คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ♬2
ชาเเรคเตอร์เเปะที่หน้าฟิคนะคะ:)
____________________________________________________________________________________________
ยูชอนนั่งไขว้ห้าง เอนหลังพิงเบาะสบายๆ ฮึมฮัมเพลงในลำคอพร้อมกับโคลงหัวตามจังหวะดนตรีป๊อบฟังสบายที่เปิดคลอ ปล่อยให้นักร้องนำของตัวเองผูกขาดการสนทนากับจุนซูไปคนเดียว
“ยูชอนนี่ว่าไงครับ?”
เพราะเหนื่อยจะเกลี้ยกล่อมพ่อนักร้องนำเหลือเกินแล้ว หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่เอา บอกว่าตัวเองเป็นนักร้องอิสระ ไม่อยากทำดนตรีตามใคร จะยื่นข้อเสนอเรื่องเครื่องดนตรีชั้นเลิศให้พ่อก็ไม่เอา เสนอห้องซ้อมเก็บเสียงให้ พ่อคุณก็ไม่เอา เสนอว่าจะให้ใช้ห้องอัดสุดอลังการของบริษัทที่ศิลปินดังๆเคยมาอะเรนจ์เพลงกันมากมายก็ไม่สน จุนซูเลยหันไปหาคนที่น่าจะคุยด้วยง่ายกว่า พร้อมส่งสายตาอ้อนวอนไปให้ด้วย
“แจจุงฮยองว่าไง ผมก็ว่าตามนั้นแหล่ะครับ”
คำตอบที่ได้มาทำเอาอยากจะคว้าขวดสีชาในถาดบริกรที่เดินผ่านไปมาทำฟันฉลามแล้วจ้วงพ่อนักร้องนำนี่ทิ้งซะให้รู้แล้วรู้รอด เผื่อยูชอนนี่จะเปลี่ยนคำตอบเป็นอย่างอื่น ... สอนกันมาดีจริงเชียว
“ทำไมยูชอนนี่ถึงเล่นดนตรีครับ?”
“เพราะดนตรีทำให้ผมเป็นตัวของตัวเอง”
จุนซูมองตาก็บอกได้เลยว่ายูชอนรักดนตรีมากแค่ไหน เพราะแค่พูดถึงเรื่องดนตรี จุนซูก็รู้สึกว่าใบหน้านั้นดูอ่อนหวานและอ่อนโยนขึ้น ยิ่งตอนยูชอนฮัมเพลงแล้วโคลงหัวตามดนตรีพร้อมกับแก้มที่ยกขึ้นสูงแล้วยิ่งดูมีออร่าวิ้งๆเป็นประกายออกมาจากตัวด้วย
เขาหันหน้าไปทางแจจุงบ้างพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม
“ดนตรีทำให้รู้สึกดี”
“แล้วมันจะดีกว่าไหมหล่ะครับถ้าคุณจะแชร์ความรู้สึกดีดีแล้วก็ความเป็นตัวของตัวเองให้คนอื่นบ้าง”
ยูชอนยิ้มออกมาบางๆกับคำพูดคำจาของคิมจุนซู ส่วนแจจุงแค่ทำปากคว่ำแล้วก็ไหวไหล่
“พูดง่ายๆก็คือ จะเห็นแก่ตัวเก็บความรู้สึกดีๆกับการได้เป็นตัวของตัวเองเวลาที่ฟังเพลงกันไว้แค่สองคนเหรอครับ”
............................
คิมจุนซูตบเข่าฉาดตอนที่นั่งประจำที่อยู่หน้าพวงมาลัยในลูกรักของตัวเอง ถ้าสองคนนี้ไม่มาหาเขาที่บริษัทนะ มาเหยียบหน้าคิมจุนซูได้เลย!
..............................................................................
คิมแจจุงในชุดเสื้อยืดสีดำทับด้วยฮู้ดสีเทายืนพิงกำแพงสีขาวสะอาดตาของตัวตึกแห่งหนึ่ง บนบ่ามีกระเป๋ากีต้าร์ไฟฟ้าคู่ใจ เขากำลังยืนเอามือล้วงกระเป๋า หาวหวอดเป็นรอบที่ล้าน ส่วนปาร์คยูชอนก็ยืนพิงขอบรั้วเตี้ยสบายๆ กำลังกดๆลากๆทำเมโลดี้ในแอพประจำไปพลางๆขณะรอใครบางคน
ไม่ช้าไม่นานเขาก็เห็นคิมจุนซูเดินยิ้มมาแต่ไกล เจ้าตัวส่งเสียงทักทายก่อนจะยกบัตรที่คล้องคอขึ้นแตะตัวเครื่องเล็กจิ๋วสีขาวข้างประตู มันส่งเสียงร้องดังตติ๊ด ก่อนที่ประตูจะเลื่อนเปิดออก
“เชิญครับ”
คิมจุนซูผายมือเชื้อเชิญ ก่อนจะออกเดินนำไปยังห้องเตรียมตัวของศิลปินที่อยู่ไม่ไกลออกไปเท่าไหร่นัก ดวงตากลมสีดำของยูชอนสะดุดเข้ากับกลองชุดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้อง เจ้าของร่างสูงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวกลมกำลังควงไม้กลองในมือไปมาพร้อมกับหมุนเก้าอี้ไปสามร้อยหกสิบองศาจนเกิดเสียงเอี๊ยดอ๊าด เขามีผมดัดสีน้ำตาลและหน้าตาหล่อเหลา ถึงจะยังแฝงเค้าโครงของความเป็นเด็กไว้อยู่บ้าง
“มาแล้วเหรอ”
ยูชอนผงะเล็กน้อยเมื่อจู่ๆเด็กหนุ่มคนนั้นก็ลุกพรวดพราดขึ้นมาจากเก้าอี้ ยัดไม้กลองเข้ากระเป๋ากางเกง ดันแว่นทรงกลมสีดำแบบแฟชั่นที่ไหลลงมากองที่ปลายจมูกให้เข้าที่ แล้วก็เดินตรงดิ่งมาหาเขา
“ผมชิมชางมินครับ มือกลอง ฝากตัวด้วย ส่วนคนนั้น”
‘คนนั้น’ที่ชางมินพูดถึงทำให้กระเป๋าเป้ที่พึ่งปลดออกจากบ่าลงไปนอนแอ้งแม้งอยู่กับพื้น ยูชอนอ้าปากค้างเป็นรูปตัวโอ กระพริบตาถี่ๆ แถมเผลอยกมือขึ้นทุบที่หน้าอกตัวเองเพราะรู้สึกว่าเผลอหยุดหายใจไปพักใหญ่จนรู้สึกแน่นไปทั้งอก
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เจอกันอีก...
‘คนนั้น’ ที่ชางมินพูดถึงเป็นชายหนุ่มร่างสูงในเสื้อฮู้ดดี้สีเทามีลายตัดดำขาวบนตัวเสื้อช่วงบน กางเกงขาสั้นสีครีม และหมวกแก๊ปสีดำหนึ่งใบ เขากำลังนั่งเหยียดยาว ในมือคีบบุหรี่นอกตัวสีครีมคาดทอง ไม่สนใจว่าใครเข้ามาใหม่ หรือว่าทุกคนกำลังพุ่งความสนใจมาที่ตัวเอง
แต่ไม่ต้องรอให้เขาคนนั้นหันมาจนเห็นทั้งหน้า ไม่ต้องรอให้ถอดหมวกออกก็ได้ แค่เห็นด้านข้าง ยูชอนก็รู้แล้วว่าใคร ไม่งั้นหัวใจเขาไม่มีทางเต้นแรงจนแทบหลุดออกมาจากอกขนาดนี้
“ฮยอง นักร้องนำกับมือคีย์บอร์ดมาแล้ว ทักทายเขาหน่อย”
คิมจุนซูเรียกคนที่ยังพ่นควันขาวไม่สนใจใคร เดินอาดๆเข้าไปดึงบุหรี่ออกจากมือวืด ขยี้ลงกับถาดเขี่ยแก้ว แล้วก็ยิ้มตบท้ายอย่างน่ารักให้คนที่ยอมตวัดสายตาหันมามองนิ่งๆ
“ฉันชองยุนโฮ เบส”
ปาร์คยูชอนพยายามหายใจเข้าออกช้าๆ มือขาวยกขึ้นลูบอกตัวเองซ้ำไปซ้ำมา หวังว่าหัวใจเจ้ากรรมจะเลิกเต้นเป็นจังหวะแทงโก้แบบนี้ซะที นี่มันก็ผ่านมาหลายปีแล้ว ทำไมยังมีอาการแบบนี้อยู่อีกนะ?
“ยูชอนฮยองงี่ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?” ชางมินเอียงคอถาม ทำให้ทุกคนต่างหันมาสนใจท่าทางประหลาดของเขา
ไม่เว้นแม้แต่ยุนโฮ
โธ่เอ้ย ถ้าอนาคตข้างหน้าเกิดเป็นโรคหัวใจขึ้นมาหล่ะก็ ความผิดของนายเต็มๆเลยด้วย ชองยุนโฮ
:) Shalunla
ความคิดเห็น