คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : ep14 - การผจญภัยครั้งใหม่
ใจกลางของโบสถ์ประจำเมืองเลมอนวู้ดนั้นขณะนี้กำลังมีนักบวชประกอบพิธีกรรมอยู่แม้แสงจากภายนอกที่เล็ดรอดออกมาจากรูโบ๋บนผนัง จะแสดงให้เห็นว่ามันยังถูกซ่อมแซมจากการโจมตีของก็อบลินครั้งเมื่อวานไม่เสร็จดี แต่ถึงอย่างนั้นบรรยากาศและกลิ่นอายของความศักดิ์สิทย์ก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลย
“เธอได้พิสูจน์ตัวเองว่ามีความตั่งใจจริงที่จะเข้าร่วมเป็นสาวกของเทพแห่งสีสันแล้ว จงลุกขึ้นเถิด ดีว่า ยินดีต้อนรับสู่ศาสนจักรของเรา”
เจ้าหน้าที่ของระบบผู้แต่งตัวเป็นนักบวชประกาศเสียงดังเหมือนระฆังพร้อมเรียกให้ณดีเข้าไปใกล้ๆ อรุณเห็นว่าเธอขัดเขินอยู่นิดหน่อยในตอนแรกจนกระทั่งโดนรินเอาศอกกระทุ้งเบาๆจึงมีความกล้าพอที่จะออกไปยืนเบื้องหน้าได้
“บัดนี้…” หลวงพ่อที่เป็นหัวหน้าของนักบวชทั้งหมดตรงเข้ามาหาณดีพร้อมยื่น ‘คฑาศักดิ์สิทธิ์’ ไปทาบกับหน้าผากของเธอ ทันใดนั้นก็มีแสงส่องผ่านกระจกสีของโบสถ์ลงมาจากรอบทิศทางจนอาบร่างณดีไว้เป็นสีรุ้ง “เธอคือนักบวชสาวก”
[ผู้เล่นดีว่า เลื่อนคลาสเป็น อโคไลท์ค่ะ]
“ว้าวอลังการมากค่ะ”เฟอร์น่าตบมือเบาๆด้วยความชื่นชม น่าเสียดายที่พอณดีก้าวถอยหลังไปรับรางวัลตรงด้านข้างแสงสีทุกอย่างก็หมดลง คราวนี้ถึงตาของพวกที่จะเปลี่ยนคลาสเป็นอัศวินบ้าง รินและผู้เล่นชายอีกเป็นสิบคนเดินตรงไปคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าเหล่านักบวชที่พากันยื่น ‘ดาบศักดิ์สิทธิ์’ ออกมา
พิธีการต่างๆเรียบง่ายกว่าตอนณดีหลายเท่า รินและคนอื่นๆถูกเอาดาบวางพาดไหล่แล้วเปลี่ยนอาชีพเป็นคลาสหนึ่งทันที
[ผู้เล่น ไพริน เลื่อนคลาสเป็น ไนท์ ค่ะ]
สิ้นเสียงเตือนของระบบที่ดังขึ้น เหล่านักบวชจึงพากันแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเองทิ้งให้เหล่าผู้เล่นวิ่งเข้าไปแสดงความยินดีแก่กันและกันราวกับเป็นพิธีจบการศึกษาเลยทีเดียว เฟอร์น่าก็เป็นหนึ่งในนั้น เธอรีบไปขอให้ณดีใส่ชุดใหม่ที่ได้เป็นรางวัลให้ดูเป็นขวัญตาซึ่งกว่าแม่คนขาดความมั่นใจจะยอมผู้เล่นใหม่อีกชุดก็ก้าวเข้ามาเพื่อรับภารกิจเปลี่ยนอาชีพแล้ว
‘สุดท้ายแล้วต่อให้ไม่มีอีเว้นท์ ก็ต้องไปหาไอเทมในดันเจียนอยู่ดี’ อรุณสรุปข้อเท็จจริงที่ได้รับรู้จากการฟังพวกอัศวินมือใหม่พูดคุยกัน ดูเหมือนพวกเขาจะมาเปลี่ยนอาชีพหลังรินกับณดีซึ่งเป็นตอนที่อีเวทน์น่าจะจบลงแล้ว แต่เงื่อนไขในการเปลี่ยนคลาสก็คือต้องไปหาไอเทมในเหมืองดินระเบิดเหมือนกันไม่มีผิด
‘ดังนั้นวิธีในการเปลี่ยนคลาสจะเป็นอย่างเดิมเสมอ’
ชายหนุ่มคิดได้ดังนั้นก็โล่งใจขึ้นมาเปราะหนึ่งแล้วลุกไปแสดงความยินดีร่วมกับทั้งสามสาวด้วยเช่นกัน
ในสมัยที่คัลเลอร์แคลชยังเป็นเกมออนไลน์ธรรมดาอยู่ มันนับเป็นเกมที่ขึ้นชื่อในเรื่องเควสที่เอาแน่เอานอนไม่ได้มากที่สุดเกมหนึ่ง เงื่อนไขในการผ่านภารกิจต่างๆจะสามารถเปลี่ยนได้เองอย่างกะทันกันตามพลวัตของเกมซึ่งมีธีมเป็นโลกที่สีสันมาปะทะกันอย่างไม่หยุดหย่อน ยกตัวอย่างง่ายๆด้วยตัวของอรุณเอง กว่าเขาจะเปลี่ยนคลาสจาก ฮันเทอร์(Hunter) ไปเป็นคลาสสามคือ สโตกเกอร์(Stalker) ได้ก็ต้องไล่ล่ามังกรในโซนสามสีไปอย่างสูญเปล่าถึงหกตัว
‘สงสัยคำร้องที่เราส่งไปเป็นสิบรอบสมัยก่อนจะได้ผลแล้วล่ะมั้ง หวังว่าอินเฟ็คเตอร์นี่จะไม่ใช่ข้อยกเว้นนะ’
อรุณหลุดจากห้วงความคิดในที่สุดเมื่อสังเกตุเห็นว่าสามสามล้วนจ้องมาที่เขาเป็นสายตาเดียว “มีอะไรเหรอริน” ชายหนุ่มคลี่ยิ้มน้อยๆ
“พักนี้พี่อรุณเหม่อบ่อยจังเลยนะคะ มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า รึว่า... กำลังคิดว่าจะพาพวกเราไปเลี้ยงฉลองที่ไหนดี”
“เอ๋ เลี้ยงฉลอง?” อรุณกลอกตาเลิ่กลัก “พี่กำลังนึกถึงเรื่องตอนเล่นเกมสมัยก่อนอยู่น่ะครับ ที่บอกว่าจะเลี้ยงนี่...จะเอาอีกแล้วเหรอ ร้านส้มตำเมื่อกลางวันก็ทีนึงแล้วนี่นา”
รินฉีกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์แล้วพูดเจื้อยแจ้วว่า
“ตอนนั้นพี่อรุณออกออกปากชวนเอง แต่คราวนี้ไม่น่าเชื่อว่าณดีจะเป็นคนสุดท้ายในยี่สิบคนพอดีที่เอาคฑาศักดิ์สิทย์กลับมาได้ แบบนี้มันก็ต้องฉลองกันหน่อยแล้วล่ะค่ะ!”
“ก็จริงแฮะ” อรุณเริ่มเห็นด้วย “พวกอยากจะเปลี่ยนคลาสเป็นนักบวชดูเหมือนจะรวมกันเป็นทีมใหญ่เพื่อล่าคฑาศักดิ์สิทธิ์แค่อันเดียว เราเลยได้รางวัลจากอีเว้นท์เป็นกลุ่มสุดท้ายพอดีทั้งที่มีคู่แข่งมากขนาดนั้น”
“ไหนๆในเกมก็ไกล้จะเที่ยงแล้วด้วย พวกเราไป...อ้าว” อรุณหันมาดูอีกทีสองสาวจอมแก่นก็ลากณดีออกนอกโบสถ์ไปแล้วโดยมาถามเขาสักคำ
‘สถาณการณ์แบบนี้เหมือนว่าเราต้องออกเงินเลยแฮะ’
ทุกย่างก้าวที่อรุณตามไปนั้นชายหนุ่มก็เหลือบมองกรอบข้อความที่แสดงเงินคงเหลือของเขาไปด้วยอย่างหวาดผวา แรกเริ่มเดิมทีเขาก็ไม่ได้มีทรัพย์สินอะไรมากมายอยู่แล้วยิ่ง หลังจากทุ่มเงินเพื่อซื้อไม้เท้าแรร์ให้ณดีแล้วก็ไปกันใหญ่ แต่แล้วหลังจากผจญเรื่องร้ายๆมามากมายเทพแห่งโชคลาภก็เหมือนจะเบื่อในการกลั่นแกล้งเขาแล้ว
“นี่ๆ จานหลักเอาอะไรดีล่ะแก ฉันว่าพิซซ่าก็น่ากินนะ” รินถามรบเร้าณดีทันทีเมื่อก้นแตะเก้าอี้ เรียกได้ว่าแทบจะหยิบเอาป้ายเมนูฟาดลงตรงหน้าเพื่อนแล้วบังคับให้สั่งอาหาร
“งะ งั้นพิซซ่าก็ได้” ณดีนั่งตัวเกร็งยามเห็นราคาอาหาร “แต่ว่ามันแพ...”
“เอาพิซซ่าถาดใหญ่สุดมาเลย แล้วก็สลัดด้วย เฟอร์น่าจะเอาอะไรเพิ่มอีกไหม”
สาวผมน้ำเงินตามน้ำอย่างลื่นไหล “ตามใจรินเลยค่ะ ยังไงคราวนี้รินก็เป็นคนจ่ายอยู่แล้ว แต่ถ้าเปลี่นน้ำเปล่าเป็นน้ำพันซ์ได้...”
“เอาน้ำพันซ์มาสี่ที่เลยค่ะ!!”
‘เต็มที่สุดๆไปเลยแฮะ’ อรุณแอบชื่นชมแม่สาวห้าวที่จัดเต็มกับฉลองให้เพื่อนโดยไม่สนใจสุขภาพทางการเงินของตัวเองแม้แต่น้อย เธอสั่งของกินเล่นมาเพิ่มอีกอย่างสองอย่างแล้วควักสมบัติที่ได้จากคลังของก็อบลินมาตั้งไว้กลางโต๊ะ ขนาดบริกรที่เป็นNPC เห็นแล้วยังต้องรีบยิ้มประจบแล้วตรงเข้าห้องครัวไปโดยพลัน
แม้ที่นี่จะเป็นร้านพิซซ่าและร้านอาหารหนึ่งเดียวในเลมอนวู๊ดนอกจากโรงเตี๊ยม แต่ลูกค้ากลับมีจำนวนน้อยกว่ากันอย่างมากเพราะสู้กับราคาแพงระยับของมันไม่ไหว ดังนั้นลูกค้ารายอื่นนอกจากพวกอรุณแล้วมีเพียงแค่ผู้เล่นระดับสูงอีกสี่กลุ่มเท่านั้น
คนเหล่านี้พอเห็นว่ารินที่มีเลเวลแค่สิบสอง แต่กลับสามารถหาเงินมาใช้จ่ายได้มากมายก็เลยนึกสนใจ ล้วนมองเป็นสายตาเดียว
“ริน เสียงดังเกินไปจนรบกวนโต๊ะอื่นแล้วเห็นไหม” ณดีติเพื่อนด้วยอาการกระสับกระส่าย เพียงแต่ว่ารินไม่ใส่ใจแม้แต่น้อยและควักสมบัติอีกชิ้นที่เป็นกำไลทองออกมาควงเล่น
“อย่าได้แคร์ คนมันรวยซะอย่างนี่” สาวห้าวอมยิ้ม “สมบัติพวกนี้เราเป็นคนทุ่มเทแรงกายแรงใจหามาเอง ไม่ได้ไปปล้นมาสักหน่อย...หรือว่าไปปล้นมาจากพวกก็อบลินอีกทีนะ? ช่างมันเถอะ!”
“พี่ว่าน้องรินรีบเก็บก่อนที่จะโดนฉกไปดีกว่านะ” อรุณเตือนเสียงค่อย “แถวนี้มีคนกำลังร้อนเงินอยู่หลายคนเลยล่ะ”
เฟอร์น่าเลิกคิ้ว “หมายความว่ายังไงคะ”
“ลองสังเกตโต๊ะข้างหลังสิ ไม่ได้มาดีทั้งนั้น”
อรุณว่าแล้วก็เบนสายตาไปยังผู้เล่นระดับสูงสองคนที่นั่งอยู่โต๊ะถัดไป ทั้งคู่เป็นชายที่แต่งตัวสไตล์ฮิปปี้อเมริกาซึ่งมีคลาสสามเป็นอย่างต่ำ ดูจากสายตาที่จับจ้องไปที่สมบัติในมือรินแล้ว เป็นไปได้ว่าพวกมันอาจกำลังวางแผนดักปล้นรินอยู่ก็เป็นได้
รินไม่สะทกสะท้าน “คำเดิมค่ะ อย่าได้แคร์ อย่าได้กลัว มีพี่อรุณอยู่ทั้งคนยังไงก็ปลอดภัย”
“เอ่อ ระดับต่างกันขนาดนี้ก็ไม่ไหวนะครับ” เขายิ้มแห้งๆให้ทุกคนก่อนเฟอร์น่าจะเอ่ยขึ้นบ้างว่า
“ทำไมจะไม่ไหวล่ะคะ ตอนที่โดนพวกบุปผาราชินีโจมตีใส่ ฝ่ายนั้นระดับตั้งเจ็ดสิบแต่ก็สร้างความเสียหายอะไรให้คุณอรุณไม่ได้เลยนี่นา”
“อ๋อ ก็เพราะมันเป็นทักษะสีน่ะครับ ถ้าโดนฟันตรงๆตัวผมก็ขาดเป็นสองท่อนเหมือนกัน งั้นทำไมตอนสู้กับบอสในถ้ำที่เลเวลไม่ถึงสิบผมถึงโดนโจมตีแรงขนาดนั้นล่ะ ก็เพราะว่ามันไม่ได้ใช้ทักษะสีไง”
เห~
‘ตายล่ะ ยังไม่ได้บอกสามคนนี้เรื่องคลาสเรานี่นา’ อรุณเห็นว่าสามสาวมีเครื่องหมายคำถามลอยอยู่เต็มหน้าไปหมด จึงกระแอมแล้วพูดด้วยเสียงดังขึ้นเล็กน้อย “มันเป็นความสามารถพิเศษของคลาสอินเฟ็คเตอร์แบบพี่ ยังไม่เคยบอกรายละเอียดให้ฟังใช่ไหม”
“ค่ะ แต่ที่จีเอ็มพูดตอนประกาศแพทช์ มันเป็นสายอาชีพใหม่ใน Tactician class งั้นเหรอพี่อรุณ”
เขาพยักหน้าตอบรินที่ไม่รู้หยุดควักสมบัติมาโชว์ตอนไหน แล้วอธิบายสิ่งที่ตัวเองรู้ออกไป
“พิซซ่าได้แล้วครับ เอ่อ..ขอทางหน่อยครับ” เสียงขอร้องของบริกร ทำให้อรุณหยุดเล่าเรื่องแล้วเงยหน้าไปตามทิศที่กลิ่นหอมๆลอยมา เพียงแต่ว่าสิ่งที่เขาเห็นไม่ใช่อาหารขึ้นชื่อของอิตาลีแต่เป็นกลุ่มผู้เล่นระดับสูงจำนวนหนึ่งที่ยืนล้อมไว้แทน
คนพวกนี้พากันมาฟังข้อมูลที่อรุณเล่าตอนไหนก็ไม่รู้
“พวกเราก็ฟังซะเพลินแลย ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง ขอบใจสำหรับข้อมูลนะ” ผู้เล่นชายระดับสูงคนหนึ่งซึ่งใส่หน้ากากปิดบังตัวตน เอ่ยขึ้นหลังจากมายืนฟังอรุณพูดตั้งแต่เริ่ม “รู้เยอะแบบนี้สนใจทำงานกับ วันเดอร์แลนด์ ไหม”
“ไม่ล่ะครับ ขอบคุณที่ชวน” อรุณปฏิเสธอย่างสุภาพ “แล้วก็ช่วยกลับไปที่โต๊ะตัวเองด้วยครับ พวกผมจะเริ่มฉลองกันแล้ว”
“งั้นเหรอ น่าเสียดาย เชสเชอร์ยิ่งชอบของแปลกอยู่แท้ๆ” คนใส่หน้ากากถอนใจแล้วพาพวกห้าหกคนของตัวเองเดินกลับโต๊ะไป ผู้เล่นระดับสูงคนอื่นเห็นดังนั้นก็พากันถอยออกไปด้วย ไม่ช้าอรุณกับสาวก็ได้รับความเป็นส่วนตัวอีกครั้ง
“พวกนายสิแปลก” รินนินทาลับหลังคนกลุ่มนั้นอย่างไม่กลัวเกรง
“คนคุยกันอยู่ดีๆก็มายืนล้อมฟัง เสร็จแล้วเห็นว่ามีประโยชน์ก็ชวนให้ไปร่วมกลุ่มอีก จะมาหาประโยชน์จากพวกเราอย่างเดียวชัดๆเลยนี่หว่า”
อรุณรีบเอ่ยปรามให้รินที่เดือดปุดๆสงบลง “สำหรับคัลเลอร์แคลช ยิ่งเล่นไปถึงระดับสูงเท่าไหร่ข้อมูลในเกมก็ยิ่งสำคัญขึ้นเท่านั้นแหละครับ เมื่อกี้ยิ่งเป็นข้อมูลของคลาสใหม่ด้วย จะว่าพวกเขามาถือวิสาสะฟังก็ไม่ได้เพราะผมก็ไม่ได้คิดปิดบังอะไร น้องรินถือว่าพี่เผื่อแผ่ความรู้ให้เขาก็แล้วกัน”
“หึ! ถ้าพี่อรุณว่าอย่างนั้นล่ะก็”
สาวห้าวทำหน้าเบ้ แล้วลงยื่นมือไปฉีกทิ้งพิซซ่าอกมาเสี้ยวหนึ่งทันที เมื่อถือว่างานเลี้ยงเริ่มขึ้นแล้วณดีกับเฟอร์น่าก็เริ่มกินตามด้วยมารยาทบนโต๊ะอาหารแบบผู้ดีจนอรุณต้องอึ้ง
‘กินได้เนียบชะมัด ที่บ้านสอนมายังไงกันเนี่ย’ เขาแอบสงสัยเล็กน้อย แล้วใช้มือยื่นไปหยิบพิซซ่าตามถนัดเช่นกัน แต่ไม่ทันของอร่อยจะเข้าปาก กรอบข้อความโปร่งใสบานหนึ่งก็ลอยขึ้นมาพร้อมเสียงเหมือนโทรศัพท์เข้า
[ผู้เล่น ไอริส ต้องการจะสนทนาแบบเห็นหน้ากับคุณ ตกลงหรือไม่]
‘ขอกินก่อนนะ’ อรุณตัดสินใจแวบเดียวก็กดปฏิเสธไป เขารีบกินของพิซซ่าในมือของตัวเองทันที แป้งบางกรอบของมันเข้ากันได้ดีกับมะเขือเทศ มะกอก และชีสที่โรยเป็นหน้าไว้ ไม่แปลกใจเลยที่มันจะเป็นของมีราคา
พริบตาที่จะกัดคำสองเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีก!
[ผู้เล่น ไอริส ต้องการจะสนทนาแบบเห็นหน้ากับคุณ ตกลงหรือไม่]
ชายหนุ่มสำนึกได้ว่าแม่สาวน้อยที่ต้นสายคงจะไม่ยอมรามือจากเขาไปง่ายๆแน่ๆจึงจำใจขอตัวเดินออกไปหน้าร้านโดยไม่ลืมที่จะบอกสามสาวด้วยว่า “เหลือไว้ให้พี่ชิ้นนึงนะริน”
“ว่าไงไอริส มีปัญหาอะไรกับเควสเปลี่ยนอาชีพงั้นเหรอครับ” ที่หน้าร้าน อรุณยิ้มให้กับเด็กสาวที่ปรากฏตัวอยู่อีกด้านของกรอบข้อความโปร่งใส ดูเหมือนเธอจะอยู่ใต้ชะง่อนหินแห่งหนึ่ง
ไอริสยิ้มแฉ่งกลับมาเช่นกัน “ไม่มีปัญหาค่ะพี่ชาย ถึงโซนนี้มันจะหนาวไปหน่อยแต่หนูก็เลื่อนไปอยู่คลาสสองได้แล้ว พี่ชายลองทายดูสิคะว่าเป็นเป็นอาชีพอะไร”
“นักบวชสายบู๊แบบไอริส พี่ว่าต้องเป็นเอสเปอร์(Esper)”
“คิกคิก ผิดนะค้า~ คำตอบที่ถูกคือชาแมน(Shaman) ต่างหาก ต่อไปหนูจะไม่ต้องกลัวเรื่องสภาพแวดล้อมโหดๆอีกแล้ว เพราะควบคุมธรรมชาติได้”
“เปลี่ยนเร็วขนาดนี้เลยเหรอ? เก่งขึ้นแล้วนี่นาเราอะ” ชายหนุ่มเอ่ยชมจากใจจริงเนื่องจากพอจะจำได้รางๆว่าคลาสสองของไอริสนั้นมีเงื่อนไขที่จุกจิกมาขนาดไหน นั่นทำให้เด็กสาวที่อยู่ในกรอบข้อความหน้าบานเป็นฝาหม้อเลยทีเดียว
“แล้วซันล่ะครับเป็นยังไงบ้าง หายไปไหนแล้วล่ะ”
เด็กสาวปาดผมสีทองสว่างของตัวเองอย่างช้าๆแล้วตอบกลับ “เขาไปหาเศษไม้มาเป็นฟืนอยู่น่ะค่ะ หนาวขนาดนั้นแท้ๆ แต่ซันก็ดื้อดึงจะไปให้ได้ แถมบอกให้หนูรออยู่เฉยๆด้วย สงสัยป่านนี้จมหิมะตายไปแล้วมั้ง”
อรุณหัวเราะเบาๆให้กับท่าทีแง่งอนของอีกฝ่าย “คลาสสองของซันน่ะคือ ออราเคิล(Oracle) ผู้สร้างปาฏิหาริย์เชียวนะครับ จะมาจมหิมะตายง่ายได้ไง”
“แต่ซันยังไม่ผ่านเควสนะพี่ชาย”
‘อ้าว’ ชายหนุ่มย่นคิ้วโดยอัตโนมัติ ในหัวก็พลางคิดว่า คลาสพิเศษทำเรื่องแล้วไง ไปด้วย
“หนูรู้ว่ามันเป็นการรบกวน...แต่พี่ชายช่วยเดินทางขึ้นเหนือมาช่วยซันทำภารกิจเปลี่ยนอาชีพได้ไหมคะ เงื่อนไขมันยากมากจริงๆยิ่งพวกหนูทั้งคู่ไม่ใช่สายต่อสู้โดยตรงด้วย พอเวลาต้องไปโซนที่มีมอนสเตอร์เยอะๆก็ผ่านไปไม่ได้สักที’
‘ขึ้นเหนือเหรอ พอดีเลย วาวก็เดินทางขึ้นเหนือไปเหมือนกัน’ อรุณคิดได้ก็ตอบตกลงในทันที “ได้เลยไอริส บอกมาเถอะว่าอยู่โซนไหน เดี๋ยวพี่จะหาทางไปช่วยให้ได้เลย”
“พี่ชายน่ารักที่สุดในโลกเลย!!” ไอริสร้องด้วยความยินดี “ตอนนี้พวกหนูอยู่ที่ ‘ไอร่อนไพน์’ ค่ะ เป็นโซนสีเขียว-ฟ้า อยู่เหนือจากป่าซิลิวานขึ้นมาสองโซน ถ้าไปไม่ถูกก็โทรมาถามหนูได้เรื่อยๆเลยนะคะ”
กรอบข้อความหายไปโดยอัตโนมัติเมื่อการสนทนาจบลง
“ฟู่ว~ ได้ยินว่ามีใครแถวนี้อยากจะเดินทางขึ้นเหนืองั้นเหรอ” เสียงแหบห้าวของชายคนหนึ่งดังข้นมาพร้อมกลิ่นควันบุหรี่ พออรุณสะดุ้งหันไปดูก็พบว่าเป็นหนึ่งในสามผู้เล่นท่าทางไม่น่าไว้ใจในร้านนั่นเอง มันเป็นคนไว้ผมกับหนวดสั้นๆเรียบแปล้ที่มีรูปร่างสมส่วน สไตล์การแต่งตัวเหมือนพวกแก๊งซิ่งไม่มีผิด
ชื่อ: Don สี:แดง-ฟ้า คลาส:Reviver
ระดับนักผจญภัย: 90
ระดับสี: 3
สังกัด: ไม่มี |
‘เลเวลเก้าสิบ’ อรุณหรี่ตาดูข้อมูลตัวละครของมันอย่างระวัง เขารู้ดีว่าคนที่จะเก็บระดับไปจนถึงขั้นนี้ได้อันที่จริงแล้วมีจำนวนไม่มาก และทั้งหมดล้วนเป็นยอดฝีมือในการเล่นเกมทั้งนั้น
“สวัสดี เรียกฉันว่าดอน เป็นแค่คนที่บังเอิญผ่านมากินพิซซ่า ฉันคิดว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันตามประสาลูกผู้ชายสักหน่อย” คนแปลกหน้าพูดทั้งๆที่ปากคาบซิการ์
“คุณต้องการอะไร ดอน”
“ดี! ลูกผู้ชายมันต้องตรงไปตรงมาแบบนี้!” ดอนเป่าควันใส่หน้าอรุณ ซี๊ดปากเบาๆด้วยความพอใจ “เรื่องคลาสพิเศษของนายที่เล่ามาในร้านน่ะ น่าสนใจมาก ไหนๆเราสองคนก็จะเดินทางขึ้นเหนือเหมือนกันอยู่แล้ว ติดรถฉันไปไหม นายก็เดินทางสะดวกขึ้น ส่วนฉันก็ได้ประโยชน์”
อรุณโยนหินถามทางต่อไป “ประโยชน์อะไรกันครับ เลเวลยี่สิบอย่างผมจะทำอะไรให้คุณได้ครับดอน จะเป็นแค่ตัวถ่วงเปล่าๆ”
“ได้สิ ฉันกำลังรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับแพทช์ใหม่อยู่น่ะ การที่ได้นายมาร่วมทางไปด้วยอาจทำให้ฉันรู้ข้อมูลดีๆหลายอย่างเลยก็ได้ รู้ใช่ไหมว่าสายคลาสของฉันก็ไม่ต่างจากนักล่าสมบัติหรือนักโบราณคดีเท่าไหร่ และตอนนี้แนก็กำลังค้นคว้าอารยธรรมของพวกที่ถูกเรียกว่า ‘ผู้รุกราน’ อยู่ด้วย”
“ผู้รุกราน...” อรุณทวนคำนั้นอีกครั้ง นั่นเป็นสังกัดที่ตัวละครของเขา พอดีเลยด้วย
“ทำหน้าแบบนั้นเริ่มสนใจแล้วสินะ ถ้านายได้เห้นนี่แล้วรับรองต้องอยากร่วมมือกับฉันแน่นอน”
ดอนเรียกกรอบข้อความโปร่งใสออกมาบานหนึ่งแล้วดันมาตรงหน้าอรุณ แม้ควันบุหรี่ที่ถูกพ่นออกมาอีกครั้งจะทำให้อรุณแสบตา แต่เขาก็ยังเบิกดูข้อมูลที่เห็นค้างอยู่แบบนั้น
(1st) Infector : ???
(2nd) Invader : ???
(3rd) Terminator : ???
(3rd) Sovereign : ???
(2nd) Prophet : ???
(3rd) Plaque lord : ???
(3rd) ??? : ??? |
“นี่มันสายคลาสใหม่นี่ครับ คุณไปได้มาจากไหน ข้อมูลในแพทช์ยังไม่ละเอียดเท่านี้เลย”
ดอนเห็นอรุณมีอาการตื่นตกใจก็แสยะยิ้มแล้วรีบเก็บกรอบข้อความโปร่งใสนั้นกลับทันที เขาทิ้งชายหนุ่มที่กำลังสงสัยอย่างเต็มที่เอาไว้อย่างนั้นแล้วเดินกลับเข้าร้านพิซซ่าไปเฉยๆ “คิดเองแล้วกัน ว่าจะเดินทางไปกับฉันไหม”
“เดี๋ยวก่อน!” อรุณพยายามหยุดตัวออีกฝ่ายไว้แต่ก็ไม่ทัน รีบก้าวเท้าตามเข้าร้านไปอย่างรีบร้อน ดอนไปนั่งอยู่ที่โต๊ะเดิมกับพวกของตัวเองแล้วเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
‘ไม่มีทางเลือกสินะ’
อรุณกัดฟันแล้วกลับไปรวมกลุ่มกับสามสาวเช่นเดิม อาหารส่วนใหญ่ร่อยหลอไปมากแล้ว ยังดีที่รินกับณดีเหลือพิซ่าเอาไว้ให้เขาคนละชิ้นพอดี แม่สาวห้าวหันมายิ้มแห้งๆให้กับเขา” เหลือไว้ให้ตามที่ขอแล้วนะคะ ถ้าหายไปนานกว่านี้สงสัยณดีซัดเรียบแล้วนะเนี่ย”
“ระ รินนั่นแหละตัวดีเลย”
ชายหนุ่มไม่ใส่ใจอะไร เพียงยกใช้มือหยิบอาหารที่เริ่มจะเย็นชืดขึ้นมากินต่อแล้วถามออกไปว่า “จากนี้แล้วทั้งสามคนจะไปไหนกันเหรอครับ”
“กะว่าจะเดินทางไปกับเฟอร์น่าค่ะ อุตส่าห์มาช่วยพวกเราเปลี่ยนอาชีพแล้ว จะไม่ตอบแทนก็กระไรอยู่” รินหันไปมองสาวผมน้ำเงินที่พยักหน้าขอบคุณ “พี่อรุณก็ไปด้วยกันสิคะ”
“โทษทีนะริน พี่มีธุระที่ต้องไปสะสางน่ะ คงไปด้วยกันไม่ได้”
ณดีหน้าซีดไปเล็กน้อย “จะไปไหนเหรอคะ”
“ผมจะเดินทางขึ้นเหนือ”
ความคิดเห็น