ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ผมมีชู้ (Jongkey)

    ลำดับตอนที่ #5 : ชู้ 1 (Jongkey) Rewrited

    • อัปเดตล่าสุด 17 มี.ค. 56




    จะอัพให้เรื่อยๆจนถึงตอนปัจจุบันที่ลบทิ้งไปนะคะ
    เอนจอยรีดดิ้งค่ะ :)

    _________________________________________________________________________

    Jonghyun Flashback

     

    เข็มสั้นชี้เลขเก้า เข็มยาวชี้เลขสอง เลยเวลาประชุมมาแล้วสิบนาที แต่พี่ชายที่บอกว่าจะมาเป็นผจก.ให้พวกเขากับคุณซูมานยังนั่งคุยกันอยากออกรส ในขณะที่เด็กหนุ่มอีกสี่คนนั่งกันตัวแข็ง หายใจให้ทั่วท้องยังเรียกว่าลำบาก

     

    จงฮยอนมองที่ว่างอีกทีหนึ่งข้างตัว ภาวนาให้สมาชิกวงของเขาอีกคนมาให้ไว  ไม่สายโด่งไปมากกว่านี้

     

    “ข ขอโทษครับที่มาสาย” ในที่สุดเด็กหนุ่มที่พวกเขารอคอยก็มาถึง ไม่บอกก็รู้ว่าวิ่งมาแน่ ถึงได้ยืนก้มหน้าหายใจหอบเอาอากาศเข้าปอดแบบนั้น  มือขาวปาดเหงื่อที่หน้าผาก พร้อมกับก้มหัวขอโทษหลายที

     

    “เนะนำตัวสิจะได้รู้จักกันไว้  สี่คนที่นั่งอยู่ตรงนี้จะเป็นสมาชิกวงของนาย”

     

    ดวงตากลมโตกวาดตามองเด็กผู้ชายรุ่นเดียวกันที่พอคุ้นหน้าบ้างอีกสี่คนก่อนจะยิ้มให้

     

    “ฉันคิมคิบอมนะ เราเคยเจอกันบ้างแล้ว ยินดีที่ได้รู้จักอีกที ต่อจากนี้ก็ฝากตัวด้วย” ริมฝีปากสีสวยยกยิ้มให้เล็กน้อย ก่อนจะเดินมาหย่อนตัวลงบนเก้าอี้ว่างตัวที่เหลือ

     

    ข้างๆคิมจงฮยอน

     

    ร่างสูงกว่าในตอนนั้นลอบมองใบหน้าของคนข้างๆ ใบหน้าขาวชื้นเหงื่อขึ้นสีแดงฝาด ฟันขาวเรียงเป็นระเบียบ รอยยิ้มหวานพร้อมแก้มบุ๋ม เพชรวิบวับเป็นประกายบนใบหูขาว ไม่รู้ทำไมทำหัวใจเต้นผิดๆถูกๆ

     

    แล้วตั้งแต่เมื่อไหร่ที่คิมจงฮยอนพบว่าตัวเองลอบมองร่างขาวบางนั่นอยู่บ่อยๆ

    เมื่อไหร่กันนะ ? เขาไม่รู้ตัวเลยจริงๆ

    .....................................................................................................................................................................

     

    ฮึ๊บบบบบบบบบบ คนอายุมากสุดบิดตัวไปมาเพื่อยืดร่างกาย มือใหญ่ขยี้ตา ปากอ้าหาวติดกันหลายรอบด้วยความง่วงงุน อีจินกิเดินไปล้างหน้าล้างตาด้วยน้ำเย็น ก่อนจะกลับมายืนจ้องตารางงานบนไวท์บอร์ดอันใหญ่ยักษ์สีขาวข้างประตู

     

    อืมมม แทมินกับมินโฮมีเรียนครึ่งวันเช้า ร่างสูงเอี้ยวตัวไปมองด้านหลัง ทั้งสี่ชีวิตกำลังแข่งกันหลับแบบไม่มีใครยอมใคร ก็สงสารน้องอยู่หรอกนะที่เมื่อวาน (จัดหนัก) คิบอมกับไอเตี้ยมันไหว แต่แทมินนี่โดนเขามอมซะลืมวิธีเดิน

     

    “มินโฮ” ผู้เคราะห์ร้ายรายแรกถึงได้กลายเป็นชเวมินโฮ คนที่ปลุกยากที่สุด แต่เมื่อวานมันนอนก่อนใคร เพราะฉะนั้น

     

    “ตื่นเร็ว 6.45 แล้วนะ” อนยูตบมือแปะๆที่ข้างหู พร้อมทั้งดึงผ้าห่มดึงหมอน แต่คนขี้เซาอย่างมินโฮหรือจะตื่น ร่างสูงแค่กระชับกอดคนในอ้อมแขนแน่นกว่าเดิม ฝังจมูกลงกลับซอกคอหอมๆ แล้วก็เข้านิทราลึกกว่าเก่า

     

    แล้วคนตื่นจะเป็นใครไปได้นอกจากคิมคิบอม ก็ในเมื่อเขานอนหมอนใบเดียวกับมินโฮ แล้วผ้าห่มก็ผืนเดียวกัน ดีแค่ไหนที่แขนอีกคนสอดอยู่ใต้คอเขาหน่ะ

     

    “ช่วยดูด้วยเหอะพี่ว่านอนอยู่สองคน” ผงกหัวขึ้นมาเขวี้ยงค้อนวงโตใส่อนยูที่หลักฐานยังคามือแล้วก็ทิ้งศีรษะลงนอนต่อ มือขาวตบที่ไหล่กว้างเบาๆ คีย์จับผมยาวๆของคนสูงกว่าทัดใบหู กระซิบอะไรกันงุ้งงิ้งสองคนแปบเดียว มินโฮก็ยอมลุกขึ้นมานั่งยิ้มจนแก้มบุ๋มอย่างง่ายดาย

     

    “ม่างงงงง กูปลุกฮาร์ดคอร์แทบตายไม่เคยตื่น” อนยูขว้างหมอนกับผ้าห่มใส่คู่รักที่ฟัดกอดกันอยู่บนเตียง พอหมั่นไส้มากเข้าก็เลยเข้าไปลากหลังคอเสื้อน้องชายเดินไปส่งถึงห้องน้ำ หยิบผ้าขนหนูปิดประตูให้ด้วยเสร็จสรรพ

     

    “นิดนึงก็ไม่ได้เลยนะพี่เนี่ย” คีย์เบะปากใส่ พับผ้าห่มผืนโตลวกๆแล้วก็ย้ายตัวไปนอนอีกเตียงหนึ่ง คนโดนเบียดงัวเงียมองเล็กน้อยก่อนจะเขยิบ เข้ามาด้านในพอให้ร่างผอมบางขึ้นมานอนเบียด

     

    “พี่ ..กอดหน่อย”

     

    คนรักสกินชิพพลิกตัวเข้าหา คว้าเอวบางเข้าอ้อมแขนแบบไม่ต้องให้ขอรอบสอง  ใบหน้าหล่อซุกซบลงกับหน้าอกบางทำเอาคนร้องขออ้อมกอดหายใจแทบไม่เป็นจังหวะ แต่ไม่นานนักก็เข้านิทราตามไปอีกคน

     

    “คนนี้ก็หลับได้หลับดาย คนนั้นก็นอนได้นอนดี” บ่นน้องชายเขาทีนอนกอดกันกลมแล้วถึงเดินขาปัดไปทิ้งตัวลงเตียงนุ่ม เบียดร่างผอมบางที่ขยับหนีด้วยความง่วงครอบงำ พร้อมคิ้วขมวดมุ่น อีจินกิคว้าเอวบางเข้าใกล้จนแผ่นหลังบางแนบตัว จมูกโด่งฝังลงกับกลุ่มผมหอมสีอ่อน

     

    “อื้อ” แทมินครางในลำคอ ขยับหนีวงแขนร้อนที่รัดอยู่รอบเอว

     

    7 โมงกว่าแล้วนะ ตื่นได้แล้ว” ตวัดตัวเด็กขี้เซาขึ้นมานอนซบไหล่อยู่บนอกตัวเอง มือใหญ่สอดเข้าที่ชายเสื้อ ลูบเอวคอดบางเพลินมือ

     

    “พี่ลวนลามผมตลอดเลย อย่าคิดว่าเมื่อคืนผมไม่รู้นะ” ลืมตาขึ้นมามองแล้วก็บ่นนิดนึง ก่อนจะขยับตัวหาท่าสบาย ปล่อยมืออุ่นๆลูบหลังลูบเอวไปนั่นแหล่ะ ก็สบายตัวดี

     

    “ทำมาหมั่นไส้พวกผมนะพี่” มินโฮที่อยู่ในเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงนักเรียนเรียบร้อยยืนเช็ดผมอยู่ปลายเตียง ความอยากเอาชนะที่เป็นนิสัยทำเอาร่างสูงอยากจะเอาคืน นิ้วยาวถึงได้เกี่ยวหลังคอเสื้อยืดย้วยๆของแทมินขึ้นมานั่งตาปิดอยู่บนตัวพี่อนยู

     

    “มิโน่อ่า”

     

    “ไม่ต้องมาอ้อนเลยแทมินนี่ ไปอาบน้ำได้แล้ว” สองมือขยี้ที่แก้มป่อง ตวัดเอวบางลุกจากเตียงแล้วพาไปส่งถึงห้องน้ำ

     

    “แหม เอาคืนได้เต็มขั้นมากครับพี่”  อนยูยกนิ้ว ยกเท้าถีบน้องชายที่นั่งเช็ดผมทำหล่ออยู่ปลายเตียงแล้วก็ลุกเข้าครัว เตรียมแซนดวิชให้เด็กม.ปลายทั้งสองคน

     

    ....................................................................................................................

     

    “ม่างงง โคตรหนาว นอนกันอยู่ได้ไงวะ” คนแก่บนงึมงำหลังจากฝ่ารถติดช่วงสายในกรุงโซลกลับมาจากส่งแทมินและมินโฮได้ในที่สุด

     

    “ไอพวกขี้เกียจ หนาวก็ไม่ลุกขึ้นมาปรับแอร์”  อนยูยกมือลูบแขน มองน้องชายที่กอดกันกลมจนแยกไม่ออกแล้วว่าขาใครแขนใคร ส่วนผ้าห่มก็นู่น กองอยู่พื้นข้างเตียง

    นี่ถ้าไม่รู้ว่าคีย์คบกับมินโฮอยู่หล่ะก็ เขาต้องคิดว่าสองคนนี้มันคบกันอยู่แน่ๆ  คิบอมมี่นี่ปากก็บ่นพี่จงฮยอนสกินชิพเรี่ยราด แต่เจ้าตัวก็ยอมให้กอด หอมจูบลูบ ความสัมพันธ์แปลกจนเขากลัวว่าซักวันจะเป็นเรื่อง

     

    “เฮ้ย ตื่นได้แล้วเว้ย! พยายามจะแงะร่างคีย์ที่ตื่นง่ายกว่าออกจากจงฮยอน แต่มือนัมเบอร์วันสกินชิพก็เหนียวหนึบแม้ยามหลับ แงะไปแงะมาจนคิบอมรู้สึกตัวลืมตามอง แต่จงฮยอนก็ยังไม่ยอมปล่อยมือง่ายๆอยู่ดี

     

    “เอออออ ปลุกกันเองละกัน พี่จะเข้าม.ก่อน เจอกันบ่ายๆที่ห้องซ้อมละกันนะ” เขาผมน้องทั้งสองคนจนผมกระเซิง คิบอมขี้เวหี่ยงก็จัดชุดใหญ่เหมือนเคย นั่นก็เรียกเสียงหัวเราะจากเขาเท่านั้นแหล่ะ ส่วนคิมจงฮยอนก็แค่ยกมือขึ้นลูบผมเผ้า แล้วก็นอนต่อเฉย เชื่อมันเลย

     

    สิ้นเสียงประตูปิดในห้องก็เหลื่อเต่เวียงหึ่งๆของเครื่องปรับอากาศกับเสียงหายใจเป็นจังหวะของพี่ชายขี้เซา ไออุ่นจากคนข้างตัวทำให้เขารู้สึกอบอุ่นจนถึงร้อน แอร์ที่เปิดเย็นจัดมันก็เลยไม่หนาวจนเกินไปนัก มือนุ่มสอดประสานเข้ากับมืออีกฝ่าย ยกขาขึ้นเกี่ยวตัวอุ่นๆของอีกคนข่างหมอนข้าง

     

    จงฮยอนลืมตาขึ้นช้าๆ เมื่อรู้สึกว่าคนข้างๆเริ่มหายใจเริ่มหายใจสม่ำเสมอ ตากลมโตที่เขาชอบมองกำลังปิดสนิท ริมฝีปากแดงที่มักจะพูดเจื้อยแจ้วอยู่เสมอกำลังเงียบ ไม่มีอะไรน่าดูเท่าเวลานี้อีกแล้ว มือข้างที่พากอยู่บนเอวสอดเข้าชายเสื้อยืด ลูบไล้ที่แผ่นหลังเย็นลื่นมือ

     

    “ก็น่าจะรู้ว่าพี่คิดกับเรายังไงไม่ใช่เหรอ แล้วทั้งไมยังให้พี่กอดอยู่แบบนี้หล่ะหื้ม?” ริมฝีปากยกยิ้มละมุนด้วยความเอ็นดู ริมฝีปากแดงพึมพำว่าอุ่น อุ่นจังพร้อมกับซุกกายเข้าหา

     

    “นี่ไม่ใช่มินโฮนะ ยังอยากกอดกันอยู่ไหม?”  กระซิบกับแก้มขาว ก่อนจะประทับจูบเบาๆตามลงไป เขาเป็นแค่พี่ชายคิบอมยังอ้อนน่ารักขนาดนี้  ไม่ต้องคิดถึงคนเป็นแฟนอย่างมินโฮเลย  แค่คิดว่ามินโฮคงได้อะไรมากกว่ารสจูบหวานๆเขาก็แทบจะเป็นบ้า

     

    คิมจงฮยอนเผลอกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นจนคนในอ้อมแขนครางเบาๆเพราะอึดอัด จงฮยอนถึงได้ยอมปล่อยร่างขาวนั่นเป็นอิสระ แต่ก็ทำไม่ได้ง่ายๆ ในเมื่อคราวนี้ร่างขาวเนียนนั่นเป็นฝ่ายเข้ามากอดเสียเอง แถมยังสอดแขนเย็นๆนิ่มๆเข้ามาแปะอยู่บนแผ่นหลังของเขาอีก

     

    “ผมหนาว จะไปไหนอ่ะ”  คนตัวเย็นงัวเงียกับอกกว้าง นี่ถ้าไม่เกร็งใจอยากจะถอดเสื้อจงฮยอนออกแล้วเบียดตัวเข้ากับอกแสนอุ่นนั่นเลย แต่ก็ดูจะแรงไปซักหน่อย

     

    “พี่หรี่แอร์ให้เอามั้ย  เท้าเย็นหมดแล้ว” สอดปลายเท้าเข้ากับเท้าเย็นเฉียบของอีกฝ่าย  พร้อมกับส่งมืออุ่นเข้าไปเพิ่มความร้อนให้แผ่นหลังเย็นๆใต้เสื้อยืดตัวบาง

     

    “ไม่เอาเดี๋ยวร้อน” แน่นอนว่าหรี่แอร์มันก็จบ แต่อากาศเย็นๆกับอกอุ่นๆหรือผ้านวมหนาๆมันสบายตัวกว่าร้อนแล้วไม่มีอะไรให้ซุกตั้งเยอะนี่นา

     

    จงฮยอนฝังจมูกลงกับผมสีอ่อน

     

     ช่างมัน ยังไงตอนนี้ก็มีแค่เรา

     

    ………………………………………………

     

    ห้องนอนเล็กยังคงเหลือกลิ่นน้ำยาเครื่องปรับอากาศกับไอเย็นจางๆ มือขาวลากผ้าห่มที่กองบนพื้นมาสะบัดแล้วก็พับเรียบร้อย ก่อนจะเดินหาจงฮยอนที่ไม่รู้ไปแอบหลับอยู่มุมไหน ถึงได้ไม่ยอมมาอาบน้ำเสียที

     

    “เดาผิดซะเมื่อไหร่”  คิบอมหัวเราะในลำคอพร้อมกับตบหน้าผากตัวเอง คิมจงฮยอนกำลังนอนคว่ำพาดโซฟาอยู่เนี่ย

     

    “ตื่นได้แล้วพี่”  คนง่วนกับการเช็ดผมเปียกๆของตัวเองหย่อนก้นลงบนที่ว่าง เพราะมัวแต่ใช้ผ้าขนหนูค่อยๆซับผมอยู่นั่น เลยถูกตวัดลงไปนอนหงายอยู่ใต้ร่างจงฮยอนไม่ทันตั้งตัว

     

    “มารยาเยอะนะ ตื่นแล้วก็ไปอาบน้ำดิ”

     

    ใบหน้าคมเบียดจนชิด ดูดดึงริมฝีปากอุ่นรุนแรงแล้วแทรกลิ้นเข้าไปในกลีบปากบาง บดขยี้แล้วดึงดันเพื่อกระตุ้นให้อีกคนจูบตอบ รสยาสีฟันเย็นๆที่ปลายลิ้นชวนให้จงฮยอนเล่นไม่เลิก คิบอมยกแขนอีกข้างโอบรอบบ่ากว้างเมื่ออีกฝ่ายถอนแล้วแนบหน้าลงมาชิดอีกครั้ง

     

    คนหนึ่งนุ่มนวล เคล้าคลึงอ่อนโยน

     

    อีกคนร้อนรุ่ม  เอาแต่ใจ

     

    แก้มแดงร้อนผะผ่าว ริมฝีปากเขาตอนนี้มันต้องแดงและช้ำมากแน่ๆ มืออุ่นร้อนลูบไล้ไปทั่วร่างเย็นจัดพร้อมกับบ่นพึมพำอะไรจับใจความไม่ได้

     

    “อะไร”

     

    “ตัวเย็นจัง” มืออุ่นเลิกชายเสื้อตัวหนาขึ้นขึ้นแล้วลูบที่เอวคอด ริมฝีปากบางพรำจูบลงบนริ่มฝีปากแดงฉ่ำ

     

    “ก็ผมพึ่งอาบน้ำมานี่ อื้อ” ร่างขาวสะดุ้งเมื่อมือใหญ่เลื่อนลงมาบีบเคล้นสะโพกแน่น

     

    “แต่พี่ชอบนะ”

     

    คำพูดสองแง่สองงามทำเอาคิบอมต้องเบนหน้าหนีหลบสายตาคมที่จ้องมองมา ไม่รู้ว่าชอบที่เขาตัวอุ่น หรือจะหมายความว่าชอบเขา  แต่ถ้าหมายความอย่างหลัง ทำไมเขาต้องเขินด้วยหล่ะ


    แล้วจะผิดไหมนะถ้าเขาจะเขินคนสองคนในเวลาเดียวกัน?

     

    จะผิดไหมนะที่เขาจะจูบคนสองคนในเวลาเดียวกัน?

     

    ช่างมัน ยังไงตอนนี้ก้มีแค่ตัวเขากับพี่จงฮยอน  

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×