คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : บ้านเลขที่ 4
บ้านเลขที่ 4
“เอรีพุส!! คาลอส!!” ผมตะโกนก้องทันทีที่กระโจนเข้ามาจุดเสียงโครมคราม จุดที่เจ้าสองเทพปีศาจยืนเด่นตระหง่านเป็นสง่า “พวกนายทำบ้าอะไร”
เจ้าสองตัวแสบหันขวับตามเสียงเรียกพร้อมแจกรอยยิ้มแหยแล้วส่ายศีรษะ
“พวกเราเปล่าเริ่มนะ” เอรีพุสซึ่งอยู่ในสภาพคลุกฝุ่นราวกับไปต่อยกับใครมาวิ่งเข้ามาใกล้ตัวผมบอก
ผมอยากหัวเราะทำใจเชื่อแต่ก็ทำได้เพียงเค้นเสียงหึออกมา ขณะกวาดสายตามองไปรอบๆบริเวณ
ไอ้เรื่องที่ผมคาดการณ์ว่าเอรีพุสจะมีน้ำโหไปแตะปากใครเข้า แล้วเจ้าคาลอสเกิดหน้ามืดไปฉุดสาวเจ้าที่ไหน เรื่องเหล่านั้นเล็กๆไปเลยครับท่าน เมื่อตอนนี้บัดนี้ที่แห่งนี้...คนที่เจ้าพระคุณคุณเอรีพุสไปหาเรื่องช่างห่างไกลกับคำว่าคนนัก...เพราะพี่แกเป็นปีศาสระดับสองปีกซึ่งหลุดจากการจองจำแล้วบัดนี้เจ้าประคุณคุณคาลอสก็กำลังอยู่ในอ้อมอกอ้อมใจของเธออยู่
เรียกเธอไม่ผิดหรอกครับ ปีศาจตนนี้เป็นหญิงสาวผมยาวเป็นลอนคลื่นสีแดงราวกับเพลิงกำลังลุกไหม้ ใบหน้าหญิงสาวบูดเบี้ยว ปากซีดพึมพำไม่ได้ศัพท์ นัยน์ตาเหม่อคว้าง มือผอมผ่ายของเธอกอดรัดคาลอสแน่นประหนึ่งไม่ต้องการให้เด็กหนุ่มหนีหายห่างจากกายไป และปีกสีดำสนิทซึ่งแผ่ขยายอยู่กลางหลังของเธอตอกย้ำความเป็นปีศาจของเธอ
“ทำไมปีศาจถึงหลุดจากการจองจำได้” ผมถามขณะเดินเข้าไปใกล้ตัวปีศาจสาว แม้ใจอยากจะบึ่งทะยานกลับบ้านให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่ติดตรงที่อยู่ในอ้อมอกของหญิงสาวตรงหน้าคือเจ้าคาลอสที่คอพับคออ่อนเหมือนจะขาดอากาศหายใจอยู่รอมร่อ
“นายคงไม่ได้ทำอะไรในร้านนี้พังหรอกนะเอรีพุส” ผมหันไปถามเด็กชาย เท้ายกข้ามโต๊ะซึ่งล้มเกลื่อนกลาด ข้าวของรอบๆบริเวณเกลื่อนกระจาย ทว่า ณ ห้วงเวลานี้กลับไร้ซึ่งผู้คน มีเพียงพวกเขาและหนึ่งนางปีศาจร้ายพึ่งได้รับอิสระ ...พวกเรากำลังตกอยู่ในเขตแดนของแม่มดริริน
“ฉันยังไม่ได้ทำอะไรพัง” เด็กชายเชิดหน้าตอบ ก่อนจะม่อยลงเมื่อเห็นสายตาจับผิดของผม “รามก็รู้ว่าพวกมนุษย์นั่นไร้มรรยาทแค่ไหน ฉันจะหยิบจับกินอะไรก็จ้องกันอยู่ได้” เอรีพุสหน้างอง้ำแจกแจงเรื่องราว ผมสีทองปลิวสลวยไปตามจังหวะการเดิน ใบหน้าหวานขาวมุ่ยไม่สบอารมณ์ พอๆกับๆนัยน์ตาสีฟ้าบึ้งตึง และริมฝีปากเรื่อสวยบ่นขมุบขมิบไม่หยุดปาก
“แล้วเจ้าคาลอสบ้านั่นก็ตอบตกลงผู้หญิงทุกคนที่ขอมานั่งด้วย ฉันเลยหลบไปดูเครื่องเงิน....แล้วปีศาจก็โผล่มาจากเครื่องเงินนั่น ใครจะรู้ว่านั่นเป็นสมบัติพันธนาการ” ถ้าเวลาอื่นผมคงหัวเราะ แม้แต่เอรีพุสผู้เห็นเรื่องกินเป็นเรื่องสำคัญรองจากพวกเครื่องเพชรแวววาวก็ยังยอมถอยทัพหนีออกจากฝูงชน
เอรีพุสไม่ถูกกับคนมากๆครับ หรือจะพูดให้ถูก มันแทบจะไม่ถูกกับใครเลย หรืออีกทีมันไม่เคยถูกใจอะไรเลย ยกเว้นตัวมันเอง เพราะมันคิดว่าตัวเองนั้นถูกเสมอ
และยิ่งในร้านวิงก์ คนนั้นยิ่งหนาแน่นเป็นพิเศษ เทพผู้แสนเย่อหยิ่งและขี้รำคาญเป็นพิเศษจึงอารมณ์ไม่คงที่ แล้วดั๊นไปเจอปีศาจหลุดมาอีก สภาพที่ราวกับไปคลุกฝุ่นนี่คงไปนัวเนียซัดกับเจ้าปีศาจสาวแล้วเป็นแน่แท้
“ยัยแม่มดเหี่ยวนั่นก็นึกยังไง เอาสมบัติพันธนาการที่มีปีศาจบ้าๆถูกจองจำอยู่มาปะปนกับสินค้าของร้าน แล้วดูดู๊ตั้งนานสองนานแล้วไม่มาจัดการ แถมเจ้าปีศาจเวรนั่นมันก็ซัดหน้าฉันด้วย ฉันบอกรามแล้วไงว่าไม่อยากมาร้านเฮงซวยนี่...” เอรีพุสบ่นเป็นชุด และทำท่าจะบ่นต่อจนผมต้องยกมือขึ้นห้าม
“เอาน่า มาหาทางช่วยคาลอสก่อน” ผมบุ้ยใบ้ไปเด็กชายผมดำพลางนึกสงสัยตามที่เอรีพุสว่า ริรินหายไปไหน
เอรีพุสเขม่นมองก่อนเบะปาก “มันชอบอยู่กับผู้หญิงอยู่แล้วนี่ เรื่องแค่นี้มันจัดการเองได้สบายอยู่แล้ว”
ผมหรี่ตามองบ้าง เปลวเพลิงจากปีศาจสาวห่อหุ้มร่างกายของพวกเขา ไอปิศาจคุกกรุ่นทะลักออกมาเรื่อยๆ แต่สภาพคาลอสตอนนี้ในความคิดผมชั่งห่างไกลจากความสบายเยอะ
ใบหน้าคมเข้มเขาขาวซีดและเต็มไปด้วยเหงื่อพราว ผมสีดำลู่ติดหนังหัวปรกบังดวงหน้าเข้ม ลมหายใจเขาติดขัดและขาดห้วง ดวงตาสีนิลกาฬอ่อนแสงฉายแววอ่อนล้าและอ่อนแรง
ผมขมวดคิ้วทำหน้ายับ อุปกรณ์พลังเวทของคาลอสเริ่มใช้การไม่ได้ ทำให้คาลอสในขณะนี้อยู่สภาพเกือบไร้เวทมนตร์ แต่เขาก็ยังคงไม่ให้ปีกนั่นขยายออกมาได้เนื่องจากผมดึงพลังเวทของเอรีพุสถ่ายมาให้คาลอส ทำให้พวกเขายังคงเดินเหินได้ปกติ ทว่าไอปีศาจและพลังเวทมนตร์ที่เอ่อทะลักของปีศาจสาวกำลังกดดันคาลอสอย่างหนัก เมื่อเขาไร้ซึ่งเวทมนตร์ก็ไร้ซึ่งสิ่งป้องกัน คาลอสจะทนอยู่ในสภาพนี้ได้อีกนานแค่ไหน
ผมตวัดสายตาไปยังร่างของเด็กชายอีกคนที่ยืนหอบอยู่เคียงข้าง
แล้ว...เอรีพุสเล่าเขาจะทานทนเช่นนี้ได้อีกเท่าไร
“ทำไม...ท่านถึงจากพวกเราไป” เสียงแหบพร่าจากปากปีศาจพึมพำออกมาดังขึ้นเรื่อยๆพอจับความได้ “เพราะเหตุใด...ท่านถึงทำเช่นนี้” หญิงสาวพูดวนซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายครั้ง ริมฝีปากซีดขยับขึ้นลงไม่เหน็ดเหนื่อยน้ำตาไหลอาบจากใบหน้าหมอง ดวงตายังเหม่อมองไปสุดฟ้าราวกับจับจ้องไปยังผู้เอื้อมมือไม่ถึง
“ทำไม...ท่านถึงจากพวกเราไป” แขนผ่ายผอมของเธอโอบกระชับคาลอสแน่น ดั่งเกรงกลัวว่าเขาจะจางหายไปดุจท่านผู้นั่นของเธอ “เพราะเหตุใด...ท่านถึงทำเช่นนี้” ไอปีศาจแผ่ขยายกว่างกว่าเดิม ความเศร้าปะปนระคนไปกับความผิดหวังอาบมากับไอมนตร์ของเธอ
“ท่านเป็นใคร...แม่หญิง” ผมเอ่ยถามเป็นภาษาเฉกเดียวกับเธอ พร้อมยกมือขึ้นกั้นไม่ให้เอรีพุสลงมือ ก่อนเปลี่ยนเป็นจับไหล่เขามั่น
ทว่าไม่มีเสียงตอบจากปีศาจสาว เธอยังคงพร่ำเพ้อพูดซ้ำไปมาไม่หยุด ผมหายใจสะท้าน จ้องลึกไปยังดวงตาไม่มีแววของหญิงสาว
นี่หรือบทลงโทษของผู้ถูกจองจำ ผู้ถูกขังลืมไว้ใน 'สมบัติพันธนาการ'
ในดินแดนแห่งเหล่าทวยเทพและหมู่ปีศาจ บทลงทันต์สูงสุดแก่ผู้กระทำความผิด หาใช่ประหัตถ์ประหารเอาชีวิต แต่เป็นจองจำไว้ในสมบัติ ซึ่งจะพันธนาการผู้กระทำผิดไว้จนกว่าโทษมหันต์นั่นจะสิ้นสุด แม้ไม่ได้ช่วงชิงชีวิต แต่สมบัติพันธนาการนี้ได้จองจำจำทุกสิ่งของผู้ถูกลงโทษไว้หมดสิ้น มันได้ช่วงชิงอิสรภาพ ผลักให้ผู้ถูกทันต์ตกในห้วงเหวของความมืดมิด โดดเดี่ยวไร้ซึ่งสิ่งใด ไร้ซึ่งอาหาร ไร้ซึ่งเสียง ไร้ซึ่งแสง ...แม้แต่ความหวังก็ยังริบไปหมดสิ้น โทษนั้นอาจเริ่มจาก1ปี10ปี100ปี500ปีจวบจนเป็นพันๆปี...แม้บุคคลใดจะผ่านพ้นโทษหรือหลุดจากการจองจำได้ ก็ไม่ต่างจากภาชนะไร้วิญญาณ ไร้ซึ่งห้วงมโนนึก ไร้ซึ่งควางทรงจำที่ผ่านมา เหลือไว้เพียงห้วงอารมณ์สุดท้าย...ที่ประคับประคองชีวิตของผู้โดนโทษทันต์ไว้...ไม่ตายแต่ไม่เป็น
“ทำไม...ท่านถึงจากพวกเราไป” นี่หรือคือห้วงความคิดที่เหลืออยู่ของปีศาจสาว
“เพราะเหตุใด...ท่านถึงทำเช่นนี้”
“แม่หญิง...” ผมตะโกนพยายามเรียกให้หญิงสาวเข้าใจคำพูด “ท่านโปรดฟังคำจากข้า บุคคลที่อยู่ในอ้อมกอดท่าน หาใช่บุคคลที่ท่านกล่าวถึงไม่ ท่านเข้าใจคำเราหรือไม่”
“ดูเหมือนนางจะไม่เข้าใจเจ้าเลยนะราม” เอรีพุสพุสกล่าวแทรก ผมจุ๊ปากให้เขาเงียบ แม้จะสงสัยว่าเหตุใดปีศาจสาวจะหลุดจากสมบัติพันธนาการ แต่ที่น่าห่วงกว่าตอนนี้คือคาลอสและเอรีพุส ผมต้องพาพวกเขาออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
“ท่านจงเปิดตามองคนในอ้อมกอดท่าน” ผมเน้นเสียงหนักแน่น ปีศาจสาวเริ่มมีปฏิกิริยา เธอหยุดพึมพำมองมายังพวกเราสองคนก่อนก้มมองคนในอ้อมแขนตน ผมเริ่มยิ้มออก “ท่านเห็นแล้วใช่ไหม ว่าคนนั้นหาใช่คนที่ท่านถวิลหาอยู่”
ดวงตาเหม่อลอยจับจ้องใบหน้าซีดเผือดของคาลอส มือผอมยกขึ้นเสยผมดำสนิทที่ปรกหน้าเด็กชาย คาอลสเงยหน้าขึ้นสสบกับปีศาจสาวราวกับยืนยันในคำพูดผม แล้วริมฝีปากซีดของหญิงสาวก็ยกแย้มแล้วกว่าในสิ่งที่ทำให้ผมแทบลมจับ
“ท่าน...ท่านกลับมาหาพวกเราแล้ว” ปีศาจสาวผมสีเพลิงกล่าวด้วยความปิติ แต่ผมนี่สิกำลังจมดิ่งไปในห้วงทุกข์ “ท่านกลับมาแล้ว...ท่านเอเรียส...”
“ผิดแล้วแม่หญิงนามของบุคคลที่อยู่เบื้องหน้าท่านหาใช่นามที่ท่านกล่าวถึงเลย นามของเขาคือคาลอส”
“ไม่ใช่” หญิงสาวกรีดร้อง ราวกับห้วงแห่งความยินดีถูกฉุดกระชาก แล้วใครเล่าที่ดึงเธอลงมาสู่ความเป็นจริงถ้าไม่ใช่ผม “ท่านผู้นี้คือท่านเอเรียสไม่ผิด เจ้าบังอาจนักกล้าดูหมิ่นฝ่าบาทเช่นนี้” ดวงตาเหม่อลอยของเธอจ้องเขม็งมายังพวกผม สายตานั้นอาบไปด้วยความแค้น “หลายครั้งหลายคราที่มนุษย์เช่นเจ้าบังอาจดูหมิ่นเกียรติ...ฝ่าบาท” มือผอมยกชี้หน้าผม เปลวไฟลุกไหม้และโชติช่วงกว่าเดิม “ ฝ่าบาททรงเมตตาพวกเจ้า แต่พวกเจ้ากลับพรากท่านไปจากพวกเรา มนุษย์...มนุษย์เพราะเช่นนี้เราจึงชิงชังมนุษย์นัก...” แล้วลูกแรกก็พุ่งตรงมาที่พวกผมยืนอยู่ ผมรีบคว้าเอรีพุสแล้วกระโดดหลีกไปอีกข้าง ก่อนจะกระโดดหลบไปมาเมื่อลูกไปจำนวนมากโถมมาใส่ไม่ยั้ง
“ทำไม...ท่านถึงจากเราไป” เสียงแหบพร่าเอ่ยซ้ำ ใบหน้าอาบไปด้วยน้ำตาแห่งความเจ็บปวดและความแค้น ลูกไฟอีกระลอกหนึ่งซัดเข้าใส่พวกผม ผมยกมือขึ้น แล้วสร้างโล่ได้ในพริบตา ลูกไฟกระแทกโล่ล่องหนแล้วแตกกระจาย ผมหอบตัวโยน แล้วรีบคว้าเอรีพุสหลบลูกไฟอีกหลายลูก
“เพราะเหตุใด...ท่านถึงทำเช่นนี้” แล้วเพลิงเผาผลาญถูกสร้างให้ใหญ่ยิ่งขึ้น มันใหญ่ขึ้นเรื่อยๆจนผมมองหาที่หลบไม่ได้ ฉับพลันไฟมหาศาลพุ่งเข้าใส่พวกผม ผมคว้าเอรีพุสะกดเข้ามาอยู่ใต้วงแขน ก่อนเพ่งสมาธิ รีดเร้นพลังเวทในร่างกายที่เหลือน้อยนิดเต็มที
โครม!! เสียงลูกไฟปะทะโล่ล่องหนอีกครา แต่คราวนี้ความใหญ่โตของดวงไฟที่คละคลุ้งไปด้วยเปลวอารมณ์แห่งความชิงชังผู้เป็นเจ้าของ มันลามเลียโล่มนต์ราวกับจะกลืนกินผู้อยู่ข้างในให้จงได้ ผมกัดฟันใช้สมาธิฝืนบังคับให้โล่ทนตั้งอยู่ยาวนานขึ้นแม้สักวินาทีเดียวก็ยังดี
เปรี๊ยะ!! เปรี๊ยะ!!
เกราะกำบังเริ่มแตกร้าว และลามขยายยากจะคงอยู่ ไอความร้อนพุ่งผ่านเข้ามา เหงื่อในกายผมแตกพล่าน แล้วยิ่งเด็กชายในอ้อมแขนผมยิ่งโทรมกายยิ่งกว่า ผมกระชับเขาแน่นบังคับตัวเองไม่ให้หมดสติเสียก่อน
เปรี้ยง!!!!
“กรี๊ดดดดดดดด!!” เสียงกรีดร้องแหบพร่าดังทุรนทุราย ไฟร้อนระอุพลันดับหาย ผมเงยหน้าไปยังปีศาจสาว หญิงสาวกรีดร้องเจ็บปวดดวงเบิกกว้างทรมาน ความเจ็บปวดสาหัสโถมเข้าใส่เธอพร้อมการปรากฏกายของแม่มดนามริริน
“เดี๋ยว...คาลอส!” ผมตะโกนบอกริริน ฉับพลันร่างของคาลอสก็หายวับจากอ้อมแขนของปีศาจสาว แล้วร่างของเขาก็มาทรุดตรงหน้าพวกผม
“เฮ้...คาลอส” ผมเข้าไปดึงคาลอสมาดูอาการ เขาผ่อนรอยยิ้มก่อนจะปิดตาลง ท่ามกลางเสียงกรีดร้องเสียดลึกของหญิงสาว เธอพยายามตะเกียดตะกายเขามาหาเด็กชายผมดำ ผู้ซึ่งที่เธอปักใจเชื่อว่าคือบุคคลที่เธอรอมาตลอด บุคคลที่ใกล้เพียงเอื้อม แต่กลับไกลสุดจะคว้าได้ ทั้งในอดีตเนิ่นนาน จวบจนบัดนี้...
“ทำไม...” เธอสะอื้นฮักร่ำไห้ขณะทรุดลงไปกองกับพื้น “ทำไม...ท่านถึงจากพวกเราไป” ริรินเดินก้าวเข้ามาพร้อมสมบัติพันธนการในมือ อีกครั้งที่ปีศาจสาวผู้ร่ำไห้ต้องกลับไปจมดิ่งอยู่ในห้วงลึกของความมืด“เพราะเหตุใด
” มือผ่ายผอมพยายามเหยียดเข้าใกล้ร่างผู้ซ้อนทับเงาในอดีต“เพราะเหตุใด...ท่านถึงทำเช่นนี้” โลหิตที่ไหลรินจากศีรษะเธออาบลงมาใบหน้าคล้ายน้ำตาเลือดกลั่นเป็นสาย...
“...เพราะเหตุใด...ท่านเอเรียส ”
แล้วร่างของเธอค่อยๆเลือนหาย กลับเข้าสู่การพันธนาการไม่จบสิ้น ทิ้งไว้แต่ความอาดูรที่อาลัยอาวรบุคคลที่เธอถวิลหามาทั้งชีวิต
+..+..+..+..+..+..
นั่งคอมน้องแล้วรื้อ ไฟล์นิยายเก่าๆ ตัวเองดู อ้าวมีเรื่องนี้เก็บไว้ด้วย ฮา นึกว่าหายไปเสียแล้ว
(เพราะคนเขียนเปลี่ยนมาใช้คอมใหม่เมื่อสามปีที่แล้ว และเรื่องนี้แต่งมาเมื่อประมาณสี่ห้าปีที่แล้ว ดังนั้นในคอมใหม่จึงไม่มีเรื่องนี้อยู่ และคอมเครื่องเก่าข้อมูลก็หายไปกลับสายลม พอมันเปิดเครื่องน้องดู อุ้ว้าว เรานี่แอบรอบคอบ? มาใส่ไฟล์นิยายไว้เครื่องนี้ด้วย)
กลับไปอ่านทวน เฮ้ย เมื่อสี่ห้าปีก่อน เหมือนจะแต่งดีกว่าตอนนี้ 555
เห็นว่าทิ้งไว้ในคอมจะเสียเปล่า เลยเอามาลงให้อ่านกันค่ะ
มีเก็บไว้หลายตอนเหมือนกัน (และว่าจะกลับมาแต่งต่อ ถ้าว่าง)
ตอนหน้า เจอกันวัน พฤ 8 ธ.ค. 54 ละกันนะคะ
fround
ความคิดเห็น