คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ชู้ 6 (Jongkey) Rewrited
ถึงคุณ Zuneoka
ดีใจที่ชอบฟิคเรื่องนี้ เเละขอบคุณที่ติดตามค่า
วันนี้อัพให้สองตอนเลยค้าบบ ฮี่ฮี่ :).
________________________________________________________________________________________________
PART 6
“อ่า โอเค ไปกับคยูไลน์ใช่มั้ย ? อย่าดึกนักหล่ะ โอเคๆ ฝากความคิดถึงถึงพวกนั้นด้วยละกัน อาฮะ” วางสายจากคนรักพร้อมกับอมยิ้มน้อยๆ ว่างเป็นไม่ได้เลยเนี่ย ไอพวกติดแอลกอฮอล์เอ้ย คิมคิบอมส่ายหัวไปมาก่อนจะหยิบของจากถุงซุปเปอร์ร้านประจำออกมาเรียงรายบนโต๊ะ ตอนแรกกะว่าจะทำบิบิมบับของโปรดมินโฮเสียหน่อย แต่เพราะว่าเจ้าตัวออกไปเที่ยวกับคยูไลน์ก็เลยมีอันต้องพับโครงการเก็บไป
“อือ...” ยืนขวมดคิ้วจ้องผักสดและเนื้อสัตว์ที่เรียงรายเต็มบนโต๊ะอยู่นานสองนาน คนที่อยากให้ช่วยคิดก็หายหัวไปไหนอีกแล้วไม่รู้แต่เช้า แทมินก็ปิดเครื่อง ส่วนพี่อนยูก็เข้ามหาลัย แล้วจะทำอะไรกินดี? ยินนิ่งจ้องเบคอนไสลด์อยู่นานสองนานก็ได้คำตอบ
“ข้าวผัดกิมจิใส่เบคอนเยอะๆ นะ!”
แน่นอนว่าไม่ใช่ความคิดเขาหรอก แต่เป็นอีแทมินกับผ้าปิดปากสีฟ้าที่เดินกอดคอมากับจงฮยอนนั่นตั่งหาก คนเป็นพี่โอบคอน้องมือหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างก็ล้วงกระเป๋ากางเกงสบายๆ ตาคมไม่ได้มองหน้าคนที่อยู่ในครัวแต่กลับมองเฟอร์นิเจอร์กับอากาศแทน
“น้าพี่คิมบอมนะ!” ดึงผ้าปิดปากสีฟ้าลงมาไว้ใต้คางแล้วฉีกยิ้มกว้างจนแก้มดันตาเรียวๆให้หยีปิดลูกกะตาไปหมด แถมยังเอามือมาประกบกันพร้อมกับเขย่าๆ อ้อนวอนราวกับว่าอยากกินเสียเต็มประดา
“แต่..”
“พี่จงฮยอน ..อยากกินเหมือนกันใช่เปล่า? ตะพี้ยังชวนผมไปนั่งกินที่ร้านอยู่เลยไง” ส่งมุขไปทันทีพร้อมกับโอบรอบเอวสอบแล้วยิ้มหวานเจี๊ยบส่งไปให้ คิมจงฮยอนยิ้มรับก่อนจะบิดจมูกเด็กหัวไวด้วยความหมั่นเขี้ยว
“ร้ายนักนะ!”
“เนี่ย เห็นมั้ยสองต่อหนึ่งเลยนะไม่มีแต่แล้วนะพี่ ..”
“เออๆ ข้าวผัดก็ข้าวผัด”
“น่ารักที่สุด พี่จงฮยอนช่วยพี่คีย์เตรียมของไปก่อนนะ ผมไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อแป๊บ” เด็กน้อยที่อยู่ในชุดพละเหนอะหนะวิ่งหอบเป้หายเข้าห้องไปอาบน้ำ ทิ้งพี่ชายตัวสะอาดยืนมึนกันอยู่ในห้องครัวสองคน
“ออกไปดูทีวีรอก็ได้นะ” พูดกับคนที่ยังยืนล้วงกระเป๋าหน้าตึงอยู่หน้าครัว ก่อนจะเริ่มต้นทยอยเอาของนอกเมนูข้าวผัดกิมจิเข้าตู้เย็น พอหันมาอีกทีก็เห็นคิมจงฮยอนกำลังแกะห่อเบคอนแล้วก็เอามาหั่นออกเป็นชิ้นสีเหลี่ยมพอดีคำอยู่ แถมข้างตัวยังมีถ้วยข้าวสวย ไข่ น้ำมันเตรียมไว้พร้อมแล้ว คิบอมเลยหยิบกิมจิกับแครอทในตู้เย็นออกมายืนหั่นอยู่ข้างๆกัน
ปกติคิมจงฮยอนก็ไม่มาทำอะไรแบบนี้หรอก ชอบนั่งดูคิบอมทำกับข้าวแล้วก็บ่นมากกว่า เพลินตาแล้วก็สนุกกว่าเป็นไหนๆ แต่เพราะวันนี้ไม่อยากจะนั่งจ้องเฉยๆให้บรรยากาศมันกระอักกระอ่วนไปมากกว่านี้ แถมเสี่ยงจะโดนเจ้ามักเน่แผนสูงนั่นว้ากเข้าให้ข้อหาเปิดโอกาสให้แล้วยังโง่อีกต่างหาก
“พี่” ขยับศอกไปแตะแขนคนที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาหั่นเบคอนแต่อีกคนกลับขยับหนี ลากเขียงพลาสติกเขยิบออกห่างจากเขา เล่นเอาคิมคิบอมเจ็บจี๊ดยังกับถูกมีดหั่นเบคอนปลักเข้ากลางอก นี่กำลังเอาคืนเขาแบบตอนที่เขาขยับหนีอยู่รึเปล่า ?
ในขณะที่กำลังผัดเข้าผัดกิมจิ อย่างเหม่อ (?) ตากลับมองแต่คิมจงฮยอนที่เก็บมีดเขียงล้างทำความสะอาด แล้วก็มองตามคิมจงฮยอนที่แทบจะมุดเข้าไปในตู้เย็นอยู่นานสองนานก่อนจะหยิบกล่องทัปเปอร์แวร์ที่บรรจุเข้าโพดเม็ดเหลืองกลมยื่นให้
“ใส่สิ แทมินชอบ”
ยิ่งกว่าถูกฟาดหน้าด้วยกระทะร้อนๆ จะมีอะไรแย่ไปกว่าแฟนออกไปเที่ยวกับเพื่อน แถมไอคนข้างตัวยังกวนประสาทยั่วโมโหเขาตลอดเวลาอีกมั้ย? ตวัดกล่องข้าวโพดมาเปิดก่อนจะเทพรวดลงไปจนเม็ดกลมๆสีเหลืองกระจายทั่วกระทะ ตวัดตะหลิวเคาะเบาๆสองสามทีแล้วโยนทัปเปอร์แวร์เปล่านั่นลงอ่างดังโครม
คิมจงฮยอนคนกวนประสาท!
...................................................................................
“ข้าวโพดเยอะจังแฮะ” ยิ้มร่าออกมาพร้อมกับตักข้าวเข้าปาก คิมคิบอมมองคิมจงฮยอนที่ยิ้มร่ากับร่างขาวของน้องชายที่เคี้ยวแก้มป่องอย่างเอร็ดอร่อย แถมแทมินยังหยอกล้อเอนซบกับพี่ชายที่เขี่ยข้าว อย่าเรียกว่ากินเลย เรียกว่าเล็มซะมากกว่า
“ก็ชอบไม่ใช่เหรอ ข้าวโพดเนี่ย เบคอนเนี่ย” ว่าแล้วก็ตักเบคอนกับกองข้าวโพดสีเหลืองทองในข้าวผัดกิมจิข้าวโพดของตัวเองไปโปะใส่จานแทมินที่ยิ้มรับแถมยังจุ๊บแก้มเขาไปทีหนึ่ง แอบเห็นคนตรงข้ามตาเหลือกเลยด้วยซ้ำตอนที่ริมฝีปากรสเบคอนแตะลงบนแก้มเขา ตลกพิลึก
“พี่คีย์ เขี่ยทำไม ไม่อร่อยรึไง?” ถามพี่ชายตัวขาวที่นั่งเขี่ยข้าวในจานไปมาจนข้าวกระจายออกจากจาน เดี๋ยวมันจะเดือดร้อนมักเน่ที่ต้องเก็บล้างและเช็ดโต๊ะไง ไม่ใช่อะไร
“โทรหาพี่อนยูหน่อยดิ อยู่ไหนแล้ว” เห็นแล้วแหล่ะว่าเมื่อคืนสองคนนั้นดีกันแล้ว ก็เลยใช้ให้โทรหาให้ซะหน่อย แต่สิ่งที่ทำให้ตกใจคืออีแทมินล้วงกระเป๋ากางเกงจงฮยอนเพื่อจะเอามือถือร่างสูงมาโทรออกต่างหาก แถมคนเป็นพี่ยังเอาหน้าไปแนบหูโทรศัพท์หลังจากแทมินกดโทรออกแล้วด้วย
อยากจะเป็นบ้า จะยั่วโมโหกันไปถึงไหน ?
“ไม่รับอะ กินเหอะ พี่เค้าน่าจะไปกินข้าวกับเพื่อนนะ เห็นบ่นอยู่เมื่อเช้า”
“เหรอ?”
“ค้าบบ เดี๋ยวพี่จงฮยอนไปเล่นเกมส์เป็นเพื่อนผมหน่อยดิ วันนี้ขานั้นเค้าออกไปซดไวน์ ไม่มีคนเล่นด้วย”
“โอเคเลย แต่นายหน่ะไปล้างจานก่อนละกัน” ยีผมนุ่มเบาๆก่อนจะก้มหน้าเขี่ยข้าวในจานตัวเองรอคนที่กำลังกินอย่างเอร็ดอร่อย แล้วสุดท้ายข้าวผัดกิมจิข้าวโพดนรก (ชื่อเมนูใหม่ที่ตั้งเองในใจ) ของเขาและที่เหลือในจานของคิบอมด้วย ก็โดนกวาดเข้าปากแทมินจนหมด
คิมคิบอมงับเนื้อแตงโมสีแดงชุ่มฉ่ำเข้าปาก แต่รสหวานเย็นชื่นที่ปลายลิ้นไม่สามารถดับจิตใจที่ร้อนรุ่มในตอนนี้ได้ นั่งขัดสมาธิกัดแตงโมไปด้วยขณะมองดูสองร่างยืนเบียดกันตรงอ่างล้างจาน ก็บอกแล้วว่าคิมจงฮยอนกวนประสาท ปกติเข้าครัวมาก็มานั่งจ้องเขาทำกับข้าว ไม่ก็ยืนกินเบียร์มองเขาล้างจาน แล้ววันนี้เป็นบ้าอะไร เป็นอะไรมากไหมถึงได้ไปยืนเบียดน้องล้างจาน แถมยังป้ายโฟมกลิ่นสตรอว์เบอรี่ลงบนแก้มใสนั่นพร้อมกับหัวเราะคิกคักกันราวกับถ่ายมิวสิควีดีโอก็ไม่ปาน
หงุดหงิด แต่ก็ไม่ยอมลุกไปไหนซักที จนสองคนนั้นเช็ดไม้เช็ดมือที่เริ่มเปื่อยเพราะแช่น้ำนานพร้อมกับเดินควงแขนกันผ่านเขาที่มีชามซากแตงโมวางอยู่บนตักออกไปเปิดเกมส์เสียงดังนั่นแหล่ะ ถึงได้ยอมย้ายที่
“บ้าที่สุด” กระแทกชามที่มีเมล็ดแต่โมลอยติดอยู่ที่ก้นชามกับน้ำสีแดงเล็กน้อยลงอ่างแล้วก็เดินออกจากครัว กะว่าจะทิ้งตัวลงนอนหลับให้หายหงุดหงิด
พอผ่านห้องนั่งเล่นคิบอมยิ่งเร่งฝีเท้าเพราะสองคนกำลังเล่นเกมส์เสียงดังโวยวาย อีแทมินที่ยืนกดจอยส์เกมส์กระโดดเหยงๆอยู่บนโซฟา คิมจงฮยอนที่โกงด้วยการเกี่ยวขาเล็กนั่นอย่างแรงจนอีกคนเซล้มลงมาทับเป็นภาพที่ชวนให้หงุดหงิดเสียจริงๆ
“จงฮยอนอปป้าขา หนูยอมแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า” เสียงหัวเราะใสลอดเข้าบานประตูที่ยังไม่งับปิดดี ก็เลยกระแทกประตูปิดดังปึงหนีเสียงหัวเราะที่ไม่มีเสียงตัวเองร่วมด้วยนั้น ก่อนจะเดินไปทิ้งตัวลงบนเตียงเดี่ยวของจงฮยอนที่พักนี้มีแทมินมานอนเบียดอยู่ด้วยบ่อยๆ มือขาวคว้าหมอนขึ้นมาบนตัก จัดการทุบตีสกรัมจนปลอกหมอนสีเหลืองนั่นยับติดมือ พอเหนื่อยก็ทิ้งตัวลงนอนพัก แล้วก็เขาสู่นิทราไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
......................
“อือ” รู้สึกตัวอีกทีเมื่อพื้นที่ว่างข้างเตียงยุบลง พร้อมกับแผ่นหลังที่รู้สึกอุ่นวาบขึ้นมา เหลียวคอไปดูก็เห็นว่าคิมจงฮยอนมานอนหันหลังใส่ตัวเองอยู่ แต่เป็นเพราะเป็นเตียงเดี่ยวกว้างแค่สามฟุตครึ่งหลังก็เลยเบียดชนกันอย่างที่เห็น แต่ปกติเคยนอนหันหลังใส่กันอย่างนี้ที่ไหน กำลังพลิกตะแคงตัวเตรียมจะหันไปกอด แต่เสียงแหลมๆก็ดังขึ้นขัดซะก่อน
“แล้วอย่างงี้ผมจะนอนกับพี่จงฮยอนได้ไงอ่ะ?”
เงยคอมองแทมินที่มายืนเท้าเอวจ้องเขาอยู่ปลายเตียงด้วยสายตา ‘ถ้าพี่ไม่ให้ผมนอนกับพี่จงฮยอนผมจะพังห้องหรือไม่ก็โดดออกระเบียงนะ!’ อะไรเทือกนั้น คิมคิบอมก็เลยต้องสะบัดผ้าห่มฟึดฟัดแล้วก็ก้าวตึงตังไปทิ้งตัวลงนอนบนเตียงของตัวเองกับมินโฮแทน โดยไม่ได้เห็นสีหน้าน้องเล็กที่คลานขึ้นเตียงพร้อมกับพยายามก้มหน้ากลั้นขำสุดฤทธิ์กับกริยาหึงหวงไม่รู้ตัวของพี่ชาย
แอบหรี่ตามองก็เห็นว่าพี่จงฮยอนกำลังสอดแขนเข้าใต้คอขาวผ่องแล้วก็ดึงร่างขาวบางนั้นเข้าสู่อ้อมกอด โดยที่เจ้าตัวเล็กก็ส่งเสียงหัวเราะคิกคักสดใสตลอดเวลา ถึงจะมีหยุดไอค่อกแค่กเป็นพักๆบ้างก็เถอะ แต่คิมคิบอมก็หงุดหงิดเกินกว่าอะไรเสียอีก
“พี่จงฮยอน ทะลึ่งน่ะ!” ผ้าห่มที่คลุมโปงอยู่ถูกสะบัดออกทันทีพร้อมกับคิมคิบอมที่ดีดตัวผึงขึ้นมานั่งตัวตรงบนเตียง ดวงตาเรียวจ้องไปยั่งสองคนที่กำลังปลุกปล้ำถีบกันไปมาบนเตียงเขม็ง โดยเฉพาะมือของร่างสูงที่ล้วงหายเข้าไปในเสื้อยืด กับมือแทมินที่แตะอยู่บนไหล่กว้างนั้นน่ะ
“ออมม่า ช่วยโด้ยยยยยยย” ท้ายเสียงนี่เพี้ยนไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้เพราะโดนจั๊กจี้เข้าไปเลยได้แต่ดิ้นไปดิ้นมาร้องแหกปากโวยวาย
“นี่ห้องนอน”
คำเดียวรู้เรื่อง คิมจงฮยอนกับอีแทมินถึงกับกลั้นยิ้มไว้เอาไว้แทบไม่ไหว อีแทมินนอนตะแคงหันหลังพยายามกันขำเท่าที่จะทำได้ ส่วนคิมจงฮยอนก็ยังอุส่าห์จะส่งสายตากวนประสาทกับรอยยิ้มท้าทายไปให้คนที่หน้าบึ้งสักเล็กน้อยก่อนจะทิ้งตัวลงนอนกอดเจ้าตัวเล็กที่กลั้นขำจนน้ำตาเล็ด
แค่ทำให้คนตรงหน้าหงุดหงิดฟึดฟัดหัวเสียได้ก็อารมณ์ดีไปอีกหลายวันแล้วหล่ะ
ก็ช่วยไม่ได้ ...อยากจะไม่ให้เขาแตะตัวเองทำไม อยากจะยัดเยียดเขาให้แทมินทำไม
ช่วยไม่ได้.... นายผิดเองนะคิมคิบอม
ความคิดเห็น