คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #47 : ep37 - บาบา ยาก้า
ด้วยความที่พื้นสะเทือน
ผสมกับเสียงดังอย่างต่อเนื่องจากบ้านขาไก่และอรุณตะโกนโหวกเหวกเอง
รินกับเฟอร์น่าที่นอนอยู่ด้านในตัวกระท่อมเลยรีบวิ่งตาลีตาเหลือกออกมาพบพวกอรุณด้วยอาการตกใจ
สาวห้าวเอ่ยปากโดยมีหอกเตรียมพร้อมอยู่ในมือ แสดงให้เห็นว่าพร้อมจะลุยทุกเมื่อ
“พี่อรุณ! ในเกมมีแผ่นดินไหวด้วยเหรอ ทำไมกระท่อมสั่นจัง รึว่ากิลด์บลัดมูนโจมตีเราคะ
หนูจะเผามันให้หมดเลย!”
“ริน ใจเย็นๆก่อนนะ ไม่มีใครบุกทั้งนั้นแหละ”
ณดีปรามเพื่อนไว้ก่อนจะเข้าใจผิดไปมากกว่านี้ “แล้ว..แล้วก็ไม่ใช่แผ่นดินไหวด้วย”
“ไม่ใช่แผ่นดินไหวแล้วทำไมถึงได้สั่นแบบนี้ล่ะคะ
บอกมาสักทีสิ” เฟอร์น่าเริ่มโวยบ้าง
รายนี้เธอยังอยู่ในชุดนอนอยู่เลย สาวผมน้ำเงินชี้เข้าไปที่ตัวกระท่อมซึ่งกำลังเปล่งพลังอาถรรพ์ออกมาอย่างสับสน
“อย่างน้อยก็ตอบทีเถอะค่ะ
ว่าทำไมกระท่อมถึงปล่อยแสงสีเขียว อย่างกับหนังสยองขวัญ! นี่มันกระท่อมปีศาจใช่ไหม ต้องเป็นกระท่อมปีศาจแน่ๆ”
อรุณได้ยินแล้วก็หัวเราะ “กระท่อมที่ไหนครับ
นี่มันบ้าน!”
“บ้านอะไรคะ?” เฟอร์น่าค้อนขวับด้วยสีหน้ามึนกว่าเดิม เธอกับรินคงรู้สึกเหมือนเป็นคนโง่ที่หัวช้าตามสถานการณ์ไม่ทันคนอื่น
“บ้านขาไก่ไง! ที่เรามาพักกันมันไม่ใช่บ้านครับ เรากำลังอยู่บนตัวของบ้านขาไก่
ใครมันจะไปนึกใช่ไหมล่ะ ว่าไอ้ตัวที่ตามหาแทบตาย
ที่แท้ปลอมตัวเป็นกระท่อมอยู่ริมน้ำนี่เอง”
“นี่เหรอพี่อรุณบ้านขาไก่” รินอ้าปากหวอ รีบเอาหอกทิ่มพื้นดูเพื่อความแน่ใจทันที ความเสียหายหลักพันที่เด้งขึ้นมาเป็นหลักฐานให้เธอยอมเชื่อ
“มีดาเมจด้วย
งั้นที่เราลุยโคลนหาอยู่ทั้งวันคือกระท่อมโทรมๆนี่เอง
ทำไมรูปร่างมันไม่เห็นเหมือนที่พี่อรุณวาดให้ดูเลยอ่ะคะ มันต้องเป็นบ้านเหลี่ยมๆที่มีหน้าต่างสิ”
”พี่วาดให้ดูคร่าวๆ…จะเหมือนได้ยังไง” อรุณเลี่ยงที่จะยอมรับว่าวิชาศิลปะตัวเองไม่พัฒนาขึ้นเลยตั้งแต่ชั้นอณุบาล
เพื่อวกกลับเข้าเรื่องชายหนุ่มจึงรีบบอกนายเฟยคนหน้าตายให้ช่วยเอาข้อมูลให้สาวๆดูหน่อย
หัวหน้ากิลด์หยางหลงไม่ปฏิเสธ แต่ส่งให้ณดีก่อน “น้องดีว่าเอาไปให้เพื่อนดูสิครับ”
ชื่อ: บ้านขาไก่ สี: เขียว ระดับนักผจญภัย: 45 ประเภท: โกเล็ม |
บ้านอาถรรพ์ของแม่มดบาบายาก้า ถึงจะเป็นกระท่อมไม้แต่มีขาซึ่งสร้างมาจากการปลุกเสกต้นไม้กับเวทมนต์ลึกลับมันจึงสามารถเดินและวิ่งไห้ราวกับเป็นสิ่งมีชีวิต
หากไม่ได้รับคำสั่งเจ้านาย ปกติมีนิสัยขี้ขลาด เมื่อพบเห็นผู้เล่นจะวิ่งหนีไปซ่อนตัวทันที |
“ตอนนี้ก็เจอมันแล้ว
ขั้นต่อไปต้องทำยังไงคะพี่อรุณ รีบตีมันให้ตายเลยมะ” รินใช้เวลาอ่านข้อมูลไม่ถึงครึ่งวิ
พอแน่ใจว่าถูกตัวก็ทำท่าจะง้างหอกแทงใส่บ้านขาไก่สุดกำลัง
แต่ก็โดนอรุณขวางไว้ได้ตั้งแต่เริ่ม
“อย่างเพิ่งตีริน! อย่าพึ่ง ถ้าฆ่าตอนนี้เราก็อดเจอแม่มดบาบายาก้าสิครับ
บ้านขาไก่มันจะพาไปหาตัวบอสไง จำที่พี่เล่าไม่ได้เหรอ
ตอนนี้ช่วยเก็บของแล้วก็ใส่เกราะรอไปก่อนนะ นะรินนะ”
สาวห้าวขมวดคิ้วจนหน้ามุ่ย
ราวกับเด็กที่พ่อแม่ไม่ยอมซื้อของเล่นให้ “ถ้าพี่อรุณขอขนาดนี้
ก็ได้ค่ะ”
‘ฟู่ โล่งใจหน่อย’
อรุณเป่าปากโล่งอกเหมือนกับคนอื่นๆที่เหลือ
ในข้อมูลก็บอกไว้ว่าบ้านขาไก่มีนิสัยขี้ขลาด
หากโจมตีเข้าไปเยอะเดี๋ยวมันวิ่งตื่นไปไหนไม่รู้พอดี อุตส่าห์โชคดีระดับถูกหวยสองตัวท้ายแล้ว
อย่าสละสิทธิเอาง่ายๆสิ
“แต่ก่อนอื่น ขอล้างแค้นมันที่ปลุกหนูกลางดึกก่อนแล้วกัน”
เปรี้ยง! รินทำตามที่อรุณขอจริงๆด้วยการเดินไปเก็บเต็นท์ของตัวเองที่กางไว้ในตัวกระท่อม
แต่วิธีการที่เธอเลือกคือใช้ขาถีบกระแทกประตูอย่างแรงให้เปิดเข้าด้านใน
จังหวะนั้นไม่มีใครในโลกจะห้ามสาวเลือดเดือดคนนี้ทันอีกแล้ว
บ้านขาไก่ตอบสนองเมื่อถูกทำร้ายทันทีด้วยการ ‘วิ่งหนี’
สุดกำลัง
“งานเข้าแล้ว
ทุกคนเกาะผมไว้!”
เฟยหงร้องเตือนในยามที่ทุกอย่างสายไปแล้ว การเคลื่อนไปด้านหน้าอย่างอย่างฉับพลันของบ้านขาไก่
ให้ผลเหมือนทุกคนกำลังยืนโหนรถเมล์ที่อยู่ๆก็ซิ่งอย่างกะทันหัน ชายผมเขียวเป็นคนแรกที่หงายล้มไปกระแทกเขากับผนังกระท่อม
ตามมาด้วยณดีที่ถูกอรุณประกบซ้ำจนแน่นเป็นปลากระป๋อง
‘พะ พะ พะ พี่อรุณ
พี่อรุณ พี่อรุณคะ” ณดีที่ถูกแซนวิชโดยผู้ชายสองคนทำอะไรไม่ถูก
นอกจากพูดติดอ่าง ชายหนุ่มหาทางจะยันตัวลุกขึ้น แต่ความเร็วของบ้านขาไก่ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆดันตัวเขากับเธอจนขยับไปไหนไม่ได้ซะแล้ว
พื้นกระท่อมกำลังเอียงจนถึงระดับสี่สิบห้าองศา
รินที่ห้อยโหนเกาะขอบประตูกับเฟอร์สองคนยังมีอารมณ์จะแซว
เธอยิ้มระรื่นจนเขาดูออกว่าไม่สำนึกผิดแม้แต่น้อย
“วู้ ณดี
ได้ซบกับพี่อรุณด้วยแหละ แกต้องขอบคุณฉันนะรู้ไหม!”
คนถูกเรียกนั้นอายจนไม่มีสติจะตอบแล้ว
อรุณจึงต้องเป็นกระบอกเสียงให้เธอแทนด้วยการพูดโต้กลับว่า “ทีหลังใจเย็นกว่านี้หน่อยเถอะครับ
ตกไปข้างล่างสักคน ใครจะรับผิดชอบ”
“หนูขอโทษค่า หนูขอโทษ”
รินแลบลิ้นปลิ้นตา “นึกไม่ถึงค่ะว่าเตะนิดเตะหน่อยบ้านมันก็วิ่งแจ้นแล้ว”
“อย่างน้อยก็ช่วยแสดงออกว่ารู้สึกผิดหน่อยสิเธอ”
“ณดีมีความสุข
ผิดถูกยังไงหนูก็ไม่สนแล้วล่ะค่า!”
“ถามณดีสักคำหรือยัง”
อรุณเหนื่อยจะเถียงต่อเลยรวบรวมกำลังแขน
พยายามจะดันตัวออกจากณดีให้ได้ อาการเมาของเขาทำให้สถานการณ์เลวร้ายกว่าที่คิด
ปรากฏว่ายิ่งพยายามขยับกลับยิ่งเซจนล้มกอดหญิงสาวเข้าไปแบบเต็มๆ
“ว้าย ฟินค่ะ! ชาตินี้ฉันตายตาหลับแล้วค่ะ!” เฟอร์น่ากรีดร้องด้วยความลิงโลด
“นอกจากในละครเพิ่งเคยเห็นของจริงครั้งแรก
ตื่นเต้นแทนณดีเลยค่ะ อ้าย! โรแมนติกสุดๆ”
“ณดีกอดพี่อรุณไว้แน่นๆสิ
เดี๋ยวกลิ้งตกลงไปฉันช่วยไม่ได้น้า”
“น้องณดีโทษที
พี่ไม่ได้ตั้งใจ คุณเฟยก็ช่วยอะไรสักอย่างทีสิ” อรุณไม่สนใจคำเสี้ยมของแม่ตัวแสบสองคนที่เกาะประตูอยู่
ณดีที่โดนเขากดทับก็ไม่มีท่าว่าจะดิ้นขัดขืนแม้แต่น้อย ชายหนุ่มก็เลยขอความช่วยเหลือจากที่พึ่งสุดท้าย
เฟยหงที่ประกบแนบณดีอยู่อีกด้านบ่นอย่างจนปัญญา
“ถ้าใช้เพลนชิพ
พวกเราอาจจะปลิวตกบ้านขาไก่ได้นะครับ ทนแบบนี้ไปก่อนดีกว่า ผมก็ไม่อยากจะเสียมารยาทกับน้องดีว่าหรอก”
“ก็วาร์ปเข้าข้างในบ้านสิครับ
อยู่ในนั้นไม่มีทางกลิ้งทะลุผนังหรอก”
เฟยหงค้านขาดใจ “เมาแล้วอย่าลืมสิครับ เพลนชิพมันมีขาไปขากลับ วาร์ปเข้าข้างใน พอหมดเวลา
ถ้ายังอยู่ในรัศมีทักษะก็จะเอาเรากลับที่เดิมอยู่ดี ถึงตอนนั้นก็ร่วงกันหมด พื้นเอียงขนาดนี้คงหาทางทำได้หรอก”
ขณะที่การโต้เถียงดำเนินไป
บ้านขาไก่ก็ออกวิ่งอย่างดุเดือดไม่แพ้กัน เสียงน้ำแตกกระจายดังซ่าถูกแทนที่ด้วยเสียงพื้นสะเทือน
ตึง ตึง แสดงว่ามันวิ่งจนพ้นบึงมาแล้ว หลักฐานก็คือเงามืดทึมของยอดไม้ที่ตัดผ่านหน้าทุกคนไปอย่างรวดเร็ว
อึดใจนั้นบ้านขาไก่ก็ย่อตัวลง
เทกระจาดอรุณกับณดีให้แยกจากกันสำเร็จ ชายหนุ่มมีเวลาเพียงเสี้ยววินาที่เพื่อแสดงความยินดีก่อนบ้านขาไก่จะเปล่งแสงเจิดจ้าออกจาภายใน
ป่าแม่มดถูกพลังเขียวๆของมันย้อมจนสว่างไสวเหมือนตอนเป็นเวลาเที่ยง
จากนั้นบ้านขาไก่ก็กระโดดขึ้นฟ้า
อรุณมองหน้าตามไป ก็พบว่ามีวงแหวนเวทสีเขียวขนาดใหญ่กางรออยู่เบื้อง[นแล้ว
‘บาบายาก้า!’ อรุณรู้ว่านั่นหมายถึงอะไร เขาจึงจับข้อมือณดี ให้มั่นใจว่าเธอจะไม่หายไปไหน
ด้วยพลังมนตราอันลึกลับ ทันทีเมื่อบ้านขาไก่สัมผัสกับอักขระเวทบนอากาศ มันก็ทะลุมิติ
ร่วงลงมากระแทกพื้นแบบไม่เป็นท่า สถานที่คือลานหญ้าซึ่งไม่มีโคลนเหมือนส่วนอื่นๆของป่าแม่มด
อรุณกับณดีลอยลงมากระแทกพื้นที่จุดเดียวกัน
ไม่ต่างคนอื่นๆ แรงกระแทกบริเวณหน้าผากนั้นเจ็บปวดแต่ก็ทำให้เขาสร่างเมาได้ในระดับหนึ่ง
ชายหนุ่มพยุงตัวนั่งยองๆแล้วกวาดสายตามองสิ่งรอบตัว “ที่นี่มัน…”
“แผนที่ตรวจสอบไม่ได้ครับ
เราอยู่ในพื้นที่พิเศษ” เฟยหงรายงานด้วยความยินดี
ชายผมเขียวค่อยๆเดินเข้ามาแล้วยื่นมือให้อรุณ “ลานบอส
บาบายาก้า”
“ทำสำเร็จแล้วครับ”
อรุณยิ้มกลับแล้วเอื้อมแขนให้อีกฝ่าย
แต่ปรากฏว่าหัวหน้ากิลด์หยางหลงเดินผ่านเขาไปอย่างเหนือความคาดหมาย เป้าหมายจริงของเฟยคือผู้หญิงที่อยู่ถัดจากอรุณอีกที
‘อ้าวเฮ้ย ไอ้นี่’
“น้องดีว่าเจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ
ให้พี่ช่วยนะ” หัวหน้ากิลด์หยางหลงยิ้มอย่างอ่อนโยนขณะช่วยพยุงตัวณดียืน
“ตอนนี้ถึงลานบอสแล้วครับ ถ้าชนะ น้องดีว่าระดับนักผจญภัยพุ่งทะลุเกินสี่สิบแน่นอน”
“ขะ ขอบคุณค่ะ ไม่ต้องใจดีกับฉันขนาดนี้ก็ได้”
หญิงสาวก้มหน้าหลบ “แล้วบอสอยู่ไหนล่ะคะ เห็นแต่กระท่…บ้านขาไก่”
“นั่นสิ” เฟยหงหยุดคิดแล้วหันมาถามอรุณด้วยใบหน้านิ่งเฉย
“เอรอนผู้พิชิต รู้ไหมครับว่าทำไมบาบายาก้าถึงยังไม่ออกมา”
อรุณยิ้มเฝื่อนไปนานแล้ว
เขาเริ่มรู้สึกเสียหน้า “รอสักเดี๋ยวก็มาแล้ว
ทุกคนเตรียมอาวุธให้พร้อมเถอะ”
รินกับเฟอร์น่ารีบทำตามโดยการเรียกใส่อุปกรณ์เต็มรูปแบบเตรียมรับศึกที่จะมาถึง
รินอยู่ในชุดเกราะเหล็กครึ่งตัวแบบเรียบๆ
สวมถุงมือและรองเท้าบูทโลหะมันวาวที่น่าจะมีน้ำหนักมาก เมื่อไม่ต้องลุยโคลนแล้ว
ชุดซึ่งเทอะทะแต่มีพลังป้องกันสูงของพวกอัศวินจึงไม่เป็นปัญหากับเธออีกต่อไป
สาวห้าวจับหอกอย่างทะมัดทะแมงชี้ตรงไปยังบ้านขาไก่ที่ค่อยๆยันตัวลุกขึ้นบนรยางค์เก้งก้างทังสองของมัน
ด้านเฟอร์น่าที่ใส่เพียงเกราะหนังกับผ้าคลุมไหล่เพื่อความคล่องตัว
เธอชักดาบของตัวเองแล้วย่างสามขุมไปที่แนวหน้าสุดโดยไม่ต้องบอก
ดูแล้วขัดๆเหมือนกันที่ตัวแทงค์กลับดูบอบบางกว่าตัวสร้างความเสียหาย(ริน)พอสมควร
ณดีชูไม้เท้าหมื่นอารีของเธอขึ้นฟ้าบอกทุกคน
“บนนั้น
มีบางอย่างกำลังลอยมา”
ด้วยแสงสีเขียวแสบตาที่บ้านขาไก่ปล่อยแบบไม่หยุด
บวกกับการที่มันย่อเข่าลงทำความเคารพเจ้าสิ่งนั้น
อรุณจึงบอกได้ทันทีว่าหญิงชราร่างผอมกะหร่องซึ่งเห็นอยู่นี้คือนางแม่มดที่กำลังตามหา
สังเกตตรงมันขี่ครกบินแทนที่จะเป็นไม้กวาด เขาไม่มีทางจำตัวประหลาดนี่ผิดแน่ๆ
ซึ่งเสียงประกาศของระบบก็เป็นจริงตามนั้น
[พบมอนสเตอร์ระดับบอส
แม่มด บาบายาก้า จำนวน 1 ตน]
ชื่อ: แม่มด บาบายาก้า สี: ดำ ระดับนักผจญภัย: 55 ประเภท: ปีศาจ |
แม่มดเฒ่าผู้ครอบครองอาคมลึกลับ
ยามกลางวันจะเร้นกายไปในป่าด้วยครกบินคู่ใจ ออกตามหาสิ่งเน่าเหม็นมากินเป็นอาหารยาไส้
นอกจากนั้นยังนิยมสาปผู้คนเป็นสัตว์เพื่อนำมารับประทาน
นางมีอสูรรับใช้ที่ทรงพลังก็คือกระท่อมเดินได้ที่ใช้เป็นแหล่งกับดาน นามว่า
บ้านขาไก่ |
อรุณเห็นแม่มดก้มมองพวกเขาแล้วหัวเราะเสียงแหบๆ
มันใช้พลังเวทควบคุมสากหินยาวที่ด้านซ้ายและไม้กวาดที่ด้านขวาให้หมุนคว้างราวกับเป็นใบพัดเฮลิคอปเตอร์
บังคับครกบินให้ลอยต่ำอยู่เหนือพื้นในระดับสายตาอรุณพอดี ชายหนุ่มจึงเห็นว่า
ชุดสีดำสากๆเหมือนผ้ากระสอบซึ่งประดับด้วยสร้อยกระดูกสัตว์ พอรวมกับผิวเหี่ยวย่นของหญิงชราแล้ว
ช่างสร้างบรรยากาศขนหัวลุกได้ดีเหลือเกิน
แม่มดแสยะยิ้มอวดฟันเหลืองๆที่มีแค่สามซี่ของมัน
“คั่ก คั่ก คั่ก
นักผจญภัย พวกเจ้าฉลาดนักนะที่แอบเกาะเจ้าขาไก่จนมาถึงตัวข้าได้
บอกเลยว่าวันนี้พวกเจ้าชะตาขาดแล้วล่ะ ข้าจะจับพวกเจ้ามาต้มกินให้หมดทุกคนเลย”
“โดยเฉพาะเจ้า
ผู้รุกราน!!” บาบายาก้าชี้หน้าอรุณ “โลกแห่งสีสันไม่ต้อนรับเจ้า
กลับดวงจันทร์ไปซะไป!”
อรุณไม่สนใจฟังมัน
เขาใช้โอกาสซึ่งมีไม่มากบอกแผนการต่อสู้แบบคร่าวๆให้ทุกคนฟัง” ฟังนะครับ ตอนนี้เราจะต้องเจกับบอสสองตัวพร้อมกันคือบ้านขาไก่กับบาบายาก้า
บ้านขาไก่เป็นสีเขียวมันถึกมาก ให้เฟอร์น่าทำหน้าที่วิ่งล่อเอาไว้ อย่าให้เข้าถึงตัวณดี”
“ได้ค่ะคุณอรุณ”
สาวผมน้ำเงินพยักหน้ารับ “ถ้าเรื่องวิ่งล่อฉันมั่นใจอยู่”
“ดี ส่วนรินมากับพี่
แม่มดจะขี่ครกบินไปบินมาเรื่อยๆสลับกับยิงคำสาป แผนคือพี่จะคอยไล่
ส่วนรินคอยใช้ท่าอะไรก็ได้สกัดทางหนีมันไว้ ประชิดตัวเมื่อไหร่ใช้ทักษะยั่วยุเลย
ระวังโดนบ้านขาไก่เหยียบเอาด้วย”
“แล้วก็น้องณดีนะครับ”
เขาหันไปยิ้มให้ซัพพอร์ทประจำกลุ่ม “อยู่ติดกับคุณเฟยไว้
เขาจะช่วยพาณดีหลบเอง คอยตรวจพลังชีวิตทุกคนแล้วตะโกนบอกพี่เป็นระยะนะ”
หญิงสาวกำไม้เท้าในมือแน่น เอ่ยรับปาก
“ฝะ ฝากให้หนูดูแลได้เลยค่ะ”
ตัดมาที่ฝ่ายของบาบายาก้า
เมื่อนางแม่มดเห็นว่าพวกอรุณไม่ยอมเคลื่อนไหวจึงเปิดฉากโจมตีก่อนทันที “เมินข้าเหรอ เอานี่ไปกิน โอมมะลึก กึกกึ๋ย โอมมะลึก กึกกึ๊ย เพี้ยงงง”
มันชี้นิ้วแล้วยิงคลื่นแสงสีเขียวสลับม่วง
“ทุกคนทำตามแผน
ตอนนี้หลบเร็วครับ!” อรุณตอบสนองด้วยการตะโกนสั่ง
แล้วทุกคนก็วิ่งออกฉากตามกันออกไป แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันคือเจ้าบ้านขาไก่ดันวิ่งชาร์จสวนเข้ามาแบบพอดิบพอดี
ด้วยขาที่ยาวเกือบร้อยเมตรของมัน ก้าวแค่ครั้งเดียวก็ดักหน้าคนทั้งหมดเอาไว้ได้
เสียท่าซะแล้ว ตอนนี้ทุกคนต้องเลือกระหว่างโดนบ้านเหยียบหรือถอยหลังกลับไปโดนเวทของแม่มด
ทางไหนก็ไม่ดีทั้งนั้น
“คอนเสตลเลชั่น
แอนโดรมีดา!”
โซ่แห่งหมู่ดาวนับสิบเส้น
พุ่งออกจากฝ่ามือของเฟยหงเหมือนตาข่ายจากสวรรค์
ตรึงบ้านขาไก่ไว้ได้ทั้งหลังกลางอากาศ
อรุณไม่มีเวลาจะเอ่ยชื่นชมจึงวิ่งนำสามสาวลอดบ้านขาไก่ออกมาตรงกลางลานให้เร็วที่สุด
แต่ว่าเฟยหงกลับไปมาด้วย
“คุณเฟย! ยืนเก๊กอะไรอยู่!?” ทันทีที่รู้สึกตัว
อรุณรีบเหลียวหลังถามอีกฝ่ายอย่างใจหาย
“ลืมอีกแล้วนะครับ”
ชายผมเขียวหัวเราะหน้าตายในเวลาที่ไม่สมควรเป็นที่สุด “ตอนที่ใช้สกิลนี้ แอนโดรมีดา ทำให้ผมขยับตัวไม่ได้”
บูมมม
ลำแสงประหลาดของแม่มดระเบิดใส่ร่างเฟยหงอย่างรุนแรง สร้างควันเรืองแสงสีม่วงลอยคลุ้งจางๆไปทั่ว อรุณเห็นว่าโซ่แห่งหมู่ดาวฉีกขาดจากกัน ก็เหมือนสัญญษณบอกว่านายผมเขียวเพลี่ยงพล้ำซะแล้ว บ้านขาไก่พอหลุดจากพันธนาการก็ใช้ตีนคู่ยักษ์ของมันเหยียบย่ำลงไปในควันแบบไม่หยุดยั้ง ต่อให้รอดมาได้ก็คงไม่พ้นการซ้ำเติมจากมัน
“เสร็จไปหนึ่งๆ คั่ก
คั่ก คั่ก” บาบายาก้าหัวเราะสมน้ำหน้า “เดี๋ยวพวกเจ้าก็ตามเพื่อนไปแบบติดๆแน่”
“คุณอรุณคะ ทะ
ทำยังไงดี” เฟอร์น่าถามอย่างเสียขวัญ แต่ก็ไม่มีเวลาให้เธอมากนัก
เพราะนางแม่มดกำลังเริ่มร่ายเวทบทใหม่แล้ว
“ทำตามหน้าที่เดิม
อย่าให้การเสียสละของคุณเฟยสูญเปล่า ไปล่อบ้านขาไก่เลยครับ ริน ณดี ตามพี่มา”
สาวผมน้ำเงินพยักหน้ารับแล้วใช้ทักษะสีเหลืองเพิ่มความเร็วให้กับทุกคน
เฟอร์น่าใช้ความสามารถเฉพาะตัววิ่งกระโดดจนตัวลอย ฟันใส่บ้านขาไก่แบบสุดแรงด้วยดาบที่เรืองแสงสีเหลือง
ทักษะยั่วยุประจำสายคลาสนักพเนจรของเธอทำงาน “สไตรด์!”
หากสายอัศวินแบบซิกตี้มีท่ายั่วยุแบบหมู่
สายนักพเนจรอย่างรินก็มี สไตรด์(Stride) ท่านี้จะเป็นการเคลื่อนที่ไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งอย่างรวดเร็ว
กระบวนท่าตามแต่ฝีมือคนใช้
ก่อนการโจมตีครั้งต่อไปของสาวผมน้ำเงินจะสร้างความยั่วยุมากกว่าปกติเล็กน้อย
ซึ่งมันได้ผล
บ้านขาไก่หมุนส่วนหน้ากระท่อมมาทางเฟอร์แล้วสะบัดแข้งเตะเธอด้วยความเร็วเหลือเชื่อ
หญิงสาวใช้สไตรด์อีกรอบ
ตีลังกาลอดใต้ขามันไปได้อย่างหวาดเสียว
เธอโจมตีแบบเฉี่ยวๆเพื่อสร้างความยั่วยุอีกกครั้งแล้วรีบวิ่งหนีล่อศัตรูไปให้ห่างจากพวกอรุณ
ทักษะยุ่วยุที่มีคูลดาวน์สั้นมาก
และให้ความสามารถในการหลบหลีกไปในตัว นี่แหละคือจุดเด่นของสายคลาสนักพเนจร(Wanderer)
ด้านอรุณ เขาเห็นว่ารอดจากบ้านขาไก่แล้วจึงใช้พลังงานไร้สีสร้างปืนพกกระบอกหนึ่งแล้วยิงใส่บาบายาก้าแบบไม่ต้องเล็ง
ด้วยความแม่นระดับเด็กประถมแม่มดขี่ครกบินจึงหลบได้สบาย
แต่เขาไม่ต้องการให้โดนอยู่แล้ว
“โอมมะลึก กึกกึ๋ย เพี้ยงงง”
“แฟรช!”
อรุณย้ายตำแหน่งกับลุกกระสุนปืนไปอยู่กลางอากาศถัดจากบาบายาก้าไม่ถึงเมตร
ตอนที่พลังเวทของนางแม่มดลอยไประเบิดพื้นที่ว่างเปล่า
อรุณก็เปลี่ยนปืนเป็นดาบพลังงานคู่ใจแทงใส่แม่มดที่ช่องท้อง
สากบินของแม่มดหมุนลงมาปัดการโจมตีไว้ได้แบบฉิวเฉียว “คั่ก คั่ก คั่ก” มันหัวเราะแล้วบังคับให้ครกบินพุ่งชนอรุณแบบตรงๆ ชายหนุ่มเสียท่าแก่มันอีกเป็นรอบที่สอง
ผั่ว! 4,906!
‘เร็วเหมือนสมัยเป็นเกมเลยนี่หว่า’
อรุณนึกในใจขณะที่ร่วงหล่นลงมาอย่างไร้การควบคุม
ดาบพลังงานก็ถูกสากหินปัดหลุดมือไปซะแล้ว เป็นไปตามแผนพอดี
อรุณจ่ายพลังชีวิตแล้วใช้สกิล[แฟรช] ก่อนที่จะหล่นลงพื้นเขาก็เคลื่อนย้ายมาโผล่ข้างๆบาบายาก้าอีกรอบ
รอบนี้เหนือการคาดเดาของนางแม่มดไปมาก มันเลยโดนอรุณฟันใส่ไปถึงสองครั้งเต็มๆ บอสเลยหันครกไปโจมตีอรุณแบบเต็มตัว
“ไลท์นิงโบลต์”
ที่ด้านล่าง
รินได้โอกาสที่ศัตรูอยู่นิ่งยิงสายฟ้าโจมตีเข้ามาอีกทางหนึ่ง สร้างความเสียหายได้ชนิดเจ็บแสบไม่เบาทีเดียว
ความยั่วยุตกไปอยู่ที่อัศวินสาวอย่างง่ายดาย
และช่องว่างเล็กๆนั้นถูกอรุณนำไปใช้โจมตีอย่างคุ้มค่า
หนึ่งอัศวินสาวยิงสายฟ้าโจมตีจากด้านล่าง
หนึ่งผู้รุกรานรุกไร่บนอากาศราวภูตผี การโจมตีประสานกันเริ่มทำให้บอสเพลียงพล้ำไปทีละน้อย
“หนอยแน่พวกแก
เจ้าขาไก่ มาช่วยข้าหน่อยเร็ว!” แม่มดตะโกนขอความช่วยเหลือจากลูกน้องของมัน
แต่บ้านมีขาไม่สนใจแม้แต่น้อย
ก็แม่คนสวยผมสีน้ำเงินที่วิ่งวนอยู่ใต้ตีนมันนี้ช่างน่ารำคาญเสียเหลือเกิน
“ดีมากเฟอร์น่า
อย่าให้มันรวมกันได้” อรุณโห่ร้องขณะจ่ายพลังชีวิตแล้วสลับตำแหน่งวูบวาบรอบตัวบอสจนมันตามตัวไม่ทัน
ทุกการลงดาบล้วนเรียกความเสียหายจากนางแม่มดได้มากขึ้นเรื่อยๆ หากเขาใช้อินเฟ็คใส่ ป่านนี้มันคงตายไปด้วยโบนัสความเสียหายจริงไปแล้ว
แต่ทำแบบนั้น บาบายาก้าจะติดสถานะไม่มีสี
ป้องกันการโจมตีจากสีทุกรูปแบบ นั้นคือสายฟ้าของรินจะไร้ผล
เพื่อให้สามสาวได้รับค่าประสบการณ์มากที่สุด จึงต้องเปิดโอกาสให้รินได้โจมตีเยอะๆ
และณดีได้ฮีลพลังชีวิตที่เขาจ่ายเป็นทรัพยากรไปเยอะๆ
นี่เป็นกลยุทธ์เก็บเลเวลกับผู้เล่นระดับต่ำกว่า
ซึ่งต้องอาศัยละเอียดอ่อนพอสมควร หากอรุณจัดการรวบรัด
คนที่ได้ค่าประสบการณ์แทนที่จะเป็นสามสาวจะกลับเป็นเขาเอง โอกาสทองนี้ก็จะเสียไปฟรี
“อย่าแตะต้องตัวข้า
เจ้าผู้รุกราน!” ชั่วอึดใจที่อรุณกำลังคิดบาบาก้าก็ใช้ไม้กวาดและสากที่หมุนเป็นพายุรอบตัว ลมหมุนที่เกิดจากสากเวทมนต์ผสานกับไม้กวาดกำลังดูดอรุณเข้าไปเหมือนเครื่องปั่น ชายหนุ่มไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากแฟรชหลบออกมา
แม้แต่สายฟ้าของรินก็ถูกปัดกระจายเป็นละอองแสงไป
บอสใช้แรงหมุนควบคุมครกบินให้ลอยสูงขึ้นเรื่อยๆ
แล้วขมุบขมิบปากร่ายเวทโอมมะลึกกึกกึ๋ยของมันใหม่
พลังเวทสีเขียวสลับม่วงที่มันควรจะปล่อยได้แค่สายเดียว คราวนี้ถูกไม้กวาดกับสากตีกระจายเป็นเส้นบางๆสิบเส้นกระจายลงสู่เบื้องล่าง
พื้นที่สองในสามของลานบอส
ถูกใช้เป็นสนามให้เฟอร์น่ากับบ้านขาไก่วิ่งไล่จับกันไปแล้ว
ถึงรัศมีการโจมตีนี้จะแคบ แต่พวกอรุณก็ไม่ค่อยมีทางหนีทีไล่เหมือนกัน
โดนเต็มๆสิครับ
อรุณสามารถเลือกที่จะอินเฟ็คเพื่อป้องกันทักษะที่มีสีให้กับตัวเองก็ได้
แต่เขาตัดสินใจส่งความสามารถนี้ให้กับณดี ซึ่งดูเหมือนยังแตกตื่นที่เฟยหงถูกจัดกการจนยืนขาตาย ขณะที่ลำแสงสีแปร่งๆนั้นผ่าลงหัวทั้งสามพร้อมกัน จึงมีแค่ฝ่ายสนับสนุนเท่านั้นที่รอดอย่างไร้รอยขีดข่วน เพียงแต่สีสันที่หายไปจากตัวละครของเธอ
บูม!
ควันสีม่วงที่เรืองแสงอ่อนๆ
ลอยฟุ้งเหมือนผงแป้ง ความเสียหายเบากว่าที่คิด ซึ่งแทนที่จะทำให้อรุณดีใจ
เขาเป็นอันต้องถอนหายใจอย่างแรง เพราะรู้ว่าตัวเองโดนคำสาปของแม่มดเข้าให้แล้ว
แต่กลับรู้สึกรัดๆตรงหน้าอกด้วยอาการเหมือนเสื้อคับอยู่ชอบกล นี่เป็นคำสาปแบบไหนกัน
‘มันมีสาปให้เสื้อตัวเล็กลงหรือเปล่านะ
ปัญญาอ่อนแล้ว’ อรุณครุ่นคิดกับตัวเองแล้ววิ่งฝ่าควันออกไปด้านนอก
หากบาบายาก้าโจมตีซ้ำตอนที่มองอะไรไม่เห็นจะแย่หนักกว่าเก่า พริบตานั้นเขาพบกับอัศวินหนุ่มผมทองคนหนึ่งยืนถือหอกอยู่ตรงหน้า
“พี่อรุณเป็นไงบ้าง…”
“นั่นรินเหรอ!?”
อรุณถามกลับอย่างสงสัยไม่แพ้กัน แล้วคำพูดของเขาก็สะดุดอยู่แค่นั้นเหมือนอีกฝ่าย
อัศวินหนุ่มผมทองยกมือขึ้นจับปากแล้วลองเปล่งเสียงพึมไปมา
ไม่ต่างจากด้านของอรุณเอง
“เสียง..เสียงกลายเป็นผู้หญิง” อรุณสับสนกับเสียงหวานปานคอลเซนเตอร์ของตัวเอง
เขาพอจะรู้แล้วว่าโดนคำสาปแบบไหนเข้าไป ชายหนุ่มตัดสินใจก้มหน้าดูร่างกายของตัวเองและพบว่าตัวเองไม่ใช่ชายหนุ่มอีกแล้ว
‘ถึงว่าเสื้อมันรัดๆ ใครเขาเอาแตงโมมายัดไว้ในอกเสื้อเนี่ย’
อรุณยังไม่อยากยอมรับก้อนเนื้อมโหฬารที่ยื่นออกมาจากหน้าอกตัวเอง
ขนาดของมันใหญ่พอจะทำให้เขาก้มมองไม่เห็นเท้าตัวเองได้ ที่สำคัญยังนุ่มมือมากด้วย..นี่เขากลายเป็นผู้หญิงไปแล้ว
“พี่อรุณ ริน
เกิดอะไรขึ้น” ณดีซึ่งรอดจากคำสาปมาได้เพราะอรุณช่วย
ตรงมาหาพวดเขาอย่างเป็นห่วง
สิ่งแรกที่เธอเห็นคือชายหญิงคู่หนึ่งที่กำลังลูบคลำร่างกายของตัวเองไปมาโดยไม่สนสายตาใครทั้งนั้น
นักบวชสาวถึงกับต้องอ้าปากค้าง
“ณดี! โชคดีไปที่พี่อินเฟ็คให้ ถ้าโดนคำสาปไปอีกคนต้องแย่แน่ๆ” อรุณวิ่งไปตรวจเช็คว่าเธอไม่เป็นอะไร
หญิงสาวเพียงพยักหน้ารับเบาๆและเหลือบสายตาดูไฟหน้ารถสิบล้อของอรุณที่เด้งขึ้นลงไปมาอย่างสะพรึง
“….ใหญ่”
“นี่มันอะไรกันคะพี่อรุณ
หนูงงไปหมดแล้วเนี่ย ทำไมเราสลับเพศกันได้” รินในร่างผู้ชายเดินมาสมทบบ้าง
อาจเพราะเธอเป็นสาวห้าวเหมือนทอมมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
ภาพลักษณ์ของเธอจึงไม่ทำให้ณดีตกใจแม้แต่น้อย น้องทั้งสองต่างรอคอยคำตอบจากอรุณ
อรุณ ชายหนุ่ม(หญิงสาว) ซึ่งมีฐานะผู้รู้จึงอธิบายไปว่า “ความยากของการล่าเจ้านี่ นอกจากที่ต้องสู้บอสสองตัวคือแม่มดกับบ้านขาไก่ไปพร้อมกันแล้ว
มีปัจจัยอีกอย่างคือ มันสามารถปล่อยคำสาปได้”
“คำสาปที่ทำให้สลับเพศเนี่ยนะคะ
ที่จริงก็ไม่น่ากลัวตรงไหนนี่นา”
“มันไม่ใช่แค่สลับเพศนะครับริน
สลับทุกอย่างเลยต่างหาก ความน่ากลัวของบาบายาก้าคือผู้เล่นไม่มีทางจะรู้เลยว่ามันจะยิงคำสาปแบบไหน
มีทั้งประเภทที่ตัวเล็กลง สาปกลายเป็นสัตว์
แต่ที่ร้ายแรงที่สุดคือที่เราโดนกันอยู่ ลองตรวจข้อมูลตัวละครดูสิ”
รินลองทำดูแล้วก็โวยวายทันที
“คลาสหนูไม่ใช่อัศวินแล้วอ่ะ! กลายเป็นอะไรก็ไม่รู้
อ่านว่าเรนเจอร์เหรอ?”
ณดีทำตาล่อกแล่ก “เรนเจอร์(Ranger) ฉันพอจำได้
คลาสแรกสายโจมตีไกลสินะคะอาชีพพวกนี้จะใช้อาวุธยิงอย่าง ธนูหรือหน้าไม้เป็นหลัก”
“แต่ฉันมีหอกไงแก หอก
ดูสิหอก!” รินงอแงไม่เลิกด้วยเสียงหล่อๆของเธอ “แล้วพี่อรุณเปลี่ยนกลายเป็นคลาสไหนคะ”
เขาได้ยินแล้วก็ต้องถอนหายใจยาวเหยียดอีกครั้ง
ชายหนุ่ม(หญิงสาว) จึงเรียกกรอบข้อความให้น้องๆดู
สีหน้าพวกเธอเหมือนเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม ณดีเป็นคนแรกที่ลองอ่านออกเสียงคำนั้นออกมา
“โพรเฟ็ท?
(Prophet)”
“คั่ก คั่ก คั่ก คั่ก”
เสียงแหบแห้งของนางแม่มดเรียกความสนใจทุกคนให้มองบนฟ้าอีกครั้ง
บาบายาก้าลอยอยู่ที่เดิมบนครกบินของมัน ระหว่างที่พวกอรุณกำลังสับสน ถ้าเจ้านี่ฉวยโอกาสจู่โจมก็ไม่อยากจะนึกถึงผลลัพธ์
แต่มอนสเตอร์สีดำที่ชั่วร้ายตนนี้กลับพอใจที่จะหัวเราะเยาะศัตรูที่กำลังทุกข์ร้อนมากกว่า
“โอมมะลึกกึกกึ๋ย
นี่คือผลลัพธ์ของการท้าทายเวทมนต์ของแม่มดบาบายาก้า
ตอนนี้ข้าสับเปลี่ยนพลังของพวกเจ้าหมดแล้ว หมดพิษสงแล้วสินะ
เตรียมรอรับความตายได้เลย พวกเจ้าจะต้องกลายเป็นอาหาร ตามไอ้คนแรกที่กลายเป็นกบ”
“ไอ้คนแรกที่กลายเป็นกบ”
อรุณทวนคำพูดแล้วมองหน้ากับทุกคน
ไม่มีใครนึกออกว่าคนแรกที่แม่มดบอกคือใครกันแน่ จนกระทั่งเสียงผู้ชายที่ถูกลืมดังขึ้นตรงปลายเท้าอรุณ
“ลืมกันไวจังนะ”
กบที่มีหัวสีเขียวทำเสียงเหมือนน้อยใจ “แค่สลับเพศกับคลาสก็บ่นกันแล้วหรอครับ
ลองมาเป็นผมบ้างไหมล่ะ”
“คุณเฟย!” คนทั้งหมดอุทานเป็นเสียงเดียวกัน
ส่งผลให้เจ้ากบพองถุงลมแก้มจนป่องอย่างรำคาญ มันกระโดดด้วยกำลังเหนือกบทั่วไปขึ้นมาเกาะบนไหล่อรุณด้วยใบหน้าเรียบเฉยแบบสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ
“ใจหายใจคว่ำหมดเลยคุณเฟย
ผมนึกว่าโดนบ้านขาไก่เหยียบแบนไปแล้วซะอีก”
“ก็เพราะกลายเป็นกบนี่แหละ
ผมเลยอาศัยความที่ตัวเล็กเอาตัวรอดมาจนได้ ประกอบกับได้น้องผมน้ำเงินคนนั้นมาล่อบ้านขาไก่ให้
แต่ไม่รู้ว่าเธอจะทำได้อีกนานแค่ไหนกัน พลังเวทใกล้จะหมดแล้วแน่ะ”
กบเฟยหงชี้นิ้วลื่นๆของมันใส่หน้าบาบายาก้า
“น้องดีว่า ชวนผมเข้าปาร์ตี้ที
เราเสียเวลากับบอสตัวนี้เยอะไปแล้วครับ”
“แต่ว่าคุณเฟย” อรุณปรามด้วยเสียงหวานจ๋อยจนตัวเองยังอาย “แชร์ค่าประสบการณ์กับคนเลเวลเยอะแบบนี้
เดี๋ยวน้องณดีก็ได้ค่าประสบการณ์ไม่พอหรอก”
“ผมเลยซื้อใบค่าหัวบาบายาก้าตอนเราอยู่ที่ท่าเรือมายังไงล่ะ
ลืมหลายอย่างไปแล้วนะ ภารกิจที่อยู่ในกระดาษใบนั้นให้ค่าประสบการณ์ตั้งเยอะแยะ
แค่ผมกับคุณฆ่าบอสเสร็จ ค่อยให้น้องดีว่าไปขึ้นรางวัลก็ได้นี่นา”
อรุณถึงบางอ้อทันใด
“ใบค่าหัวนี่เอง งั้นก็ไม่ต้องยั้งมือแล้วสินะ”
“นี่พี่เฟย
พูดจาซะใหญ่โต แต่พี่เป็นกบไปแล้วไม่ใช่เหรอ จะต่อกรกับแม่มดด้วยวิธีไหนล่ะ
โดนสากฟาดทีเดียวแบนเป็นกล้วยตากพอดี” รินขัดขึ้นด้วยเหตุผล
อรุณก็คิดตรงกัน ก็จริง เฟยหงกลายเป็นกบไปแล้ว จะเอาอะไรไปสู้
“ถึงจะเป็นกบ
แต่ก็เป็นกบเลเวลเก้าสิบนะครับ ระหว่างที่พวกน้องกำลังสู้อยู่
ผมได้ศึกษาทักษะในร่างกบไว้เรียบร้อยแล้ว น่าเจ็บใจมาก
มันมีประโยชน์กว่าสกิลคลาสผู้ปลุกเสกของผมซะอีก...”
กบเฟยหงพ่นลมร้องอ๊บๆ “ไม่มีเวลาอธิบายแล้ว
ชวนผมเข้าปาร์ตี้เร็วเข้า”
“ได้ค่ะ!” ณดีทำตามคำบัญชาของกบอย่างว่าง่าย ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่บาบายาก้า
เริ่มร่ายเวทมนต์บทใหม่ของมันพอดี
“คั่ก คั่ก คั่ก
สั่งเสียกันเสร็จแล้วสินะ งั้นก็ถึงเวลาตาย” นางแม่มดควงสากและไม้กวาดที่มีอักระเวทสีเขียวปรากฏขึ้นมาเต็มไปหมดไว้เหนือหัว
มันร่ายเวทโอมมะลึกกึกกึ๋ยตามเดิมแล้วยิงแสงเลเซอร์สีม่วงโจมตีพวกอรุณแบบหมู่
“ทุกคนหลบหลังผม” กบเฟยหงสั่งแล้วกระโดดขวางแสงเลเซอร์อย่างกล้าหาญ “ท่าไม้ตาย
พลังลมปราณเซียนกบ!”
“อึ่งงง”
เจ้ากบหัวเขียวอ้าปากน้อยๆของมัน
ทันใดนั้นก็เกิดพลังปราณสีเขียวหมุนวนรอบร่างของมันราวกับน้ำวน
ดูดลำแสงสีม่วงทั้งหมดของแม่มดเข้าไปในท้อง จนร่างกายขนาดเล็กพองออกจนเหมือนบอลลูน
“ดูด…ดูดเข้าไปแล้ว” อรุณเห็นวิชาพิสดารของกบแล้วก็ทึ่ง
เขาอยากจะขัดเหมือนกันว่าทำไมเป็นกบแล้วถึงร้องเหมือนอึ่งอ่าง
แต่เขาดีใจเกินกว่าจะสนใจเหตุผลใดๆทั้งปวง โลกแห่งสีสีนของคัลเลอร์แคลชนั้นเต็มไปด้วยสิ่งมหัศจรรย์มากมายอยู่แล้วนี่
“อ่างงงงง”
กบเลเวลเก้าสิบ
ชะเง้อหัวขึ้นมองแม่มดก่อนจะอ้าปากของมันอีกครั้ง
ลำแสงเลเซอร์ที่มันดูดกลืนเข้าไปเมื่อครู่ถูกพ่นกลับออกมใส่เจ้าของของมันเอง “เป็นไปไม่ได้!”
บาบายาก้าครวญครางด้วยอาการตื่นกลัวสุดขีด
มันพยายามบินหนีด้วยครกก็ไม่ทันการ ร่างของหญิงเฒ่าถูกแรงระเบิดนั้นซัดร่วงจากครกหินหล่นลงมาหัวกระแทกพื้นสิ้นใจทันที
พร้อมกับบ้านขาไก่ที่รีบวิ่งหนีเข้าป่าไปในเวลาเดียวกัน
ช่างรักเจ้านายของตัวเองจริงๆ
53,100!
[ผู้เล่นดีว่า
ระดับนักผจญภัยเพิ่มเป็น 39]
[ผู้เล่นไพริน
ระดับนักผจญภัยเพิ่มเป็น 42]
[ผู้เล่นเฟอร์น่า
ระดับนักผจญภัยเพิ่มเป็น 40]
รุ่งเช้าของวันถัดมา
พนักงานหญิงประจำท่าเรือของระบบยังคงทำหน้าที่ของตัวเองอย่างขันแข็งตามปกติ
ภาระหน้าที่ของเธอยังล้นมือเหมือนเดิมเพราะต้องคอยให้บริการผู้เล่นมากหน้าหลายตา โดยเฉพาะกลุ่มใหญ่จากกิลด์บลัดมูนที่กระเป๋าหนักเป็นพิเศษ
เมื่อสีสันมาปะทะกันจะเกิดสิ่งมหัศจรรย์มากมาย เธอจำคำโฆษณาของเกมได้ดี
เพียงแต่ว่าเช้านี้มันจะประหลาดเหนือจินตนาการเกินไปหน่อยรึเปล่า
ผู้เล่นกลุ่มหนึ่งที่มีจำนวนเพียงแค่สี่คนกำลังนั่งแบบเข่าชนกันอยู่ในครกบินได้ซึ่งมีสากยาวๆหมุนติ้วทำหน้าที่ดุจใบพัด
เรียกเสียงฮือฮาได้มากโขเพราะนั่นเป็นหลักฐานว่าพวกเขาสามารถจัดการบอส บาบายาก้า ได้สำเร็จ
ทันทีที่ชายหญิงกลุ่มนี้เทียบท่า เสียงพูดคุยก็ดังเซ็งแซ่ยิ่งกว่าเก่า
แต่ละคนช่างไม่ธรรมดาเลย
คนที่นำแถวมาคือหญิงสาวสองคนซึ่งดูปกติที่สุด คนหนึ่งเป็นนักบวชคนสองเป็นนักเพนจร และที่ขนาบหลังมาด้วยคาดว่าจะเป็นแฟนรูปหล่อของหนึ่งในพวกเธอ
พนักงานหญิงคิดแล้วก็อิจฉา ผู้ชายผมทองสูงยาวเข่าดี แถมเล่นคลาสอัศวินซะด้วย อยากได้มาเดินคุ้มกันสักคนจัง
“สวัสดีค่ะคุณลูกค้า
อยากจะใช้บริการอะไรคะ” เธอปั้นยิ้มอย่างที่ทำมาตลอด
“จะมาขึ้นค่าหัวบาบายาก้าน่ะค่ะ”
ลูกค้าสาวสวยผมน้ำเงินแจ้งความประสงค์
ไม่มีคนมาขอใช้บริการนี้ก็นานมากแล้วแฮะ
“การจะขึ้นค่าหัวของบอสต้องใช้ไอเทมใบประกาศจับมาแลกนะคะ
ไม่ทราบว่าคุณลูกค้ามีหรือเปล่า”
“ขอเวลาหยิบหน่อยนะ มันอยู่ในชุดนี่แหละเฟอร์น่า”
สมาชิกกลุ่มสุดท้าย เดินตรงเข้ามาพร้อมกับแรงสั่นกระเพื่อมบริเวณช่วงหน้าอกของเธอ การเคลื่อนไหวแค่นั้นก็ทำให้ผู้ชายที่มุงดูอยู่น้ำลายหกกันเป็นแถว ถ้าจะให้พนักงานหญิงหาคำมาอธิบายสิ่งที่เธอเห็นก็คือ “ใหญ่” นี่นมหรือลูกแตงโมคะคุณลูกค้า!
“ทะ ทำไมมันลำบากขนาดนี้นะ”
สาวผมสั้นสีดำผู้มีหน้าอกเป็นอาวุธบ่นกับตัวเองขณะพยายามหยิบแผ่นกระดาษที่ซุกเอาไว้ในอกเสื้อออกมาให้จงได้
เธอใช้ความพยายามอยู่นานมากกว่าจะดันก้อนเนื้อไร้ประโยชน์คู่นั้นออกไปให้พ้นทาง
เปรี๊ยะ! กระดุมเม็ดน้อยทนรับแรงบีบอัดไม่ไหว
ถึงกับขาดกระเด็นหลุดจากเสื้อของเธอคนนั้นในทันใด สิ่งที่สร้างจากแผ่นหินสีเทาซีดๆนั้น พุ่งเข้าใส่หัวกบสัตว์เลี้ยงบนไหล่ของเธอจนมันร้องจ๊าก!
“โอ้ย ตา ตาผม!”
เจ้ากบมันกำลังบ่นค่ะท่านผู้ชม
“โทษทีคุณเฟย
ก็เสื้อมันรัด จะให้ทำยังไง” สาวผมดำบอกสัตว์เลี้ยงด้วยเสียงหวานเยิ้ม
แล้วยื่นกระดาษมาให้เพื่อนร่วมทีมผมชมพูซึ่งเป็นนักบวช เธอรับมันเอาไว้ด้วยอาการหนักอกหนักใจ
มากทีเดียว
สาวนักบวชสาวกดูเหมือนะเริ่มอายแทนเพื่อตัวเองเหมือนกัน เลยส่งใบประกาศจับให้พนักงานโดยไม่พูดอะไร
เจ้าหน้าที่สาวจึงได้แต่ทำตามหน้าที่ของตนด้วยการมอบชุดเซ็ตนักล่าแม่มดให้หนึ่งชุด
เงินรางวัลนำจับสองหมื่น และค่าประสบการณ์หนึ่งหมื่นแปดพันจุดสำหรับเธอ
[ผู้เล่นดีว่า
ระดับนักผจญภัยเลื่อนเป็น 45 ค่ะ]
“ทำสำเร็จแล้วนะณดี ดีใจด้วย” เจ๊อกใหญ่แสดงความยินดีกับเพื่อนร่วมปาร์ตี้ที่เพิ่มระดับแบบติดจรวด
นักบวชผมชมพูก็ก้มหัวเป็นการขอบคุณเช่นกัน “เพราะพี่อรุณกับพี่เฟยแท้ๆเลย
ฉันเลยมาถึงจุดนี้ได้”
“พูดเกินไปแล้วครับ เพื่อน้องดีว่า
เรื่องแค่นี้หมูๆ” เจ้ากบขยับหัวตอบเธอด้วยความเก๊กแบบกบๆ
มันกระโดดขึ้นไปนั่งบนหัวของนักบวชสาวแทน “ผมเริ่มจะหิวแล้วสิ
ไปหาอะไรกินฉลองกันหน่อยดีกว่าครับ”
“นั่นสินะ ไปกันเถอะแก
กินอาหารเม็ดแค่มื้อเดียวก็เบื่อจะแย่แล้ว ไปๆๆ”
“รินอะ ฉันว่าเอาเงินไปซื้อหอกใหม่ให้เธอก่อนเถอะ”
อัศวินรูปหล่อกอดคอผู้เล่นนักบวชคนนั้นแล้วลากตัวเธอจากไปพร้อมกับเพื่อนที่เป็นนักพเนจรและกบพูดได้ ‘งานของเราก็จบไปอีกอย่างหนึ่ง’
พนักงานสาวคิดขณะมองลูกค้ากลุ่มนั้นเดินหายเข้าไปท่ามกลางฝูงชนของท่าเรือ
“ลูกค้าคนถัดไปเชิญค่า…เหวอ!”
ผู้ที่ทำให้พนักงานตกใจ คือสาวผมสั้นสีดำที่บัดนี้กำลังเอาไฟหน้ารถสิบล้อทิ่มหน้าเธอด้วยอาการเหนียมอาย
ต่อให้อีกฝ่ายเอามือปิดยังไงก็ไม่สามารถสู้ความมโหฬารจนล้นทะลักของสิ่งนั้นได้ แค่ขยับก็กระเพื่อมดึ๋งดั๋งแล้วนี่ ยังจะอยู่โชว์อีกเหรอ
“ค่ะ คุณลูกค้า ต้องการอะไรเพิ่มเติมไหมคะ”
เธอทำใจดีสู้เสือยิ้มถามเต็มที่
“คือว่า คือว่านะ” อรุณกระซิบถามเสียงเบาเหมือนยุง “ที่นี่มีร้านขายเสื้อหรือเปล่า”
ความคิดเห็น