ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อแมนด้า&ฮอลลี่ :: นักสืบสาว จี๊ดเปรี้ยวใจ

    ลำดับตอนที่ #3 : ยาเบื่อหนู

    • อัปเดตล่าสุด 24 เม.ย. 48


         “อะไรนะ เธอฟังผิดหรือเปล่า” อแมนด้าเอามือปิดปากตัวเองอย่างไม่เชื่อ

        

         ฮอลลี่ส่ายหน้า ตามองพื้น ทุกสิ่งทุกอย่างมันคืออะไรกัน หรือว่าเธอจะยังไม่ตื่น

        

         อแมนด้าเดินไปที่เคาเตอร์ “ขอโทษนะคะ” ผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงนั้นหันมามองเธอ “คนไข้ที่เพิ่งเข้ามาเมื่อกี๊นี่ใครกันเหรอค่ะ” คิ้วสีแดงขมวดเข้าหากัน ใจเธอเต้นไม่เป็นจังหวะ

        

         “เรเชล ลี ค่ะ” อแมนด้ารู้สึกท้องไส้ปั่นป่วน

        

         “ฉันเป็นเพื่อนเธอค่ะ เธอเป็นอะไรหรือเปล่าคะ” ผู้หญิงคนนั้นมองเธอด้วยสายตาเห็นใจ “เสียใจด้วยค่ะ เธอได้รับสารพิษ นำส่งโรงพยาบาลไม่ทัน”

        

         “ขอบคุณค่ะ” สาวน้อยเดินก้มหน้าก้มตาเดินไปนั่งที่เก้าอี้รอที่ใกล้ที่สุด ฮอลลี่เดินมานั่งข้างเธอ ทั้งสองเงียบไปเป็นนาที

        

         “เธอตายได้ไง” อแมนด้าเงยหน้าขึ้น ทำลายความเงียบลง

        

         “ได้รับสารพิษไง” เพื่อนสาวมองเธออย่างสงสัย

        

         “เธอไม่มีทางฆ่าตัวตาย เธอต้องถูกวางยา เราต้องสืบเรื่องนี้” อแมนด้าพูดเร็วจี๋ไม่หยุด แต่เพื่อนผมบลอนด์ของเธอไม่เห็นด้วยอย่างสิ้นเชิง

        

         “อย่าทำให้อะไรๆมันยุ่งยากไปกว่านี้เลย ปล่อยให้เป็นเรื่องของตำรวจเถอะ เราไม่รู้อะไรเลย เรายังทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้เธอก็แค่บุ่มบ่ามเพราะอารมณ์เท่านั้น” ฮอลลี่วางมือลงบนไหล่อแมนด้า

        

         แล้วเพื่อนของเธอก็สงบลง “ตกลง ตอนนี้ฉันอยากกลับบ้านไปนอนพัก มันตื้อไปหมดเลย” ฮอลลี่พยักหน้า ทั้งสองลุกขึ้นจะเดินออกทางประตูหน้า แต่เมื่อพวกเธอเงยหน้าขึ้นก็เจอกับคุณและคุณนายลี สองสาวหยุดยืนนิ่ง พ่อแม่ของเรเชลรีบวิ่งผ่านประตูเลื่อนอัตโนมัติของโรงพยาบาลเข้ามาอย่างรีบเร่ง มีชายคนหนึ่งเดินตรงมาที่พวกเขา เขาคือไมเคิล พี่ชายของเรเชล ทั้งสามพูดคุยกันอยู่ไม่นานแล้วคู่สามีภรรยาลีก็มีสีหน้าสลด คุณนายลีเอามือปิดหน้า อแมนด้าดึงแขนเพื่อนของเธอนิดๆเป็นการเรียก แล้วทั้งสองก็เปลี่ยนไปใชช้ประตูหลังของโรงพยาบาลแทน







         ท้องฟ้าสลัวๆ เมฆจับตัวกันเป็นก้อนใหญ่สีเทา ลมทะเลพัดแรงทำให้ต้นไม้น้อยใหญ่ในเมืองลู่ตามสายลมกันหมด รายงานสภาพอากาศประจำวันบอกว่าวันนี้อากาศจะสดใส อย่างที่ควรจะเป็นในฤดูร้อน แต่ดูท่าว่าวันนี้จะไม่เป็นเช่นนั้น

        

         “เดี๋ยวหนูกลับนะค่ะ” สาวน้อยเดินออกจากบ้านแล้วคว้าจักรยานก่อนที่จะมีใครห้ามทัน เธอปั่นออกจากบ้านในชุดเสื้อกันฝนสีเขียวที่ปกคลุมร่างสูงโปร่งของเธอและผมสีบลอนด์ไม่ให้เปียกปอนถ้าฝนลง อากาศดูจะเลวร้ายลงเรื่อยๆ ลมพัดแรงขึ้น ต้นสนในสวนสาธารณะลู่ลมจนเกือบจะติดพื้น กิ่งไม้เล็กๆที่หักอย่างง่ายดายตกลงบนพื้นถนน ใบไม้ปลิวว่อนในอากาศไปทั่วเมือง ราวกับว่าพายุจะมาเยือนในอีกไม่นาน

        

         จุดหมายปลายทางของฮอลลี่อยู่ไม่ไกลจากบ้านนัก เธอจึงไปถึงอย่างปลอดภัย การที่เธอมาที่นี่ก็เพื่อหาข้อมูลเล็กๆน้อยๆเท่านั้น หลังจากเหตุการณ์สะเทือนใจนั้นก็ผ่านมาได้สองสามวันแล้ว เธอคงจะได้รู้ในสิ่งที่อยากรู้ก็วันนี้แหละ

        

         “สวัสดีค่ะ” เธอเปิดประตูแล้วเข้าไปในสถานีตำรวจประจำเมืองไอซิสเวนเดลล์ คนแรกที่เธอเจอคือ บ๊อบ

    แฮโรล เขาเป็นตำรวจที่ดังที่สุดในเมือง ไม่ใช่เพราะเขามีฟันสวยและผมที่เท่ แต่เป็นเพราะความไม่เอาไหนของเขากับเพื่อนคู่หู ดันแคน แมคบิล ที่มักจะไปถึงที่เกิดเหตุก่อนใครเพื่อน แต่ด้วยความเฉิ่มเบอะที่ไม่มีใครเกินทำให้พวกเขาจับใครไม่ได้สักที

        

         เมื่อไม่นานมานี้ ตำรวจทั้งสองนายเคยเรียกรถจักรยานยนต์คันหนึ่งให้จอดฐานขับเร็วเกินกำหนด คนขับเป็นสาวสวยผอมสูง ดูแล้วยังเด็กอยู่มาก บ๊อบถามเธอว่ามีใบขับขี่หรือไม่ เธอตอบว่ามี แล้วเขาก็ปล่อยเธอไป ปรากฏว่าเธอเพิ่งอายุ 14 เมื่อสองเดือนก่อน และอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อจากนั้นดันแคนก็เจอกับเหตุการณ์เดียวกัน นอกจากนั้นยังมีคนบอกว่าเป็นเด็กหญิงคนเดียวกันด้วย

        

         ฮอลลี่นั่งลงตรงข้ามกับบ๊อบ เขายิ้มยิงฟันให้เธอ “มีอะไรเหรอ”

        

         “หนูแค่มาถามอะไรนิดๆหน่อยๆแค่นั้นแหละค่ะ” เธอยิ้มตอบเขา ตอนนี้ที่เธอต้องทำคือถามคำถามไม่กี่ข้อ แต่มันคงเป็นเรื่องไม่ง่ายนักที่จะเค้นอะไรจากตำรวจ ไม่ว่าตำรวจนายนั้นจะเป็นบ๊อบหรือดันแคนหรือใครก็ตาม แต่ทุกคนย่อมมีจุดอ่อน และจุดอ่อนของคนอย่างบ๊อบก็หาไม่ยาก “เอ๋!” ฮอลลี่ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆเขา “หนูเพิ่งสังเกตว่าฟันคุณสวยมาก” แม้มันจะดูบ้องตื้น แต่เธอก็คิดออกได้แค่นี้เอง

        

         “จริงเหรอ” ดูเหมือนบ๊อบจะชอบอกชอบใจ เขายิ้มน้อยยิ้มใหญ่จนไม่ได้สังเกตแววตามีพิรุธของฮอลลี่ “มันดูแลยากมากเลยนะเนี่ย”

        

         บ๊อบเดินเข้ามาในกับดักของเธอแล้ว “นั่นสินะค่ะ แต่คุณรู้ไหม คนดัดฟันน่ะ ดูแลยากที่สุดเลย แต่...” เธอหยุดพูดสักครู่เพื่อดึงความสนใจ “แต่ถ้าเป็นคุณก็คงไม่ยากหรอก แต่ที่จริง คุณไม่ต้องดัดฟันเลย ฟันคุณเริ่ดมาก” ฮอลลี่ชมเขาไม่หยุดปาก เธอจะเริ่มธุระของเธอเสียที “หนูมีเพื่อนคนหนึ่ง เค้าดัดฟันด้วย แต่น่าสงสาร...” เธอถอนหายใจ

        

         “คนๆนั้นคือเรเชลใช่ไหมล่ะ” บ๊อบยังอยู่ในอารมณ์ยินดีอยู่ แต่เขาก็แสดงออกมาว่าเสียใจกับเรื่องนี้ด้วย “น่าสงสารมาก เธอถูกวางยา” ฮอลลี่หูผึ่ง “รู้สึกว่าจะเป็นยาเบื่อหนู หาได้ไม่ยาก พี่ชายของเธอน่าจะเป็นคนทำ”

        

         “คุณบอกว่า น่าจะ เหรอค่ะ” เธอสวนทันควัน แล้วก็กลับมาคิดได้ว่าเธอไม่น่าจะทำไปเลย บ๊อบอาจจะรู้ตัวก็ได้

        

         แต่เหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้น “ช่าย แต่ตอนนี้เราค่อนข้างแน่ใจแล้ว น่าเสียดาย ยังหนุ่มยังแน่น แต่เราคงต้องจับเขา”

        

         อยู่ๆบ๊อบเปลี่ยนสีหน้าทันที “นี่เธอมาเพื่อเรื่องนี้ใช่ไหม” เขาไหวตัวทันแล้ว ฮอลลี่นั่งตัวตรงทันใด เธอจะไม่บอกอะไรเขาไปมากกว่านี้ “แต่ฟันคุณสวยจริงๆนะค่ะ” เธอแกล้งหันหน้าหันหลังอย่างตาลีตาเหลือก “หนูคงต้องกลับแล้ว ที่บ้านคงเป็นห่วง” ฮอลลี่ลุกขึ้นแล้วรีบเดินออกไป

        

         สภาพอากาศยังคงเลวร้ายไม่ดีขึ้น ลมแรงราวกับพายุ ฮอลลี่พาตัวเองฝ่าสายลมโหมกระหน่ำไปพร้อมกับจักรยานคู่ใจ เธอพยายามไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ภายใต้เงื่อนไขของความปลอดภัย เธอรู้ว่าอาจถูกกักบริเวณแต่ตอนนี้เธอยังไม่พยายามคิดถึงเรื่องนั้น ระหว่างที่ปั่นจักรยานไปเรื่อยๆอยู่ดีๆก็มีกิ่งไม้ปลิวเข้ามาพันล้อหน้าของเธอ แต่ไม่จบเท่านั้น เธอพบว่าตัวเองกำลังเสียการควบคุมและกำลังตรงไปที่ทางแยกในขณะที่แสงไฟหน้ารถเก๋งกำลังหันมาทางเธอ

        

         เธอหักหลบเต็มที่และพุ่งไปที่เกาะกลางถนน สิ่งสุดท้ายที่เธอจำได้คือภาพของต้นสนขนาดใหญ่ที่วิ่งมาหาเธออย่างรวดเร็ว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×