ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Color clash โลกออนไลน์แห่งสีสัน (จบแล้ว)

    ลำดับตอนที่ #76 : บทสรุปสุดท้าย สีสันที่แตกต่าง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 329
      20
      2 มี.ค. 63

    บทสรุปเนื้อเรื่อง สีสันที่ต่างกัน

    - อรุณวางแผนใช้เวลาว่าง ระหว่าง เฟยหงและอัลบาทรอส เคลื่อนพลกลับจากซีเกท ไปฟื้นฟูเตรียมกำลังรบใหม่ เก็บเลเวลให้ตัวเองและน้องๆในกิลด์ ไปจนถึงคลาสสามใกล้เคียงที่สุด ขณะที่เดินทางเข้าเมืองหลวงไปยังย่านการค้าใหญ่ของผู้เล่นที่เป็นแหล่งซื้อขายไอเทมและอุปกรณ์หายากจากทวีปเรด อรุณได้ไปเจอกับโปรเพลเยอร์ที่รู้จักกันสมัยก่อนโดยบังเอิญ เปิดตึกกิดล์เป็นร้านขายหนังสือและอุปกรณ์เวทมนตร์ ชื่อ วิชาญ

    - วิชาญเป็นผู้เล่นคลาสจ้าวอามคมระดับแนวหน้าคนหนึ่ง เก่งกาจในการคอมโบเวทพิธีกรรมความมืดผสานจัดทัพค่ายกล ทว่าจอมมารคนนั้นกลายสภาพเป็นคนหดหู่เซื่องซึม ไม่เหลือมาดเดิมอีกแล้ว อรุณคุยสืบความก็รู้ว่า วิชาญกลับมาเล่น cc ตั้งแต่แพทช์แรก และเป็นส่วนหนึ่งในภาคีดำอีกด้วย ทว่าการทรยศฉ้อโกงภายใน ทำให้หมดศรัทธา พอโฟร์ซีซั่นถูก EOS ทำลายราบ สูญทุกอย่าง ก็หมดอาลัยตายอยากในการเล่น หันมาขายของเป็นรายได้เสริมในชีวิตจริงไปวันๆ วิชาญแสดงความยินดีกับอรุณที่นำโฟร์ซีซั่นกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ รวมถึงเรียกความเชื่อมั่นให้พวกผู้เล่นเก่าๆ แต่ตัววิชาญเองนั้นปล่อยวางไปแล้ว เลยขอบาย แต่ในฐานะคนรู้จักกัน และก็เคยช่วยสร้างโฟร์ซีซั่นสาขาภาคีดำขึ้นมากับมือ ถ้ามีปัญหาด้านอักขระโบราณ หรือเวทมนตร์ร้านของวิชาญจะช่วยบริการให้เป็นพิเศษ

    - โอกาสนี้อรุณจึงจ้างวิชาญและลูกน้องไปดูแผนที่ในบูเฟลาคัส ซึ่งทำให้วิชาญตื่นเต้นมากที่ได้เห็นความลับสุดยอดของโฟร์ซีซั่น แถมคนขับยังเป็นเจ้าหนุ่มแจ๊ค เลขาตัวแสบที่นึกว่าเลิกเล่นไปแล้ว ปรากฏไม่กี่วัน วิชาญที่เชี่ยวชาญสีดำ สามารถแกะลายแทงของสมบัติลับสีดำได้ เพราะในอดีต เขาเป็นคนช่วยดอนค้นพบมันเอง และบอกว่า ทุกชิ้น เป็นไอเทมเครื่องประดับ

    - สมบัติสีดำนั้นคือ [ดวงใจมาร] วิชาญเตือนว่า เป็นไอเทมอาถรรพ์ซึ่งลงอาคมระดับมหัตภัยเอาไว้มากมาย และมีขั้นตอนปลดล็อกโดยการรวบรวมไอเทมวัตถุดิบศักดิสิทธิ์ มาชำระล้างมัน หากไม่ทำเช่นนั้น หรือลัดขั้นตอนใด จะเพิ่มพลังความชั่วร้ายของมันเป็นเท่าทวี ผู้ครอบครองได้พลังมหาศาล ทว่า จะเกิดภัยร้ายไปทั่วทุกหย่อมหญ้า อย่างไรก็ตาม อรุณก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากลองไปตามเบาะแสของมัน ด้วยความช่วยเหลือของวิชาญ โดยที่ระหว่างนั้น ก็ถือเป็นการเก็บเลเวลไปในตัว

    - เบาะแสทั้งหมด ทำให้รู้ว่า[ดวงใจมาร] น่าจะถูกเก็บอยู่ในพื้นที่ลับของดันเจียนที่ยากที่สุดในโซนสีขาว [ปราการไร้ตะวัน คาบาล] ปัญหาตามทันที เพราะปราการนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกับเมืองฐานที่มั่นของกิลด์ บลัดมูน พอดี (ตอนนี้เป็นสาขาของกิลด์ยูสึมิ) จึงเป็นเรื่องให้เฟยหงกับอัลบาทรอสต้องมาประชุมกับอรุณเร็วกว่ากำหนด ในโอกาสที่กองทัพของบลัดมูนส่วนมากถูกแบ่งไปช่วยยูสึมิทำสงครามกับมิสโกอิ้งในขณะนี้ ทั้งหมดจึงวางแผนจะบุกตีเมืองนี้ให้แตกจงได้ ไม่แค่แค่เพื่อสมบัติ แต่เป็นการสร้างความมั่นคงให้ฝั่งตะวันออกของทวีปกลางรวมเป็นหนึ่ง และปลดแอกการครอบครองพื้นที่เก็บเลเวลแบบเผด็จการของพวกบลัดมูน ซึ่งอรุณไม่ชอบมานานแล้ว

    - ในวันออกรบ อรุณกับสมาชิก BM3 ใช้เรือเหาะบูเฟลาคัสลักลอบเข้าไปยังปราการ โดยอาศัยกองทัพของหยางหลง โคโค่มาร์เก็ต และโอไรอ้อน เรียกความสนใจ ด้วยความช่วยเหลือของวิชาญ ทั้งหมดมาถึงสถานที่ลับสำเร็จ หลังผ่านเงื่อนไขยากลำบาก รวมถึงต่อสู้เรดบอสด้านในนั้น ทว่าวินเซ็นต์ กับลูกน้อง ซึ่งอาศัยความสามารถต่างหูมิติคู่ของเรซิอองค์ ลอบติดตามแผนการนี้มาหวังครอบครองสมบัติด้วยความโลภ กลับใช้โอกาสนี้ชุบมือเปิดขโมยดวงใจมารไปได้ ก่อนที่จะได้รับการชำระล้าง และหนีหายไปในมิติ เป็นผลให้เกิดพลังงานชั่วร้ายพุ่งทะยานออกไปบนฟ้า และไม่นานก็ปกคลุมไปเกือบทั่วทั้งเกม  

    - ผลแรกที่ตามมาคือ พลังของโลกแห่งสีสันอ่อนแอลงอย่างมาก โดยจุดที่ผลแรงที่สุดก็คือสนามรบด้านล่างนี่เอง ประตูมิติพลันเปิดออก พร้อมการปรากฏตัวของผู้รุกรานร่างสมบูรณ์นับร้อยนับพัน ทั้งสองฝ่ายจึงเลิกรบกันชั่วคราวมาช่วยกันต้านพวมกมันไว้ แต่สถานการณ์นั้นย่ำแย่ลงอย่างรวดเร็ว นี่มันแย่กว่าซีเกทเป็นสิบเท่าได้ มอนสเตอรือาจพากันคลุ้มคลั่งทั่วทวีปกลางพร้อมกัน ในจุดวิกฤติ เฟยหงก็บอกให้พวกอรุณขึ้นยานหนีไป ก่อนตัดสินใจใช้ อาวุธ

    - ไม่กี่อึดใจต่อมา ก็มีเสียงเหมือนมังกรคำรามดังขึ้นบนฟ้า พร้อมลำแสงขาวสว่างเหมือนดวงอาทิตย์ขึ้นมาอีกดวง พุ่งลงมาระเบิดเมืองและพื้นที่รัศมีไม่รู้กี่สิบกิโลเมตร จนพังพินาศเหมือนระเบิดปรมาณูก็ไม่ปาน ผู้รุกรานล้มตายเกลี้ยง หายกลับไปหมด ทวีปกลางรอดพ้นหายนะมาได้ แต่เมืองของผู้เล่นนับแสนก็ถูกลบไปจากแผนที่เช่นกัน

    - ที่ซากปรักหักพังซึ่งเคยเป็นท่าเรือ ทั้งหมดมาคุยหารือกัน เฟยหงดูเสียใจเป็นมาก อัลบาทรอสกับโอไรอ้อนก็ไม่พอใจอย่างแรง แต่ก็ยอมรับการตัดสินใจ อรุณได้รู้ว่า อาวุธที่เป็นความลับและกิลด์ใหญ่ต่างๆ อยากจะรู้ที่อยู่ ข้อมูลและกำจัดมัน คือปืนใหญ่ลำแสงพลังงานรูน ซึ่งเกิดจากการศึกษาวิจัยรูนของสมาคมมังกรทอง รวมกับเทคโนโลยีเก่าจากสมัยโฟร์ซีซั่น

    - ขณะนั้นเอง คนที่ไม่คาดฝันนั่นคือ ลุงดอน ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นมาพร้อมกับมอเตอร์ไซค์เหาะได้ของเขา บวกกับเรือสำเภาที่รวบรวมเหล่าผู้เล่นเก่าของโฟร์ซีซั่น และยอดฝีมือจากทวีปมืด เมื่อเห็นดอน ทั้งอัลบาทรอส วิชาญ และเฟยหงก็โกลาหลเป็นการใหญ่ อัลบาทรอสขอให้ดอนกลับมากอบกู้โฟร์ซีซั่น แต่ดอนปฏิเสธ เพราะได้ส่งไม้ให้ BM3 ของอรุณไปแล้ว เขาไม่อยากยุ่งกับวังวนแก่งแย่งอำนาจนี้อีก


    ดอน อดีตหัวหน้ากิลด์โฟร์ซีซั่น

    - ฝ่ายวิชาญขอโทษที่ตัวเองมัวแต่ดำดิ่งสนใจแต่ศาสตร์มืดและเวทมนตร์ จนละเลยให้ในภาคีดำมีการฉ้อโกง โดยพวกวินเซนต์ที่โลภมาก ทำตัวเป็นพยาธิตักตวงผลประโยชน์จากกิลด์ นำไปสู่รอยร้าวในกิลด์ และหายนะ แต่ดอนบอกว่าไม่เคยโกรธวิชาญเลย เขาควรขอบคุณวิชาญที่ช่วยส้างโฟร์ซีซั่นขึ้นมาด้วยกัน และประคับประคองภาคีดำไว้ได้ขนาดนี้

    - ด้านเฟยหง ดอนมีคำขอสุดท้าย อย่าได้ใช้ อาวุธนี้อีก แล้วเขาจะยอมอภัยเฟยหง ภูมิความรู้ที่โฟรซ์ซีซั่นได้สั่งสมมา มีไว้เพื่อสร้างสรรค์ ไม่ใช่ทำลาย

    - เฟยหงตอบตกลง เพราะการยิงอาวุธนี้เป็นครั้งที่สาม ก็ทำให้เขารู้สึกผิดมากพอแล้ว สารภาพทั้งน้ำตาต่อพวกอรุณถึงความผิด และขาดเขลาที่ผ่านมาของเขา นั่นคือ เฟยงหงนั้น เป็นหัวหน้าสาขามังกรเขียว หรือก็คือกลุ่มสมาคมมังกรทองในปัจจุบัน สาขามังกรเขียวทำหน้าที่ด้านการรบ และพัฒนายุทโปกรณ์ ร่วมกับอีกสามสาขานั่นคือ

    พยัคฆ์ขาว ทำหน้าที่บริหารภายใน กฎระเบียบ ธุรการ และการค้า

    หงส์แดง ทำหน้าที่ด้านงานฝีมือ การผลิต สร้างและรวบรวมวัตถุดิบ นำโดย อัลบาทรอส

    อสรพิษดำ หรือ ภาคีดำ ทำหน้าที่ฝ่ายกิจการลับ และความมั่นคง นำโดย วิชาญ และหัวหน้าหน่วยภารกิจลับ อย่าง แพนโดร่า ซึ่งมีอำนาจใกล้เคียงรองลงมา


    อัลบาทรอส

    - ระยะหลัง พวกวินเซนต์ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอำนาจสูงในภาคีดำ ได้ทำการรวมหัวกับผู้มีอำนาจในสาขาพยัคฆ์ขาวคอรัปชั่นเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง รวมถึงใช้อำนาจกิลด์หาผลประโยชน์ให้พวกพ้อง นานเข้าก็มีกิลด์จำนวนมากทั้งภายในและภายนอกไม่พอใจ จึงมีการลุกขึ้นต่อต้านนำโดย EOS ที่ต้องการล้างอิทธิพลมืดให้หมดไปจากเกม ในการศึกฝ่ายต่อต้านค่อนข้างจะได้เปรียบ เพราะโฟร์ซีซั่นอำนาจการปกครองกัน สู้ไม่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวเท่าที่ควร

    - ถึงช่วงวิกฤติ มังกรเขียวของเฟยหงเห็นท่าไม่ดี ยังไงก็พลิกสถานการณ์ไม่ได้แล้ว จึงตัดสินใจรวบรวมกองกำลังและทรัพยาการเอาไว้ ไม่ยอมมาช่วยสาขาใหญ่รบ หวังจะไปลงหลักปักฐานใหม่ที่แข็งแรง แล้วค่อยกอบกู้โฟร์ซีซั่นทีหลัง ซึ่งทำให้พวกสาขาอื่นไม่พอใอย่างมาก พากันว่าเฟยหงเป็นพวกทรยศและขี้ขลาด ซึ่งก็ถูกครึ่งหนึ่ง พอไม่มีกำลังรอบของมังกรเขียว ฐานที่มั่นทั้งหมดของโฟร์ซีซ่นก็โดนตีแตกอย่างง่ายดาย ยกเว้นสำนักงานใหญ่ในพื้นที่ลับของโลกเบื้องหลัง ซึ่งกลายเป็นสถานลี้ภัยและแดนอโคจรนับแต่นั้น

    - เฟยหงรู้สึกผิดที่เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้โฟร์ซีซั่นอยู่ในสภาพนี้ เขาจึงเปลี่ยนแปลงตัวเอง กลายเป็นผู้เล่นสีขาว (สีของเฟยตามลำดับคือ เหลือง – เหลือง – ขาว) และทุ่มพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ภูมิความรู้เรื่องรูนเดิมของโฟร์ซีซั่น เพื่อกลายเป็นกิลด์ปกป้องความยุติธรรม คืนกำไรให้สังคมชดใช้ความผิดอย่างในปัจจุบัน

    - ทว่าแม้ผู้เลนยุดใหม่ๆ จะไม่รู้ เหล่าผู้เล่นเก่า ล้วนไม่มีใครไว้ใจเฟยหงผู้ถูกตราหน้าว่า เป็นพวกสีเหลืองขี้ขลาด พร้อมหนีเอาตัวรอดได้อย่างสนิทใจอีก จึงมีกลุ่มกิลด์ก่อการร้ายขึ้นมา ในชื่อกิลด์เอ็นเลสเทลล์ในปัจจุบัน หวังจะบ่อนทำลายทั้งพวกเฟยหง และ EOS แก้แค้นโฟร์ซีซั่น เป็นต้น

    -เหล่าผู้ต่อต้านเบนไปร่วม EOS โดยมิสโกอิ้งที่ใช้กำลังทหารปราบปราม โจร กลุ่มค้ามนุษย์ และมาเฟียอย่างดุดันเด็ดขาด (สีของวาว/มิสโกอิ้งคือ แดง – ขาว – แดง) แม้จะเหมือนเผด็จการทหาร และเข้มงวดขาดอิสรภาพ แต่ว่ายังดีกว่าไปคดโกงหักหลังกันเน่าเฟะอย่างเก่า

    - พวกอรุณเข้าใจเฟยหง และทั้งหมดก็ปรับความเข้าใจกันได้ แม้สีจะแตกต่าง แต่มีจุดประสงค์เดียวกัน คือจัดระเบียบของเกม ไม่แน่ EOS กับ หยางหลง อาจะจะอยู่ร่วมกันได้ ตอนนี้ก็เหมือนรวมภาคตะวันออกเป็นหนึ่งได้แล้ว ปัญหาตอนนี้ก็คือ วินเซ็นต์ที่ครอบครองดวงใจมารซึ่งยังไม่ได้ชำระล้างเอาไว้ เอามาใช้ตามใจชอบ ซึ่งทั้งดอนและวิชาญบอกตรงกนว่า พลังชั่วร้ายอันมหาศาลของมันจะทำให้พลังของสีอื่นๆ อ่อนแอลง เป้นผลให้ผู้รุกรานจากสตาร์เกทซึ่งอยุ๋ที่ไหนสักแห่ง บุกเข้ามาทำลายโลกแห่งสีสันของเกมได้ง่ายขึ้น ต้องรีบหยุดวินเซ็นต์ให้ได้!

    - งานแกะรอยนี้จึงเป็นหน้าที่ของใครไม่ได้นอกจากยู เจ้าหญิงสายลับ และคนที่ใกล้ชิดกับวินเซ็นต์ที่สุด ย่างแพนโดร่า เช่นกันกับอดีตหัวหน้าสาขาคนอื่น แพนโดร่าเมื่อได้เจอดอน และหัวหน้าภาคีดำอย่างวิชาญ ท่าทีก็อ่อนลง และกลายเป็นพันธมิตรกับพวกอรุณเต็มตัว

    - เหล่าผู้เล่นของภาคีดำ แม้จะมีสีดำ สะท้อนนิสัยฝ่ายต่ำของมนุษย์ ความต้องการ ความปรารถนา มีจุดยืนแตกต่างจากสีขาว ของทั้งเฟยหง และมิสโกอิ้งอย่างชัดเจน เมื่อเอาใจเขามาใส่ใจเรา ก็ยังพอร่วมมือกันได้ไม่มากก็น้อย เกิดเป้นภาพที่ไม่คุ้นตาคนทั่วไปอย่างยิ่ง เมื่อสมาคมมังกรทอง โคโค่มาร็เก็ต มาร่วมมือกับเอ็นเลสเทลล์อย่างเปิดเผย ภายใต้ชื่อ BM3 ด้วยทรัพยากร และบุคลากรชั้นยอดที่มีความถนัดต่างกันจากทั้งสามฝ่ายมาช่วย เจ้าหญิงสายลับก็สามารถจารกรรมข้อมูลวินเซ็นต์มาได้ วินเช็นต์ตั้งใจจะใช้ดวงใจมาร ทำลาย EOS ให้สิ้นซาก และยังเข้าร่วมกับยูสึมิอีกด้วย

    - อรุณจึงใช้โอกาสนี้ทำหน้าที่เป็นตัวกลางเชื่อมกับทั้งสองฝ่าย ศัตรูของศัตรูคือมิตร แม้วาวในฐานะมิสโกอิ้งจะไม่เต็มใจแต่ก็จำเป็นต้องร่วมเมื่อได้ฟังข้อมูลจากอรุณเรื่องการรุกราน โดยมีดอนและวิชาญให้ข้อมูลหนุนหลังด้วยตัวเอง ศึกนี้เกิดขึ้นที่เมืองหน้าด่านของทวีปเรดตะวันตก ทวีปแห่งมังกร นั่นคือเมืองเซเรนิส ซึ่งแน่นอนว่า สองฝ่ายนี้มาทำงานร่วมกัน ย่อมมีปัญหาตะกุกตะกักอยู่ไม่ขาด โดยเฉพาะจากซิกตี้ที่จะแย้งท่าเดียว

    - แต่จนกระทั่งวินเซ็นท์ใช้พลังของดวงใจมาร ปลุกซากศพมังกรโบราณในทวีปมังกรออกมา เป็นกองทัพมังกรซอมบี้แบบมิดฟ้ามัวดิน เพื่อสนับสนุนยูสึมิ ซึ่งมีทีม hell yes! จอมทำลายล้างเป็นมือขวา ทั้งหมดจึงต้องลืมความแค้นเก่าทั้งหมด ทุ่มเททรัพยาการที่มีเพื่อเอาชนะให้ได้ ไม่เช่นนั้น ถ้า EOS ล่มไป และยูสึมิขึ้นมาแทน เซิร์ฟไทยคงถูกปกครองด้วยทรราช และวินเซ็นต์ก็จะใช้อำนาจของดวงใจมารตามอำเภอใจ จนกลับไปย่ำแย่เหมือนครั้งโฟร์ซีซ่นตกต่ำอีก ยังไม่นับโลกแห่งสีสันที่จะอ่อนแอลงเรื่อยๆ จนจักรพรรดิสีซีดทำลายเกมที่ทุกคนรักจนหมด

    - อรุณจึงคืนสู่เหย้ารวมทีมซ้อม Blaster mate3 อีกครั้ง อรุณ วาว เอ จักร และเนม ครึ่งหนึ่งของทีมในตำนานที่เคยพิชิตมาแล้วทั่วคัลเลอร์แคลชสมัยยังเป็นเกม รวมกับยอดฝีมือสมาชิกใหม่แต่ละกิลด์ ตั้งเป็นทีม สุดแกร่งที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน

    แทงค์1.นักรบอมตะ เอบีซี 2.ซิกตี้ 3.โนว่า (หัวหน้าโอไรอ้อน)

    โจมตีใกล้ 4.ธีตา (บุปผาราชินี) 5.ยู เจ้าหญิงสายลับ

    โจมตีไกล 6.เทพสงคราม จักร 7.เนม 8.แลนเซลอท 9.คาร์ล

    สนับสนุน 10.เฟยหง 11.ซูซาคุ (หัวหน้าบุปผาราชินี)

    โอเปอเรเตอร์ (สั่งการ) 11.มิสโกอิ้ง 12. อรุณ

    - การต่อสู้ของพวกอรุณนั้นเป็นรูปแบบตั้งรับเต็มกำลัง ใช้ยานรับยักษ์ เรือสุริยะเป็นเสาหลักกึ่งกลาง ในขณะที่กองกำลังทั้งหมดยื้อเอาไว้ ทีมเฉพาะกิจใช้บูเฟลาคัสลอบเข้าไปหาวินเซ็นต์ ซึ่งน่าจะอยู่บนยานแม่ฝ่ายยูสิมิ ถ้าไม่กำราบดวงใจมาร วินเซนต์ก็จะคืนชีพซอมบี้มังกรออกมาได้ไม่สิ้นสุด แลกกับพลังของโลกสีสันที่อ่อนลงไปเรื่อยๆ แต่ทางวินเซ็นต์ย่อมเข้าใจจุดนี้อยู่แล้ว จึงแอบอยู่ในต่างหูมิติคู่ของเรซิอองค์ ดีที่คราวนี้มีเฟยหง ใช้ความสามารถของมิติเข้าช่วย อรุณจึงหลุดเข้าไปในมิติของต่างหูได้สำเร็จ และได้สู้ตัวต่อตัวสะสางกับเรซิอองค์ ที่เคยทรมานไอริสกับซัน อรุณเกือบจะชนะ แต่ถูกลอบโจมตีโดยวินเซนต์ที่ซ่อนตัวอยู่ในมิติเดียวกัน วินเซ็นต์หักหลังวินเซนต์ เมื่อจวนตัว เอาลูกน้องที่ไม่มีประโยชน์แล้วสังเวยแลกกับเลเวลและค่าสเตตัสมหาศาล กลายสภาพเป็นจอมมาร โชคดีที่ความสามารถคลาสสองของอรุณ มีความสามารถต้านพลังสีได้ดีกว่าเดิม และการฆ่าเรซฺอองค์ทำให้ ต่างหูมิติคู่หยุดทำงาน

    - ทีมหัวกะทิ ต่อสู้กับจอมมารวินเซ็นต์อย่างยากลำบาก แต่ก็ชนะมาได้ด้วยการคอมโบแบบคลาสสิคสมัยยังเป็นเกมคอมพิวเตอร์ของ Blastermate3 ทว่าต้องแลกมาด้วยการเสียสละของ ยอดฝีมือถึงสามคน

    1. เฟยหงเปิดประตูมิติ เป็นช่องให้สุดยอด อาวุธปืนใหญ่ลำแสงของสมาคมที่ยังชาร์จพลังกลับมาไม่เสร็จดี ยิงข้ามทวีปใส่จอมมารจนวินเซ็นต์ขยับไม่ได้ เปิดช่องว่างให้เข้าไปชำระล้าง ดวงใจมาร แต่สุดยอดปืนใหญ่ ก็ระเบิดไปด้วยพร้อมดอยทะลุเมฆา อันเป็นสำนักงานใหญ่ของสมาคมมังกรทอง

    2. เอ ยอมพลีชีพและทำลายเกราะเพชรของตัวเอง แลกเป็นพลังศักดิ์สิทธิ์ช่วยชำระล้างดวงใจมาร สิ้นสุดตำนานนักรบอมตะเอบีซี

    3. ซิกตี้ ทำการแทงค์พลังชั่วร้ายที่หลุดรอดออกมาจากดวงใจมารก่อนโดนชำระล้าง เบี่ยงผลของคำสาปร้ายให้ทุกคน มาลงกับตนคนเดียว ลดเลเวลลงเหลือ 1

    ยูสึมิจะวกกลับมาช่วยก็สายไปแล้ว เมื่อเธอกลับมาพร้อมมังกรเรดบอสพันธะสัญญา ยูสึมิก็ต้อง ถูกรุมจากทีมหัวกะทิ แน่นอนว่าหลังส็กับจอมมารวินเซ็นต์ พวกเขาแทบไม่เหลืออะไรแล้ว แต่วาวที่กำลังโกรธจัด ในฐานะมิสโกอิ้ง ก็ได้ระเบิดฝีมือของแชมป์ประเทศ ใช้คอมโบดาบไฟ ขณะเกิดช่องว่างไม่กี่วินาที สังหารเพนทาร่า องค์รักษ์เกราะทองที่เป็นหนอนบ่อนไส้ และกิ๊กของยูสึมิ ตายกลางอากาศไปได้ในพริบตา

    - บลัดมูนกับ ทีม hell yes บนภาคพื้น เมื่อไม่มีกองทัพมังกรซอมบี้เสริม ก็แตกพ่ายไปเองโดยปริยาย ด้วยปริมาณของพันธมิตรเฉพาะกิจฝ่ายตั้งรับที่มากกว่าเหลือล้น ยูสึมิจึงเป็นฝ่ายแพ้สงคราม ถูกมัดมือชกให้เซ็นต์สัญญาจ่ายค่าปฏิกรรมสงคราม เสียดินแดนทวีปเหนือเกินครึ่งสู่ EOS อีกครั้ง  

    - แต่สงครามกลางเมืองนี้ ก็ทำให้ EOS สูญเสียหนักมากเช่นกัน แถมเสียทั้ง นักรบอมตะเอบีซี และวายุแดงซิกตี้ไป คงไม่มีทางกลับมาเป็นกิลด์ทำสงครามได้อีก ในเมื่อกิลด์ที่เหลือรวมกันเป็นพันธมิตรกับ BM3 อย่างแข็งแกร่งเพียงนี้ ในสายตาของแลนเซลอท ที่ต้องการจะคิดบัญชีกับสิ่งที่ EOS ทำกับกิลด์อื่นๆ ความสูญเสียที่ไม่มีทางฟื้นกลับมาครั้งนี้ก็เกินพอแล้ว จึงยอดปล่อยวางความแค้นของตนในที่สุด

    - พวกแพนโดร่า กิลด์ผู้ก่อการร้าย และผู้เล่นอิสระอดีตโฟร์ซีซั่น เมื่อได้รู้ว่าเฟยหงยอมทำลายอาวุธและสำนักงานใหญ่ขกิลด์ของตนบนดอยทะลุเมฆา เพื่อช่วยคนทั้งเกมเอาไว้ ก็ยอมให้อภัยความผิดในอดีตของเฟยหงและสมาคมมังกรทองในที่สุด เมื่อทั้ง EOS ก็หยุดทำสงครามยึดดินแดน และอาวุธทำลายล้างของเฟยหงซึ่งเป็นเหมือนมรดกอันดำมืดของโฟร์ซีซั่น ได้ถูกทำลายลง ก็ไม่เหตุผลจะต้องเป็นผู้ก่อการร้าย หรือ ซ่อนอยู่ในโลกมืดอีกต่อไป  

    - สุดท้ายอรุณ ได้เห็นซิกตี้ที่เคยใช้คำสาปกับตัวเองยอมเอาตัวเข้ารับคำสาปแทนทุกคนในทีม จนเลเวลเหลือหนึ่งมีสภาพน่าเวทนา ก็ยอมให้อภัยความบาดหมางที่ผ่านมากับวายุแดง และได้รู้ในที่สุดถึงความสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างวาวกับซิกตี้ ซึ่งทำให้เขายิ่งสับสน แต่ก็ปวดใจน้อยลง เพราะทำใจได้ว่าตอนนี้เธอไปมีคนใหม่แล้ว

    - คนทั้งหมดมาประชุมกันว่าจะทำยังไงกับ ดวงใจมาร และได้ข้อสรุปว่า มีเพียงผู้เชี่ยวชาญสีดำอย่างวิชาญที่เหมาะสมจะเก็บรักษามันไว้ แต่วิชาญกลับบอกว่า ดวงใจมารได้รับการชำระล้างแล้ว ในเวลานี้เราควรจะใช้มัน และมอบดวงใจมารให้กับอรุณ ซึ่งสมควรเป็นผู้คนพบสมบัติลับชิ้นนี้ที่แท้จริง เพราะการใช้พลังของเจ้าสิ่งนี้แบบบลัดขั้นตอนของวินเซ็นต์ น่าจะทำให้โลกแห่งสีสันอ่อนแอลงอย่างมากแล้ว

    - และก็เป็นจริงอย่างที่ว่า อีเวนต์ช่วงที่สองได้ถูกประกาศออกมาในวันรุ่งขึ้น เนื่องจากโลกแห่งสีสันอ่อนแอลง โดยฝีมือของผู้เล่นเอง [สตาร์เกท] หรือก็คือฐานทัพเหนือชั้นบรรยากาศ ในดินแดนไร้สีอย่าดวงจันทร์ก็ได้ปรากฏขึ้น ก่อนที่จักรพรรดิสีซีด จะยกทัพทั้งหมด มาชำระล้างโลกแห่งสีสัน เริ่มจากทำลายเมืองหลวงแคโรไลน์ การต่อสู้ระดับโลก ที่ผู้เล่นทั้งเซิร์ฟเวอร์มีส่วนร่วม [World raid] ได้เริ่มนับถอยหลังแล้ว

    - ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้ดอนกับอันย่าช่วยกันแกะอักขระจากเสาหินประหลาด ที่ปรากฏลงมารอบเมืองหลวงจาหอวกาศได้ว่า ที่แห่งนี้มีสมบัติตกทอดมาจากเทพแห่งสีสันโดยตรง เป็นสมบัติที่เคยพันธนาการจักพรรดิสีซีดและผู้รุกรานเอาไว้ ซึ่งมันตรงกับลายแทงใหม่ ที่เพิ่งปรากฏขึ้นบนเรือบูเฟลาคัสพอดี พวกอรุณเลยต้องพยายามหามันให้ได้ ภายในเวลาอันน้อยนิด

    - สมบัตินั้นที่จริงอยู่ในวังหลวงกลางเมืองแคโรไลน์ โดย NPC ราชาเป็นผู้ปกป้องนั่นเอง ขณธะที่อรุณได้มันมา จักรพรรดิสีซีด และแม่ทัพอย่างเมทีโอ ก็ได้ยกกองทัพผู้รุกรานร่างสมบูรณ์มาถึงพอดี แม้จะมีเวลานับถอยหลังบอก แต่กิลด์ต่างๆ ก็บอบชเจากสงครามามาก เห็นจะได้ เหล่าผู้เล่นอิสระที่เหลือ จากทั่วสารทิศที่พร้อมใจมารวมกันเป็นประวัติการณ์ เอาตัวเข้าไปสู้ถวายชีวิตเป็นโล่มนุษย์ ตายแล้วเกิดใหม่จุดเซพ แล้ววิ่งไปส็ตายใหม่วนกันไป ผู้เล่นต่างสีสันบัดนี้รวมกันเป็นหนึ่งภายใต้ชื่อของเซิร์ฟเวอร์ไทย

    - การต่อสู้นั้นแทบจะเรียกได้ว่าเกืบอจะเข้าขั้นหายนะไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง หากไม่ได้การเสียสละจากผู้เล่นและเหล่ายอดฝีมือ ตอนสุดท้าย คิตตี้พลีชีพทดแทนบุญคุณอรุณ ทำให้อรุณมีโอกาสใช้สมบัติลับไร้สี นั่นคือ ตราผนึกแห่งทวยเทพ กักขังจักรพรรดิสีซีดไว้ในผลึกไร้สีไว้สำเร็จ ส่วนเมทีโอ ก็พ่ายแพ้แก่เหล่าผู้เล่นในที่สุด ชัยชนะครั้งนี้เหล่าผู้เล่นแทบจะปิดเกมฉลองกันเลยทีเดียว

    - หลังสงคราม ณดีรวบรวมความกล้า และสารภาพรักกับอรุณในที่สุด แม้จะโดนปฏิเสธเธอก็ไม่เสียใจ เพราะอย่างน้อยก็ได้บอกความรู้สึกของตนไปแล้ว รินที่สนิทกับณดีมากขึ้นคอยปลอบใจเธอ และเฟอร์น่าก็เปิดตัวกับเจ้าหนุ่มแจ๊ค ซึ่งตื้อจีบตั้งแต่เจอกันครั้งแรกอย่างเป็นทางการ

     

    ณดี ริน และเฟอร์น่า

    - ไอริส กับ ซัน กลายเป็นคู่หูผู้เล่นอาชีพ อายุน้อย ที่โด่งดังในอินเตอร์เน็ต


    ไอริส กับ ซัน 

    - เอ กับ เนม ลาออกจาก EOS มาอยู่กับพวกอรุณ คอยฝึกสอนสมาชิกที่เป็นผู้เล่นใหม่

    - จักรยังคงอยู่กับ EOS ตอนนี้เขาร่วมมืกับพันธมิตรใหม่ที่ไม่น่าเชื่ออย่างแพนโดร่า และอดีตพวกผู้ก่อการร้าย อาสายกทัพไปทำลายอิทธิพลของยูสึมิ บลัดมูน และ วินเซ็นต์ เป็นจุดดำมืดของโฟร์ซีซั่นในอดีตให้หมดสิ้น

    - แลนเซลอท กลับมาคบหาดูใจรอบใหม่กับ ยู เจ้าหญิงสายลับ


    แลนเซลอท

    - อาซาเลีย และเพื่อน ไปเป็นศิษย์ด้านเวทมนตรืดำกับวิชาญ เปิดร้านสินค้าเวทมนตร์ที่มีชื่อเสียง แยกออกมาเป็นสาขาใหญ่สาขาหนึ่งของ BM3 สร้างรายได้เป็นทุนการศึกษา

    - คาร์ล ขอติดตามลุงดอนออกไปร่อนเร่ ล่าขุมทรัพย์

    - เวเบอร์ ได้รับการยกเลิกค่าหัวจากคนในเกม เพราะเป็นผู้ช่วยที่สำคัญของอรุณ เป็นสมาชิกคนสำคัญของกิลด์เรื่อยมา

    - เฟยหง และสมาคมมังกรทองเลิกพัฒนาและผลิตอาวุธ เปลี่ยนเป็นกิลด์สายผลิตและการค้าร่วมกับโคโค่มาร์เก็ต คืนกำไรให้สังคมเกมเต็มตัว

    - กิลด์ใหญ่ที่เหลือ เช่น บุปผาราชินี โอไรอ้อน และวันเดอร์แลนด์ เข้าไปรอบครองดินแดนฝั่งตะวันอก ที่เคยถูกยึดครองแบบเผด็จการโดยบลัดมูน จนพัฒนาเป็นมหานครใหญ่แห่งใหม่ แทนเมืองที่ถูกทำลายไป เปิดเส้นทางเรือเข้าสำรวจทวีปมืดอย่างเป็นทางการ เกิดเป้นยุคแห่งการสำรวจและผจญภัยอย่างในอดีตอีกครั้ง

    - และช่วงสุดท้ายของอีเวนท์ก็ตามมาติดๆ คือศึกประลอง และชิงแชมป์ประเทศบนสตาร์เกท  ในรอบรอบชิงชนะเลิศ อรุณสามารถเอาชนะวาวไปได้อย่างฉิวเฉียด และได้รู้คำตอบในที่สุดว่า เกิดเรื่องอะไรในอดีต

    - เรื่องราวก็คือ เป็นความเข้าใจผิดของวาวในอดีตสมัยที่เป็นแฟนกับอรุณ เนื่องจากอรุณเป็นคนใจดีกับลูกกิลด์ทุกคนรวมถึงพวกผู้หญิง ด้วยความเป็นคนเงียบๆ คิดมากไม่ค่อยคุยกับใครอื่นในกิลด์นอกจากอรุณ วาวเลยลองนอกใจอรุณดูบ้าง และปรากฏว่า ด้วยความที่อ่อนประสพการณ์ในชีวิต จึงได้พลาดและท้องขึ้นมา ด้วยความอับอาย จึงตัดขาดจากอรุณไปโดยไม่บอก เหตุผลที่เธอต้องทุ่มเทเป็นที่หนึ่งของคัลเลอร์แคลชทุกวิถีทาง ก็เพื่อหาเงินมาเลี้ยงลูก ตัวเองที่ไม่ได้เรียนต่อมหาวิทยาลัยนั่นเอง และในปัจจุบัน ก็ได้คบกับซิกตี้ในชีวิตจริง ที่ยอมเป็นรักมือสองรับเลี้ยงเธอกับลูกเลี้ยงไว้อย่างเต็มใจ

    - อรุณแม้จะใจสลาย ก็ฝืนใจตัวเองยอมปล่อยวางและให้อภัยเธอ เพราะอย่างน้อยวาวก็บอกเรื่องจริงทุกอย่างแก่เขาแล้ว  อรุณจึงเริ่มลองเปิดใจลองเริ่มคบหากับอันย่า หรือก็จันทร์ ดาวมหาลัย ที่เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยเดียวกันกับที่อรุณเปิดร้านถ่ายเอกสาร และณดีกับรินเรียนอยู่นั่นเอง ทั้งสอง และกิลด์ BM3 สามารถรวบรวมสมบัติลับกลับมาได้ทั้งหมด ในหนึ่งปีต่อมา กลายเป็นตำนานของเกม ในชื่อ 

     

    อรุณ กับ อันย่า 

    วูลฟ์ แอนด์ บันนี่ (มหาป่าจ้าวพิภพคืออรุณ กระต่ายคืออันย่า)


    เมื่อสีสันมาปะทะกัน ย่อมเกิดสิ่งมหัศจรรย์มากมาย ที่โลกใบนี้สวยงาม ก็เพราะความแตกต่าง

    หวังว่าเรื่องราวของเขาและเธอ จะแต้มสีสัน สีใดสีหนึ่ง ไว้ในใจนักอ่านของผมไม่มากก็น้อย

    ขอบคุณที่ติดตามครับ แม้จะเป็นแค่การสรุปก็ตาม

    จบบริบูรณ์

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×