ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Coffee Prince สื่อรักร้านกาเเฟ (2u)

    ลำดับตอนที่ #31 : Part 30 Make decided

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 374
      6
      15 มี.ค. 56

     
    Part 30  Make decided

     

    ยูชอนบรรจงหอมที่แก้มยุ้ยก่อนจะส่งลูกชายตัวน้อยที่หลับปุ๋ยอยู่ในอ้อมแขนคืนให้คุณพ่อ

     

    “แน่ใจเหรอว่าจะไม่ให้พี่ไปส่ง”

     

    “ครับ ผมอยากเดินเล่นอีกนิดหน่อย” ยูชอนป้ายนิ้วไปข้างหลังมั่วๆ ปลดด้ายลูกโป่งลูกหนึ่งออกจากข้อมือตัวเอง โน้มตัวลงผูกมันไว้กับแขนน้องหมีเท็ดดี้ข้างๆตัวลูกชาย

     

    “เอางั้นก็ได้ แต่ถ้าเปลี่ยนใจก็โทรมานะ ไปนอนกับจินซอนซักคืนก็ได้” จุนจินจูบหน้าผากเจ้าตัวน้อย มืออุ่นไม่แพ้น้องชายเอื้อมบีบไหล่บางหนักๆ

     

    ยูชอนค้อมตัวจนรถคันหน้าหายลับไป จมูกโด่งพรูลมหายใจออกมาหนักๆ ใจจริงก็ยังไม่อยากเผชิญหน้ากับยุนโฮซักเท่าไหร่  แต่ในเมื่อสัญญากับตัวเองไว้แล้วว่าหลังจากออกมาจากที่นี่ ยูชอนจะจัดการกับหัวใจตัวเอง

     

    เสียงเพลงจากไอพอดลูกรักถูกเปิดกล่อมโสทประสาท ขายาวก้าวไปเรื่อยๆไร้จุดหมาย ไหล่บางห่อเข้าหาตัวทุกครั้งเมื่อลมเย็นๆหอบเอากลิ่นฝนโชยมา แล้วพอเงยหน้าขึ้นมาอีกที

     

    “ยูชอนจะถือลูกโป่งเดินไปทุกที่เลยเหรอครับ”

     

    ก็กลับมาที่เดิมอีกแล้ว ....

     

    ยูชอนกระพริบตาปริบปริบ มองบาริสต้าตัวสูงชะลูดที่กำลังยืนขวางอยู่หน้าร้าน ในมือชางมินมีถุงขยะสีดำใบโตอยู่ทั้งสองข้าง ใบหน้าคมที่มองมาอมยิ้มขัน

     

    “เอ่อ ช ช่วยมั้ย? ”

     

    “ไม่เป็นไรครับ ผมสบายมาก ยูชอนเข้าไปนั่งในร้านเถอะ”

     

    “เอ้อ อ้อ” ชางมินเบี่ยงตัวหลบให้ยูชอนเข้าไปด้านใน มองตามร่างบางที่ลูบผมตัวเองแก้เก้อ แถมท่าเดินก็ยังเก้ๆกังๆพิลึก

     

    “อาการหนักจริงๆสินะ อย่างนี้จะไม่ช่วยก็คงไม่ไหว”

     

    .......................................................

     

    “มาตกอะไรตอนที่อารมณ์แย่อย่างนี้”

     

    ยูชอนมองสายฝนที่เริ่มสาดลงบนกระจก หยดน้ำเกาะตัวเป็นเม็ดกลมๆ บนผิวใสแจ๋ว แขนเล็กยกขึ้นโอบรอบเข่า ซบใบหน้าลงกับแขน พยายามกดตัวเองให้จมลงไปในเก้าอี้นุ่มสีแดงเลือดหมู

     

    “ไม่ชอบฝนเหรอครับ?” ชางมินเอ่ยถามคนที่นั่งกอดตัวเองเป็นก้อนกลมๆบนเก้าอี้ที่มุมประจำ โกโก้ร้อนถูกเสิรฟ์ตรงหน้าร่างบางที่ครางตอบเสียงผะแผ่วในลำคอ

     

    “ไม่ชอบมาตั้งแต่เด็กๆแล้วเหรอครับ?”

     

    “เปล่าหรอก ก็ไม่กี่ปีมานี่เอง” มือขาวเอื้อมหยิบช้อนเงินข้างแก้ว ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ แล้วก็วางมันไว้ที่เดิม

     

    “ฝนเนี่ยก็เหมือนปัญหาว่ามั้ยครับ ?”

     

    “...”

     

    “ตอนเด็กๆเนี่ย เราก็วิ่งเล่นตากฝน จะโดนตีโดนดุยังไงก็ไม่ยอมฟัง ...”

     

    ยูชอนแนบหน้าลงกับแขน มองชางมินที่ยืนล้วงกระเป๋าด้วยทาที่สบายๆ ดวงตาเป็นประกายจับจ้องไปยังหยาดฝนเม็ดโตที่กระทบกระจกเสียงดังเปาะแปะ

     

    “แต่พอโตมาเรากลับวิ่งหนีมัน แค่ฝนตกแปะเดียว ก็กางร่มวิ่งหนีมันซะแล้ว”

     

    “....”

     

    “ไม่รู้กลัวอะไรกัน อย่างมากก็แค่เปียกแล้วไม่สบายสองสามวัน”

     

     

    “แล้วเดี๋ยวก็หายดี ...แต่ถ้าทิ้งไว้นานๆ คงแย่นะครับ”

     

    “...”

     

    “ดื่มโกโก้คาราเมลซักนิดนะครับ เดี๋ยวมันจะน้อยใจ” ดวงตากลมมองร่างสูงที่ขอตัวไปทำอย่างอื่นก่อนจะเลื่อนสายตามาที่แก้วสีขาวตรงหน้า

     

    มือเย็นประคองถ้วยที่ช่วยเพิ่มอุณหภูมิของมือให้อบอุ่นขึ้นจิบ รสชาติหอมหวานของคาราเมลวาบเข้าที่ปลายลิ้น รับกับรสขมของก็โก้ที่เคล้าอวลในโพรงปาก เรียกจิบที่สองตามไปติดๆ

     

    ไม่นานโกโก้คาราเมลก็ถูกจัดการจนแก้วสีขาววเหลือเพียงคราบสีน้ำตาลที่เล็กน้อยเท่านั้น

     

    ยูชอนขยับตัวคลายความเมื่อยล้า ท้องฟ้าด้านนอกมืดแล้ว แต่สายฝนจากท้องฟ้ายังคงเทลงมาอย่างต่อเนื่อง แถมยังหนักหน่วงกว่าเดิมเสียด้วย

     

    “จะลองเปียกฝนอีกสักครั้งละกันนะ” ยูชอนคว้าแก้วโกโก้ที่เย็นเฉียบ กะว่าจะไปส่งคืนแล้วก็ขอยืมร่มด้วย แต่กลับพบว่าไฟในร้านปิดหมดแล้ว เหลือแต่โคมไฟดวงเล็กหน้าอ่างล้างจานหลังเคานท์เตอร์กับไฟสีส้มอ่อนๆจากโคมเหนือศีรษะตัวเองเท่านั้น

     

    ยูชอนจัดการทำความสะอาดแก้วโกโก้ พร้อมกับอ่านโน๊ตที่ชางมินแปะทิ้งไว้เหนือขอบอ่าง

     

    “เห็นยูชอนยังนั่งอยู่ ยังไงฝากล๊อคร้านด้วยนะครับ :)

     

    ยูชอนที่เอื้อมตัวเก็บแก้วบนชั้นได้ยินเสียงกรุ๋งกริ๋งจากกระดิ่งหน้าประตูก็คิดว่าเป็นลูกค้า เสียงหวานตะโกนบอกไปว่าบาริสต้ากลับไปแล้ว ส่วนตัวเขาเองก็ชงกาแฟไม่เป็นเสียด้วย

     

    ร่างบางพลิกตัวหันหลังไปเมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบกลับ

     

    “ไปขึ้นรถ”

     

    “คุยกันก่อนได้มั้ย”

     

    “จะนั่งอยู่นี่ก็ตามใจ” ยุนโฮหันหลังกลับ ใช้ตัวดันประตูออกแต่ก็พบว่ามันติด

     

    มือใหญ่เขย่าประตูกระจกแต่ก็ไม่มีท่าทีว่ามันจะเปิดออก ก็แน่หล่ะ พอเพ่งดีๆก็เห็นโซ่อันเบ้อเริ่มกับกุญแจดอกโตคล้องกันเอาไว้ แล้วมันจะเป็นใครหล่ะ ถ้าไม่ใช่พ่อบาร์เทนเดอร์แผนสูง แล้วคงไม่ต้องเดินไปดูประตูหลังให้เสียเวลา ยังไงชางมินก็คงไม่พลาดแหงซะ

     

    ร่างสูงถอนหายใจ กดส่งข้อความหาลูกน้องยิกก่อนจะหันมาหาผู้มีชะตากรรมร่วมกัน

     

    หายไปไหนซะหล่ะ  ?

     

    ยูชอนยัดตัวเองเข้าไปใต้เคานท์เตอร์ สองมือยกขึ้นอุดหู ใบหน้าเนียนซุกลงกับเข่าแน่น เมื่อท้องฟ้าคำรามลั่นพร้อมกับแสงสว่างจ้าที่วาบเข้าสู่ลานสายตา

     

    “ออกมานี่”

     

    “ไม่” ยูชอนอ้อมแอ้มตอบ แสงวาบลงมากระทบร่างที่เดินอ้อมมายืนอยู่หลังเคานท์เตอร์พาเอายูชอนหลับตาปี๋ มือขาวโอบกอดเนื้อตัวตัวเองแน่น

     

    ยุนโฮเม้มปาก ก่อนจะยอมทิ้งตัวลงนั่งตรงหน้าคนที่พยายามฝังตัวเองเขาไปในผนังไม้ของเคานท์เตอร์

     

    “ออกมานี่เถอะ” ยุนโฮปรับเสียงตัวเองให้อ่อนโยนขึ้น พยายามกลั้นใจไม่ให้เอื้อมมือไปรั้งร่างเล็กๆนั่นเข้าสู่อ้อมกอด

     

    “ถ้าจะมาพูดแค่นี้ ก็ทิ้งเราไว้ที่นี่เถอะ”

     

    ผ่านไปราวสิบนาที ที่ในอากาศไม่มีบทสนทนา หากตัดเสียงกระทบกันปาะแปะบนหน้าต่างกับเสียงสะอื้นอื้นออกไป ก็คงเหมือนกับที่ตรงนี้ตอนนี้ไม่มีใครอยู่

     

     “นั่งทำอะไรอยู่อีก ก็ทิ้งเราไว้เหมือนสองสามวันที่ผ่านมานั่นแหล่ะ ”  ประโยคตัดพ้อน้อยใจหลุดออกจากปากอิ่มช้ำที่เจ้าของกัดจนห้อเลือด ยุนโฮมองน้ำตาหยดโตหยดแล้วหยดเล่าที่กลิ้งลงบนแก้มขาว

     

    แล้วร่างกายมันก็ทรยศคำสั่งด้วยการยื่นมืออกไปเช็ดน้ำตาบนแก้มเนียนนั่น แล้วพอกระพริบตาอีกที แขนมันก็ทรยศด้วยการดึงร่างบางเข้าสู่อ้อมกอดเสียแล้ว แถมยังรู้สึกได้ว่าเขารัดยูชอนไว้กับแน่นจนร่างบอบบางสั่นสะท้านนั่นแทบจมหายเข้าไปในอก

     

    ยุนโฮลังเล ไม่รู้ว่าจะต้องปลดมือบางออกจากคอเสื้อตัวเองก่อน หรือเอามือตัวเองออกจากเอวบางก่อน หรือว่าไม่ทั้งสองอย่าง

     

    แต่เขาเลือกที่จะปลดมือตัวเองจากเอวบางก่อน ....

     

    “อยากปล่อยจริงๆใช่มั้ย ได้ ปล่อยสิ” ยูชอนละมือออกจากปกเสื้อที่ถูกขยับจนยับอยู่ สองมือแตะที่อกกว้างเพื่อดันตัวเองออกจากอ้อมกอด แต่แรงที่ตวัดรอบเอวก็ดึงตัวเข้าไปแนบจนแทบจมกับอกอุ่นนั่นอีกครั้ง

     

    “ไม่อยาก”

     

    ยุนโฮกระซิบแผ่วเบาติดใบหูนุ่ม เรียกให้ไหล่บางสั่นไหวขึ้นอีกจนยุนโฮต้องโยกตัวปลอบ

     

    “ขอโทษ เราผิดเอง อย่าร้องเลย.. นะครับ” เสียงอ่อนโยนเอ่ยขอ ปลายนิ้วอุ่นแตะที่ปลายคางให้เชิดขึ้น ค่อยๆจูบซับน้ำตาที่ข้างแก้มและขนตาที่ฉ่ำเป็นแพอย่างอ่อนโยน

     

    “เราชอบตานาย เวลามองแล้วมันรู้สึกดี”

     

    ริมฝีปากอุ่นไล่ลงตามแก้มขาว

     

    “แก้มนี่ ...”

     

    ก่อนจะประทับลงบนริมฝีปากอิ่มที่เม้มแน่นกลั้นสะอื้นให้คลายออก กดริมฝีปากเบาๆที่ริมฝีปากบน ตามด้วยด้านล่าง

     

    “แล้วก็ปากนี่ด้วย” เขามองตากลมใสแป๋วที่มองมา ดันแผ่นหลังบางเข้าสู่อ้อมกอดอีกครั้ง

     

    “อย่าทำร้ายมันเพราะเรา เราไม่อยากให้ตานายช้ำ ไม่อยากให้ปากคู่นี้ห้อเลือดด้วย” เขาจูบที่ผมหอม ก่อนจะแนบหน้าลงกับเส้นผมนิ่มที่คลอเคลียอยู่แถวไหล่

     

    “พูดแบบนี้หายโกรธเรารึยัง หลังจากนี้นาย ... จะกลับมาคุยกับเราเหมือนเดิมใช่มั้ย ?”

     

    ยุนโฮพยักหน้า ใช้ปลายนิ้วซับน้ำตาที่เอ่อล้นขึ้นมาที่ขอบตาอีกครั้ง ราวกับคำถามนี้ทรมานใจตัวเองมากมายนัก

     

    “จะไม่เมินเราแล้วใช่หรือเปล่า?” น้ำตากลิ้งหยดลงมาเป็นสาย พาลเอาคนที่เป็นต้นเหตุใจสั่นวูบ รู้สึกเหมือนใจจะขาดให้ได้

     

    “มันจะไม่มีอะไรแบบนั้นอีกแล้ว ไม่มีแล้ว เราสัญญา ”

     

    ยูชอนพยักหน้าหงึกหงักจนเส้นผมยาวปรกแก้ม

     

    เราก็สัญญากับตัวเองไว้แล้วเหมือนกัน ...

     

    ...........................................................................................................

     

    ร่างสูงเอนพิงกรอบประตู ผ้าขนหนูนุ่มขยี้เบาๆลงบนผมเปียกหมาดของตัวเอง พลางไล่สายตาสำรวจร่างบางในเสื้อเชิ้ตตัวยาวกับขาสั้นขับเรียวขาขาวที่คู้ตัวอยู่ริมเตียง

     

    ยุนโฮหย่อนตัวลงด้านข้าง ไล้นิ้วลงบนริมฝีปากที่ยังเม้มแน่นให้คลายออก น้ำหนักที่ยวบลงกับสัมผัสอุ่นๆที่ริมฝีปากทำให้ยูชอนลืมตาขึ้นมอง

     

    “ลุกขึ้นมาเช็ดผมก่อนสิ ยังเปียกอยู่เลย” ยุนโฮสอดมือเข้าสัมผัสเส้นผมชื้นที่ระอยู่ข้างแก้มและลำคอ ยุนโฮเลิกคิ้วเมื่อสัมผัสถึงอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นผิดปกติ  เพราะปกติมิคกี้ยูชอนไม่ใช่คนตัวอุ่นจัดแบบนี้

     

    “ลุกมาเป่าผมกินยาก่อนนะ”

     

    “ไม่ไหว ร้องไห้หมดแรงแล้ว” เสียงหวานตอบงึมงำในลำคอผะแผ่ว เพราะอาการเจ็บคอเริ่มรุกรานจนไม่อยากแม้แต่จะกลืนน้ำลาย

     

    ยุนโฮเดินไปหยิบยากับน้ำและไดร์เป่าผมก่อนจะกลับมาที่เตียง จัดแจงดึงเอวร่างบางให้ขึ้นมานั่งพิงอก ลมร้อนๆถูกเป่าเข้าที่ผมชื้นเปียกจนยุนโฮได้ลูบเส้นละเอียดนิ่มลื่น  ก่อนจะวไล่ลมร้อนลงมาตามคอขาวเพราะแถวลำคอยังชื้นนิดหน่อย ยูชอนก็ผลักมือ พร้อมกับงอแงให้เอาไปไกลๆเพราะเจ้าตัวร้อน

     

    “ก็ปกเสื้อมันชื้นอยู่นี่ อีกนิดเดียวเอง ตรงคอก็ยังไม่แห้งดีเลย”

     

     คนที่ถูกดึงแขนดึงเอวยอมตะแคงตัวพิงลงบนอกกว้างให้อีกคนบริการเป่าผมให้โดยดี แต่ก็ไม่วายทิ้งระเบิดโดยการปลดกระดุมเม็ดลงมาสามเม็ดจนเห็นไปถึงไหนต่อไหน เอวกางเกงก็ทั้งสั้นทั้งต่ำ พอยูชอนขยับเพราะไม่สบายทีเขาแทบจะไม่มีแรงถือไดร์อยู่แล้ว

     

    แล้วยิ่งผิวขาวๆที่อมชมพูเพราะอาการไข้นี่อีก

     

    “กินยาก่อนเร็ว จะได้นอน” เพราะถ้ายูชอนยังยั่วเขาไม่รู้ตัวแบบนี้ คืนนี้คงได้รังแกคนป่วยแน่  มืออุ่นผิดปกติยอมรับน้ำรับยามาดื่มแล้วกลืนแต่โดยดีแบบไม่ลืมตา พาลเอาน้ำไหลออกจากปากที่วางไม่พอดีกับขอบแก้ว

     

    แล้วผลลัพธ์มันคืออะไรหล่ะ ?

     

    ก็ได้เสื้อเชิ๊ตสีอ่อนตัวกับที่เปียกแนบกับอกที่ขยับขึ้นลงนั่นไงหล่ะ แล้วพอยูชอนปล่อยตัวลงกับพื้นเตียงเท่านั้น ยุนโฮก็ถึงกับต้องเบือนหน้าหนีพร้อมกับกลืนน้ำลายลงคอ

     

    สัมผัสชื้นๆคงทำให้ไม่สบายตัว เจ้าตัวเลยจัดการแหกส่วนที่เปียกนั่นออกไปด้านข้าง ให้พ้นทาง

     

    ไม่รู้ว่าบุญหรือกรรม ที่ได้ยลยอดอกสีชมพูจัดชูชันบนหน้าอกขาวๆ เอวคอดที่ลากยาวหายไปในขอบกางเกงหมิ่นเหม่  เรียวขาที่ตั้งชันขึ้นเรียกเอาขาสั้นลงมากองรวมกันจนเห็นเนินเนื้อกลมกลึงด้านหลังยามเจ้าตัวขยับไปมา 

     

    ชองยุนโฮจะใจแตก รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนโรคจิตถ้ำมองยังไงไม่รู้ จะเอื้อมมือไปดึงกางเกงกับเสื้อให้ก็ไม่กล้า มือยิ่งชอบพลั้งไปเองอยู่ด้วย นี่ยังดีที่สามเม็ด

     

    “ไม่นะ”

     

    แค่เผลอไปหักห้ามใจตัวเองแป๊บเดียว หันมาอีกทียุนโฮก็แทบกรี๊ดเมื่อร่างบางกำลังไล่ปลดกระดุมลงถึงเม็ดสุดท้าย ปากก็พึมพำว่าร้อน

     

    จะห้ามก็ไม่ทัน

     

    ยุนโฮได้แต่หลับตาสูดลมหายใจควบคุมสติเมื่อกระดุมเม็ดสุดท้ายหลุดออกจากรังดุม

     

    “ขอรังแกคนป่วยซะหน่อยแล้วกัน”



    ทอลค์
    วรั๊ยยยยยยยยยยย >___________________<
    ทำไมตอนใกลล้จบพารท์อิหมีเเลจะหื่นเช่นนี้ (ฟิน)
    จะได้รังเเกคนป่วยกันเเค่ไหนก็ติดตามพาร์ทหน้านะคะ
    เอนจอยรีดดิ้งค่ะ .

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×