คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : เส้นทางของสงคราม [เปิดฉากความเป็นปรปักษ์]
เส้นทางของสงคราม
เปิดฉากความเป็นปรปักษ์
ความสับสนภายในฝ่ายมหาอำนาจกลาง
ยุทธศาสตร์ของฝ่ายมหาอำนาจกลางเสียหายเพราะความผิดพลาดในการติดต่อสื่อสารกัน
เยอรมนีให้คำมั่นสนับสนุนออสเตรีย-ฮังการีในการรุกรานเซอร์เบีย
แต่ได้มีการตีความความหมายนี้ผิดไป
แผนการจัดวางกำลังซึ่งเคยทดสอบมาแล้วในอดีตถูกเปลี่ยนใหม่ในต้น ค.ศ. 1914
แต่ยังไม่เคยทดสอบในทางปฏิบัติ
ผู้นำออสเตรีย-ฮังการีเชื่อว่าเยอรมนีจะป้องกันปีกด้านทิศเหนือที่ติดกับรัสเซีย อย่างไรก็ตาม
เยอรมนีซึ่งเห็นว่าออสเตรีย-ฮังการีมุ่งส่งกำลังทหารส่วนใหญ่ต่อสู้กับรัสเซีย
ขณะที่เยอรมนีจัดการกับฝรั่งเศส ความสับสนนี้ทำให้กองทัพออสเตรีย-ฮังการีต้องแบ่งกำลังเพื่อไปประจำทั้งแนวรบรัสเซียและเซอร์เบีย
การทัพแอฟริกา
การปะทะกันครั้งแรก
ๆ ของสงครามเกิดขึ้นในกองทัพอาณานิคมอังกฤษ ฝรั่งเศสและเยอรมนีในแอฟริกา วันที่ 7
สิงหาคม กองทัพฝรั่งเศสและอังกฤษรุกรานโตโกแลนด์
อันเป็นดินแดนในอารักขาของเยอรมนี วันที่ 10 สิงหาคม
กองทัพเยอรมันในแอฟริกาตะวันตกเฉียงใต้โจมตีแอฟริกาใต้ การต่อสู้ประปรายและป่าเถื่อนดำเนินต่อไปกระทั่งสงครามสิ้นสุด
กองทัพอาณานิคมเยอรมันในแอฟริกาตะวันออกของเยอรมนี นำโดยพันเอก พอล เอมิล ฟอน
เลทโท-วอร์เบค
สู้รบในการทัพสงครามกองโจรระหว่างสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและยอมจำนนสองสัปดาห์หลังสัญญาสงบศึกมีผลใช้บังคับในยุโรป
การทัพเซอร์เบีย
กองทัพเซอร์เบียสู้รบในยุทธการเซอร์กับออสเตรีย-ฮังการีฝ่ายรุกราน
เริ่มตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม
โดยยึดตำแหน่งป้องกันตามด้านใต้ของแม่น้ำดรินาและซาวา อีกสองสัปดาห์ถัดมา
การโจมตีของออสเตรียถูกตีโต้ตอบกลับไปโดยประสบความสูญเสียอย่างหนัก นับเป็นชัยชนะสำคัญครั้งแรกของฝ่ายสัมพันธมิตรในสงครามและทำลายความหวังของออสเตรีย-ฮังการีที่จะได้รับชัยชนะอย่างรวดเร็ว
ผลคือ ออสเตรียจำต้องรักษากำลังขนาดใหญ่พอสมควรบนแนวรบเซอร์เบีย
พร้อมกับลดทหารด้านรัสเซียลง
กองทัพเยอรมันในเบลเยียมและฝรั่งเศส
เมื่อสงครามโลกครั้งที่หนึ่งปะทุขึ้น
กองทัพเยอรมัน อันประกอบด้วยเจ็ดกองทัพสนามในด้านตะวันตก เริ่มดำเนินการตามแผนชลีฟเฟินแบบปรับปรุง
ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อโจมตีฝรั่งเศสอย่างรวดเร็วผ่านดินแดนประเทศเบลเยียมที่เป็นกลาง
ก่อนจะเลี้ยวลงไปทางใต้เพื่อโอบล้อมกองทัพฝรั่งเศสตามพรมแดนเยอรมนีแผนการดังกล่าวกำหนดให้ปีกขวาตีมาบรรจบกันที่กรุงปารีส ซึ่งเยอรมนีประสบความสำเร็จในช่วงแรก
จนถึงวันที่ 12 กันยายน
ฝรั่งเศสด้วยความช่วยเหลือจากกองทัพอังกฤษหยุดยั้งการรุกของฝ่ายเยอรมนีได้ทางตะวันออกของกรุงปารีสที่ยุทธการมาร์นครั้งที่หนึ่ง (5-12
กันยายน) วันท้าย ๆ ของยุทธการนี้นำจุดจบมาสู่สงครามจรในด้านตะวันตก การรุกเข้าไปในเยอรมนีของฝรั่งเศสซึ่งเริ่มเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ด้วยยุทธการมุลลูส ประสบความสำเร็จเพียงเล็กน้อย
ส่วนในทางตะวันออก
มีเพียงหนึ่งกองทัพสนามเท่านั้นที่ป้องกันปรัสเซียตะวันออก
และเมื่อรัสเซียโจมตีพื้นท่ดังกล่าว ทำให้เยอรมนีต้องแบ่งกำลังที่เดิมตั้งใจจะส่งไปรบในแนวรบด้านตะวันตกมาป้องกัน
เยอรมนีเอาชนะรัสเซียในการรบหลายครั้งซึ่งรวมรู้จักกันในชื่อ ยุทธการทันเนนแบร์กครั้งที่หนึ่ง (17
สิงหาคม - 2 กันยายน)
แต่การแบ่งกำลังดังกล่าวทำให้เกิดปัญหาความเร็วที่ไม่เพียงพอจากจุดสิ้นสุดทางรถไฟซึ่งเสนาธิการทหารเยอรมันไม่ได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า
ฝ่ายมหาอำนาจกลางไม่ได้รับชัยชนะอย่างรวดเร็วและถูกบีบให้ทำสงครามสองแนวรบ เยอรมนีสู้รบตามรายทางไปจนถึงจุดป้องกันที่ดีในประเทศฝรั่งเศสและทำให้ทหารฝรั่งเศสและอังกฤษเสียชีวิตรวมกันมากกว่าทหารเยอรมันถึง
230,000 นาย แต่แม้ว่าจะประสบความสำเร็จดังนี้แล้วก็ตาม
ปัญหาการสื่อสารและการตัดสินใจบัญชาการที่ไม่แน่นอนทำให้เยอรมนีเสียโอกาสที่จะคว้าชัยชนะอย่างรวดเร็ว
เอเชียและแปซิฟิก
นิวซีแลนด์ยึดครองเยอรมันซามัว
(ภายหลังชื่อ ซามัวตะวันตก) เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม
วันที่ 11 กันยายน
กองทัพรบนอกประเทศทหารและนาวิกออสเตรเลียยกพลขึ้นบกบนเกาะนอยพอมแมร์น (ภายหลังชื่อ
นิวบริเตน) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเยอรมันนิวกินี เยอรมนียึดครองอาณานิคมไมโครนีเซียของเยอรมนี
และหลังจากการล้อมชิงเต่า เมืองท่าถ่านหินของเยอรมนีในคาบสมุทรชานตงของจีน
ภายในไม่กี่เดือน กองทัพสัมพันธมิตรได้ยึดครองดินแดนเยอรมนีทั้งหมดในแปซิฟิก มีเพียงผู้เข้าปล้นการค้าที่โดเดียวและดินแดนส่วนน้อยในนิวกินีที่ยังเหลืออยู่
ความคิดเห็น