ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Coffee Prince สื่อรักร้านกาเเฟ (2u)

    ลำดับตอนที่ #9 : Part 8 Can I still hope?

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 603
      2
      17 เม.ย. 53


    Part 8. Can I still hope?

                                              JAEJOONG X JUNSU

    แจจุงมองดอกแดฟโฟดิลที่เบาะข้างๆแล้วแล้วขมวดคิ้วใส่ เขาซื้อมันมาทำไมกันนะ ?

    ใช่ เพราะอาทิตย์ที่แล้วตอนเขามาหา จุนซูเตะกระถางแดฟโฟดิลหน้าร้านจนมันแตก

    เขาก็เลยซื้อมาใช้ให้น่ะซิ

     

    ไม่ใช่ซะหน่อย ! เขาแค่อยากจะหาข้ออ้างซื้อดอกไม้ให้จุนซูมากกว่า แจจุงมองดอกไม้ช่อสวยเหมือนเขม่นใส่ ตัดสินใจจอดรถเอาข้างทางแล้วอุ้มมันลงมาด้วย

     

    “ถ้างั้นจุนซูก็จะสนใจรดน้ำแกมากกว่าฉันน่ะสิ” แจจุงลูบมันแผ่วเบาแล้วมองขึ้นไปบนท้องฟ้า จินตนาการเลอะเทอะเอาเองกับก้อนเมฆจนเป็นเรื่องราวว่าจุนซูคงสนใจแต่ดอกไม้ไม่ใช่เขา

     

     แจจุงมองตรงไปยังทุ่งกว้าง ทานตะวันสีเหลืองดอกโตอ้าแย้มรับแสงจากดวงอาทิตย์กันสลอน

     

    “หืม คิมจุนซู ? นายจะมองฉันแบบดอกทานตะวันพวกนั้นมองแสงอาทิตย์ได้หรือเปล่านะ ?”

    เขาวางแดฟโฟดิลลงที่เดิม ก้าวไปข้างหน้าแล้วกอบกุมดอกทานตะวันสีเหลืองสดไว้ด้วยสองมือ

    ลำต้นมันยาวขึ้นมาจนถึงเอวเขาแล้ว

     

     

    “ ว่าแต่จะขุดยังไงวะเนี่ย ? ”  แจจุงมองไปรอบๆ ตรงนี้แทบจะเป็นทุ่งโล่ง ไม่มีบ้านคน ไม่มีร้านค้า เขาจับจ้องดอกที่โตที่สุด ถกแขนเสื้อเชิ้ตขึ้นมาถึงข้อศอก ก้มลงนั่งยองๆแล้วเริ่มเอามือขุดดิน ถ้าแฟนคลับหรือนักข่าวมาเห็นนักร้องซูเปอร์สตาร์กำลังขุดดินอยู่ในทุ่งรกอย่างนี้ล่ะก็ เขาจะเอาหัวมุดดินมันตรงนี้นี่แล่ะ

     

    “แม่ง ! เจ็บ” เขาสะบัดมือ อะไรสักอย่างในดินแห้งกรังทิ่มเข้ามาปักอยู่ในเล็บจนได้เลือด เหงื่อหยดโตไหลลงมาตามใบหน้าแดงจัดเพราะดวงอาทิตย์แผดเผา แจจุงยังคงขุดต่อ ก่อนจะได้ยิ้มร่าเมื่อต้นทานตะวันยาวกว่าเมตรหลุดออกมาจากดินพร้อมกับรากเป็นเถา

     

    “แบบนี้สินะที่เรียกว่าขุดรากถอนโคน” แจจุงพยักหน้าหงึกหงัก ประคองต้นมันขึ้นแผ่วเบาแล้วห่อด้วยตารางงานอะไรสักอย่างที่เขาเพิ่งรีไซเคิลเมื่อไม่กี่วินาทีที่แล้ว

     

    แจจุงก้าวขึ้นรถ เร่งแอร์จนเย็นฉ่ำ ยิ้มรื่นกับทานตะวันดอกโตที่โผล่พ้นกระดาษออกมามองเขา

     

    “ฉันอยากให้นายเป็นทานตะวันแล้วมองฉันแบบนั้น คิมจุนซู”

     

    …………………………………………………

     

    “ติ๊งต่อง ง งงง” เสียงติ๊งต่องดังก้องไปทั่วบ้านหลังเล็ก เสียงหวานขานรับ ตามด้วยเสียงวิ่งโครมครามมาจากหลังบ้าน แล้วปรากฏใบหน้าหวานที่หุบยิ้มทันทีเมื่อโผล่มาเห็นใครอีกคน

     

    “พี่จะมาที่บ้านนี้ทำไม ?” จุนซูโผล่หน้าเข้าไปคุยแทบกระซิบ จุนโฮกำลังจะออกจากบ้าน แล้วถ้าโผล่มาเห็นพี่แจจุงเข้าตอนนี้ล่ะก็ เสร็จแน่ๆ

     

    “เอานี่มาให้ไงครับ” แจจุงยื่นห่อดอกไม้ที่กอบไว้แนบอกให้จุนซู ร่างเล็กรับมาหน้าตาเลิกลั่ก จุนซูไม่รู้ว่าแจจุงจะเล่นอะไร แต่มันไม่ใช่เวลาที่ควรเลยซักนิดเดียว

     

    “ให้แล้วก็กลับไปสิฮะ รออะไรล่ะฮะ? ไม่ต้องคิดเรื่องเข้ามาในบ้านหรอก”

     

    “พี่ยังมีหวังบ้างหรือเปล่าครับ จุนซู ?” เขาถามคนที่หันหลังให้ อย่างน้อยจุนซูก็อุ้มดอกไม้นั่นไว้อย่างถนอมเหมือนที่เขาทำ แบบนี้คิดเข้าข้างตัวเองได้หรือเปล่านะ?

     

    “ผมไม่รู้ อย่ามาถาม” จุนซูหันมาตอบรวดเร็ว วิ่งเข้าไปในบ้านเพราะได้ยินว่าจุนโฮเรียกหา

     

    ……………………..

     

    “ใครน่ะจุนซู แล้วนั่นต้นอะไร ?”

     

    “ไม่รู้สิฮะ เขาถามว่าเราอยากได้ทานตะวันหรือเปล่า มันสวยดีผมก็เลยเอาไว้” จุนซูโม้สด ยิ้มหวานให้แล้วรีบเอามันไปหล่อน้ำไว้

     

    “เฮอะ หมอนั่นพิลึกดีนะ” เขามองน้องชายที่กอดมันแนบอกอย่างทะนุถนอมอย่างไม่เข้าใจ แล้วคว้าแซนด์วิชงับไว้ในปาก

     

    “ทำไมไม่กินให้มันดีๆก่อนเล่า” จุนซูมองพี่ชายที่ยกนมแก้วโตขึ้นซดพรวดเดียวเกลี้ยแล้วมองนาฬิกา

     

    “วันนี้ขึ้นวอร์ดกับรุ่นพี่แต่เช้า ไปนะ” จุนโฮคว้าเอวคอดมากอดแล้วหอมแก้มอย่างหมั่นเขี้ยว

     

    อีกคนดิ้นขลุกขลัก แล้วชักสีหน้าเพราะขยะแขยงนมจืดที่เปื้อนแก้มเขาเป็นคราบ คว้าโทรศัพท์บ้านเครื่องโตได้ก็เกือบจะฟาดเข้าให้ดีที่มันดังขึ้นก่อน อีกคนเลยหลุดจากมือไปได้

     

    “เย็นนี้พี่โดนแน่ จุนโฮ” เขาชี้หน้าใส่คนที่ยักคิ้วแล้วเผ่นแผล็วออกไปจากบ้านพร้อมตะโกนดังลั่นว่ากลับดึกแน่นอน

     

    “สวัสดีครับ”

    [ โยยยยย่ ววววว คิมจุนซู ]

     

    “เยี่ยวววว ชิมชางมิน” หลังจากนั้นจุนซูไม่ได้ฟังว่าชางมินพูดอะไรต่อ เพราะเจ้าตัวเอาแต่ชะเง้อชะแง้ดูพี่ชายแล้วก็มองหาอีกคนจนคอยืดยาว ไม่ทันสังเกตว่าคว้าผ้าขี้ริ้วดำปื๋อมาเช็ดนมที่แก้มเสียแรง กลิ่นเน่าโชยมาถึงได้ขว้างมันไปไกล

     

    [แล้วใช่นายหรือเปล่าคิมจุนซู ?]

     

    “หือ ว่าอะไรนะ”

     

    “ของดีมีรอบเดียวนิ ฉันจะวางแล้วล่ะ”

     

    “ไม่น๊ะ คุณบาริสต้าคนเก่ง คุณชางมินสุดหล่อเพื่อนเลิฟ ผู้ชายที่แสนดี๊ แสนดี ของดีต้องมีสองรอบสิ !

     

    [งั้นทายซิว่าเมื่อเช้าตอนฉันขับมอเตอรไซค์ไปทำงานที่โซลฉันเจออะไรเอ่ย?]

     

    “…………..” จุนซูแยกเขี้ยวใส่โทรศัพท์ มาถามกันแบบนี้แล้วเขาจะไปรู้ได้ไงล่ะ ติงต๊องจริง

     

    [ฉันเจอนักร้องซุปเปอร์สตาร์สุดหล่อคนนึงยืนทะเลาะกับแดฟโฟดิล แล้วก็คุยกับท้องฟ้า]

     

    “แล้วมันเกี่ยวอะไรไม่ทราบห้ะ !

     

    [ไคล์แมลกซ์เหรอ  หลังจากนั้นเค้าก็ถกแขนเสื้อแล้วเริ่มเอามือขุดดินใต้ต้นทานตะวันดอกเบ้อเริ่มเทิ่มอยู่นานสองนานแล้วก็ร้องดัง โอ๊ยยยยยย]

     

    “พี่แจจุง ...”

     

    “นายได้ดอกไม้พิเศษนั่นรึยังล่ะคุณแฟนคลับคนสำคัญ?”

     

    “ฉันไล่เขากลับบ้านไป  ไม่ แค่นี้ก่อนนะชิมชางมิน !” จุนซูตัดสายทิ้งกระทันหัน กระวีกระวาดหากล่องพยาบาลในครัว แล้ววิ่งออกไปนอกบ้าน

     

    บีเอ็มซีรีย์ใหม่สีดำปลาบยังจอดนิ่งอยู่นอกบ้าน แล้วเจ้าของล่ะ .. ไปอยู่ที่ไหน ?

     

    พลันแว่วเสียงกลั้วเด็กหัวเราะคลอกับเสียงนุ่ม ใบหน้าหวานหันหาตามเสียง พบร่างสูงโปร่งนั่งบนชิงช้าเตี้ยเท่าเข่าใต้แสงแดดจ้าในสนามเด็กเล่น แวดล้อมไปด้วยเด็กประถมตัวจ้อยที่แย่งกันบอกว่ารู้จักเจ้าตัวไม่หยุด

     

    จุนซูก้าวเข้าไปเงียบเชียบ จงใจฟังว่าคุณครูชั่วคราวกำลังคุยอะไรกับลูกศิษย์กันหนอ ?

     

    “แล้วพี่มีแฟนมั้ย ?” เด็กผิวขาวเป็นหยวกกล้วยยิ้มจนตาหยี ปากอ้ากว้างจนเห็นฟันหลอสองซี่ล่างจนเพื่อนหัวเราะขำกันยกใหญ่

     

     “ แฟนไม่มีหรอกครับ หมดหวังไปแล้ว เค้าไล่พี่กลับบ้านด้วยนะวันนี้” คุณครูทำหน้าเศร้า ยื่นแผลเลือดเขรอะที่มือให้ดูจนเด็กหญิงร้องลั่น

     

    “ใจร้ายยยย หนูจะเป็นจ้าวสาวให้พี่เอง !! จาได้อาวว ด๊อกทานตะวันบ้าง”เธอคลานขึ้นมานั่งบนตัก พลิกมือหยาบกร้านขึ้นเป่าหลายฟู่จนน้ำลายกระเด็นเป็นฟองเหมือนอยากให้หายเจ็บ

     

    “เจ้าสาวครับไม่ใช้จ้าวสาว” แจจุงหัวเราะ พึมพำว่ากว่าเธอจะโตเขาก็คงแก่เป็นคุณปู่แล้ว ยัยเด็กแก่แดดเอ๊ย

     

    “ ไม่ได้หรอก แฟนพี่เค้ามายืมรอแล้วนิไง” เด็กชายตัวอวบอ้วนชี้มายังคนแอบฟังที่สะดุ้งสุดแรง สีหน้าเขาแสดงออกกับยัยเด็กแก่แดดที่มาขอพี่แจจุงแต่งงานมากไปหรือไง ถึงได้มาเหมาว่าเป็นแฟนกันได้

     

    “ไปกันเถอะพวกเรา หนูโป้งพี่แล้ว” เจ้าเด็กแก่แดดไถลลงจากตักจนหน้าเกือบคว่ำลงทราย ทำหน้าน้อยอกน้อยใจแล้วพาเพื่อนๆเดินจากไป เรียกเสียงหัวเราะสดใสไล่หลังจากสองคนที่เหลือ

     

    “ทำอะไรไม่ได้ ถึงขั้นต้องฟ้องเด็กถมเลยเหรอฮะ ? ” เขาเอ่ย มองแจจุงที่เอาเท้าคลุกกับทราย แกว่งชิงช้าเล่นจนเกิดเสียงเอี๊ยดอ๊าดดังกลบคำพูดเขา

     

    “พี่เปล่าฟ้องนะ ก็เด็กๆถามเอง” แจจุงหันมามองหน้า ลมแรงหอบเอาฝุ่นทรายขึ้นมาเข้าตาจนต้องหยีแล้วขยี้แรง

     

    “คำตอบของคำถามที่หน้าบ้าน ... ไปช่วยผมเอาความหวังของพี่ลงดินด้วยนะครับ”  

     

    ..........................

    ฝากเรื่องนี้ด้วยนะคะ
    เราพยายามมากๆเลย ; )

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×