ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    <==Ficหัวขโมยแห่งบารามอส==>>ตอน นักเรียนใหม่ทำปวดหมอง

    ลำดับตอนที่ #10 : ความสามารถ & ความลับที่รู้กันได้แค่4คน

    • อัปเดตล่าสุด 28 มี.ค. 48




         ตอนนี้เจ้าชายคนสำคัญแห่งคาโนวาลและนักฆ่าอยู่กันตามลำพัง2คนแล้ว หลังจากโดนฝาแฝดติดตามทำให้ต้องระมัดระวังเป็นอย่างมากได้ผ่อนคลายซะที โดยไม่มีเจ้าหัวขโมยตัวยุ่งมาบ่นโน่นบ่นนี่ให้หูไม่ได้พักเหมือนอย่างเคย



         \"นายถามมาเรียบร้อยใช่มั้ย\" เสียงเย็นชาของเจ้าชายน้ำแข็ง ส่งไปหาเพื่อนนักฆ่าที่เพิ่งเดินฮัมเพลงออกมาจากห้องน้ำอย่างอารมณ์ดี



         \"อ้อ เรื่องนั้นน่ะหรอ อยู่แล้วได้ครบถ้วนแต่เดี๋ยวค่อยบอกดีกว่ามั้ง\" เพื่อนสนิทมนุษย์สัมพันธ์ดีที่ตีสนิทกับคนอื่นได้ไปทั่ว ยิ้มอย่างอารมณ์ดีไม่ฝืด แล้วเดินไปที่เตียงนอนของตัวเอง



         \"นี่นายยังมีกระจิดกระใจจะนอนอีกหรอ ไม่คิดว่าฝาแฝดสองคนนั่นน่าสงสัยบ้างหรือไง\" คาโลพูดหน้าตาคร่ำเคร่งมากกว่าเก่า แต่คู่ที่สนทนาด้วยกลับไม่เป็นอย่างงั้นเลย

         \"อ่ะโด่ ฉันก็นึกว่านายห่วงอะไรอยู่ได้ตั้งนาน ที่แท้ก็ห่วงเรื่องแค่นี้เอง ไม่ต้องห่วงหรอกน่าฉันถามได้ข้อมูลมาเยอะเหมือนกัน... งั้นสรุปว่าพวกนั้นไม่ใช่ศัตรูของเราละกัน\" คิลพูดแบบเหมือกำลังคุยเรื่องตลกอยู่ ยิ้มไม่หุบจะเรียกว่าบานเป็นจานเชิงก็ว่าได้



         \"นายไปรู้อะไรดีดีมาหรือไง ถึงยิ้มไม่หุบแบบนี้\" คาโลพูดจนได้หลังจากดูอาการน่าเป็นห่วงที่เพื่อนนักฆ่าท่าทางแปลกๆเหมือนจะเป็นบ้า หรือมันจะเป็นบ้าไปแล้ววะ



         \"นี่นายไม่รู้จริงๆหรือไงว่าฉันคิดอะไรน่ะคาโล\" นักฆ่าเริ่มติดโรคกวนประสาทมาจากหัวขโมยตัวแสบที่คิดว่าตอนนี้มันยังโซ้ยอาหารเช้าไม่หยุดอยู่ที่โรงอาหาร ซึ่งไม่รู้เจ้าตัวแพร่เชื้อกวนประสาทมันกระโดดมาติดตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำให้โรคกวนประสาทมีผู้ติดเพิ่มไปอีก1



         \"ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่านายคิดอะไรอยู่เพราะฉันไม่ใช่นาย\" สงสัยตัวแพร่เชื้อกวนประสาทจะทำงานกันอย่างสมบูรณ์ไม่มีที่ติ โรคกวนประสาทจึงติดกันครบทุกคนที่อยู่ในห้องหัวหน้าป้อมติดกันงอมแงม จนขนาดภูมิต้านทานของเจ้าชายน้ำแข็งยังต้านทานไม่ไหว ติดกับเขาไปด้วย



         \"เข้าใจพูดขึ้นนี่ เอาเป็นว่าฉันไม่เล่าละกันให้เจ้าตัวเขาเล่าเอง\" พูดเสร็จก็เดินไปที่ประตูแล้วเปิดออกเผยให้เห็นร่างของแขกรับเชิญยืนอยู่หน้าห้อง2คน



         \"เฮ้คิล นายรู้ได้ไงอ่ะว่าเรายืนอยู่ตรงนี้อุตส่าห์ซ่อนจิตแล้วนา\" พี่ชายฝาแฝดซึ่งตอนนี้อยู่ในร่างที่อารมณ์ดีขี้เล่นผมสีดำสนิทไม่มีเค้าของความเป็นฝาแฝดกับน้องสาวฝาแฝดเลยซักนิด เป็นคนพูดขึ้นด้วยท่าทางประหลาดใจที่ไม่เคยมีใครจับจิตที่พวกเขาต้องการซ่อนไว้ได้เลยซักคนเดียว แต่นักฆ่าคนนี้กลับจับพวกเขาได้อย่างง่ายดาย



         \"เอาเป็นว่าฉันใช้เซนต์ของฉันน่ะ แต่นายก็น่าจะได้ฝึกเพิ่มหน่อยก็ดีนะฉันก็คิดว่านายคงไม่ได้ฝีมือห่วยขนาดนี้แค่ประมาท หรือไม่ก็ฝีมือตกก็เท่านั้น แล้วก็อีกอย่างที่ฉันอยากให้นายไปฝึกเพิ่มเพราะว่าฉันรู้สึกรำคาญมากเลยที่มีคนมาฟังเรื่องที่ฉันต้องการจะคุยกันแค่2คนอยู่นอกห้องแถมยังเป็นหน้าห้องอีก\" คิลบอกอย่างรำคาญแล้วก็กลับมาอารมณ์ดีเหมือนเดิม ถึงตอนนี้คาโลได้ถึงบางอ้อแล้วว่าทำไมคิลถึงบอกว่าค่อยบอกทีหลังดีกว่า



         ทั้ง2คนเดินตามคิลเข้ามาในห้องแล้วแค็ทก็ปิดประตูตามหลัง ฝาแฝดกับคิลนั่งลงบนพื้นห้องเป็นวงแล้วก็เรียกคาโลให้ลงมานั่งด้วย



         \"สรุปว่าเธอรู้ว่าเราอยู่หน้าห้องนี้ตั้งแต่ตอนนั้นงั้นเหรอ\" คราวนี้เป็นเสียงของแค็ทน้องสาวฝาแฝดผู้มีผมยาวสลวยสีฟ้าน้ำทะเล ซึ่งตอนนี้เจ้าตัวได้มัดขึ้นมาให้เป็นแกระ2ข้างดูน่ารักไปอีกแบบพูดขึ้น นัยน์ตาสัเขียวอ่อนไหวระริกด้วยความอยากรู้อยากเห็นในความสามารถของคิล



         \"อืม ก็ประมาณนั้นแหละ อาจจะก่อนหน้านั้นนิดหน่อยก็ตั้งแต่ออกมาจากห้องน้ำแล้ว\" คิลบอกแค็ท แล้วพูดต่อว่า \"งั้นเริ่มเรื่องกันดีกว่า คาโลนายอยากรู้อะไรก็ถามคิดกับแค็ทละกันนะ ฉันขี้เกียจเล่า\" พูดเสร็จก็เดินไปขึ้นเตียงแล้วคลุมโปงทั้งที่ยังกลางวันแสกๆอยู่



         \"........\"



         \"........\"



         \"คาโล...คือจะถามอะไรพวกเราล่ะ\" คิดพยายามทำให้ความเงียบหลังจากคิลคลุมโปงไปแล้วหายไป แต่ก็กล้าๆกลัวๆนิดๆที่เห็นสายตาเย็นชาถูกส่งมาหาเมื่อเขาพูดชื่อคาโล



         \"ฉันอยากรู้ความสามารถของพวกนาย ฉันคิดว่าความสามารถของพวกนายมันแปลกๆถึงเท่าที่ได้ยินมาว่าเป็นหนึ่งในวิชานินจาก็เถอะแต่ถึงยังไงฉันก็คิดว่ามันน่าจะมีอะไรนอกจากวิชานินจาที่พวกนายบอก\"



         \"ก็ถามได้ดีนะเพื่อน นายเดาถูกพวกเราโดนคำสาปหรืออาจจะเรียกว่าเป็นมนต์ดำอะไรสักอย่างซึ่งตอนนี้เราก็ยังหาคำตอบไม่ได้ว่ามันเป็นคำสาปหรือมนต์ดำชนิดไหน\" คิดหยุดหายใจก่อนแปปนึงแล้วพูดต่อ \"ฉันกับแค็ทเราโดนกันทั้งคู่ แต่เราโดนไม่เหมือนกันสำหรับฉันน่ะมันทำให้ฉันเปลี่ยนร่างได้แล้วการเปลี่ยนร่างมันต้องอาศัยความรู้สึกอะไรประมาณนั้น ถ้าเป็นความรู้สึกที่เรียบง่ายฉันก็จะเป็นฉันคนเดิมที่นายเห็นตอนพวกเราตามนายไป ส่วนถ้าเมื่อฉันนึกสนุกเป็นช่วงที่มีความสุขอยู่กับคนหลายๆคนฉันก็จะเป็นเหมือนตอนนี้แต่ว่าจิตใจก็ยังเหมือนเดิมแต่บุคลิกจะไม่เหมือนกัน แล้วถ้าเป็นเรื่องความสามารถจริงๆไอ้มนต์ดำนี่ก็มีประโยชน์เหมือนกัน มันทำให้มีความสามารถดีขึ้นไปกว่าเดิมพลังเวทก็จะมีมากขึ้นแต่ถ้าเป็นช่วงที่อยู่ในร่างจริงมันจะดึงพลังออกมาได้มากกว่าในร่างนี้ในทางเวท แต่ถ้าเป็นความเร็วต้องยกให้ร่างนี้เป็นหลัก..\"



         \"พี่คิดขอบอกความสามารถของฉันเองได้มั้ย\" แค็ทถามเมื่อคิดดูท่าอยากจะเล่าความสามารถของน้องสาวด้วย



         \"ก็ได้ ขัดใจฉันจังนะ\" คิดพูด



         \"ก็เอาเป็นว่าฉันจะเล่าความสามารถของฉันให้ฟังเองละกันนะ คือว่าฉันน่ะไม่น่าจะเรียกว่าคำสาปเท่าไหร่ มีสิ่งนึงที่มันกระจายอยู่ทั่วร่างกายที่ฉันไปสืบเสาะมา ทางการแพทย์เค้าเรียกว่านาโนแมชชีนมันสามารถทำให้ร่างกายเปลี่ยนรูปร่างได้ตามจิตนาการความคิดของฉันไม่ว่าจะส่วนไหนก็ตาม\" แค็ทพูดแล้วสภาพนิ้วที่ชี้ขึ้นมาจากมือข้างซ้ายกลายสภาพเป็นมีดอลูมิเนียม \"แต่ความสามารถนี้ก็มีโทษเช่นเดียวกับประโยชน์คือถ้าฉันใช้งานมันมากไปกว่า10นาทีล่ะก็ร่างกายฉันจะทนไม่ไหวจนต้องนอนพักเป็นเดือนๆเลย หรือถ้าร่างกายรับไม่ไหวมากๆเข้าก็อาจจะถึงตายได้ฉันจึงต้องใช้มันอย่างระมัดระวังมาก\"



         พอแค็ทอธิบายจบก็ทำให้คาโลอึ้งเพราะ ทั้งที่อ่านหนังสือต่างๆมามากมายแต่ไม่เคยอ่านเจอสิ่งที่แค็ทบอกว่าในทางการแพทย์เรียกว่านาโนแมชชีนเลยสักครั้งและไม่เคยรู้เลยว่าในโลกนี้จะมีสิ่งที่ทำให้เกิดความสามารถอย่างนี้ได้



         \"ความสามารถของพวกฉันสนุกมั้ยล่ะ\" คิดเห็นท่าทีของคาโลคิ้วขมวดพันกันเป็นโบว์ แล้วอยากจะหัวเราะออกมาดังๆ



         \"ก็เกินความคิดของฉันไปหน่อยนึง\" คาโลบอกแล้วก็กลับมาสวมหน้ากากฟาร์โรต่อเหมือนเดิม



         \"แล้วจะมีอะไรถามพวกฉันอีกมั้ย\" คิดถามอีกรอบ



         \"อืม อีกเรื่องที่ฉันยังสงสัยอยู่ก็คือ ทำไมตอนที่พวกนายอยู่ที่ห้องประชุมต้องมองฉันตลอดด้วย รวมทั้งตอนที่ตามพวงเรามา คิลอาจจะรู้สึกว่ามีคนตามมาจากประสาทรับฟังเสียงพิเศษของมัน แต่ฉันรู้สึกว่าพวกนายจ้องฉันอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ จ้องซะจนน่ารำคาญ ฉันมีอะไรที่ทำให้ต้องมองขนาดนั้น\"  คาโลบอกข้อสงสัยข้อที่2



         \"คือว่า...\" คิดกำลังจะตอบแต่แค็ทเอามือมาแตะไหล่เขา แล้วพูดต่อ \'ไอน้องตัวดีนี่มันจะแย่งเราพูดไปถึงไหนนะ\'



         \"คือว่านะคะคาโล ที่พวกเราทองคาจัง เอ่อโทษที ที่พวกเรามองคาโลก็เพราะว่าพวกเราสนใจคาโล แล้วความจริงน่ะคาจังลองนึกให้ออกสิว่าพวกเราน่ะเป็นเพื่อนสมัยเด็กของคาจังไงล่ะ ที่วังที่คาโนวาลน่ะเมื่อสมัยก่อนเราเคยเล่นด้วยกันเพราะฉันกับคิดเป็นญาติห่างๆของแม่นมของคาจัง เลยได้ตามมาเล่นกับคาจังบ่อยๆที่ลานหลังวังที่มีทะเลสาบเล็กๆอยู่น่ะ เมื่อก่อนคาจังเป็นคนสนุกมากเลยนะร่าเริงน่ารักมากเลย จำได้มั้ย พวกเรายังเคยถูกคนในวังรวมถึงปะป๊าของคาจังเรียกว่า\'สามสหาย ค\' เลยนะ\" พอถึงตอนนี้คาโลทำหน้าเหมือนจะนึกอะไรได้แค็ทเลยหยุดเล่า



         \"อืม อย่างนี้นี่เอง เธอก็คือแค็ทคนนั้นสินะ\" แค็ทพยักหน้า หงึก หงึก \"แต่เมื่อก่อนเธอไว้ผมสั้นนี่ไม่แปลกที่ฉันจะจำไม่ได้ หน้าเธอเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ\" เริ่มมีรอยยิ้มผุดออกมาจากหน้าคาโลมากขึ้นเรื่อยๆ วิชาหน้ากากฟาร์โรก็เลยต้องหมดสภาพเมื่อนึกเรื่องเมื่อสมัยยังเด็กที่สนุกกันอยู่3คน มีเรื่องต่างๆหลุดออกมาจากปากเรื่อยๆ ทำให้ได้เห็นคาโลในแบบที่เฟรินกับคิลไม่เคยได้เห็น สนุกสนาน หน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เหมือนเด็กๆ



         \"นี่พวกเรื่องนี้ฉันขออะไรอย่างได้มะ\" คิลเก็บผ้าห่มที่ใช้คลุมโปงหลังจากฟังพวกสามสหาย ค คุยกันอยู่พักใหญ่แล้วลุกมาจากที่นอน



         \"ฉันขอให้พวกนายน่ะ อย่าบอกเรื่องที่พวกนายเป็นเพื่อนสมัยเด็กกับคาโลให้เฟรินรู้ได้มั้ย เดี๋ยวมันจะเป็นเรื่อง ให้เรารู้กันแค่4คนก็พอ\" คิลบอก



         \"เป็นเรื่องอะไรเหรอ ทำไมถึงเป็นเรื่องล่ะ\" แค็ทถามออกมาตรงๆไม่อ้อมค้อม



         \"เอาเป็นว่าไม่ต้องบอกมันละกัน\" คราวนี้คาโลพูดบ้าง ถึงแค็ทจะไม่ค่อยเข้าใจแต่ก็ต้องทำตามนั้นเพราะดูท่าคาโลจริงจังมากกลับมาเป็นน้ำแข็งเดินได้เหมือนเดิมแล้ว ทำให้แค็ทฉุกใจคิดขึ้นมาว่า\'คนที่ชื่อเฟรินคนนี้สำคัญมากขนาดนั้นเชียวหรอ\'



    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



    มาต่อให้จบตอนแล้วนะคะ รู้สึกว่าตอนนี้บทพูดจะยาวมากบรรยายไม่ค่อยถนัดอาจจะไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ก็ขอโทษด้วยนะคะ



    เราก็ไม่รู้ว่าจะอ่านแล้วจะรู้เรื่องรึปล่าว ก็ช่วยเมนต์ให้หน่อยนะคะ จะได้เอามาดูจุดบกพร่องของตัวเองจะได้ปั๊ดทะนาขึ้น



    จะด่าจะติอะไรก็ได้ตามใจชอบ หรือจะชมด้วยก็ดีนะคะจะได้มีกำลังใจมาอัพต่อเร็วๆ ช่วงนี้ไม่ค่อยว่างก็ขอโทษด้วยนะคะที่ไม่



    ได้มาอัพหรืออัพทีละนิดน่ะค่ะ ถ้าเป็นไปได้ก็ช่วยโหวตให้ด้วยนะคะ แล้วจะพยายามมาอัพค่ะ



    แล้วก็ฝากอ่านฟิคของเราตอนต่อไปด้วยนะคะ ขอบคุณทุกคนที่อ่านของเราค่ะ(^-^)*







        
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×