ร่างกายมันก็ไม่ทำตามสมองซะงั้น
ความอบอุ่นจากอ้อมกอดมันยังเหมือนเดิม ร่างเล็กหยุดร้องไปซักพัก ทงเฮก็ย่อตัวลงมามองหน้าคนสูงแค่ไหล่
“ไม่ต้องเล่นตัวแล้วนะ อย่างนี้น่ะ เชว มีโซ ขอ อี ทงเฮ ชัวร์ๆ” คำพูดลักษณะเก่าๆ มันทำให้หัวใจเต้นลิงโลด
“............”
“ไม่ต้องมาเงียบใส่เลย ชั้นอุตสาห์คุกเข่าขอร้องพี่เธอให้ยกโทษให้ แล้วบินดิ่งมาตามหาเธอเลยนะ”
รอยยิ้มเล็กปรากฏขึ้น พอเห็นหน้าคนพูดเซ็งๆ
“รู้ป่ะว่าลำบากอ่ะ กว่าพี่เธอจะยกโทษให้นะ ทำมันทุกสารพัดวิธี”
ยิ้มเล็กๆกว้างขึ้น
“นี่ ชั้นรักเธอนะ ไม่งั้นไม่ทำขนาดนี้หรอก” เกลี่ยนิ้วปาดหยดน้ำตาที่ยังตกค้าง มีโซยิ้มกว้างพอได้ยินคำบอกรัก จากคนไม่ค่อยจะพูด
“ไม่ต้องมายิ้มเลย -3- “
“คิกๆ” เสียงหัวเราะใสดังกังวาน
ดีแฮะ คราวนี้ไม่ต้องง้อนาน =o=
ความสุขเร่งจังหวะหัวใจให้ระรัวเร็ว
“หนาวจังเลยแฮะ” มีโซบ่นเบาๆ
“ที่นี่อ่ะหนาว เพราะงั้นกลับบ้านเราเหอะ” คำพูดชวนให้กลับสั้นๆห้วนๆ แบบไม่มีความโรแมนติกซักนิด ส่งผลให้คนโรแมนติกจัดปากบู้ พองแก้มอย่างขัดใจ
“ไม่เอาอ่ะ กลับไปก็เจอนายหลอกนู่นหลอกนี่ทุกวัน เรื่องที่พูดเมื่อกี้หลอกรึเปล่าก็ไม่รู้”
“โห กล่าวหา ถ้าเธอไม่กลับนะชั้นก็จะอยู่ที่นี่แหละ”
“เรื่องของนาย”
“ใจร้ายยยย”รอยยิ้มกว้างแบบสะใจสุดๆ กับใบหน้ากวนโอ๊ยนั่นอีก
มันน่าจับกดซะให้เข็ด (หื่นไปและ)
สุดท้ายมีโซก็ต้องบอกลาเพื่อนรักที่อเมริกากลับบ้านเกิด ซึ่งมีเรียไม่ได้ว่าอะไรแถมยังยิ้มอีก
“แหม แฟนมารับตัวแล้วล่ะสิ ที่นี้ชั้นจะได้หาแฟนบ้าง”
“นี่ ทีนนี้ไม่ต้องหนีไปไหนแล้วนะ ลำบากตามหาตัว” ทงเฮบ่น
“ก็ไม่ต้องตามหาสิ”
“ได้ไง ชั้นไม่มีคนแกล้งนะ ไม่มีใครน่าแกล้งเท่าเธอแล้ว”
“นั่นคือเหตุผล?? - - “
“ทำไม”
“เชอะ”
“ไม่ต้องมางอน ขี้เกียจง้อ”
“ไม่ได้งอน”
“คนเป็นแฟนกันอ่ะ โกรธนิดหน่อยเค้าเรียกกันว่างอน”
“ใครบอกว่าชั้นเป็นแฟนนาย”
“อยากเป็นภรรยามั้ยล่ะ”
“ไอ้ทะลึ่ง เพราะงี้แหละ ใครจะไปเป็นแฟนนาย”
“ไม่รู้แหละ ชั้นจะให้เธอเป็นแฟนชั้น จองแล้ว”
“โมเมสุดๆ”
“ไม่รู้”
“งั้นก็บอกก่อนดิ”
“อะไร”
“เวลาคนเค้าจะขอกันเป็นแฟนอ่ะ”
“เรื่อง ชั้นบอกไปแล้ว ตอนที่อยู่อะเมริกา”
“ไม่รู้ จำไม่ได้”
“มั่วจริง บอกก็ได้ ชั้นรักเธอ พอใจยัง”
“จำใจพูดใช่มะ”
“เธอพูดมั่งสิ”
“เรื่องแน่ะ”
“ไม่พูดมีจูบ”
“พี่ซีวอนเห็นนายก็โดน”
“ไม่สน พูดเลย”
“ไม่ๆๆๆๆๆ”
“พูดๆๆๆๆๆ”
“ม่ายยยยยยยย”
“เชอะ”
“^^”
“นี่ๆ ชั้นมีเกมส์หนุกๆแหละ”
“จริงอ่ะ” ที่งี้ตาโตเชียวนะ
“เธอตอบคำถามชั้นนะ”
“ได้อะไร”
“เล่นๆไปเหอะ เดี๋ยวก็รู้”
“อืมๆ”
“ที่เก็บหนังสือเรียกว่าอะไร”
“ชั้น”
“แล้วนิยายประเภทที่เธอชอบอ่าน”
“รักๆ”
“ทะเลตะวันออกภาษาเกาหลี”
“ถามแปลก ก็ทงเฮไง”
“ทีนี้พูดรวมกัน”
“ชั้นรักทงเฮ”
“นั่นแหละคำตอบ”
“ชั้นรักทงเฮเนี่ยนะ... “
“^^”
“เฮ้ย นายหลอกชั้นอีกแล้ว~~”
“คึคึคึ”
4.ขอบคุณนะค้าบที่สละเวลามาออดิชั่น ตอบคำถามอันยาวโฮกนี้จนจบ โชคดีทุกคนค้าบ!
:: ไม่เป็นไรค่ะมันดี ขอบคุณเหมือนกันที่อุตสาห์อ่านคำตอบอันยาวเวอร์นี่เหมือนกัน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น