ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Color clash โลกออนไลน์แห่งสีสัน (จบแล้ว)

    ลำดับตอนที่ #6 : ep0 - บทนำ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.22K
      106
      7 พ.ย. 57

               “ไอ้บอสนรกนี่ เลือดเหลือไม่ถึงห้าเปอร์เซ็นต์แล้วหาที่หลบเร็วเข้า

    อรุณ ตะโกนใส่ไมค์ที่เฮดโฟนเมื่อร่างกายมังกรไฟตรงกลางหน้าจอเริ่มปริแตกและมีแสงสาดส่องออกมา ผู้เล่นคนอื่นๆที่เพิ่งเคยฟัดกับมันเป็นครั้งแรกล้วนไม่สนคำเตือนของเขาแล้วกระหน่ำโจมตีเข้าใส่บอสอย่างสนุกมือ

    แล้วจะให้หลบที่ไหนกันล่ะคร้าบบบเพื่อนในเกมคนหนึ่งโอดครวญผ่านห้องสนทนา ตัวละครของเขาวิ่งผ่านที่ราบซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของเกมตามตัวละครของอรุณมาติดๆ ไอ้จิ้งเหลนไฟนี่มันก็ถล่มเมืองราบเป็นหน้ากลองไปแล้ว ราบยิ่งกว่าหน้าอกของน้องเกดซะอีก

    ราบเฉพาะในเกมย่ะ!!” ผู้เล่นหญิงที่ตั้งชื่อตัวละครว่าน้องเกด ตบมุกสวนขึ้นมาท่ามกลางเสียงหัวเราะของสมาชิกในห้องสนทนาว่าแต่ทำไมเราต้องหนีมันด้วยล่ะอรุณ วิ่งมาไกลขนาดนี้ตอนมันตายเดี๋ยวก็ไปแย่งเก็บของไม่ทันหรอก

                ก็เพราะมันกำลังจะตายไงล่ะ เลยต้องหนี

    อรุณตอบคำถามอีกฝ่ายในใจขณะเอื้อมมือไปยกขวดชาเขียวที่ข้างหน้าจอมาดื่ม ความคิดในหัวกำลังพลุ่งพล่านไปหมด ทำยังไงถึงจะหลบท่าไม้ตายของบอสพ้น? ในยามคับขัน เขาหลับตาลงแล้วปล่อยให้ของเหลวกลิ่นน้ำผึ้งผสมมะนาวไหลผ่านลำคอลงไป

                ทันใดนั้นความคิดบ้าบิ่นก็แล่นขึ้นมาในหัวชายหนุ่ม แลกกับมันตรงๆนี่แหละ!’

                กริ๊ก!อรุณคลิ้กเมาส์เพื่อหยุดตัวละครกลางคันแล้วหันมุมกล้องไปทางบอสมังกรไฟ ในชั่วพริบตานั้นเองที่นิ้วเขารัวคีย์บอร์ดด้วยความเร็วสูงเพื่อเตรียมใช้ทักษะก้นหีบ

                “คิดจะทำอะไรน่ะน้องเกดหยุดถามขณะบังคับตัวละครของเธอมายืนอยู่ตรงหน้าอรุณ ช่วยบอกหน่อยเถอะว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้เขางงกันหมดทั้งปาร์ตี้แล้ว

    อรุณกระแอมเบาๆแล้วร่ายยาวสั่งสมาชิกในทีมทันที ฟังนะ บอสตัวนี้ก่อนมันจะตายจะใช้ท่าไม้ตายออกมาเป็นการระเบิดตัวเอง ผมเคยสู้กับมันตอนทำเควสเอาทักษะสุดท้ายมาแล้วเป็นสิบๆรอบจนรู้ว่าต่อให้ถึกแค่ไหนแต่ถ้าอยู่ในรัศมีหนึ่งกิโลเมตรของการระเบิดก็โอเวอร์คิลอยู่ดี

                “แบบนี้ก็ตายโหงกันหมดอะดิ มาโดนโอเวอร์คิลฉลองวันปิดเกมแบบนี้ก็ไม่ไหวนาสมาชิกในทีมคนหนึ่งถอนใจดังจนได้ยินจากหูฟัง

    เอาน่าๆ ตายหมู่พร้อมกันฉลองปิดเกมมันก็ไม่เลวนะคะผู้หญิงสักคนออกความเห็นแทรกขึ้นมาบ้าง

                เอ่อ..แล้วระยะหนึ่งกิโลเมตรในเกมนี่มันไกลแค่ไหนครับเนี่ยผู้เล่นหน่วยโจมตีไกลหนึ่งเดียวสงสัยในเรื่องไม่เป็นเรื่องขึ้นมาบ้าง

                หยุดพูดแล้วมาหลบหลังตัวละครผมเร็ว!” ในฐานะผู้นำของคนกลุ่มนี้อรุณออกคำสั่งเด็ดขาด เกด! ใช้ทักษะดูดพลังชีวิตของผมไปให้เหลือน้อยที่สุดเดี๋ยวนี้เลย

                จัดให้ผู้เล่นหญิงที่ชื่อน้องเกดแม้จะยังไม่ได้รับคำตอบของเธอก็ยอมทำตามตำสั่งของอรุณแต่โดยดีเหมือนสมาชิกในทีมที่เหลือ พวกเขาเหล่านี้ล้วนเป็นผู้เล่นที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันมาแล้วนับปี ตั้งแต่วันที่จัดตั้งกิลด์ครั้งแรก ตั้งแต่วันที่ชนะในการชิงแชมป์ระดับประเทศ ตั้งแต่วันที่คนเริ่มเลิกเล่นจนจำต้องยุบกิลด์ไป จนมาถึงวันสุดท้ายที่ทุกคนจะมีโอกาสได้พูดคุยกันโดยผ่านระบบสนทนาแบบกลุ่มนี้อีก

    สายสัมพันธ์ที่เกิดจากเกมออนไลน์ที่ชื่อว่าคัลเลอร์แคลช(Color Clash) ส่งผลให้พวกเขาเชื่อใจในตัวของกันและกันแบบที่คนนอกไม่มีวันเข้าใจ

    [Tax to underworld]

    ข้อความภาษาอังกฤษปรากฏขึ้นบนหัวตัวละครน้องเกดเมื่อเธอใช้ทักษะภาษีสู่ยมโลกอันเป็นเอกลักษณ์ของผู้เล่นสีขาว-ดำ ความสามารถของมันคือ ดูดเอาพลังชีวิตจากผู้เล่นอื่นหนึ่งคนมาเพิ่มให้กับตัวเองไปเรื่อยๆแลกกับการที่ผู้ใช้ไม่สามารถเคลื่อนที่ไปไหนได้  ตอนนั้นเองที่พลังชีวิตของอรุณหายไปอย่างฮวบฮาบแล้วส่งไปทางตัวละครของน้องเกดในรูปคลื่นแสงสีขาว  

    ดูดจนผมเหลือพลังชีวิตหนึ่งเปอร์เซ็นต์อรุณกล่าวต่อไปอย่างสุขุมทั้งที่ตัวจริงซึ่งนั่งอยู่หน้าจอเริ่มขยับมือที่ว่างอย่างไม่เป็นสุข

    แม้ตัวละครของน้องเกดจะมีระดับสูงถึงเก้าสิบ แต่ก็ใช่ว่าจะดูดพลังชีวิตของเขาให้ลดน้อยจนเหลือแค่นั้นได้เร็วพอ นั่นก็เพราะว่าเขาเป็นผู้เล่นที่เลือกสี แดง เขียว และดำ
                ไม่ว่าจะเลือกเล่นเป็นอะไรในเกมนี้ แต่ถ้ามีสีเขียวอยู่ในข้อมูลตัวละครย่อมหมายความว่าจะมีพลังชีวิตที่สูงและตายยากเป็นอันดับหนึ่ง นี่เป็นข้อมูลที่ทุกคนรู้ดี  แต่ถึงกระนั้นน้องเกดก็ยังบังคับให้ตัวละครของเธอใช้ทักษะดูดพลังชีวิตต่อไปอย่างไม่ลดละ

    คนในทีมร้องเตือนเมื่อรอยปริแตกกระจายไปทั่วร่างของบอสมังกรเป็นที่เรียบร้อยบอสพลังชีวิตเหลือหนึ่งเปอร์เซ็นต์แล้ว!” และในจังหวะนั้นเองที่อยู่ๆมันก็พุ่งขึ้นไปลอยคว้างอยู่บนอากาศด้วยความเร็วที่คนทั้งหมดหมุนมุมกล้องตามไม่ทัน

    ไอ้บ้าเอ้ย!

    อรุณกำหมัดแน่นด้วยความเสียดาย ก่อนจะกดใช้ทักษะสุดท้ายของตัวเองเป็นการตอบโต้ทันทีแม้พลังชีวิตจะลดลงไปไม่ถึงจุดที่ต้องการ ร่างกายตัวละครของเขาปริแตกออกโดยพลันไม่ต่างกับสัตว์ร้ายที่ลอยอยู่เหนือฝูงชนที่กำลังสับสน

    ในเกมนี้นอกเหนือจากท่าไม้ตายแล้วยังมีทักษะ(skill)ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าอยู่อีกขึ้นหนึ่งซึ่งตั้งชื่อว่า Ultimatum หรือ บทสรุปสุดท้าย ซึ่งวิธีการจะได้มาใช้เล่นนั้นยากแสนยาก หนึ่งคือต้องมีระดับเก้าสิบอันเป็นระดับสูงสุดของเกมเสียก่อน สองคือต้องเป็นผู้เล่นสามสีซึ่งมีเงื่อนไขในการปลดล็อกซับซ้อน และสุดท้าย คือต้องรับภารกิจในการล่า Raid boss หนึ่งตัวซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะทำสำเร็จด้วยตัวคนเดียว

    อย่างไรก็ดี อรุณก็ผ่านเงื่อนไขมาแล้วทุกข้อ และเขากำลังจะใช้ทักษะที่ได้จากบอสตัวนี้ตอบโต้มันกลับแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน

    [Savage Ultimatum]

    โมเดลกราฟฟิกที่เป็นตัวละครของอรุณและบอสมังกรพลันแต่งเป็นเสี่ยงๆ เหลือทิ้งไว้เพียงแกนกลางสีดำสนิทที่มีอักขระสีเขียวล้อมรอบ คลื่นพลังงานสีแดงกระจายออกมารอบศูนย์กลางนั้นในพริบตาพร้อมด้วยเสียงเอฟเฟ็คดังสนั่นหวั่นไหว

    เมื่อดูจากหน้าจอแล้ว อรุณคิดว่ามันช่างเหมือนกับระเบิดปรมณูสองลูกมาปะทะกันอย่างบอกไม่ถูก

    ผู้เล่นทุกคนโปรดทราบ ขณะนี้เรดบอสตัวสุดท้าย ผู้เผาผลาญชีวิต นากิซัส  ถูกกำจัดแล้ว ดังนั้นกิจกรรมพิเศษจึงจบลงอย่างสมบูรณ์ เกมคัลเลอร์แคลชจะขอทำการปิดให้บริการในอีกสามสิบนาทีต่อไปนี้ ขอบคุณผู้เล่นทุกท่านที่สนับสนุนเรามาจนถึงวันสุดท้ายค่ะ

    เฮ้อ—“ อรุณพ่นลมหายใจแล้วถอดเฮดโฟนออกด้วยความรู้สึกเหมือนใจหาย เขาทำเป็นไม่สนใจเสียงโห่ร้องดีใจของสมาชิกในทีมที่วิ่งไปเก็บไอเทมหายากมากมายที่ร่วงหล่นลงมาเป็นรางวัล

    ในเกมนี้ถ้าผู้เล่นอยู่ในทีมเดียวกันก็จะไม่สามารถทำร้ายอีกฝ่ายได้ด้วยวิธีการปกติ ดังนั้น การระเบิดตัวเองของเขาจึงเป็นการต้านแรงแระเบิดของบอสมังกรเอาไว้และช่วยชีวิตตัวละครของเพื่อนในทีมเอาไว้ทั้งหมด ตรงกันข้ามกับผู้เล่นคนอื่นๆที่ถูกบอสส่งกลับจุดเซฟในวินาทีสุดท้ายกันถ้วนหน้า

    แม้เพื่อนในเกมของอรุณจะบังคับตัวละครให้ทำท่ากระโดดโลดเต้นไปรอบๆตัวละครของเขาที่ถูกชุบชีวิตขึ้นมาใหม่ก็ตาม แต่ชายหนุ่มเลือกที่จะไม่ตอบโต้อะไรกลับไป วินาทีนี้เขาไม่อาจทำใจแม้แต่จะพิมพ์ข้อความเป็นการบอกลาได้

    ชายหนุ่มปิดคอมพิวเตอร์แล้วตรงดิ่งไปที่เตียงนอนของตัวเองทันที

     

    อรุณ นอนได้แล้วลูก พรุ่งนี้ต้องไปเรียนวันแรกไม่ใช่เหรอ

    เสียงของแม่ที่ดังมาจากอีกฟากของประตูทำให้เขารู้สึกรำคาญเล็กน้อย ชายหนุ่มตอบเธอกลับไปแล้วพยายามข่มตานอนให้หลับ พัดลมเพดานที่พัดเอื่อยๆเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ก่อให้เกิดเสียงในห้องอันเงียบสงัด

    จากนี้เขากำลังจะกลายเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแล้ว ต้องพบเจอกับเพื่อนใหม่ๆ สังคมใหม่ๆ ต้องทำกิจกรรมของคณะ อาจจะเข้าชมรมแล้วไปทำค่ายที่ต่างจังหวัดสักค่ายหนึ่ง ไม่แน่อาจถึงขั้นมีแฟนเป็นตัวเป็นตนกับเขาสักที

    เพื่อจะก้าวต่อไป เขาจำต้องลืมและปล่อยวางสิ่งเก่าๆไปให้ได้ แม้จะผูกพันกับมันแค่ไหนก็ตาม

    ล่าก่อน คัลเลอร์แคลชอรุณพึมพำออกมาก่อนจะผลอยหลับไปในความมืด 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×