ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    NCT | เพื่อน(?)ข้างห้อง JaeMark

    ลำดับตอนที่ #9 : -09- Vacation

    • อัปเดตล่าสุด 5 ธ.ค. 60


    moomin; vacation

     --


    http://milamai.tumblr.com

    --

    สัมมนาเสร็จแล้ว


    เฮ้อ รอดตายแล้ว


    หลังจากออกมาจากห้องเชือด ก็แทบจะก้มลงกราบฟ้าดินและอาจารย์ที่ปรึกษา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ทำให้เขารอดจากภัยอันตรายทั้งหลายทั้งปวงที่มาในรูปแบบของคำถามยากๆ ที่เขาไม่น่าจะตอบได้


    มาร์คเดินตามอาจารย์ไปพูดคุยกันนิดหน่อย ถึงเรื่องโปรเจกต์จบที่จะทำต่อเนื่องไปจากนี้ หลังจากนัดกับเพื่อนแล้วว่าจะไปเจอกันอีกทีที่โรงอาหาร โทรศัพท์ที่สั่นไม่หยุดอยู่ในกระเป๋ากางเกง ถ้าให้เดาก็น่าจะเป็นเจย์ของเขานี่แหละ


    แอบดูนิดหน่อย…แม่งซื้อหวยไม่เคยถูกแบบนี้ว้า


    พอออกมาก็กดโทรออกหาสายที่ไม่ได้รับ ใบหน้าเปื้อนยิ้มชื่นใจอย่างที่ไม่ได้เป็นมาหลายวัน เพราะความโล่งใจและคำชมจากคนรอบข้างแหละมั้ง


    “เป็นไงบ้าง” กดรับไวเหมือนเคย ถามก่อนที่มาร์คจะพูดฮัลโหลไปเสียอีก


    หัวเราะในใจ “ก็คงดีแหละ รอดูเกรดแล้วกัน”


    เสียงถอนหายใจดังลอดออกมาจากปลายสายทำเอามาร์คหัวเราะออกมาดังลั่นทางเดินในตึก “เวอร์ไปแล้วป๊ะ”


    “คืนก่อนใครหน้าดูไม่จืดวะครับ” แจฮยอนทำเสียงยียวนกลับมา


    แต่มาร์คกลับหลุดพูดอะไรบางอย่างออกไปโดยที่ตัวเองยั้งมันไม่ทัน “ไปเที่ยวทะเลกันนะ”


    “หืม” เสียงดูแปลกใจของแจฮยอนตอบกลับมา “คิดอะไรอยู่”


    ส่วนตัวคนพูดอ้าปากหวอไปแล้ว ‘ทำไมกูกลายเป็นคนคิดดังแบบนี้วะ’


    “มันหลุดปาก” หัวเราะแก้เขินไปแบบนั้น “ล้อเล่นน่า”


    ไม่อะ จริงๆ มาร์คไม่ได้ล้อเล่น


    พอทุกอย่างถูกปลดออกจากบ่าแล้ว ขนาดเมื่อคืนแทบไม่ได้นอนยังคึกคักอยากไปทะเลได้ขนาดนี้ แปลกใจตัวเองเหมือนกันที่อยู่ดีๆ ก็คิดอยากไป


    แต่จะว่าไป เขาก็ไม่ได้ไปเที่ยวกับแจฮยอนนานมากจริงๆ แหละ


    “เราอยู่กับเพื่อนมาร์คละนะ จะถึงยัง?”


    “อ้าวเหรอ โอเคๆ กำลังเดินไป ใกล้ถึงละ”


    เว้ยย มาร์คขยี้หัวตัวเอง ปัดความคิดให้ออกไปจากหัวก่อนเดินจะเข้าโรงอาหาร เพียงไม่นานก็พบเข้ากับผมสีอ่อนๆที่แฟนเขาเพิ่งไปย้อมมาไม่นานมานี้ แล้วนั่งลงข้างแจฮยอนที่ซึ่งเว้นที่ไว้ให้เขา ข้างๆ กับเจโน่


    “สัมมนาเสร็จแล้วเน่~” แฮชานกำมือเป็นไมค์ยกขึ้นจ่อที่ปากของมาร์คเหมือนสัมภาษณ์ “รู้สึกยังไงบ้างครับ”


    มาร์คส่ายหน้ายิ้มๆ แต่ก็ยอมเล่นตามน้ำเพื่อนไป “ก็รู้สึกโล่งดีครับ ไม่ได้อ่านเปเปอร์แก้สไลด์จนเช้าคาตาแล้วคงเหงาน่าดู”

    แฮชานทำหน้าเหม็นเบื่อ


    “แล้วแฟนคุณมาร์คล่ะครับ” มือเลื่อนไปหยุดตรงหน้าแจฮยอน ซึ่งมีท่าทีเหวอไปเล็กน้อย


    คนทั้งโต๊ะโห่แซว แจฮยอนยิ้มรับเขินๆ แต่คำพูดแม่งดูไม่น่าจะใช่เขินเลย “ก็ดีครับ หึงเปเปอร์มานานแล้วเหมือนกัน ได้เวลาทวงคืนซะที”


    เรียกเสียงดังได้มากกว่าเดิมไปอีก ส่วนมาร์คก็ทำทีเป็นลุกไปซื้อข้าว ทั้งที่ตัวเองก็กลั้นยิ้มจนแก้มจะแตก


    ใช่ เหมือนเพื่อนทุกคนจะรู้หมดแล้วว่ามาร์คกับแจฮยอนเป็นแฟนกัน เพราะพักหลังๆ มานี้ ทั้งสองคนเองก็ไม่ได้ปกปิด แต่ก็ไม่ได้บอกอะไรกับเพื่อนๆ จนกระทั่งเป็นแฮชานเองนี่แหละที่เป็นคนมาถามเขาในช่วงที่กำลังทำแล็ปโปรเจกต์กันอยู่


    “มาร์ค มึงเป็นแฟนกับเจย์ป๊ะ กูถามจริงๆ”


    ตกใจแทบทำปีเปตหลุดมือ แต่ว่ามันแพงก็เลยกำไว้แน่นมาก


    “ก็...เออแหละ” ตอบเสียงเบาตลอด


    “นานยัง”


    “ไม่นานนะ” พยายามทำให้เหมือนกับว่าเรากำลังพูดคุยกันในเรื่องปกติ ทั้งที่จริงๆ ไม่ต้องมองกระจกก็รู้แล้วว่าคงแดงไปทั้งหน้าแล้วตอนนี้


    “เหรอ” แฮชานยิ้มพลางจดข้อมูลลงในสมุดบันทึกแล้ววางปากกาลง “ถ้าเป็นไอ้นี่กูก็ว่าโอเคนะ”


    “ทำไมอะ”


    “กูเป็นห่วงมึงนะก่อนหน้านี้ กูไม่คิดว่ามึงจะมีใครเข้ามาจีบได้เลย เจย์มันก็ดีนะ กล้าดี” หัวเราะพรืดทางจมูก “แต่ก่อนมึงนิ่งมากอะ กูยังคิดเลยใครจะมาเป็นเพื่อนมึง”


    “ก็พวกมึงไง”


    “ก็นั่นมันเพราะกูรู้จักมึงแล้วดิวะ เนี่ย แต่พอมึงเริ่มรู้จักพวกกู ก็ร่าเริงขึ้น มึงก็น่ารักขึ้น เดี๋ยวอีกหน่อย คงจะมีคนมาจีบมึงเยอะขึ้นอีกอะ”


    “กูมีแฟนแล้วน่า”


    “วุ้ย เหมงฟามรัก กูไปเก็บสารละ มาถามแค่นี้แหละ จะได้เอาไปบอกต่อ” เอาปากกาเคาะหัวมาร์คเบาๆ


    แล้วทุกคนในกลุ่มก็รู้...


    --


    หลังจากทานข้าวกันเสร็จก็แยกย้าย คนที่เหลือกลับบ้านกันหมดเพราะเป็นวันสุดท้ายของสัปดาห์ที่ตอนบ่ายไม่มีเรียน


    ส่วนมาร์คที่อยากกลับ แต่กลับไปก็คงไม่มีใครอยู่เพราะพ่อแม่ไปเที่ยวต่างจังหวัด เพิ่งวิดีโอคอลให้กำลังใจกันไปเมื่อเช้านี่เอง ส่วนน้องก็กำลังยุ่งกับการเตรียมสอบ ถ้าเขาไปก็จะเป็นการกวนกันเปล่าๆ


    นั่งถอนหายใจทิ้งในระหว่างนั่งรอแจฮยอนเคลียร์งานโปรเจ็กต์ที่คณะของตัวเองจนเผลอหลับไปในห้องสมุดเพราะความอ่อนเพลีย


    แล้วสะดุ้งตื่นเพราะแฟนมาสะกิด แล้วเดินไปขึ้นรถเพื่อกลับหอพัก


    “หิวยัง เมื่อเที่ยงกินนิดเดียวเองหนิ” คนตัวสูงเอ่ยถาม


    มาร์คพยักหน้า “หิว” เพราะเมื่อกลางวันมัวแต่อิ่มอกอิ่มใจ


    อีกฝ่ายหัวเราะเบาๆ ก่อนจะโอบไหล่คนตัวเล็กให้มาใกล้กัน “งั้นอยากกินอะไรเป็นพิเศษมั้ย ฉลองหน่อย”


    เงียบไปสักพักเพราะใช้ความคิด “ตามสั่งหน้าหอละกัน ง่ายๆ อยากขึ้นไปนอนเล่นกะแฟนละ” เอียงหัวเข้าไปซบไหล่ ไม่ได้อ้อนแฟนแบบนี้มาพักใหญ่ๆ แล้ว


    แจฮยอนหันเข้ามาหอมผมนิ่มๆ ของคนตัวเล็กข้างตัว “ระวังไม่ได้แค่นอนเล่นนะครับคุณ”



    ก็ไม่ได้นอนเล่นจริงๆ นั่นแหละ


    เพราะตอนนี้ มาร์คกำลังนั่งรถกลับบ้านไปกับแจฮยอน...


    แม่ง แค่แฟนตัวเองโม้ว่าขับรถจากบ้านเขาไปไม่ถึงยี่สิบนาทีก็เป็นทะเล มาร์คก็โดนแจฮยอนซื้อไปเรียบร้อย


    #มาร์คลีเป็นคนง่ายๆ


    หลังจากทานข้าวเย็นตอนบ่ายแก่ๆ มาร์คเลยแค่กลับห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วเอาชุดสักสามสี่ชุดใส่กระเป๋าแล้วก็ออกเดินทางก่อนที่รถจะติดในช่วงเย็นวันหยุดสุดสัปดาห์


    มูมินนอนอยู่บนตักของแจฮยอน ตื่นขึ้นมาดูทางบ้างเป็นครั้งคราว คงเพราะรู้สึกว่าแปลกที่


    แถมตอนแวะเติมน้ำมัน ยังทำหน้าเหมือนตกใจเด็กปั๊มที่มาเช็ดกระจกให้อีกต่างหาก ทำเอาเหล่ามนุษย์ขำไม่หยุดที่เจ้าแมวลุกขึ้นยืดตัวดูอย่างตระหนกตกใจก่อนจะย้ายมานั่งที่ตักมาร์ค ซึ่งสามารถเกาคางหรือลูบหัวให้ตัวมันได้ เพราะทาสอย่างแจฮยอนในตอนนี้ทำหน้าที่เป็นคนขับรถอยู่


    แจฮยอนคุยโทรศัพท์กับคนที่บ้าน บอกว่าอีกไม่นานน่าจะถึง


    แล้วก็อีกไม่นานจริงๆ หลังจากเข้าตัวเมืองไปเล็กน้อย รถก็หยุดลงที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง ขนาดปานกลาง แล้วประตูก็เลื่อนออกโดยอัตโนมัติ


    หลังจากลงจากรถ มาร์ครู้สึกได้ถึงลมทะเลพัดเข้าปะทะใบหน้า หลับตาและสูดกลิ่นไอของทะเลเข้าไปเต็มปอด


    ฟอด


    “อย่ามาทำตัวน่ารัก นี่ยังไม่ได้นอนเล่นกันเลยนะรู้ยัง” แจฮยอนแอบหอมแก้มแฟนเข้าไปฟอดใหญ่ ก่อนจะโดนกำปั้นของมาร์คทุบแขนคืนแทบจะทันที โทษฐานลวนลามโดยไม่ได้รับอนุญาต


    คนตัวสูงอุ้มมูมินไว้ด้วยมืออีกข้าง สะพายกระเป๋าของมาร์คไว้ที่ไหล่และจับมือแม่ของมูมินเข้าไปในตัวบ้านด้วยกัน


    โดยมีหญิงวัยกลางคนท่าทางใจดีรีบวิ่งออกมาต้อนรับ


    “มาไม่บอกไม่กล่าวเลยนะ แม่ไม่ได้เตรียมอะไรไว้รอเลย เป็นไงบ้างลูก สบายดีมั้ย” โผเข้ากอดมาร์ค หอมแก้มซ้ายขวา


    แขกของบ้านมองแจฮยอนหน้าตาเหรอหรา แต่กลับเห็นอีกคนหน้าตาเหวอกว่า ที่แม่ของตัวเองกลับไปกอดแฟนของลูกชายตัวเองเสียก่อน


    แม่... นี่ลูกไง


    มาร์คหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นแม่ของแจฮยอนรับมูมินเข้าไปฟัดก่อนถึงจะเข้ามาหยิกแขนลูกชาย น่าจะตำแหน่งเดียวกับที่เขาทุบไปก่อนหน้านี้


    “พ่อล่ะครับ”


    “พ่อออกไปดูงานต่างจังหวัด กลับวันนี้แหละ นี่ ไอ้ตัวใหญ่ กว่าจะพาแฟนมาบ้านนะ”


    “โถ่แม่ ก็ทำโปรเจ็กต์อยู่ไง นี่ก็พามาแล้ว จะบ่นอะไรอีก” โอดครวญด้วยน้ำเสียงอิดออด


    “เถียงเหรอ เดี๋ยวเถอะ ไม่รักแม่เลยใช่มั้ยล่ะถึงได้ไม่มาหากันน่ะ”


    มาร์คพอจะรู้แล้วว่าแจฮยอนและมูมินได้นิสัยขี้งอนมาจากใคร


    “แฮ่ รักสิครับแม่” คนตัวสูงโอบเอวผู้เป็นมารดา หอมแก้มเสียฟอดใหญ่ “นี่ไงเอามูมินมาหา”


    “ให้มันจริงเถอะ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงเง้างอน ก่อนจะคว้าแขนมาร์คให้เดินตรงไปที่ครัว แล้วพูดกับเขาว่า “นี่หนูมาร์ค แม่เตรียมอาหารไว้เยอะเลย เห็นตาเจย์บอกว่าเพิ่งทำสัมมนาเสร็จเหรอลูก ไม่มีเวลากินข้าว ผอมแย่แล้ว ดูสิ”


    แล้วก็บ่นยาวเหยียดว่าลูกชายตัวเองดูแลเขาไม่ดี และสิ่งที่มาร์คทำได้ก็แค่ยิ้มแหะๆ ให้กับเธอเท่านั้น


    ทั้งที่แม่ของแจฮยอนเจอเขาแค่ครั้งเดียว และเขาเองก็ไม่ใช่คนที่เข้าหาผู้ใหญ่ได้ดีขนาดนั้น แต่กลับเอ็นดูเขาหนักมาก


    และอาหารของคุณแม่แจฮยอนอร่อยทุกอย่างจริงๆ มาร์คไม่ได้กินอาหารเยอะขนาดนี้มาพักหนึ่งแล้ว


    แจฮยอนและมาร์คช่วยกันล้างจาน ก่อนจะขอตัวพาผู้มาเยือนไปเที่ยวชมทะเลยามดึก


    นั่งรถไม่นานอย่างที่บอกจริงๆ พอมาถึง น้ำมันก็ขึ้นสูงซะแล้ว ทั้งสองจอดรถไว้ที่ข้างทาง นั่งพิงที่กระโปรงหน้ารถ หันหน้าเข้าหาทะเลสีเข้มสะท้อนกับท้องฟ้ายามค่ำคืน


    “เราไม่เคยรู้เลยว่าบ้านเจย์จะใกล้ทะเลขนาดนี้”


    “ทำไม ถ้ารู้จะมาตั้งนานแล้ว งี้อ่อ”


    ไม่ตอบ หัวเราะแก้เขินไปเรื่อยเปื่อย ก่อนที่ร่างสูงจะถามขึ้น “เอาเบียร์มะ”


    “ได้” ก็ดีเหมือนกัน ไม่ได้กินนานละ


    “งั้นนั่งรอนี่นะ เดี๋ยวไปซื้อมาให้”


    มาร์คพยักหน้ารับ มองตามแจฮยอนที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งไปซื้อเบียร์จากร้านสะดวกซื้อ นั่งรับลมทะเลแบบนี้ก็ดี ถือเป็นการผ่อนคลายไปอีกแบบหลังจากผ่านอะไรเครียดๆ มานาน


    เขารู้สึกโชคดีมากๆจริงๆที่เจอกับคนข้างห้องที่กลายมาเป็นแฟนที่โคตรจะดี เป็นเพื่อน เป็นระยะปลอดภัย เป็นทุกอย่างที่มาร์คอยู่ด้วยแล้วสบายใจ


    แจฮยอนเดินกลับมาพร้อมเบียร์หลายกระป๋อง ยื่นมันมาให้มาร์ค แถมเปิดให้แล้วเรียบร้อย มาร์ครับมาพร้อมกล่าวขอบคุณ


    เบียร์หมดไปกระป๋องแล้วกระป๋องเล่า ทั้งที่บทสนทนาดูซึ่งดูน่าไม่น่าสนใจหลุดออกมาจากปากเขาทั้งสองอยู่เรื่อยๆ แต่บรรยากาศรอบตัวเขาทั้งสองกลับไม่ได้น่าเบื่อเลยแม้แต่น้อย


    มาร์คเอนตัวพิงเข้ากับแจฮยอน “ขอบคุณมากนะ”


    “ทำไมล่ะ” เอียงหัวของตัวเองให้ซบเข้ากับศีรษะของอีกคน “อะไรกัน อยู่ดีๆ มาบอกขอบคุณ เมาเหรอ”


    “ถ้าไม่มีเจย์ เราคงต้องนั่งเหงาอยู่คนเดียวเพราะเพื่อนกลับบ้านกันหมด”


    เขายิ้ม คงเมาแล้วแหละ เพราะเจย์รู้แล้วล่ะว่าพอมาร์คมีแอลกอฮอล์อยู่ในเลือดแล้วมักจะพูดแค่ความจริงออกมาเสมอ


    “ถ้าไม่มีเจย์ สัมมนาครั้งนี้เราคงเครียดมาก คงไม่มีใครพาไปกินข้าวตอนดึกๆ คงไม่มีมูมินให้เล่นแก้เครียด ไม่มีใครบอกฝันดี ส่งเราเข้านอน ไม่มีใครลูบผมจนเราหลับ”


    “...”


    “เราชอบที่เจย์ดูแลเราแบบนี้”


    “ทำไมวันนี้โรแมนติกจัง หืม” โอบไหล่คนตัวเล็กให้เข้ามาใกล้ตัวเองมากขึ้นอย่างที่ชอบทำอยู่เป็นประจำ


    “เมามั้ง” มุดหน้าเข้ากับแผงอกของแฟนตัวเอง


    เออ เขินมันก็มุดมันนี่แหละ ง่ายดี


    แจฮยอนหัวเราะ “รักนะครับ”


    “ไอ้บ้าเอ๊ย” ปากเล็กบ่นมุบมิบ เหมือนจะสบถกับตัวเองเสียมากกว่า เพราะเขินจนเสียจริตไปหมดแล้ว แต่ก็ยอมตอบกลับไปว่า “รักเหมือนกัน”


    --


    เอาไปเท่านี้ก่อนน้า อยากลงแล้วอะ ไม่ได้มาต่อนานมากเราขอโทษ ฮือๆ คิดถึงทุกคนเลยยย
    เดี๋ยวมาต่ออีกนะ ไม่น่าจะนานเท่าเดิมแล้ว คิดไม่ออกอะ เพราะนี่เป็นฟิคด้นสดของเราเอง ก๊ากๆ
    ไม่ได้ทิ้งนะคะ แต่พอมีงานประจำแล้วมันก็ค่อนข้างยากที่จะมานั่งปล่อยความคิดให้โลดแล่นอะไรแบบนั้น 55555555
    พล็อตใหม่ของเรามีเป็นล้านเลยแหละ แต่เขียนไม่ออกอะ ไม่เก่ง ;-; จะพยายามเข็นมันออกมาให้ทุกคนได้อ่านกันนะคะ

    มีแท็กแล้วน้า #มูมินของแจมาร์ค หวีดในทวิตเตอร์กันก็ได้เน้อ แต่เม้นด้วยก็ดีนะคะ อยากได้ฟีดแบ็คไปพัฒนาตัวเอง มาเป็นกำลังใจให้เราด้วย มันเป็นสิ่งที่ทำให้เราอยากเขียนต่อไปอะ ช่วยๆ กันเนอะ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×