คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #32 : ep24 - Stalk n' Erase
“โจมตีใส่เรื่อยๆ
แล้วก็ทำตามที่ผมสั่ง ถ้ายังดิ้นหรือโวยวายอีกไม่จบแค่อุ้มแน่” อรุณปั้นหน้าจริงจังแล้วสางผมที่ปรกหน้าเธอออกให้มองเห็นชัดๆ “บอกผมด้วยว่าสโตกเกอร์กำลังทำอะไรอยู่”
หญิงสาวร้องอู้อี้ตอบด้วยสีหน้าไม่พอใจอย่างแรง ‘เล่นบทโหดก็ต้องเอาให้สุด’
คิดเสร็จอรุณก็ตัดสินใจเปิดปากอันย่าออก
“อยู่ห่างแค่ไหน!” ชายหนุ่มตวาดถาม
“เข้ามาเรื่อยๆ
ห่างไม่ถึงสิบเมตรแล้วค่ะ...ตอนนี้ ตอนนี้หายตัวไปแล้ว!!”
‘สกิลร่นระยะ’ อรุณสรุปใจความในเสียงสั่นเครือ “อันย่า ใช้ท่าม่านกระจก”
“อื้อ!” หญิงสาวพยักหน้ารับอย่างแรงจนฮู้ดหงายออก สาวหูกระต่ายร่ายคาถาเพียงเสี้ยววินาทีตามคำสั่ง
ก็บังเกิดวงเวทสีขาวฟ้าประทับไว้บนพื้น มันเปล่งแสงเจิดจ้าในอึดใจต่อมา ตอนเงาสีแดงตวัดวูบอย่างกะทันหันราวกับเคียวมัจุราช
“ทวินแฟง! (Twin Fang)”
0!
0!
ไม่ใช่ใครนอกจากชายสวมหน้ากากซึ่งกระโดดปักอาวุธเป็นลำแสงสีแดงสองสายเข้าปะทะกับม่านกระจกอย่างแรงจน
หากไม่มีทักษะสีฟ้า-ขาวของอันย่ากันไว้ คาดว่าหนุ่มสาวทั้งสองคงเสร็จมันทั้งคู่
“พวกแก~” นักฆ่าบันดาลโทสะแทงมีดดาบใส่ม่านกระจกอย่างไร้ผล เสียงกระแทกนั้นยิ่งทำให้อรุณพยายามกัดฟันเร่งฝีเท้าขึ้นไปอีก
แต่ความเหนื่อยล้าแทบขาดใจนั้นไม่ทำให้เขาหยุดออกคำสั่ง
“ถ้ามันหายตัวอีกก็ใช้กระจกขวาง ยิงอัดมันไปเรื่อยๆอย่าให้ใช้ท่าไม้ตายได้”
“รู้ดีจังเลยนะคะ”
อันย่ายิงคำถามแทน “หน้ากากนั่นช่วยป้องกันการตรวจสอบข้อมูลอยู่
ทำไมถึงดูออกว่าเล่นคลาสสโตกเกอร์ล่ะ”
“นี่คุณ
ใช่เวลาถามที่ไหนล่ะ อยากโดนมัดปากอีกเหรอไง”
“อุตส่าห์ถามดีๆแล้วนะ
ตะคอกทำไมเนี่ย แล้วก็พูดใหม่ซิว่าใครตัวหนัก เราแค่ห้าสิบกว่าๆเอ…ม่านกระจกหมดเวลาแล้ว!”
“เวรเอ้ย! มีท่าอะไรที่มันขังได้นานกว่านี้มั้ย”
“ก็มีสกิลเดียวนี่แหละ โดนเธอจับอุ้มแบบนี้ก็ใช้ท่าอื่นไม่ได้น่ะสิ”
ระหว่างที่การถกเถียงดำเนินไปนั้นก็มีเสียงลั่นเปรี๊ยะๆ
ม่านกระจกของทักษะ‘มิเรอร์ เคจ’ ถูกกระแทกร่วงเป็นชิ้นๆเมื่อหมดเวลาของมัน
อรุณที่กำลังขึ้นสู่ทางลาดรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนจากศัตรู อารมณ์ไม่ต่างกับตอนไฮดราวิ่งเข้าใส่แม้แต่น้อย
นักฆ่ากำลังใช้ทักษะสักอย่างเพื่อร่นระยะทางเป็นครั้งที่สาม
“ทักษะของสโตกเกอร์ใช้พุ่งโจมตีได้ในระยะไกล
ให้ผลลัพธ์เด็ดขาดระดับปลิดชีพในทีเดียว แต่คูลดาวน์ช้าเลยใช้ได้อย่างมากหนึ่งชุดต่อการต่อสู้
ก่อนหน้านี้มันใช้มาสองท่าแล้วคือ ‘อัลติเมท พรีเดชั่น’
กับ ‘สลิธเธอร์’ เสียงดังแบบนี้น่าจะเป็น...”
“เป็นอะไรก็บอกมาเถอะค่ะ
ตอนนี้กระสุนก็ยิงไม่เข้าแล้ว!”
‘กระสุนยิงไม่เข้า’ การอธิบายอย่างตระหนกของอันย่าช่วยให้เขานึกออก มันคือทักษะ ‘เร็กเลส’ ซึ่งสามารถทำให้เข้าประชิดตัวเป้าหมายพร้อมโจมตีหนึ่งครั้งแบบไม่พลาดเป้า
ถ้าอย่างนั้นต่อให้อรุณวิ่งหนีไปก็เปล่าประโยชน์
ในพริบตาแห่งความเป็นตายอรุณจึงหมุนตัวกลับหลังแล้วปล่อยให้อันย่าเป็นอิสระ
เขาประกาศใช้สกิล “เพล อาร์มาเมนท์” เพื่อเปลี่ยนเชือกที่พันตัวเธอเป็นโล่ว่าวอันใหญ่
เพียงแค่เอ่ยจบพยางค์ คมดาบของชายใส่หน้ากากที่มีพลังงานสีเขียวหุ้มตัวไว้ก็ทิ่มใส่ด้านหน้าอย่างจัง
เปรี้ยง โล่พลังงานไร้สีระเบิดเป็นเสี่ยงเพราะต้านพลังที่แกร่งกว่าไม่ไหว
อรุณกระเด็นหงายหลังอย่างไม่เป็นท่าโดยมีอันย่าทับตัวเอาไว้ในตำแหน่งเดิม
เขารอดจากการโจมตีมาได้แต่ก็ติดสถานะมึนงงจนขยับตัวไม่ไหว
“อั่ก!” กลายเป็นสโตกเกอร์ที่บาเจ็บเสียเอง ทักษะเร็กเลส
ไม่ได้ป้องกันความเสียหายระหว่างพุ่งโจมตี แต่จะเอามาทบรวมกันหลังจบสกิล
กว่าจะมาถึงตัวอรุณมันโดนยิงไปไม่รู้เท่าไหร่ อาการจึงเข้าขั้นสาหัส
ถึงเขาจะขยับไม่ได้
แต่ก็มีอันย่าอยู่ อรุณคิดว่ามันไม่กล้าเสี่ยงโจมตีผลีผลามจึงใช้รูนสีดำหายตัวไปในความมืดแทน
“รอดแล้ว...อย่างน้อยก็ตอนนี้”
ชายหนุ่มไม่เคยโล่งใจเท่านี้มาก่อนตั้งแต่เข้าเกมมา
ตอนวิ่งหนีไฮดราพ้น ทั้งปราบก็อบลิน จนถึงซ้อนมอเตอร์ไซค์หนีต้นไม้เดินได้นั่นอีก
อย่างที่บอกไปตอนแรกว่าสโตกเกอร์มีคูลดาวน์ที่ยาวนาน กว่าเจ้าหน้ากากมันจะฟื้นตัวเสร็จคงวางแผนรับมือกับอันย่าเรียบร้อยแล้ว
พูดถึงแม่กระต่ายน้อย
เธอฉวยโอกาสที่เขานอนแช่อยู่ลุกพรวดขึ้นมาใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ซึ่งไม่ใช่สไตล์นักสำรวจ
หญิงสาวมองดูเขาด้วยตาเขียวปัดครู่หนึ่งจึงก้มตัวแล้วยื่นมือมาให้ ‘ช่วยเราลุกเหรอ ใจดีจังเลยน้า’
เพี๊ยะ!!
ที่ไหนได้เขากลับโดนตบแทน
ไม่เคยโดนผู้หญิงคนอื่นตบนอกจากวาวมาก่อนเลยแฮะ เขาลูบแก้มตัวเองแล้วบ่นออกไป “อุตส่าห์รอดทั้งที จะตบผมให้ได้อะไรขึ้นมาเนี่ย”
เธอทำท่าจะตบเพิ่มอีกฉาดหนึ่ง
“ได้ชำระหนี้ค่ะ เราติดบุญคุณอรุณที่แบกเราขึ้นบันใด
แต่อรุณก็ถือวิสาสะแต๊ะอั๋งเหมือนกันนะ รวมๆแล้วนับว่าหายกัน”
“ไม่นับตอนแบกคุณหนีมาหน่อยเหรอ”
อรุณโวย เขาหายจากสถานะมึนงงได้ทันก่อนมีรอยแดงบนหน้าเพิ่มอีกรอย
ชายหนุ่มลุกขึ้นนั่งยองๆเพื่อสบตาอันย่าเป็นรอบที่ร้อย “ก็คุณรั้นจะสู้กับมันท่าเดียว
ทั้งที่ขาก็ขยับไม่ได้ ไม่ช่วยสงสัยเป็นศพอยู่บนพื้นแล้วมั้ง”
“หึ..รู้ดีอีกแล้วนะว่าขาเราตอนนั้นขยับไม่ได้
เป็นพวกเดียวกับสโตกเกอร์คนนั้นเหรอไง” หญิงสาวตอบโต้อย่างร้อนแรง
“จะใช่ได้ยังไงเล่า
สมัยก่อนผมก็เล่นสโตกเกอร์”
“เหรอคะ
สมัยยังเป็นเกมที่พี่ดอน บอกน่ะเหรอ”
“ไม่เชื่อก็ตามใจ
แต่คุณต้องฟังผมอธิบายเรื่องคลาสนี้สักหน่อยแล้วล่ะ
ไอ้นักฆ่าคนนั้นมันจะกลับมาอีกเมื่อไหร่ไม่รู้ ก่อนอื่นต้องรีบไปที่ห้องบอสให้เร็วที่สุด
ที่แคบๆมีแต่เราจะเสียเปรียบ ขาหายเลือดออกแล้วใช่ไหม”
หูกระต่ายบนฮู้ดอันย่าส่ายเอนไปมาตามเจ้าของ
เธอยื่นมืออีกข้างมาช่วยพยุงเขาลุกขึ้นยืนแล้วเดินนำไปก่อนทันที
เธอทิ้งระยะห่างมากกว่าตอนเจอกันครั้งแรกด้วยซ้ำ
สโตกเกอร์ (Stalker) ซึ่งแปลตรงตัวได้ว่า
นักลักลอบติดตาม เป็นขั้นสูงสุดของสายคลาสนักล่าซึ่งมีความสามารถในการต่อสู้ในระดับยอดเยี่ยม
ผู้เล่นจะได้ทักษะติดตัวสำหรับตามล่าเป้าหมายอย่างต่อเนื่องนานๆ
ต่างจากสายนักฆ่าโดยตรง ซึ่งปลิดชีพในครั้งเดียว พวกนักล่าจะไล่โจมตีศัตรูอย่างต่อเนื่องแบบไม่หยุดหย่อนแทน
แม้จะไม่สามารถปลิดชีพได้อย่างรวบรัดหมดจด
แต่สโตกเกอร์มีทักษะมากมายไว้ประชิดตัวเหยื่อซึ่งกำลังหลบหนีแบบที่นักฆ่าไม่มี ยกตัวอย่างจากชายสวมหน้ากากได้เช่น อัลติเมทพรีเดชั่น (Ultimate Predation) กับ สลิธเธอร์ (Slither)
และที่ขาดไม่ได้ก็คือท่าไม้ตายอย่าง
เวอร์ริง เดธ (Whirling
death) ซึ่งเป็นการปาอาวุธเป็นกงจักรเพื่อโจมตีระยะไกลสุดขีด
สถานะผิดปกติแบบพิเศษอย่าง เลือดออก อันร้ายกาจทำให้อันย่าขยับขาไม่ได้มาแล้ว
ส่วนไหนของตัวละครที่เลือดออกเมื่อเคลื่อนไหวจะสร้างความเสียหายและทำให้ด้านชาไปชั่วครู่ด้วย
“สรุปก็คือแอสซาซินมีโอกาสครั้งเดียว
แต่นักล่าอย่างสโตกเกอร์ สามารถจู่โจมได้ไม่หยุดตราบที่ยังไล่ตามเป้าหมายอยู่ครับ”
“งั้น..คนใส่หน้ากากเมื่อกี้ก็ยังตามเรามาอยู่เหรอ”
“ใช่ เขาแค่กลับไปฟื้นฟูพลังเฉยๆ
เดี๋ยวมาอีกแน่”
อรุณตอบเสร็จก็หันมองด้านหลังทันทีด้วยความระแวง
แต่ไม่มีวี่แววของสโตกเกอร์เลยตลอดสะพานหินที่กำลังลาดชันขึ้นสู่ด้านบน
กริยาของเขาดูเหมือนจะทำให้อันย่าระวังตัวแจไปด้วย
ถึงจะเดินเว้นระยะจากกันแต่ทั้งคู่ล้วนมีอาวุธเตรียมพร้อมอยู่ในมือ
“เราชักอยากรู้แล้วว่าเธอไปทำอะไรไว้
ผู้เล่นเลเวลน้อยๆส่วนใหญ่ไม่โดนคนอื่นจ้างฆ่ากันหรอกนะคะ”
“บางทีเกมนี้อาจจะไม่ชอบขี้หน้าผมมั้ง
ตั้งแต่เริ่มเล่นมา ยังไม่เคยได้อยู่อย่างสงบสุขกับอย่างคนอื่นบ้างเลย
โผล่มาก็ต้องวิ่งหนีไฮดราแล้ว”
“ไปแอบแต๊ะอั๋งใครไว้รึเปล่าคะ
ระบบเลยลงโทษ” อันย่าแขวะ
“เห็นผมเป็นคนยังไงเนี่ย”
อรุณยิ้มเฝื่อน “บอกแล้วนี่ ถ้าผมเอาจริงไม่จบแค่อุ้มหรอก”
ผ่อนคลายกันได้ชั่วคราว
อรุณกับอันย่าก็พบว่าสะพานหินทอดตัวสูงขึ้นไปด้านบนทุกทีจนเหมือนจะมุ่งสู่ยอดเขา บรรยากาศอันศักดิ์สิทธ์เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ
คล้ายว่าอยู่ในบ้านผีสิง ช่องแสงด้านบนก็มีจำนวนน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดส่งผลให้รอบๆกลายเป็นมืดทึบอีกครั้ง
แค่เสียงเบาๆก็ทำให้ใครคนหนึ่งสะดุ้งตั้งท่าพร้อมต่อสู้แลกชีวิต
ครั้งแรกเป็นแค่เสียงฝีเท้าของพวกเขาเอง
และครั้งต่อๆมาเป็นแค่เสียงของกลไกบางอย่างจากห้วงลึกด้านล่าง
โชคดีที่ไม่นานประตูหินก็โผล่ออกมาตรงสุดทาง
ถ้าต้องเดินเงียบๆด้วยความระแวงต่อไปอรุณคิดว่าตัวเองคงประสาทกินซะก่อน
อันย่าเหลือบมองเขาเมื่อเห็นว่าประตูเคลือบด้วยผลึกไร้สี
“มาถึงขนาดนี้ อรุณคงไม่คิดจะหันหลังกลับแล้วนะ”
“ไม่มีทางเลือกนี่ครับ จะตั้งรับสโตกเกอร์คงมีแต่เข้าไปในห้องบอสเท่านั้น”
“ไม่ใช่เรื่องนั้น” เธอขัดเสียงค่อย “ลังเลอยูไม่ใช่เหรอคะ ที่ต้องปล่อยมอนสเตอร์ออกมาตามอีเว้นท์”
“ผมตัดสินใจได้แล้ว”
อรุณไม่ได้โกหก นับตั้งแต่รอดจากสโตกเกอร์เขาก็ครุ่นคิดมาตลอดทาง บางทีระบบอาจจะลงโทษเขาอยู่ตามที่อันย่าก็ได้
ไม่รู้กว่าจะพบวาว เขาต้องประสพเภทภัยแบบไหนอีก
การที่ชายหนุ่มต้องรับบทเป็นผู้ปลดปลดปิศาจร้ายตัวใหม่นี้ ไม่แน่ระบบเบื้องบนก็กำหนดเอาไว้แล้วเช่นกัน
เขาเพียงจับไปที่บานประตูเบาๆผลึกไร้สีก็แตกออก
แผ่นหินขนาดยักษ์เปิดอ้าให้สายลมกรรโชกและแสงสว่างอาบร่างของคนทั้งสองไว้
ลานหินแกะสลักซึ่งปรากฏออกมาทำให้ชายหนุ่มตกตะลึงแทบลืมหายใจ
‘ลานบอสอยู่บนยอดเขาเลยเหรอ’
อรุณเดินเหยียบแผ่นกระเบื้องหินซึ่งปูไว้ทุกตารงนิ้วออกไปรับลมหนาวซึ่งพัดกระหน่ำ
ที่แห่งนี้กว้างมาก จนมองไปสุดเส้นสายตาค่อยพบกำแพงหินตามธรรมชาติขวางกั้นเอาไว้
มันเป็นสนามทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่สร้างขึ้นด้วยการเกลี่ยยอดเขาจนเป็นพื้นเรียบ
เสาที่สลักหัวเป็นรูปหน้ากากสีทองทุกต้นล้วนหันใบหน้าเรียบเฉยของมันไปที่
ศาลาทรงข้าวหลามตัดฝั่งตรงข้ามกับชายหนุ่มพอดี เหมือนต้องการเผ้ามองบางอย่าง
“นั่นหรือเปล่าคะ ผลึกที่ต้องทำลาย”
อันย่าชี้ให้เขาดูก้อนหินใสก้อนใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ภายในภายในศาลาอย่างโดดเดี่ยว
“แต่มันไม่ได้ไม่มีสีนะ”
อรุณเห็นตรงกับเธอ เจ้าผลึกนั้นกลับมียอดเป็นสีเหลืองและโคนเป็นสีฟ้า
ต่างจากทุกๆก้อนที่ผ่านมา “อาจจะต้องผ่านเงื่อนไขบางอย่างก่อนถึงจะเข้าไปทำลายได้นะผมว่า
เราลองเข้าไปดูก่อนดีกว่า คลาสของอันย่าถนัดเรื่องแบบนี้ไม่ใช่เหรอ”
“ระวังหลังให้ด้วยค่ะ
สโตเกอร์คนนั้นไม่รู้จะมาอีกเมื่อไหร่”
ตกลงกันเสร็จอันย่าก็ถือปืนตรงเข้าไปทางศาลาหินอย่างระวังตัวโดยมีชายหนุ่มเผ้าปากทางไว้ให้
ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นดีจนกระทั่งเธอมาเกือบจะถึงเป้าหมาย ใบหน้าสีทองบนยอดเสาทั้งหมดก็พลันยิงลำแสงสีฟ้าออกมาจากดวงตา!
แสงสีฟ้านั้นไวมากจนอันย่าไม่อาจจะหลบเลี่ยงได้ทัน
โชคดีที่มันไม่ทำอันตรายใดๆแก่เธอ แต่ละเส้นผ่านตัวละครของอันย่าไปราวกับไม่มีเธออยู่ตรงนั้นก่อนจะฉายภาพตัวประหลาดร่างยักษ์ออกมา
เจ้าสิ่งนั้นเดินกระแทกพื้นมาหยุดอยู่หน้าสาวหูกระต่าย
อรุณเล่นเกมนี้มาก็มาก
จึงเห็นมอนสเตอร์พิสดารในเกมคัลเลอร์แคลชมาแล้วทุกรูปแบบ(ผ่านจอคอม) แต่ไม่เคยเห็นตัวอะไรพิลึกเท่านี้มาก่อนเลย
ภายนอกเหมือนเป็นรูปปั้นลิงกอริลล่าซึ่งใส่ชุดเกราะ มีหัวเป็นมนุษย์ใส่หน้ากากสองหัวและมีแขนสี่แขน
ประกอบกับที่ร่างกายแบ่งเป็นสองซีกคือซีกสีน้ำเงินกับเหลืองเหมือนนกมาคอว์
ถ้าระบบไม่บอกชาตินี้คงไม่ทราบว่าจะเรียกมันเป็นตัวอะไร
ชื่อ: สุพีเรีย วาร์เด็น สี: ฟ้า-เหลือง ระดับ: 60 ประเภท: จักรกล |
หุ่นยนต์ที่รับหน้าที่จากเทพแห่งสีสันให้กักขังผู้รุกราน
เมื่อครั้งอดีตถูกใช้เป็นเครื่องจักรพิฆาตในการสงคราม แม้จะผ่านไปนับศตวรรษก็ยังทำหน้าที่อยู่โดยไม่ว่างเว้น
มีเหตุผลและสติปัญญาเลิศกว่าจักรกลทั่วไป |
“เจ้าต้องการสิ่งใดนักผจญภัย”
ซีกสีฟ้าซึ่งแขนใหญ่หนาและถือลูกแก้วถามด้วยเสียงนุ่มลึก
มันดูเป็นมิตรกว่าภายนอกถมเถ
อันย่ารวบรวมคำพูดสั้นๆแล้วตอบว่า
“เรามาทำการสำรวจแค่นั้น
ช่วยหลีกทางให้เราไปดูผลึกข้างหลังหน่อย”
ซีกสีเหลืองซึ่งมีแขนเรียวยาวเหมือนหอกสามแขน
รีบปฏิเสธเสียงแหลม นิ้วของมันที่เป็นท่อทรงกระบอกตีกันไปมาราวกระดิ่งลม “ไม่ได้เด็ดขาด! เจ้าจะไม่ได้เข้าไปใกล้ผลึกนั่น
และจะไม่ได้อะไรกลับไปทั้งนั้น!”
“หน้าที่ของข้าคือป้องกันไม่ให้มีใครเข้าไปใกล้ผู้รุกราน
นักผจญภัย” ฝั่งสีฟ้าไม่น้อยน่า “ถ้ายังยืนกรานล่ะก็
เกรงว่าคงต้องผ่านข้าไปเสียก่อน นั่นไม่ใช่ความคิดที่ดีหรอก”
“เอาไงคะอรุณ ถ้าบุกเข้าไปแล้วโดนสโตกเกอร์ตีซ้อน
ฉันวางมิเรอร์ เคจไม่ทันนะ”
อันย่าร้องถามความเห็นเขาซึ่งอยู่ตรงปากทาง
ถึงอันย่าจะมีระดับสูงกว่าบอสตัวนี้ แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นบอส แค่พลาดท่าหน่อยเดียวก็อาจกลับจุดเซฟได้ง่ายๆ
ยิ่งตอนนี้ไม่ทราบว่านักฆ่าซุ่มอยู่ตรงไหนกันแน่จึงไม่อาจรีบตัดสินใจ
“มีอาร์ติแฟคอะไรที่ใช้ถ่วงเวลาหรือขวางทางมั้ยครับ!”
“มีค่ะ งั้นเดี๋ยวเรา.....”
อรุณเห็นอันย่าจู่ๆก็เงียบไปแล้วมองทางตัวเองค้างอยู่แบบนั้นก็เสียวหลังวูบ
เรียกดาบจากทักษะ เพล อาร์มาเมนท์ ขึ้นมาพร้อมหมุนตัวกลับไปทางประตู
แขกไม่ได้รับเชิญผู้สวมหน้ากากมาถึงแล้ว
“เปลี่ยนแผนครับ!
เอาสโตกเกอร์คนนี้ก่อน”
พริบตานั้นนักฆ่ารีบปาดาบเพื่อใช้ท่าไม้ตาย
“เวอร์ริง เดธ!” กงจักรอันร้ายกาจพุ่งเข้าใส่อรุณด้วยความเร็วสูงสุด
เขากับอันย่าเคยโดนท่านี้เล่นงานมาแล้วครั้งหนึ่ง จึงออกฉากหลบได้อย่างไม่ยากเย็น
ขณะนั้นนักฆ่าก็หายไปจากสายตาแล้ว
ชายหนุ่มรู้ว่านี่คือทักษะอัลติเมท พรีเดชั่น ซึ่งช่วยให้หายตัวและพุ่งโจมตีได้จึงไม่นิ่งนอนใจ
รีบเปลี่ยนดาบเป็นโล่พลังงานแล้ววิ่งถอยหลังหาอันย่าในท่าตั้งการ์ด
แม่กระต่ายน้อยรู้ดีว่าถึงคราวต้องตั้งรับจึงเสกวงแหวนเวทบนพื้นระหว่างกลางทั้งคู่ทันที
‘กงจักรบิดไปทางซ้าย กะแล้วว่าไม่โจมตีเข้ามาตรงๆ’
ระหว่างที่เร่งฝีเท้าอรุณก็เหลือบดูข้างหลังพลางใช้ความคิดไปด้วย อาวุธที่ปาออกไปด้วยเวอร์ริง
เดธ จะวกกลับมาหาเจ้าของเสมอ ต่อให้หายตัวอยู่ก็ไม่เว้น ชายหนุ่มจึงพอเดาตำแหน่งของสโตกเกอร์ได้
“อันย่ายิงทางขวา!”
หญิงสาวทำตามคำสั่งด้วยการกราดกระสุนสีฟ้าไปสุ่มๆแบบไม่ยั้ง
ในที่สุดบางนัดก็ชนเข้ากับสิ่งที่มองส่งเลขความเสียหายลอยขึ้นมา นักฆ่าสบถอย่างขัดใจจากตรงไหนสักแห่งแล้ววิ่งไปอีกทางหนึ่ง
คราวนี้กงจักรบิดกลับมาตรงเหมือนเดิม
แต่หมุนออกนอกเส้นทาง อันย่าไม่ต้องฟังอรุณก็รู้ว่าศัตรูย้ายตำแหน่งไปอยู่ทางซ้ายแล้ว
เป็นความเร็วที่สูงจนน่าตกใจ เธอจึงเรียกเสาหนวดกุ้งออกมาจากช่องเก็บของแล้วเขวี้ยงออกไป
ทันที่ที่ปักพื้นดิน
มันก็สร้างตาข่ายไฟฟ้าบังพื้นที่ด้านซ้ายยาวหลายสิบเมตร นักฆ่าที่พุ่งโจมตีเข้ามาจึงชนมันโดยไม่คาดฝันและเปิดเผยตัวในที่สุด
‘รูปร่างแปลกๆแต่เจ๋งดีเว้ย’
อรุณลอบชื่นชมในใจ ในที่สุดเขากับอันย่าก็มาอยู่ในวงแหวนเวท ภายในนี้ทั้งสองจะปลอดภัยเพราะมีม่านกระจกคอยป้องกันไว้
ทันใดนั้น
ขณะทุกอย่างกำลังฉุกละหุก ดอนจึงโทรเข้ามา!
“ติดต่ออะไรตอนนี้”
อรุณปวดหัวจี๊ด “อันย่ายิงไป ผมรับเอง!”
กรอบข้อความโปร่งใสเด้งออกมาด้วยความเร็วสูงเผยให้เห็นดอนยืนอยู่อีกฝั่ง
สิ่งแรกที่ชายหนุ่มถามก็คือหายไปไหนมาตั้งนาน คำตอบของหนุ่มใหญ่นั้นชวนให้หวาดหวั่นไม่ยิ่งหย่อนจากสถานการณ์ตอนนี้เลย
“อันย่า! อรุณ!
รีบออกมาจากดันเจียนก่อน เงาดำนั่นเป็นนักฆ่าจริงๆด้วย ฉันพลาดท่าโดนมันเล่นทีเผลอกลับจุดเซฟของโซนนี้ไปแล้ว
ตอนนี้อยู่ไหนฮะ”
‘เพราะต้องรอเกิดใหญ่เลยติดต่อไม่ได้นี่เอง’
อรุณแก้ปริศนาได้ในที่สุด “ผมอยู่ที่ยอดเขาแล้ว
ข้างบนนี้เป็นลานบอส คงถอยกลับไม่ทันแล้วล่ะ”
“ตอนนี้หนูกำลังสู้กับสโตกเกอร์ที่ว่าอยู่นี่แหละค่ะ
พี่ดอนเอามิสเตอร์ ออนเดอะร๊อคมาช่วยด่วนเลยนะ”
ได้ยินเขากับอันย่าตอบเช่นนั้น
ดอนถึงกับคิ้วย่น “บ้าจริง! ยังมีสโตกเกอร์อีกคนงั้นเหรอ
นักฆ่ามันชักจะเยอะเกินไปแล้วนะ
อรุณสังหรณ์ใจไม่ดี “ไม่ได้โดนสโตกเกอร์ฆ่าแล้วโดนใครที่ไหนฆ่าเนี่ย!?”
“ปาปิยอง” ดอนตอบเครียด “ยัยเด็กนั่นตามมาเชือดนายถึงนี่แล้วอรุณ”
‘ฉิบหายละ’
ชายหนุ่มกลืนน้ำลายเมื่อรู้ว่ามีคนอยากได้ค่าหัวเขาเพิ่มมาอีกหนึ่งราย
อรุณว่ามีคนจ้างนักฆ่าเก่งๆอย่างยัยเด็กนรกมาจัดการผู้เล่นหน้าใหม่อย่างเขานี่ก็แปลกแล้ว
ตอนนี้ยังมีนักฆ่าเบอร์สองโผล่ออกมาอีก นี่เขาไปฆ่าพ่อแม่คนสร้างเกมไว้หรอครับ
“อะเวค เดอะ บีสต์!”
ตัดมาที่ฝ่ายของสโตกเกอร์ซึ่งสามารถใช้มีดดาบปัดกระสุนของอันย่าได้อย่างต่อเนื่อง
ประกาศใช้ทักษะสีของตัวเองทันทีเมื่อตาข่ายไฟฟ้าจากเสาหนวดกุ้งหมดเวลาแสดงผล
ร่างกายเขาเหมือนมีพลังสีเขียวห่อหุ้มและขยายใหญ่ขึ้นเป็นเท่าตัว
นี่เป็นทักษะสีเขียวที่ช่วยฟื้นฟูพลังชีวิตจำนวนมากได้อย่างต่อเนื่องแถมเพิ่มพลังโจมตีกายภาพมหาศาล
ชายสวมหน้ากากกำลังคิดที่จะเผด็จศึกทั้งคู่ในครั้งเดียว
ด้วยสัญชาติญาณดิบของสัตว์ร้ายสีเขียว
สโตกเกอร์จึงพุ่งชนเข้ามาตรงๆ กระเบื้องหินที่ปูบนพื้นหลุดกระจายแหวกเป็นทางให้มันตรงเข้ามาดุจหัวรถจักร
อันย่าหยุดยิงปืนแล้วเรียกม่านกระจกของวงแหวนเวทให้ทำงานทันที
‘กระจกนี่กันชนได้
แต่พื้นใต้กระจกนี่สงสัยจะไม่ไหวนะครับ” ชายหนุ่มเอ่ยอย่างหวาดเสียว
“เดี๋ยวก็รู้กันค่ะ”
แม่กระต่ายน้อยเรียกมีดบินคู่ใจออกมาพร้อมสร้างร่างแยกขึ้นเป็นจำนวนมาก
ทำแบบนี้เหมือนคิดจะโจมตีสวนเมื่อสโตกเกอร์ทะลุเข้ามาได้
แม้แต่เธอเองก็ไม่มั่นใจเหมือนกัน
อ้อเกือบลืมบอกไป
ปาปิยองไม่รู้มายืนอยู่ข้างๆพวกเขาตอนไหนกันแน่ มันเกิดขึ้นในเสี้ยววินาทีแค่นั่นเอง
น้ำหมึกในมือเธอตวัดเหมือนแส้ผ่านลำคอชายใส่หน้ากากไปอย่างแม่นยำ
“แอสแซสซิเนท”
31,900!
ร่างของชายใส่หน้ากากสลายไปในอากาศ ห่างจากอรุณพียงฟุตเดียวเท่านั้นเอง
การโจมตีนั้นโอเวอร์คิลมันในครั้งเดียว สิ่งที่เหลืออยู่เพียงแค่กองเงินจำนวนหนึ่งและเสียงหัวเราะอย่างมีความสุขของเด็กสาวในชุดเดรสเท่านั้น เหตุการณ์ทั้งหมดถูกเขาและอันย่าเผ้าดูอย่างเงียบงัน
“ฮะๆ ฮะ ฮะ ฮะ ฮะๆๆๆ”
ปาปิยองฉีกยิ้มหมุนตัวไปรอบๆราวกับคนบ้า “ฮะๆๆ
มาแย่งเหยื่อปาปิยองคนนี้แล้วเป็นไงล่ะคะ ฮะๆๆ ฮะๆๆ ฮะฮะฮะฮะฮะ~”
ความคิดเห็น