NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เฝ้ารักองค์หญิง (มีอีบุ๊กแล้วจร้าาาา)

    ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 2.2 สมรสพระราชทาน

    • อัปเดตล่าสุด 26 ก.ย. 63


    บทที่ 2.2

    “ฉางอวี้น้อมรับพระเมตตา”

    รับไปทำม้ายยยยยย...เซียงจื่อกรีดร้องอยู่ในใจ นึกอยากจะหยิกแก้มอีกฝ่ายให้เนื้อหลุด โทษฐานตอบอะไรไม่รู้จักคิด ไหนใครว่าหมอนี่เล่นตัวเก่งนักซ้ำยังชอบงัดข้อกับฮ่องเต้ คราวนี้ทำไมถึงได้ว่าง่ายขึ้นมา

    “ดี พวกเจ้าทั้งสองเหมาะสมกันอย่างยิ่ง” ฮ่องเต้ตรัสอย่างโล่งพระทัย คาดว่าเป็นเพราะเซียงจื่องดงามสดใส บุรุษใดบ้างจะไม่ปรารถนาได้เชยชมนาง กระทั่งพระองค์ยังทรงต้องหักห้ามพระทัยอย่างยากลำบาก

    เซียงจื่ออยากจะค้านอีกแต่นางกำนัลด้านหลังแอบดึงชายแขนเสื้อห้ามเอาไว้ ขัดราชโองการมีโทษประหารชีวิต เรื่องนี้นางรู้ดีแต่จะให้นางแต่งงานกับคนที่เพิ่งพบหน้ากันครั้งเดียว ซ้ำเขากับนางยังมีเรื่องหมางใจกันอีก หากตกอยู่ในมือแม่ทัพผู้นี้ชีวิตนางจะเป็นเช่นไร

    “กราบทูลฝ่าบาท ตอนนี้ท่านอ๋องและชายาได้เดินทางมาถึงแล้ว ไทเฮาจึงมีรับสั่งให้กระหม่อมมาทูลเชิญฝ่าบาทไปที่ตำหนักพ่ะย่ะค่ะ” ขันทีจากตำหนักของไทเฮาเข้ามารายงานต่อฮ่องเต้

    “ลูกชายลูกหญิงของข้ามาแล้ว” ฮ่องเต้ทรงแย้มพระสรวลเมื่อนึงถึงลูกแฝดชายหญิงของจ้าวอ๋องพระอนุชา ซึ่งพระองค์โปรดปรานอย่างยิ่งจึงรับไว้เป็นโอรสและธิดาของพระองค์เอง “พวกเจ้าก็อยู่คุยกันตามสบายเถิด ข้าจะไปที่ตำหนักเสด็จแม่ก่อนจะได้บอกเรื่องของพวกเจ้าให้เสด็จแม่ทรงทราบด้วย” ตรัสจบก็เสด็จจากไปอย่างรวดเร็ว 

    เซียงจื่อรอจนฮ่องเต้และผู้ติดตามเดินห่างออกไปไกลแล้ว นางจึงหันไปเอาเรื่องกับแม่ทัพหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้า

    “เหตุใดท่านจึงไม่ปฏิเสธ บอกไว้ก่อนว่าข้าไม่เคยคิดอยากแต่งงานกับท่าน”

    “พระเมตตาของฝ่าบาทกระหม่อมจะปฏิเสธได้อย่างไร” เว่ยฉางอวี้ตอบด้วยรอยยิ้มน้อยๆ พลางลอบสังเกตว่านางคัดค้านจากใจจริงหรือเพียงแค่แสดงละครตบตาเขากันแน่

    “แต่ท่านคิดว่าข้าขว้างก้อนหินใส่ท่านไม่ใช่หรือ ดังนั้นเราจึงยิ่งไม่ควรแต่งงานกัน”

    “องค์หญิงเข้าใจได้ถูกต้อง กระหม่อมยังเชื่อว่าเป็นฝีมือขององค์หญิง และหนี้ครั้งนี้กระหม่อมจะเก็บคืนในยามส่งตัวเข้าหออย่างแน่นอน” ประโยคท้ายเขายื่นหน้าเข้าไปกระซิบกับนางเพียงสองคน มองดวงตากลมโตคู่งามที่เบิกกว้างอย่างน่าขัน รอยยิ้มเยาะกดลึกที่มุมปาก เมื่อเห็นนางทำหน้าคล้ายอยากจะบีบคอเขาให้ตายคามือ “ผู้เป็นภรรยาไม่ควรคิดร้ายต่อสามี องค์หญิงเคยได้ยินคำสอนนี้หรือไม่”

    “ใครจะเป็นภรรยาท่าน หากยังไม่เข้าพิธีเรื่องนี้ก็ยังไม่แน่นักหรอกท่านแม่ทัพ” เซียงจื่อยิ้มเย็นจนแทบจะเป็นแยกเขี้ยวใส่ พูดกับคนผู้นี้ไปก็ไร้ประโยชน์ นางไปขอร้องให้ไทเฮาช่วยยังจะดีกว่า

    เว่ยฉางอวี้มองตามร่างอ้อนแอ้นที่ก้าวฉับๆ จากไป องค์หญิงเช่นนี้เขาเพิ่งจะเคยพบเป็นครั้งแรก หากที่นางพูดมาจากใจจริง เขาก็อยากจะรู้เหมือนกันว่านางจะทำอย่างไรต่อไป

     **********************

    แม้ไทเฮาจะเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวที่คิดถึง ทว่ากว่าจะได้เข้าเฝ้าก็เป็นยามบ่ายของวันถัดมา ก่อนหน้านี้เหล่านางกำนัลพยายามเกลี้ยกล่อมไม่ให้นางขัดราชโองการของฝ่าบาท พร้อมกับบรรยายสรรพคุณอันล้ำเลิศของเว่ยฉางอวี้ให้นางฟัง ถ้อยคำทั้งหมดนั้นสรุปความได้ว่าบุรุษใต้หล้านอกจากฮ่องเต้แล้วก็มีเพียงแม่ทัพเว่ยที่สตรีต่างหมายปอง นางถือว่ามีบุญวาสนาได้ครองคู่กับเขา สมกันราวกับหยกและไข่มุกอันล้ำค่า หากนางยกเลิกก็เท่ากับฝืนมติสวรรค์ ชาตินี้คงไม่อาจหาสวามีที่เพียบพร้อมเช่นนี้ได้อีก แม้จะไม่เห็นด้วยแต่นางปากเดียวมีหรือจะแย้งเหล่านางกำนัลนับสิบได้ทัน อีกทั้งนางรู้ว่าข้ารับใช้เหล่านี้หวังดีต่อนาง จึงได้แต่ฟังเข้าหูซ้ายทะลุออกหูขวา แล้วรีบมาเข้าเฝ้าไทเฮาทันทีที่ได้รับอนุญาต

    “เซียงจื่อถวายบังคมเสด็จแม่”

    “เซียงจื่อเจ้ามาก็ดีแล้วจะได้มาดูปิ่นหงส์ทองประดับทับทิมที่แม่เตรียมไว้ให้เจ้า ตอนนี้ช่างในกองเย็บปักกำลังตัดชุดบ่าวสาวให้เจ้าและเว่ยฉางอวี้ แม้จะมีเวลาเพียงเดือนเดียวแต่แม่กำชับไปแล้วว่าชุดของเจ้าห้ามมีข้อผิดพลาดอย่างเด็ดขาด เจ้าเป็นลูกสาวคนเดียวของแม่ งานอภิเษกครั้งนี้แม่จะจัดการให้เจ้าอย่างดีที่สุด” ไทเฮาตรัสกับดรุณีน้อยที่พระองค์รักใคร่ประหนึ่งเลือดเนื้อเชื้อไขของตนเอง

    น้ำเสียงอ่อนโยนและแววตาอบอุ่นที่มองมาทำให้เซียงจื่อตื้นตันอยู่ในอก งานแต่งงานมีแม่คอยดูแลเอาใจใส่เช่นนี้ นางดีใจมากจริงๆ และรู้ว่านางจะไม่มีวันได้รับสิ่งเหล่านี้จากแม่แท้ๆ ของตัวเองอย่างแน่นอน สินสอดคงเป็นเรื่องแรกที่แม่จะถามถึง นางมีค่าสำหรับแม่ก็เพียงแค่ช่วยหาเงินเท่านั้น ขอบตาจึงยิ่งร้อนผ่าวเมื่อคิดถึงชีวิตที่ผ่านมา หากไม่ได้มาเข้าร่างขององค์หญิงเซียงจื่อ นางคงไม่ได้สัมผัสความรักจากแม่เช่นนี้ แต่เรื่องแต่งงานนางจะปล่อยเลยตามเลยไม่ได้ จึงต้องรีบดึงสติตนเองกลับมาทำตามความตั้งใจเดิมอีกครั้ง

    “เซียงจื่อรู้ว่าเสด็จแม่ทรงหวังดีและรักใคร่ลูกเพียงไหน แต่ลูกกับกับเว่ยฉางอวี้เพิ่งพบหน้ากันครั้งแรก อีกทั้งเขาก็ไม่ได้รักใคร่ชอบพอลูก เซียงจื่อมิอาจแต่งงานกับท่านแม่ทัพได้จริงๆ เพคะ ขอเสด็จแม่ช่วยเหลือลูกสักครั้ง ยกเลิกงานแต่งงานครั้งนี้ ให้ลูกได้อยู่ปรนนิบัติรับใช้เสด็จแม่ต่อไปเถิดเพคะ” นางคุกเข่าลงต่อหน้าไทเฮาปั้นหน้าโศกเศร้าอาดูรให้รู้ว่าไม่อยากแต่งงานจริงๆ

    “เด็กโง่ ปีนี้เจ้าอายุสิบเจ็ดปีแล้วเรื่องแต่งงานจะช้ากว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว นับแต่โบราณเรื่องคู่ครองของลูกพ่อแม่เป็นคนจัดการให้ สตรีไม่น้อยแต่งงานโดยที่ไม่เคยเห็นหน้าเจ้าบ่าวมาก่อน เว่ยฉางอวี้เป็นบุรุษรูปงามที่หาได้ยาก ตอนที่รู้ว่าเขาน้อมรับราชโองการของฝ่าบาทยอมแต่งงานกับเจ้า แม่แทบไม่เชื่อหูตนเอง กระทั่งฮ่องเต้ยืนยันจึงได้เชื่อว่าเป็นความจริง เจ้าได้แต่งกับบุรุษที่เพียบพร้อมและองอาจเช่นนี้ แม่ยังจะมีอะไรให้ต้องห่วงอีก” ไทเฮาตบที่หลังมือพระธิดาเบาๆ ให้นางคลายความกังวลใจ

    “แต่เสด็จแม่ไม่รู้สึกว่าแปลกพระทัยบ้างหรือเพคะ ก่อนหน้านี้แม่ทัพเว่ยปฏิเสธการแต่งงานมาตลอด เหตุใดจึงยอมรับปากแต่งงานกับลูกอย่างง่ายดาย ลูกคิดว่าเรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำบางอย่างเป็นแน่เพคะ ถ้าอย่างไรสืบหาความจริงเรื่องนี้ให้กระจ่างก่อน หากพบว่าเขาไม่มีเจตนาซ่อนเร้นค่อยจัดงานแต่งงานก็ยังไม่สายนะเพคะ” นางหว่านล้อมต่อ คิดไปคิดมาคนแซ่เว่ยนั่นก็น่าสงสัยจริงๆ

    ไทเฮาทรงสดับอย่างรู้ทันว่าสาวน้อยผู้นี้ต้องการถ่วงเวลา สีพระพักตร์จึงเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้น “เซียงจื่อเจ้ารู้หรือไม่ว่าเว่ยฉางอวี้เป็นแม่ทัพใหญ่ของฝ่าบาท ทั้งยังเป็นสหายสนิทที่ฝ่าบาททรงไว้พระทัยเป็นที่สุด ทหารในเมืองหลวงทั้งหมดฝ่าบาททรงให้ขึ้นตรงกับจ้าวอ๋อง แต่หลังพ้นประตูเมืองออกไปล้วนรับคำสั่งจากแม่ทัพเว่ยทั้งสิ้น แม้เว่ยฉางอวี้จะจงรักภักดีมาโดยตลอด แต่ใจคนลึกล้ำยิ่งกว่ามหาสมุทร ยิ่งเว่ยฉางอวี้มีอำนาจก็ยิ่งมีเหล่าขุนนางเข้าหาคิดดึงเขาเป็นพวก ฝ่าบาทเกรงว่าเขาจะมีใจออกห่างจากราชสำนัก ดังนั้นจึงคิดจะใช้สมรสพระราชทานผูกมัดใจเขาไว้ไม่ให้แปรเปลี่ยนเป็นอื่น แต่ก็อย่างที่เจ้ารู้เขาปฏิเสธเรื่อยมา ทำให้ฝ่าบาทยิ่งรู้สึกระแวงในตัวเขามากขึ้นทุกวัน”

    “เสด็จแม่ทรงหมายความว่า...” ดูท่าว่านี่จะไม่ใช่การแต่งงานธรรมดาเสียแล้ว

    “ถูกต้อง หน้าที่ของเจ้าคือทำให้เขาภักดีต่อราชสำนัก หากเว่ยฉางอวี้มีใจคิดเป็นอื่นโทษของเขาก็คือประหารเก้าชั่วโคตร เซียงจื่อเจ้าถือเป็นราชนิกุลแม้จะเป็นสตรีก็มีหน้าที่ต่อราชวงศ์ เจ้าเป็นคนฉลาดจะต้องรู้ดีว่าตนเองควรทำอย่างไร”

    เซียงจื่อกลืนน้ำลายลงคอ สายพระเนตรที่เต็มเปี่ยมไปด้วยแรงกดดันมหาศาลกำลังทำให้สองบ่าของนางหนักอึ้ง ใครจะรู้ว่าใจของเว่ยฉางอวี้คิดอย่างไร หากเขาสมคบกับเหล่าขุนนางทำการก่อกบฏ ถึงวันนั้นนางมิต้องรับโทษประหารไปด้วยหรือ งานอภิเษกครั้งนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ให้เกิดขึ้นไม่ได้อย่างเด็ดขาด

    ฝากติดตามด้วยน้า

    ฝากอีบุ๊กเล่มอื่นของไรท์ด้วยจร้า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×