ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Color clash โลกออนไลน์แห่งสีสัน (จบแล้ว)

    ลำดับตอนที่ #62 : ep51 - Aggressive Control

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 635
      11
      29 มี.ค. 60

                หลังจากแชมป์เปียนหญิงบอกให้งานเริ่ม วาวกับเพื่อนทั้งสามคนของอรุณเดินขึ้นเฉลียงโดยไม่ใส่ใจคนทั้งสนามที่มองลงมาเหมือนเห็นปีศาจที่แข็งแกร่งเกินจินตนาการ เนมโวยวายใส่เอกับจักรต่อไป ปล่อยแพนทาล่าหนุ่มแว่นองค์รักษ์เกราะทองคนสุดท้ายเดินตามหลังอยู่ห่างๆ เหมือนไม่อยากยุ่งด้วย

                ไหนๆ ก็แอดเพื่อนไว้แล้ว คืนนี้ลองโทรไปถามจักรเรื่องไอ้แว่นกับซิกตี้หน่อยดีกว่า คุยกับเนมมีหวังประสาทกินพอดี

                ระหว่างมองลูกกิลด์เก่าของตัวเองนั่งลงตรงเก้าอี้บุนวมแถวหน้าสุดของเฉลียง อรุณก็ไม่ยอมเสียเวลาอันมีค่า เขาวางแผนสิ่งที่จะทำเป็นรายการต่อไป นอกจากซิกตี้ตัวดี เขารู้สึกอยากข้อมูลเกี่ยวกับแพนทาล่าอยู่นิดหน่อย  

                จากนิสัยของวาว อรุณว่าเธอคงไม่ยอมให้ผู้เล่นทั่วไปเข้ามาเป็นองค์รักษ์อยู่ข้างตัวง่ายๆ อยู่แล้ว หากไม่ใช่ยอดฝีมือของจริงที่ทัดเทียมกับชั้นแนวหน้าของประเทศอย่างนักรบอมตะ และเทพสงครามได้อย่างสูสี แลนเซลอทพูดถูก หนุ่มแว่นคนนี้เป็นพวกคมในฝัก ขณะที่เอกับจักรปล่อยของกันอย่างอลังการ แพนทาล่ากลับเลือกท่าธรรมดาที่มีใช้กันทั่วไป แต่ให้ผลลัพธ์เหมาะสมตามสถานการณ์

                เป็นพวกไม่ชอบอวดหรือจะว่าอย่างไรดี แต่เท่าที่ดูก็ต่อสู้ผสานงานกับองค์รักษ์คนอื่นได้อย่างไร้ที่ติ เดาทางไม่ออกเลย

                ในเวลาที่ชายหนุ่มครุ่นคิดในใจ ผู้ปลุกโลกาของอีออสเริ่มดัดแปลงสนามอีกครั้ง โดยทำการยกพื้นหินให้นูนขึ้นมาเป็นลานต่อสู้ขนาดใหญ่สี่ลาน รายละเอียดเล็กน้อยอย่างเช่นเลขสนามย่อย 1 ถึง 4 บนพื้นของแต่ละลาน แสดงให้เห็นฝีมือของผู้สร้างที่ควบคุมพลังของคลาสได้อย่างแม่นยำ ละเอียดอ่อน

                มองอีกแง่ ก็เป็นการประกาศศักดาของอีออสในตัวเช่นกัน ทุกวินาทีเหล่าผู้ชมต่างรู้สึกว่าตัวเองช่างเล็กจ้อยเมื่อเทียบกับขุมพลังอันเหนือกว่าของกิลด์อันดับหนึ่งของประเทศไทย 

                 ถ้ายังมีใครเห็นการแสดงฝีมือเมื่อครู่ กลับยังนึกแข็งข้ออีออสอยู่อีก อรุณคิดว่ามันคนนั้นต้องเป็นพวกบ้าบิ่นสติไม่เต็มแน่

                เสียแต่ว่าในทีมของเขา ดูเหมือนจะมีพวกบ้าอยู่ถึงสามคนด้วยกัน

                อาซาเลีย จอมเวทสาวม.ปลาย ผู้สร้างวีรกรรมร่ายเวทปลุกซอมบี้หยุดกองทัพคทูลูไว้ที่หน้าซีเกท ลูบผ่ามือตัวเองด้วยใบหน้ายิ้มย่อง เธอพูดกับตัวเองอย่างลืมตัว

                ตอนนี้ก็เป็นพวกกับเอรอนเรียบร้อย ถ้าโชว์ว่าเวทเราก็น่ากลัวไม่แพ้เทพสงคราม..ฮึๆๆ ดังกระฉ่อนแน่ เงินขา เงินไหลมาเทมา..

                ‘ความโลภออกทางสีหน้าแล้วนั่นอรุณลอบมองเธอด้วยความรู้สึกยากจะอธิบาย เด็กสาวกระตือรือร้นที่จะแสดงฝีมือของเธอให้คนเห็นทีละมากๆ ตรงข้ามกับแพนทาล่าเหมือนเหรียญคนละด้าน แม้จะพูดไม่เต็มปากว่าไว้ใจ แต่น่าจะเป็นผู้เล่นที่พึ่งพาฝีมือได้ ผลงานก็เป็นที่ประจักษ์ให้เห็นแล้ว

                แต่คาร์ลนี่สิ

                อรุณพิจารณาชายผู้เงยหน้าดูเมฆบนฟ้าพร้อมฮัมเพลงไปด้วยโดยไม่สนใจใคร หมอนี่เป็นคนรู้จักของแลนเซลอท นอกจากชื่อกับคลาส ที่เหลือเป็นความลับของโลก    

                คาร์ลเก่งไม่แพ้กุมารทองสี่ตัวนั่นหรอก มันก็บอกอยู่ ปาหอกทีเดียวก็ตายแล้ว งานหมูๆ

                แลนเซลอท คนบ้าบิ่นคนที่สาม ซึ่งเป็นฝรั่งผมเกรียนคุยโวเหมือนรู้ว่าอรุณคิดอะไร

                คุณแลนเซลอท ผมยังไม่รู้ว่าคาร์ลมีสไตล์การเล่นแบบไหน สกิลทำอะไรได้บ้าง กินระยะคูลดาวน์เท่าไหร่ ทีมเราอยู่เบอร์สองร้อย ออกไปหาที่ซ้อมแถวนี้กันก่อนดีไหม ผมทนลงสนามจริงโดยที่ไม่รู้ข้อมูลของคนในทีมไม่ได้

                “คิดมากเอรอน แต่ก็เอา ซ้อมด้วยกันไว้ไม่เสียหาย ถามผมรึยังว่าอยากดูวายุแดงไหม ไอ้นี่โคตรพ่อโคตรแม่ขี้อวดเบ่งเลย จะวิ่งสี่คูณร้อยลงไปตบกบาลมันอยู่แล้วเนี่ย เห็นแล้วหงุดหงิด

                อรุณมองกลับไปในสนาม ก็เห็นคนอวดเบ่งที่ว่าทันที

                ทีมหมายเลขหนึ่งถึงสี่เดินออกจากช่องใต้เฉลียง ซิกตี้กับพวกของมันนำมาอย่างรีบร้อนเหมือนต้องการโชว์ตัว วายุแดงตกเป็นเป้าสายตาทันทีเพราะว่าเป็นคนเดียวที่ขี่ม้า อีกทั้งเป็น ไนท์แมร์ยูนิคอร์น จากทวีปเรดตะวันตกอีกต่างหาก

                ยูนิคอร์นสีดำที่มีไฟลุกโชนวิ่งนำทุกคนไปยืนโชว์ตัวอยู่กลางสนาม

                เมื่อซิกตี้โดดลงจากอาชาก็ถอดหมวกเกราะออก มันปัดผมสีบลอนด์ไปด้านหลังเป็นการเผยให้เห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของตัวเองชัดๆ หลังจากนั้นก็โปรยยิ้ม ถึงจะไม่มีสาวกรี๊ดก็ไม่สนใจ ขอให้เด่นที่สุดเป็นพอ การแข่งขันนี้ถ่ายทอดสดไปทั้งเกมผ่านทางฟอรั่ม รวมถึงมีโอกาสสูงที่จะลงเน็ตกับทีวีด้วย ไอ้หมอนี่เลยเก๊กซะเต็มที่

                “เหมือนจะเปิดตัวแป๊กนะ อายแทนแลยว่ะแกรินทำหน้าอย่างที่บอกกับณดีจริงๆ

                อ่ะ อืม..เขามั่นใจจังเลยริน ฉัน..อยากทำได้แบบนั้นบ้างจัง

                “ทำไม่ได้น่ะดีแล้ว ณดี แกอย่าแม้แต่จะคิดนะ!”

                ทีมที่สองเป็นทีมหญิงล้วนจากบุปผาราชินี่ที่หัวหน้ากิลด์เดินนำมาเอง เสียงเชียร์นั้นดังกระหึ่มยิ่งกว่า อรุณคิดว่าไม่มีทางดังกว่านี้อีก จนกระทั่งทีมสามจากบลัดมูนทำให้หูเกือบแตก ทีมสี่เป็นกลุ่มผู้เล่นอิสระก็เรียกความสนใจเชสเชอร์ได้ไม่ด้อยกว่ากัน ส่งผลให้คนทั้งสนามพากันมองตาม ดูเหมือนจะมีผู้เล่นที่น่าจับตามองอยู่เต็มไปหมด

                แม้ในขณะนี้จะไม่มีใครสนใจซิกตี้เลย แต่วายุแดงก็ยังคงโปรยยิ้มต่อไปเพราะกลัวเสียหน้าจนภาพที่ถ่ายทอดสดออกมาดูฝืนๆ ชอบกล จนพวกอัศวินลูกน้องทำตัวไม่ถูกไปด้วย ไม่รู้จะขำหรือสมเพชดี

                เป็นไง เริ่มอารมณ์เสียล่ะสิ ยังอยากดูอยู่อีกไหม”     

                อรุณอยากเก็บข้อมูลซิกตี้ แต่ยอมรับว่าเห็นหน้ามันแล้วเขาอามรณ์ไม่ดี รู้ตัวว่าไม่มีใครสนใจก็ช่วยเจียมเนื้อเจียมตัวหน่อยเถอะ ไอ้ลมบ้าหมูเอ้ย!

                ทุกคน ได้ยินแล้วใช่ไหม เราออกไปซ้อมกันเถอะครับ

                “ไปค่ะไป ช่วยเคี่ยวเข็ญหนูด้วยค่ะพี่อรุณ!”

                ไอริสที่เงียบมาตลอด รีบบอกเห็นด้วยก่อนใคร ตั้งแต่มั่นหมายว่าจะไปช่วยซัน เด็กสาวก็ทำตัวจริงจังจนแม้แต่ยิ้มก็ไม่เคย ให้ความรู้สึกประหลาด เพื่อช่วยเพื่อนสนิทพลังมิตรภาพของชาวสีเหลืองทำให้เด็กสาวร่างเริงสดใสเปลี่ยนไปได้ถึงเพียงนี้

                ถ้าผิดพลาดตรงไหนรบกวนช่วยกันบอกหนูด้วยนะคะ พี่อรุณ พี่อันย่า พี่ฝรั่งที่มาใหม่ด้วย หนูจะได้เก็บเอาไปปรับปรุงโดยด่วน

                “ถ้าไอริสต้องการขนาดนั้น..ได้ครับอรุณพยักหน้าให้เธอก่อนหันไปสบตาอันย่า ทั้งสองรับรู้ถึงความมุ่งมั่นของเธอได้

                “วิจารณ์ดีๆ ไม่เป็นหรอกนะ ผมเลี้ยงหมาไว้ในปากซะด้วยแลนเซลอทกระตุกยิ้มเหมือนพบคนถูกใจคาร์ล แกก็หัดจริงจังเหมือนน้องเขาบ้างซิ ไปซ้อมกัน”         

                ทีมอรุณพากันลุกขึ้นยืน แต่ทันใดนั้นก็มีอัศวินเกราะแดงสองคน เดินมาขวางทางเอาไว้ ไม่ยอมให้ใครเดินออกจากที่นั่งได้ หรือเจาะจงกว่านั้นคือไม่ยอมกับทีมอรุณเท่านั้น พอหัวหน้าโผล่มา พวกลิ่วล้อก็เคลื่อนไหวทันทีเชียวเหรอ           

                “ไม่ทราบว่าจะไปไหนครับคุณผู้เข้าแข่งคนของซิกตี้แกล้งถามด้วยรอยยิ้มที่มองมุมไหนก็คือการยั่วโมโห

                ไปอัดตูดพ่อพวกแกมั้ง ผมจะไป มีปัญหาอะไรไหม?” แลนเซลอทเลี้ยงหมาในปากจริงๆ คาดว่ามีเป็นฝูงด้วย อรุณจึงรีบหลีกเลี่ยงปัญหาด้วยการยกป้ายหมายเลขทีมให้ดู

                ถ้าเรียกตามลำดับหมายเลข ทีมเบอร์ 230 ของผมน่าจะถูกเรียกเป็นอันดับท้าย ช่วงเวลานี้ถ้าออกไปซักซ้อมสักหน่อยคงไม่เป็นไรใช่ไหมครับ ลำโพงในสนามมันดังอยู่ ถ้ามีการเรียกตัวเดี๋ยวเราก็กลับมาเอง

                อัศวินหัวเราะ หลังจากฟังแลนเซลอทพูดมันก็ไม่เสแสร้งใช้คำสุภาพอีกต่อไป มโนกันเองทั้งนั้น พวกเอ็งแน่ใจได้ไงว่าเวลาเรียกตัวจะประกาศออกลำโพง พวกข้าต่างหากที่รับหน้าที่เรียกตัว

                “หัวหน้าซิกตี้กระชับมาว่า มีทีมลงสมัครมากกว่าที่คิด เพื่อความเร็ว ทีมไหนไม่อยู่ระหว่างพวกข้าเรียกตัวก็ให้ตัดสิทธิ์ ข้ามไปได้เลย ออกไปแล้วระวังจะกลับมาไม่ทันนะ ตอนนี้เอ็นเลสเทลล์ตระเวนระเบิดตึกกันอยู่ ผู้ก่อการร้ายมันไว้ใจไม่ได้ ถ้าทีม 230 ออกไปแล้วเจออุบัติเหตุ หายไปโผล่จุดเซฟกันหมดมันจะไม่คุ้ม

                “พูดเหมือนถ้าเราออกไปจะมีคนดักตีหัวอยู่เลยนะคะอันย่าแขวะกลับเบาๆ ระหว่างรอความเห็นจากอรุณซึ่งเป็นหัวหน้าของทีม ชายหนุ่มต้องคิดให้รอบคอบที่สุด จึงยังไม่ตอบโต้

                ในถิ่นของตัวเอง ต่อให้ถูกเอบีซีคาดโทษไว้ แต่ถ้าลับสายตาพวกมันต้องหาเรื่องสร้างปัญหาจนเราเข้าประลองไม่ได้สักทางหนึ่ง อันย่าพูดถูก เผลอนิดเดียวรับรองถูกไอ้พวกนี้ดักตีหัวร้อยเปอร์เซ็นต์ พวกสามสาวที่เลเวลยังน้อยจะเป็นอันตราย

                อรุณหันกลับมาดูสีหน้าเคร่งเครียดของไอริส ทันใดนั้นเสียงสำลักน้ำอย่างทรมานของซันก็ดังก้องขึ้นในหัวอีกที ย้ำให้ต้องอดทนไว้ ต้องชนะการประลองเพื่อไปช่วยซันให้ได้

                ทุกคนผมเปลี่ยนแผน นั่งเถอะ 

                “เรียลลี่?”    “พี่อรุณ?”

                แลนเซลอทกับรินที่กำลังหัวร้อน ทำหน้าเสียดายเพราะไม่คิดว่าอรุณจะเป็นฝ่ายถอยกลับโดยง่าย ในมุมมองทั้งสองคน การกระทำนี้ของชายหนุ่มก็เหมือนผู้เล่นอีกนับล้านที่ยอมแพ้อิทธิพลของอีออส นายฝรั่งดูผิดหวังอย่างยิ่ง 

                อรุณฝืนกลืนความรู้สึกที่ว่าลงคอ แม้จะขมปาก ถ้าไม่ได้ประลอง เราจะช่วยซันไม่ได้ สงบอารมณ์ก่อนครับ

                “เอางั้นก็ได้ค่ะรินกัดฟันทิ้งตัวเอาก้นกระแทกที่นั่งอย่างแรง จนมีเลขความเสียหายหนักหน่วยลอยออกมา ขณะคนที่เหลือยอมนั่งด้วยอาการสงบกว่า แลนเซลอทเดาะลิ้นอย่างไม่พอใจอยู่เป็นรายสุดท้าย ขณะมองลูกน้องซิกตี้ยิ้มเยาะจากไป   

                เวลาเดียวกันผู้เข่าแข่งขันชุดแรกก็เดินขึ้นไปประจำบนลานประลองทั้งสี่ บนเฉลียงเห็นผู้เล่นของอีออสมากมาย ยืนล้อมคัมภีร์แห่งการสร้างสรรค์เอาไว้ ภายใต้การควบคุมของอัศวินเกราะแดงไม่มีทางเอื้อมมือไปจับได้ตามใจชอบ

                เชสเชอร์ผู้เป็นพิธีกร  รีบอธิบายโดยไม่ขาดช่วง ข้อมูลใหม่เพิ่งส่งมาถึงฉัน ร้อนๆ ค่ะท่านผู้ชม ดูเหมือนวงในจะแอบส่งซิกมาว่ามอนสเตอร์ในการปะลองทั้งห้ารอบ จะเน้นชนิดบินได้โดยเฉพาะ เพราะฉะนั้นถึงเห็นเจ้าหน้าที่มาคอยป้องกันมันหลุดไปกัดคนดูไงล่ะคะ

                ผู้เล่นจากอีออสประจำอยู่ที่ลานต่อสู้ย่อยอย่างที่เชสเชอร์บอก หลังจากโดนพิธีกรเผยตัวตน พวกนั้นจึงโยนรูนสีฟ้าขาวไปที่กลางลาน ณ จุดที่ตัวเองประจำอยู่

                นั่นคือรูน มิเรอร์ทาวเวอร์ ค่ะ เหมือนม่านกระจกของเราแต่สูงอย่างกับหอคอย  

                บาเรียสีขาวเลื่อมฟ้าที่ใสเหมือนกระจกปรากฏออกมาล้อมสนามและผู้เล่นแต่ละทีมด้านในเอาไว้สูงขึ้นไปถึงท้องฟ้าราวกับหอคอยสมชื่อ และแล้วพวกคนที่ยืนล้อมคัมภีร์แห่งการสร้างสรรค์ก็พร้อมใจกันเคลื่อนไหว อัศวินของซิกตี้ออกคำสั่ง ก่อนสายพลังเวทสีแดง เขียว และฟ้ามากมายนับร้อยเส้นจากสายตาอรุณพุ่งทะลุหอคอยกระจกลงไปอยู่ตรงหน้าผู้เแข่งขันทุกทีม กระจายแบ่งกันไปสู้โดยเท่าเทียมกัน

                เริ่มหลังก็ไม่เลว ดูซิว่าตัวอะไร อรุณชะโงกดูสนามที่สี่ของทีมผู้เล่นอิสระซึ่งอยู่ใกล้ที่สุด และสิ่งที่ถูกเรียกออกมาก็คือฝูงนกที่มีร่างกายเหมือนเป็นลูกผสมไดโนเสาร์

                [พบมอนสเตอร์  เรซอร์บีค แรปเตอร์  ระดับ50 จำนวน 20 ตัวค่ะ]

                [พบมอนสเตอร์ สวิฟวิง แรปเตอร์ ระดับ52 จำนวน 10 ตัวค่ะ]

                [พบมอนเตอร์ สแนปจอว์ แรปเตอร์ ระดับ56 จำนวน 7 ตัวค่ะ]

                [พบมอนสเตอร์ระดับบอส เดธมิส แรปเตอร์ ระดับ56 จำนวน 3 ตัวค่ะ]

                [พบมอสเตอร์ระดับบอส เบิร์ด ออฟ เอนเชียนท์สกาย ระดับ70 จำนวน 1 ตัวค่ะ]

     

                กรี๊ด! แม่เจ้า รอบแรกก็ของโหดแล้วค่าท่านผู้โช้มมมเชสเชอร์ลากเสียงด้วยความตื่นเต้น นกก็ไม่ใช่ กิ้งก่าก็ไม่เชิง มอนสเตอร์ซิกเนเจอร์ของทวีปเรดตะวันออก ทวีปแห่งมังกร  แรปเตอร์ค่ะ!”

                “จะทดสอบเบสิกกันเหรอ?” อรุณแปลกใจตัวเลือกของอีออส จนเผลออ้าปากค้างไปชั่วขณะหนึ่ง แต่นอกจากเขาคนส่วนใหญ่กลับขมวดคิ้วเหมือนเพิ่งเคยเห็นแรปเตอร์เป็นครั้งแรก ส่งสายตามาทางผู้รู้ว่าเจ้าพวกนี้มันตัวอะไรน่ะ

                อ้าวนี่ ไม่รู้จักแรปเตอร์เหรอครับ

                “หมาที่ไหนจะรู้ ทวีปตะวันออกมีอีออสคุมอยู่ นอกจากฝ่ายนั้นคนเขาไม่อยากถ่อไปหาเรื่องใส่ตัวกันหรอก เว้นพวกมังกรไว้อย่าง มอนสเตอร์ของทวีปแห่งมังกรเป็นปริศนาตลอดมา

                แลนเซลอทบอกเรื่องน่าตกตะลึงให้ฟัง แต่ก็ไม่เกินคาดสำหรับอรุณที่รู้เช่นกันว่าทวีปตะวันออกนั้นเป็นถิ่นของใคร ยิ่งเล่นเกมนี้นานเท่าไหร่ ชายหนุ่มก็พบว่าอิทธิพลของพวกวาวยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนแทบค้ำฟ้า

                ถ้าอย่างนั้นอรุณจะใช้ความได้เปรียบจากการเริ่มหลัง วางแผนฟอร์มทีมสำหรับต่อการแรปเตอร์ซะเลย

                คุณแลนเซลอท ช่วยลิสรายชื่อสกิลกับคูลดาวน์ที่ใช้บ่อยของคุณกับคาร์ลมาให้หน่อย  อารมณ์เสียไม่อยากดูอยู่แล้วนี่ คนที่เหลือมองตามที่ผมบอก เจ้าเรเซอร์บีคขนแดงมันกรูเข้าปะทะแล้วนั่น!”

                อรุณชี้ไปยังลานเบอร์สี่ตรงหน้า ทีมผู้เล่นอิสระกำลังเตรียมรับมือการจู่โจมด้วยการส่งแทงค์สามคนออกมาด้านหน้า สองนายเป็นพารากอน อีกคนเป็นอเวนเจอร์ โดยไม่ให้ตัวดาเมจโจมตีตัดกำลังเพื่อป้องกันความยั่วยุตามสามัญสำนึก เนื่องจากกลุ่มนี้ไม่มีอัศวินศักดิ์สิทธิ์ไว้ยั่วยุแบบหมู่นั่นเอง หากเร่งโจมตีย่อมไม่ทีทางรั้งแรปเตอร์สามสิบกว่าตัวไว้ได้หมด

                เสียดายที่สามัญสำนึกของทวีปกลางใช้กับทวีปเรดไม่ได้ มอนสเตอร์ของมันก็ด้วย

                พวกเขาพลาดแล้ว

                 แรปเตอร์ (Raptor) หรือ วิหคเล็บขอ เป็นมอนเตอร์ตระกูลสัตว์ปีก ซึ่งเป็นญาติห่างๆของมังกรในสายมังกรโบราณ (Ancient Dragon) อันมีเอกลักษณ์เฉพาะคือรูปร่างคล้ายคลึงกับไดโนเสาร์ สำหรับแรปเตอร์ พวกมันเหมือนกับสัตว์เลื้อยคลานล่าเนื้อที่มีขนนกขึ้นปกคุลมตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย กรงเล็บแหลมคมโง้งเป็นตะขอที่ตีนกับมือเล็กๆตรงกลางปีก

                ฝูงเรเซอร์บีคยี่สิบตัว รูปร่างคล้ายไก่งวงขนแดงแซมเขียวกับฟ้าตรงปีกกับหาง มีจะงอยปากคมกริบเหมือนมีดโกน ตีปีกพั่บๆ บินเลียดพื้นเข้าหาผู้แข่งขันด้วยลักษณะดังกล่าวอย่างดุดัน พารากอนทั้งสองนายจึงเริ่มตอบสนอง

                ทักษะเข้าปะทะของสายคลาสอย่าง เฟิร์ส อิน แบทเทิล (First in Battle) ถูกเรียกใช้พร้อมกันส่งบุรุษเกราะหนาทั้งคู่ พุ่งสวนไปด้านหน้า หนึ่งสีขาว ใช้ค้อนใหญ่เหวี่ยงซ้ายขวาเหมือนไร้น้ำหนักสร้างลมหมุนดึงศัตรู อีกนายเล่นสีดำเขียว ใช้ดาบฟาดโล่ตัวเองหลายครั้ง ปล่อยควันพิษเขียวแสดรอบตัวยากจะละเลยได้โดยตรง

                กะต๊าก!! เรเซอร์บีคสี่ตัวเข้าฟัดพารากอนคู่หูเพราะว่าอยู่ขวางหน้าเท่านั้น พวกมันที่เหลือปรากฏแสงสีเขียวตรงแฝงคอและขนปีก บินทะลุทักษะยั่วยุด้วยความเร็วอย่างน่าฉงน

                ตัวชนอันดับสามเล่นเป็นอเวนเจอร์ มันตกใจช็อกเพราะแผนเก็บศัตรูที่หลุดแทงค์แนวหน้าพังทลายอย่างเหนือความคาดหมาย อเวนเจอร์สร้างความยั่วยุจากการโจมตีแลกเลือดตรงๆ อยู่แล้ว เมื่อแรปเตอร์เกือบทั้งฝูงหลุดแถวเข้ามามันก็สายเกินไป ใครมันจะไปเบรกทัน

                สมาชิกทีมสายดาเมจที่เหลือไม่มีทางเลือก นอกจากยัดสกิลสวนเพื่อป้องกันตัวในระยะประชิด เกิดเสียงเอ็ฟเฟ็คดังลั่นพร้อมกับที่กระบวนทัพแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ ในการต่อสู้เป็นทีม แค่กระบวนทัพแตก โดยพื้นฐานถือว่าเสียท่าไปก้าวหนึ่งแล้ว

                เรเซอร์บีคคุ้มคลั่งไล่จิกตีผู้เล่นไม่หยุด พวกมันบุกทะลวงไปทุกทิศทางโดยไม่สนความยั่วยุระหว่างที่ขนสีเขียวเรืองแสงอยู่ ท่ามกลางความวุ่นวายสับสนของคนแข่งและผู้ชม อรุณก็รีบอธิบายถึงสิ่งนี้ ทักษะสีแดงเขียว ระดับสาวดาว บลัดฟิวรี่ (Bloodfury)”

                “สกิลเพิ่มโบนัสตีเร็วตีแรง ตามเปอร์เซ็นเลือดสูงสุด ท่าสีแดงเขียวทั่วไปๆ ระหว่างใช้บัพนี้อยู่จะต้านทานทักษะยั่วยุได้ชั่วคราวนะ สมัยเป็นเกมก็ป่วนเอาเรื่อง    

                สกิลทั่วไปของผู้เล่น แต่มอนเตอร์ใช้เองนี่เราเพิ่งเคยเจอ จะรับมือยังไงคะ ต่อให้มีแทงค์ก็กันไม่ได้อันย่าค้านคำพูดอรุณเต็มที่ ซึ่งรินกับเฟอร์น่าก็เห็นด้วย ในฐานะเป็นตัวแทงค์และเพิ่งเล่นเกมมาไม่นาน เรื่องนี้ชวนให้หวั่นใจเหลือเกิน

                พารากอนยังไม่ไหว อัศวินคลาสหนึ่งแบบหนูไม่เละเป็นขี้หรือเนี่ย?”

                “เหมือนกันๆ คุณอรุณ เรื่องที่ฉันภูมิใจมีแค่วิ่งลากมอนไปเรื่อยๆ ลากไม่ได้ฉันรู้สึกไร้ประโยชน์จังเลย ทีนี้จะป้องกันณดียังไงล่ะ    

                แลนเซลอทได้ยินอย่างนี้ก็นั่งขำ ฝรั่งผมเกรียนจดข้อมูลสกิลของมันกับคาร์ลต่อไปโดยไม่ชะเง้อมามองด้วยซ้ำ พูดกับรินเหมือนสอนผู้เล่นรุ่นน้องว่า แทงค์ไม่ไหว ก็ถล่มให้เละก่อนจะมาถึงตัวไปเล้ย สีแดงมันบางจะตาย

                “ก็บอกว่าพวกสีแดงอย่างพูดเองเออเองไงคะ ไม่เห็นเหรอว่า..”

                “อันย่าครับ คุณแลนเซลอทพูดถูก วิธีรับมือที่ถูกต้องคือ ให้ตัวระยะไกลโจมตีกระหน่ำตั้งแต่แรกต่างหาก แรปเตอร์มันสามสีก็จริง แต่เรเซอร์บีคมันแดงเป็นหลักตามด้วยเขียว ไม่ถึกเท่าไหร่หรอก

                “พี่อรุณกำลังบอกว่า ให้โจมตีมั่วซั่วไปเลยเหรอคะ

                “มั่วได้ที่ไหนละไอริสอรุณส่ายหน้า ฟังนะครับ ข้อผิดพลาดที่พบมากที่สุดของพวกผู้เล่นระดับกลางหรือสูงที่หัดลุยทวีปเรดก็คือ คิดว่าตัวเองเก่งแน่ พึ่งพาไอเทมกับสกิลจนลืมเบสิกของคัลเลอร์แคลช

                “เบสิกของคัลเลอร์แคลช นี่คือเด็กสาวสงสัยเต็มที่

                “ก็ต้องคัลเลอร์ (สี) ไงครับ    

                อรุณพูดแล้วก็ชี้ให้ทุกคนดูการต่อสู้ของทีมที่สี่ประกอบการอธิบายอีกครั้ง ตัวเกมคัลเลอร์แคลชสร้างระบบสีขึ้นมา เพื่อช่วยเหลือผู้เล่นให้เตรียมแผนรับมือกับศัตรูในเกมล่วงหน้า ผมไม่รู้ว่าค่ายฝึกเล่นใหม่สอนไว้รึเปล่าเพราะไม่เคยไป เรื่องมอสเตอร์ใช้สกิลอาจพอให้อภัย เพราะในทวีปกลางไม่ค่อยมีศัตรูที่แข็งแกร่ง

                “สีแดงคือสีแห่งความรวดเร็ว รุนแรง โจมตีอย่างรวบรัดสร้างความปั่นป่วน เรเซอร์บีคทำตามตัวตนของมัน ด้วยการบุกทะลวงกระจายแถวของทีมนี้ออกจากกัน ข้อเสียของสีแดงคืออะไรครับริน

                สาวห้าวชี้หน้าตัวเองอย่างมึนๆ เลือดน้อย กับ...ทรัพยากรหมดเร็วค่ะ

                “ครับ ถ้าหยุดการรุกสายฟ้าแลบของสีแดงได้ มันก็จะสิ้นฤทธิ์ไปเอง วิธีการรับมือก็คือแยกตัวดาเมจกับซัพพอร์ทเป็นกลุ่มย่อยอยู่กับแทงค์แต่ละคน แทงค์เอาตัวเข้ารับสกัดการบุก ที่เหลือช่วยโฟกัสโจมตีทีละตัว

                “ทีมนี้พลาดตั้งแต่แยกแทงค์จากแนวหลังนั่นแหละครับ ความยั่วยุรวมอยู่ที่ใครล่ะนั่น

                 ไม่มีใครให้คำตอบได้ เพราะหลังจากตัวดาเมจต้องระดมโจมตีใส่เรเซอร์บีคเพื่อป้องกันตัว ความยั่วยุของพวกนั้นก็สูงขึ้นมาทันที แม้จะจัดการเรเซอร์บีคได้ไม่ยากเย็น แต่ความเสียหายได้เกิดขึ้นแล้ว ตัวดาเมจกับซัพพอร์ทที่ได้รับบาดเจ็บล้วนยืนแยกห่างกัน เลยถูกโจมตีกระหน่ำต่อทันทีระหว่างที่กำลังสับสนโดยไม่อาจค้ำจุนกันได้

                ซัพพอร์ท รออะไรเล่า รีบฮีลเข้าซี่!”

                “ทางนู้นสิคะ แทงค์หลุดก็รีบกลับมากันไม่ได้เหรอ!”

                ทีมสี่โดนสีแดงปั่นป่วนจนสติขาดผึง เริ่มเสียงแตกจนผสานงานกันไม่ได้ ฝ่ายสนับสนุนเริ่มฮีลตัวดาเมจ สร้างความยั่วยุให้ตัวเองเพิ่มไปอีก แทงค์สองคนหน้าก็ยังดื้อไม่ยอมถอยปล่อยทักษะยั่วยุต่อไป  

                จังหวะทีเผลอแบบนี้มอนสเตอร์อีกสองชนิดเลยฝ่าเข้ามาอย่างง่ายดาย        

                ตัวที่เหมือนนกกระจอกเทศอัดสเตอรอยด์ ใช้ขากับลำคอหนาๆ เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ เตะสองคู่หูพารากอนจนหงายตึง ปากหนาที่เหมือนคีมของมันจิกชุดเกราะของพวกนั้นแทบทะลุด้วยพลังมหาศาล

                “นั่นคือ สแนปจอว์ แรปเตอร์ จุดเด่นของสีเขียวคือค่าสถานะสูง แต่อ่านทางง่าย อย่าซัดกันตรงๆเด็ดขาดนะครับ เห็นแล้วนะว่าเป็นยังไง

                ตัวแทงค์ทั้งสองนายทำหน้าที่ล้มเหลว กลายเป็นอาหารนกไปเรียบร้อย

                อเวเนเจอร์ขวานคู่ในฐานะแทงค์คนสุดท้าย รีบวิ่งไปรวมกับพวกเพราะได้บทเรียนจากความผิดพลาดของเพื่อนร่วมทีม แต่ทันใดนั้น เขาก็ถูกแรปเตอร์อีกชนิดโฉบเหวี่ยงขึ้นฟ้าลอยห่างจากทีมไกลไปอีก เจ้าพวกนี้บินข้ามหัวมาถึงแนวหลัง กู่ร้องดังแสก! ยิงคลื่นเสียงอัดหน้าก่อนจะบนหนีขึ้นฟ้าจนผู้เล่นต้องยกมืออุดหู สแนปจอว์แรปเตอร์ที่เหลือจึงบุกตรงๆ ตามสีของมันได้อย่างสะดวก

                “สกิลโซนิคเวฟ (Sonic Wave) ของสีฟ้าทำให้เกิสถานะพิเศษหูหนวก ตัดการร่ายสกิลแล้วก็ทำให้ไม่ได้ยินเสียงไปชั่วคราว มันคือสวิฟวิง แรปเตอร์

                ทีมเบอร์สี่ทั้งหมดโดนอัดกระเด็นกระดอนเละตุ้มเป๊ะ อย่างที่อรุณว่าจริงๆ คนดูส่ายหน้ากันเป็นแถว เดธมิส แรปเตอร์ บอสร่างเล็กที่ดูคล้ายกิ้งก้าผสมนกแก้ว ตอกฝาโลงของเหล่าผู้เล่นอิสระด้วยการพองถุงพิษตรงลำคอปล่อยหมอกกรด ตอดเลือดและสโลว์จากระยะไกลสุดสนาม การต่อสู้เลวร้ายถึงขึ้นวิกฤติ

                 เบิร์ด ออฟ เอ็นเชียนท์สกาย  วิหคสี่ปีกยังไม่ออกโรงเองด้วยซ้ำ มันบินไปรอบๆ หอคอยกระจก จนกระทั่งผู้เล่นนั้นตายหมด เหล่ามอนสเตอร์จึงสลายกลายเป็นแสงสีต่างๆกลับเข้าคัมภีร์แห่งการสร้างสรรค์

                ความยากของทวีปเรดคือ การเปลี่ยนกลยุทธ์ไปมาให้เข้ากับสีของมอนสเตอร์ ซึ่งจะมีสามสีด้วยกัน ถ้าเบสิกพวกนี้ยังไม่แน่นจริง อรุณว่าก็ยังไม่จำเป็นต้องพูดถึงทีมเวิร์ค ทีมเบอร์สี่แม้จะประกอบด้วยผู้เล่นคลาสสาม ก็ยังพ่ายแพ้หมดรูปได้ง่ายๆ เป็นตัวอย่าง เพราะผิดพลาดนิดเดียวแท้ๆ

                หนึ่งคือดูถูกพลังการบุกของสีแดง และสองคือเข้าประลองพลังกับสีเขียว แรปเตอร์พวกนี้แดงก็มี เขียวก็ใช่ ไม่นับฟ้าอีก พลาดไปตั้งสองในสามสี

                ครืนนนน ครืนนนน

                โศกนาฏกรรมของทีมสี่จบไปไม่ทันไรท้องฟ้าเหนือโคลอสเซียมก็พลันมืดครึ้ม เมฆก่อตัวเหมือนฝนจะตกแต่มีแค่ฟ้าร้องคะนอง จนพวกอรุณต้องชะเง้อดู ฟ้าร้องให้ความล้มเหลวของทีมสี่หรือ? เขาว่าไม่ใช่ เพราะการต่อสู้ในอีกสามลานที่เหลือยังดำเนินต่อไปอย่างดุเดือด

                เสียงอัสนีคุ้มคลั่งนี้คือฝีมือของวายุแดง

                แอโรว์ เรน! (Arrow Rain)” ซิกตี้ง้างธนู ประกาศใช้สกิลจากความชำนาญอาวุธ ลูกศรสายฟ้าทะยานหายเข้ากลีบเมฆดำอย่างรวดเร็ว ก่อนร่วงลงมาเป็นสายฝนอัสนียบาท แสงแดงสาดไปทั้งสนามพร้อมเสียงดังเปรี้ยงอย่างเอิกเหริกเรียกความสนใจเชสเชอร์ได้ทันที

                ธนูนั่นยิงสายฟ้าออกมาแทนลูกศรค่ะท่านผู้ชม! สกิลฝนธนูเลยกลายเป็นฝนสายฟ้า อลังการจริงๆ แต่ที่น่าสนใจกว่าคือการจัดทัพค่ะ!”

                ซิกตี้จัดขบวนเป็นลิ่มสามเหลี่ยม โดยมีตัวเองอยู่หน้าสุดร่วมกับลูกน้องคลาสพารากอนอีกห้าคน ใช้พลังของคลาสหัวหน้าอัศวินพุ่งทะลวงสวนไปด้านหน้าไม่หยุดยั้งด้วยออร่าเร่งความเร็วซึ่งพารากอนทิ้งเอาไว้ด้านหลัง

                จุดอ่อนของพารากอน คือ เมื่อใช้ความสามารถบุกทะลวง จะเป็นการทิ้งเพื่อนไว้ด้านหลัง แต่ซิกตี้ดาหน้ากันมาทั้งทีม ข้อเสียที่ว่าจึงเหมือนไม่มี หนำซ้ำยังเป็นการวิ่งหลบฝูงพวกแรปเตอร์เขียวจอมพลังไปในตัว

                สายฝนอัสนีกระหน่ำไม่ทันจบ พริบตาเดียวหัวแถวกองอัศวินแดงก็มาถึงบอสพ่นพิษตัวแสบ เหล่าพารากอนตั้งอาวุธประเภทหอกทวนไปด้านหน้า

                เดธมิส แรปเตอร์ซึ่งกำลังดิ้นรนหลบสายฟ้า ร้องด้วยความกลัวก่อนถูกพารากอนทั้งห้าเข้าชาร์จอย่างสุดแรงจนพวกมันถูกลากไปกับหัวขบวนด้วย สกิลคอมโบของสายอัศวินบุกทะลวงทำงานทันที เหวี่ยงบอสทั้งสามลอยกลับหลังข้ามกองอัศวินไปหาแรปเตอร์ที่เหลือซึ่งยกขโยงตามมาอย่างพร้อมเพรียงกัน

                หนวกหูโว้ย! โยเนียร์!”

                ระหว่างที่ขบวนรูปลิ่มเลี้ยวกลับหัว ซิกตี้ชูมือที่ประจุพลังสีแดงขึ้นมา เมื่อสะบัดลงเมฆเบื้องบนก็แหวกออก เผยค้อนยักษ์สีแดงซึ่งหลอมรวมจากสายฟ้า ท่าไม้ตายนี้อรุณจำได้อย่างขึ้นใจ มันคือการโจมตีหมู่แบบล็อกเป้าหมาย ซึ่งต้องแลกด้วยพลังเวททั้งหมด

                เป้าหมายของวายุแดงคือบอสวิหคสี่ปีก เบิร์ด ออฟ เอนเชียนท์สกาย ด้วยพลังอันร้ายกาจของคันศรที่แฝงสถานะผิดปกติเหน็บชาในการโจมตี เมื่อค้อนอัสนีระเบิดรัศมีการทำลายล้าง แรปเตอร์ใหญ่น้อยทุกตัวที่ตามมาด้านหลังเป็นกระจุก ล้วนเป็นอัมพาติร่วงหล่นสู่พื้นจนสิ้น

                จังหวะนั้นกองอัศวินก็วกแถวกลับมาพอดี ซิกตี้คำรามลั่นจากนั้นเหล่าพารากอนก็ใช้ท่าพุ่งเข้าชาร์จแบบใหม่ที่ทำให้พื้นแหวกออกเป็นร่องเหมือนแผ่นดินแยก ตรงเข้าไปบดขยี้ศัตรูด้วยพลังทั้งหมดที่มี

                เสี้ยวนาทีต่อมาทีมของวายุแดงก็คว้าชัยชนะอย่างสวยงาม ซิกตี้ชูคันธนูประกาศศักดาพรอ้มเสียงโห่ร้องจากฝ่ายอีออสก้องไปทั้งซีเกท

                รวดเร็วดุดัน สมกับเป็นทีมของวายุแดงจริงๆ ค่ะท่านผู้ชม คันศรอัสนีเทพของซิกตี้มีเอฟเฟ็คทำให้ติดสถานะเหน็บชาเมื่อโจมตีด้วยสายฟ้าอยู่ 10% ค่ะ น่ากลัวอะไรอย่างนี้! เล่นสีแดงแต่คอนโทรลมอนสเตอร์ได้

                “การป้องกันที่ดีที่สุดคือการโจมตี ถ้าคุมไม่อยู่ก็ตีให้ตายซะ ยอมใจสีแดงเค้าเลยค่า!”

                “เป็นไงล่ะ บอกแล้วว่าถล่มให้ยับก็สิ้นเรื่อง แผนไม่ต้องแลนเซลอทเยาะอันย่าที่อ้าปากพะงาบๆ เถียงไม่ออก ต่างกับรินที่ทำตาเป็นประกายเหมือนได้แรงบันดาลใจอย่างแรงกล้า ทำให้อรุณต้องรีบปรับทัศนะเธอใหม่

                เทคนิคซิกตี้ก็ได้ผลแต่พี่ไม่แนะนำนะครับริน ถ้าเลียนแบบรับรองเวทหมดในพริบ...

                “แต่มันสะใจดีนะคะ! ทีมเราไม่ใช้แผนนี้บ้างเหรอ

                “รินเป็นอัศวินคลาสหนึ่งนะครับ ไม่ใช่พารากอน คิดจะบุกก็บุก เดี๋ยวก็เป็นแบบคู่หูพารากอนทีมสี่หรอก

                ขณะชายหนุ่มพยายามเกลี้ยกล่อมลูกกิลด์เลือดร้อน คนทั้งสนามก็หันไปสนใจการต่อสู้ในลานประลองข้างเคียง อันเป็นต้นกำเนิดเสียงไวโอลินเร้าอารมณ์ที่เล่นคลอมาตั้งแต่เริ่ม

                ทีมที่สองซึ่งเป็นกลุ่มผู้เล่นหญิงล้วน กำลังต่อสู้ถวายชีวิตให้นางเหนือหัวของพวกเธอ ซึ่งกำลังสีไวโอลินอยู่ตรงกึ่งกลาง ซูซาคุแห่งบุปผาราชินี! คลาสสายนักกวีสามารถเล่นบทเพลงเพื่อสร้างบัพหรือดีบัพแบบหมู่ได้ ตามระยะที่ยังได้ยินเสียงบรรเลงของเธอ สำหรับซันที่เป็นคลาสสองก็สามารถสนับสนุนในรัศมีรอบตัวเป็นระยะสองถึงสามร้อยเมตร

                แต่เพลงของซูซาคุ ได้ยินทั้งโคลอสเซียม ไม่ใช่เสียงดังโหวกเหวกอย่างสายฟ้าของซิกตี้ แต่ไม่ว่าจะอยู่ไกลแค่ไหนก็ได้ยินท่วงทำนองเร้าอารมณ์ อันเกิดจากการสีคันชักไวโอลินอย่างรวดเร็วได้ชัดเจน

                อึดใจที่นักกวีคนสวย สังเกตว่าทีมเธอได้รับความสนใจ ก็เริ่มแสดงฝีมือเหมือนไม่อยากน้อยหน้า เมฆฝนของวายุแดงแหวกออกด้านบนของเธอ แสงสว่างจึงส่องลงมาราวกับไฟสปอร์ตไลท์  

                ซูซาคุหลับตาพริ้ม ขึ้นเพลงบทใหม่ซึ่งทำนองรื่นหู ทันใดนั้นก็เกิดปาฏิหาริย์ขึ้น!

                แสงไฟที่ส่องจากเบื้องบนขยายวงออกด้วยความเร็วสูง เปลี่ยนท้องฟ้ามาคุเป็นนภาสีครามที่มีกลีบดอกไม้เรืองแสงร่วงโปรยลงมา แต่ละกลีบพลิ้วไหวเล่นลมหนาวอย่างอ่อนช้อย ขณะที่ทุกคนตะลึงในความงาม อรุณสังเกตว่ากลางหลังหัวหน้ากิลด์บุปผาราชินี มีปีกผีเสื้อสีชมพูขนาดใหญ่งอกออกมา มันสะบัดขึ้นลงพาร่างของหล่อนลอยสูงขึ้นไปบนอากาศ ทุกครั้งที่ขยับจะมีละอองสีลาเวนเดอร์ ฟุ้งออกมาคล้ายกากเพชร

                สกิลนี้มัน แฟรี่แลนด์ มิราเคิล! (Fairyland Miracle)” อรุณอุทานชื่อทักษะที่เพิ่งนึกขึ้นได้ พริบตาเดียวกันสมาชิกทีมของบุปผาราชินีทุกคนก็มีปีกผีเสื้องอกออกมาเช่นกัน แต่ละนางบินทะลุร่างเพื่อนเพื่อสลับตำแหน่งการยืนอย่างรวดเร็ว พริบตาก็กระจายตัวออกไปทั่วสนามจุดละคนสองคน

                ระหว่างนั้นชายหนุ่มก็ต้องตกใจ จัดตำแหน่งอย่างนี้ เป็นตัวซัพพอร์ททั้งทีมนี่หว่า

                แผนการเล่นแบบนี้มัน..!


                 เชสเชอร์รีบพากย์เพิ่มดีกรีความตื่นเต้น กลยุทธ์ อูเบอร์แทงค์ (Ubertank) ค่ะ อูเบอร์แทงค์! โคตรแทงค์ไร้เทียมทาน! ในไทยอาจไม่เห็นบ่อยๆ เพราะต้นกำเนิดอยู่เซิร์ฟเวอร์ยุโรป แผนการเล่นนี้คนทั้งทีมจะซัพพอร์ทตัวแทงค์ตัวเดียว ด้วยการบัพเต็มพิกัด!”   

                ทั้งปาร์ตี้มีแต่ซัพพอร์ท ไมมีดาเมจ แทงค์คนเดียว จะบ้าเหรออันย่ามองอรุณด้วยความสับสน สมดุลทีมในสามัญสำนึกนั้นถูกทลายลง ดาเมจเยอะๆ แทงค์คนเดียวก็ว่าอย่าง มีแต่ซัพพอร์ทแล้วจะสู้ไงคะ

                “บัพแทงค์ครับ จัดหนักไปเลย!”

                อรุณตอบแล้วชี้ให้อัย่าดูแทงค์คนที่ว่า ซึ่งเป็นสาวผมสั้นเล่นคลาสผู้ทำลายล้าง จำได้รางๆ ว่าเธอชื่อธีตา คนเดียวกับที่ฆ่าคัลเลอร์เวเดอร์ได้ในคลิปของวาวนั่นแหละ

                ธีตาคนนี้ นอกจากปีกผีเสื้อ ทั้งตัวมีโคตรมหาบัพครึ่งร้อยกว่าอย่าง ทั้งตัวเธอสว่างจ้าเหมือนเห็นเป็นดวงอาทิตย์สีรุ้ง ไม่รู้ว่าเล่นสีอะไรจนอรุณเห็นหล่อนใช้สกิลออกมาเอง เป็นออร่าสีเลือดที่หุ้มรอบตัวไว้เหมือนเปลือก มีไอดำดูชั่วร้ายระเหยออกมา

                ทักษะสีแดงดำ ลดพลังป้องกันห้าเท่า ตีแรงขึ้นห้าเท่า

                ธีตาเหวี่ยงดาบยักษ์ด้วยสองมือใส่ เบิร์ด ออฟ เอนเชียนท์สกาย แม้บอสวิหคมีสี่ปีกก็ยังถูกหญิงสาวบินเข้าประชิดตัวอย่างง่ายดาย

                 ทรีนิตี้แสลช! (Trinity Slash)”

                160,802!    160,802!    160,802!

                สกิลฟันสามครั้งจากความชำนาญอาวุธดาบคริติคอลอย่างสวยงาม ดาเมจรวมมากกว่าหกแสนปัดบอสสี่ปีกร่วงลงไป แต่ก็สร้างความยั่วยุมหาศาล เนื่องจากมีธีตาคนเดียวที่โจมตี แรปเตอร์จึงไล่ตามเธอเท่านั้นตั้งแต่เมื่อกี้

                พวกสวิฟวิงร้องเสียงโซนิคใส่ธีตา บินเอาปีกที่อาบพลังสีฟ้าเฉือนลำตัวของเธอรอบทิศทาง ดาเมจที่รับนั้นสูงมากเพราะพลังป้องกันลดไปห้าเท่าแต่ธีตาก็ไม่หนี เนื่องจากคลาสผู้ทำลายล้างเชี่ยวชาญการโจมตีศัตรูเป็นกลุ่ม เธอจึงปล่อยสกิลโจมตีที่คูลดาวน์สั้นไปเป็นชุด  ทุกดอกเข้าเป้าอย่างครบถ้วนและติดคริติคอล  ดาบเล่มใหญ่เคลื่อนไหวแต่ละครั้งอย่างน้อยต้องมีแรปเตอร์ถูกฟาดร่วงไปสองตัว

                บอสแรปเตอร์พ่นพิษ ซึ่งตั้งหลักตรงมุมของลานประลอง เริ่มพ่นหมอกกรดเข้าเกื้อหนุนพวกพ้อง ถ้าอยู่ในรัศมี นอกจากจะเสียเลือดเรื่อยๆ ยังติดสโลว์และกร่อนพลังป้องกัน กลิ่นก็เหม็นเปรี้ยวแสบโพรงจมูกอย่าบอกใคร

                ธีตารู้ตัวทันทีโดยไม่ต้องหันไปมอง ใช้ปีกบินไปอีกทาง ลากมอนสเตอร์ทั้งหมดไปด้วย ขณะเดียวกันบนภาคพื้นดิน ตัวซัพพอร์ทก็เริ่มเคลื่อนไหว

                นักรบสาวบินวนตามเข็มนาฬิกา พอถึงเพื่อนซึ่งยืนประจำอยู่ก็ชะลอความเร็วหันหลังไปยัดสกิลโจมตีใส่มอนสเตอร์หนหนึ่ง ตัวซัพพอร์ทตรงนั้นทำการฮีลและบัพเธอ เพื่อนที่ยืนตรงจุดอื่นห่างออกไป ก็จะเสนอหน้าออกมา ปล่อยสกิลขัดจังหวะหรือตอดเลือดศัตรูด้วยการตีไกลสักทีสองที ความยั่วยุยังกระจุกอยู่ที่ธีตาอย่างเหนียวแน่น

                กระบวนการนี้ดำเนินอย่างเป็นระบบ ไม่มีช่วงไหนที่การเคลื่อนไหวสูญเปล่า เมื่อความยั่วยุรวมอยู่ที่ธีตาคนเดียว ไม่ว่าสมาชิกทีมทำอะไร มอนสเตอร์ก็จะเอามาลงทางเธอ ดามเดจหนักแค่ไหน ถ้าได้ซัพพอร์ทเกิอบสิบคนคอยช่วง ตัวแทงค์ก็ไม่มีวันตาย

                เมื่อบินไปตามทาง มอนสเตอร์ก็จะตามมาในไลน์ที่พวกซูซาคุกำหนดไว้แล้ว แม้แต่ช่วงเวลาที่เดธมิส แรปเตอร์พ่นพิษ ตัวซัพพอร์ทติดปีกก็จะบินหลบไปยืนตำแหน่งได้อย่างรวดเร็ว ด้วยความสามารถของมากัส (Magus) คลาสสามของสายนักกวี สกิลแฟรี่เทลล์ มิราเคิล ความสามารถระดับปาฏิหาริย์ ซึ่งเป็นการบัพหมู่อย่างที่สาม ต่อจากเพลง และออร่า ทำให้สาวๆ เหาะทะลุแรปเตอร์ ไปยืนประจำตำแหน่งใหม่ได้ในอึดใจ บังเกิดเป็นวงเวียนแห่งความตายที่ไม่มีทางหลุดพ้น

                การคอนโทรลอันหมดจดนี้ เมื่อรวมการพากย์ดันดุเดือดของเชสเชอร์ ผู้ชมในสนาม หรือพวกที่ดูถ่ายทอดสดอยู่ทั่วทุกมุมเซิร์ฟเวอร์ หากไม่ใช่ยอดฝีมือ ล้วนตาค้างแทบลืมหายใจ

                มอนสเตอร์ถูกควบคุมอย่างสมบูรณ์แบบ!

                อรุณไม่เห็นอูเบอร์แทงค์ที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ตั้งแต่ cc เป็นเกมธรรมดา เขากลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผากเพราะความหนาว เอ่ยขึ้นลอยๆ อย่างอดเสียไม่ได้ คนละขั้วกับซิกตี้ นี่แหละวิธีการต่อสู้ของสีฟ้า

                “อูเบอร์แทงค์คือกลยุทธ์ควบคุมการเคลื่อนที่ของมอนสเตอร์ โดยจัดทีมให้มีซัพพอร์ทจำนวนมากสนับสนุนแทงค์ที่มีดาเมจคนเดียวหรือสองคน ให้สร้างความยั่วยุแล้ววิ่งลากไปตามเส้นทางที่ทุกคนสามารถโจมตีได้อย่างปลอดภัย เหมือนจะทำง่าย แต่ที่จริงต้องใช้การผสานงานระหว่างคนในทีมสูง หากตัวซัพพอร์ทยืนหลุดตำแหน่งหรือตามฮีลไม่ทันก็จะพลาดทันที

                สกิล แฟรี่แลนด์ มิราเคิล ที่ซูซาคุใช้ทำให้พวกเดียวกันสามารถบินทะลุมอนสเตอร์กับผู้เล่นได้ตามค่าสถานะความเร็ว เพลงที่เล่นอยู่เป็นเพลงเพิ่มความเร็ว ช่วยให้เล่นแผนอูเบอร์แทงค์สะดวกขึ้น ธีตาก็จะวิ่งไปรับการสนับสนุนได้ทันเวลา

                ต้องชมซุซาคุที่ดึงความสามารถของสายคลาสออกมาได้อย่างเต็มที่ เพลง ออร่า และปาฏิหาริย์ บัพหมู่ทั้งสามอย่างที่เลือกใช้นั้นเหมาะสมกับแผนการเล่นอย่างไร้ที่ติ

                แต่ความดีความชอบจริงๆ ต้องคนนั้นต่างหาก

                อรุณมองไปยังหนึ่งในซัพพอร์ทซึ่งไม่มีความโดดเด่นอะไร เขาเห็นเธอมาแล้วเมื่อประชุมกิลด์ใหญ่ทั้งเก้า สตรีสีแดงที่ยากจะลืมเลือน แม่นางร่างเล็กคนนี้กำลังทำหน้าที่โอเปอร์เรเตอร์อยู่ สังเกตได้จากกรอบข้อมูลที่ลอยอยู่เต็มตัว เธอเอาแต่ออกคำสั่ง จึงไม่ได้แสดงฝีมือเอง

                คนที่คุมแผนอูเบอร์แทงค์ได้สมบูรณ์แบบ นี่ต่างหากยอดฝีมือตัวจริง

                การต่อสู้ของบุปผาราชินีดำเนินไปอย่างค้อยเป็นค่อยไป ไม่โผงผางเหมือนซิกตี้ จึงรุ้สึกเหมือนใช้เวลามากสักหน่อย แต่สามารถมองตามได้อย่างเพลิดเพลินจนแรปเตอร์ตัวสุดท้ายกลายเป็นแสง           

                ซูซาคุหยุดบรรเลงเพลงและลืมตาในที่สุด เธอสลายปีกผีเสื้ออย่างช้า หย่อนตัวลงมายืนท่ามกลางกลีบดอกไม้ที่ยังคงโปรยปราย โค้งหัวแล้วโปรยยิ้มหวานทีหนึ่ง คนทั้งสนามก็แทบจะพร้อมใจกันลุกขึ้นยืนเพื่อปรบมือ


                อรุณได้สติกลับมาก่อนถูกดึงเข้าไปตามกระแสของมหาชน เพราะกรอบข้อมูลที่มีตัวอักษรขยุกขยิกถูกเลื่อนมาตรงหน้า 

                หันมาก็เห็นแลนเซลอทยื่นบุหรี่ให้ เอาไหม

                “ขอบคุณครับ ผมเลิกไปแล้ว

                นายฝรั่งแค่นหัวเราะ เอายาสูบมวนนั้นมาคาบไว้แต่ไม่จุด เขียนสกิลของผมกับคาร์ลเสร็จแล้ว แกะเอาเอง ดูแล้วรู้สึกยังไงบ้างเอรอน อย่างปล่อยของบ้างรึเปล่าล่ะฮึ ทีมเราจะใช้แผนไหน ลูกบ้าเหมือนซิกตี้ หรือ คอนโทรลน่าเบื่อๆ

                “ไม่ใช่ครับ ตั้งแต่ก่อน บีเอ็มทรีเราเล่นกันอยู่สไตล์เดียว ทำอย่างพวกนั้นไม่เป็นหรอก

                “หืม? สไตล์ไหน

                อรุณชี้ไปยังลานประลองที่สาม ทีมของบลัดมูนก็จัดการฝูงแรปเตอร์ได้แล้วเช่นกัน แต่รูปแบบการต่อสู้นั้นธรรมดาสามัญไม่น่าสนใจ เมื่อเทียบกับพวกบุปผาราชินีสนามใกล้ๆ 

                เขาไม่ถูกโรคกับพวกจันทร์สีเลือดตั้งแต่มายึดโซนเก็บเลเวลที่บึงมรณะ แต่วิธีการต่อสู้ของพวกมัน ทุกครั้งที่เหลือบไปดูแวบหนึ่งจะนึกถึงกิลด์ตัวเองสมัยก่อนขึ้นมา

                ถ้าใช้ศัพท์ในวงการก็..โปรแอคทีฟ รีแอคทีฟ ครับ รุกรับแปรผันชายหนุ่มบอกโดยที่ได้รับแต่สีหน้างุนงงกลับมา พลอยให้อรุณคิดว่า จะไหวกันรึเปล่าถ้าไม่ได้ซ้อมปฏิบัติจริง ทันใดนั้นสี่ทีมที่อยู่เบอร์ถัดไปก็ถูกเรียกลงสนาม ไม่มีเวลาให้กังวลแล้ว ต้องเอาข้อมูลสกิลของแลนเซลอทกับคาร์ลที่ได้มาวางแผนให้เสร็จ

                ต่อให้ไม่มีวาวคอยช่วยเหมือนเมื่อก่อน เขาก็จะโชว์เธอเป็นการระลึกความหลังให้ดู

                เพียงแต่...วาวนั่นแหละ ยังนึกถึงวันวานของเธอกับเขาอยู่ไหม

                เมื่อมองเจ้าของสีหน้าเย็นชาตรงที่นั่งอีกฟากของสนามเวลานี้ อรุณนั้นก็ไม่อาจจะรู้


    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×