คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : ชู้ 14 (Jongkey)
ฮัลโหลลล * ขอโทษที่มาต่อให้ช้าค่ะ
พอดีที่บ้านมาเที่ยวทะเลกัน ตอนเเรกกะจะมานั่งเขียนฟิคฟินๆ
ปรากฎว่าที่บ้านวุ่นวายมากจริงๆ -..- หัวตื้อเลยค่ะ หน้าตึงเเต่งไม่ออกเบยย
ตอนนี้ก็มึนๆหน่อยนะคะขอเตือน +
____________________________________________________________________________________________
“พี่จงฮยอนนนน กลับมาแบ๊ววววววววววววววว” เด็กน้อยอีแทมินในชุดนักเรียนพุ่งเข้ากระโจนกอดพี่ชายที่ยืนดื่มโค้กอยู่หน้าตู้เย็นทันทีเจ้าตัวเล็กวิ่งเปิดประตูถลาเข้ามาในห้อง แรงโถมจากด้านหลังทำให้คิมจงฮยอนสำลักพรวด แถมน้ำอัดแก๊สก็ยังหกเปรอะพื้นแล้วก็ปากกับคอเขาด้วย
“เล่นไรแห้ง! นี่ถ้ากอดข้างหน้าหัวได้อร่อยรสโค้กเลยนะ” จงฮยอนไอแค่กๆ ก้มหน้าลงไปเช็ดปากกับแขนเสื้อ ก่อนจะใช้ปลายนิ้วเหนียวบีบปายจมูกเด็กที่สวมกอดจากด้านหลัง คางแหลมๆเกยไว้บนไหล่เขา
“อี๋ เหนียววววว”
“สม” เปลี่ยนมายีผมนุ่มของเด็กน้อยที่เปลี่ยนมาสวมกอดจากข้างหน้าแทน แถมยังเอาหัวทุยๆมาถูไปถูมากับท้องเขาอีก
“วันนี้พวกจงอินนี่ พี่จุนมยอน ยอลลี่ พี่เบค พี่มินซอก คยองซู เซฮุ่นนี่ เสี่ยวลู่ เฮียอู๋ อาอี้ แล้วก็ อ..”
“ก็บอกว่าเด็กดาวหรือแกงค์เทรนนี่ก็จบแล้ว เอ๊อ” หยิกแก้มน้องชายที่ยืนยิงฟันขาวจนแก้มดันตาหยีไปอีกหนึ่งที่ ก่อนจะพเยิดหน้าให้พูดต่อ
“นั่นแหละ ชวนไปกินเนื้อย่างด้วยกัน พี่ไปกับผมนะ พี่คิบอมไปป่าว?” หันหน้าไปถามคิบอมที่ยืนดื่มโกโก้พิงอ่างล้างจานอยู่นานแล้ว
“คิบอมไม่ไปหรอก ต้องอยู่กับมินโฮ ใช่ไหม?”
“อือ อื้ม พี่ไม่ไปดีกว่า”
อย่าแปลกใจที่อยู่ดีๆคิมจงฮยอนจะยอมพูดกับเขากระทันหัน ทั้งที่ตั้งแต่สายจนย่ำบ่ายนี้ ไม่ยอมพูดกับเขาสักคำ เอาเป็นว่าคิมจงฮยอนจะทำตัวกับเขาเหมือนปกติเฉพาะเวลาที่อยู่ต่อหน้าคนอื่นเท่านั้น พอละสายตาเมื่อไหร่ มืออุ่นที่แตะอยู่ก็จะผละออกไปทันที หรือไม่บทสนทนาก็จะหยุดลงกระทันหัน เป็นอย่างนี้มาซักครึ่งเดือนแล้ว
“งั้นผมไปเปลี่ยนชุดก่อนนะ รอแป๊บ” หอมแก้มจงฮยอนหนึ่งที่แล้วก็วิ่งตึงตังเข้าห้องไป แล้วก็อีกนั่นหล่ะ พอเหลือกันแค่สองคนบทสนทนาก็หายไปกระทันหัน เหลือไว้แต่ความเย็นชาว่างเปล่าในอากาศ
“เรายังเป็นพี่น้องกันได้ไม่ใช่เหรอ?”
“เราก็ไม่เคยเป็นอะไรมากกว่านั้นนี่”
จุก
เป็นคำเดียวที่อธิบายความรู้สึกของคิบอมได้ทั้งหมด แน่นอนว่า คิมจงฮยอนไม่เคยได้อะไรจากเขาเกินคำว่าพี่น้อง ถึงแม้ว่าจะกอดกันมากแค่ไหน จะจูบหรือจะนอนด้วยกัน พวกเขาสองคนก็ยังเป็นเพียงแค่พี่น้อง
แล้วตอนนี้เขาอยากได้พี่น้องแบบไหนกันหล่ะ ?
แค่พี่น้องทั่วไปที่คนอื่นเขาเป็นกัน ..
หรือพี่น้องในแบบของพวกเขาเอง
ไม่มีคำตอบ และคิมคิบอมก็ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวหลังจากที่คิมจงฮยอนกับแทมินควงแขนกันออกไปข้างนอกแล้ว
..................................
“คิบอมอา” มือใหญ่เลื่อนไปลูบกลุ่มผมสีเข้มของน้องชายที่นั่งเหม่ออยู่นอกระเบียง จากนั้นจึงคลี่ผ้าหุ่มผืนหนาที่หยิบติดมือออกมาด้วยคลุมลงบนไหล่บางที่สั่นไหว
“ผมไม่เป็นไร ..พี่จินกิ” มือขาวกระชับผ้าห่มให้แนบตัว เพราะลมหนาวที่หอบเอากาศเย็นๆมาวูบหนึ่ง เขานั่งอยู่ข้างนอกนานพอควร นั่งตั้งแต่เย็นจนตอนนี้ฟ้ามืดสนิทแล้วแต่ก็ไม่มีแรงจะลุกไปไหน
“ไม่เป็นไรได้ยังไง”
ก็แล้วถ้าไม่เป็นเป็นไรน้ำตาที่มันไหลอาบแก้มขาวซีดอยู่ตอนนี้คืออะไร ? ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาหลายปีเขาไม่เคยเห็นคิบอมเป็นหนักขนาดนี้มาก่อน ตอนช่วงที่มีเรื่องจงฮยอนเจ้านี่ซึมไปก็จริง แต่ก็ไม่มาแอบร้องไห้จนตาบวมช้ำขนาดนี้
..........................
“ไปดูเขาหน่อยสิ”
“ผมทำผิดใช่ไหมพี่?” พูดกับพี่ชายแต่สายตาทอดมองไปยังร่างบางที่ห่อตัวเองด้วยผ้าห่มยืนพิงระเบียงอยู่ด้านนอก ในมือมีกระป๋องเบียร์ ทั้งๆที่เจ้าตัวก็พูดอยู่เสมอว่าเบาเมียร์ง่าย โซจูดีกว่า แต่อยากดื่มก็ดื่มเถอะ จะดื่มแอลกอฮอล์อะไรก็ได้ตราบใดที่เขาอยู่ใกล้ๆ แต่ไม่ ปัญหามันอยู่ที่ ในมือขาวนั่นเป็นเบียร์ยี่หอโปรดของคิมจงฮยอน และมันก็คงจะเป็นของคิมจงฮยอนนั่นแหล่ะ
“ดื่มนี่หน่อยนะ จะได้อุ่นๆ” ดึงกระป๋องสีน้ำเงินทองออกจากมือแทนที่ด้วยแก้วกระเบื้องอุ่นๆที่บรรจุฮันนี่เลมอนทีหอมกรุ่น อุ่นกำลังดี มินโฮถูมือตัวเองเข้าด้วยกัน ก่อนจะเอื้อมไปประกบที่เเก้มขาวทั้งสองข้าง
“รู้ไหมทำไมต้องเป็นฮันนี่เลมอนที?”
“...”
“เพราะว่าคิบอมทำให้ฉันมีวันที่อ่อนหวานเหมือนน้ำผึ้ง แล้วก็มีวันที่สดใสเหมือนได้ดื่มเลมอนทีเย็นชื่นใจด้วยไงหล่ะ”
“มินโฮ”
“ฉันเสียฮันนี่เลมอนแก้วพิเศษนี้ไปไม่ได้นะ” มินโฮกดจูบที่หน้าผากเกลี้ยง มืออุ่นที่ประคองอยู่ลูบไล้แผ่วเบาที่แก้ม
“ฉันรู้ ฉันสัญญาแล้ว”
คนสัญญาก้มลงมองฮันนี่เลม่อนทีที่บรรจุในแก้วกระเบื้อง ตอนนี้รู้แล้วว่าทำไมชเวมินโฮถึงได้ชอบชงฮันนี่เลมอนทีให้เขานัก เพราะว่าเขาเป็นความอ่อนโยน เป็นความสดใส เป็นความสุขของมินโฮ
“ฉันรักนายนะ”เขย่งตัวขึ้นจูบที่ริมฝีปากหยักของคนรัก ก่อนจะเอนตัวพิงขอบระเบียง จิบเลมอนทีอุ่นๆในมือ รสหวานของน้ำผึ้งที่แผ่ซ่านทั่วลิ้นผสมกับรสอมเปรี้ยวของเลมอนได้ลงตัวพอดี
“ฉันก็รักนาย ฮันนี่เลมอนทีของฉัน”
..........
ป่วย ?
“ไม่ไปดูคิบอมหน่อยเหรอ?” อีจินกิเอ่ยถามน้องชายที่ยืนเลือกเสื้อผ้าอยู่ข้างๆกัน เห็นว่าจงฮยอนเหลือบมองคิบอมหลายทีแล้วเพราะเจ้าตัวไอค่อกแค่กแถมสีหน้าไม่ค่อยดี
“เขาคงไม่อยากให้ผมไปดูหรอกพี่”
จินกิกลอกตา ทั้งๆที่ตัวจงฮยอนเองน่ะคงจะเป็นคนที่สังเกตุเห็นว่าคิบอมไม่สบายก่อนใครเสียด้วยซ้ำ แต่ก็ยังฟอร์มจัด คิดแต่ว่าถูกบอกเลิกแล้ว ถูกทิ้งแล้ว เลยทำท่าไม่สนใจใยดี ทั้งๆที่รักมาแล้วก็เป็นห่วงมากแท้ๆ
เสียงไอค่อกแค่กกับเสียงสูดน้ำมูกฟืดฟาดเหมือนคนหายใจไม่สะดวกทำให้คนที่กำลังสวมรองเท้าเหลือบมองเล็กน้อย แต่คิมจงฮยอนก็ไม่ได้สนใจมากนัก พอผูกเชือกรองเท้าเสร็จก็เดินดุ่มๆออกไป ปิดประตูเสียดังชนิดที่ว่าทำเอาอีกคนน้ำตาคลอ
ไม่เอยากเห็นหน้ากันขนาดนั้นเลย?
ยิ่งคิดถึงก็ยิ่งสะอื้นจนเจ็บคอ หัวก็ปวดตุบๆเหมือนมีอะไรมาบีบเอาไว้ ปวดมากจนกระทั่งอยากจะกินยานอนหลับหรือยาแก้แพ้ให้มันง่วงแล้วหลับไปเลย
เพราะตอนนี้ไม่รู้แล้วว่ามันเจ็บที่ร่างกายหรือเจ็บที่ใจมากกว่ากัน
....
................
“อึกก” วิ่งถลามาคุกเข่ากอดโถส่วมพร้อมกับโก่งตัวอาเจียนของเก่าที่ตีรวนขึ้นมาทั้งๆที่พึ่งดื่มนมลงไปได้แค่นิดเดียว ของเหลวสีขาวมีกลิ่นชวนให้เวียนหัวและแสบคอ
“อึ้กก..” ได้แต่นั่งพิงตัวชักโครกสีขาวสะอาดอย่างหมดแรงเพราะของเก่าดูท่าจะออกมาไม่หยุด คิบอมอาเจียนจนเจ็บคอ เหงื่อเม็ดใสผุดขึ้นตามไรผม จนกระทั่งมีมืออุ่นๆมาช่วยลูบเบาๆแถวๆกลางหลัง
“ฮึก” พอเอาของเก่าออกเสร็จก็ได้เวลาร้องไห้ต่อ คิบอมกำชายเสื้อพี่ชายที่เสมองไปทางอื่นไว้แน่น ไหล่บางสั่นไหวเพราะไม่ว่าจะเรียกยังไงอีกคนก็ไม่ยอมพูด และยังไม่ยอมหันมามองหน้า
“พี่จงฮยอน”
คนถูกขานชื่อไม่ตอบ เพียงแต่สอดมือเข้าใต้ราวเอวแล้วดึงอีกคนให้ลุกขึ้นยืน พยุงร่างบางไปนั่งที่โซฟาในห้องนั่งเล่น ตาเรียวมองอ่างน้ำกับชามโจ๊กที่อยู่บนโต๊ะแล้วก็ได้แต่นั่งก้มหน้า กำชายเสื้อคิมจงฮยอนแน่นขึ้นกว่าเดิม ปล่อยให้น้ำตาหลายหยดร่วงลงบนหน้าตัก
“พี่ปลอบผมหน่อยไม่ได้เหรอ แค่บอกผมว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวก็หาย ผมอยากให้พี่ปลอบ”
เพราะแม้ว่าจะไม่สบายเล็กน้อยเพียงใด คนตรงหน้าก็จะเป็นคนที่สังเกตุเห็นก่อนเสมอ ก็ไม่แปลกอะไรที่จงฮยอนจะกลายเป็นคนที่ดูแลเขาแล้วก็คอยกอดปลอบโยนเวลาที่ไม่สบายหนักๆ คราวนี้เขาก็ยังอยากให้จงฮยอนปลอบ อยากให้จงฮยอนกอดเขาเอาไว้ เช็ดตัวให้ แล้วก็บอกเขาซ้ำๆว่าไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวก็หาย อย่าพึ่งกินน้ำเย็นนะ สัญญาเดี๋ยวหายแล้วจะพาไปกินไอติม อะไรก็ได้ แค่ลูบหัวลูบไหล่เขาก็ยังดี
ไม่มีแม่แต่คำตอบ แก้วใสเล็กๆบรรจุยาสองสามเม็ดถูกวางลงตรงหน้าก่อนที่อีกคนจะขยับชามโจ๊กมาจนชิดขอบโต๊ะพร้อมกับยื่นช้อนส่งให้ คล้ายจะบอกว่ากินซะ พอคิบอมรับช้อนไปถือไว้ในมือ คิมจงฮยอนก็เริ่มบิดผ้าขนหนูขึ้นมาจากอ่าง บรรจงแตะมันลงบนผิวเนื้ออุ่นๆบริเวณที่โผล่พ้นร่มผ้า
“อื้อ” ช้อนคันยาวร่วงลงกระทบขอบชามกระเบื้องดังแก๋งเมื่อมืออุ่นที่ถือผ้าขนหนูเย็นๆล้วงเข้ามาในเสื้อแล้วเช็ดไปตามผิวเนื้อที่แผ่ไอร้อนจากอาการหวัด ตอนเช็ดที่แผ่นหลังนี่ไม่เท่าไหร่ แต่พอเช็ดข้างหน้า คิมคิบอมก็ดันส่งเสียงน่าอายออกไปจนได้
ที่ว่าเวลาไม่สบายแล้วความรู้สึกจะไวกว่าปกติก็จริง .. แต่เขาก็เป็นเฉพาะกับคนตรงหน้าคนเดียว
“ผมไม่ได้หมายความว่าให้พี่เลิกพูดกับผม เลิกมองหน้าผม เลิกกอดผมนะ ก็แค่..ทำให้มันเหมือนพี่น้องทั่วไป” มือขาวกระชากปลายเสื้อของจงฮยอนที่ลุกขึ้นพร้อมกับยกอ่างน้ำเอาไว้แน่น แต่คิมจงฮยอนก็แค่ยืนฟังเขาพูดเงียบๆ ก่อนจะดันอ่างน้ำใบเล็กให้ไปอยู่ในอ้อมแขนข้างหนึ่ง เอี้ยวตัวมาปลดมือเขาออกจากเสื้อ แล้วก็เดินจากไป ทิ้งให้คิมคิบอมใช้ชีวิตอยู่กับน้ำตาเหมือนเดิม
ก็คิมจงฮยอนเคยบอกแล้วไง ว่าถ้าได้แตะแล้วมันจะห้ามใจไม่ไหว
แล้วก็บอกแล้วใช่ไหม ว่าพวกเราไม่เคยเป็นอะไรมากกว่าพี่น้องอยู่แล้ว ? แล้วจะให้เขากลับไปเป็นพี่น้องแบบทั่วไปได้ยังไงหล่ะ มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นหรอกนะ ...
ความคิดเห็น