ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ผมมีชู้ (Jongkey)

    ลำดับตอนที่ #17 : ชู้ 13 (Jongkey)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 188
      1
      16 เม.ย. 56


    ฟิคตอนที่เเล้วเป็นตอนล่าสุดก่อนรีไรท์เเล้ว (มั้ง) นะคะ

    คุณ Panyopiyo : อุเหม่ มีฉากลึกซึ้งจงคีย์บ่อยๆ
    มินโฮจะขว้างขาไมค์ใส่กบาลคนเขียนได้นะคะ 555

    คุณ Zuneoka : อัศจรรย์ใจใช่มั้ยคะ 555
    ดีใจที่ชอบฟิคเรื่องนี้นะคะ อิอิ.

    อ่านตอนนี้ไปฟังเพลงหน้าฟิคไป ฟินจริงๆค่ะ!


    __________________________________________________________________________________________________
     
    PART 13


    เข็มยาวบนหน้าปัดบอกเขาว่าอีกสิบห้านาทีจะสี่ทุ่ม ปลายนิ้วเย็นเฉียบแตะลงบนตัวเรือนสีสว่างของมันอย่างทะนุถนอม คนรักของเขาเป็นคนซื้อเจ้านี่ให้ตอนวันเกิดเมื่อปีที่แล้ว

     

     

    ลมหนาวพัดกรูจนเส้นผมหยักศกสีน้ำตาลสะบัดตามแรงลม อุณหภูมิที่ลดลงมากขึ้นทำให้ร่างกายเริ่มหนาวจนชา แต่เขาก็ยังรอ ...

     

    ดวงตาโตที่คิบอมชอบนักชอบหนาจับจ้องดอกไม้ช่อเล็กกระทัดรัดที่อัดแน่นไปด้วยกุหลาบสีขาวในมือ เขาไม่ใช่คนโรแมนติค ไม่ใช่คนปากหวาน ไม่ใช่คนที่แสดงความรักออกมามากมายนัก แต่เขาก็รักคิบอม มาก ..มากเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะรักใครสักคนได้

     

     

    ….

     

    ร่างสูงซุกมือลงในกระเป๋าเสื้อโค้ทสีน้ำตาลสวย จมูกโด่งซุกลงกับผ้าพันคอสีเข้มเพื่อหาความอบอุ่นก่อนจะหันหลังเดินกลับอพาร์ทเมนท์

    ......................

     

    ไฟในหอพักดับหมดแล้วทุกดวง ไม่เว้นแม้แต่ไฟดวงเล็กสีนวลหน้าห้องที่คิบอมจะเป็นคนเปิดไว้ทุกครั้งหากเขายังไม่กลับเข้าหอมา

     

    ขายาวใต้กางเกงยีนส์เย็นชื้นจากอากาศภายนอกก้าวไปยังห้องนอน แง้มประตูเปิดออกเล็กน้อยพอให้ชะโงกหน้าเข้าไปได้ แต่ก็พบแค่สองร่างนอนกอดกันอยู่บนเตียงคู่ริมซ้ายของห้อง

     

     

    แล้วคิมจงฮยอนกับคิมคิบอมหายไปอยู่ที่ไหน ?

     

     

    ชเวมินโฮวางช่อดอกไม้สีขาวลงบนโต๊ะในห้องนั่งเล่น ก่อนจะจัดการส่งข้อความหาคนรัก

     

    มินโฮ : อยู่ไหน

     

    รออยู่พักหนึ่งอีกคนก็ยังไม่อ่าน และยังไม่มีวี่แววว่าจะตอบ ปลายนิ้วถึงเลื่อนไปที่ปุ่มสีเขียว รออยู่พัก ถึงพบว่าคิบอมปิดเครื่อง กดโทรออกหาพี่ชายอีกคน จงฮยอนก็ปิดเครื่องเหมือนกัน

     

     

    “เอาเป็นว่าอย่าหายไปอยู่ด้วยกันเป็นพอ”

     

    ..................................................

     

    เป็นเพราะว่าช่วงนี้ตารางงานเขาแน่นเอี๊ยดมากเกินไป ไม่มีเวลาคอยดูแลเอาใจใส่คิมคิบอมรึเปล่า ? ถึงได้รู้สึกเหมือนตัวเองถูกลดความสำคัญลงทุกวันๆ

     

    ร่างสูงยืนพิงกรอบประตู มองร่างขาวบางที่นั่งหลับคอพับอยู่บนเก้าอี้เหล็กบุเบาะนุ่มนิ่ม รายล้อมด้วยแฮร์สไตล์ลิสต์หลายคนด้วยความเอ็นดู

     

    “อ้าวน้องมินโฮ”

     

    มินโฮพยักหน้าพร้อมกับยิ้มให้น้อยๆเมื่อสาวๆเอ่ยทัก ยืนมองคนรักถูกลุมล้อมไปด้วยสาวๆหลายคนอีกพักก่อนพวกเธอจะเปิดทางโล่งให้เขา

     

    “ไปทำอะไรมา เมื่อคืนฉันรอนายตั้งหลายชั่วโมง?” ย่อตัวลงตรงหน้าร่างบางที่นอนกอดอกหลับคอพับ มือใหญ่แตะลูบเบาๆที่ด้านหน้าต้นขา แตก็ยังไม่มีวี่แว่วว่าคนแอบงีบจะรู้สึกตัว แถมยังสัปหงกใส่เขาอีก

     

    “ต้องถูกทำโทษรู้ไหม?” ยืดตัวขึ้นอีกหน่อยพอให้สายตาอยู่ในระดับเดียวกัน ปลายนิ้วแตะไล้ที่แก้มบางเบา ก่อนจะประทับจูบลงบนริมฝีปากสีสวยที่ไร้การแต่งแต้มใดๆ

     

    “อื้อ” ครางรับเบาๆแต่ยังไม่ยอมลืมตา ชเวมินโฮเลยกดน้ำหนักย้ำลงไปบนริมฝีปาก คลึงอยู่ครู่หนึ่ง จนกระทั่งเสียงเรียกชื่อทำให้เขาจำต้องผละออก

     

     

    เพียงแต่ชื่อที่หลุดออกมาจากริมฝีปากสีสวยไม่ใช่ชื่อของเขา

     

     

    “พี่จงฮยอน พอแล้ว”

     

     

    ชเวมินโฮไม่แน่ใจว่าตอนนี้ตัวเองกำลังรู้สึกแบบไหน เพราะความรู้สึกหลายอย่างมันถาโถมเข้ามาจนหัวใจปวดหนึบ โกรธ งง โมโห รวมถึง ...เสียใจ

     

    ชเวมินโฮมีคำถามมากมายประดังประเดเข้ามาในหัว พอแล้วหมายถึงอะไร? เรียกชื่อคิมจงฮยอนตอนที่เขาจูบหมายความว่ายังไง ? คิมจงฮยอนเคยจูบคิบอมใช่ไหม? แล้วคิมจงฮยอนเคยทำอะไรมากกว่านั้นหรือเปล่า? เขาเป็นแฟนของคิบอมไม่ใช่หรือ ทำไมชื่อที่หลุดออกมาถึงเป็น

     

    “ไง”

     

    เป็นคิมจงฮยอนแทนที่จะเป็นชื่อของเขา ...

     

    เงยหน้าขึ้นมองพี่ชายที่เดินผ่านประตูเข้ามาพร้อมกับเอ่ยทักเขา ริมฝีปากหยักยกยิ้มให้น้อยๆ คงจะเป็นการทักทาย แต่ไม่รู้ทำไมเขาถึงรู้สึกเหมือนกำลังถูกเยาะเย้ย

     

     

    “เฮ้ พี่จงฮยอน เมื่อคืนหายไปไหนมาอ่า”

     

     

    เป็นลีแทมินที่วิ่งตามเข้ามาพร้อมกับโถมแรงกอดรัดจนร่างของพี่ชายเซถลาไปด้านหน้า เรียกเสียงหัวเราะสดใสจากทั้งสองฝ่าย

     

    “โย่ มิโน่ เมื่อคืนกลับมากี่โมงเหรอ? แล้วเมื่อเช้าออกจากบ้านไปไหนหน่ะ?” แขนขาวคล้องกับท่อนแขนแน่นของคิมจงฮยอน เอียงคอถามพี่ชายอายุใกล้เคียงที่ไม่เห็นหน้าตั้งแต่เมื่อคืน ตอนเช้ามาก็ไม่เห็นหน้า พึ่งได้เจอกันตอนด้วยอาทิตย์ใกล้ตรงหัวที่ห้องพักรออัดรายการของช่อง K นี่แหล่ะ

     

    “ออ ไปกับพวกคยูไลน์หน่ะ” ทำท่ากระดกแก้วให้ดูประกอบ ก่อนจะยืดตัวขึ้น มองหาพี่ชายอีกคนที่ยังไม่เห็นโผล่เข้ามา ทั้งที่จงฮยอนกับแทมินก็แต่งหน้าทำผมเรียบร้อยแล้ว

     

    “พี่จินกิหล่ะ?”

     

    “อ๋อ ไปคุยกับรุ่นพี่ที่เล่นละครเวทีด้วยกันอะ แต่เขาแต่งหน้าทำผมเปลี่ยนชุดแล้ว เหลือพี่อะ พี่จงฮยอนไปเปลี่ยนชุดกัน ออมม่า ไปเปลี่ยนชุดก่อนเร็ว”

     

    อีแทมินสะกิดคิบอมด้วยเพราะพี่สาวสามคนที่ยืนเรียงอยู่หน้าห้องเปลี่ยนชุดถือชุดไว้คนละชุดพร้อมกับชี้มือข้างที่เหลือมายังคิบอม

     

    ..........................................

     

     

    “อื้อ พี่จงฮยอน คนอื่นอยู่ข้างนอกเยอะนะ” คิบอมกระซิบลอดไรฟันเมื่อคิมจงฮยอนโผล่พรวดเข้ามาในม่านพร้อมกับปล้ำจูบเขาอยู่นานสองนานยอมละริมฝีปากออกไป

     

    “มินโฮอะเหรอ?”  จมูกโด่งเป็นสันไล้ดุนแก้มขาว ริมฝีปากพรมจูบแผ่วบาทั่วใบหน้าเนียนใส มืออุ่นลูบไล้ผิวละเอียดใต้เสื้อแฟชั่นสีขาวตัวโคร่งที่เต็มไปด้วยลายกราฟฟิกสีเงินและดำ

     

     

    “ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว พี่จะออกก่อนหรือออกทีหลัง”

     

    พวกเขาไม่ควรจะขลุกอยู่ด้วยกันในนี้นานเท่าไหร่ เพราะวันนี้คิมคิบอมก็แค่เปลี่ยนเป็นเสื้อยืดกับกางเกงสกินนี่ฟิตขาสีเงินแวววาว ไม่ได้มีเครื่องประดับอะไรเลย คิมจงฮยอนก็เป็นแบบเดียวกัน แล้วมันคงไม่ใช้เวลานานหลายนาทีหรอก

     

    “พร้อมกันไม่ได้เหรอ” ปลายนิ้วอุ่นที่ยังไม่ถอนออกมาจากเสื้อเลื่อนไปสะกิดตุ่มไตบนหน้าอก ลงมือขยี้จนอีกคนหน้าเริ่มเปลี่ยนสี

     

    “ในนี้ไม่ได้นะ”

     

    “งั้นไว้ค่อยหาที่ดีๆหลังเลิกละกันนะ” จงฮยอนยิ้มหวานตาหายโชว์ฟันเขี้ยวน่ารัก คนโตกว่ายืนหน้าไปจูบริมฝีปากบางเบาๆแต่หนักแน่นในที ก่อนจะยอมคว้าเสื้อผ้าตัวเองออกจากม่านไป  

     

     

    “พี่จงฮยอน อ่ะ” เงยหน้าขึ้นมองเมื่อม่านตรงหน้าถูกแหวกออกในขณะที่ตัวเองกำลังจะออกไปด้านนอก หลังจากรอเวลาทิ้งช่วงจากจงฮยอนที่ออกไปได้สักพัก คิบอมคิดว่าเป็นจงฮยอนที่อาจจะกลับมาเรียก แต่เปล่า

     

    “ช่วงนี้มีอะไรกับพี่จงฮยอนเหรอ?”

     

    หัวใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม . หวังว่าคำถามคงไม่ได้แปลตรงๆว่านายนอนกับพี่จงฮยอนเหรอ ? แต่เป็น ..ช่วงนี้นายเป็นอะไรกับพี่จงฮยอนมากมั้ย อะไรแบบนี้  มินโฮหมายความแบบที่สองใช่ไหม?

     

    “ห้ะ?”

     

    “นายเรียกชื่อเขาบ่อย”

     

    “ก็ตะกี้พี่จงฮยอนเข้ามาเปลี่ยนเสื้อนี่” คิมคิบอมเอียงคอพูด พยายามควบคุมเสียงตัวเองให้เป็นปรกติ ทั้งที่ที่หัวใจเต้นตุ๊มๆต่อมๆ แถมเหงื่อยังเริ่มซึมตามมือแล้วด้วย

     

    “ช่างเถอะ ไว้คุยกันที่บ้านละกัน”

     

    จริงๆแล้วเขาไม่ได้หมายความถึงเมื่อกี้มากนัก แต่หมายความถึงตอนที่จูบอีกคน ซึ่งเจ้าตัวคงไม่รู้ ว่าตัวเองเผลอเรียกชื่อผู้ชายคนอื่นตอนที่เขาจูบ แล้วก็คงไม่รู้อีก ....ว่าเขาตอนนี้รู้สึกแย่แค่ไหน

     

    “โอเค ฉันออกไปรอข้างนอกนะเด็กดี” คนตัวเล็กกว่าเขย่งปลายเท้าขึ้นแตะจูบที่ข้างแก้ม ในเวลาปรกติอาจจะทำให้เขายิ้มได้ และถ้าอารมณ์ดีพออาจจะคว้าคอเข้ามาจูบด้วยซักที แต่วันนี้ไม่ใช่

     

    เฮ้อ .. ไว้ไปคุยที่บ้านละกัน

     

    ..........................................

     

    “เป็นอะไรวันนี้ดูไม่ค่อยดีเลยนะ?”

     

    ชเวมินโฮมองคนรักที่ก้าวเท้ามาหยุดยืนตรงหน้าในชุดกางเกงผ้าสีอ่อนบางเบากับแจ๊คเก็ตสีเขียวน้ำทะเลรูดซิบขึ้นไปถึงคอ เอียงคอเช็ดผมทำหน้าตาสงสัย

     

     

    “สามชั่วโมงที่ฉันยืนรอ นายรู้บ้างไหม?” เขาเริ่ม พยายามบังคับตัวเองให้ใจเย็นๆ ไม่อยากทำอะไรรุนแรง ไม่อยากพูดจาแรงใส่ ไม่อยากให้พวกเขา ..ทะเลาะกัน

     

    “พูดเรื่องอะไรหน่ะมินโฮ?”

     

    “นายไม่ได้อ่านข้อความฉันเลย”  มินโฮยัดตัวเครื่องชอคกิ้งพิงค์ที่เจ้าตัวโยนทิ้งไว้บนเตียงใส่มือ ชี้ให้คิบอมดูสัญลักษณ์ซองจดหมายที่มุมบน

     

    “เหอะ” แค่นหัวเราะกับตัวเองเมื่อคิบอมเริ่มหน้าเสีย มองดวงตาเรียวกลอกไปมา เอาเลย...เชิญแก้ตัวมาให้เต็มที่

     

    หนึ่งปีแล้วนะครับ, เจอกันที่เดิม

    รัก♥♥♥

     

     

    คิบอมใจกระตุกวูบเมื่ออ่านข้อความที่ตัวเองไม่ได้เปิดอ่าน วันครบรอบหนึ่งปีของเขากับมินโฮ ร่างบางพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล เขามันเลว นอนกับผู้ชายคนอื่นในวันครบรอบหนึ่งปี

     

     

    “มินโฮ ..ฉัน..”

     

     

    “แก้ตัวสิ แก้ตัวให้ฉันฟัง ว่านายต้องไปทำอะไรที่สำคัญกว่า ..บอกฉันทีว่าเรื่องนั้นมันคอขาดบาดตาย นายตกใจและกังวลจนลืมนัดของเรา”

     

     

    “ฉัน”

     

     

    เปล่าเลย .. คิมคิบอมไม่ได้กำลังเผชิญกับเรื่องคอขาดบาดตาย ไม่ได้ตกใจและกังวล แต่กลับกัน เขาถูกปรนเปรอและมีความสุขมากอยู่ต่างหาก

     

     

    “อย่างน้อย .. ก็บอกฉัน ... ว่านายไม่ได้อยู่กับพี่จงฮยอนเมื่อคืน”

     

     

    ไม่ตอบคืออะไร ความเงียบคืออะไร ทำเรื่องคอขาดบาดตายที่เขาไม่ควรรู้อยู่กับพี่จงฮยอนเหรอ ?

     

     

    “มินโฮ .. อย่า” คิบอมคว้าหมับเข้าที่ปลายนิ้วที่แตะลงบนตัวซิป แต่มือคู่สวยกลับถูกตวัดรวบไว้เหนือหัวด้วยมือใหญ่ข้างเดียว พร้อมกับตัวซิปสีทองเหลืองที่ถูกรูดลงมาถึงช่วงอก

     

     

    แต่แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว อธิบายอะไรได้มากมายเหลือเกินแล้ว ... ทรมานหัวใจมินโฮมากพอแล้ว

     

     

    “ไม่อยากแก้ตัวเหรอ บอกฉันว่ารอยยุงกัดหรืออะไรก็ได้ ฉันจะเชื่อ”  ไล้ปลายนิ้วลงบนรอยสีเข้มสดใหม่ที่ต้นคอและอีกหลายแห่งบนผิวขาวเนียน

     

     

    ชเวมินโฮก็เป็นแค่คนโง่ๆที่ถูกแฟนตัวเองหักหลัง

     

     

    “อยากเลิกกับฉันไหม ?” ริมฝีปากอุ่นจูบซับน้ำตาที่แก้มขาว ไล้แผวเบาขึ้นไปยังดวงตาสดใสที่ทำให้เขาหลงรักจนถอนตัวถอนใจไม่ขึ้น เขาไม่อยากให้คิบอมร้องไห้ ไม่อยากเห็นดวงตาคู่นั้นเศร้าหมอง ทั้งที่ตอนนี้โกรธจนแทบบ้า อยากจะลงโทษอีกคนที่ยอมให้ผู้ชายคนอื่นได้กกกอด จูบ หรืออะไรที่มากกว่า แต่ชเวมินโฮก็ทนเห็นดวงตาคู่นี้มีน้ำตาไม่ได้

     

     

    “ขอโทษ” เสียงหวานสั่นเครือ  ท่อนแขนเรียวเลื่อนขึ้นกอดร่างสูง ยึดหลังเสื้อไว้แน่นราวกับว่าอีกคนกำลังจะทิ้งเขาแล้ววิ่งหนี

     

     

    “ที่ผ่านมารักกันอยู่รึเปล่า หรือรักคนอื่น ?

     

     

    ประโยคเดียวกัดกินทำลายหัวใจจนปวดแปลบ น้ำใสเริ่มทะลักออกจากดวงตาบอบช้ำ ไหล่บางไหวเพราะสะอื้นจนตัวโยน

     

    “ฉันเก่ง ฉันฉลาด เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่น แต่อยู่กับนาย ฉันเป็นไอ้โง่ใช่ไหม ?

     

     

    “หยุดนะมินโฮ อย่าพูดกับฉันแบบนี้ อย่าลงโทษกันแบบนี้ ฉันเจ็บ”

     

     

    สาบานเลย ชเวมินโฮไม่ได้กระชากเสียงใส่ ไม่ได้ตวาด ไม่ได้ทำรุนแรงกับร่างกายเขา แต่น้ำเสียงนิ่งที่หมางเมินก็บาดหัวใจจนยับไม่มีชิ้นดีแล้ว

     

     

    ตอนนี้ถ้าให้แต่งเพลงเกี่ยวกับการถูกหักหลัง ฉันคงเขียนได้ดีนะ ว่ามั้ย ?

     

     

    “มินโฮ ฉันเจ็บ หยุดนะ หยุด” ร่างเพรียวบางกระชับกอดร่างสูงแน่น เขาขาดมินโฮไม่ได้ แต่ขาดพี่จงฮยอนก็ไม่ได้เหมือนกัน

     

     

    “ฉันต้องปล่อยมือจากนายเองไหม?”  หยดน้ำใสทิ้งตัวลงข้างแนวสันจมูกโด่ง ร้องไห้ เพียงแต่เขาไม่ได้สะอื้นฮักจนตัวโยนเหมือนกับร่างในอ้อมกอด

     

     

    “ไม่ ! อย่าทำอย่างนี้ ฉันขอโทษที่นอกใจนาย ฉันจะไม่ทำแล้ว ขอโทษ ฉันขอโทษ” ร่างขาวทิ้งตัวลงกับอกกว้าง พร่ำพูดคำขอโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่า

     

     

    “ฉันมีหัวใจดวงเดียว ให้นายไปแล้ว เหยียบย่ำมันให้น้อยลงหน่อยได้ไหม ?”

     

     

    “อย่าพูดอย่างนี้ ...ฉันจะไม่ทำมันเจ็บ ฉันจะไม่เหยียบมันอีก ฉันสัญญา”  ดวงตาบอบช้ำรื้นน้ำจ้องตอบคนรัก ปลายนิ้วเย็นๆปาดไล่น้ำตาบนแก้มมินโฮ ก่อนจะเขย่งเท้าขึ้นแตะจูบปลอบโยน

     

     

    “นายเองก็หยุดร้อง ผู้ชายดีๆเขาไม่ทำแฟนตัวเองร้องไห้”  มินโฮจูบซับน้ำตาที่แก้มนวล มุมปากจุดยิ้มบางเบา

     

     

    “ไปเลิกกับเขาซะ! จงใจพูดเสียงเข้มให้คนที่ยืนอยู่หลังบานประตูได้ยิน ถ้าคิมจงฮยอนจะเล่นไม่เลิก เขาก็ต้องจัดการที่คนของตัวเอง ชเวมินโฮคนนี้จะไม่เป็นคนดีอีกต่อไปแล้ว

     

     

    เขาจะต้องกลับมาเรียกชื่อผมเสียงหวานเวลาถูกจูบเหมือนเดิม  ไม่ใช่ชื่อพี่ ... คิมจงฮยอน


     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×