คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : เตรียมเริ่มภารกิจ 2-เด็กหญิงปริศนา-
มีอะไรบางอย่างกำลังตรงเข้ามาหาเขา
เขาหันไปมอง ว่ามันคืออะไร?
พอเขาหันไป.........
"สวัสดีครับ อาจารย์ฟิโลซ์" เสียงทักทายอย่างเหนื่อย หอบ ของรอป ทำให้เขาแปลกใจมากๆ
"ทำไมหอบแห๊กๆ มาอย่างนี้ล่ะ รอป?" เขาถาม พร้อมกวักมือเรียกเด็กชายมานั่งข้างๆ
"มาๆ นั่งก่อน พักเหนื่อยซักหน่อย" รอปเดินมานั่งลงข้างๆฟิโลซ์
"อาจารย์ครับ ผมมาทันคนอื่นๆไหมครับ?" เขาถามอย่างร้อนร้น
"ใจเย็นๆ ก่อนก็ได้ รอป เธอมาทันคนอื่นๆอยู่แล้ว" ฟิโลซ์บอกด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล น่าฟัง ซึ่งดูขัด กับอารมณ์ของรอปตอนนี้
"แล้วคนอื่นๆล่ะครับ หายไปไหนหมด?" เขาถามพร้อมมองไปรอบอย่างร้อนร้น ฟิโลซ์มองเขาอย่างขำๆปนกับความงง
"ทำไมเธอถึงรีบร้อนอะไรขนาดนั้นล่ะ รอป?" ฟิโลซ์ถามอย่างสงสัยกับการที่กระทำที่ร้อนร้นของรอป
"ก็ผมกลัวว่าจะไม่ทันนี่ครับ" เขารีบตอบทันที ฟิโลซ์ถกแขนเสื้อ และถอดนาฟิกาข้อมือ ส่งให้รอปดู เด็กชายถึงกับเบิกตากว้าง
ด้วยความตกใจ
8 AM
เขาดูนาฟิกาข้อมือของตัวเอง ก็พบว่า.....
มันตายเรียบร้อยแล้ว ตายที่ 9 AM
"เอางี้ รอป เธอไปนั่งรอเพื่อนๆที่ห้องของอาจารย์ก่อนล่ะกัน อีกสักหน่อยพวกเพื่อนๆของเธอคงจะมา" ฟิโลซ์บอกอย่างนุ่มนวล
เขาพยักหน้างึกๆ ไม่กล้าสบตาฟิโลซ์เลยด้วยซ้ำ แล้าเขาก็เดินจากไป
รอปนั่งพักอยู่ที่ห้องของฟิโลซ์ เลขาส่วนตัวของฟิโลซ์เอาของว่างมาให้ก่อนหน้านั้น
เสียงโทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้น เขากดรับ
"สวัสดีครับ" เขาพูดอย่างเบื่อหน่าย
"พี่เหรอ? ไปอยู่ไหนมา รู้ไหมตอนนี้มันกี่โมงแล้ว จะไปไหมเนี่ย โรงเรียนน่ะ พ่อเข่าอุตส่าห์จะไปส่ง หายหัวไปตอนนี้" เสียงของ
มาเรียบ่นดังจนเขาต้องเอาโทรศัพท์ออกห่างจากหู ก่อนที่แก้วหูของเขาจะแตกก่อน
"จะบ่นไปถึงไหนฮะ มาเรีย กะไม่ให้คนอื่นพูดบ้างเลยเหรอ ตอนนี้ฉันอยู่ที่โรงเรียนแล้ว ไม่ต้องให้พ่อมาส่งก็ได้ เธอจะมาก็รีบมา
ซะ คราวนี้ฉันไม่ได้มาสายด้วยล่ะ ขอบอก ไม่ต้องมาว่าฉันเลย" รอปบอก
"เอ่อๆ คราวนี้ หนูยกให้ งั้นแค่นี้ก่อนนะ บาย" และมาเรียก็วางไป เขากดไปที่เมนู แฟ้มภาพ รูปต่างๆ ที่เขาถ่ายในวันต่างๆ ก็ปรากฏ
เขาดูรูปที่เขาและมาเรียถ่ายภาพด้วยกัน ในวันที่มาเรียจบการศึกษาปีสุดท้ายในระดับชั้นเตรียมฮาโรวาเรีย มาเรียอยู่ในชุดบันฑิตน้อย
เขามองดูรูปนั้น มันเหมือนกับความทรงจำที่เขาประทับใจมากที่สุดเท่าที่เขาจำได้
"นั้นรูปใครเหรอจ้ะ รอป?" เสียงของเลขาสุดสวยของฟิโลซ์ถามเล่นทำเอาเขาตกใจหมด
"รูปของน้องน่ะครับ" เขาตอบ เธอยื่นหน้าเขามาดูรูปในมือถือใกล้ๆ
"หน้าตาน้องเธอเหมือนเธอเลยนะ รอป" เธอพูดอย่างแปลกใจ เขาได้แต่ยิ้มๆ
ใช่ มันเหมือนกันมากๆ
"แม่คะ ทำไมพี่เขาไม่ไปพร้อมเราล่ะคะ?" มาเรียถามผู้เป็นแม่ ผู้เป็นแม่คิดหาคำตอบ
"สงสัย พี่เขาคงกลัวลูกไปว่าเขาว่า เต่า ล่ะมั้ง" ผู้เป็นแม่บอกอย่างขำขำ ตอนนี้มาเรียและพ่อแม่ของเธอ กำลังไปที่โรงเรียน ฮาโรวาเรีย
"ก็มันจริงนี่คะ เวลาพี่เขาทำอะไร ก็ช้าๆ อืดๆ ตื่นก็สาย ไปโรงเรียนก็สาย ไปไหนก็สาย ช้าไปหมด สายไปหมด จะไปไม่ให้พูดอย่างงั้น
ก็คงไม่ได้ค่ะแม่" เธออาสาธยายพี่ชายเธอจนหมด แม่และพ่อของเธอก็อดขำไม่ได้
"อย่าไปพูดให้พี่เขาฟังนะลูก เดี๋ยวพี่เขาเอาลูกตายแน่" แม่ของเธอบอก
ณ หน้าห้องของผอ. เลขาสุดสวยนั่งอยู่ที่โต๊ะของเลขาหน้าห้อง และเธอรับรู้ว่ามีคนตรงหน้าเธอ
"มาถึงแล้วเหรอคะ คุณคาร์เพ็นเตอร์และคุณคาร์เพ็นเตอร์" และเธอเงยหน้ามองดูเด็กชายผมเงิน นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้ม 2 คน ที่หน้าตา
เหมือนพิมพ์เดียวกันมายังไงยังงั้น
"เชิญนั่งข้างในห้องก่อนนะคะ" เลขาเชิญทั้งสองเข้าห้องไป พร้อมหาของว่างให้ทั้งคู่
รอปมองสมาชิกที่เพิ่มขึ้นมาในห้องอีกสองคน ฝาแฝดคู่นั้นนี่เอง ถึงทั้งสองจะหน้าตาเหมือนกันยังกับลอกกันมา แต่ดูจาก
การแต่งตัวและบุคลิก เนี่ยคนละเรื่องกันเลย คนหนึ่งก็เนียบยังกับคุณชาย เงียบ เยือกเย็นแสดงออกทางสายตา ส่วนอีกคนแววตาบอก
ถึงความขี้เล่นของเจ้าของ ออกแนวBad Boy เฮดโฟนที่ห้อยที่คอนั้นบอกถึงรสนิยมของเขาไม่ใช่น้อย
"นั้นคงเป็นพี่ชายของมาเรียน่ะสิครับ?" เจ้าเด็กคุณชายทักอย่างเย็นๆ รอปมองหน้าคนทักอย่าง งงๆ แล้วพยักหน้ารับ ที่เขางงไม่ใช่ที่รู้
ว่าเป็นพี่ชายของมาเรียหรอกนะ แต่งงกับมาดคุณชายที่เกินตัว ว่าทำได้ยังไง
"หน้าเหมือนมาเรียมากๆเลยว่าไหมแซ็ค?" แฝดอีกคนพูดกับเจ้าเด็กคุณชาย ดูท่าว่าฝาแฝดอีกคนจะไม่มาดมากเหมือนอีกคนหนึ่ง
"เอ่อใช่ เราลืมแนะนำตัวไป ฉัน แม็ค คาร์เพ็นเตอร์ ส่วนไอ้มาดมากเนี่ย พี่ชายฉัน แซ็ค คาร์เพ็นเตอร์" แฝดอีกคนแนะนำตัวพร้อม
แนะนำคุณชายมาดมากด้วย แม็คยื่นมือทักทาย รอปจับมือกับแม็ค
"ฉัน รอป โทมัส" รอปแนะนำตัว เด็กชายทั้งสองนั่งลงที่โซฟา อย่างสบายใจ
"มาเรียเล่าเรื่องของนายไว้มากมายเลย รอป" แม็คพูดกับรอปที่นั่งอยู่ที่โซฟาตัวตรงข้าม ดูท่าว่านายเฮดโฟนเนี่ยจะพูดเก่งไม่ใช่เล่นนะเนี่ย
"ทั้งเรื่องที่นายแอบหลับในห้องน้ำเอย เรื่องไปโรงเรียนสายบ้างเอย เรื่องที่มักจะมีคนซักนายผิดว่าเป็นผู้หญิงบ้างเอย โอ้ยเยอะแยะ
มากมาย สารพัดที่จะนึก" แม็คอาสาธยายเยียดยาว รอปอึ่งกับการอาสาธยายของแม็ค รอปยิ้มรับอย่างไม่ใส่ใจกับคำพูดนั้น เขาแอบหันไปมอง
ข้างหลังตัวเอง พร้อมขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน อย่างเคี้ยดแค้น
หน๊อย.....ยัยหัวสปาเก็ตตี้ มาถึงจับต้มซะให้เข็ด
รอปคิดอย่างเคี้ยดแค้น ยัยหัวสปาเก็ตตี้ เป็นฉายาของมาเรียที่เขาตั้งให้ เพราะทรงผมของเธอมันให้มาก เป็นลอนเหมือนสปาเก็ตตี้
"เหรอ....มาเรียเล่าให้พวกฟังเยอะแยะเลยนะ" รอปพูดอย่างแจ่มชื้น ทันใดนั้นก็มีเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น ดึงดูดสายตาของทั้งสามให้หันไปมอง
เด็กชายผมดำ นัยน์ตาสีเดียวกับผม บอกว่านายนี่เจ้าเล่ห์ไม่เบา พอรอปมองเด็กหนุ่มคนนี้ ก็ยกมือร้องเรียกทัก
"หวัดดี โมเสต" เด็กชายหันไปหาเจ้าของเสียงอย่างตกใจเล็กน้อย
"ทำไมนายมาเร็วกว่าฉันได้ยังไง รอป ปกติเวลานี้นายยังไม่ตื่นเลยด้วยซ้ำ" โมเสตพูดอย่างตกใจเล็กน้อย
"คนเรามันก็มีเปลี่ยนแปลงกันบ้าง" เขาตอบ ความจริงไม่อยากบอกหรอกว่า นาฟิกามันตาย ถ้ามันไม่ตาย ก็คงมาช้ากว่านายแน่นอน โมเสต เขาคิด
"แล้ว มาเรีย น้องสาวนายไม่มาด้วยกันเหรอ?" โมเสตถาม แม็คและแซ็คมองเขาเหมือนว่าจะถามอย่างเช่นนั้นเหมือนกัน
"มาเรียมาพร้อมกับพ่อและแม่น่ะ" เขาตอบ โมเสตนั่งลงข้างๆรอปแล้วมองสองฝาแฝดอย่างสงสัย
"เอ่อ....พวกนายสองคนนั้น...."
"ฉัน แม็ค คาร์เพ็นเตอร์ ส่วนนี่ พี่ชายฉัน แซ็ค คาร์เพ็นเตอร์" แม็ครีบแนะนำตัวทันที พร้อมผายมือไปทางพี่ชายที่นั่งข้าง ที่ได้แต่พยักหน้ารับ
"ฉัน โมเสต ด็อก เป็นเพื่อนกับ รอปน่ะ อยู่ปี 2 ไกเซอร์ ยินดีที่ได้รู้จัก" โมเสตแนะนำตัวซะเต็มยศ
เสียงประตูถูกเปิดอีกครั้ง คราวนี้ไม่ได้มาคนเดียว แต่มากัน 4 คน คนแรกเขารู้สึกคุ้นเคยมากที่สุด มาเรียนั้นเอง มาพร้อมกับผอ. ฟิโลซ์
เด็กชายผมน้ำตาล ภายใต้แว่นตามีนัยน์ตาสีฟ้าใส ดูเเล้วเป็นเด็กดีทีเดียว ส่วนคนสุดท้ายเขาอยากจะร้องลั่นเป็นที่สุด เด็กหญิงคนเมื่อเช้านี้ ที่เขา
เห็นที่ร้านหนังสือ และที่สำคัญเธอเป็นฆาตรกรที่ฆ่าคนในร้านอีกด้วย รอปถึงกับหน้าซีด ด้วยความตกใจปะปนความกลัวบ้างเล็กน้อย
"นายเป็นอะไรไปหรือเปล่า รอป?" โมเสตถามอย่างเป็นห่วง เพราะดูสีหน้าไม่ค่อยดีของรอป เขาส่ายหน้า
"เปล่า ฉันไม่ได้เป็นอะไร" แม็คมองหน้ารอปอย่างเป็นห่วง ปนสงสัยเล็กๆ
"หรือว่านายไม่ได้กินข้าวเช้ามาหรือเปล่า?" แม็คถามอย่างเป็นห่วง เขาส่ายหน้าปฎิเสธ
เด็กหญิงที่เขาเจอตอนเช้านั้น ผมสีดำสนิท แต่ทำไมตอนนี้มีสีเงินแซมมาบ้างล่ะ สงสัยคนละคนล่ะมั้ง เขาแอบหวังไว้เล็กๆ
"เอาล่ะ ทุกคนคงมาครบแล้วนะ" เสียงของผอ.ผู้แสนดี ฟิโลซ์ ดังขึ้น ทุกๆคนดังประจำที่ เด็กหญิงคนนั้นนั่งตรงข้ามเขาพอดี แต่เขาก็ไม่
ค่อยอยากจะสบตาเธอซักเท่าไร
"เอาล่ะนะ วันนี้ที่ฉันเรียกทุกคนมาในวันนี้ เนื่องด้วยในวันที่ 30 เมษายนนี้ จะมีการประมูลอัญมณีหนึ่งชิ้น" ฟิโลซ์กำลังอธิบาย แม็ครีบ
ถามทันที
"อัญมณีอะไรเหรอครับ? แม็คถามอย่างสงสัย
"ฮิวส์ พวกเธอคงเคยได้ยินมาบ้างล่ะสินะ" ฟิโลซ์บอก สีหน้าของสองฝาแฝดถึงกับตกใจ รอปเหลือบเห็นเด็กหญิงที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขา
กำหมัดอยู่ที่ตักของตนจนแน่น จนมีเลือดไหลออกมาตามซอกนิ้ว
"เธอ!!!" เขาเรียกเด็กหญิงคนนั้นเบาๆ เธอหันมา
"อะไรเหรอ?" เธอถามอย่างสงสัย
"เป็นอะไรหรือเปล่า?" เขาถามอย่างเป็นห่วง พร้อมมองที่มือที่เลือดกำลังไหล เธอมองไปที่มือของตนอย่างไม่ใส่ใจ
"ไม่เป็นไรหรอก" เธอตอบเสียงหวาน พร้อมหันไปฟังที่ฟิโลซ์อธิบายต่อ
"ฉันไม่ได้ให้พวกเธอไปประมูลหรอกนะ เพราะราคาที่ตั้งไว้มันก็เกินกับเงินในกระเป๋าฉันอยู่แล้ว" มาเรียแอบขำนิดๆ
"แล้วจะให้พวกเราทำอะไรล่ะครับ?" คำถามอย่างน้ำเสียงสุขุม เยือกเย็นจากคุณชายมาดมาก แซ็ค คาร์เพ็นเตอร์ โมเสตอดขำไม่ได้กับ
ความมาดมากของเขา
"ถามได้ดีนี่ แซ็ค คือ ฉันอยากให้เธอไปสืบดูว่า ในงานนั้น ใครได้ของในการประมูล ใครสนใจของนั้นมาก อะไรประมาณนี้" ฟิโลซ์
พูดอย่างสบายๆ พร้อมหันไปจิบน้ำชาสักกรึบ แล้วหันมาหานักเรียนของเขา
"งานง่ายๆแบบนี้ หวังว่าพวกเธอคงจะทำสำเร็จนะ"
"วางใจได้เลยครับ" โมเสตพูดอย่างหมั่นใจ เขายิ้มอย่างพอใจ
"เอาล่ะ วันนี้ฉันมีสมาชิกใหม่ให้พวกเธอรู้จัก เซาท์เธอร์รี่ คิวดิซ จะมาอยู่ในกลุ่มของพวกเธอด้วย" ฟิโลซ์แนะนำพร้อมผายมือไปทาง
เด็กหญิงที่นั่งตรงข้ามรอป เธอยืนขึ้น โค้งคำนับทุกคน
"สวัสดีค่ะ ฉันชื่อ เซาท์เธอร์รี่ คิวดิซ ฝากตัวด้วยนะคะ" เธอแนะนำตัวเสียงหวาน และส่งยิ้มให้ทุกๆคน ช่างเป็นเด็กหญิงที่ร่าเริง
แจ่มใสดีจริง แต่ภาพที่เธอลอบสังหารคนเมื่อเช้าผุดขึ้นมาในหัวรอป มันขัดกันโดยสิ้นเชิงเลย
"พวกเราก็ขอฝากตัวด้วยนะ เซาท์เธอร์รี่" มาเรียบอกอย่างร่าเริง
"เอ่อ ใช่!!! ฉันลืมบอกพวกเธอไป ว่างานประมูลอยู่ที่เมืองกรี้ดน่ะ แล้วก็ถ้าเป็นไปได้ก็ทำลายฮิวส์ไปด้วยก็จะดี" ฟิโลซ์อธิบาย แต่
เด็กชายผมน้ำตาล สวมแว่นยกมือขึ้นก่อน
"มีอะไรจะถามเหรอ รีเดล์?" ฟิโลซ์ถามอย่างอ่อนโยน
"คือว่า...ทำลายเนี่ยมันยากไหมครับ?" รีเดล์ถาม ฟิโลซ์เงียบไปซักพัก เด็กๆนั่งตั้งใจรอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ
"จะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่าย" ฟิโลซ์เล่นตอบก้ำกึ่งแบบนี้ เล่นทำเอาเด็กๆงงกันเป็นแถว
"เอาเป็นว่าฉันเชื่อใจเธอล่ะกัน" เขาพูด และเดินไปที่โต๊ะทำงานเพื่อหาอะไรบ้างอย่าง และเขาก็หยิบอะไรบางอย่างที่ดูเหมือนตั๋วมา
7 ใบ และส่งให้โมเสต และโมเสตก็แจกจ่ายคนต่อไปเรื่อยๆ
"นี่คือ ตั๋วเครื่องบินไปกรี้ด ฉันว่าพวกเธอคงต้องไปเมืองนั้นแน่นอน เพราะการที่จะไปหารายชื่อได้นั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่พวกเธอคิด"
เขาพูดพร้อมมองไปที่พวกเขาทีละคน
กะอีแค่หารายชื่อ มันจะไปยากอะไร แค่เนี่ย มาเรียคิดอย่างเซงๆในใจ
"อย่าประมาทไปสิมาเรีย ฉันบอกไปแล้วนะว่า มันไม่ง่ายอย่างที่คิด" ฟิโลซ์พูดขัดทันที เธอสะดุ้งหลุดจากห้วงความคิดทันที ก็ได้แต่ยิ้ม
แห้งๆ
"เอาล่ะ ฉันว่าเราเสียเวลากันมามากแล้ว ฉันขอให้ภารกิจนี้สำเร็จไปด้วยดี และอย่าให้ใครเป็นอะไรล่ะ โชคดีนะ" ฟิโลซ์อวยพร และ
พวกเขาก็ลุกจากโซฟา และเดินไปยังหน้าประตู
"แต่อาจาร์ครับ เรายังไม่ค่อยรู้รายละเอียดของภารกิจนี้มากเลยนะครับ" รีเดล์รีบถามทันที ฟิโลซ์ยิ้มๆ
"ฉันว่าพวกเธอรู้จักมันดีกว่าฉันซะอีก" เขาตอบเล่นเอารีเดล์และอีกหลายๆคนงงไปตามๆกัน
"เอ่อใช่ เซาท์เธอร์รี่ เดี๋ยวพบฉันแปปนึง พวกเธอไปรอข้างนอกกันก่อนละกันนะ" เซาท์เธอร์รี่หันไปมองฟิโลซ์อย่างสงสัย และ
คนอื่นก็ออกไปรอกันข้างนอก
"มันหมายความว่ายังไงง่ะ 'พวกเธอรู้จักมันดีกว่าฉันซะอีก' ฉันล่ะงงเป็นบ้าเลย" โมเสตเริ่มเปิดประเด็นกันอยู่หน้าห้อง
"ฉันว่านั้นมันไม่ค่อยน่าสนใจเท่ากับนี่หรอก" มาเรียพูดพร้อมแง้มประตูห้องผอ.นิดๆ เพื่อให้พอสำหรับสายตาน้อยๆทั้งหลายแอบ
มอง
"นี่มาเรีย มันเสียมารยาทมากๆเลยนะ การที่แอบฟังคนอื่นคุยกัน รู้ไหนว่ามันไม่ดี" แม็คต่อว่ามาเรียที่กำลังแอบส่องอยู่หน้าประตู
"คนอื่นซะที่ไหน เพื่อนกัน" มาเรียเถียง แม็คเริ่มทำหน้าทนไม่ไหว
"แต่ถ้ามันน่าสนใจ ก็คงไว้อภัยกันได้" แม็ครีบพูดและแอบส่องดูตรงที่เดียวกันมาเรียส่องอยู่
"เหอะๆ เปลี่ยนสีเร็วดีนิ" โมเสตหยอกล้อไปทางแซ็คที่ยืนอยู่ริมหน้าตาอยู่เงียบๆ และหันไปพูดกับรอปที่อยู่ข้างๆ
"ฉันว่ามันจะเก็กไปถึงเมื่อไร-เขาทำท่าทางบุยใบไปทางเเซ็คที่อยู่ริมหน้าตา- ไม่เข้าใจมันจริงๆเลย" โมเสตบอกกันรอปที่ยืนฟังอยู่ข้าง
"ฉันว่ามันก็ดีกว่าทางโน้นอ่ะนะ" รอปบอกพร้อมแอบชี้ไปทางสองคนนั้นที่อยู่หน้าประตู และเขาก็หันไปทางรีเดล์
"นายชื่อ รีเดล์ ใช่ไหม?" รอปถามอย่างเป็นกันเอง เด็กชายสวมแว่นหันมาแล้วพยักหน้ารับ
"ครับ ผม รีเดล์ พีล็อค" เด็กชายตอบอย่างสุภาพ ดูท่าจะเป็นเด็กเรียนเเน่ๆ โมเสตมองไปที่หน้าประตูอย่างเซงๆ
"ไม่รู้ว่าเขาคุยอะไรกัน" เขาบอกอย่างเซงๆ
"นายก็ลองไปแอบดูเหมือนสองคนนั้นสิ" รอปแนะนำ พร้อมบุ้ยใบไปที่ประตู
"เอ่อใช่ รีเดล์-เขาหันไปทางรีเดล์-แซ็คเนี่ย เงียบอย่างนี้ตลอดเลยเหรอ?" รอปถามอย่างสงสัย รีเดล์ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่
"ถึงเขาจะเงียบ แต่เขาก็เป็นคนดีนะครับ" รีเดล์ตอบอย่างสุภาพอีกครั้ง
ประตูถูกเปิดออกจากข้างใน ทั้งสองอีแอบ(ดู)เริ่มไหวตัวทัน แม็ครีบคว้าwalk-manของตนมาทำท่าเป็น
ฟังเพลงน่าตาเฉย มาเรียมองหาที่พึ่ง รีบคว้าเฮดโฟนจากหูเจ้าของโดยไม่ขออนุญาตเลย แล้วเอามาฟังเฉย
ฟิโลซ์และเซาท์เธอร์รี่ออกมาจากประตู และมองมาที่สองคนนั้น
"นายว่าเพลงนี่เพิ่งออกใหม่เหรอ เพราะดีนะ" มาเรียรีบพูดพร้อมทำท่าฟังเพลงอยู่ เพื่อการเอาตัวรอดแม็คเลยต้อง
เลยต้องตามน้ำ
"ใช่ๆ เพลงนี่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นานนี้เอง" ฟิโลซ์มองทั้งคู่อย่างขำๆส่วนเซาท์เธอร์รี่มองอย่าง งง
"เอาล่ะ งั้นฉันขอส่งพวกเธอแค่นี้แหละ ขอให้โชคดีนะ" ฟิโลซ์บอกลา
"งั้นพวกเราก็ขอลาเลยนะครับ" โมเสตลาฟิโลซ์แล้วพวกเขาก็เดินจากฟิโลซ์ไป แซ็คเหลือบมองwalk-manนั้น แล้ว
ยิ้มๆ
"มาเรีย" เขาเรียกเธอที่กำลังส่งwalk-manคืนแม็ค
"มีอะไรเหรอ?" มาเรียถาม
"ท่าทางเพลงที่เธอฟังคงเพราะน่าดูเลยนะ ไม่ต้องเปิดก็ฟังได้" แซ็คบอก เธอรีบคว้าwalk-manจากมือของแม็คมาดู
ให้แน่ชัด
"ไม่ได้เปิดจริงด้วย!!!! แม็คนายฟังเพลงแล้วไม่เปิดเลยเหรอ" เธอโทษเจ้าของเครื่องที่ทำหน้างงอยู่
"เธอมาโทษฉันไม่ได้นะ ฟังกำลังจะเปิด เธอก็ดันมาแย้งฉันไปฟังเฉย" แม็คบอกพร้อมคว้าเครื่องของเขามาฟัง
รอปแอบเห็นแซ็คแอบหัวเราะนิดๆอยู่ข้างหลัง
สงสัยคงเป็นเหมือนที่รีเดล์พูดไว้แน่เลย
พวกเขาเดินอยู่ที่ริมฟุตบาต ริมถนนที่มีรถสัญจรกันมากมาย สวนทางกันไปมาเหมือนขบวนมดขนาด
ยักษ์ ที่ค่อยๆเคลื่อนที่ไปทีละนิด สองข้างทางมีร้านค้ามากมายรายล้อม ทั้งร้านหนังสือ ร้านอาหาร สารพัดร้าน
ตามต้องการ บรรยากาศเมืองนี้อาจจะแตกต่างจากเมืองอื่นๆ เพราะ ยังคงรักษาสภาพของเมือง ไม่มีการเปลี่ยน
แปลงใดๆเลย ทั้งสถาปัตยกรรมที่ดูหรูหรา นี้แหละคือจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของเมือง ฮาโรวาเรีย ล่ะ
"ฉันว่าพวกเราเดินกันนานแล้วนะ นี่มันก็เที่ยงแล้ว หาอะไรอร่อยๆกินกันไม่ดีกว่าเหรอ?" มาเรียชักชวน
เพื่อนๆที่เดินอย่างไม่มีจุดหมาย
"น้อยๆหน่อย หิวแล้วเหรอ เพิ่งกินไปเมื่อ 15 นาทีนี้เอง จะกินอีกแล้วเหรอ" โมเสตพูดอย่างอารมณ์เสีย
เพราะ 15 นาที ก่อนหน้านี้ มาเรียบ่นว่าหิว เขาก็อาสาที่จะพามาเรียไปซื้อแซนวิซและซื้อเผื่อคนอื่นแทนรอป แต่เขา
ดันตัดสินใจผิดถนัด มาเรียเห็นตัวเล็กอย่างนี้ เจ้าหล่อนเล่นซื้อแซนวิซให้ตัวเองตั้ง 3 ชิ้น ส่วนคนอื่นๆได้กันคนละชิ้น
เท่านั้น เจ้าหล่อนบอกว่าจะจ่ายเอง แต่ดันลืมกระเป๋าตังซะได้ เขาเลยต้องจ่ายไปให้ก่อน ทั้งหมด 4 เฟอร์ กับอีก
50 คอป เจ้าหล่อนบอกว่าจะจ่ายคืน ตอนนี้ยังไม่คิดจะจ่ายเลย และยิ่งไม่กล้าไม่ทวงเพราะเป็นน้องของเพื่อนสนิท
คิดอีกกี่ก็กลุ้ม เขาแอบลอบถอนหายใจ
"แล้ววันนี้เราจะไปค้างกันที่ไหนล่ะครับ?" คำถามสุภาพจากรีเดล์ถามโมเสตที่ทำหน้าเซง
"ไม่รู้สิ พวกเรายังไม่รู้เลยว่าจะเริ่มต้นกันยังไงกันดี" โมเสตบอกอย่างเบื่อๆ
"งั้นเราก็หาร้านเล็กๆนั่งคุยกันไม่ดีหรือครับ?" รีเดล์เสนอ มาเรียเลยสนับสนุนเต็มที่
"น่าสนนะ จะได้ไปหาของกิน-โมเสตส่งสายตาดุๆมาทางเธฮ เธอเลยต้องเปลี่ยนคำพูดใหม่- จะได้วางแผน
ไง"
"ฉันว่าก็น่าสนนะ" รอปบอกเห็นด้วย โมเสตมองหน้าทุกๆคน ก็เหมือนบอกว่า เห็นด้วย เขาเลยเลี้ยวเข้าร้าน
ไอครีมซึ่งอยู่ใกล้ๆพวกเขา
พอเข้าร้าน พนักงานต้อนรับสาวรีบตรงเข้าหาพวกเขาโดยทันที
"ยินดีต้อนรับค่ะ ไม่ทราบว่ามากี่คนคะ?" พนักงานถาม
"7 ครับ" โมเสตตอบ และพนักงานก็นำไปที่โต๊ะ ซึ่งเป็นโซฟาที่มุมร้าน สามารถนั่งได้เป็นสิบ
"รับอะไรดีคะ?" พนักงานถามพร้อมเตรียมจดรายการ แต่ละคนก็สั่งกันตามใจตน พอไอครีมมาเสิร์ด
"เอ่อ ขอบโทษนะคะ นี่ของใครอ่ะคะ?" เซาท์เธอร์รี่ถามพนักงานอย่างไม่แน่ใจในไอครีมถ้วยใหญ่ แต่ละคนพา
กันแอบหัวเราะขำๆ
"นี่น่ะ ของมาเรีย แม่นั้นกินได้เป็นตัน" แม็คแอบกระซิบบอก เธอมองมาเรียที่ค่อยๆทานอย่างหวาดๆ
ระหว่างที่พวกเขาทานกันไป โมเสตก็เริ่มเปิดประเด็นคุยกันทันที
"แล้วเราจะเริ่มกันยังไงดีล่ะ ข้อมูลก็มีอยู่น้อยนิด" โมเสตพูด คนอื่นๆก็เหมือนจะคิดเหมือนๆกันซะด้วย
"ตามที่ฉันรู้มานะ งานประมูลที่กรี้ดน่ะ เป็นงานที่ใหญ่มาก เป็นงานที่พวกไฮโซกระบังลมมากันตรึม แต่
ในขณะเดียวกัน พวกมิฉาชีพ มาเฟียของเพี้ยบอีกเหมือนกัน" แม็คพูดตามที่รู้มา และหันไปจัดการไอครีมของตนต่อ
"แล้วงานแบบนี้ การโจรกรรม ฆาตรกรรม ลอบสังหารก็ต้องมีกันเป็นธรรมดา ดังนั้น คณะกรรมการจัดงาน
เลยต้องปกปิดรายชื่อผู้รวมประมูล เพื่อความปลอดภัย ก็มีแต่พวกอยากเด่นเท่านั้นแหละที่ประกาศตัวเองว่าเข้าร่วมงาน"
แซ็คอธิบายซะยาวยืด นานๆพูดที ต้องขอพูดยาวซะหน่อย
"แล้วนายไปรู้เรื่องกับเขาด้วยเหรอ นึกว่าเก็กเป็นอย่างเดียว" โมเสตสัพหยอก แซ็คไม่ตอบโต้ได้แต่นั่งฟังเงียบๆ
ส่วนน้องชายของเขาก็ได้แต่แอบขำอยู่มุมโซฟา
"แล้วฮิวซ์มันคืออะไรกันเหรอ?" มาเรียถามอย่างสงสัย แล้วตักไอครีมเข้าปากคำใหญ่ เซาท์เธอร์รี่มองเธออย่าง
อึ่งๆ ขณะที่เธอค่อยๆละเลี่ยทานไปที่ละนิด
"ก็เป็นอัญมณีชนิดหนึ่ง จัดอยู่ในหมวดหินเวท ซึ่งในโลกนี้มีเพียงคู่เดียวเท่านั้น" โมเสตอธิบายอย่างรอบรู้
"คู่เดียว? แสดงว่ามี 2 ชิ้น อ่ะสิ" มาเรียพูด และยัดไอครีมคำโต และเป็นคำสุดท้ายในถ้วยเข้าปาก เซาท์เธอร์รี่
ที่นั่งอยู่ตรงข้ามถึงกับอึ่งอีกครั้ง กับการกินของเธอ
"ใช่ มันมีสองชิ้น ซึ่งมีคุณสมบัติต่างกันสุดขั่ว แต่ทั้งสองมีคุณสมบัติที่เหมือนกันอย่างเดียว" แม็คตอบ อยู่ดีๆ
มาเรียก็ตักไอครีมของเขาไปเฉยๆ ถ้าตักนิดเดียวไม่ว่า แต่เล่นตักไปตั้งเยอะ อุตส่าห์ตอบให้ยังมาแย่งเขากินอีก เขาคิดว่า
โมโหนิดๆ
"แล้วคุณสมบัติอะไรเหรอที่เหมือนกัน?" โมเสตถามอย่างสงสัย แซ๊คจึงขอตอบเอง
"ขออะไรก็ได้ตามใจปรารถนา" แซ็คยังไม่ทันพูดจบไอครีมเหลวๆพุ่งจากปากรอปไปยังหน้าของโมเสต หน้า
เขาเต็มไปด้วยไอครีมเหลวๆ รสช็อกโกแล็คเต็มหน้าไปหมด "ยกเว้นคืนชีวิตมนุษย์นะ" แต่ก็ไม่มีใครฟัง เพราะมัวแต่ไป
สนใจหน้าของโมเสตกันหมด
"เฮ้ย!!! นายทำอะไรของนายน่ะ" โมเสตว่าและคว้าทิชชูมาเช็ดใบหน้าของตนอย่างเคืองๆ
"ขอโทษที่โมเสต ฉันไม่ได้ตั้งใจ" รอปขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่
"ไม่ได้ตั้งใจ ซะเต็มที่เลยนะ หน้าคนอื่นมีให้พุ่ง ไม่พุ่ง ดันมาพุ่งใส่หน้าอันหล่อเหลาของฉัน" โมเสตว่าไปนั้น
"หล่อเหลา เหลาเท่าไรก็ไม่หล่อล่ะสิไม่ว่า" แม็คสวนกลับ และจ้วงไอครีมเข้าปากอย่างสบายใจ
"ต่อๆ" แม็คพูดทั้งๆที่ไอครีมยังเต็มปากอยู่ แซ็คถอนหายใจ ปรับอารมณ์ชั่วครู่
"แต่ก้อมีตำนานว่า ถ้านำทั้งสองชิ้นมารวมกันเป็นหนึ่ง จะได้สมบัติที่ไม่มีใครมีได้ และหาได้" แซ็คอธิบายอย่างรอบรู้
"สมบัติที่ไม่มีใครมีได้ สมบัติไม่มีใครหาได้ เหรอครับ?" รีเดล์ย้อนถาม "แล้วมันคืออะไรล่ะครับ" แซ็คได้แต่ส่ายหน้า
"ไม่มีไครรู้ทั้งสิ้น เพราะยังไม่มีใครทำได้ หรือไม่อยากทำมันมากกว่า" แซ็คบอก และเข้าสู่โหมดเงียบเหมือนเดิม
เนี่ยหรือข้อมูลที่มีอยู่ แล้วเราจะทำยังไงต่อไปล่ะ ขออะไรก็ได้ตามปรารถนางั้นเหรอ น่าขำ จะมีของพันธุ์นั้นได้ยังไง
ถ้ามี มนุษย์คงสบายกันตายเลยสิ โลกนี้มันไม่มีของอะไรฟรีหรอก
รอปคิดอย่างขำๆ และหันไปจัดการไอครีมต่อ
"แล้วเราจะเอายังไงกันต่อล่ะ จะเริ่มกันยังไงล่ะ?" โมเสตเปิดประเด็นถาม แต่ละคนครุ่นคิดอย่างหนัก เสียงดีดนิ้วจากแม็ค
เหมือนเป็นสัญญาณว่า มีความคิดดีๆแล้ว
"ฉันว่า เราไปที่เผ่าฟรีสกันดีกว่า ที่นั้นน่าจะมีอะไรดีๆที่พวกเราต้องการอยู่ก็ได้" แม็คเสนอ
"เผ่าฟรีส เหรอครับ? ชนเผ่าที่อยู่ตอนใต้ของประเทศไอซ์แลนด์น่ะเหรอครับ?" รีเดล์ถามอย่างไม่แน่ใจ เผ่าฟรีสเป็นชนเผ่าที่อาศัย
อยู่ทางตอนใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ ชื่อประเทศมันก็บอกอยู่แล้วว่าไอซ์ แสดงว่าหนาวได้ใจแน่ๆ โดยเฉพาะบริเวณที่เผ่าฟรีสอาศัยอยู่ หนาว
จนเเข็ง ไม่รู้ว่าอยู่กันได้ยังไง
"แล้วมีความคิดเห็นว่ายังไงเหรอ หนูสมาชิกใหม่ เห็นนั่งเงียบๆมานานแล้ว" มาเรียพูด และเหมือนทุกๆคนจะจ้องมองไปสายตาเดียว
เล่นทำเอาเธอขาดความมั่นใจไปไม่ใช่น้อย
"เอ่อ....คือ....ที่ พวกเธอคิด ฉันว่ามันก็เป็นความคิดที่ดีอ่ะนะ แต่กว่าจะถึงก็พรุ่งนี้ถ้าเราไปกันตั้งแต่ตอนนี้" เธอบอกอย่างตระกุตระกะ
"อืม งั้นโอเค ไปเผ่าฟรีส" โมเสตบอกอย่างหนักแน่น "แล้วจะไปทำไมง่ะ?" เขาถามทันที แซ็คถอนหายใจอย่างปลงๆ เมื่อกี้ก็เพิ่งบอกไป
หรือว่าจะความจำสั้น
"ก็ไปหาข้อมูลไง เพราะฉันได้ยินมาว่า เผ่าฟรีสเป็นเผ่าเวทอันดับต้นๆของโลกเลยนะ และเป็นเผ่าที่เคยใช้ฮิวซ์มาก่อนแล้วด้วย แต่ไม่
สำเร็จ แต่ไม่รู้ว่ามันจะเป็นแค่ข่าวลือเท่านั้นหรือเปล่า" แม็คตอบ
"แล้วนายไปรู้มาจากไหนมากมาย ฮะสองฝาแฝด" โมเสตถามแต่ออกแนวประชดซะมากกว่า
"ห้องสมุดไงครับพี่ ห้องสมุดเขามีไว้ศึกษานะครับ" แม็คตอบกวนอวัยวะเบื้องล่างสุดของร่างกายเขามาก และศึกน้ำลายก็เริ่มขึ้นอย่างไม่
มีทางหลีกเลี่ยงได้
ความคิดเห็น