ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ทันย่า วอลตัน
    “ไม่ ฉันไม่ได้ต้องการฟองนมบนลาเต้ของฉัน” เสียงแหลมสูงของสาวคนหนึ่งผู้ไม่พอใจในบริการของร้านคอฟฟี่ ช็อพ บันนี่ บัน ซึ่งดังกึกก้องทั่วทั้งร้านขนาดเล็กในย่านใจกลางเมืองของไอซิสเวนเดลล์ทำให้อแมนด้าและฮอลลี่สะดุ้งเฮือกเมื่อผลักประตูหน้าร้านเข้ามา
    “ก็ไม่เห็นมีนี่คะ” พนักงานซึ่งเป็นเด็กสาวผู้ซึ่งไม่น่าจะอายุเกินสิบห้าบอกอย่างซื่อๆ เธอคือแมร์รี่ แอน ดอลสัน ลูกสาวของริชาร์ดและเวนดี้ ดอลสัน ผู้ก่อตั้งและเจ้าของร้านคอฟฟี่ ช็อพแห่งนี้
    สายตาทุกคู่จับจ้องไปยังเคาน์เตอร์ จนแม้กระทั่งในตอนที่อแมนด้าสะดุดพื้นลื่นๆจนเกือบหกล้มขณะกำลังเดินหาที่นั่ง ยังไม่มีใครสังเกตเห็นเลย ยกเว้นฮอลลี่ซึ่งดูเหมือนจะสามารถสัมผัสได้เหมือนกันว่าพื้นตรงบริเวณนี้มันลื่นจริงๆ
    แล้วทั้งคู่ก็ได้รู้สาเหตุในไม่ช้าเมื่อหันไปเห็นแก้วกาแฟที่ว่างอยู่เกือบครึ่งบนเคาน์เตอร์ของสาวเจ้าทุกข์ผู้สูงยาวเข่าดีแถมยังแต่งตัวเก่งด้วยกระโปรงยีนส์สั้นกับเสื้อไหล่ล้ำสีชมพูซึ่งดูหวานเลี่ยน แต่ก็ยังดึงกลับมาได้ด้วยรองเท้าบูตหนังสีดำคู่สูงซึ่งเข้ากันได้ดีกับเข็มขัดเส้นหนาสีเดียวกันบนสะโพกของเธอ และจากทรงผมชี้โด่ชี้เด่กับไฮไลท์สีรุ้งบนเรือนผมพื้นสีน้ำตาลแดง ฮอลลี่คิดว่าเธอคงจะเป็นสาวพั้งค์อยู่พอตัว แต่ยังไม่เต็มตัวเพราะเธอลืมกำไลพั้งค์ที่เต็มไปด้วยหนามแหลมและแหวนเข้าชุดกัน แต่เธอกลับสวมแหวนเงินประดับพลอยสีชมพูสดซึ่งเธออาจจะลืมถอดจากสไตล์การแต่งตัวเดิม
    “ก็มันจะมีได้ไงล่ะ ก็มันหกตรงทางเดินนั่นไปแล้วไง” สาวครึ่งพั้งค์ครึ่งหวานยังคงไม่ยอมเลิกราวี อแมนด้ากำลังพยายามทายว่าเธอคนนั้นคือใคร เพราะดูแล้วเธอไม่น่าจะโตกว่าระดับไฮสคูล ซึ่งถ้านั่นเป็นจริงพวกเธอน่าจะอยู่โรงเรียนเดียวกัน ยกเว้นเสียแต่ว่าเธอไม่ใช่คนเมืองนี้
    “ขอโทษค่ะ ร้านเราไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดจากความผิดพลาดของลูกค้าค่ะ” แมร์รี่ แอน เป็นเด็กฉลาด แม้ใครๆก็หาว่าเธอฉลาดอยู่แต่ในตำราเท่านั้น แต่เธออาจจะไม่ก็ได้ “แต่เรายังถือว่าลูกค้าถูกที่สุดค่ะ ฉันจะทำลาเต้แก้วใหม่ให้โดยไม่คิดเงินค่ะ ต้องขออภัยให้ความผิดพลาดของเราด้วยนะคะ” เธอก้มศีรษะ ซึ่งฮอลลี่คิดว่านั่นฉลาดกว่าในตำราหลายขุม เธอทำให้ร้านไม่เสียชื่อ แถมยังดูดีขึ้นอีกต่างหาก ทั้งยังทำให้สาวลูกครึ่งคนนั้นดูแย่ไปซะเลย และยิ่งกว่านั้น ให้เมืองเล็กๆอย่างนี้ ข่าวจะสะพือไปเร็วพอๆกับลมพัดเลยทีเดียว
    “ไม่เป็นไร ฉันไม่ต้องการแล้ว” สาวผมชี้ยังคงไม่ยอมเสียศักดิ์ศรี เธอหันหลังแล้วเดินลิ่วออกไป แต่ยังไม่ทันจะถึงประตู เธอก็ลื่นกาแฟที่ตัวเองทำหก และมันแย่กว่าครั้งของสองสาวมาก เพราะด้วยความรีบเร่งของเธอทำให้เธอล้มไปก้นจ้ำเบ้า
    เกิดเสียง ฮึด ขึ้นในอึกใจนั้น เหมือนกับว่ามีคนจำนวนหนึ่งหายใจแรงขึ้นด้วยความตกใจ และอีกจำนวนหนึ่งกำลังกลั้นหัวเราะ สำหรับสองสาว พวกเธอส่งเสียงในแบบที่สองมากกว่า
    แต่ทันใดนั้น พวกเธอก็ต้องทำเสียง ฮึด อีกครั้งด้วยความตกใจ เพราะโฉมหน้าของสาวลูกครึ่งคนนั้นคือ ทันย่า วอลตัน
    “ทันย่า!!!” อแมนด้าและฮอลลี่ส่งเสียงพร้อมกัน หลังจากนั้นก็มีเสียงเรียกชื่อเธอซ้ำไปซ้ำมาอีกมากมาย เพราะทันย่าได้ชื่อว่าเป็นเด็กไฮสคูลเรียบร้อยที่สุดและน่ารักที่สุดในเมือง เธอไม่เคยทำผิดกฎโรงเรียน ไม่เคยถูกกักบริเวณ ตั้งใจเรียนและมักจะเป็นที่หนึ่งของชั้นและในทุกๆอย่าง แต่ตอนนี้ดูเธอสิ ไม่ต่างกับเด็กใจแตกที่ไม่เหลือความน่าสงสารอยู่เลย ซึ่งสำหรับฮอลลี่มันเป็นมากกว่านั้น เพราะมีข่าวว่าทันย่าแอบเหล่คลาร์กของเธออยู่บ่อยๆ และตอนนี่เธอก็เปลี่ยนไปแล้ว ในอีกแบบที่ไม่เหมือนใคร ไม่เหมือนฮอลลี่ ซึ่งอาจจะตรงใจคลาร์กมากกว่าก็เป็นได้ เฮ้ ฉันไม่ได้ชอบคลาร์กซักหน่อย ฮอลลี่ตกใจตัวเองที่แอบระแวงทันย่าได้มากขนาดนี้
    ทันย่ารีบลุกขึ้นแล้วจากไปอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องมีใครบอกก็รู้ว่าข่าวลือเล็กๆนี้ได้กลายเป็นตำนานไปแล้ว
    ตะวันกำลังจะลาขอบฟ้า คู่รักนักท่องเที่ยวเห็นว่าเวลานี้เป็นช่วงที่เหมาะที่สุดที่จะจูงมือกันเดินริมน้ำ แต่เหมือนกับทุกคนจะคิดแบบนี้ ชายหาดเลียบทะเลสาบมูนมอร์นิ่งจึงดูเนืองแน่นไปด้วยผู้คน แม้จะไม่ค่อยเป็นส่วนตัวนัก แต่ช่วงเวลานี้ดีจริงๆ เพราะผืนน้ำจะทอประกายแสงสีทองเป็นการประกาศว่าวันนี้ได้จบลงแล้ว แต่ในอีกไม่นาน เมื่อพระจันทร์มาทำหน้าที่ ทะเลสาบจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอร่ามสะท้อนวิบวับ เหมือนกับได้เริ่มวันใหม่อีกวันในตอนเช้า เป็นที่มาของชื่อทะเลสาบแห่งนี้
    ฮอลลี่รู้สึกดีที่มีคนเห็นคุณค่าของบ้านเกิดเมืองนอนของเธอ อย่างน้อยก็มีคนรู้จักเมืองนี้ในฐานะเมืองท่องเที่ยว แต่ตอนนี้เธอต้องรวบรวมสติซะก่อน เพราะเหตุการณ์เมื่อเช้าทำให้เธอเป็นกังวล นอกจากนั้นอแมนด้ายังอยากมาให้คลาร์กช่วยสังเกตหมิงให้ด้วย แม้ว่าเค้าจะเป็นคนดี แต่เรเชลก็ได้มาดื่มชาที่นี่ในตอนเช้า อย่างน้อยก็ให้เธอได้สบายใจขึ้นมาก็ยังดี ส่วนด้านฮอลลี่ก็ถือโอกาสมาบอกให้คลาร์กรู้ไว้ว่า เธอยังมีชีวิตนะ
    “สวัสดีครับ” ฮอลลี่เห็นคลาร์กเดินมาต้อนรับพวกเธออย่างรีบเร่งและกระตือรือร้น เธอเพิ่งสังเกตว่าเขาดูดีทีเดียวแม้จะอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนก็เถอะ ถึงเขาจะไม่ได้เป็นที่หมายปองมากมายเท่าไมเคิล พี่ชายของเรเชล แต่แฟนคลับของเขาก็มีมากพอดู ฮอลลี่สงสัยว่าทำไมเธอถึงไม่เห็นค่าในสิ่งที่เธอมีจนกระทั่งเธอจะต้องเสียไปนะ แต่ว่าที่จริงแล้วเธอยังไม่ได้ด้วยซ้ำ คิดได้อย่างนี้แล้วฮอลลี่ก็แอบถอนหายใจเงียบๆ
    “วันนี้เราไม่ได้มากินอะไร แค่อยากจะมาช่วยวานอะไรนิดหน่อย” อแมนด้าเริ่มการสนทนา “นายรู้ใช่ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรเชล” คลาร์กพยักหน้า แต่ก็มีสีหน้าหวาดหวั่น เขาคงไม่อยากไปมีส่วนร่วมล่ะมั้ง ฮอลลี่คิด เธอไม่อยากคิดให้มันร้ายแรงกว่านั้น
    “ที่เราอยากจะให้นายช่วยก็คือลองมองดูหมิงหรือใครก็ได้ที่อาจจะมีพิรุธ” อแมนด้าไหว้วานเขา แม้เธอจะจำได้ว่าคนที่มาเสิร์ฟให้พวกเธอในวันนั้นคือเขาเอง แต่เธอไม่สงสัยเขาหรือใครในนี้เลยในความเป็นจริง เพราะถ้าพิษที่เรเชลได้มาจากที่นี่ เธอไม่น่าจะมีเวลาพอจะกลับไปถึงบ้านด้วยซ้ำ และนอกจากนั้นฮอลลี่ยังลองชิมดูแล้วและก็ได้รู้ว่าชาขมมากแค่ไหน แต่ที่เธอตัดสินใจมาในวันนี้นอกจากจะได้รู้สึกสบายใจแล้วเธอยังเปิดโอกาสให้ฮอลลี่ได้คุยกับคลาร์ก หลังจากที่เธอทนอาการลุกลี้ลุกลนของเธอที่มีให้เห็นทั้งวันนี้ไม่ได้
    “โอเค แค่นั้นใช่ไหม” คลาร์กมีสีหน้าสบายใจขึ้น ฮอลลี่พยายามทำให้ตัวเองคิดว่าที่เขามีอาการแปลกๆเมื่อกี๊เพราะเขาไม่แน่ใจว่าสิ่งที่อแมนด้าไหว้วานคือภารกิจเสี่ยงตายหรือเปล่าเท่านั้นเอง
    อแมนด้าพยักหน้า แล้วเดินออกจากวงสนทนาไปยืนที่กระจกข้างๆร้าน ทำทีท่าว่ากำลังมองคู่รักคู่ไหนก็ได้ ฮอลลี่รู้ว่าเพื่อนของเธอกำลังเปิดทางให้เธอได้ถามสิ่งที่ค้างคาใจ “เดี๋ยวนี้เธอได้เห็นทันย่าบ้างหรือเปล่า” ฮอลลี่ถามออกไปโดยหวังให้คำตอบไม่เป็นใช่
    “เห็นสิ เธอยังอยู่ในร้านอยู่เลย” เขาชี้ไปแถวหลังร้าน ฮอลลี่มองผ่านไหล่เขาไปแต่ก็ไม่เห็นสาวพั้งค์เลยซักคน
    “ไม่เห็นมีเลย” เธอส่ายหน้า
    “บางทีอาจจะไปห้องน้ำก็ได้” เขายักไหล่
    ทันใดนั้นก็มีเสียงกรีดร้องดังมาจากหลังร้าน ทุกคนเงยหน้าจากจานอาหารและเสียงดังเอะอะที่มักจะมีในร้านอาหารที่วุ่นวายก็เงียบลง ทุกคนนิ่ง อแมนด้าซึ่งกำลังเคลิ้มก็สะดุ้งหลุดออกมาจากความฝัน มีชายวัยกลางคนคนเดียวเท่านั้นที่กำลังเคลื่อนไหว เขาวิ่งออกมาจากทางหลังร้าน
    “มีคนตาย มีคนตายในห้องน้ำ!!!!!” เขาร้องเสียงหลง อแมนด้าที่กำลังตื่นตัวเต็มที่วิ่งไปที่หลังร้าน แล้วชะโงกหน้าเข้าไปในห้องน้ำของร้านซึ่งเธอมาใช้บ้างเป็นบางครั้งแต่ก็จำได้ดี ประตูกำลังเปิดอยู่ ด้านในทุกอย่างปกติ ทุกอย่าง ยกเว้นร่างของผู้หญิงที่อแมนด้าเห็นแล้วต้องผงะ หน้าผากมีเลือดไหลลงมาเป็นทางผ่านจมูกแล้วหยดลงบนเสื้อสีชมพูที่ดูคุ้นๆ
    คำเดียวที่หลุดออกมาจากปากที่สั่นระริกของเธอคือ  “ทันย่า”
    “ก็ไม่เห็นมีนี่คะ” พนักงานซึ่งเป็นเด็กสาวผู้ซึ่งไม่น่าจะอายุเกินสิบห้าบอกอย่างซื่อๆ เธอคือแมร์รี่ แอน ดอลสัน ลูกสาวของริชาร์ดและเวนดี้ ดอลสัน ผู้ก่อตั้งและเจ้าของร้านคอฟฟี่ ช็อพแห่งนี้
    สายตาทุกคู่จับจ้องไปยังเคาน์เตอร์ จนแม้กระทั่งในตอนที่อแมนด้าสะดุดพื้นลื่นๆจนเกือบหกล้มขณะกำลังเดินหาที่นั่ง ยังไม่มีใครสังเกตเห็นเลย ยกเว้นฮอลลี่ซึ่งดูเหมือนจะสามารถสัมผัสได้เหมือนกันว่าพื้นตรงบริเวณนี้มันลื่นจริงๆ
    แล้วทั้งคู่ก็ได้รู้สาเหตุในไม่ช้าเมื่อหันไปเห็นแก้วกาแฟที่ว่างอยู่เกือบครึ่งบนเคาน์เตอร์ของสาวเจ้าทุกข์ผู้สูงยาวเข่าดีแถมยังแต่งตัวเก่งด้วยกระโปรงยีนส์สั้นกับเสื้อไหล่ล้ำสีชมพูซึ่งดูหวานเลี่ยน แต่ก็ยังดึงกลับมาได้ด้วยรองเท้าบูตหนังสีดำคู่สูงซึ่งเข้ากันได้ดีกับเข็มขัดเส้นหนาสีเดียวกันบนสะโพกของเธอ และจากทรงผมชี้โด่ชี้เด่กับไฮไลท์สีรุ้งบนเรือนผมพื้นสีน้ำตาลแดง ฮอลลี่คิดว่าเธอคงจะเป็นสาวพั้งค์อยู่พอตัว แต่ยังไม่เต็มตัวเพราะเธอลืมกำไลพั้งค์ที่เต็มไปด้วยหนามแหลมและแหวนเข้าชุดกัน แต่เธอกลับสวมแหวนเงินประดับพลอยสีชมพูสดซึ่งเธออาจจะลืมถอดจากสไตล์การแต่งตัวเดิม
    “ก็มันจะมีได้ไงล่ะ ก็มันหกตรงทางเดินนั่นไปแล้วไง” สาวครึ่งพั้งค์ครึ่งหวานยังคงไม่ยอมเลิกราวี อแมนด้ากำลังพยายามทายว่าเธอคนนั้นคือใคร เพราะดูแล้วเธอไม่น่าจะโตกว่าระดับไฮสคูล ซึ่งถ้านั่นเป็นจริงพวกเธอน่าจะอยู่โรงเรียนเดียวกัน ยกเว้นเสียแต่ว่าเธอไม่ใช่คนเมืองนี้
    “ขอโทษค่ะ ร้านเราไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดจากความผิดพลาดของลูกค้าค่ะ” แมร์รี่ แอน เป็นเด็กฉลาด แม้ใครๆก็หาว่าเธอฉลาดอยู่แต่ในตำราเท่านั้น แต่เธออาจจะไม่ก็ได้ “แต่เรายังถือว่าลูกค้าถูกที่สุดค่ะ ฉันจะทำลาเต้แก้วใหม่ให้โดยไม่คิดเงินค่ะ ต้องขออภัยให้ความผิดพลาดของเราด้วยนะคะ” เธอก้มศีรษะ ซึ่งฮอลลี่คิดว่านั่นฉลาดกว่าในตำราหลายขุม เธอทำให้ร้านไม่เสียชื่อ แถมยังดูดีขึ้นอีกต่างหาก ทั้งยังทำให้สาวลูกครึ่งคนนั้นดูแย่ไปซะเลย และยิ่งกว่านั้น ให้เมืองเล็กๆอย่างนี้ ข่าวจะสะพือไปเร็วพอๆกับลมพัดเลยทีเดียว
    “ไม่เป็นไร ฉันไม่ต้องการแล้ว” สาวผมชี้ยังคงไม่ยอมเสียศักดิ์ศรี เธอหันหลังแล้วเดินลิ่วออกไป แต่ยังไม่ทันจะถึงประตู เธอก็ลื่นกาแฟที่ตัวเองทำหก และมันแย่กว่าครั้งของสองสาวมาก เพราะด้วยความรีบเร่งของเธอทำให้เธอล้มไปก้นจ้ำเบ้า
    เกิดเสียง ฮึด ขึ้นในอึกใจนั้น เหมือนกับว่ามีคนจำนวนหนึ่งหายใจแรงขึ้นด้วยความตกใจ และอีกจำนวนหนึ่งกำลังกลั้นหัวเราะ สำหรับสองสาว พวกเธอส่งเสียงในแบบที่สองมากกว่า
    แต่ทันใดนั้น พวกเธอก็ต้องทำเสียง ฮึด อีกครั้งด้วยความตกใจ เพราะโฉมหน้าของสาวลูกครึ่งคนนั้นคือ ทันย่า วอลตัน
    “ทันย่า!!!” อแมนด้าและฮอลลี่ส่งเสียงพร้อมกัน หลังจากนั้นก็มีเสียงเรียกชื่อเธอซ้ำไปซ้ำมาอีกมากมาย เพราะทันย่าได้ชื่อว่าเป็นเด็กไฮสคูลเรียบร้อยที่สุดและน่ารักที่สุดในเมือง เธอไม่เคยทำผิดกฎโรงเรียน ไม่เคยถูกกักบริเวณ ตั้งใจเรียนและมักจะเป็นที่หนึ่งของชั้นและในทุกๆอย่าง แต่ตอนนี้ดูเธอสิ ไม่ต่างกับเด็กใจแตกที่ไม่เหลือความน่าสงสารอยู่เลย ซึ่งสำหรับฮอลลี่มันเป็นมากกว่านั้น เพราะมีข่าวว่าทันย่าแอบเหล่คลาร์กของเธออยู่บ่อยๆ และตอนนี่เธอก็เปลี่ยนไปแล้ว ในอีกแบบที่ไม่เหมือนใคร ไม่เหมือนฮอลลี่ ซึ่งอาจจะตรงใจคลาร์กมากกว่าก็เป็นได้ เฮ้ ฉันไม่ได้ชอบคลาร์กซักหน่อย ฮอลลี่ตกใจตัวเองที่แอบระแวงทันย่าได้มากขนาดนี้
    ทันย่ารีบลุกขึ้นแล้วจากไปอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องมีใครบอกก็รู้ว่าข่าวลือเล็กๆนี้ได้กลายเป็นตำนานไปแล้ว
    ตะวันกำลังจะลาขอบฟ้า คู่รักนักท่องเที่ยวเห็นว่าเวลานี้เป็นช่วงที่เหมาะที่สุดที่จะจูงมือกันเดินริมน้ำ แต่เหมือนกับทุกคนจะคิดแบบนี้ ชายหาดเลียบทะเลสาบมูนมอร์นิ่งจึงดูเนืองแน่นไปด้วยผู้คน แม้จะไม่ค่อยเป็นส่วนตัวนัก แต่ช่วงเวลานี้ดีจริงๆ เพราะผืนน้ำจะทอประกายแสงสีทองเป็นการประกาศว่าวันนี้ได้จบลงแล้ว แต่ในอีกไม่นาน เมื่อพระจันทร์มาทำหน้าที่ ทะเลสาบจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอร่ามสะท้อนวิบวับ เหมือนกับได้เริ่มวันใหม่อีกวันในตอนเช้า เป็นที่มาของชื่อทะเลสาบแห่งนี้
    ฮอลลี่รู้สึกดีที่มีคนเห็นคุณค่าของบ้านเกิดเมืองนอนของเธอ อย่างน้อยก็มีคนรู้จักเมืองนี้ในฐานะเมืองท่องเที่ยว แต่ตอนนี้เธอต้องรวบรวมสติซะก่อน เพราะเหตุการณ์เมื่อเช้าทำให้เธอเป็นกังวล นอกจากนั้นอแมนด้ายังอยากมาให้คลาร์กช่วยสังเกตหมิงให้ด้วย แม้ว่าเค้าจะเป็นคนดี แต่เรเชลก็ได้มาดื่มชาที่นี่ในตอนเช้า อย่างน้อยก็ให้เธอได้สบายใจขึ้นมาก็ยังดี ส่วนด้านฮอลลี่ก็ถือโอกาสมาบอกให้คลาร์กรู้ไว้ว่า เธอยังมีชีวิตนะ
    “สวัสดีครับ” ฮอลลี่เห็นคลาร์กเดินมาต้อนรับพวกเธออย่างรีบเร่งและกระตือรือร้น เธอเพิ่งสังเกตว่าเขาดูดีทีเดียวแม้จะอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนก็เถอะ ถึงเขาจะไม่ได้เป็นที่หมายปองมากมายเท่าไมเคิล พี่ชายของเรเชล แต่แฟนคลับของเขาก็มีมากพอดู ฮอลลี่สงสัยว่าทำไมเธอถึงไม่เห็นค่าในสิ่งที่เธอมีจนกระทั่งเธอจะต้องเสียไปนะ แต่ว่าที่จริงแล้วเธอยังไม่ได้ด้วยซ้ำ คิดได้อย่างนี้แล้วฮอลลี่ก็แอบถอนหายใจเงียบๆ
    “วันนี้เราไม่ได้มากินอะไร แค่อยากจะมาช่วยวานอะไรนิดหน่อย” อแมนด้าเริ่มการสนทนา “นายรู้ใช่ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรเชล” คลาร์กพยักหน้า แต่ก็มีสีหน้าหวาดหวั่น เขาคงไม่อยากไปมีส่วนร่วมล่ะมั้ง ฮอลลี่คิด เธอไม่อยากคิดให้มันร้ายแรงกว่านั้น
    “ที่เราอยากจะให้นายช่วยก็คือลองมองดูหมิงหรือใครก็ได้ที่อาจจะมีพิรุธ” อแมนด้าไหว้วานเขา แม้เธอจะจำได้ว่าคนที่มาเสิร์ฟให้พวกเธอในวันนั้นคือเขาเอง แต่เธอไม่สงสัยเขาหรือใครในนี้เลยในความเป็นจริง เพราะถ้าพิษที่เรเชลได้มาจากที่นี่ เธอไม่น่าจะมีเวลาพอจะกลับไปถึงบ้านด้วยซ้ำ และนอกจากนั้นฮอลลี่ยังลองชิมดูแล้วและก็ได้รู้ว่าชาขมมากแค่ไหน แต่ที่เธอตัดสินใจมาในวันนี้นอกจากจะได้รู้สึกสบายใจแล้วเธอยังเปิดโอกาสให้ฮอลลี่ได้คุยกับคลาร์ก หลังจากที่เธอทนอาการลุกลี้ลุกลนของเธอที่มีให้เห็นทั้งวันนี้ไม่ได้
    “โอเค แค่นั้นใช่ไหม” คลาร์กมีสีหน้าสบายใจขึ้น ฮอลลี่พยายามทำให้ตัวเองคิดว่าที่เขามีอาการแปลกๆเมื่อกี๊เพราะเขาไม่แน่ใจว่าสิ่งที่อแมนด้าไหว้วานคือภารกิจเสี่ยงตายหรือเปล่าเท่านั้นเอง
    อแมนด้าพยักหน้า แล้วเดินออกจากวงสนทนาไปยืนที่กระจกข้างๆร้าน ทำทีท่าว่ากำลังมองคู่รักคู่ไหนก็ได้ ฮอลลี่รู้ว่าเพื่อนของเธอกำลังเปิดทางให้เธอได้ถามสิ่งที่ค้างคาใจ “เดี๋ยวนี้เธอได้เห็นทันย่าบ้างหรือเปล่า” ฮอลลี่ถามออกไปโดยหวังให้คำตอบไม่เป็นใช่
    “เห็นสิ เธอยังอยู่ในร้านอยู่เลย” เขาชี้ไปแถวหลังร้าน ฮอลลี่มองผ่านไหล่เขาไปแต่ก็ไม่เห็นสาวพั้งค์เลยซักคน
    “ไม่เห็นมีเลย” เธอส่ายหน้า
    “บางทีอาจจะไปห้องน้ำก็ได้” เขายักไหล่
    ทันใดนั้นก็มีเสียงกรีดร้องดังมาจากหลังร้าน ทุกคนเงยหน้าจากจานอาหารและเสียงดังเอะอะที่มักจะมีในร้านอาหารที่วุ่นวายก็เงียบลง ทุกคนนิ่ง อแมนด้าซึ่งกำลังเคลิ้มก็สะดุ้งหลุดออกมาจากความฝัน มีชายวัยกลางคนคนเดียวเท่านั้นที่กำลังเคลื่อนไหว เขาวิ่งออกมาจากทางหลังร้าน
    “มีคนตาย มีคนตายในห้องน้ำ!!!!!” เขาร้องเสียงหลง อแมนด้าที่กำลังตื่นตัวเต็มที่วิ่งไปที่หลังร้าน แล้วชะโงกหน้าเข้าไปในห้องน้ำของร้านซึ่งเธอมาใช้บ้างเป็นบางครั้งแต่ก็จำได้ดี ประตูกำลังเปิดอยู่ ด้านในทุกอย่างปกติ ทุกอย่าง ยกเว้นร่างของผู้หญิงที่อแมนด้าเห็นแล้วต้องผงะ หน้าผากมีเลือดไหลลงมาเป็นทางผ่านจมูกแล้วหยดลงบนเสื้อสีชมพูที่ดูคุ้นๆ
    คำเดียวที่หลุดออกมาจากปากที่สั่นระริกของเธอคือ  “ทันย่า”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น