ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    I [C] U

    ลำดับตอนที่ #1 : [ ทำนองผีเสื้อ ] : ตอนแรก

    • อัปเดตล่าสุด 21 ก.พ. 53


     

    [  ทำนองผีเสื้อ  ]

     

     

     

                แฟรงก์ลอบถอนใจโดยไม่ให้มารดาจับได้  แต่เห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้

                ทำไมถึงทำตัวน่าเบื่ออย่างนี้หนอลูกสาวฉัน  พาไปเที่ยวก็ร้องจะกลับบ้าน  ชวนออกมาช้อปปิ้งก็ทำหน้าเบื่อโลกเสียนี่ แฟรงก์ไหวไหล่เบาๆ ไม่ตอบโต้ เพราะนึกรู้ว่ามารดาตนนั้นแข็งแกร่งปานใด  เถียงไปก็เท่านั้น...

                อย่ามาเถียงด้วยสายตานะแฟรงกี้

                แม่!” แฟรงก์โอด อย่าเรียกหนูแบบนั้นซี่  ฟังอย่างกับพวกแยงกี้

                ใครจะทำไมล่ะ  ชื่อลูกฉัน  ฉันอยากจะเรียกยังไงก็ได้  ถ้ามีปัญหานักก็ลาออกจากตระกูลไปเลยเป็นไง

                โอย  แม่...เรียกหนูว่า แฟรงก์ ก็พอ ไม่ต้องลากเอาตระกูลเหง้าผู้ดีอะไรของแม่มาเกี่ยวหรอก มันก็แค่...อ๊ะแฟรงก์ดึงมารดาให้หยุดเดินเพื่อให้คนอื่นเบียดแซงขึ้นไปก่อน เธอกับแม่ไม่ได้จะรีบไปไหนนี่นา    

                ผู้ชายสองคนที่เพิ่งเดินผ่านเธอไป  คนหนึ่งสวมแจ็กเก็ตยีนส์  อีกคนสวมเสื้อยืดคอปกสีครีมและเขาเหลียวมาขอโทษเมื่อชนแม่ของเธอเข้า แม่ไม่นึกติดใจอะไร   

                เราย้อนกลับไปดูรองเท้าร้านเมื่อกี้หน่อยได้ไหมแม่ หนูอยากได้รองเท้าที่เขาโชว์หน้าร้าน จู่แฟรงก์ก็นึกอยากชวนขึ้นมา

                ไปดูร้านข้างหน้าก็ได้  แม่มาดูคราวที่แล้วเขามีแบบเหมือนๆ กัน แต่ถูกกว่าตั้งเยอะ แม่ผู้ไม่สนอะไร นอกจากความต้องการของตนและสินค้าราคาถูกขยับจะเดิน  แต่ลูกสาวที่อ่อนวัยกว่าย่อมมีพละกำลังมากกว่า

    พฤติกรรมลากมารดานั้นไม่เคยทำมาก่อน... แฟรงก์หาญกล้าลองเป็นครั้งแรก

    นะแม่  น้า... หนูอยากได้คู่นั้นจริงๆ

     

     

    ท่ามกลางผู้คนจำนวนมากที่กำลังจับจ่ายซื้อของในวันหยุดสุดสัปดาห์  ชายคนหนึ่งกลับพกของมีคมติดตัวมา  ไม่ว่าจะเพื่ออะไรก็ตาม ตอนนี้มันได้กลายเป็นอาวุธประหัตประหารใครก็ตามที่ทำให้เขาไม่พอใจ  โชคดี...มีคนที่เขาขัดใจแค่คนเดียวเท่านั้น

    เขาจะควักหัวใจมันออกมาดูให้รู้กันไปเลยว่ามันเป็นคนแบบไหน

    เหอะ ไอ้คนสกปรก  หัวใจแกก็ต้องสกปรกเหมือนพฤติกรรมของแกนั่นแหละ!

    อย่าทำนะ!”

     

     

                แฟรงก์รู้สึกตัวเพราะแรงบีบและเสียงเรียกของแม่  ในตอนแรกเธอไม่เข้าใจ  หากวินาทีที่เห็นสายตางุนงงของแม่และคนรอบๆ บริเวณ เธอก็เริ่มเข้าใจอะไรได้รางๆ

                ไม่มีอะไรเกิดขึ้น  มีแต่เธอมีผิดปกติไป

                เป็นอะไรแฟรงกี้  ตะโกนเสียงดังเชียว แม่ห่วงใย  แฟรงก์ลูบหน้า

                เอ้อ  ไม่มีนี่แม่  หนูแค่เผลอตัวไปหน่อย

                อยากได้รองเท้าร้านนั้นจริงๆ เหรอ แม่เข้าใจไปทางนั้น ...ดีแล้ว  เธอพยักหน้า  งั้นไปเอากัน!” แม่แสดงความใจกว้างอย่างที่แฟรงก์รู้ว่าแม่ไม่ค่อยจะมีมากนัก 

    ...แม่กำลังกังวล

    ขอสองคู่นะแม่ เธอพยายามทำเสียงประจบสดใส

     

     

    แฟรงก์จูบแก้มบิดาที่นั่งตรงตำแหน่งหัวโต๊ะเบาๆ อรุณสวัสดิ์ค่ะพ่อ  แม่ล่ะคะ?

    ออกไปตั้งแต่เช้ามืด  แฟรงก์พยักหน้าหงึกๆ นึกขึ้นได้ทันทีว่าแม่มีโปรแกรมท่องเที่ยวกับเพื่อนสมัยเรียนกว่าจะกลับก็อีกหลายวัน  ทิ้งให้ลูกสาวกับสามีอยู่บ้านกันสองคน  โดยที่ไม่มีใครในสองคนนี้มีความสามารถในการดูแลบ้านได้สักคน 

    แล้วเย็นนี้เราจะทำไงกันดีพ่อ เธอเริ่มสงสัยในอนาคตของตัวเอง

    กินข้าวนอกบ้านไหม  หรือจะสั่งร้านมาส่งที่บ้านก็ได้ล่ะมั้ง  เห็นแม่เขาวางหนังสือแนะนำร้านอาหารส่งตามบ้านไว้ข้างโทรศัพท์แน่ะ แฟรงก์เห็นว่าพ่อกำลังอ่านหนังสือพิมพ์อยู่  และไม่น่าจะสนใจรายการข่าวในทีวี

    แฟรงก์กำลังจะเปลี่ยนช่องหนีรายการคุยข่าว ตอนที่มีรูปชายคนหนึ่งปรากฏขึ้นด้านบนของจอพอดี

     

     

    เมื่อเช้านี้เองค่ะ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีศพชายไม่ทราบชื่อที่สวนสาธารณะจัตุรัสปาร์ค  สภาพศพหน้าอกด้านซ้ายถูกเปิดด้วยของมีคมจนมองเห็น หัวใจ ซึ่งพบว่ามีบาดแผลฉกรรจ์ที่เกิดจากของมีคม ตอนนี้ยังตรวจสอบไม่ได้ว่าผู้ตายเป็นใคร  อืม อาจารย์คิดว่ายังไงคะกับข่าวนี้

    ถึงจะแค้นกันมากขนาดไหนแต่คนที่ทำแบบนี้ จับตัวได้คงต้องส่งจิตเวชก่อนเลยล่ะครับ ฮ่าๆ

    จัตุรัสปาร์ค แถวนั้นเป็นย่านที่อยู่อาศัยเสียด้วยนะคะ  ก็คงต้องขอให้ตำรวจจับตัวคนร้ายได้เร็วๆ ไม่อย่างนั้นชาวบ้านคงอกสั่นขวัญแขวนตลอด แหม บ้านดิฉันก็อยู่แถวนั้นด้วยสิคะ

     

     

    ได้ดูข่าวเมื่อเช้าหรือเปล่า ทีน่าปราดเข้ามาทันทีที่เห็นแฟรงก์เปิดประตูห้องเรียน

    ดู แฟรงก์ตอบสั้นๆ กล้ำกลืนอาการพะอืดพะอม

    น่ากลัวเป็นบ้า  คนทำต้องจิตไม่ปกติแหง  แฟรงก์ไม่แน่ใจว่าต้องตอบรับหรือปฏิเสธอะไรเพื่อนหรือไม่  เธอทำได้แค่เดินเซๆ ไปที่โต๊ะของตัวเอง

    ทีน่าล่ะก็... ไปพูดอย่างนั้นแฟรงก์ก็ใจไม่ดีน่ะสิ บ้านแฟรงก์ต้องเดินผ่านสวนสาธารณะนั่นด้วยนะ

    เออ จริง ทีน่าเพิ่งนึกออก และรู้แล้วว่าทำไมแฟรงก์ถึงได้มีท่าทางแปลกๆ อย่าบอกนะว่าเมื่อเช้ามาทางนั้น

    แล้วจะให้ฉันใช้ทางไหนล่ะ แฟรงก์พูดไปขนลุกไป  เมื่อนึกย้อนถึงตอนที่เธอต้องเดินผ่านสวนสาธารณะสถานที่เกิดเหตุฆาตกรรมสะเทือนขวัญ  นอกจากประเด็นที่ว่าเธอต้องใช้เส้นทางนั้นเพื่อมาโรงเรียนทุกวันแล้ว ระยะทางระหว่างบ้านกับสวนสาธารณะก็ใกล้กันเหลือเกิน  แค่ระยะเดินไม่ถึงสิบนาที  แถมยังมองเห็นได้จากหน้าต่างห้องนอนของเธออีกต่างหาก

    ฉันกลัว แฟรงก์หลุดคำในใจออกมา 

    เป็นฉันก็กลัวเหมือนกัน ทีน่าเข้าใจ

    แต่พ่อฉันไม่เห็นบอกอะไรเป็นพิเศษเลยนะ คนพูดเป็นลูกสาวนายตำรวจรับผิดชอบพื้นที่ละแวกนี้ ยามที่มีเหตุการณ์ไม่ปกติเขามักจะฝากคำเตือนมาถึงเพื่อนๆ ของลูกสาวเสมอ เพราะฉะนั้นการที่เขาไม่กำชับอะไรเป็นพิเศษก็ไม่น่ากังวลมากเท่าไหร่

    เออ หลุยส์  ฉันฝากให้พ่อแกดูนี่ให้หน่อยสิ ทีน่าหยิบจดหมายฉบับหนึ่งออกจากกระเป๋า ฉันเจอมันในกล่องรับจดหมายหลายวันแล้ว

    จดหมายไม่ได้ถูกเขียนด้วยลายมือ แต่เกิดจากการตัดตัวอักษรตามหนังสือพิมพ์หรือนิตยสารมาประสมกันจนเป็นคำ

     

     

    ผีเสื้อเอ๋ย หากไม่มีปีกเสียแล้ว

    เจ้าจะเป็นอย่างไรหนอ

     

     

    แกโดนสตอล์กเรอะเนี่ย เธอเห็นหลุยส์ลูบแขน ไม่ปิดบังอาการขยะแขยงเลยสักนิด

    ไม่รู้เหมือนกัน แกอย่าทำท่าขนลุกได้ไหม! ฉันยิ่งใจคอไม่ค่อยดีอยู่ วันนี้พ่อกับแม่ไม่อยู่บ้านอีกต่างหาก 

    อื๋อ  แกกับน้องก็เป็นผู้หญิงเสียด้วยสิ  งั้นเดี๋ยวฉันโทรศัพท์ไปบอกพ่อไว้ก่อน ให้ตำรวจป้อมแถวนั้นแวะไปดูบ้านแกหน่อยดีไหม  หลุยส์หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา

    ต้องแจ้งความไหม

    แจ้งสิแก ให้ตำรวจลงบันทึกประจำวันไว้

    แฟรงก์รู้สึกแปลกใจ

    แกไม่อยากแจ้งความเหรอ หลุยส์ที่กำลังกดโทรศัพท์เงยหน้าขึ้นมองเธอกับทีน่า

    ไม่อยากเรอะ?  ทำไมล่ะ

    ทีน่ากลอกตาก่อนถอนใจ

    ไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่

    เออ แปลกคน หลุยส์ว่า แต่จะให้ฉันเอาไอ้นี่ไปให้พ่อดูเนี่ยนะ  เชื่อเหอะ พ่อฉันต้องแนะนำให้แกแจ้งความแน่นอน  ดีไม่ดีรับแจ้งความเองเลย  เอ...แต่ก็ไม่แน่แหะ  พ่อคงยุ่งๆ กับคดีใหม่ 

    ถ้าไม่แจ้งความแล้วจะทำยังไง ถ้าเกิดคนส่งจดหมายคิดร้ายขึ้นมา มันน่ากลัวนะ แค่แฟรงก์คิดว่าตัวเองเป็นคนได้รับจดหมายแบบนี้คงวิ่งโร่ฟ้องแม่ไปแล้ว ดีไม่ดีพาลกลัวจนประสาทเสียไปเลยด้วยซ้ำ

    ยังไม่มีใครคิดออกว่าจะทำอย่างไรต่อไปหากไม่แจ้งความกับตำรวจ ออดคาบเรียนแรกก็ดังขึ้นเสียก่อน  พวกเธอจึงต้องแยกย้ายไปนั่งประจำที่  ที่นั่งของแฟรงก์อยู่แถวริมหน้าต่าง

    อืม... ลมเย็นๆ แดดอ่อนๆ

    แกหลับอีกแล้วนะ ทีน่าเหล่  แฟรงก์ยักไหล่แล้วย้อน

    ตอนแกนั่งริมหน้าต่างแกก็หลับ แถมยังกรนด้วย

    เลขมันน่าเบื่อนี่

    อือ  ภาษาอังกฤษก็น่าเบื่อเหมือนกัน

    เธอกับทีน่าถอนหายใจเฮือก  โชคร้ายที่สองวิชาที่ว่านั้นพวกเธอมีชั่วโมงเรียนทุกวัน

    ฉันรู้แล้วล่ะ หลุยส์ยิ้มกริ่มหลังจากได้คุยโทรศัพท์กับแฟนหนุ่มซึ่งเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย

    ฉันก็เห็นแล้วล่ะว่าหน้าแกมันบานน่าเกลียดจริงๆ ทีน่าแขวะ

    ชิ  ผู้หญิงนิสัยไม่ดี  เดี๋ยวก็ปล่อยให้ถูกสตอล์กเกอร์ตามจนแก่ซะหรอก  ฉันอุตส่าห์หาวิธีช่วยแกโดยไม่ต้องเพิ่งตำรวจได้แล้วแท้ๆ

    จริง?  วิธีอะไร 

     

     

    แฟรงก์มาถึงบ้านทีน่าตอนเกือบหกโมงเย็น  เวลาเดียวกับเทล่า...น้องสาวทีน่า กลับจากโรงเรียนพอดี

    กวดวิชาเป็นยังไงบ้าง เธอจำได้ว่าทีน่าเคยบอกว่าเทล่ากำลังเตรียมตัวสอบเข้ามัธยมปลาย  เห็นว่าลงเรียนกวดวิชาไว้หลายที่ทีเดียว

    ก็งั้นๆ แฟรงก์หัวเราะ

    แสดงว่าเทล่าเก่งล่ะสิ เธอน่าจะสังเกตอีกฝ่ายสักนิดก่อนจะพูดอะไรออกไป 

    ไม่รู้อะไรก็อย่าพูดได้ไหม!”

    เทล่า?

    ทีน่าเปิดประตู  มองมาทางเธอกับเทล่างงๆ แฟรงก์ เข้ามาสิ  เทล่า ทำไมกลับมาเร็วจัง 

    เทล่าไม่ตอบคำถาม ทั้งยังไม่ยอมมองหน้าใครสักคน  กระทั่งหลุยส์ก็ยังถูกเมิน

    น้องแกเป็นอะไรน่ะ เดินคอแข็งเชียว ไอ้เราก็อุตส่าห์วางแผนว่าจะมาเล่นเกมส์ด้วยแท้ๆ ดูนี่สิ  รอยัล ดาร์ค เพิ่งออกอาทิตย์ที่แล้วเองหลุยส์บ่น  ทีน่าตบหลังแฟรงก์เบาๆ

    โดนน้องฉันเหวี่ยงล่ะสิ

    ฉันคงพูดอะไรไม่ถูกใจเทล่า 

    โอ๊ย... ตอนนี้ยายนั่นคงไม่พอใจคนทั้งโลกแล้วมั้ง  ทีน่าไม่เห็นเป็นเรื่องเดือดร้อน

    เฮ่ย  จะจริงเรอะ หลุยส์ค้าน เจอกันตอนนู้นยังเฮไหนเฮนั่นด้วยกันเลย

    ตอนนู้นของแกน่ะ มันตอนไหนล่ะ

    ไม่นานหรอก  ปีที่แล้วเอง           ซึ่งมันก็หลายเดือนมากแล้ว อีกอย่างตอนนั้นเทล่ายังเป็นเพียงนักเรียน ม.2 ไม่ใช่นักเรียน ม.3 ที่ต้องสอบเข้าเรียนต่อในชั้นมัธยมปลาย

    เทล่าไม่สบายใจเรื่องอะไรหรือเปล่า  หรือว่ากดดันเรื่องสอบ ทีน่าพยักหน้าหงึกหงักก็จริงแต่สิ่งที่พูดกลับแสดงความไม่แน่ใจ

    คงมีส่วนแหละ แต่ฉันว่ามีเรื่องอื่นด้วยแต่ก็นึกไม่ออกเหมือนกัน

    ฉันไม่น่าพูดแบบนั้นออกไปเลย แฟรงก์รู้สึกไม่ดีเลย 

    แกพูดอะไรล่ะ

    ฉันถามเทล่าว่าโรงเรียนกวดวิชาเป็นยังไงบ้าง แล้วก็บอกประมาณว่าเขาเก่ง

    ทีน่าชงน้ำแดงมาให้พวกเธอ  มันกดดันตัวเอง กลัวอายเพื่อนเลยเลือกโรงเรียนระดับสูงๆ ทั้งนั้น 

    ไม่เหมือนแกเลยเนอะ  หลุยส์วิเคราะห์  ใฝ่ต่ำ

    อ้าว...พูดอย่างนี้มามีเรื่องเลยดีกว่า

    ก็จริงนะ

    แฟรงก์!” ทีน่าช็อค แฟรงก์ที่ไม่เคยว่าร้ายเพื่อน ทำไมถึงกลายเป็นคนแบบนี้ล่ะ อ๋อ รู้แล้ว เพราะคบกับแกนั่นเอง ยายหลุยส์ ทำท่าว่าจะตบตีกันเสียแล้ว แฟรงก์หัวเราะคิก

    เพราะคบกับพวกแกทั้งคู่นั่นแหละ

    เท่านั้นเองทั้งสามคนก็วิ่งไล่เอาหมอนตีกันจนข้าวของในห้องรับแขกกระจัดกระจายไปทั่ว

    แฟรงก์ชะงัก ทำให้หลุยส์ที่วิ่งไล่กวดเบรกไม่ทันเลยชนแฟรงก์เต็มๆ ซึ่งแฟรงก์ในฐานะที่หยุดกะทันหันก็ได้รับกรรมให้รู้สึกเจ็บนิดๆ

    อูย  แกหยุดทำไมเนี่ย

    ...?

    ออกแรงแล้วชักหิว  ทีน่าเลี้ยงข้าวแขกหน่อย  หลุยส์ตะโกนปาวๆ เมื่อเหนื่อยก็เลิกเล่น  เมื่อหิวก็ต้องหาอะไรลงท้อง  ข้อดีของหลุยส์คือความร่าเริงอย่างไม่ที่สิ้นสุด กับน้ำใจกว้างขวาง  ดูแต่วันนี้ที่พวกเธอยกโขยงมาที่บ้านทีน่าก็เพราะความคิดของหลุยส์นั่นเอง 

    จนกว่าพ่อกับแม่จะกลับมา ฉันกับแฟรงก์จะผลัดกันมานอนเป็นเพื่อน แล้วจะให้ตำรวจที่สนิทกันแวะมาดูให้เรื่อยๆ แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่บอกพ่อ ไม่ได้แจ้งความด้วย 

    หล่อป่ะ?

    อะไร? หลุยส์งง  ทีน่ายกมือจับแก้ม แสร้งทำท่าว่าเขิน

    ตำรวจคนนั้นไง  ถ้าหล่อจะได้จีบให้เป็นตำรวจตรวจหัวใจ

    โอ๊ย...  เสี่ยวเกิ๊น!!” 

    เทล่าล่ะ? แฟรงก์ถามเพราะไม่เห็นว่าเพื่อนจะไปตามน้องสาวให้มาทานอาหารด้วยกัน 

    เดี๋ยวหิวก็ลงมาเองแหละ ทีน่าบอกง่ายๆ ก่อนรีบอธิบายเมื่อเห็นสายตาแฟรงก์ ฉันไม่ใจดำสักหน่อย แต่ไปเรียกทีไหร่ก็โดนบอกแบบนี้ตลอด หลังๆ ก็เลยปล่อยไป พอดึกๆ ก็เห็นย่องมากิน หึๆ ฉันลงทุนถ่างตารอดูเชียวนะ 

    ฉันว่าลองไปเรียกดูกันเถอะ

    หลุยส์ทำท่าคิดก่อนเห็นดีด้วย เทล่าอาจจะเบื่อหน้าพี่สาว ถ้าเป็นเราสองคนอาจจะทำให้เจริญอาหารกว่า

    แก คืนนี้นอนโซฟาเลยนะ

    แฟรงก์และหลุยส์เดินตามทีน่าขึ้นมาชั้นบนของบ้าน เกือบสะดุดล้มเพราะหลอดไฟทางเดินขาด เปลี่ยนไม่เป็น เจ้าของบ้านบอกอย่างนั้น แฟรงก์เลยหมายมาดในใจว่าเธอจะอาสาเป็นคนเปลี่ยนให้เอง

    เทล่า  ได้เวลากินข้าวแล้ว

    เทล่า นี่พี่หลุยส์นะ กินข้าวแล้วดวลรอยัลกันสักตาไหม แฟรงก์กระตุกแขนเสื้อคนพูด

    พูดงั้นได้ไงเล่า

    เหอะน่า ...คนขายบอกว่าคนสร้างรอยัลเป็นคนแถวนี้ด้วยล่ะ เดี๋ยวเราลองเล่นแล้วเอาไปวิจารณ์ในเน็ตกันดีกว่า  ไม่มีเสียงตอบรับจากคนในห้อง ทีน่าเลิกคิ้วถามความเห็นจากแฟรงก์ซึ่งเป็นคนต้นคิดให้น้องสาวไปร่วมโต๊ะด้วย

    ปกติเงียบแบบนี้เหรอ

    เอ๋?  ปกติเหรอ ก็ตวาดแว้ดไงล่ะ ทีน่าพูดเองก็สะดุดใจเอง ...เทล่า?  พี่เปิดนะ 

    ไฟห้องนอนเปิดสว่างไสว โต๊ะหนังสือเต็มไปด้วยตำรา และแนวข้อสอบ เตียงนอนเก็บเรียบร้อยแสดงว่าเจ้าของยังไม่ได้ใช้  แต่ตัวเทล่าไม่อยู่ในห้อง

    ออกไปไหนไม่บอกกันเลย ทีน่าบ่น

    น้องแกรู้เรื่องสตอล์กเกอร์หรือเปล่า หลุยส์ตั้งคำถาม

    ฉันยังไม่ได้บอก โอย...ตายล่ะ  ถ้าเจ้านั่นไม่ได้ตามฉันแต่ตามเทล่าล่ะ  เดี๋ยวฉันโทรหาเทล่าก่อน 

    เสียงเรียกเข้าเพลงการ์ตูนดังมาจากใต้เตียง  หลุยส์ควานหา

    ฉันจะโทรหาพี่ที่เป็นตำรวจ แกโทรถามเพื่อนของน้องเผื่ออยู่บ้านเพื่อนคนไหน

    พวกพี่เข้ามาทำอะไรที่ห้องฉัน?

    เทล่าทำหน้าไม่พอใจ มีถุงร้านสะดวกซื้ออยู่ในมือ

    ไปไหนมา?

    ซื้อของ ตอบพลางชูถุงให้ดู แล้วพวกพี่ล่ะ เข้ามาทำไม?

    จะมาชวนไปกินข้าวด้วยกันน่ะ หลุยส์บอกเมื่อเห็นว่าทีน่าทำท่าจะไม่พูด ส่วนแฟรงก์ก็ดูเหมือนจะเข้าหน้าเทล่าไม่ค่อยติด อาจเป็นเพราะรู้สึกผิดเรื่องเมื่อเย็น

    ก็เอาสิ

    ทว่าบรรยากาศในโต๊ะอาหารกลับกระอักกระอ่วนเสียจนหลุยส์ที่พยายามหาเรื่องมาคุยยังท้อ ได้แต่กลอกตาไปมา  เทล่าเงียบขรึมต่างจากเด็กสาวช่างคุย คอเล่นเกมส์เมื่อครั้งก่อนอย่างเห็นได้ชัด ส่วนทีน่าก็ทำตัวได้น่ามืดมนพอๆ กับน้องสาวอย่างไม่มีเหตุผล 

    แฟรงก์!” คนถูกเรียกสะดุ้ง

    เป็นอะไร ไม่กินล่ะ

    กินสิ  กินอยู่นี่ไง เพิ่งจะเริ่มตักเห็นๆ

    เทล่า  เดี๋ยวเล่นเกมส์พักสมองกันหน่อยไหม  รอยัล ดาร์ค ที่เพิ่งออกอาทิตย์ก่อนไง พี่ไปเข้าคิวรอซื้อตั้งแต่ร้านยังไม่เปิดเลยนะ แฟรงก์รอฟังคำตอบที่ทำให้ใจฝ่อ  หรือว่าเทล่าจะไม่ชอบเฉพาะเธอ?

    แปลกชะมัด  ร้อยวันพันปีไม่เคยเป็นแบบนี้ ทีน่าบ่นขณะที่พวกเธอกำลังล้างจานกันในห้องครัว  ส่วนหลุยส์กับเทล่ากำลังเล่นเกมส์ใหม่ที่หลุยส์อุตส่าห์หอบมา 

    แต่ก็ดูเงียบไปมากเลยนะ

    อือ  ฉันก็กลัวว่าเทล่าจะเครียดจนกลายเป็นเด็กมีปัญหา  แต่ถ้ายังเล่นเกมส์ได้ กินข้าวได้ก็ไม่น่าจะเป็นอะไรล่ะมั้ง ดวงตาคนพูดฉายแววไม่แน่ใจแถมยังดูสับสนอีกต่างหาก

    ทำไมไม่ลองคุยกันล่ะ

    ทีน่าส่ายหน้า

    ฉันจะไปพูดอะไรได้ล่ะ  ตัวฉันเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าน้องเลย  ไปว่าไปแนะมันก็กระดากปาก ดีไม่ดีโดนย้อนเอาเจ็บตัวเปล่าๆ  แฟรงก์คอยรับจานมาเช็ด

    อือ  ฉันไม่มีพี่น้องก็เลยไม่รู้  แต่ถ้าเทียบกับเพื่อนแล้ว เราคงคุยกันทุกเรื่องใช่ไหม  ดีไม่ดีเราก็ว่ากันตรงๆ  อย่างนั้นกับคนในครอบครัวเดียวกันก็น่าจะทำได้นะ

    ฉันควรถามใช่ไหม

    เป็นเพื่อนรับฟังก็ได้  แฟรงก์เช็ดจานใบสุดท้ายเสร็จ จึงบอก ฉันออกไปโทรศัพท์หาพ่อหน่อยนะ  อยู่คนเดียวไม่รู้เป็นไงบ้าง

    อ้าว แม่ไปไหนล่ะ

    หนีเที่ยวน่ะสิ  เดี๋ยวมานะ แฟรงก์กดโทรศัพท์หาพ่อ  ตอนแรกก็ยืนคุยตรงเทอเรซหน้าบ้านแต่กลิ่นหอมของดอกไม้บานกลางคืนทำให้เธออดเดินด้อมๆ มองหาไม่ได้ บ้านของเธอไม่ใหญ่เท่าบ้านเพื่อน ทั้งยังไม่มีบริเวณให้ปลูกต้นไม้ ฉะนั้นจึงอดชื่นชมต้นไม้ดอกไม้ไม่ได้

    จู่ๆ แฟรงก์ก็รู้สึกเสียวสันหลัง

    ...ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอรู้สึกว่าถูกจับตามอง

    ราตรีสวัสดิ์นะคะพ่อ

    แฟรงก์พยายามทำเป็นไม่สะทกสะท้าน หากมือกลับกดโทรศัพท์หาเพื่อนที่อยู่ในบ้าน  ยังไม่ทันทีปลายสายจะได้พูดเธอก็ชิงพูดก่อน

    ฉันเอง ฟังนะ แกลองขึ้นไปชั้นสองแล้วมองที่สวนหน่อยสิ

    หืม? มีอะไร  หรือว่า...

    เออ  ฉันเดินตากน้ำค้างเล่นอยู่

    แป๊บนะ  อย่าเพิ่งวาง!  ทีน่า ขึ้นไปเอาสมุดเลขกัน  ฉันยังไม่ได้ทำการบ้านเลย  เธอได้ยินเสียงทั้งคู่คุยกันแว่วๆ พอคิดว่าทั้งที่พวกเธอก็อยู่ใกล้กันแค่นี้แต่ทำไม่ถึงฟังห่างไกลนัก

    ฮัลโหล แฟรงก์ยังอยู่ในสายไหม

    อยู่ๆ เป็นไงบ้าง

    มืด  มองไม่เห็นอะไรเลย  ทีน่า  เสาไฟฟ้าหน้าบ้านแกมันดับเรอะ

    อื๋อ  ถึงว่ามืดๆ แต่มีจริงๆ นะ ฉันรู้..  อาจดูประสาทไปสักหน่อย เธอกลัวว่าการพูดอะไรที่ส่อว่าเธอรับรู้ถึงการมีอยู่ของบุคคลที่จ้องมองเธอ อาจจะทำให้เกิดเรื่องร้ายๆ ขึ้นได้ คำต่อมาจึงเป็นอะไรที่ คนละเรื่องเดียวกัน

    เมื่อวานดูช่องดิสคัฟเวอรี่ เขาไปถ่ายชีวิตเสือ แกรู้ไหมว่ามันซุ่มรอเหยื่อเผลอ พอจังหวะดีๆ มันก็ตะครุบเหยื่อ  งับคอทีเดียว จบ

    เดี๋ยวๆ  แกพูดเรื่องอะไรเนี่ย หลุยส์งง  ซึ่งเธอจะไม่โทษเพื่อนเลย

    ก็มันซุ่มรอไงแก  แบบไม่ให้เหยื่อรู้ตัว เพราะถ้ารู้เหยื่อก็วิ่งแตกกระเจิง อดกินพอดี

    อ๋อ เข้าใจแล้ว  แกแน่ใจนะว่ามันยังอยู่แถวนี้

    ใช่สิ  เสือมันซุ่มรอไม่ไกลแต่ก็ไม่ใกล้  ถ้าจำไม่ผิดมันจะใช้วิธีหมอบพรางตัวด้วยนะแก  หลุยส์แสดงมันสมองระดับลูกสาวนายตำรวจด้วยการดีดนิ้วเปาะ 

    โอเคเลย  ทีน่าโทรเบอร์นี้ที บอกว่าฉันให้เริ่มงานได้แล้ว  แฟรงก์...แกเดินคุยไปเรื่อยๆ เลย ฉันจะพยายามมองหาจากบนนี้  ตำรวจคนนั้นบ้านอยู่แถวนี้พอดี  รับรองเลยว่าแป๊บเดียวถึง 

    มันจะไม่ทันน่ะซี่.....

    แฟรงก์ลังเล พะว้าพะวัง  กึ่งกล้ากึ่งกลัว  อันที่จริงหนักไปทางกลัวเสียมากกว่ากล้า แต่ความอยากรู้นั้นพุ่งปรี๊ดสุดปรอท

    ฉันจะไปซื้อของนะ เธอบอกเพื่อน 

    เฮ้ย  อย่านะ!!” เธอกดตัดสาย เดินตรงไปที่ประตู แล้วก็แทบกรี๊ดออกมาเมื่อผู้ชายคนหนึ่งโผล่พรวดมาตรงหน้า

    จะไปไหน? แฟรงก์ถอยกรูด มือเท้าทั้งผลักทั้งถีบประตูให้ปิดไม่สนว่าจะโดนผู้ชายคนนั้นหรือไม่  กลับกันโดนได้สิยิ่งดี 

    อย่ามายุ่งนะ ไอ้คนจิตทราม ออกแรงถีบอีกครั้งจนประตูลงล็อคและหนีบมือฝ่ายนั้นพอดิบพอดี

    โอ๊ย!!” คนหน้าตาดีจิตทรามแหกปากร้องลั่น แฟรงก์เงื้อโทรศัพท์ตอนแรกว่าจะขว้างหัวแต่คิดได้ว่านอกจากหัวคนจะไม่แตกแล้วโทรศัพท์เธอน่าจะพังแทนด้วย 

    ช่วยด้วย / ช่วยด้วย!!”  แฟรงก์ถึงกับสะอึกที่ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากอีกฝ่ายประสานกับเสียงตัวเอง  หน้าตาเหยเกด้วยความเจ็บปวด มือข้างที่ปลอดภัยพยายามจะเปิดประตูให้ได้ แต่โชคดีที่ประตูบ้านทีน่าเป็นระบบ เปิดได้จากข้างในเท่านั้น หรือจะจะเปิดจากข้างนอกก็ต้องใช้ร่วมกับกุญแจ

    นายจะร้องทำไม!” แฟรงก์ตวาดแว้ดพร้อมกวาดมองพยายามจดจำรายละเอียดอีกฝ่ายให้มั่น  ทั้งหน้าตา (หล่อมาก) รูปร่างที่สมส่วนสุดๆ (พยายามเมินกล้ามแขนเร้าใจ) เสื้อยืดสีขาวพอดีตัว (กล้ามท้องเห็นๆ) กางเกงสแล็คสีกากี

                โห แต่งตัวเลียนแบบตำรวจด้วย ได้เลย ฉันจะโทรแจ้งความ อย่าหนีเชียวนะ เธอได้สายยางรดน้ำไม้มาไว้ในมือแล้ว กำลังจิ้มตัวเลขแจ้งเหตุฉุกเฉินของตำรวจ หลุยส์ก็ตะโกนมาจากหน้าต่างห้องนอนทีน่า

                พี่เจมส์!! เฮ้ย ไอ้แฟรงก์  นั่นพี่ฉัน

     

     

                   

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×