คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : -05- The Lost Cat
-05-
The Lost Cat
--
http://xmas-present.tumblr.com/
ตอนสายของวันหยุดฤดูหนาว
เสียงเคาะประตูรัว ๆ ปลุกให้มาร์คตื่นและลุกจากที่นอน
แล้วเดินงัวเงียไปเปิดประตูเพื่อดูว่าใครมารบกวนเวลานอนในวันหยุดสุดสัปดาห์อันแสนสบายของเขาหลังจากที่เพิ่งจะหายจากอาการไข้มาหมาด
ๆ ก็คงเป็นใครไปไม่ได้หรอกนอกเสียจาก...
“มาร์คเห็นมูมินรึเปล่า”
ยังไม่ทันที่มาร์คจะได้ตอบรับ
ก็ถูกแจฮยอนป้อนคำถามมาให้ด้วยน้ำเสียงร้อนรนบวกกับหน้าตาที่ดูเคร่งเครียด
คนถูกถามใช้เวลาให้สมองได้ประมวลผลอยู่สักพักเพราะเพิ่งตื่นและตกใจกับสีหน้าที่ดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ของคนตัวสูงตรงหน้า แล้วเริ่มหันกลับไปมองรอบ ๆ ห้องของตัวเองเพื่อหาแมวที่หายไปของคนห้องข้าง ๆ
“เรา...ไม่รู้อะ พอดีเพิ่งตื่น” มาร์คตอบพลางขยี้ตาเพื่อแก้ง่วง ซึ่งมันไม่ได้ช่วยอะไร
ก่อนจะชักข้อมือที่จับลูกบิดอยู่ให้เข้าหาตัว เพื่อเปิดประตูให้กว้างขึ้นพอที่จะให้อีกคนเข้ามา “เข้ามาก่อนก็ได้
ไม่รู้ว่าอยู่รึเปล่านะ เดี๋ยวเราลองช่วยหา”
แจฮยอนเดินเข้ามาก่อนจะมองหาไปรอบ
ๆ ห้องนั่งเล่น เอ่ยปากเรียกชื่อเจ้ามูมินเบา ๆ มาร์คเดินเตาะแตะเข้าไปดูในส่วนของห้องนอนและห้องน้ำ แต่ก็พบว่าไม่มี
“ในนี้ก็ไม่มีนะ” มาร์คตะโกนออกมาจากห้องครัวที่เขาเพิ่งเข้าไปดู
แจฮยอนมีสีหน้าเป็นกังวลอย่างชัดเจน
มาร์คพอได้เห็นสีหน้าแบบนั้นของแจฮยอนก็เดินออกมาหาแล้วลูบเข้าที่ต้นแขนของอีกคนอย่างปลอบประโลม “ใจเย็นก่อนนะ”
แจฮยอนพยักหน้า
ก่อนจะเพิ่งรู้สึกตัวว่าตัวเขาเข้ามารบกวนการพักผ่อนของเพื่อนห้องข้าง ๆ
“เพิ่งตื่นเหรอ”
“ก็…”
“ขอโทษนะ ไปนอนต่อเถอะ
เพิ่งหายไข้ด้วย เดี๋ยวเราออกไปหามูมินต่อเอง”
“เฮ้ย ไม่เป็นไร
เราตื่นแล้วแหละ ดีขึ้นมาก ๆ
แล้วด้วย” พูดพลางเอามือจับหน้าผาก
และรู้สึกว่ามันเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้วก็พยักหน้าเพื่อเพิ่มความแน่ใจอีกที “เจย์ได้ไปถามห้องอื่นมารึยัง”
“ยังเลย” อีกฝ่ายตอบพร้อมส่ายหน้า
“งั้นเอางี้...เจย์ลองไปถามห้องอื่น
ๆ ก่อน เดี๋ยวเราเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จจะออกไปช่วย โอเคมั้ย”
เพราะชุดในตอนนี้ของมาร์คคือชุดนอนที่เขาสวมใส่อยู่เป็นประจำ
เสื้อกล้ามและกางเกงขาสั้น ซึ่งเขาเองก็คิดว่ามันดูจะไม่เหมาะสมสักเท่าไหร่กับการเดินออกตามหาแมวหายด้วยเสื้อผ้าแบบนี้ในฤดูหนาว
เป็นไข้อีกก็ไม่สนุกแล้วนะ ถึงจะมีคนดูแลดีมาก ๆ ก็เถอะ
“เอางั้นก็ได้” แจฮยอนตอบก่อนจะเดินออกจากห้องไป
ส่วนมาร์คก็รีบแปรงฟัน ล้างหน้าและเปลี่ยนเสื้อผ้าแบบติดสปีดราวกับว่าวันนี้เขาตื่นสายแล้วกำลังจะมีควิซก่อนเรียนในอีก 20 นาทีต่อจากนี้
เมื่อทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อย
เขาก็เห็นอีกฝ่ายเดินคอตกกลับมาหาเขาที่ห้อง
“เป็นไงบ้าง”
อีกคนส่ายหัวแทนคำตอบ
มาร์คซึ่งก็เริ่มเป็นกังวลขึ้นมาบ้างแล้วก็ถามคนตรงหน้าต่อ “ในห้องก็หาดีแล้วใช่ปะ”
“หาหมดทุกที่แล้วนะ
เรียกก็ไม่ออกมา”
“เสียงกระดิ่งก็ไม่ได้ยินเลยเหรอ”
“ประเด็นคือเราเพิ่งถอดออกไปทำความสะอาดพอดีน่ะสิ”
แจฮยอนตอบก่อนจะใช้ปลายนิ้วกดนวดเข้าที่เบ้าตาของตัวเองพร้อมกับถอนหายใจยาว
ๆ มาร์คจึงดึงแขนอีกคนให้เข้ามาที่โซฟาในห้องของตัวเองก่อนจะกดไหล่กว้างให้นั่งลงพร้อมกับกล่าวว่า “นั่งพักก่อนนะ
เดี๋ยวหาอะไรมาให้กิน ยังไม่ได้กินอะไรเลยใช่ไหม”
แจฮยอนนั่งลงแล้วพยักหน้าอย่างงง
ๆ มองตามเจ้าของห้องที่หายเข้าไปในครัว
ก่อนจะเดินออกมาพร้อมกับช็อคโกแลตร้อนสองแก้ว
“กินก่อน
แล้วค่อย ๆ คิด”
มาร์คบอกพร้อมกับยื่นแก้วอีกใบหนึ่งให้เขา
ก่อนจะเดินมานั่งลงข้าง ๆ กันแล้วนั่งจิบเครื่องดื่มในมือไปพลาง
แอบมองคนข้างตัวที่แมวหายไปพลาง
แจฮยอนยังคงถือแก้วช็อคโกแลตร้อนไว้ในทั้งสองมือ
ใช้ปลายนิ้วเรียวไล้ไปตามขอบปากแก้วอย่างใจลอย
แน่ล่ะ
แมวหายไปทั้งตัวขนาดนี้นี่นา ก็คงไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรสักอย่างหรอก ถ้ามูมินเป็นแมวของมาร์ค
เขาก็คงจะมีสภาพแบบนี้ไม่ต่างกัน เผลอ ๆ คงไม่หยุดเพื่อนั่งดื่มช็อคโกแลตร้อนกับเขาแบบนี้หรอก
มาร์คเลยเริ่มถามหาเบาะแสต่าง
ๆ คนตัวสูงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ
“เจย์รู้ว่ามูมินหายไปตอนไหนเหรอ”
“ปกติมูมินจะมาปลุกตอนเช้า
ให้เราเกาคางให้...”
มาร์คพยักหน้า
นึกภาพตามว่าแจฮยอนที่งัวเงียเพิ่งตื่นเพราะต้องมานั่งเกาคางกลม ๆ
ให้เจ้าแมวขาวขนฟูในตอนเช้า พยายามกลั้นยิ้มให้กับความน่ารักของมูมินและเจ้าของ
เขาเคยเห็นแล้วนี่ และใช่ มันน่ารักมากทีเดียว
แจฮยอนเริ่มเล่าต่ออย่างเหม่อลอยเหมือนกับไม่รู้ตัว “แล้วก็จะมากินน้ำที่ก๊อกน้ำตรงอ่างล้างมือ
ตอนที่เราแปรงฟัน...แต่...”
“แต่ก็ไม่มี?” มาร์คช่วยต่อประโยคของอีกฝ่ายให้จบ แจฮยอนพยักหน้า “แล้วเมื่อคืน มันนอนอยู่กับเจย์ใช่มั้ย”
แจฮยอนพยักหน้าอีกครั้ง
ก่อนจะมองหน้ามาร์คแล้วตอบคำถาม “ใช่ มูมินก็นอนกับเราเหมือนปกตินะ”
“แล้วปกติมูมินเคยหายไปนาน ๆ รึเปล่า” มาร์คถามต่อ เพราะเขาไม่ค่อยรู้เรื่องราวที่เกี่ยวกับมูมินหรือแจฮยอนเท่าไหร่นัก
ปกติแล้วเขาจะเห็นมูมินก็ต่อเมื่อเจ้าเหมียวตัวนั้นมาหาเขาเอง ซึ่งก็บ่อยมาก ๆ ด้วย
แล้วแจฮยอนก็จะมารับกลับไปหรือไม่ตัวเขาก็อุ้มไปส่ง เป็นแบบนี้มาตลอด
นี่เป็นครั้งแรกที่แจฮยอนมาเคาะประตูห้อง
แล้วเจ้ามูมินไม่อยู่ในห้องของมาร์คเพื่อส่งคืนให้กับเจ้าของ
“ไม่เคยเลย ปกติมูมินไม่ใช่แมวที่ชอบออกไปเที่ยว” แจฮยอนตอบ
ก่อนจะมองหน้ามาร์คแล้วยิ้มออกมาบาง ๆ แล้วพูดต่อ “ยกเว้นมาที่ห้องนาย”
มาร์ครู้ว่าตัวเองต้องทำหน้าตาเหรอหรามากแน่
ๆ เพราะเขาเห็นสีหน้าของตัวเองที่สะท้อนในดวงตาของแจฮยอน ทั้ง ๆ
ที่เขาเองก็คิดว่าตัวเองสนิทกับแจฮยอนขึ้นมากแล้ว และคำพูดเมื่อครู่ก็ไม่น่าเขินเลยแม้แต่น้อย
แต่ความประหม่าที่มีก็ไม่ได้หมดไป แถมมันยังเพิ่มมากขึ้นด้วยเมื่ออีกคนเหมือนจะดูใส่ใจเขามากขึ้นเป็นพิเศษตั้งแต่ช่วงที่มาร์คไม่สบายเมื่อหลายวันก่อน
มาร์คก็พอจะดูออกแล้วว่าคนที่อยู่ข้างห้องของเขาคนนี้ก็คงจะคิดอะไรกับเขาที่เกินธรรมดาขึ้นมาบ้าง
แต่ก็ไม่รู้ว่าจะมากหรือน้อยแค่ไหน ก็รู้สึกดีที่อีกคนมาคอยดูแลหรืออยู่ใกล้ ๆ
กันแบบนี้น่ะนะ
เพื่อนกันที่ไหนจะมาวอแวกันขนาดนี้วะ
แล้วเพื่อนกันที่ไหนอีกนั่นแหละจะยอมให้วอแวกันขนาดนี้...เข้าตัวเองล้วน
ๆ เลยว่ะมาร์คลี
แจฮยอนเห็นสีชมพูที่แก้มและใบหูของมาร์คจากคำพูดที่เจ้าตัวพูดออกไป
ซึ่งมันสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน และแจฮยอนก็คิดว่ามันน่ารักมากทีเดียว
“กินอันนี้ให้หมดก่อนนะ
เดี๋ยวเราออกไปหามูมินกัน” มาร์คเปลี่ยนเรื่องแล้วรีบหลบสายตาก่อนที่หน้าจะไหม้เพราะความเขิน
แล้วซัดช็อคโกแลตที่เหลืออยู่จนหมดแก้ว
แจฮยอนพยักหน้าเบา
ๆ ก่อนจะมองคนตามคนที่ลุกหนีเขาเข้าไปในห้องครัว
มาร์คที่กำลังล้างแก้วที่ใช้ไปเมื่อครู่อย่างใจลอย
พอเสร็จก็วางมันคว่ำไว้ตรงที่พักจาน ในจังหวะที่กำลังจะหันกลับไปที่ห้องนั่งเล่น
มาร์คก็ได้ยินเสียงกระซิบเข้าที่หู “กินเสร็จแล้ว”
ก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้
นอกจากเจ้าของแมวที่เพิ่งหายไปนี่แหละ
มาร์คชะงักการกระทำทั้งหมด ตัวแข็งทื่อ
เพราะเขาพอจะรู้สึกได้ว่ามันคงจะใกล้มาก แล้วพอหันไปมองหน้าแจฮยอนแบบระยะประชิด เขาพอจะรู้ว่าแจฮยอนหน้าตาดี
แต่เขาไม่คิดว่าอีกคนจะหน้าตาดี ‘ขนาดนี้’ ผมสีดำที่หยอกล้อกับประกายแสงแดดยามเช้าที่ลอดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างทำให้เขาเห็นว่ามันเป็นประกายสีน้ำตาลหน่อย
ๆ อีกทั้งยังไม่ได้ตั้งใจเซ็ทให้เป็นทรงและลู่ตกลงมาอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งมาร์คก็ชอบให้เป็นแบบนี้
จมูกโด่ง ริมฝีปากเรียวสีชมพูอ่อน...พร้อมกับดวงตาคมที่มาร์คเองก็อ่านไม่ออกว่าอีกคนกำลังคิดอะไรอยู่
แต่มันกำลังมองลงมาที่ริมฝีปากของเขา และนั่นทำให้มาร์คกัดปากด้วยความประหม่าอีกครั้ง
และใบหน้าของแจฮยอนก็กำลังเลื่อนเข้ามาใกล้กับใบหน้าของเขามากขึ้นเรื่อย
ๆ จนในที่สุดสายตาของมาร์คก็พร่ามัวเพราะใบหน้าของอีกคนอยู่ใกล้เกินกว่าที่สายตาจะโฟกัสแล้ว
ว่าแต่...ดวงตาคม
ๆ แบบนี้...แววตาแบบนี้...เขาเคยเห็นมันที่ไหนมาก่อนหรือเปล่านะ?
“เมี้ยว”
เสียงเรียกที่ไม่ใช่ทั้งของเขาและแจฮยอนดึงสติที่หลุดลอยไปของมาร์คให้กลับเข้าที่
เขาผงะถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว รู้สึกได้ว่าขาสะดุดอะไรบางอย่างที่นิ่ม ๆ
แล้วตัวเขาก็เสียสมดุลและล้มลงไปที่พื้น
“โอ๊ย!/แม้ว!”
สองเสียงดังขึ้นพร้อมกัน
เสียงแรกเป็นเสียงของเจ้าของห้องที่ตอนนี้ลงไปนั่งกองอยู่ที่พื้น
เสียงที่สองเป็นของแมวเจ้าปัญหาที่โผล่ออกมาจากไหนก็ไม่รู้แต่โดนมาร์คถอยหลังไปเผลอเตะอย่างไม่รู้ตัว
และตอนนี้ก็วิ่งหนีไปนั่งหลบอยู่ด้านหลังของเจ้าของ
แจฮยอนที่ไม่รู้จะสนใจอย่างไหนก่อน
มองทั้งแมวและมาร์คสลับไปมา แล้วเขาก็ตัดสินใจได้
“มาร์ค”
แจฮยอนย่อตัวลงให้อยู่ในระดับเดียวกับคนตรงหน้าที่นั่งก้นจ้ำเบ้าอยู่ที่พื้น
ก้มลงมองข้อเท้าข้างซ้ายที่มาร์คใช้ทั้งสองมือกุมไว้
แล้วเงยขึ้นเพื่อสังเกตสีหน้าของอีกฝ่าย ซึ่งเขาเองก็บอกไม่ถูกว่ามันคืออาการตกใจหรือเจ็บปวดกันแน่
หรืออาจจะทั้งสองอย่างรวมกัน
“เป็นอะไรไหม”
แจฮยอนถาม
มาร์คในตอนแรกที่เหมือนจะส่ายหน้าปฏิเสธ แต่แล้วก็หยุด ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ
แล้วตอบกลับเสียงสั่น
“คงข้อเท้าพลิกน่ะ”
มาร์คบอก “เราเป็นบ่อย ไม่เป็นไรหรอก”
“...”
“แต่ก็เจอมูมินแล้วนะ”
“ช่างมูมินก่อนเถอะ แล้วลุกไหวไหม”
มาร์คพยักหน้าให้แจฮยอนเป็นคำตอบ
แต่สีหน้าที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยแน่ใจซึ่งขัดแย้งกันนั้นทำให้แจฮยอนหัวเราะออกมาเบา
ๆ
“ขอโทษนะ” ที่หัวเราะ “แต่ให้เราช่วยเถอะ”
แจฮยอนเอ่ยยิ้ม
ๆ ก่อนจะจับมือและพยุงมาร์คให้กลับไปนั่งที่โซฟาตรงกลางห้อง
แอบเห็นใบหูของคนข้อเท้าพลิกกลายเป็นสีชมพู
เขินเหรอ...
เขินเขารึเปล่านะ?
“ขอบคุณมากนะ”
มาร์คตอบในระหว่างที่นวดข้อเท้าของตัวเองเบา
ๆ เจ้ามูมินก็เดินเข้ามามองมนุษย์ทั้งสองที่นั่งอยู่ตรงโซฟา
ถูกยกขึ้นมานั่งบนตักของเจ้าของ
“ไอ้แมวตัวแสบ
ขอโทษมาร์คเลย”
แจฮยอนไม่พูดเปล่า
เขาจับมือ(หรือขาหน้า)ของมูมินเข้ามาประกบอุ้งเท้ากันให้เหมือนพนมมือเพื่อเป็นการขอโทษ
และนั่นทำให้มาร์คหลุดขำออกมา
“ขอโทษทำไม”
“ก็มูมินทำให้มาร์คเจ็บขานี่
ถ้าไม่สะดุดก็ไม่เป็นไรใช่ไหมล่ะ”
“แต่มันทำให้เราเจอมูมินนะ” มาร์คเถียง
“แต่มันก็ไม่ควรต้องเจอเพราะสะดุดรึเปล่าล่ะ” แจฮยอนเถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้
แล้วทั้งคู่ก็หัวเราะออกมา
“ต้องประคบอะไรหรือทำอะไรรึเปล่า”
แจฮยอนถามในระหว่างมองมาร์คที่กลับมานวดข้อเท้าอีกครั้ง
คนนวดข้อเท้าอยู่ก็เงยหน้าขึ้นมาตอบตาแป๋ว
“ปกติก็ต้องประคบนะ แต่ไม่ต้องก็ได้ เดี๋ยวก็หาย”
“เป็นบ่อยที่ว่านี่เป็นบ่อยขนาดไหนเหรอ”
“ก็... เดินอยู่เฉย ๆ
แล้วพลิกก็มีนะ” มาร์คตอบกลั้วหัวเราะ เหมือนกับมันเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาเป็นอยู่บ่อย
ๆ ซึ่งมันก็เป็นอย่างที่เขาว่าจริง ๆ “เราเคยเอ็นข้อเท้าฉีกสมัยเด็ก
ๆ น่ะ หลังจากนั้นก็ข้อเท้าพลิกอยู่บ่อย ๆ เลย
แต่พอไม่เป็นก็เหมือนไม่เคยเป็นอะไรมาก่อน พอได้เป็นก็พลิกถี่เลยแหละ”
แจฮยอนพยักหน้ารับรู้
ก่อนจะก้มหน้าพูดเสียงอ่อย ๆ อย่างสำนึกผิด “ขอโทษนะ”
“ไม่เป็นไรหรอก”
มาร์คยิ้ม เอียงคอลงเล็กน้อยเพื่อให้เห็นสีหน้าของแจฮยอนที่ยังคงก้มอยู่
และพูดย้ำอีกครั้งเพื่อให้อีกคนสบายใจได้ “จริง ๆ นะ เดี๋ยวมันก็หาย
มันไม่ได้พลิกมากขนาดนั้นหรอก”
“...”
“จริง ๆ” มาร์คย้ำ
“วันหลังเราขังมูมินดีกว่า
จะได้ไม่ต้องมารบกวนมาร์คด้วย--”
“เฮ้ย เจย์จะขังมูมินทำไม” มาร์ครีบละล่ำละลักพูดขัดคนตัวสูง
“ก็...มันชอบเข้ามากวน...แถมยังมาร์คเพิ่งหายไข้อีก”
เอาจริง ๆ ก็ตกใจเหมือนกันที่อยู่ ๆ
มาร์คถึงได้ดูเป็นเดือดเป็นร้อนแทนแมวที่อยู่ในการดูแลของเขาเองมากขนาดนี้
“มูมินไม่ได้กวนเราเลย
แล้วเจย์เคยปล่อยน้องตลอด ขังไว้มีแต่จะทำให้เครียดเปล่า ๆ นะ ไม่ดีหรอก
แล้วเราว่าก็ดีซะอีกที่ให้มูมินมาเล่นกับเรา เราจะได้เจอเจ--”
มาร์คตาโต
เม้มปากแน่น เมื่อรู้สึกได้ว่าตัวเองพูดมากเกินไปแล้ว แจฮยอนเงยหน้าขึ้นมาเพราะเขาอยากรู้ว่าอีกคนจะพูดอะไรต่อ แต่พอเห็นริมฝีปากบาง ๆ นั่นเม้มแน่นก็ยิ้มน้อย ๆ
“ดีเหรอ”
“ก็...ดี...ใช่
มูมินมาหาก็ไม่เหงาดีนะ”
เป็นการตอบที่เหมือนจะพึมพำกับตัวเองเสียมากกว่า
เพราะคราวนี้กลายเป็นมาร์คที่ก้มหน้าและไม่กล้าสบตาแจฮยอนแทน
“เหรอ”
รอยยิ้มที่ส่งมาให้เจ้าของห้องตอนนี้
เป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ สายตาที่จ้องมาที่เขามันมีประกายระยิบระยับอะไรสักอย่างที่มาร์คเองก็ไม่เคยจะเดาถูก
ก็เหมือนกันกับแมวของแจฮยอนนั่นแหละ
“ก็ดีน่ะสิ”
“มาร์ค...ว่าจะถามมานานแล้ว” แจฮยอนเปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจังอีกครั้ง
น้ำเสียงที่ใช้ถามก็จริงจังไม่แพ้กัน ขยับท่าทางมานั่งขัดสมาธิหันหน้าเข้าหามาร์ค
จนทำให้มาร์คที่จากนวดข้อเท้าเบลอ ๆ อยู่ก็หยุดแล้วนั่งท่าแบบเดียวกัน ยืดหลังตรง
หันหน้าเข้าหาแจฮยอนเพื่อเตรียมรับมือกับคำถามที่อีกคนจะถามต่อจากนี้ว่า...
“มีแฟนรึยังอะ”
มาร์คจ้องหน้าคนถาม ตากลม ๆ นั่นกะพริบตาปริบ ๆ
ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาเสียงดัง
“ฮ่า ๆ รู้จักกันมาตั้งนาน ไม่น่าถามนะ” พูดไปหัวเราะไป “โสดดิเฮ้ย”
“งั้นเราจีบนะ”
คนที่หัวเราะค้างอยู่หยุดทันที...ไม่คิดมาก่อนว่ามันจะต่อมาทางนี้ ยอมรับว่าพอแจฮยอนพูดแบบนี้ก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน
เออ แต่ก็ตรงดีนะ
แต่แม่งตรงไปมั้ยอะ ฮืออ ตกใจ
“แบบนี้เลยเหรอ”
“เออแบบนี้แหละ” แจฮยอนพูดยิ้ม ๆ ยิ้มจนตาปิด ซึ่งมันเป็นรอยยิ้มที่มาร์คแพ้มาตลอด
รอยยิ้มที่สว่างเจิดจ้าจนตาพร่าเนี่ย “ว่าไง”
“เราคิดว่าที่ผ่านมานี่จีบมาตลอดซะอีก”
คิดแบบนั้นจริง ๆ ตอนตัวเขาไม่สบายนี่โคตรชัดเลย แต่ตอนนั้นเขาก็พยายามไม่เข้าข้างตัวเองจนมากเกินไป แต่แจฮยอนก็ดูแลเขาจนเกินพอดีไปจริง ๆ พอได้ยินอีกคนพูดมาขนาดนี้แล้วก็แสดงว่าคงคิดตรงกันแล้วแหละ
“ก็เป็นช่วงทดลองไง หยอด ๆ ไปก่อน” แจฮยอนยังคงยิ้ม แต่ขยับตัวเข้ามาใกล้อีกคนมากขึ้นจนหัวเข่าของทั้งคู่ชนกัน
พูดพลางยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ๆ “แต่คราวนี้ของจริงนะ”
คนโดนโจมตีเอนตัวไปทางด้านหลังเล็กน้อย ยอมรับจากใจเลยว่าพอเป็นแจฮยอนทีไร
ไม่ว่าอีกคนจะพูดตรง ๆ หรือพูดอ้อม ๆ แค่ไหนมาร์คก็ไม่เคยชินกับมันเสียที
แต่ครั้งนี้จะลองทำตามที่ใจอยากดูบ้างแล้วกัน
มาร์คยิ้ม ก่อนที่ปากเล็ก ๆ นั่นจะขยับพูดเป็นเชิงท้าทาย “จีบให้ติดแล้วกัน”
ปากเก่งพูดไปแบบนั้น ทั้งที่จริง ๆ ใจมันไม่ได้อยู่ที่มาร์คตั้งแต่ที่แจฮยอนมารับมูมินกลับไปครั้งแรกแล้วแหละ
--
สวัสดีปีใหม่ค่ะทุกคน
ก่อนอื่นเลย กราบขอโทษที่มาช้าค่ะ พอดีสัปดาห์สุดท้ายของปีที่แล้วเราติดรับปริญญา ก็ยุ่งทั้งอาทิตย์เลย แถมมีงานเข้ามาก็เลยไม่ได้ว่างเขียนต่อเลยค่ะ ขอโทษมาก ๆ จริง ๆ ค่ะ อย่าลืมอย่าทิ้งไปนะ อยู่ด้วยกันกับเราและแจมาร์คมูมินก่อนน้า อาจจะนาน ๆ มาอัพทีเพราะช่วงนี้งานยุ่ง อดทนหน่อยนะคะ TT จบแน่นอน จบแน่นอน จบแน่นอน
พี่เจย์จะจีบมาร์คแล้วนะเออ แต่ก็ไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมมากหรอกค่ะ เดี๋ยวรอดูในตอนต่อไปก็ได้ (ซึ่งยังไม่ได้เขียน 55555555555555555555555555555)
เช่นเคยนะคะ สนุกหรือไม่สนุก พบเจอคำผิด หรือหลังอ่านแล้วรู้สึกยังไงรบกวนคอมเมนท์บอกเราได้เลยค่ะ จะได้ช่วยกันปรับปรุงเนาะ
โอยยาวเลย ไม่ต้องอ่านมากก็ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ
ความคิดเห็น