ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : อาวุธปริศนา
    “อะไรน่ะ เกิดอะไรขึ้น!!!” คลาร์กหน้าตาตื่นขณะเข้ามาดูในห้องน้ำ “โอไม่”
    “ฉันว่าใช่นะ” ผมสีแดงกระเพื่อมไปมาเมื่อเธอหันไปที่ประตูเข้าออกทางเดียวของร้าน “ห้ามทุกคนขยับ!!!” เกิดความเงียบสงัดที่น่าอึดอัดยิ่ง “ฉันจะวาดผังที่นั่ง ให้ทุกคนเขียนชื่อของตัวเองลงไป ตามที่ที่ตัวเองนั่งอยู่”
    ประตูห้องครัวถูกเปิดออกกระทันหัน หมิงเดินออกมาด้วยหน้าตางุนงง “มันเกิดอะไรขึ้น” เสียงของเขาดังกึกก้องไปทั่วในสภาพที่ทุกคนนั่งเงียบเช่นนี้ “โอไม่นะ” เขากระตุกเมื่อเห็นร่างไร้ชีวิตของทันย่า “ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ” เขาพูดด้วยเสียงแผ่วเบาราวกับจะกระซิบให้ตัวเองฟัง “อย่าตกใจไปครับ ทุกอย่างจะเรียบร้อย” จากนั้นเขาก็หายเข้าไปในครัว
    สิบนาทีหลังจากนั้น ตำรวจก็มาถึงที่เกิดเหตุ ทั้งฮอลลี่และอแมนด้าถูกกักออกจากการสืบสวน ทั้งสองสาวทำตามโดยดีอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง เพราะทั้งสองรู้ดีว่าตื้อไปก็เท่านั้น งานของตำรวจก็เป็นของตำรวจ ส่วนงานของพวกเธอในตอนนี้เสร็จแล้ว รายชื่อของทุกคนอยู่ในกระเป๋าเสื้อนอกของอแมนด้า ทุกคนเขียนชื่อโดยไม่ถามอะไร และสิบนาทีก็มากพอจนเธอได้แม้แต่ชื่อของพนักงานในกะนั้น
    “สาเหตุการตายมาจากการถูกกระแทกที่ศีรษะอย่างแรงด้วยของแข็งหน้าตัดเรียบเป็นรูปสี่เหลี่ยมหลายครั้งจนสลบและทำให้เกิดการเสียเลือดจนช็อค คาดว่าเสียชีวิตยังไม่ถึงชั่วโมง น่าจะอยู่ในช่วงหกโมงห้าสิบถึงหนึ่งทุ่มห้าสิบครับ” ฮอลลี่ได้ยินดันแคน แมคบิล คู่หูของบ๊อบกล่าวกับสารวัตเคน แอลเลน เธอพยายามนึกให้ออกว่าอาวุธนั้นคืออะไรกัน แต่เธอก็จนปัญญาจริงๆ เช่นเดียวกับอแมนด้า ส่วนเรื่องเวลานั้นก็เป็นปริศนาอยู่ดี แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่แคบ แต่ในช่วงระหว่างที่รอให้เลือดไหลจนตายนั้นจะเดินออกไปก็ได้ในร้านที่วุ่นวายอย่างนั้น
    หลังจากนั้นก็ไม่มีข้อมูลอะไรอีก ตำรวจตรวจกระเป๋าและภายในร้านแต่ก็ไม่พบวัตถุที่อาจจะเป็นอาวุธได้ ทั้งสองแยกย้ายกลับบ้าน วันแย่ๆจบลงไปอีกวัน และพวกเธอรู้ว่าถึงยังไงเรื่องร้ายก็ไม่หายไปกับแสงจันทร์
    หลังจากพินิจมานานฮอลลี่ก็หยิบปากกาไฮไลท์บนโต๊ะมาขีดเส้นรายชื่อคนที่ควรจะไปถามเป็นรายแรกๆ บนกระดาษของอแมนด้าที่เธอแฟกซ์มาให้เมื่อเช้า ฮอลลี่ขึ้นไปนั่งบนเตียงเอาหลังพิงกำแพง รายชื่อตรงหน้าของเธอมีมากมายไปหมด ราวกับว่าทุกคนจากทั่วทุกสารทิศจะมารวมตัวกันที่ร้านของหมิงอย่างนั้นแหละ แต่ส่วนมากจะเป็นชื่อของคนที่ฮอลลี่ไม่รู้จัก อาจจะเป็นนักท่องเที่ยวหรือเป็นชาวเมืองที่ย้ายมาใหม่
    เธอขีดเส้นชื่อ จิม เทรแมน เป็นคนแรก เพราะเขาเป็นคนพบศพ แต่ส่วนใหญ่แล้วคนพบศพจะไม่ใช่ฆาตกร เพราะฆาตกรคนไหนกันล่ะที่จะฆ่าคนแล้วก็กรีดร้องให้คนเข้ามาสนใจ แล้วกว่าทันย่าจะตายสนิทก็คงจะใช้เวลาสักครู่
    คนต่อไปคือ แมร์รี่ แอน ดอลสัน เธอไม่น่าจะไปอยู่ที่นั่นเลย เพราะเมื่อเช้าเธอก็เพิ่งจะมีปากเสียงกับทันย่า ถ้าเธอไม่ใช่ฆาตกรตัวจริงแล้วล่ะก็ เธอก็โชคร้ายทีเดียวที่มาอยู่ผิดที่ผิดเวลาเช่นนี้
    สำหรับตอนนี้ฮอลลี่จะเก็บรายชื่อพนักงานไว้ก่อน โดยเฉพาะพ่อครัว ที่ไม่น่าจะได้ออกมานอกครัวมากนักถ้ามีลูกค้ามากอย่างนั้น แล้วพนักงานเสิร์ฟก็คงจะไม่ได้เข้าไปในห้องน้ำแขกแน่นอน
    เรื่องเวลา เป็นส่วนที่ยากมาก เวลาที่เจอศพคือ ประมานหนึ่งทุ่มสี่สิบ พวกเธอต้องหาว่ามีใครออกไปจากร้านบ้างในห้าสิบนาทีก่อนหน้านั้น ยังไม่เผื่อสำหรับช่วงรอให้เลือดไหลอีกนานพอสมควร ส่วนอาวุธนั้นก็คงจะเป็นเรื่องที่ยากกว่า เหมือนว่าอาวุธจะเป็นของที่อยู่กับคนร้าย ถ้าไม่มีอยู่ในกระเป๋าของลูกค้าในช่วงเวลานั้น ก็คงจะยากที่จะหาตัวคนร้าย การฆาตกรรมครั้งนี้อาจจะตระเตรียมมาก่อนล่วงหน้า เพราะไม่เหลือทั้งอาวุธ และผู้ต้องสงสัยก็มีอยู่เต็มร้านไปหมด
    คนอื่นๆที่พอจะมีสิทธิเป็นคนร้ายก็คงเป็นคนในเมือง ที่อยู่ในตอนนั้นก็มี เพื่อนๆของทันย่า  พ่อแม่ของแมร์รี่ แอน กลุ่มคนจากบริษัทเครื่องเขียนที่มาฉลองวันเกิดให้เพื่อนร่วมงาน หมอฟันประจำเมืองอีกคนที่เปิดคลินิกอยู่แถบชานเมือง เดนิส กับสามีที่เป็นเภสัชกร มิลสัน ไคสกี้  เจ้าของโรงแรมซัมเมอร์บีช แกรี่ มิดเดิ้ลฮิว กับลูกสาวคนเดียววัยเจ็ดขวบ หลุยส์ นอกจากนั้นยังมีแฟนสาวของจิม เทรแมน ที่ชื่อว่า ลิซ่า โทน อยู่ด้วย
    ฮอลลี่คว้าโทรศัพท์มากดหาเบอร์อแมนด้า “หวัดดี ทางนั้นเป็นไงบ้าง”
    เสียงที่ตอบกลับมาฟังดูกังวล “ฉันไม่คิดว่ามันจะง่ายนักหรอก แต่ฉันคิดว่าเราควรจะไปหาจิมกับแมร์รี่ แอน ก่อน และครั้งนี้ฉันคิดว่าเราควรแยกกัน”
    ฮอลลี่ไม่เข้าใจ ปกติแล้วการไปไหนสองคนจะดีกว่า เพราะสามารถช่วยเหลือกันและกันได้ “ทำไมล่ะ”
    “ก็สองคนนั้นเป็นผู้ต้องสงสัยของเราน่ะสิ” อแมนด้าตอบแบบงงๆ ว่าทำไมเพื่อนของเธอจึงถามแบบนั้น
    “ไม่ใช่ ฉันถามว่าทำไมเราถึงต้องแยกกันด้วย ถ้ามีอะไรที่เราแต่ละฝ่ายหลงลืมล่ะ อย่างคำถามสำคัญหรือพิรุธ”
    “เธอคงเห็นว่าคราวก่อนเราช้าเกินไป ทำให้มีคนตายไปอีก เราต้องรีบหน่อยคราวนี้ อาจจะมีใครตายอีกก็ได้”
    ฮอลลี่เริ่มนึกออกแล้ว แต่เธอก็นึกอีกอย่างได้เช่นเดียวกัน “เธอคิดว่าเป็นคนเดียวกันใช่ไหม ฆาตกรน่ะ” เธอคิดว่ามันก็สมเหตุสมผลดี แต่ไม่แน่เสมอไป
    “ฉันคิดว่างั้น” อแมนด้ายักไหล่อยู่อีกด้านหนึ่งของเมือง ซึ่งฮอลลี่ไม่มีทางเห็น
    “ตกลง งั้นเราต้องรีบแล้ว”
    หลังจากการพูดคุยกันเมื่อเช้า อแมนด้าเลือกที่จะไปหาจิม เทรแมน มันคงไม่แปลกมากเพราะเขาเห็นเธอแล้วเมื่อวาน แต่ฮอลลี่ยัง และถ้าให้ฮอลลี่ไปถามเขาอาจจะรู้สึกไม่ชอบมาพากลก็เป็นได้
    ขณะขี่จักรยานไปยังที่หมาย สมองของอแมนด้าก็คิดไปเรื่อยเปื่อย เธอมองสองข้างทาง ร้านรวงขายสินค้าคึกคัก ช่วงนี้เรื่องแฟชั่นและการแต่งตัวกำลังมาแรง สาวๆจะแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสวยเดินตามชายหาด มันฮิตมากๆในช่วงนี้ของปี ของแปลกๆก็ขายดีเช่นกัน อย่างเช่นร้านขายของเล่นวูดูที่แปลกอยู่แล้ว แต่ถ้านักท่องเที่ยวที่ซื้อไปได้ไปบอกคนอื่นๆว่าซื้อมาจากเมืองแปลกๆด้วยแล้ว คงจะแปลกขึ้นไปอีก
    ทำไมต้องฆ่ากันด้วยนะ อแมนด้าคิด เธอมักจะอยากรู้เสมอว่าคนอื่นคิดอย่างไร อย่างในกรณีนี้เธอก็อยากรู้ว่าฆาตกรคิดอย่างไรถึงจะฆ่าเด็กสาวที่ดูไม่มีพิษภัยอย่างนั้น แล้วเค้าหรือเธอจะคิดอะไรอยู่ตอนที่ลงมือฆ่า แล้วหลังจากนั้นล่ะ หลังจากที่ได้รู้ว่าคนๆนั้นตายไปแล้ว จะมีร่องรอยของความเสียใจอยู่หรือไม่ แล้วเด็กสาวผู้ตกเป็นเหยื่อทั้งสองล่ะ เธอรู้สึกอย่างไรเมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังจะตาย ความคิดแบบนี้มันทำให้อแมนด้าหดหู่ได้อย่างประหลาด เธอโตมาในเมืองที่สงบและปลอดภัย แต่ในนาทีนี้ เมืองทั้งเมืองกำลังสะพรึงกลัวว่าจะเกิดอะไรต่อไป จะมีศพที่สามหรือไม่ และยิ่งกว่านั้น ใครกันคือฆาตกร
    อแมนด้าหลุดจากห้วงพวังค์เมื่อเธอเห็นหญิงสาวกลุ่มหนึ่งบนทางเท้าข้างๆเธอ พวกเธอมีอะไรที่สะดุดตาอแมนด้า ในวินาทีนั้น เหมือนกับว่าเธอจะเสียหลักตกจากจักรยาน ความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัวเธอ อาวุธสังหาร เธอรู้แล้วว่ามันคืออะไร และความคิดนั้นทำให้การสืบคดีนี้ยากขึ้นไปอีก
    “ฉันว่าใช่นะ” ผมสีแดงกระเพื่อมไปมาเมื่อเธอหันไปที่ประตูเข้าออกทางเดียวของร้าน “ห้ามทุกคนขยับ!!!” เกิดความเงียบสงัดที่น่าอึดอัดยิ่ง “ฉันจะวาดผังที่นั่ง ให้ทุกคนเขียนชื่อของตัวเองลงไป ตามที่ที่ตัวเองนั่งอยู่”
    ประตูห้องครัวถูกเปิดออกกระทันหัน หมิงเดินออกมาด้วยหน้าตางุนงง “มันเกิดอะไรขึ้น” เสียงของเขาดังกึกก้องไปทั่วในสภาพที่ทุกคนนั่งเงียบเช่นนี้ “โอไม่นะ” เขากระตุกเมื่อเห็นร่างไร้ชีวิตของทันย่า “ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ” เขาพูดด้วยเสียงแผ่วเบาราวกับจะกระซิบให้ตัวเองฟัง “อย่าตกใจไปครับ ทุกอย่างจะเรียบร้อย” จากนั้นเขาก็หายเข้าไปในครัว
    สิบนาทีหลังจากนั้น ตำรวจก็มาถึงที่เกิดเหตุ ทั้งฮอลลี่และอแมนด้าถูกกักออกจากการสืบสวน ทั้งสองสาวทำตามโดยดีอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง เพราะทั้งสองรู้ดีว่าตื้อไปก็เท่านั้น งานของตำรวจก็เป็นของตำรวจ ส่วนงานของพวกเธอในตอนนี้เสร็จแล้ว รายชื่อของทุกคนอยู่ในกระเป๋าเสื้อนอกของอแมนด้า ทุกคนเขียนชื่อโดยไม่ถามอะไร และสิบนาทีก็มากพอจนเธอได้แม้แต่ชื่อของพนักงานในกะนั้น
    “สาเหตุการตายมาจากการถูกกระแทกที่ศีรษะอย่างแรงด้วยของแข็งหน้าตัดเรียบเป็นรูปสี่เหลี่ยมหลายครั้งจนสลบและทำให้เกิดการเสียเลือดจนช็อค คาดว่าเสียชีวิตยังไม่ถึงชั่วโมง น่าจะอยู่ในช่วงหกโมงห้าสิบถึงหนึ่งทุ่มห้าสิบครับ” ฮอลลี่ได้ยินดันแคน แมคบิล คู่หูของบ๊อบกล่าวกับสารวัตเคน แอลเลน เธอพยายามนึกให้ออกว่าอาวุธนั้นคืออะไรกัน แต่เธอก็จนปัญญาจริงๆ เช่นเดียวกับอแมนด้า ส่วนเรื่องเวลานั้นก็เป็นปริศนาอยู่ดี แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่แคบ แต่ในช่วงระหว่างที่รอให้เลือดไหลจนตายนั้นจะเดินออกไปก็ได้ในร้านที่วุ่นวายอย่างนั้น
    หลังจากนั้นก็ไม่มีข้อมูลอะไรอีก ตำรวจตรวจกระเป๋าและภายในร้านแต่ก็ไม่พบวัตถุที่อาจจะเป็นอาวุธได้ ทั้งสองแยกย้ายกลับบ้าน วันแย่ๆจบลงไปอีกวัน และพวกเธอรู้ว่าถึงยังไงเรื่องร้ายก็ไม่หายไปกับแสงจันทร์
    หลังจากพินิจมานานฮอลลี่ก็หยิบปากกาไฮไลท์บนโต๊ะมาขีดเส้นรายชื่อคนที่ควรจะไปถามเป็นรายแรกๆ บนกระดาษของอแมนด้าที่เธอแฟกซ์มาให้เมื่อเช้า ฮอลลี่ขึ้นไปนั่งบนเตียงเอาหลังพิงกำแพง รายชื่อตรงหน้าของเธอมีมากมายไปหมด ราวกับว่าทุกคนจากทั่วทุกสารทิศจะมารวมตัวกันที่ร้านของหมิงอย่างนั้นแหละ แต่ส่วนมากจะเป็นชื่อของคนที่ฮอลลี่ไม่รู้จัก อาจจะเป็นนักท่องเที่ยวหรือเป็นชาวเมืองที่ย้ายมาใหม่
    เธอขีดเส้นชื่อ จิม เทรแมน เป็นคนแรก เพราะเขาเป็นคนพบศพ แต่ส่วนใหญ่แล้วคนพบศพจะไม่ใช่ฆาตกร เพราะฆาตกรคนไหนกันล่ะที่จะฆ่าคนแล้วก็กรีดร้องให้คนเข้ามาสนใจ แล้วกว่าทันย่าจะตายสนิทก็คงจะใช้เวลาสักครู่
    คนต่อไปคือ แมร์รี่ แอน ดอลสัน เธอไม่น่าจะไปอยู่ที่นั่นเลย เพราะเมื่อเช้าเธอก็เพิ่งจะมีปากเสียงกับทันย่า ถ้าเธอไม่ใช่ฆาตกรตัวจริงแล้วล่ะก็ เธอก็โชคร้ายทีเดียวที่มาอยู่ผิดที่ผิดเวลาเช่นนี้
    สำหรับตอนนี้ฮอลลี่จะเก็บรายชื่อพนักงานไว้ก่อน โดยเฉพาะพ่อครัว ที่ไม่น่าจะได้ออกมานอกครัวมากนักถ้ามีลูกค้ามากอย่างนั้น แล้วพนักงานเสิร์ฟก็คงจะไม่ได้เข้าไปในห้องน้ำแขกแน่นอน
    เรื่องเวลา เป็นส่วนที่ยากมาก เวลาที่เจอศพคือ ประมานหนึ่งทุ่มสี่สิบ พวกเธอต้องหาว่ามีใครออกไปจากร้านบ้างในห้าสิบนาทีก่อนหน้านั้น ยังไม่เผื่อสำหรับช่วงรอให้เลือดไหลอีกนานพอสมควร ส่วนอาวุธนั้นก็คงจะเป็นเรื่องที่ยากกว่า เหมือนว่าอาวุธจะเป็นของที่อยู่กับคนร้าย ถ้าไม่มีอยู่ในกระเป๋าของลูกค้าในช่วงเวลานั้น ก็คงจะยากที่จะหาตัวคนร้าย การฆาตกรรมครั้งนี้อาจจะตระเตรียมมาก่อนล่วงหน้า เพราะไม่เหลือทั้งอาวุธ และผู้ต้องสงสัยก็มีอยู่เต็มร้านไปหมด
    คนอื่นๆที่พอจะมีสิทธิเป็นคนร้ายก็คงเป็นคนในเมือง ที่อยู่ในตอนนั้นก็มี เพื่อนๆของทันย่า  พ่อแม่ของแมร์รี่ แอน กลุ่มคนจากบริษัทเครื่องเขียนที่มาฉลองวันเกิดให้เพื่อนร่วมงาน หมอฟันประจำเมืองอีกคนที่เปิดคลินิกอยู่แถบชานเมือง เดนิส กับสามีที่เป็นเภสัชกร มิลสัน ไคสกี้  เจ้าของโรงแรมซัมเมอร์บีช แกรี่ มิดเดิ้ลฮิว กับลูกสาวคนเดียววัยเจ็ดขวบ หลุยส์ นอกจากนั้นยังมีแฟนสาวของจิม เทรแมน ที่ชื่อว่า ลิซ่า โทน อยู่ด้วย
    ฮอลลี่คว้าโทรศัพท์มากดหาเบอร์อแมนด้า “หวัดดี ทางนั้นเป็นไงบ้าง”
    เสียงที่ตอบกลับมาฟังดูกังวล “ฉันไม่คิดว่ามันจะง่ายนักหรอก แต่ฉันคิดว่าเราควรจะไปหาจิมกับแมร์รี่ แอน ก่อน และครั้งนี้ฉันคิดว่าเราควรแยกกัน”
    ฮอลลี่ไม่เข้าใจ ปกติแล้วการไปไหนสองคนจะดีกว่า เพราะสามารถช่วยเหลือกันและกันได้ “ทำไมล่ะ”
    “ก็สองคนนั้นเป็นผู้ต้องสงสัยของเราน่ะสิ” อแมนด้าตอบแบบงงๆ ว่าทำไมเพื่อนของเธอจึงถามแบบนั้น
    “ไม่ใช่ ฉันถามว่าทำไมเราถึงต้องแยกกันด้วย ถ้ามีอะไรที่เราแต่ละฝ่ายหลงลืมล่ะ อย่างคำถามสำคัญหรือพิรุธ”
    “เธอคงเห็นว่าคราวก่อนเราช้าเกินไป ทำให้มีคนตายไปอีก เราต้องรีบหน่อยคราวนี้ อาจจะมีใครตายอีกก็ได้”
    ฮอลลี่เริ่มนึกออกแล้ว แต่เธอก็นึกอีกอย่างได้เช่นเดียวกัน “เธอคิดว่าเป็นคนเดียวกันใช่ไหม ฆาตกรน่ะ” เธอคิดว่ามันก็สมเหตุสมผลดี แต่ไม่แน่เสมอไป
    “ฉันคิดว่างั้น” อแมนด้ายักไหล่อยู่อีกด้านหนึ่งของเมือง ซึ่งฮอลลี่ไม่มีทางเห็น
    “ตกลง งั้นเราต้องรีบแล้ว”
    หลังจากการพูดคุยกันเมื่อเช้า อแมนด้าเลือกที่จะไปหาจิม เทรแมน มันคงไม่แปลกมากเพราะเขาเห็นเธอแล้วเมื่อวาน แต่ฮอลลี่ยัง และถ้าให้ฮอลลี่ไปถามเขาอาจจะรู้สึกไม่ชอบมาพากลก็เป็นได้
    ขณะขี่จักรยานไปยังที่หมาย สมองของอแมนด้าก็คิดไปเรื่อยเปื่อย เธอมองสองข้างทาง ร้านรวงขายสินค้าคึกคัก ช่วงนี้เรื่องแฟชั่นและการแต่งตัวกำลังมาแรง สาวๆจะแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสวยเดินตามชายหาด มันฮิตมากๆในช่วงนี้ของปี ของแปลกๆก็ขายดีเช่นกัน อย่างเช่นร้านขายของเล่นวูดูที่แปลกอยู่แล้ว แต่ถ้านักท่องเที่ยวที่ซื้อไปได้ไปบอกคนอื่นๆว่าซื้อมาจากเมืองแปลกๆด้วยแล้ว คงจะแปลกขึ้นไปอีก
    ทำไมต้องฆ่ากันด้วยนะ อแมนด้าคิด เธอมักจะอยากรู้เสมอว่าคนอื่นคิดอย่างไร อย่างในกรณีนี้เธอก็อยากรู้ว่าฆาตกรคิดอย่างไรถึงจะฆ่าเด็กสาวที่ดูไม่มีพิษภัยอย่างนั้น แล้วเค้าหรือเธอจะคิดอะไรอยู่ตอนที่ลงมือฆ่า แล้วหลังจากนั้นล่ะ หลังจากที่ได้รู้ว่าคนๆนั้นตายไปแล้ว จะมีร่องรอยของความเสียใจอยู่หรือไม่ แล้วเด็กสาวผู้ตกเป็นเหยื่อทั้งสองล่ะ เธอรู้สึกอย่างไรเมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังจะตาย ความคิดแบบนี้มันทำให้อแมนด้าหดหู่ได้อย่างประหลาด เธอโตมาในเมืองที่สงบและปลอดภัย แต่ในนาทีนี้ เมืองทั้งเมืองกำลังสะพรึงกลัวว่าจะเกิดอะไรต่อไป จะมีศพที่สามหรือไม่ และยิ่งกว่านั้น ใครกันคือฆาตกร
    อแมนด้าหลุดจากห้วงพวังค์เมื่อเธอเห็นหญิงสาวกลุ่มหนึ่งบนทางเท้าข้างๆเธอ พวกเธอมีอะไรที่สะดุดตาอแมนด้า ในวินาทีนั้น เหมือนกับว่าเธอจะเสียหลักตกจากจักรยาน ความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัวเธอ อาวุธสังหาร เธอรู้แล้วว่ามันคืออะไร และความคิดนั้นทำให้การสืบคดีนี้ยากขึ้นไปอีก
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น