คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #60 : ep49 - Recruit
สกิลอุโมงค์มิติของเฟยหง
ช่วยให้การเดินทางสะดวกรวดเร็วเสมอ
กลุ่มของอรุณจึงไม่ต้องเสียเวลารอพวกองค์รักษ์เกราะทองให้ขี่มังกรพาไปส่ง
และใช้เวลาอันมีค่าไปกับการหารือแผนการในอนาคตแทน
แต่ด้วยความรวดเร็วของสกิลอินเทอร์แพสเซส ผลลัพท์จึงไม่ค่อยเป็นชิ้นเป็นอัน สรุปแล้วคืออรุณให้ใช้เวลาว่างไปสรุปแผนรับมือบอสให้เยอะที่สุด
ลมหนาวตีใส่ใบหน้าเรียบเฉยของเฟย
ขณะที่เขาก้าวออกมาเหยียบพื้นเป็นคนสุดท้าย
มังกรหนุ่มยังยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นเช่นเคย “ผมจะคอยอยู่ที่ค่ายของหยางหลงนะ
ถ้ามีอะไรโทรมาได้เลย”
“จะไม่ร่วมด้วยจริงๆเหรอครับ”
“ขอโทษจริงๆ ผมก็อยากจะช่วยซันเหมือนกัน แต่..มันต้องมีวิธีการที่ดีกว่านี้สิ
ไม่ใช่การประลองที่เสียทั้งเวลาทั้งทรัพยากรของผู้เล่นไปเปล่าๆอย่างที่มิสโกอิ้งต้องการ
เป็นครั้งแรกเลยนะอรุณที่เรามีความเห็นไม่ตรงกัน”
“ผมเข้าใจครับคุณเฟย” อรุณเคารพการตัดสินใจของอีกฝ่ายจึงไม่คิดจะดึงดันขอร้องอีก
กิลด์ของเฟยหง
ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวที่ต่อสู้รักษาซีเกทเอาไว้ร่วมกับผู้เล่นอิสระสูญเสียคนไปมากจากการตั้งรับศัตรูไว้ที่ปากอ่าว
นอกจากค่าซ่อมอุปกรณ์ ค่ายารักษา ค่าที่พัก รวมถึงค่าอาหารการกินแล้ว
ยังมีเรือและป้อมปราการลอยน้ำที่ต้องซ่อมแซมเพื่อเตรียมสู้ศึกในเร็วๆนี้
เฟยหงอยากจะไปจัดการตรงนั้นมากกว่า
จึงไม่ร่วมทีมกับอรุณในการประลองด้วย
“ผมจะรออยู่ที่ค่ายนะ อย่าลืมว่าบีเอ็มทรีก็เป็นสมาชิกของมังกรทองแล้ว
ถ้ามีปัญหาก็ติดต่อโทรบอกผมหรือหัวหน้ากิลด์คนอื่นๆได้เลย” มังกรหนุ่มทิ้ง้ทายจบก็แลกเปลี่ยนเงินเชลล์ทั้งหมดให้เขา
อรุณเกือบลืมไปเลยว่าสงครามนี้ที่จริงเป็นกิจกรรมในเกม
เมื่อผู้เล่นจัดการศัตรูที่บุกซีเกทสำเร็จก็จะได้หน่วยเงินพิเศษของอีเวนท์มาสะสมแลกของรางวัล
[ได้รับ 4,000 เชลล์ค่ะ]
“คุณเฟย ผมรับไว้ไม่ได้หรอกครับ เก็บไว้เองเถอะ”
“น่า” เฟยหงไม่สนอาการเลิกลั่กของเขา
สั่งจบการแลกเปลี่ยนอย่างรวบรัด “เอาไปให้กิลด์อรุณก็แล้วกัน
ยิ่งน้องณดีน่ะน่าสงสาร เขาพยายามเก็บเลเวลอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อให้ระดับสูงพอจะมาเล่นอีเวนท์นี่นะ
โชคร้ายมาเกมโอเวอร์เพราะเรื่องไม่คาดฝันซะได้”
“ไม่ต้องบอกนะอรุณว่าผมให้มา น้องณดีจะเกรงใจซะเปล่าๆ” หัวหน้ากิลด์หยางหลงโบกมือลาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะใช้สกิลเพลนชิพ
เทลเลพอร์ทหายไป
อรุณกับอันย่ามองหน้ากัน
และตัดสินใจว่าจะช่วยทำเอาความหวังดีของเฟยหงไปส่ง
ทั้งสองเดินลงเนินเดิมกับเมื่อตอนเช้าตรงไปยังซีเกทที่กลายสภาพเป็นซากปรักหักพังทั้งหมด
ยังมีประตูมิติส่งพวกหน้าใหม่ๆมาเพิ่มประปราย
อรุณคาดว่าเป็นกลุ่มที่เห็นข่าวในฟอรั่มแล้วอยากมาร่วมสนุกกับกิจกรรมด้วย
มันรู้สึกแปลกๆที่เห็นผู้เล่นมากมายที่ดูกระตือรือร้นอยากต่อสู้กับมอนสเตอร์เต็มแก่
ยังไม่รู้หรือว่าหายนะกำลังใกล้เข้ามา
“อรุณเคยบอกไว้ไม่ใช่เหรอ
ในการสู้แบบเรดหรือเลเจี้ยนกำลังใจเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
คนอื่นเค้าดูมีความหวังแบบนี้ก็เป็นเรื่องดีนะคะ”
“พูดอย่างนั้นก็ถูก” อรุณเหลือบดูสาวหูกระต่ายซึ่งเดินข้างกาย
ไม่ว่าจะมีบุกน้ำลุยไฟเธอก็คอยดูแลอยู่เสมอ ทำไมต้องมีกับเขาด้วยนะ เป็นไปได้ไหมว่าเธอ…
‘ไม่หรอกน่าอรุณ อย่าฟุ้งซ่าน แกน่ะมีวาวอยู่แล้ว!’ อรุณรีบสะบัดหัวไล่ความคิดไม่เข้าท่าออกจากสมองตัวเอง
แต่แม่กระต่ายน้อยก็จับสังเกตได้อย่างรวดเร็ว ส่วนสูงของทั้งคู่เท่ากัน
เมื่อเธอหันมาจึงสบตากันพอดีเหมือนทุกครั้ง
“คิดอะไรอยู่ก็บอกมาสิคะ อย่าทำเรื่องวู่วามบ้าๆโดยไม่บอกเราอีกนะ”
“ปะ เปล่านี่” อรุณไม่รู้ว่าตัวเองจะลุกลนทำไม “อันย่า อยู่ด้วยกันมาตั้งนาน ขอบคุณที่ไม่ทิ้งผมไปไหนนะ”
“อยู่ๆก็พูดอะไรเนี่ย”
หญิงสาวรีบหันหน้าหลบด้วยอาการอยู่ไม่สุขพอๆกัน “อย่าเข้าใจผิดนะคะ
เราแค่ทำตามที่พี่ดอนขอร้องไว้เท่านั้น อีกอย่างตอนนี้บีเอ็มทรีก็เพิ่งก่อตั้ง
หน้าที่ช่วยเหลือหัวหน้ากิลด์สำหรับสมาชิกน่ะเป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอคะ”
“ไม่ใช่ว่าพิศวาส เป็นห่วงเป็นใยสักหน่อย..ตาบ้า”
หญิงสาวทิ้งท้ายเสียงอ่อน ล้วงมือเข้าไปม้วนผมใต้ฮูดกระต่ายไปมาทั้งที่ไม่ได้เสียทรงอะไร
“นั่นสิ เงินเชลล์ตั้งเยอะ อันย่าคิดว่าเอาไปใช้แลกอะไรดี”
อรุณเปลี่ยนเรื่องคุยด้วยการเรียกหน้าจออีเวนท์พิทักษ์ซีเกทให้อันย่าดู
ช่องคะแนนสะสมตรงกลางจอ บอกตัวเลขว่าตอนนี้เขามีจำนวน 8500 เชลล์
นับเป็นหน่วยเงินอีเวนท์จำนวนมากหากคิดว่าเพิ่งผ่านไปไม่ถึงหนึ่งวันเกม
“ต้องแบ่งสี่พันของคุณเฟยให้ไอริสกับพวกสามสาวนะคะอย่าลืม
เราว่ารอเก็บอีกนิดจนครบห้าพันแล้วค่อยแลก จะคุ้มกว่าแลกรางวัลหนึ่งพันสี่ครั้งนะ
แต่อรุณฆ่ามอนสเตอร์ได้เยอะอยู่นี่ เล็งรางวัลใหญ่ที่หนึ่งหมื่นเชลล์ไว้ก็ไม่เกินไปหรอก”
“ไม่มีชิ้นไหนที่อยากได้น่ะสิ เซ็ทลูกนาติกที่คุณเฟยให้มามันเก่งพอตัวแล้ว
ก็เลยสนใจพวกอาวุธมากกว่า แต่ของรางวัลมีแต่ประเภทต้องการระดับความสามารถสูงๆ
หรือไม่ก็เสริมความเก่งเฉพาะสี”
“เล่นคลาสแปลกเองนะคะช่วยไม่ได้ ไม่มีสีก็ลำบากแบบนี้แหละ”
“ถ้าอยากก็ไม่ยากหรอกครับ แค่ไปดูดสีคนหรือมอนสเตอร์มาก็สิ้นเรื่อง
แต่ผมไม่อยากไปดูดของใครสุ่มสี่สุ่มห้าเข้า นอกจากจะสร้างศัตรูเพิ่ม
ไม่รู้ว่าคนที่เราไปดูดเนี่ยเค้ามีสกิลสีอันไหนบ้าง ถ้าดูดมาแล้วไม่มี จะไปปลดล็อกเองก็เสียเวลาสิ”
“โอย ฟังแล้วลำบากแทน” อันย่ายกมือปรามให้อรุณหยุดพูด
“พลังดูดเนี่ยไว้คุยทีหลัง
เรารู้แล้วสี่พันเชลล์ที่คุณเฟยให้มาเอาไปใช้ทำอะไรดี กิลด์เราที่ตายในซีเกทมีสามสาวกับไอริสสี่คนใช่ไหมคะ
อรุณหารแบ่งให้ทุกคน คนละหนึ่งพันเชลล์ก็พอ”
“ความคิดเข้าท่า เอาตามนี้แหละ” ชายหนุ่มเห็นด้วยทุกประการ
อรุณกับอันย่าหยุดคุยกันชั่วคราวเพราะพวกเขาเดินผ่านที่ตั้งแคมป์ใหม่มาถึงซากเมืองซีเกทเป็นที่เรียบร้อย
ถึงกิลด์หยางหลงจะเคลียร์ทางไปบางส่วน
แต่ขยะกองยักษ์ที่ถูกคลื่นซัดมารวมกันยังกองพะเนินสูงไม่ต่างจากภูเขา สร้างความลำบากให้ผู้เล่นอาสาที่ช่วยเก็บกวาดอยู่แถวนั้นอย่างมาก
อรุณต้องเปิดแผนที่ดูเพื่อระบุตำแหน่งของโบสถ์อีกครั้ง
ทันใดนั้นก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ตามด้วยเศษไม้เศษหินที่ปลิวว่อนขึ้นไปบนฟ้า
“ระเบิดดังมาจากทางโบสถ์นี่” ชายหนุ่มตั้งข้อสังเกต ระหว่างนั้นอันย่าก็เดินไปถามผู้เล่นใกล้ๆ
พอจะจับใจความได้ว่ากิลด์เอ็นเลสเทลล์กำลังใช้ระเบิดทำลายซากของกำแพงซีเกทที่หล่นลงมาทับเมือง
นั่นหมายถึงก้อนที่ปิดโบสถ์อยู่ด้วย อันย่าถามเส้นทางเดินจากมันแล้วขอบคุณ
ทั้งสองรีบไปต่อโดยไม่รอช้า กระทั่งผ่านไปครึ่งชั่วโมงก็เริ่มเห็นผู้เล่นอื่นที่ไม่ใช่คนงานของหยางหลงกับโอไรอ้อนมากขึ้น
‘พวกนี้ไม่เปื้อนน้ำเปื้อนโคลน
ดังนั้นน่าจะเพิ่งเกิดใหม่ มาถูกทางสินะ’
เสียงระเบิดดังขึ้นอีกหลายครั้งจากจุดที่ไกลออกไป
กว่าอรุณกับอันย่าจะมาถึงที่หมายก็มีฝูงชนทะลักออกมาเต็มถนนราวกับน้ำป่าไหลหลาก
ให้มาไล่หาคงจะเป็นไปไม่ได้ อรุณจึงใช้วิธีโทรหาลูกกิลด์ผ่านระบบเพื่อนแทน
เมื่อเจอกับทุกคนที่หลังโบสถ์ตามจุดที่นัดแนะ
รินกับเฟอร์น่าก็รีบเล่าประสบการณ์สุดหวาดเสียวของพวกเธอทันที “รู้ไหมคะพี่อรุณ ตอนนั้นน่ากลัวมากเลย ต่างคนต่างหนีตายแย่งกันวิ่งขึ้นไปขึ้นลิฟท์
ไม่นึกว่าจะได้มาเจอกับตัวแบบนี้ อู้ย อย่างกับหนังวันสิ้นโลก”
“ตอนเกมโอเวอร์แทบไม่ได้เตรียมใจเลยเนอะริน
กำแพงมันระเบิดออกมาทับเราจากนั้นรู้อีกทีก็มาเกิดใหม่แล้ว”
“ใช่ๆ เรดบอสนี่มันโหดสะใจจริงๆ เสียดายไม่ได้ช่วยหัวหน้าสู้
พลาดอีเวนท์ไปซะได้ค่ะ”
เฟอร์น่าเปิดหน้าต่างอีเวนท์ของเธอมาดูก่อนโอกครวญทิ้งท้าย
“ไม่มีสักกะเชลล์ จะเก็บให้ครบไปแลกรางวัลใหญ่ทันไหมเนี่ย~”
ชายหนุ่มพยักหน้ารับอย่างเห็นใจ
“อุตส่าห์ปั่นเลเวลเพื่อมาร่วมอีเวนท์ทั้งทีเนอะ ไม่เป็นไรครับ คุณเฟยเขาบอกว่าไม่อยากได้รางวัลก็เลยให้เงินอีเวนท์พี่มาสี่พัน
เอาไปแบ่งคนละพันเชลล์ก็น่าจะตามคนอื่นทัน”
เพี๊ยะ! อันย่าตีมือเขาอย่างแรง
“โอ้ย ตีผมทำไมเนี่ย!”
‘ตาบ้า คุณเฟยเขาอุตส่าห์ของร้องว่าไม่ต้องบอก ลำบากใจกันใหญ่แล้วเนี่ย’
‘ลืมไปเลย’ อรุณฟังอันย่ากระซิบบอกก็ได้สติ พวกน้องๆพอรู้ว่าเป็นเงินอีเวนท์เฟยหงมอบให้ก็ทำสีหน้าลำบาก
เกรงใจไม่กล้ารับทุกคน โดยเฉพาะไอริสที่ยืนเซื่องซึมหลบอยู่ข้างหลังณดี
ฝืนยิ้มออกมาอย่างเศร้าสร้อย
“ขอโทษค่ะพี่อรุณที่ก่อนหน้านี้ไม่ยอมฟังคำเตือน หนูเอาแต่ใจเองค่ะ ซันเค้า..”
ชายหนุ่มจับไหล่ทั้งสองของไอริสเอาไว้ มองตาของเธอ ค่อยๆเอ่ยอย่างไม่ปิดบัง
“ซันถูกโอเวอร์คิลกลางทะเล ขอโทษด้วย พี่ช่วยเค้าไว้ไม่ทัน”
อา...
สมาชิกบีเอ็มทรีแสดงสีหน้าหดหู่ออกมาอย่างเห็นได้ชัด
แต่ไม่มีใครตื่นตระหนกหรือโวยวาย ความตายไม่ใช่เรื่องน่ากลัวในโลกเสมือนจริงใบนี้
หากแต่เป็นชะตากรรมที่ซันต้องได้รับหลังจากตายกลางทะเลต่างหาก
ซึ่งทำให้อดรู้สึกสงสารไม่ได้
“อย่าเพิ่งหมดหวัง พี่รู้ว่าซันไปเกิดใหม่ที่ไหน
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก่อนมีข้อความเสียงนี้ส่งมาหาพี่ ฟังดูสิ”
อรุณให้กำลังใจไอริสด้วยการเปิดข้อความเสียงที่ซันส่งมาให้ ซึ่งเขาต้องกรอซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้งเพราะเสียงระเบิดอึกทึกรอบเมืองดังกลบ
ทันทีที่จับความได้ไอริสก็ยิ้มออกมาด้วยดวงตาที่ว่างเปล่า
เด็กสาวกำลังเศร้าหรือมีความสุขคงมีแต่พระเจ้าที่รู้ แต่อย่างน้อยรอยยิ้มนั้นก็เปี่ยมด้วยความหวัง
ไอริสเงยหน้าถามอรุณในสภาพนั้น
“เราจะไปที่พาโนราม่ายังไงคะพี่อรุณ หนูได้ยินมาว่ามันเป็นโซนลอยฟ้า
ข้างหน้าก็เป็นดันเจี้ยนทะเลปีศาจ”
“คุณเฟยกำลังช่วยหาทางอยู่ แต่จะพึ่งเขาออย่างเดียวก็ไม่ได้ ด้วยกำลังของเราตอนนี้
ต่อให้มีเรือเหาะบินไปถึงที่นั้น ก็ไม่มีทางเอาชนะความแข็งแกร่งของมอนสเตอร์ที่อยู่รวมกันเป็นเลเจี้ยนได้หรอก
พี่เลยตัดสินใจว่าจะเข้าการประลอง”
“การประลองอะไรคะ ตอนหนูเกมโอเวอร์มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง”
“กิลด์อีออสต้องการรวบรวมผู้เล่นระดับหัวกะทิเพื่อจัดเป็นกองพยุหะเฉพาะกิจ
บุกขึ้นฟ้าไปถล่มรังมอนสเตอร์ที่เมืองพาโนราม่าให้ได้ เขาจะคัดคนจากการประลองแบบทีม
ถ้าทีมพวกเราผ่าน ก็จะสามารถเดินทางไปช่วยซันพร้อมกับเลเจี้ยนนี้ได้
นี่คือวิธีที่ง่ายและปลอดภัยมากที่สุดแล้ว”
“ดีเลยค่ะ งั้นหนูเอาด้วย!” รินตบเท้าเสนอตัวเป็นคนแรก
ตามด้วยไอริสซึ่งปราถนาจะช่วยซันอย่างแรงกล้า แน่นอนว่าณดีกับเฟอร์ย่อมติดตามสาวห้าวมาด้วยความเต็มใจตามที่อรุณคาดไว้
ต่อให้ต้องพลาดการเล่นอีเวนท์ตามตั้งใจ ก็ไม่มีใครยอมทิ้งซันแม้แต่คนเดียว
‘ไม่ยอมทิ้งพวกพ้อง สมแล้วที่เป็นบีเอ็มทรี’ อรุณคิดอย่างปลาบปลื้ม
ความรู้สึกอบอุ่นที่ขาดไปตั้งแต่สมัยคัลเลอร์แคลชยุคเกมคอมพิวเตอร์ปิดตัวลง
เติมเต็มหัวใจอรุณให้มีกำลังใจเดินหน้าต่อไป
“ถ้าอย่างนั้นก็รับเงินเชลล์ของคุณเฟย แบ่งกันเอาไปแลกเงินที่หนึ่งพันเชลล์
แล้วซื้อไอเทมจำเป็นมาเตรียมไว้ซะ! การประลองของอีออสมีรางวัลเป็นเงินก้อนโต
ถ้าจะสู้กับคู่แข่งเก่งๆ ก็ต้องใช้ของดีๆ”
““““ได้เลยค่ะพี่อรุณ!””””
“อันย่า เก็บก้ามของบาซาทานเอาไว้สินะ
เอามันมาใช้อัพเกรดเกราะของพวกสามสาวให้เสร็จภายในวันนี้ทันอยู่ไหมครับ”
สาวกระต่ายหยุดคิด “ทันค่ะ ของอื่นๆที่ใช้ประกอบเอาเงินเชลล์แลกได้
มันมูลค่าแค่ห้าร้อยเชลล์ ดังนั้นก็เหลือเฟือ
แต่ร้านตีเหล็กหรือร้านขายอาวุธของซีเกทพังราบไปแล้ว อรุณจะเอาไปให้ใครตีบวก”
“จำตอนประชุมได้ไหม กลุ่มการค้ามันนี่บอกว่าจะมาตั้งร้านขายของจำเป็น
มันต้องมีพวกรับจ้างตีบวกแน่นอน ผ่านไปเป็นชั่วโมงป่านนี้ก็คงมาถึงกันแล้ว ไปจ้างพวกนั้นแหละ”
อันย่าถึงบางอ้อทันใด
เมื่อเข้าใจแล้วอรุณจึงแลกเปลี่ยนเงินเชลล์ให้ลูกกิลด์คนละหนึ่งพัน
เพื่อนำไปแลกเป็นอุปกรณ์อัพเกรดชุดเกราะ โดยมีอันย่าคอยบอกว่าเป็นไอเทมชิ้นไหนอย่างใกล้ชิด
พอฝากฝังเสร็จอรุณก็ประกาศแผนต่อไป
‘ตอนนี้ก็ได้หกคนล่ะ ถ้าจะครบทีม ก็ต้องหาเพิ่มอีกหก’
“เจอกันอีกทีที่งานประลองนะทุกคน ผมจะขอล่วงหน้าไปหาคนมาเพิ่มก่อน”
“เพล อาร์มาเมนท์!" ศาสตราวุธสีดำปรากฏที่มือขวาของอรุณในรูปแบบปืนพก
ชายหนุ่มใช้วีธียิงมันออกไปในระยะไกลแล้วเคลื่อนย้ายในพรอบตาที่กระสุนด้วยสกิลแฟลช
อย่างที่ทำบ่อยๆในการต่อสู้
หลังจ่ายพลังชีวิตใช้ทักษะจนเลือดเกือบหมด
อรุณก็มาถึงลานประลองในชั่วอึดใจ
สถานที่นั้นก็คือพื้นที่ด้านซ้ายของอ่าวซึ่งเคยเป็นสนามรบมาหมาดๆ
ขณะที่อ่าวด้านขวาไปจนถึงค่ายของกิลด์หยางหลงถูกใช้เป็นที่กางเต็นท์ของผู้เล่น กองทัพพันธมิตรขนาดมหึมาของอีออสก็เข้าจับจองส่วนนี้ไว้
ผู้ปลุกโลกากำลังใช้พลังเพื่อเปลี่ยนแปลงภูมิประเทศ
ยกพื้นหินขึ้นมาให้กลายเป็นเวทีแบนราบขนาดใหญ่ ล้อมด้วยอัฒจรรย์จากพลังเดียวกันราวกับสนามโคลอสเซียม
‘คนเริ่มมากันหาทีมแล้ว คู่แข่งเยอะอย่างที่คิดเลย’ อรุณพิจารณาฝูงชนที่เดินสัญจรอย่างคึกคัก
งานใหญ่ขนาดนี้ มีหรือเหล่าพ่อค้าแม่ขายจะพลาด
นอกจากแผงขายของชั่วคราวเหล่านั้นก็มีผู้เล่นยืนกระจุกอยู่เป็นกลุ่มๆ
ทั้งสองฝ่ายตะโกนเรียกร้องความสนใจดังลั่นเหมือนเป็นสนามรบ
ศึกนี้หากจะเปรียบเทียบก็ดุเดือดไม่แพ้สงครามซีเกทที่ผ่านมาทีเดียว
อรุณซึ่งมีเป้าหมายเดียวกันสูดอากาศเย็นจัดเข้าเต็มปอด
จากนั้นจึงเลือกจับจองทำเลที่ยังว่างไม่กี่จุดเป็นที่หาปาร์ตี้ของตัวเอง ‘ตะโกนแข่งให้ตายก็สู้เสียงไม่ไหวแน่ ต้องใช้วิธีนี้ซะแล้ว’
สิ่งอรุณนำออกมาคือเศษกระดองสีขาวของคทูลูกับเลือดสีดำของพวกมันในขวดแก้ว
ไอเทมเหล่านี้ดรอปกระจายอยู่เกลื่อนกลาดพื้นระหว่างสงคราม
ถึงคุณภาพจะอยู่ที่เกรดสอง แต่ด้วยความที่มันดรอปอยู่เกลื่อนกลาดจนไม่ต่างจากขยะ
แผนการเก็บรวบรวมมาขายของอรุณจึงเป็นอันล่มไป เขาเลยคิดจะนำมันมาใช้ประโยชน์อื่น
เลือดสีดำของคทูลูเป็นที่รู้กันว่าทั้งเหม็นคาว เป็นพิษ
แต่มีคุณสมบัติติดทนนานเปื้อนแล้วล้างออกยาก อรุณจึงนำมันมาใช้แทนน้ำหมึก
จุ่มด้วยเศษกระดองคทูลูที่เล็กเรียวเหมือนปากกา เขียนคำโฆษณาขนาดใหญ่ลงบนกระดองแผ่นใหญ่อีกอันซึ่งคัดมาแล้วว่าแบนราบที่สุด
[ผมเอรอน จ้าวพิภพ คงรู้จักกันดี อยากเข้างานประลองทีมเดียวกันคุยได้เลย]
“ออกจะอวดตัวไปหน่อย แต่ก็ใช้ได้ละนะ” อรุณมองผลงานตัวเองอย่างภาคภูมิใจ
ชื่อเสียงดังกระฉ่อนของเขาต้องล่อคนได้อย่างดีแน่ๆ
ทั้นทีที่เขาตั้งป้ายโฆษณานั้น
ไม่ทันจะได้นั่งก็มีคนสังเกตและหยุดมองมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนแรกก็ยังไม่แน่ใจ
แต่เมื่อตรวจข้อมูลกับพิจารณารูปร่างดูจนพบว่าเป็นตัวจริงไม่ผิดแน่
ก็มีคนหยุดมุงเขาจนเป็นม็อบกลุ่มย่อมๆทีเดียว
“เฮ้ยๆ เอรอนตัวจริงว่ะ โอกาสนี้ใช่จะหาง่ายๆนะ”
“จะบ้าเรอะ อยากหาเรื่องใส่ตัวรึไง ที่นี่ถิ่นใครก็รู้”
‘หืม?’ อรุณฟังคำพูดของคนเหล่านั้นด้วยความสนใจ
แต่ไม่ทันได้ใจความเจ้าพวกนี้ก็เดินเลี่ยงๆไปด้วยความเสียกายซะก่อน
คงจะมีทีมอยู่ก่อนแล้วล่ะมั้ง ก็เขามาช้านี่นา หลายๆคนก็แสดงออกแบบเดียวกัน
เมื่อยังไม่มีใครสนใจ
อรุณก็ใช้โอกาสนี้เรียกข้อมูลเรดบอสในทะเลออกมาดู และเริ่มเขียนแผนการรับมือพวกมันโดยเน้นตัวที่เด็ดๆเอาไว้ก่อน
เพื่อคุณเฟยจะได้นำไปเตรียมตัวได้ทันเวลา ต่อให้มีกำลังรบที่แข็งแกร่ง
แต่ถ้าให้แจกแจงกลยุทธิอย่างฉุกละหุกคงไม่มีใครนำไปปฏิบัติได้อยู่แล้ว
แถมตอนนี้คัลเลอร์แคลชยังเป็นโลกเสมือนจริง วิธีสมัยเป็นเกมของอรุณ จะเอามาใช้ตอนนี้ได้หรือเปล่าก็มีแต่ต้องลุ้นเอา
ขอให้ได้ด้วยเถอะ
ชายหนุ่มเพลิดเพลินไปกับการใช้ความคิดจะเวลาล่วงไปไม่น้อย
เสียงระเบิดของพวกเอ็นเลสเทลล์ที่อยู่ไกลออกไปทำให้เขากลับมาได้สติอีกครั้ง ‘มีคนถ่ายรูปเราเพียบเลยแฮะ แต่อ้าว ยังไม่มีคนมาคุยสักคนเลย’ อรุณมองคนรอบๆด้วยความสงสัยดังกล่าว จนอดสงสัยไม่ได้ว่ามีเรื่องชอบมาพากล
คำโฆษณามันห่วยเหรอ
อรุณตั้งสมมุติฐานขึ้นมา
ก่อนจะเป็นตกไปเพราะคนมากมายที่มาหยุดอยุ๋ตรงหน้าเขาแต่ยืนกันอยู่ห่างๆไม่กล้าเข้ามาก็เพราะป้ายจากกระดองคทูลูนี่แหละ
“ผมรับสมัครทีมนะคร้าบบ ตอนนี้ต้องการคนด่วนเลยนะคร้าบบ”
อรุณลองตะโกนเรียก และมีคนสนใจเยอะซะด้วย แต่ไม่มีรายไหนเลยเดินเข้ามาคุย ผ้เล่นที่ตอบสนองมากที่สุดเห็นจะเป็นอีกทีมหนึ่งซึ่งยืนหาคนเข้าทีมแข่งกับอรุณอยู่ข้างๆ
“แก ไหนอะๆ เราเข้าเป็นพวกกับเอรอน”
“แม่แกสิ! อยากโดนพายุเข้าเหรอไง”
แม้คนข้างๆจะคุยเสียงค่อยแทบกระซิบกัน แต่ก็ไม่อาจรอดจากหูอรุณไปได้ ‘พายุเข้า? วลีนี้เหมือนเราเคยได้ยินมาก่อนชอบกล
คนก่อนหน้านี้เหมือนจะคุยกับเพื่อนว่าให้ระวังเพราะตรงนี้มันถิ่นใครสักคนด้วย
ที่นี่ทางเหนือจำไม่ผิดยังไงก็อีออส พายุ กับ อีออส มันสัมพันธ์กันยังไง พายุ?
กิลด์อีออส…”
‘วายุแดง!?’
ชื่อหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว
พร้อมกับใบหน้าที่ไม่อาจลืมเลือนของอัศวินรูปหล่อผมสีทอง
ผู้สร้างคำสาปเหน็บชาอันร้ายกาจให้เขาไว้ ซิกตี้ วายุแดงซิกตี้! อรุณทบทวนชื่อของมันซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างเดือดดาลระหว่างที่ลุกขึ้นมอง
อรุณเห็นทหารของอีออสเดินตรวจตราลานประลองที่กำลังสร้าง
และเต็นท์อย่างมีระเบียบวินัย ด้วยการเดินแถวและขี่ม้า
แต่ทหารอีออสที่นี่ต่างจากทหารอีออสตอนเขาถูกวาวเรียกไปเจอตัว
พวกมันสวมฟูลเพลทสีแดงมันเป็นเอกลักษณ์ของเซทเกราะเลือดศิลา
ที่สำคัญยังใส่เหมือนๆกันทั้งที่ออร่าเพิ่มพลังโจมตีของไอเทมส่งผลซ้อนกันไม่ได้ โง่เหมือนตัวจ่าฝูงไม่มีผิด
รุมจ้องกันเขม็งอยู่ไม่ขาดซะด้วย
เป็นลูกไล่ของไอ้หมาบ้าซิกตี้ชัวร์ๆ
‘เพราะอย่างนี้เอง หึ ใครจะมายุ่งกับเรา ทุกคนเขาก็รู้ว่าเรากับไอ้หกสิบเป็นอริกัน
ถ้ามาเป็นพวกเอรอนก็เท่ากับประกาศตัวเป็นศัตรูกับซิกตี้
นั่นคือกระตุกหนวดอีออสด้วยสินะ ยิ่งโซนนี้เป็นถิ่นมัน..
ซิกตี้นะซิกตี้
แกสร้างปัญหาให้ฉันได้ทั้งที่ไม่โผล่หัวออกมาเลยนะ’
‘ย้ายไปหาคนที่อื่นก็ได้วะ’ อรุณตัดสินใจเก็บป้ายเตรียมย้ายทำเล
ระหว่างที่กำลังเดินจากไปนั้น ที่ระยะห่างออกไปประมาณร้อยเมตรเห็นจะได้
อัศวินขี่ม้าของของซิกตี้เป็นสิบกำลังมีปากเสียง กับร้านค้าแผงหนึ่ง
แน่นอนว่าไม่มีใครกล้าไปขัดขวางหรอก
หากเป็นหยางหลง
หรือ เอ็นเลสเทลล์ก็ไม่แน่ แต่นี่อรุณเห็นแต่ผู้เล่นอิสระไร้แบ็คอัพ
“เจ้าพวกนั้นอีกแล้ว” เหล่าผู้เล่นพึมพำด้วยสีหน้าโกรธแค้นแต่กลับไม่ทำอะไร
จะมีก็แต่อรุณที่แทรกผ่านไทยมุงไปอย่างช้าๆด้วยความรู้สึกอยากเอาคืนซิกตี้
ความจริงเขาไม่สนใจใยดีพวกหนุ่มสาวเจ้าของร้านวัยมัธยมปลายที่กำลังโดนขู่กรรโชกด้วยซ้ำ
“จะให้หรือไม่ให้!” อัศวินคนหน้าสุดตะโกนอย่างจองหอง
“ก็บอกว่าไม่ให้” หนึ่งในเด็กหนุ่มโต้ตอบแทนเพื่อนอีกสามคนที่เหลือ
“ที่นี่ถิ่นพวกพี่รึไง นี่มันทีสาธารณะโว้ย
ยกพวกมาจองทีหลังแล้วจะเก็บเงินค่าที่ ตลกไปปะ”
“ปากดีนะน้อง ได้ ไม่รู้ซะแล้วนี่ถิ่นใคร ที่นี่มันถิ่นของอีออสโว้ย
พวกเราก็มีสิทธิจะเก็บค่าใช้พื้นที่ของเราอยู่แล้ว รู้จักวายุแดงซิกตี้มั้ยวะ
คิดจะมีปัญหาเหรอไง ถ้าไม่มีตังค์ก็จ่ายเป็นผ้ายันต์ของพวกแกแทน”
“ถุ้ย! อย่าคิดว่าพวกเยอะแล้วจะกลัวนะโว้ย
มาเป็นฝูงแล้วเห่าดังเชียว”
‘เฮ้ยๆ ไอ้เด็กนี่ใจมันได้’ อรุณชื่นชมเด็กหนุ่มที่น่าจะเป็นเจ้าของร้านซึ่งหากไม่ถูกเพื่อนชายหญิงอีกสามคนรั้งไว้คงวิ่งไปต่อยไว้อัศวินให้รู้แล้วรู้รอด
ซึ่งนับว่าเป็นการตัดสนใจที่ถูกแล้ว ฝ่ายอีออสนั้นก็ดูท่าจะโมโหไม่น้อย
พวกมันคนหนึ่งลงจากหลังม้าแล้วเก็บแผ่นยันต์ที่ตั้งขายเกินครึ่งเอาไว้แทนค่าเช่าที่
โดยพวกเด็กๆได้แต่มองตาละห้อย
ช่างเป็นพฤติกรรมที่กักขฬะจนอรุณตัดสินใจจะออกไปลุยสักตั้ง
ดาบพลังงานปรากฏในมือของเขาอย่างเงียบงัน
อัศวินตัวหัวหน้าแสยะยิ้มด้วยความพอใจกับ
‘ค่าเช่า’ ที่รีดไถมาได้
มันบังคับม้าหันไปทางอื่น สั่งพรรคพวกเสียงดังดุจต้องการแสดงอำนาจ “สั่งสอนน้องๆหน่อยสิเฮ้ย!”
ลูกน้องของมันที่ขนาบข้างแทงหอกเข้าใส่เด็กหนุ่มทันที
‘ตอนนี้แหละ’ อรุณเตรียมพุ่งออกไปอย่างฉับพลัน
แต่ทันใดนั้นเงาร่างปริศนาสายหนึ่งกลับพุ่งออกไปตัดหน้าเขาซะก่อน ปรากฏเป็นคนฝรั่งในชุดดำ
ยืนจ่อปืนพกเก็บเสียงกระบอกจิ๋วใส่ท้ายทอยหนึ่งในอัศวินอยู่บนหลังม้าของตัวเอง
“Six
o’ clock” มันกระซิบบอกพิกัดให้ศัตรู แต่กว่าอัศวินนั่นจะตอบสนองก็ช้าไป
กระสุนปืนพุ่งจากรังเพลิงเป่าก้านสมองมันไปแล้ว
56,500! 56,503! 56,502!
การติดคริติคอลไร้เสียงสามครั้งอย่างแม่นยำที่จุดตาย เปลี่ยนอัศวินให้กลายเป็นศพนอนหมอบบนหลังม้าทันที ขณะที่พวกอีออสคนอื่นกำลังตะลึง นายฝรั่งก็รีบโดดหนีหลบฉากออกมาพร้อมโยนลูกบอลโลหะกลมๆเป็นของแถม
บูมมม
‘มีแต่เสียง?’ อรุณยกมือขึ้นปิดหูไม่ทันจึงมึนงงเพราะเสียงวิ้งที่ดังก้องในหัว
ระเบิดนั่นไม่สร้างความเสียหายใดๆนอกจากเสียงแหลมสูงดังลั่นไปทั้งอ่าว
ผู้เล่นที่มองไม่เห็นเหตุการณ์ต่างพากันกรีดร้องวิ่งหนีแตกตื่น คิดว่าเอ็นเลสเทลล์โจมตีเข้าให้แล้ว
แต่ในความจริงไม่มีความเสียหายใดเกิดขึ้นเป็นพิเศษ
เพียงแค่คนดูรีบตีวงหนีกลายเป็นลานกว้างขนาดใหญ่ ฝรั่งชุดดำเปลี่ยนอาวุธในมือเป็นปืนไรเฟิลสีน้ำเงินเข้ม
กราดยิงใส่พวกอีออสที่กำลังติดสตันจากระเบิดเสียง แต่ดาเมจไม่สูงเหมือนรอบที่แล้ว
พวกอัศวินเมื่อได้สติก็พยายามคุมม้าที่แตกตื่นให้สงบลง
กว่าจะตั้งขบวนได้ก็บาดเจ็บไม่ใช่น้อย ตัวหัวหน้าตะโกนถามนายฝรั่งด้วยความโกรธแค้น
“แกเป็นใครวะ เอ็นเลสเทลล์เหรอ!”
“ใครไม่สำคัญ ผมแค่เหม็นหน้าพวกเอาเปรียบคนไม่มีทางสู้” ฝรั่งตอบเป็นภาษาไทยชัดแจ๋ว พร้อมยิงสายฟ้าสีแดงจากปลายกระบอกปืน “ไลท์นิง โบลท์!” เปรี้ยงเดียวอัศวินอีกคนก็ปลิวตกหลังม้า
หัวหน้าอัศวินคำราม ควบม้านำขบวนพวกที่เหลือฝ่ากระสุนเข้าใส่มือปืนตรงๆ
ด้วยพลังของคลาสพารากอน ทำให้พรรคพวกที่ตามมาเคลื่อนที่เร็วขึ้นอย่างผิดหูผิดตา
และมีออร่าบังกระสุนไว้เห็นเป็นม่านบาเรีย
เจ้าฝรั่งหัวเราะเยาะก่อนโยนโถแก้วติดสายชนวนสวนกลับ
สิ่งนั้นระเบิดโพละโปรยตะปูเรือใบจำนวนมากขวางทางพวกอัศวินไว้พอดิบพอดี
พวกม้าที่วิ่งเหยียบกับดักด้วยความเร็วสูงต่างร้องเสียงหลง ล้มหน้าคว่ำเป็นแถบๆ
“เอ็นเลสเทลล์ ลอบวางระบิดที่สนามประลอง ส่งกองหนุนมาด่วน! อ๊าก!” หัวหน้าอัศวินแอบโทรขอกองหนุนอย่าร้อนรน แต่ไม่รอดพ้นสายตานายฝรั่งไปได้ มือปืนชุดดำเลยยิงสกิลไลท์นิงโบลท์ ปลิดชีพมันกลายเป็นศพอีกคน พวกสีแดงโจมตีแรงอะไรอย่างนี้
“ฟัค! EMP” ฝรั่งสบถภาษาบ้านเกิด มันรีบปล่อยคลื่นแม่เหล็กสีแดงสลับฟ้าออกมาจากผ่ามือ
คนที่อยู่รอบๆล้วนเกิดหูอื้อวิงเวียนไปตามๆกัน
นี่คือสกิลอีเอ็มพี
(EMP)
ทักษะประจำสีแดง-ฟ้าซึ่งมีความสามารถเฉพาะทางคือ
ปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าออกมาจากผู้ใช้หรืออาวุธอย่างที่เห็น
ความเสียหายที่สร้างได้นั้นเบาจนไม่น่าเชื่อว่ามีสีแดง
แต่ความร้ายกาจของมันคือตัดการสื่อสารและการเรียกเมนูของศัตรูทุกรูปแบบ เพียงเท่านี้อัศวินอีออสก็ขอกำลังเพิ่มไม่ได้
นอกจากที่หลุดออกไปครั้งหนึ่ง
อีกประการคือจะไม่มีคนใช้กล้องถ่ายรูปหรือวิดีโดยืนยันตัวตนมันได้ด้วย
นายฝรั่งคงรู้ว่าเสียงอึกทึกขนาดนี้
พวกอีออสจะต้องแห่มาอีกเยอะแน่ จึงรีบปลิดชีวิตพยานด้วยการยิงสายฟ้าผ่านกระบอกปืนใส่อัศวินที่เหลือทีละคนจนหมด
ท่ามกลางเสียงโห่ร้องสะใจของผู้ชม
ไม่ทันจะได้ออกวิ่ง
เสียงคำรามจากฟากฟ้าก็ดังขึ้น ผู้คนฮือฮากันรอบสอง
ไดม่อนดราก้อนโฉบลงมาด้วยความเร็วปานจรวด
ขวางหน้านายฝรั่งเอาไว้ แต่มือปืนก็ไม่รอท่ารีบเผ่นไปอีกทาง
ผู้ขี่สัตว์ร้ายมาด้วยตัวเองจึงต้องเป็นฝ่ายลงมือ
“นีลทูเฮเว่น! (Kneel to Heaven)”
คำบัญชาของนักรบอมตะทำให้เกิดแสงขาวบิดเป็นเกลียว สาดส่องไปอาบร่างของฝรั่ง มันวิ่งไม่กี่ก้าวก็เหมือนถูกกดให้นั่งคุกเข้าอยู่บนพื้นราวกับคำนับสิ่งศักดิ์สิทธิ์
หมอนี่ถูกจับจนได้
นีลทูเฮเว่น (Kneel to
Heaven) เป็นทักษะสีขาวระดับสูงถึงสีดาว ทรงพลังยิ่งกว่าท่าไม้ตายด้วยซ้ำสีขาวคือสีของสันติ
การป้องกัน และการลบล้าง ผลการจับล็อกจึงเด็ดขาดอย่างที่เห็น
ความจริงท่านี้จะทำให้คนโดนเป็นอมตะและล้างดีบัพทั้งหมดให้ทันทีด้วย
แต่สำหรับฝรั่งนายนี้ไม่ใช่เรื่องน่ายินดีเลย
เอบีซีบังคับมังกรให้เดินไปประจันหน้ากับมันตรงๆ อรุณชักเป็นห่วงขึ้นมาแล้วสิ
“แลนเซลอท” อัศวินมังกรเรียกอีกฝ่าย “ตั้งแต่กองพันโต๊ะกลมแตก ตกต่ำถึงขึ้นนี้เลยเหรอ”
“อ้าว ผมตาฝาดรึเปล่า ใครขี่ตุ๊กแกเผือกมาหาแน่ะ หึ! ฝ่ายไหนตกต่ำลงกันแน่
ถ้าคิดไม่ออกก็กลับไปส่องกระจกที่บ้านดูสิ”
นักรบอมตะไม่แสดงอาการใดๆต่อคำยั่วยุ
อรุณเดาว่าใต้หมวกเกราะนั่นเอสงสัยอมยิ้มอยู่ด้วยซ้ำ “อย่าออกนอกเรื่องครับ
มาก่อเรื่องในตลาดนัดที่คนพลุกพล่านแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน”
“เจ้าพวกนี้ต่างหากที่ใช้ไม่ได้” ฝรั่งชื่อแลนเซลอท โบ้ยหน้าไปทางศพพวกอัศวินของซิกตี้
“เห็นพวกมันวางอำนาจรังแกคนไม่มีทางสู้มาหลายรอบแล้ว คราวนี้ยังหน้าด้านมาเรียกเก็บค่าเช่าที่สาธารณะอีก
ผมทนไม่ไหวเลยขอสักที!”
เอบีซีได้ยินดังนั้นก็สั่งให้ทหารอีออสที่เพิ่งวิ่งมาถึงใช้รูนชุบชีวิตกลุ่มอัศวินนักเลงให้พร้อมกับม้า
อัศวินตัวหัวหน้าพอขยับปากได้ก็ตะโกนใส่ร้ายแลนเซลอทต่างๆ นาๆ
ค้านกับสายตาเกลียดชังของผู้เล่นรอบข้างสุดๆ
นายฝรั่งถ่มน้ำลาย
“ฟัคออฟ! ลองถามเด็กกลุ่มนั้นดูสิว่าพวกมันทำอะไรไว้
คนแถวนี้เป็นพยานได้ทั้งนั้นแหละ เจ้าพวกนี้มันเก็บส่วย”
“เก็บส่งเก็บส่วยอะไร องครักษ์เกราะทองครับ อย่าไปเชื่อไอ้ฝรั่งขี้นกมันนะ”
“ทั้งสองฝ่ายเงียบก่อน!” เอบีซีประกาศอย่างเด็ดขาด
จนเสียงพูดคุยหายไปในพริบตา นักรบอมตะเริ่มจากถามไทยมุงที่เป็นพยานก่อน
แต่ขณะที่จะมีใครเอ่ยปากก็จะถูกสายตากดดันจากพวกอัศวินของซิกตี้จ้องใส่ ผลที่ออกมาเลยเงียบกริบ
‘เวลาแบบนี้ยังกลัวกันได้อีกเหรอ ยอมไม่ได้หรอกโว้ย’
อรุณเดินออกไปยืนอยู่ข้างแลนเซลอททันที
ซึ่งทำให้อัศวินของซิกตี้ถึงกับชักสีหน้า
ด้านแลนเซลอทก็งงไม่แพ้กันจนถามขึ้นมาเองว่าอรุณเป็นใครเป็นภาษาอังกฤษ
“ไอ คัม ทู เฮ้ว ยู” ชายหนุ่มตอบด้วยอิงลิชกระท่อนกระแท่นไปตามเรื่อง
ก่อนจะยกมือขึ้นหันไปทางเอบีซี ประกาศว่า “ถ้ามีใครกล้าเป็นพยาน
งั้นผมจะเป็นเอง!”
“อรุณเหรอ” นักรบอมตะพึมพำกับตัวเอง “เกิดอะไรขึ้นเล่ามาซิ”
“คนกลุ่มนี้ทำตัวเป็นมาเฟีย ใช้ฐานะตัวเองที่เป็นกองอัศวินในสังกัดซิกตี้ฉวยโอกาสเรียกเก็บส่วนจากร้านค้า
แถมยังวางก้ามจะใช้ความรุนแรงกับผู้เล่นที่อ่อนแอกว่า ฝรั่งคนนี้ทนดูไม่ได้ก็เลยออกมาช่วย
ถึงจะก่อความวุ่นวาย แต่ก็ทำไปเพราะประสงค์ดีนะ ปล่อยเขาไปสักครั้งได้ไหม”
หัวหน้าอัศวินรีบค้าน
“เอรอน ไหนหลักฐานของแก! ไม่ชอบพวกเรากับหัวหน้าซิกตี้อยู่แล้วก็เลยหาเรื่องใส่ร้ายพวกข้างั้นเหรอ”
อรุณแสยะยิ้มเหี้ยม “หลักฐานน่ะมีแน่ เด็กๆกลุ่มนั้นไง”
สายตาทุกคู่เบนตามการชี้นิ้วของอรุณ มองไปที่แผงขายยันต์ของเด็กมัธยมทั้งสี่คน
ทั้งหมดได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย หากจำเลยไม่ยอมพูดความจริงเพื่อความเป็นธรรมของตัวเอง
อรุณก็คงแก้ต่างอะไรเพิ่มไม่ได้
เด็กหนุ่มใจกล้าคนเดิมเมื่อเห็นอรุณเปิดทางให้เช่นนั้นก็ยอมเอ่ยปาก พูดเรื่องเดียวกันทุกอย่าง
ทันใดนั้นก็มีเสียงลึกลับจากรอบข้างค่อยๆแทรกขึ้นมาในฝูงชน ยืนยันสิ่งที่เกิดขึ้น ทุกคนต่างกล่าวไปในทางเดียวกัน เมื่อมีคนออกหน้าแล้ว ฝูงชนก็ไม่หวาดกลัวสายตาอาฆาตแค้นของเหล่าอัศวินอีกต่อไป หลักฐานมันหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆจนพวกของซิกตี้พูดอะไรไม่ออก
“คนเป็นหัวหน้ากลุ่มมากับผม ส่วนคนที่เหลือให้ไปเฝ้าโคลอสเซียม พิจารณาโทษทางวินัยที่หลัง!”
เอบีซีออกคำสั่งเด็ดขาดในฐานะขององค์รักษ์หัวหน้ากิลด์
หากเหล่าอัศวินไม่ทำตามก็เท่ากับต่อต้านอีออสสาขาใหญ่ จึงต้องก้มหน้ารับคำสั่ง
ส่งผลให้คนดูโห่ร้องสะใจไปตามๆกัน
“เห็นแก่ความถูกต้อง ครั้งนี้จะปล่อยไปก่อน แลนเซลอท”
ไดม่อนดราก้อนบินจากไปกับตัวหัวโจก พวกที่เหลือถูกทหารของอีออสที่ตามมาควบคุมตัวไว้
เมื่อนักรบอมตะไป นีลทูเฮเว่นก็หมดฤทธิ์ ปล่อยแลนเซลอทเป็นอิสระ
ฝรั่งชุดดำเหยียดยิ้มไล่หลังมังกรตัวนั้นไปอย่างคนไม่สำนึก สถานการณ์ได้กลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง
ยังหาคนเข้าทีมไม่ได้ แย่ที่สุด
เมื่อได้มายืนประจันหน้ากันแล้วอรุณค่อยสังเกตว่าฝรั่งนายนี้มีรูปร่างบึกบึนอีกทั้งยังตัดผมสั้นเกรียนทรงลานบิน
‘ใช้ปืนคล่องด้วยนี่นา ในโลกจริงอาจจะเป็นบอดีการ์ดหรือทหารมั้ง’
แลนเซลอทยื่นมือขวามาเชคแฮนด์
“ขอบคุณมากครับ เอรอนที่ดังเป็นพลุแตกตัวจริงเรอะ”
“อ่ะ..ครับ” อรุณตามน้ำไปก่อน “ไม่ต้องขอบคุณผมหรอก
ถ้าคุณไม่ออกไปช่วยผมคงเป็นฝ่ายลงมือเองเหมือนกัน มีระเบิดน่าสนใจหลายอย่างเลย
คุณมากจากเอ็นเลสเทลล์เหรอ”
“ผมซื้อระเบิดมาจากพวกมัน นอกนั้นไม่มีความเกี่ยวข้อง ระเบิดนี่สะดวกดี
คิดงั้นไหม ไม่ว่าใครเอามาใช้ความผิดก็จะถูกโบ้ยไปให้เอ็นเลสเทลล์หมด
คุณก็น่าจะหามาป้องกันตัวซักโหลนะ เป็นศัตรูกับหนูแดงต้องใช้ลูกบ้าเข้าไว้”
‘ใครวะหนูแดง’ อรุณเลิกคิ้ว “ขอบคุณที่แนะนำ
งั้นขอตัว…”
“เดี๋ยว! ผมเดินทางขึ้นเหนือมาก็เพราะจะมาหาตัวคุณนั่นแหละ
เจอกันแล้ว ช่วยให้ผมรู้สึกดีที่เสียค่ารถไฟจนกระเป๋าแฟบหน่อยได้ไหม”
ชายหนุ่มเริ่มงงกับฝรั่งคนนี้
“มาหาผม ผมรู้ว่าที่ผ่านมาเคยก่อเรื่องวุ่นวายเอาไว้หลายอย่าง ถ้าทำให้คุณหรือเพื่อนคุณเดือดร้อนโดยไม่ตั้งใจก็ขอโทษด้วยนะครับ
ผมยังมีธุระอีกหลายอย่างที่ต้องทำ ต้องไปแล้ว ถือว่าครั้งนี้เป็นการไถ่โทษได้รึเปล่า”
“No
No! ไม่ใช่ จะมาเข้ากิลด์”
“เข้ากิลด์?” คำแก้ต่างของแลนเซลอททำให้สมองที่กำลังมึนตื้อของอรุณหยุดทำงานไปชั่วขณะ
ทั้งสองมองหน้ากันอยู่กลางถนนสักพักหนึ่ง แลนเซลอทนิ่งไปเหมือนรอคำตอบ อรุณก็ไม่มั่นใจว่าฝรั่งคนนี้พูดจริงไหม
‘หมอนี่คิดอะไรอยู่เนี่ย อุตส่าห์ขึ้นเหนือมาขอเราเข้ากิลด์เนี่ยนะ
บ่ายเบี่ยงเป็นขอให้มาร่วมงานทีมลงแข่งประลองไปเลยดีมั้ย’
หนุ่มสาววัยมัธยมกลุ่มที่เป็นเจ้าของแผงขายยันต์
เฝ้ารอโอกาสนี้อยู่ พวกเด็กๆ จึงอาศัยช่องว่างการสนทนาเดินมาขอบคุณอรุณกับแลนเซลอท
อีกทั้งบอกด้วยว่าถ้ามีอะไรที่พอจะช่วยเหลือได้จะตอบแทนอย่างสุดความสามารถ
“ขอบคุณทำไม ผมแค่อาละวาดตามใจตัวเอง คราวหลังขายของก็ดูทำเลดีๆแล้วกัน”
“ผมก็แทบไม่ได้ทำอะไรเลยเหมือนกัน” อรุณพูดตามจริง
พร้อมยกความชอบให้แลนเซลอท “กลับไปขายของเถอะ แต่ถ้าจะตอบแทนจริงๆ
เอาอย่างนี้ พอจะรู้จักคนเก่งๆที่ยังไม่มีทีม คนที่อยากจะเข้าร่วมงานประลองของอีออสไหมครับ
เลเวลไม่ต้องสูงมากก็ได้”
“’พอดีเลยครับ!” เด็กหนุ่มใจกล้าคนเดิมอุทาน
ก่อนจะใช้ระบบเพื่อนโทรเรียกใครบางคนมา
แลนเซลอทก็ยืนรออย่างใจเย็นอยู่กับอรุณด้วย
สงสัยจะอยากเข้ากิลด์จริงๆ นายฝรั่งชุดดำก็โทรเรียกใครบางคนด้วยเหมือนกัน
สิบนาทีต่อมาก็มีผู้เล่นสองคนปรากฏตัวขึ้น
คนแรกคือจอมเวทสาวอาซาเลียที่อรุณคุ้นหน้า หากไม่มีเธอร่ายเวทปลุกซอมบี้
ผลของสงครามซีเกทอาจเลวร้ายลงไปอีก ในขณะที่อีกคนเป็นผู้ชายหุ่นเพรียวบางราวกับนางแบบ
แถวยังไว้ผมซอยตั้งสีม่วงอีกต่างห่าง แทบไม่เชื่อว่าจะเป็นคนรู้จักของแลนเซลอทซึ่งเป็นฝรั่งภาพลักษณ์หน่วยรบพิเศษ
“อยากได้คนมาเข้าทีมแข่งงานบ้าๆนี่ใช่ไหม ได้ ผมพาคนมาให้แล้ว ที่นี้ช่วยพิจารณาเรื่องรับเข้ากิลด์ใหม่ได้ไหมเอรอน”
แลนเซลอทแสดงท่าทางเหมือนประชด
ขณะแนะนำผู้ชายอ้อนแอ้นผมสีม่วงคนนั้น
“ไอ้หน้าหวานนี่คาร์ล เพื่อนเก่าที่แต่ก่อนผมตามไปดูดเลเวลในทวีปเรดเป็นประจำ”
คาร์ลฟังแล้วก็ยกมุมปากเล็กน้อย และไม่พูดอะไรออกมาสักคำ จะกรีดกรายนิ้วทำไมก็ไม่รู้
โชว์ว่าไว้เล็บยาวเรอะ ‘ตายล่ะ แย่ๆๆ’ อรุณอยากจะเอามือก่ายหน้าแล้วถอนหายใจสักพันครั้ง
หาคนได้แล้วก็จริง แต่...
นี่มันทีมรวมพวกพิลึกทั้งนั้น
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สวัสดีครับ กลับมาแล้วพร้อมกับนิยายตอนใหม่ที่อัพช้าขึ้นทุกที
ลูกใครเอ่ยลูกใครเอ่ย ออกทีเดียวสองตัวเลยนะครับ ผมถือว่าผู้ปกครองสมัครมาพร้อมๆกันตอนเปิดรอบสอง เลยให้ออกมาก่อนพร้อมกันซะเลย ลูกๆใครที่สมัครมาชุดที่สองยังไม่ออกตั้งตาคอยได้เลย
เนื้อหาช่วงนี้จะค่อนข้างเบา อะไรๆจะเกิดขึ้นที่หลังฉากมากกว่า มีอะไรจะเมนท์จะติเชิญตามสบายเหมือนเดิม
ความคิดเห็น