ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Melodic Boy Live in Absolute Quality ♬ (2U)

    ลำดับตอนที่ #6 : {OS} Merry Christmas

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 119
      1
      29 ธ.ค. 56

    Shalunla 
    โง่ยยยยยยยย เมอรี่คริสต์มาสค่ะ (ทันป่ะ?)
    ได้ฟังเพลง วันคริสต์มาสของเอกโซเเล้วนึงถึงคริสตืมาสที่ยูชอนกับหมีได้อยู่ด้วยกัน.
    ฟิค Absolute รอหน่อยนะคะ อีกไม่นานๆ

    Exo - Christmas Day





    งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา...

     

    หลังจากกอดลากับคิมแจจุงและคิมจุนซูพร้อมกับบอกลาเรียบร้อยแล้ว มือขาวก็ปิดงับประตูก่อนจะเดินตรงไปยังโต๊ะเล็กในห้องนั่งเล่น รวบแก้วพลาสติกและกระป๋องน้ำอัดลมกับกระป๋องเบียร์เปล่าๆใส่ถุงขยะ เก็บเค้กที่ยังเหลือบรรจุใส่กล่องพลาสติก ก่อนจะรวบจานซ้อนกันไว้ในอ้อมแขน เพื่อที่จะได้ง่ายต่อการยกไปที่อ่างล้างจาน

     

    “ยูชอนอา มานั่งกับแม่ตรงนี้สิ”

     

    ลูกชายคนโตที่กำลังจะก้าวออกจากห้องนั่งเล่นหยุดชะงัก เลือกไม่ถูกระหว่างทำเป็นไม่ได้ยินแล้วเดินเข้าครัวไป หรือจะวางจานไว้แล้วไปนั่งโซฟาตามที่แม่บอกดี

     

    “ริคกี้ลูก ไปเอาจานจากฮยองไปล้างไป แล้วก็ทำความสะอาดในครัวด้วยนะ เสร็จแล้วก็อุ่นนมร้อนๆมาให้มิคกี้แก้วนึง”

     

    คนเป็นน้องที่ง่วนอยู่กับกองของขวัญทำตาเหลือก แต่พอโดนสายตาดุๆจากมารดาก็ยอมละจากกองของขวัญเดินไปรับกองจานจากยูชอนแต่โดยดี

     

    ส่วนคนเป็นพี่ก็ว่าง่าย เดินไปทิ้งตัวลงนั่งข้างมารดาตามที่นางว่า แต่ดวงตากลับมองเหม่อออกไปไกล มือทั้งสองข้างจิกกันแน่นโดยไม่รู้ตัว ก่อนที่มือเล็กและอบอุ่นกว่าจะแทรกเข้ามากอบกุม

     

    “แม่กับน้องเป็นห่วงนะลูก”

     

    ลูกชายคนโตพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนหนุนตักนิ่ม หลับตาลงเพื่อให้หัวใจและร่างกายที่เหนื่อยล้าได้พักผ่อน ยูชอนหลับตารับสัมผัสที่เต็มไปด้วยความรักความอาทร ปลายนิ้วอุ่นแตะเบาๆลงข้างแก้ม ก่อนจะทัดผมตัดสั้นสีดำของลูกชายไปไว้หลังใบหู

     

    “ลูกยังมีแม่ มีริคกี้ มีแจจุง มีจุนซู มีคนที่เป็นห่วงแล้วก็รักลูกอยู่อีกหลายคนรู้ไหม”
     

     

    ใช่...เขาคนเดียวไม่รักไม่สนใจเราก็ไม่เป็นไร ยังมีคนที่รักที่เป็นห่วงเราอีกตั้งมากมาย
     

     

    “ยูชอนคนเก่งของแม่ไปไหนแล้ว ยูชอนที่เคยตื่นเต้นกับวันคริสต์มาส ยูชอนที่มีความสุขกับต้นคริสต์มาสสีเขียว แสงไฟและของขวัญ เด็กน้อยที่เฝ้าคอยหิมะแรก เฝ้าคอยคืนคริสต์มาสและซานต้าของแม่หายไปไหนแล้ว”

     

    “ผมขอโทษที่ทำให้แม่กับน้องเป็นห่วง ขอโทษจริงๆครับ”

     

    ยูชอนพูดทั้งที่หลับตา พยายามควบคุมไม่ให้เสียงสั่นเพราะกระบอกตาเริ่มร้อนผ่าว แถมยังรู้สึกแสบๆเหมือนมีก้อนอะไรเอ่อจุกอยู่ตรงคอ

     

    “วันนี้ฮยองเหนื่อยมามากแล้ว ดื่มนมแล้วขึ้นไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวผมเก็บข้างล่างเอง”

     

    ก้นแก้วอุ่นๆแตะลงบนผิวเนื้อแถวๆต้นแขน พร้อมกับโซฟาที่ยวบลงเล็กน้อยตามน้ำหนักของคนที่ทิ้งตัวลงนั่งหมิ่นๆใกล้ๆตัวเขา

     

    “ขอบใจแล้วก็ขอโทษนะริคกี้อา”

     

    ยูชอนยันตัวลุกขึ้น แล้วโผเข้าโอบกอดน้องชายไว้ทั้งตัว เรียกเอาเสียงเอ็ดเบาๆจากคนเป็นน้องเพราะไม่ทันระวังจนนมเกือบจะกะฉอกออกจากแก้ว แต่ยูชอนไม่ได้สนใจฟัง กลับทิ้งศีรษะลงซบบ่นบ่าเล็กกว่าของน้องชายอยู่ครู่ใหญ่ จนริคกี้ร้องโวยวายว่าเลิกกอดซักทีเพราะทั้งเมื่อยทั้งง่วงจะตายแล้ว แถมนมก็จะเย็นเสียหมด

     

    ..............................

     

    ปลายนิ้วเย็นพอๆกับอากาศด้านนอกแตะเบาๆลงบนกระจกเย็นเฉียบ ดวงตาสีดำสนิทมองปุยหิมะสีขาวที่ตกโปรยปรายลงปกคลุมทุกพื้นที่จนเป็นสีขาวโพลน ไฟทางและแสงไฟจากรถที่ขับผ่านไปมาส่องผ่านเข้ามาจนเกิดเงาวูบวาบ ยูชอนล้วงเอากล่องสีเงินที่ซ่อนอยู่หลังกรอบรูปแถวนั้นออกมา  บุหรี่มวนเรียวสีขาวคาดทองถูกจุดติดไฟ ก่อนรสแสบร้อนของมันจะถูกอัดเข้าไปในลำคอ

     

    เวลาเราสูบบุหรี่แล้วเซ็กซี่รู้ไหม แต่พี่ก็ไม่ชอบอยู่ดี

     

    เขายังจำประโยคนั้นได้ดี วันที่อากาศหนาวเหน็บจนน่าอารมณ์เสีย ยูชอนแอบหลบมายืนสูบบุหรี่คลายหนาวเงียบๆคนเดียว แต่ยังไม่ทันรสร้อนวูบวาบของบุหรี่นอกราคาแพงจะผ่านความร้อนวูบให้อุ่นไปทั้งตัว ก็มีวงแขนอุ่นๆสอดผ่านรอบเอวมาโอบเขาไว้ทั้งตัว จำได้ว่าหายหนาวไปทันที ร่างกายอุ่นจนร้อนของอีกฝ่ายทำให้เขาไม่ต้องพึ่งบุหรี่อีกต่อไป หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ โดนแย่งบุหรี่ไปจากมือ แถมยังโดนลงโทษด้วยจูบอ่อนโยน ริมฝีปากคลอเคล้าลงมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนร่างกายอุ่นวาบค่อนไปทางร้อน

     

    ยูชอนอัดควันพิษเข้าปอดอีกรอบใหญ่ ก่อนจะขยี้ก้นกรองลงไปรวมกับซากบุหรี่อีกหลายตัวที่นอนอยู่ในที่เขี่ยเขรอะไปด้วยฝุ่นหนา

     

    ก่อนขึ้นมาริคกี้แอบกระซิบกับเขาว่าชางมินส่งข้อความมาบอกเจ้าตัวว่ากำลังออกจากสนามบินอินชอน ยูชอนก็เลยรอ รอด้วยหัวใจอันอ่อนล้า รอทั้งๆที่รู้ว่าทำแบบนี้ก็มีแต่ตัวเองจะผิดหวัง แต่ก็ยังรอ

     

    หน้าต่างที่เปิดแง้มไว้นานทำให้คนที่ยืนรอต้องกอดตัวเองเพราะความหนาว ในความเป็นจริงแล้วจากสนามบินอินชอนมาถึงบ้านเขาแค่สี่สิบห้านาทีก็นานเกินไปแล้ว แต่นี่ยูชอนรอมารวมสองชั่วโมงแล้ว ก็ยังไม่มีแม้แต่วี่แวว

     

    มือเย็นจัดงับบานหน้าต่างปิด ก่อนจะหยิบชุดนอนที่วางอยู่บนเตียงไปเก็บไว้ในส่วนลึกสุดของตู้เสื้อผ้า เพราะคิดเอาว่า เจ้าของเขาคงไม่ต้องการใช้มันอีกต่อไปแล้ว

     

    ยูชอนสอดตัวเข้าไปในผ้าห่มเนื้อนิ่มผืนหนา มันช่วยบรรเทาความหนาวเหน็บลงไปได้บ้าง  แต่ก็ที่ร่างกายเท่านั้น ปลายนิ้วเย็นๆกดลงนวดคลึงที่หัวคิ้วและขมับตัวเองเพื่อคลายความเมื่อยล้า เปลือกตาสีมุกค่อยๆปิดลงเชื่องช้า ก่อนจะปล่อยให้ร่างกายจมเข้าสู่ห้วงนิทรา

     

    วงแขนอุ่นๆที่สอดเข้ามารอบเอวกับร่างกายที่ถูกโอบรัดจนแนบกับแผ่นอกไม่ได้ทำให้รู้สึกตัว แต่ริมฝีปากอุ่นๆกับลมหายใจร้อนๆที่สะดุดเป็นพักๆ กลิ่นกายที่คุ้นเคยและมือร้อนๆที่สอดผ่านเสื้อเข้ามาสัมผัสเขาอย่างอ่อนโยนต่างหากที่ทำให้ยูชอนรู้สึกตัว

     

    ยูชอนพยายามบังคับลมหายใจให้เป็นปกติที่สุด พยายามจะบังคับตัวเองไม่ให้ร้องออกไป แล้วก็พยายามที่จะไม่เอ่ยปากร้องขอให้อีกฝ่ายสัมผัสเขามากกว่านี้

     

    “ยังไม่ได้โยนชุดนอนฮยองทิ้งไปใช่ไหม?”

     

    “...”

     

    “ยูชอนอา...ฮยองคิดถึงเรานะรู้ไหม”

     

    อ้อมแขนกระชับแน่นขึ้นพร้อมกับริมฝีปากร้อนที่แนบลงมาตรงหลังคอ ความรักที่ส่งผ่านมาจากปลายนิ้วสู่ร่างกายของเขาที่กำลังถูกสัมผัสอย่างทะนุถนอมเรียกให้น้ำตาหยดลงบนแก้มและจมูกยูชอนอย่างงายดาย
     

     

    “เรา...เรายังรักกันอยู่รึเปล่า? ฮยอง... ฮยองยังรักผมอยู่ไหม?”

     
     

    ยูชอนพลิกตัวไปหา ใบหน้าเปื้อนน้ำตาได้แต่ซุกเข้าหาแผ่นอกกว้าง กลัวว่าจะต้องสบตา กลัวว่าตัวเองจะรับความจริงไม่ได้หากอีกฝ่ายพูดออกมาว่าพวกเขาไม่ได้รักกันแล้ว

     

    “เรายังรักกันอยู่ครับคนดี”

     

    ยืนยันอีกหนด้วยการจูบซับน้ำตาของยูชอนที่หยดลงบนปลายจมูก ก่อนจะกดจมูกย้ำลงบนผิวแก้มและริมฝีปากที่ถวิลหามาตลอดหลายเดือน เขากดริมฝีปากลงคลอเคล้ากับริมฝีปากอิ่มและผิวแก้มเย็นๆอยู่เนิ่นนาน ส่งผ่านความรักและความคิดถึงผ่านสัมผัสให้อีกฝ่ายได้รับรู้

     

    “ฮยองเป็นคนรักที่แย่มากเลยใช่ไหม?”

     

    ชายหนุ่มหัวเราะน้อยๆเมื่อรู้สึกว่ายูชอนพยักหน้าอยู่กับแผ่นอก ปลายนิ้วอุ่นลูบผมนิ่มเส้นละเอียดของยูชอนอย่างรักใคร่ อยากให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าเขารักและคิดถึงมากแค่ไหน

     
     

    “แต่ฮยองก็เป็นของขวัญวันคริสต์มาสที่ดีที่สุดของปีนี้แล้ว”

     
     

    ยูชอนเลื่อนมืจากแผ่นอกขึ้นไปโอบอยู่รอบคอ ก่อนจะกดริมฝีปากลงที่ปลายคาง

     

    “ไปอาบน้ำเถอะครับ เดี๋ยวผมไปเอาชุดนอนให้”

     

    ......................

     

    ชายหนุ่มเดินมาทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงหลังจากอาบน้ำเสร็จ เขาแตะริมฝีปากเบาๆลงบนหน้าผากเกลี้ยงของคนที่ยังนั่งเอนหลังตาปรืออยู่บนเตียง รู้ดีว่ายูชอนรอเขาอาบน้ำเพราะอยากจะเข้านอนพร้อมกัน

     

    “ผมเช็ดผมให้นะ”

     

    ยูชอนคลานมาคุกเข่าอยู่ตรงหน้า ก่อนจะรับผ้าขนหนูไปเพื่อเช็ดผมให้เขา ดวงตาคมมองใบหน้าที่อยู่เหนือขึ้นไปของคนอายุน้อยกว่า มันมีร่องรอยของความเหนื่อยล้ามากมาย คงจะดีกว่านี้ถ้าพวกเขายังอยู่ด้วยกัน คงจะดีกว่านี้ถ้าได้แบ่งช่วงเวลาที่เลวร้ายและเหน็ดเหนื่อยมาจากยูชอนบ้าง

     

    ยูชอนหวีดร้องเบาๆเมื่อโลกของเขาถูกเหวี่ยงหมุนจนหลังลงไปแนบกับพื้นเตียง อุ้งมือร้อนข้างนึงสอดเข้ามาประคองอยู่ใต้แผ่นหลัง ส่วนอีกข้างหนึ่งยันร่างกายเอาไว้ไม่ให้ทับลงมา

     

    “ฮยองทำมากกว่าจูบเราได้ใช่ไหม?”

     

    มือที่ยันอยู่บนแผ่นอกเลื่อนขึ้นไปโอบรอบคอแกร่งตอนที่ริมฝีปากร้อนกดลงมาบนลำคอ ยูชอนช่วยยกสะโพกเพื่อให้กางเกงทั้งตัวนอกและตัวในถูกดึงออกไปง่ายขึ้น จมูกโด่งพยายามผ่อนลมหายใจให้เป็นปกติ แต่น้ำหนักมือและจังหวะที่ปรนเปรอทำให้ลมหายใจยูชอนสะดุดไปหลายต่อหลายครั้ง เส้นผมชื้นของอีกฝ่ายถูกขยำขยุ้มพร้อมกับเสียงครางอย่างสุขสมของคนที่ถูกปรนเปรอ

     

    ยูชอนได้แต่บิดสะโพกลงกับพื้นเตียงเพราะความวูบโหวงที่ท้องน้อย หน้าท้องเกร็งแน่น ลมหายใจสะดุดเป็นพักๆพร้อมกับเสียงเรียกชื่อ ยุนโฮ ยุนโฮฮยองด้วยน้ำเสียงรัญจวนจนอีกคนแทบจะทนไม่ไหว

     

    “ฮื่อ”

     

    ยูชอนร้องในลำคอเมื่อวงแขนสอดเข้ามาใต้ต้นขาเพื่อยกขาขึ้นพาดที่เอว ก่อนปลายนิ้วจะแหวกก้อนเนื้อเต็มมือ แทรกปลายนิ้วถูไถลงบริเวณร่องด้านหลัง กดย้ำอยู่หลายทีแล้วค่อยๆปล่อยให้ร่างกายของยูชอนกลืนแกนนิ้วร้อนของตัวเองเข้าไป

     

    “ไม่เอา... ไม่เอาแล้ว ...ให้ผมเป็นของฮยองซักที

     

    ยูชอนหวีดร้องสุดเสียงเมื่อปลายนิ้วร้อนที่ควานกดย้ำที่จุดอ่อนไหวภายในถูกถอนออกไปอย่างรวดเร็วพอๆกับบางสิ่งที่ร้อนและคับแน่นกว่าที่แทนที่เข้ามาในคราวเดียว ยูชอนหายใจหอบ รู้สึกจุกแน่นไปทั่วท้องน้อยจนต้องงอตัว ปลายนิ้วจิกลงบนแขนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแน่นของอีกฝ่ายแน่นเพื่อระบายความอึดอัดจนเหงื่อไหลซึมลงไปตามร่องนิ้ว

     

    ยุนโฮกำลังอดทนกับความอุ่นร้อนที่โอบรัดตัวเองเอาไว้ ชายหนุ่มกัดฟันแน่นจนสันกรามนูนชัดเจน พยายามข่มอารมณ์ดิบภายในเอาไว้เพื่อให้ยูชอนที่กำลังหอบหายใจถี่ไม่แพ้กันได้ปรับตัว จนความพยายามสิ้นสุดลงเมื่อสุดท้ายยูชอนเป็นฝ่ายขยับสะโพกเข้าหาเขาก่อน

     

    “อยากเห็นหน้า ขอฮยองเปิดไฟนะ”

     

    “ไม่เอา ...ฮื่อ”

     

    ผิวขาวจัดสว่างน่ามองจนตาแทบพร่าเผยเข้าสู่สายตา ยุนโฮกดยิ้มอย่างพึงพอใจกับรอยแดงช้ำที่กระจายอยู่แทบทุกพื้นที่ผิว ก่อนจะพรมจูบไปทั่วใบหน้าที่บิดเบี้ยวเหยเกไปตามจังหวะที่ถูกกระแทก

     

    ความอ่อนนุ่มที่โอบรัดให้ความรู้สึกดีจนต้องครางออกมาทุกครั้งที่ยูชอนเกร็งตัวโอบรัดเขาแน่นขึ้น ร่างกายทั้งคู่ขยับสอดประสานกันอย่างดีแม้จะห่างหายจากการสัมผัสกันไปนาน ยูชอนสูดหายใจเอากลิ่นกายคุ้ยเคยของยุนโฮเข้าไป ปล่อยให้วงแขนแข็งแรงโอบกอดและเป็นฝ่ายนำทางไปอย่างทุกที

     

    .....................................

     

    “ตอนนั้นที่แวนคูเวอร์ ฮยองมาหาผมจริงๆใช่ไหม?”

     

    “ก็แล้วไอติมอร่อยไหมหล่ะ” เขาทัดผมที่ชื้นหน่อยๆของยูชอนไปไว้หลังใบหู กระชับเอวคนที่นั่งอยู่บนตักให้แนบชิดกันมากขึ้น ก่อนจะกดจมูกลงสูดกลิ่น Cocoa butter จากซอกคอขาว อีกฝ่ายพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะวางศีรษะหอมกลิ่นเดียวกันลงบนบ่าของเขา ถูไปถูมาอย่างออดอ้อน

     

    “น่ารักแบบนี้อยากกอดเอาไว้ทั้งคืนเลย”

     

    “ฮยองจะกลับตอนไหน ไม่กลับตอนที่ผมยังหลับอยู่ได้ไหม ไม่ชอบเลยตอนที่ตื่นขึ้นมาแล้วไม่เห็นใคร” ยูชอนพูดอู้อี้กับไหล่กว้าง ปลายนิ้วเย็นๆขยำเส้นผมสีดำสนิทของยุนโฮแน่นขึ้น

     

    “ผมกลัว... ว่าตื่นมาแล้วทุกอย่างจะเป็นแค่ความฝัน”

     

    “แล้วถ้าเราตื่นอยู่ตอนฮยองกำลังจะไป เราจะไม่ร้องไห้ได้ไหม จะไม่งอแงไม่ไห้ฮยองไปได้หรือเปล่ามิคกี้?”

     

    ยูชอนเงียบไม่ยอมตอบ เข้าใจดีว่ายุนโฮหมายความว่ายังไง ก็ในเมื่อชองยุนโฮไม่เคยที่จะไม่ใจอ่อนเลยซักครั้งเวลาที่เขาร้องไห้ ออดอ้อนหรืองอแง เพราะฉะนั้นการกลับไปตอนที่เขายังหลับสนิทคงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

     

    “ไม่รู้ว่ามันจะทำให้เราเหงา ทำให้เราต้องกลัว ถ้างั้นต่อจากนี้ฮยองจะรอให้เราตื่นก่อนดีไหม?”

     

    แต่ยูชอนกลับส่ายหน้า พอครุ่นคิดดูแล้ว การให้อีกฝ่ายกลับตอนเขาตื่นคงจะยิ่งเพิ่มความลำบากให้กับยุนโฮมากกว่าเก่า เกิดวันไหนเขาขี้เซาขึ้นมา เกิดงอแง ร้องไห้ขึ้นมา ยูชอนรู้ดี ชองยุนโฮคงไม่เป็นอันทำงานทำการ หรือถ้าเกิดเขาตื่นบ่ายขึ้นมา การออกจากบ้านเขาคงเป็นเรื่องลำบาก เพราะปกติจะมีแฟนๆมารออยู่หน้าบ้านทุกวัน

     

    “ไม่ต้องรอผมตื่นหรอก แค่ตอนจะไปก็ปลุกผมแล้วบอกกันซักหน่อย นะครับ”

     

    “ครับ”

     

    “ถ้าขออะไรอีกอย่างจะมากไปไหม?”

     

    “นี่มันเลยคริสต์มาสแล้วนา ยูชอนอา”

     

    ยูชอนหน้าบึ้ง ยุนโฮก็เลยหัวเราะออกมาก่อนจะสอดประสานปลายนิ้วของตัวเองเข้ากับปลายนิ้วของยูชอน ก่อนจะพยักหน้าให้ยูชอนเป็นเชิงว่า ว่ามาสิ

     

    “เราโทรคุยกัน หรือคาเคา หรือส่งข้อความคุยกันบ้างแบบคู่รักอื่นๆไม่ได้เหรอ ทำไมต้องให้ผมคอยตามข่าวฮยองจากอินเทอร์เน็ต หรือต้องฝากริคกี้ถามชางมินด้วยหล่ะ ผมเป็นคนรักของฮยองจริงหรือเปล่า?”

     

    “ข้อความหรือเสียงของเรามันมีพลังบ้างอย่างหน่ะ พอได้เห็นหรือได้ยินแล้วมันอยากจะพุ่งมาหาแทบไม่ไหว เมื่อก่อนตอนที่เรากับแจจุงโปรโมทอยู่ที่ญี่ปุ่นแล้วโทรคุยกัน ฮยองจะตายให้ได้เลยรู้หรือเปล่า อยากจะบินไปญี่ปุ่นวันละซักแปดรอบถ้าทำได้”

     

    ยุนโฮค่อยๆผ่อนตัวยูชอนลงนอนกับพื้นเตียง วงแขนแกร่งสอดเข้าที่ใต้ลำคอขาว ก่อนจะดึงยูชอนให้เข้ามาใกล้ตัว จนลมหายใจอุ่นๆของยูชอนประทะอยู่แถวลำคอ

     

    “ไม่ต้องส่งข้อความหา ไม่ต้องโทรมาคุยก็ได้ ไม่ได้อยู่ด้วยกันก็ไม่เป็นไร แค่อย่าหายไปไหน อย่าทิ้งกันไปก็พอ”

     

    “ฮยองรักเราที่สุด”

     

    “พรุ่งนี้สัญญาว่าจะปลุกผมนะ”

     

    “พอพรุ่งนี้ยูชอนตื่นมา มันจะไม่ใช่ความฝันแน่นอนครับคนดี ฮยองสัญญา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×