ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ┇FIC GINTAMA┇ ◈ GIRL OF TIME ◈

    ลำดับตอนที่ #2 : ONE TIME : นาฬิกาเรือนนั้น

    • อัปเดตล่าสุด 11 มี.ค. 62










    ONE TIME : นาฬิกาเรือนนั้น



    รูปภาพที่เกี่ยวข้อง










    Kagura(神楽)  POV :



    ความเงียบกลืนกินไปทั่วบริเวณสุสาน มันดูเป็นที่เงียบสงบ หากไม่มีป้ายหลุมศพตั้งอยู่หลายร้อยอันให้หลอนเล่น หากมาเยือนยามวิกาล แต่เธอไม่ได้เกิดกลัวเลยสักครั้งเวลาที่เธอมาเยี่ยมเขา........

    เธอและเจ้าสุนัขสีขาวตัวใหญ่กำลังยืนอยู่หน้าป้ายหลุมศพที่มีชื่อของกินโทกิสลักเอาไว้ หน้าป้ายตรงแท่นวางของมีของมากมายที่ชายหนุ่มผมเงินชอบ และดอกไม้สดในแจกันที่มีคนมาเปลี่ยนให้แทบจะทุกวัน


    สงสัยทุกคนคงมาเยี่ยมเขาก่อนเธอแล้วงั้นสินะ.........


    มันผ่านมาได้สองอาทิตย์แล้ว....ที่เขาได้จากไป เกือบทุกคนในคาบุกิโจดูซึมเศร้า โดยเฉพาะเธอกับชินปาจิ

    ตั้งแต่ที่กินโทกิจากไป เธอก็เก็บตัวเงียบไม่ยอมออกไปไหน ไม่ยอมพูดกับใคร มีเพียงซาดาฮารุเท่านั้นที่อยู่กับเธอ 

    เธอกลายเป็นคนเงียบขรึมไม่ค่อยพูดจากับใคร....แม้แต่กับชินปาจิ เธอสามารถนับคำที่เธอพูดกับเขาไปได้ทั้งสองอาทิตย์ เธอไม่ได้ไม่อยากพูดกับเขาหรือโกรธที่เขาไปช่วยกินโทกิไม่ทัน แต่เธอโกรธตัวเองที่ช่วยอะไรกินโทกิไม่ได้ เลยไม่กล้าสู้หน้าชินปาจิ......


    " อากินจัง...ตอนนี้ลื้อเป็นยังไงบ้างน่อ? "


    คำถามซึ่งไร้คำตอบ...เธอรู้ดีอยู่แก่ใจ....... 


    น้ำตาที่พึ่งเหือดแห้งไปไม่กี่ชั่วโมง เริ่มเอ่อคลอรอบดวงตาอีกครั้ง เธอพยายามใช้หลังมือเช็ดน้ำตาให้หมดไป แต่มันก็ไม่ยอมหมดไปซักที น้ำตาน่ะ........


    บ็อกๆ!


    เหมือนซาดาฮารุจะเข้าใจความรู้สึกของเธอ มันเห่าเสียงเบาก่อนจะเอาหัวที่มีขนสีขาวนุ่มนิ่มมาถูกับตัวเธออย่างปลอบโยน


    " ขอบใจน่อ ซาดาฮารุ " เธอรูปหัวมันอย่างเอ็นดูเป็นการตอบแทน


    พลันได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนกำลังใกล้เข้ามา พร้อมกับกลิ่นของควันบุหรี่ ทำให้เธอต้องหันไปมองตามสัญชาตญาณ ซาดาฮารุแกว่งหางไปมาเหมือนเจอคนรู้จัก


    " ไง ยัยหมวย...มาเยี่ยมเจ้าหมอนี่เหมือนกันเหรอ? " 


    จะเป็นใครไปไม่ได้เลย นอกจากรองหัวหน้าปีศาจแห่งชินเซ็นกุมิ เขาเดินมาหยุดอยู่ข้างๆเธอ 


    " .................... " เธอไม่ได้ตอบอะไรเขาไป แต่กลับหันหน้ามามองทางป้ายหลุมศพแทน


    " เจ้าบ้านั่น มันจะรู้ตัวหรือเปล่า? ว่าทำให้คนทั้งเมืองเป็นโรคซึมเศร้า โดยเฉพาะ....... " 


    ฮิจิคาตะเว้นวรรคไปชั่วครู่ ทำให้เธอต้องอดหันไปมองใบหน้าของเขาไม่ได้ 

    ยิ่งเธอมองเขา ยิ่งคิดว่าเขามีใบหน้าที่คล้ายกับกินโทกิ...........


    " เธอน่ะ ยัยหมวย....." 


    ฮิจิคาตะหันมามองเธอกลับ ดวงตาสีน้ำเงินเข้มสบกับดวงตาสีน้ำทะเลลึกไปสักพักก่อนจะผละไปมองป้ายหลุมศพแทน


    " อั๊วน่าจะตายไปด้วย.....ทำไมพวกนั้นถึงไม่ฆ่าอั๊วกันน่อ.... " เธอเหมือนพูดกับตัวเองมากกว่า แต่ก็ยังเข้าหูของเขาอยู่ดี


    " มีชีวิตอยู่ก็ดีแล้วหนิ....เจ้าหมอนั่นก็คงไม่อยากให้เธอตายหรอก " เขาพูดด้วยน้ำเสียงปกติ ก่อนจะยื่นบางอย่างมาให้เธอ


    สาหร่ายดอง?.........


    " ฉันไปซื้อบุหรี่แล้วได้แถมมาน่ะ......ถ้าเหงาก็ไปเล่นกับเจ้าโซโกะที่ชินเซ็นกุมิได้นะ ฉันไปก่อนล่ะ " 


    ชายหนุ่มผมซอยสั้นสีดำขลับ ยกมือขึ้นลูบหัวเธออย่างอ่อนโยน ก่อนหันหลังแล้วเดินจากเธอไป 

    ดวงตาสีน้ำทะเลลึกของเธอเบิกกว้างกับการกระทำของฮิจิคาตะ


    การกระทำของเขาช่างเหมือนกับกินโทกิเหลือเกิน.......... 

    .


    .


    .

    .

    ตอนนี้เธอกำลังเดินเล่นไปเรื่อยเปื่อยตามถนนย่านคาบุกิโจ ส่วนซาดาฮารุก็ไปวิ่งเล่นที่ไหนแล้วก็ไม่รู้ 

    ผู้คนมากมายทั้งชาวเอโดะและชาวสวรรค์เดินกันขวักไขว่ไปมาตามท้องถนน ร้านค้าเปิดให้บริการลูกค้าอย่างครึกครื้น ทุกคนใช้ชีวิตของตนได้อย่างปกติ

    มีแต่เธอเท่านั้นแหละ ที่รู้สึกว่ามันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป.......ถ้าเป็นเมื่อก่อนตอนนี้เธอคงเดินบนถนนนี้กับกินโทกิและชินปาจิ


    แต่มันคงไม่มีอีกแล้วล่ะ............


    " หัวหน้า! " เสียงที่คุ้นเคยดึงเธอออกมาจากความคิด


    " ซึระ....... " เธอเอ่ยชื่อเล่นของเขาแผ่วเบา พลางมองเลยไปข้างหลังของเขา เห็นเจ้าตุ๊กตามาสคอตคล้ายๆเป็ดถือป้ายทักทายเธอ


    'สวัสดี คางุระจัง'


    เมื่อกินโทกิไม่อยู่แล้ว คาซึระจึงเป็นคนดูแลเธอทางอ้อมไปโดยปริยาย เขามาหาเธอบ่อยๆ และค่อยเอาข้าวปลาอาหารหรือขนมมาให้เธอและซาดาฮารุอยู่เป็นประจำ ถึงแม้เธอจะยังมีโอโทเซะที่คอยเลี้ยงดูเธออยู่ก็เถอะ


    " ช่วงนี้เห็นหัวหน้าไม่ค่อยร่าเริงเลย...มีอะไรก็บอกผมได้นะ " ชายหนุ่มผมยาวสลวยสีดำขลับเอ่ยทักเธอด้วยความเป็นห่วง


    เธอรู้ว่าคาซึระรู้ดีว่าเธอเป็นอะไร......แต่เขาแค่ไม่อยากพูดเรื่องของกินโทกิขึ้นมาทำให้เธอต้องเศร้า


    " เปล่าน่อ....อั๊วแค่.... " 


    เธอพูดแล้วหยุดเว้นวรรคไปสักพัก.....เธอไม่รู้จะสรรหาคำพูดใด มาทำให้คนตรงหน้าเลิกเป็นห่วงเธอ


    " รู้แล้วล่ะ...ไม่ต้องพูดแล้วก็ได้ " 


    คาซึระพูดกับเธออย่างเข้าใจ เมื่อเห็นเธอทำท่าทางคิดหนัก ก่อนจะยกมือข้างหนึ่งขึ้นมารูปหัวเธออย่างอ่อนโยน


    ใบหน้าหวานของเขาดูฉงนไปเล็กน้อย ดวงตาสีน้ำตาลฉายแววฉงนปนเอ็นดู คงเพราะเมื่อก่อนเธอมักจะชอบปัดมือเขาทิ้งทุกครั้งที่เขาเอามือมาลูบหัวเธอ แต่ครั้งนี้เธอกลับปล่อยให้เขาเอามือรูปหัวเธอต่อไปโดยไม่ปัดทิ้ง


    " งั้นผมขอตัวก่อนนะ...หัวหน้า " เขาบอกลาเธอเสร็จก่อนจะเดินจากไป 


    ก่อนจากไป อาลิซาเบธก็ยกป้ายขึ้นมาบอกลาเธอเช่นกัน


    ' แล้วเจอกันใหม่นะ คางุระจัง '

    .


    .


    .


    .


    เธอไม่รู้ตัวว่าตัวเองเดินมาถึงไหนแล้ว รู้ตัวอีกทีก็อยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายเสียแล้ว ดวงตาของเธอกวาดมองไปรอบตัว ก่อนจะสะดุดเข้ากับอะไรบางอย่าง ที่ทำให้เธอถึงกับต้องเดินตาม.........

    เธอเห็นชายคนหนึ่ง สวมใส่ยูกาตะสีม่วงลายผีเสื้อสีทองที่ถูกสวมทับด้วยเสื้อคลุมสีเข้ม เขาสวมหมวกสานไม้ไผ่ปิดบังใบหน้า และในมือของเขาถือกล้องยาสูบแบบยาว ถึงผู้คนจะมีมากมายเพียงใด แต่เธอก็สามารถมองเห็นเขาได้อย่างชัดเจน


    ต้องเป็นเจ้านั่นแน่ๆ ทากาสุงิ!!..............


    ภาพของกินโทกิที่โดนแทงทะลุหน้าอกยังคงติดตาเธอมาจนถึงทุกวันนี้

    ในมือข้างขวาที่ถือร่มและข้างซ้ายที่แนบอยู่ข้างลำตัวกำหมัดเอาไว้แน่นจนเธอรู้สึกว่าเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ

     ร่างของเขาเริ่มจะหายเข้าไปในฝูงชนอย่างรวดเร็ว ทำให้เธอต้องวิ่งตาม......






    เธอตามเขามาจนถึงส่วนของย่านร้านค้าที่ไม่ค่อยจะมีผู้คนมากมายนัก มันดูโล่งเกินไปสำหรับย่านคาบุกิโจเสียด้วยซ้ำ

    รู้สึกเหมือนเธอจะคลาดสายตาจากเขาและได้แต่หันไปมาเพื่อหาเขา จนกระทั่งได้ยินเสียงกระดิ่งประตูของร้านค้าร้านหนึ่งเข้า........


    กริ๋ง~


    ไม่รอช้า เธอรีบเปิดประตูแล้วก้าวเข้าไปในร้านทันที........ดูเหมือนว่าจะเป็นร้านนาฬิกา เธอเดินสำรวจดูภายในร้าน พร้อมกับมองหาเจ้าของร้าน แต่ดูเหมือนว่าทั้งร้านจะมีแค่เธอ 

    ร้านนาฬิการ้านนี้มันดูไม่ได้ใหญ่โตมากนัก มีนาฬิกาที่วางขายภายในร้านหลายเรือนดูเหมือนนาฬิกาทั่วไป แต่มีนาฬิกาเรือนหนึ่งที่ทำให้เธอต้องสะดุดตา......

    มันเป็นนาฬิกาเก่าตั้งโต๊ะขนาดใหญ่ตามแบบตะวันตกดูเรียบหรู ตัวของมันถูกแกะสลักให้เป็นลายดอกไม้และใบไม้ต่างๆนานาดูสวยงาม 


    แปลกมาก.....มันดูแพงเกินกว่าที่จะอยู่ในร้านนี้.............


    สิ่งที่หน้าแปลกอีกอย่างคือ เวลาที่เธอมองเข้าไปตรงหน้าปัดนาฬิกา มันรู้สึกเหมือนกำลังโดนดูดเข้าไปอย่างไงอย่างนั้น............


    เธอจ้องหน้าปัดนาฬิกาอยู่สักพัก ก่อนจะรู้สึกเหมือนว่านาฬิกามันหมุนทวนเข็ม..........ไม่ใช่แค่เรือนนี้....แต่เป็นไปทั้งร้าน! และดูเหมือนว่ามันจะหมุนทวนเข็มเร็วขึ้นเรื่อยๆด้วย


    " นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันน่อ?! " คางุระพูดกับตัวเองอย่างงุนงง


    ก่อนที่เธอจะเอามือไปแตะเข้ากับหน้าปัดของนาฬิกา.....


    วูบ!

    .


    .


    .


    .


    เธอรู้สึกว่ารอบตัวของเธอนั้นเป็นสีขาวโพลน ทุกอย่างมันดูว่างเปล่าและมีแต่พื้นที่สีขาวเต็มไปหมด.....แล้วจู่ๆทางข้างหลังของเธอที่เคยเป็นสีขาวโพลนมาก่อน กลับกลายเป็นสีดำอันมืดมิดที่ค่อยๆกลืนกินพื้นที่สีขาวเข้ามาเรื่อยๆ.......


    " ทางนี้ " 


    เหมือนว่าเธอจะได้ยินเสียงใครสักคนเรียกให้เธอไปหา น้ำเสียงมันช่างคุ้นเคย แต่เธอกลับจำไม่ได้


    " มาทางนี้....เร็วเข้า "     


    เธอหันไปมองพื้นที่สีดำที่ค่อยๆคืบคลานเข้ามา ก่อนจะวิ่งตามเสียงนั้นไป....จนเจอเข้ากับเสา*โทริอิที่ชาวเอโดะมักจะสร้างตั้งไว้ก่อนถึงศาลเจ้า

    เธอมองไปที่ต้นเสาที่ตั้งเป็นซุ่มประตูสูงตะหง่านนั่น....


    " วิ่งรอดผ่านมันเข้ามาสิ " เสียงนั่นยังคงกระซิบบอกกับเธอ


    เมื่อได้ยินดังนั้นจึงรีบวิ่งผ่านเสาโทริอิไปทันที..........ก่อนที่ทุกอย่างจะกลายเป็นสีดำอันมืดมิด




















    *โทริอิ (ญี่ปุ่น鳥居 Torii , ความหมาย: ที่ของปักษา) คือซุ้มประตูแบบญี่ปุ่น ตั้งไว้เพื่อให้ผู้คนได้รับรู้ว่า อาณาเขตเบื้องหลังเสาโทะริอินี้เป็นอาณาเขตของเทพเจ้า เพื่อที่ผู้คนจะได้ไม่เผลอกระทำการอันจะเป็นการดูหมิ่นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โทะริอิสามารถพบได้ตามศาลเจ้าชินโตตลอดจนวัดพุทธบางแห่งในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งในแผนที่ของญี่ปุ่น จะใช้สัญลักษณ์โทะริอิ เป็นเครื่องหมายบอกตำแหน่งศาลเจ้าต่างๆ นอกจากนี้ อาจพบโทะริอิได้ถามทางเดินและท้องถนนทั่วไปที่แถวนั้นอาจมีเจ้าที่หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ หรือแม้แต่ในป่าหรือภูเขาลึกบางแห่ง







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×