ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ❤ insane love รักนี้ไม่มีปกติ.

    ลำดับตอนที่ #3 : 2nd insane. 100%

    • อัปเดตล่าสุด 9 เม.ย. 52



    2

     

                เช้าวันที่สดใสของฉันก็ได้ถูกลบออกจากเมมโมรี่สมองของฉัน เนื่องจากตอนเช้ามืดนี้ฉันถูกปลุกด้วยเสียงอันก้องกังวานของหมอฟิลด์ -_-

                “ออกกำลังกายเหมือนกับออกกำลังสมองนะครับคุณพาว” นั่นแหละคือเหตุผลของการที่ฉันต้องตื่นตั้งแต่เช้ามืด แค่ออกกำลังกายฮึ่ม แค่ออกกำลังกาย!

                “ฉันไม่มีชุดออกกำลังกาย”

                “ผมใส่อะไร” เขาย้อนถามเขาก็ใส่แค่เสื้อยืดกางเกงขาสั้น เฮอะผู้ชายดูดีใส่อะไรก็ดี “เทคนิคดูดี ต้องคิดเสมอว่าตัวเองดูดี ^^

                “คิดจะดื่มน้ำ..ดื่มคริสตัล” นายเรนเจอร์โพล่งคิดและหันหน้าไปทางอื่น เขาอยู่ในชุดสบายๆ เหมือนกัน (หนูจะได้ค่าโฆษณามั้ย *O*)

                “ฉันนึกว่านายจะพูดเป็นแต่ ขบวนการโจ๋เรนเจอร์เอ้อเอ้อ

                “ผู้หญิงอะไร สวยก็ไม่สวยยังจะพูดจาไม่สวยอีก -_-^

                “ไอ้บ้า หล่อจริงเลยนะนายเนี่ย”

                “ขอบคุณที่ชม” ดูดู๊ดู ดูเขาทำ ทำไมเขาช่างกล้า

                “ฉันประชด -_-

                “เราจะออกกำลังกายโดยการวิ่งรอบสนามของโรงพยาบาลซึ่งอยู่ทางตึกเหนือหรือบริเวณตึก A นะครับ โดยเราก็จะจากตึกใต้หรือตึก E ที่เราอยู่นี่ไปยังสนามครับ หวังว่าคงทำได้นะ” ทำได้กับผีสิ วิ่งไปตึก A ที่ห่างกันเป็นโยชแล้วยังจะให้วิ่งรอบสนามที่กว้างพอๆ กับสนามฟุตบอลเนี่ยนะ -_-^^

                บ้าหรือเปล่า (วะ)

                “ทำไมไม่คิดจะให้ออกไปสูดอากาศหรือเปิดตาโลกภายนอกโรงพยาบาลบ้างล่ะ” ฉันท้วง ฉันอยู่โรงพยาบาลบ้านี่มาสี่ปีแล้วนะ ฉันยังไม่ได้ออกไปดูโลกภายนอกเลยว่ามันเปลี่ยนไปยังไงบ้าง TOT

                “เอถ้าอย่างนั้นก็ได้ครับ หวังว่าคุณคงไม่มีปัญหาใช่มั้ยคุณเรนเจอร์” ฟิลด์หันไปถามย้ำกับเรนเจอร์ซึ่งกำลังนั่งมองออกไปข้างนอกอย่างเพลินๆ แต่พอฟิลด์ถามเขากลับจ้องหน้าฟิลด์เขม็ง

                “ฉันไม่มีอะไรอยู่แล้ว” เรนเจอร์ตอบเสียงแข็ง แล้วเดินออกไปรอข้างหน้าตึก (หรือบ้าน)

                “โอ๊ะ...แต่จะว่าไป ผมคงต้องให้นี่กับคุณสองคน เพื่อเป็นการแน่ใจว่าพวกคุณจะไม่หนีไปไหนจากบริเวณที่ผมจะกำหนดให้”

                หมอฟิลด์ยื่นตัวชิพซึ่งมีขนาดเล็กๆ ไม่ใหญ่มากแล้วเข้ามารุ่มร่ามมาแปะที่ไหนสักที่ในตัวฉัน แตะนู่นแตะนี่หลายที่จัง มองไม่ทันเลย -_- แล้วหมอฟิลด์ก็ไปติดไอ้ตัวนั้นให้เรนเจอร์ต่อ เขาแปะมือไปทั่วๆ หลังของเรนเจอร์ และสุดท้ายเขาก็แปะเสร็จมองไม่ทันอีกแล้ว (._.)

     

                แฮก...แฮก..แฮกๆ =O=

                ไม่ได้ออกกำลังกายมานานมันเหนื่อยขนาดนี้เลยหรือไงนะ TOT ตอนนี้ฉันอยู่บริเวณสวยที่ตึก A และในอีกไม่กี่นาทีนี้ฉันก็ต้องออกไปวิ่งต่อข้างนอกบริเวณโรงพยาบาลที่หมอฟิลด์กำหนดไว้ รวมๆ แล้ววันนี้ฉันสามารถเอาเหงื่อของตัวเองไปสร้างเขื่อนได้เลยนะเนี่ย -_-;

                “นะ...นี่ไม่เหนื่อยกันบ้างหรือไงเนี่ย” ฉันหยุดพักในการวิ่ง แล้วโค้งตัวเอาแขนเท้าที่หัวเข่า

                “ยัยบ้านนอก ไม่ได้ออกกำลังกายมาสิบชาติหรือไงฮะ” เรนเจอร์หยุดวิ่งเป็นเพื่อนฉันเพื่อกัดฉัน แหม...ตัวเองก็ทำเนียนหยุดพักเหมือนกันล่ะสิ -.,-

                “สี่ปีย่ะ ไม่ใช่สิบชาติ =_=

                “จากนี้ไปผมจะให้พวกคุณได้ออกไปวิ่งตามใจพวกคุณเองนะครับ แต่มีข้อแม้ว่าต้องอยู่ในสายตาผมเท่านั้น” หมอฟิลด์พูดจบก็ล้วงมือไปหยิบมือถือในกระเป๋ากางเกงแล้วแยกตัวเองจากฉันและเรนเจอร์ไปอีกทางหนึ่ง

                แล้วจะให้อยู่ในสายตาได้ยังไงเนี่ย –3-

                “นายจะไปวิ่งไหน ฉันไปด้วยสิ” ฉันเดินเข้าไปหาเรนเจอร์ ก็ฉันไม่เคยออกมาเลยนี่นา กลัวหลังอ่ะ T^T

                จะว่าไปตอนนี้ฉันก็อยู่ข้างนอกโรงพยาบาลแล้ว...เปลี่ยนไปเยอะจริงๆ สี่ปีที่ผ่านมา ก่อนหน้านั้นฉันจำได้ว่าตรงหน้าโรงพยาบาลจะเป็นทางเปลี่ยวๆ หน่อย แต่ก็ไม่ถึงกับเปลี่ยวมาก ฉันจำได้ว่าต้องเดินเข้ามาในโรงพยาบาล เพราะน้ำมันรถดันหมดตรงทางเข้าโรงพยาบาลเฉยเลย -_- แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปเป็นทางเข้าที่ใหญ่กว่าเดิมและมีเสาไฟตลอดทางเข้าซอยมา บริเวณนั้นจะเป็นที่จอดรถด้วยล่ะ

                รถนั่นเอี้ยดเลย ท่าทางจะมีคนมาใช้บริการโรงพยาบาลนี้เยอะ J

                “บ้านนอกอย่างเธอมากับฉันฉันก็ไม่ได้วิ่งน่ะสิ” เรนเจอร์พูดดูถูกฉัน (ดูถูกจริงๆ -_-;) “แต่สงสารหรอกนะ จะวิ่งตามมาเรื่อยๆ ก็ได้ไม่ว่ากัน” เรนเจอร์วิ่งนำไปเรื่อยๆ ตรงทางฟุตบาททางเข้าหน้าโรงพยาบาล แต่อยู่ดีๆ เขาก็หยุดวิ่งจนทำให้ฉันที่วิ่งอยู่ถึงกับกระแทกหลังเขาไปเต็มๆ

                เขาค่อยๆ หยิบมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกงของตัวเองแล้วหันมาพูดกับฉัน

                “แป๊ปนะ” เขาพูดแล้วเดินเลี่ยงไปอีกทาง

                รู้สึกว่าพักนี้นายเรนเจอร์จะมีโทรศัพท์เข้ามาบ่อยเหลือเกินนะ (-*-)

                ฉันวิ่งของฉันอยู่คนเดียวแต่วิ่งวนอยู่แค่บริเวณที่วิ่งออกมาจากที่เดิมจนถึงเมื่อครู่นี้ที่เรนเจอร์หยุดรับโทรศัพท์ แต่แล้วฉันก็ต้องหยุดวิ่งเพราะเรนเจอร์เดินมาทำหน้าเครียด

                “ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่ใช่เต้อ กรุณาเข้าใจหน่อย!” เรนเจอร์สบถคำต่อๆ จากนั้นอีก “หมายความว่าไงว่าคุณอยู่ใกล้ๆ ผมน่ะ” เรนเจอร์ค่อยๆ หมุดตัวไปรอบๆ เขาทำอย่างนี้เหมือนเป็นโจรลอบวางระเบิดเลยแฮะ =.,=

                “อะไรนะ! ให้ตายเถอะ!!” แล้วเรนเจอร์ก็เคลื่อนร่างกายของตัวเองผ่านฉิวฉันไป เขาวิ่งเร็วกว่านักกีฬาทีมชาตินะ ฉันว่า

                “ไอ้เต้อ!!!” และก็มีคนอีกกลุ่มหนึ่งวิ่งผ่านฉิวฉันไปอีก -_-;; เหมือนว่าเขากำลังไล่ล่ากันอยู่อย่างไงอย่างงั้นเลยแฮะ

                พอเห็นอย่างนั้นฉันเลยคิดว่าน่าจะวิ่งกลับเข้าไปในโรงพยาบาล แต่ในขณะที่ฉันวิ่งอยู่นั้นก็มีสองคนในกลุ่มที่วิ่งไล่นายเรนเจอร์เข้ามาประกบตัวฉันไว้

                ต้องบ้าให้เป็นประโยชน์สินะ...

                “อ๋า...พวกคุณคือใคร @_@” เชื่อฉันเถอะ (_ _^)

                “ขอโทษทีที่ฉันไม่ใช่พวกกระจอกเชื่อยัยบ้าอย่างเธอ” หนึ่งในคนที่เข้ามาประกบตัวฉันพูดขึ้น

                “แล้วพวกคุณจะประกบตัวฉันทำไม ฉันไม่ใช่ครีมในโอริโอ้นะ >O<” ฉันไม่ใช่ครีมดังนั้นฉันจึงไม่สมควรจที่จะถูกประกบกับคนตัวดำๆ หรือสีฟันโออย่างผู้ไม่ประสงค์ดีอย่างสองคนนี้

                -_-^ เธอรู้มั้ยว่าไอ้นั่นมันคือใคร” อีกคนหนึ่งพูดขึ้น เขาใส่เสื้อสีดำกันทั้งสองคนเลย อ๊ะ! คนที่ถามฉันน่ะใส่แว่น เรียกไอ้แว่นแล้วกัน

                “ก็นายเรนเจอร์ไง เขาอยู่ที่นี่มา 2 ปีแล้วล่ะ ทำไมงั้นเหรอ”

                “เฮอะ...เรนเจอร์งั้นเหรอ ถุ้ย!” ไอ้แว่นสบถก่อนจะหันมาซักถามฉันต่อ

                “มันบอกเธอเหรอว่าชื่อเรนเจอร์”

                “ก็ใช่น่ะสิ เขามีอาการบ้าๆ เลยต้องมาอยู่ที่นี่น่ะ” ต้องบอกด้วยหรือเปล่าว่าที่เขาถูกส่งมาเพราะว่าดูโจ๋เรนเจอร์มากเกินไปน่ะ ก๊ากกกก >O<

                “ฮึ ไอ้เหินฟ้ากูว่ามีเรื่องจะเอาไปบอกนายท่านแล้วล่ะ” หา ไอ้อีกคนนั่นชื่อเหินฟ้าเหรอเนี่ย เข้ากับหน้าเสียจริง (ประชด) O_o

                “ถ้าไม่มีอะไรฉันช่วยบิดตัวนายออกจากครีมอย่างฉันเถอะ” (ยังไม่เลิกกับโอรีโอ้) ไอ้สองคนนั้นปล่อยตัวฉันเป็นอิสระจากการประกบแล้วเดินเข้าไปอีกทางซึ่งทางนั้นมีรถตู้อยู่

                ฉันไม่สนใจหรอก

                แต่ว่าเขาจะมาถามเรื่องเรนเจอร์กับฉันทำไมนะ? ถ้าทางจะเป็นเรื่องไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลย

                ฉันรู้มาจากหมอฟิลด์มาว่านายเรนเจอร์นี่ดูจะเคยมีเรื่อง แต่เขาบอกแค่นั้นแล้วก็ไม่ปริปากขึ้นมาอีกเลย แต่ฉันก็ไม่ถามอะไรมากหรอกนะ ถามมากแล้วจะกลายเป็นว่าสอดรู้สอดเห็นเปล่าๆ >O<

                แต่ความจริงเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ฉันสมควรรู้นะ เพราะถ้าเกิดฉันเป็นอะไรไปฉันจะรู้ได้ทันทีว่าคือนายเรนเจอร์นั่นแหละ ที่ทำให้ฉันเป็นอะไรไป! ขนาดฉันแค่มาวิ่งออกกำลังกายด้วยยังโดนประกบเป็นแฮมเบอร์เกอร์เลย (จะโอริโอ้หรือแฮมเบอร์เกอร์ -_-‘)

                “หมอฟิลด์ไม่รู้อะไรอีกเหรอๆ” นั่นแหละ...ฉันไม่ชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องของคนอื่นร๊อกก

                -_-; คุณถามคำนี้กับผมมาสิบสองครั้ง”

                “บ้าหรือเปล่า ฉันจำได้ว่าแค่เก้า”

                “พอๆ กันน่ะครับ ผมจะบอกอีกทีว่า ผมไม่สามารถให้คำตอบอะไรกับคุณได้ เพราะผมไม่ใช่คนที่รู้เรื่องอะไรเยอะนัก”

                “ก็เห็นมีความลับกับนายเรนเจอร์เยอะแยะ ใครจะไปคิดว่าไม่รู้ล่ะ =^=

                “ทำไมคุณพาวไม่ลองถามนายเรนเจอร์เอาเองล่ะครับ”

                “พาวเดอร์ไม่ชอบเข้าหาใครฮ่ะ =^=o” ฉันเชิดหน้าใส่หมอฟิลด์ ความจริงแล้วที่ฉันสามารถมาคุยกันเรื่องของนายเรนเจอร์ตอนนี้ได้ก็เพราะว่านายเรนเจอร์ไม่อยู่บ้านในวันนี้ ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าเขาไปไหน รู้แต่ว่าทางโรงพยาบาลจะเรียกไปเท่านั้นเอง

                วันนี้ฉันเลยต้องอยู่ที่บ้าน (ในโรงพยาบาลบ้า) นี่กับอีตาหมอฟิลด์แค่สองคน ไม่มีคนอื่นอีกเลย เพราะว่านางพยาบาลที่ตอนแรกหมดสุเถิกจะให้มาอยู่ด้วยก็ถูกถอนตัวไปซะเฉยๆ -_-; บอกว่าเปลืองค่าใช้จ่าย แค่หมอฟิลด์คนเดียวก็เอาอยู่แล้ว

                โรงพยาบาลนี่มันงกจริงๆ -_-^

                “แล้วหมอรู้มั้ยว่าทำไมโรงพยาบาลต้องเรียกนายเรนเจอร์ไปด้วย”

                “ไม่ทราบครับ ตอบครั้งสุดท้ายนะครับ ว่าให้ไปถามเขาเอาเองจะดีกว่า”

                “พาวก็จะตอบเหมือนเดิมค่ะ ว่าพาวเดอร์ไม่ชอบเข้าหาใคร!” ฉันได้คำตอบที่ดีจริงๆ เชื่อว่านี่เป็นคำตอบที่ดีที่สุดในวันนี้แล้วล่ะ -_- เจอแต่คนกวนส้นเท้าบ่อยเหลือเกิน

                พาวเดอร์ต้อแต๊ T^T;

                “แล้วหมอ...” ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบประโยค หมอฟิลด์ก็พูดขัดขึ้นมาก่อน

                “ไม่ต้องถามแล้วครับ ตอนนี้สองทุ่มแล้ว กรุณาขึ้นไปนอนแล้วครับคุณพาว!” เป็นการพูดขัดที่ทุเรศที่สุด ฉันมันน่ารำคาญมากนักรึไงฮะ!

                “ขอโทษนะที่ฉันไม่ใช่ลูกคุณหมอ ฉันจะทำอะไรก็ได้ และตอนนี้ฉันก็จะขึ้นแล้ว ลาก่อนไอ้หมอเฮงซวย!” ฉันพูดประชดแล้วเปิดปึงปังขึ้นข้างบนเข้าห้องตัวเอง

                ปัง!

                ฉันปิดประตูเสียงดังให้หมอฟิลด์รู้ว่าฉันโมโห -3- โมโหมากๆ จริงนะ แล้วที่ฉันจะพูดน่ะ ฉันแค่จะพูดว่า แล้วหมอจะไม่ไปนอนเหรอ สองทุ่มแล้วนะ ต่างหากเล่า เฮงซวย เฮงซวยจริงๆ

                “หมอที่ไหนเขาพูดกับคนไข้แบบนี้กัน เนอะก๊าบก๊าบเนอะ!” ฉันหันไปถามความคิดเห็นกับ

                “มันคงให้คำตอบเธอไม่ได้หรอกยัยบ้านนอก”

                “...” นายเรนเจอร์มาหลอกหลอนฉันถึงในห้องเลยหรือไงนะ TOT;

                “ยัยบ้านนอก!

                “อ่าว! นายมาอยู่ในห้องฉันได้ไง ออกไปๆๆๆๆ” ฉันผงะเมื่อเห็นนายเรนเจอร์นั่งอยู่ปลายเตียงนอนของฉัน แต่ฉันจำเป็นต้องไล่เขาออก แต่เอ...

                “เดี๋ยว อย่าเพิ่งออก” ฉันพูดดักเขาไว้เมื่อเขาทำท่าจะออกไปจริงๆ

                “อะไรของเธออีก ตะกี้ก็เพิ่งไล่ใช่หรือไง เสียเวลาดูโจ๋เรนเจอร์จริงๆ -.-” นายเรนเจอร์พิงไหล่ตัวเองไว้ที่ประตูห้องของฉันแล้วทำปากจู๋

                “อ่า...ตอนกลางวันทำไมมีคนวิ่งไล่ตามนายด้วยอ่ะ”

                “ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันไปก่อนนะ” เรนเจอร์ทำท่าจะบิดลูกบิดประตู แต่ฉันก็วิ่งเข้าไปจับแขนเรนเจอร์ไว้ก่อนที่เขาจะออกไป คนมันอยากรู้นี่นา!

                “นี่ฉันอยากรู้จริงๆ นะ นายหายไปทั้งคนฉันเป็นห๊วงเป็นห่วง *O*” ฉันจับแขนเขาไว้ ยังไม่ปล่อยเพราะถ้าฉันปล่อยไป ฉันเชื่อว่าเขาต้องไหนกลับห้องแน่ๆ -_-

                “เหรอ เออฉันให้อาหารก๊าบก๊าบแล้วนะ ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีคนให้อาหารมันแล้ว แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะแวะมาอีกที เดี๋ยวฉันต้องไปที่นั่นแล้ว แล้วเจอกัน”

                เขาบอกลาแค่นั้นแล้วปิดประตูออกไปก่อนจะเข้ามาใหม่ -_-a

                “ไอ้หมอนั่นยังอยู่ข้างล่างใช่มั้ย” อย่างนี้นี่เอง ถ้าจะแนบเนียนก็ต้องไม่ให้มีคนเห็นสินะ

                “ไม่อยู่” ฉันโกหก :P

                “อืม” เขาพูดแล้วเดินเข้ามาในห้องฉันอีกที แล้วเดินผ่านฉันไปแถวๆ หน้าต่างห้องของฉัน และทันใดนั้นเขาก็ทำเรื่องที่ฉันไม่คาดคิด

                ตุ้บ!

                ฉันรีบวิ่งไปที่หน้าต่างแล้วเปิดมันออกเพื่อดูเหตุการณ์ที่เกิดเมื่อเสียงดังตุ้บนั่นเกิดขึ้น และฉันก็เห็นนายเรนเจอร์กำลังปัดฝุ่นที่ก้นของตัวเอง และชี้หน้าขึ้นมาบ่นใส่ฉัน

                “ฉันไม่โง่นะยัยบ้านนอก ฉันเห็นไอ้หมอนั่นแล้วฉันถึงเข้ามาถามเธอต่างหาก โกหกไม่เนียนเลย!

                “เด่อคงไม่เจ็บใช่มั้ย ฮ่าๆ” ฉันหัวเราะแล้วปิดหน้าต่าง แต่ฉันก็ยังเห็นว่านายเรนเจอร์นั่นวิ่งเร็วขนาดไหน ท่าทางคงจะหนีออกมาสินะ คิคิ (หัวเราะสตอร์มาก -_-)

                ก๊อกๆๆ

                ทันทีที่ฉันปิดหน้าต่างได้ไม่ถึงห้าวินาที เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น

                “คุณไม่จำเป็นต้องเปิดให้ผมหรอกนะ ผมแค่จะมาขอโทษกับเรื่องที่ผมทำเหมือนว่าผมรำคาญคุณ จริงๆ แล้วผมไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นนะคุณพาว” ฉันเปิดประตูประจันหน้ากับเขา และเจอหน้าหมอฟิลด์ทำหน้าเลิ่กลั่กมากๆ เลย เห็นแล้วขำจัง -.,-

                “เอ่อจริงๆ แล้วมันก็นิดนึงนะ เพราะคุณเอาแต่ถามคำถามเดิมเป็นสิบๆ รอบ”

                “เก้ารอบ -_-;

                “แต่รวมครั้งนั้นด้วยก็สิบครั้งครับ ฟังผมต่อนะ คือผมรู้สึกไม่ดีที่ทำร้ายจิตใจคุณ เพราะคุณไม่ได้เป็นเหมือนกับผม คุณเป็นผู้หญิงที่มีจิตใจอ่อนไหวกว่า และ

                ” ฉันรอฟังว่าเขากำลังจะพูดอะไรต่อ ตอนนี้ฉันกำลังรู้สึกอิน และมองหมอฟิลด์ในแง่ดีมากขึ้นนิดนึง และมองว่าเขาก็ยังพอมีความสุภาพบุรุษอยู่บ้างที่มาขอโทษฉัน

                “และสุดท้ายคือคุณเป็นคนประเภทที่ไม่สมสติเท่าไหร่”

                ถอนคำพูด!!

     

                วันนี้ฉันก็ต้องมาออกกำลังกายอีกวัน -_-;; แต่ไม่มีเรนเจอร์มากวนสตินั่นก็ดีเหมือนกันมั้ง ฉันจะได้ออกกำลังร่างกาย จิตใจ และสมองของฉัน ถ้ามีนายเรนเจอร์ฉันคงต้องไม่มีสติแน่ๆ แต่มันก็รู้สึกเซ็งๆ เหมือนกันนะ T^T

                ฉันเลยพกเจ้าก๊าบก๊าบมาด้วย (อย่างกับก๊าบก๊าบเป็ดโปรใช้พกได้ =O=)

                “ก๊าบก๊าบ แกพอจะรู้มั้ยว่านายเรนเจอร์อยู่ไหนตอนนี้” อาจฟังดูบ้า เพราะฉันมันบ้าที่ไปถามเป็นอย่างนั้น แต่ฉันบ้าอยู่แล้วนี่นา -_-/

                “แควกๆ” ก๊าบก๊าบวิ่งเลยหน้าฉันไป ทำให้ฉันต้องวิ่งตามสายที่จูงที่รัดคอมันอยู่ไปด้วย เกิดขึ้นอะไรขึ้นมาของมันนะ

                “สวัสดีตอนเช้ายัยบ้านนอก” โอ๊ะ! ฉันคิดว่านายเรนเจอร์นี่ตายยากชะมัดเลย -.- พราะก๊าบก๊าบเห็นเรนเจอร์สินะ เลยวิ่งมา “ให้อาหารเช้าก๊าบก๊าบหรือยัง”

                “ฉันยังไม่ได้กินอะไร ก๊าบก๊าบก็ไม่ได้กินหรอกย่ะ =^=

                “งั้นกลับไปหาอะไรให้ก๊าบก๊าบกินก่อนเหอะ”

                “ก็ดีฉันก็หิว” ฉันพูดพลางอุ้มก๊าบก๊าบขึ้นมาไว้บนแขนของฉัน ฉันจะได้กินข้าวเช้าแล้ว! ตื่นเต้นจัง -_-^

                “ไอ้หมอฝึกหัดนั่นอยู่หรือเปล่า” เขาพูดถึงหมอฟิลด์อีกแล้ว ดูท่าเขาจะไม่ชอบหมอฟิลด์เท่าไหร่แฮะ

                “ไม่อยู่หรอกอ้อ ไม่ต้องคิดว่าฉันจะโกหกเหมือนเมื่อวานหรอกนะ เพราะว่าวันนี้หมอฟิลด์บอกฉันว่าเขาจะไม่อยู่ สองทุ่มโน่นกว่าจะกลับ”

                “ก็ดี ฉันรำคาญมันจะแย่” เขาพูดเสียงเบา และเดินนำฉันไปทางกลับบ้าน

                เขากำลังปิดบังอะไรกันอยู่นะ ฉันเชื่อว่าต้องมีหลายเรื่องแน่ๆ ฉันในนามพาวเดอร์ผู้หญิงที่หน้าตาจิ้มลิ้มไม่สมสติคนนี้ จะไขคดีนี้เอง~



    ________________________________________
    Let's talk with justamp :D
    มันเป็นรูปเป็นร่างบ้างแล้วใช่มั้ย ! อ่า ... ทำไมมีแต่คนหมั่นไส้หมอนะ 55
    เค้าก็แอบหมั่นไส้อยู่เล็กๆ แต่ไม่ได้จะให้ออกมาเป็นคาแร็กเตอร์ที่น่าหมั่นไส้เลยนะ T_T;


    อัพจบแล้ว 100 เปอร์เซ็น ! เฮี๊ยกกกกก xD ปลื้มใจจัง
    last update ; 09/04/09

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×