ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ❤ insane love รักนี้ไม่มีปกติ.

    ลำดับตอนที่ #1 : insane ; intro

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 112
      1
      3 เม.ย. 52


    บทนำ

     

    ร้อน ร้อน ร้อนน =O=^ ให้ตายเถอะ แทนที่ในโรงพยาบาลนี่มันจะเปิดแอร์เย็นทั้งวันทั้งคืน ฉันกลับต้องมาทนทุกข์ทรมานเพราะไอ้โรงพยาบาลบ้านี่! ที่โรงพยาบาลต้องปิดแอร์ในตอนกลางวันก็เพราะว่า

                รณรงค์ปิดแอร์ข้ามชาติ

                ใช่...ปิดแอร์ข้ามชาติ อ่านไม่ผิด ตอนแรกที่ฉันดูใบประกาศที่ทางโรงพยาบาลแจ้งมา ฉันถึงกับงงไปสิบตลบ -_- โรงพยาบาลบ้านี่ก็แค่อยากฮาน่ะ เอาความจริงก็แค่รณรงค์ลดโลกร้อน แต่บ้าจริงๆ มีโรงพยาบาลที่ไหนเขาทำกันบ้างล่ะ

                ปิ๊ด!

                ฮ้า...ค่อยโล่งใจขึ้นหน่อย โชคดีที่แอบลุกขึ้นไปจิ๊กรีโมตแอร์มาได้นะเนี่ย =w=

                “คุณสรยุทธ์! คุณจะเปิดแอร์ตามอำเภอใจไม่ได้นะคะ”

                -_-?

                “ขอโทษค่ะ เอ่อ...คุณชื่อศรัญญา” ยัยพยาบาลโรคจิต อยู่ดีๆ ก็พรวดพราดเข้ามาโดยที่ไม่เคาะประตูเลยเนี่ยนะ และเข้ามาเพราะไอ้เหตุผลบ้าๆ นี่อีก จะบ้าตายยยย T^T

                แล้วยัยพยาบาลนั่นก็ปิดแอร์ของฉัน...

                “ส่งรีโมตมาด้วยค่ะ ไม่งั้น...หมอนข้างนี่ตาย” ยัยพยาบาลยื่นมือเข้ามาฉกหมอนข้างข้างๆ ตัวฉันไปแล้วเอาไปไว้หน้าตัวเธอ และทำท่าเหมือนจะเชือดมัน

                บ้าจริงๆ นั่นแหละ –O-

     

    ความจริงฉันมาอยู่ในโรงพยาบาลบ้านี่มาเป็น 4 ปีแล้ว แต่ฉันก็ยังไม่ชินกับพฤติกรรมบ้าๆ ของคนในโรงพยาบาลนี้เท่าไหร่ เอ...โรงพยาบาลบ้ามันก็เป็นโรงพยาบาลบ้าวันยังค่ำล่ะนะ

                เหตุผลที่ฉันต้องอยู่ที่นี่ถึง 4 ปีน่ะเหรอ...

                เมื่อก่อนฉันก็เหมือนเด็กผู้หญิงธรรมดาๆ เนี่ยแหละ ชอบเล่นตุ๊กตาบู้บี้ที่ผู้หญิงชอบเล่นกัน แต่ฉันแค่เล่นแล้วก็ชอบจับมันสระผมก็แค่นั้นเอง...แค่นั้นเองจริงๆ นะ ถ้าไม่รวมกับที่ฉันเอาไอ้ตุ๊กตานั่นไปกดน้ำเพราะว่ามันสวยกว่าฉัน =O=

                แต่นั่นมันก็แค่ตอนเด็กๆ เรื่องที่ฉันไปบอกแม่ว่าจิ้งจกหน้าบ้านมันร้องอ๊บๆ เหมือนกบ -_-‘’ เท่านั้นแหละ แม่ผู้แสนใจดีของฉันก็กลายเป็นหญิงสาวที่ระแวงฉันมาโดยตลอด และจับฉันส่งมาที่โรงพยาบาลบ้าแห่งนี้

                ทำไมไม่มีใครคิดบ้างล่ะว่าบางทีไอ้ที่จิ้งจกร้องอ๊บๆ น่ะ มันจะเป็นการเตือนมนุษย์อย่างเรา ว่าในอนาคตจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของโลก โลกจะวิบัติ อาจจะมีอะไรแปลกๆ มาอยู่บนโลกอีกก็ได้นะ T^T!!

                เอ่อ...ฉันไม่บ้าหรอกนะ นั่นคือการเปรียบเทียบน่ะ ^^a

                “ดูจากอาการที่ผ่านมา 4 ปี ไม่มีอะไรผิดปกตินะครับ ดังนั้น...ผมคิดน่าจะให้คนไข้กลับไปพักผ่อนที่บ้านได้แล้ว” เออ...ดีเนอะ ดูอาการตั้ง 4 ปี ฉันจะบ้าอีกครั้งเพราะพวกแกนั่นแหละ

                “พาวจะได้กลับแล้วใช่มั้ยแม่”

                “จ้ะ แล้วเดี๋ยวเราจะเลี้ยงฉลองต้อนรับกลับบ้านพาวกัน T__T

                “น้ำตาไหลเพราะดีใจหรือกังวลคะแม่”

                “กังวลจ้ะ เอ้ย...ดีใจต่างหากล่ะ ลูกเอ๋ยลูกแม่ ทำแง่งอนใส่” เอาอีกแล้วกลอนดอกสร้อยประจำตัวแม่ฉัน

                “แต่คิดว่าคงต้องอยู่อีกสัก 2 วันนะครับ” หมอพูดขึ้นก่อนจะหยิบเอกสารในมือแล้วขอตัวไปตรวจคุยกับคนไข้รายต่อไป

                “งั้นเดี๋ยวแม่มาอีกทีวันมารับเลยแล้วนะพาวลูกรัก” ฉันนั่งอยู่บนเตียงแล้วโบกมือลาแม่ แล้วพอแม่เดินออกไปแล้วฉันก็ลุกออกจากเตียงขึ้นมาสูดอากาศบริสุทธิ์ที่ระเบียงห้อง

                “ฟืดดดด -..-” เป็ดการสูดที่สดชื่นเหลือเกิน ฮ้า...

                “ยัยผู้หญิงจมูกบาน” เอ๋...เสียงอะไรน่ะ ?

                “ฟี๊ดๆ -..-” สบายปอดจังเลย

                “ยัยผู้หญิงน่าไม่อาย ยัยพวกชอบแย่งอากาศคนอื่นหายใจ” โอ๋...?

                “ฟื๊ดดด...ฮ้า =O=~” สบายปอด สบายปาก สบายจมูก ไม่มีอะไรที่ทำแล้วโล่งได้ขนาดนี้อีกแล้ว >_<

                โป๊ก! (?)

                “อะไรเนี่ย! ทำไมนายต้องเอาอะไรมาปาใส่ฉันด้วย” ฉันเอามือกุมหัวตัวเองแล้วหันหน้าไปทางคนปาก่อนจะเอาของที่เขาปามาปากลับไป...มาคือจรวดกระดาษธรรมดาๆ

                “เพราะเธอยัยงี่เง่า -_-!” อีตาบ้านั่นยังทำปากร้ายต่อไป อ้อ...จะบอกว่า ฉันอยู่ห้องข้างๆ นายนี่มันร่วมๆ 2 ปีแล้ว แต่อีกไม่กี่วันนี้ฉันก็จะออกแล้ว เย่~

               

                2 ปีที่แล้ว

                หมออยากให้ทุกคนเล่าประวัติความเป็นมาของทุกคนว่าไปทำอะไรมาหมอสุเถิกเอ่ยขึ้นเมื่อถึงวัน work shop ที่มีทั้งผู้ป่วยเข้ารักษาเก่าแก่รวมทั้งผู้ที่เข้ามาใหม่

                ในครั้งนี้มีคนมาเยอะแยะเลยล่ะ หน้าเก่าๆ ที่มี ก็เก่าจนฉันเบื่อหน้า แต่คนพวกนั้นก็ไม่เบื่อที่จะเล่าเรื่องของตัวเอง (เหมือนมันน่าภูมิใจอย่างนั้นแหละ -.,-) แต่ฉันเนี่ยสิ จะเป็นคนที่เอาแต่งีบๆๆ แต่ไม่รู้เพราะอะไรมีอยู่ครั้งนึงที่ฉันตั้งใจฟังคนๆ หนึ่งเล่าประวัติของตัวเอง

                ชื่อเรนเจอร์ ที่ต้องมาอยู่เพราะพ่อให้มา พ่อบอกว่าเรนติดเกมร็อคแมนแล้วก็วันๆ เอาแต่ดูขบวนการโจ๋เรนเจอร์ เรนว่ามันออกจะสนุก -_-’

                พอฉันได้ยินฉันถึงกับหลุดก๊ากออกมาเลยทีเดียว คนอะไร๊บ้าได้โล่จริงๆ >O<!

               

                แต่ไม่น่าเชื่อไอ้คนเอ๋อๆ เมื่อ 2 ปีที่แล้วกลับกลายเป็นคนคลุ้มคลั่งอยู่ข้างๆ ห้องฉัน อีตาบ้านี่มักจะมีอาการให้ฉันเห็นแปลกๆ ทุกวันเลย ไม่ว่าจะตกใจเพราะนกกระพือปีกหรืออะไรต่างๆ นานา -__-‘’

                “นายยังดูโจ๋เรนเจอร์อยู่หรือเปล่า ฮ่าๆ”

                “ยัยบ้านนอก โตเป็นมนุษย์แล้วใครเขาดูโจ๋เรนเจอร์กัน”

                “ก็นายไง -_-

                “เมื่อหลายปีก่อนต่างหาก”

                “นายโกหก เมื่อวันก่อนฉันเห็นพยาบาลเอาซีดีโจ๋เรนเจอร์ที่ขายตามตลาดนัดเข้าไปในห้องนาย” ฉันเถียงเมื่อเจ้าตัวไม่ยอมแพ้ความ

                “ก็วันนี้ไม่ได้ดูนี่หว่ายัยบ้านนอก”

                “อ่าว เดี๋ยวพรุ่งนี้นายก็อดใจไม่ไหวเอามาดูอีกนั่นแหละ” ฉันจ้องหน้านายเรนเจอร์อย่างเอาเรื่อง จะว่าไป ฉันมีความลับอยากจะบอกว่า นายเรนเจอร์นี่เคยตะโกนบทที่พวกโจ๋ๆ พวกนั้นแนะนำตัวว่า พวกเรา ขบวนการโจ๋เรนเจอร์ออกมาเสียดังเชียวนะ -.- (อย่าไปบอกใครล่ะ)

                “ยัยบ้านี่!

                “หรือว่าไม่จริง~

                “ย๊ากกกกกกกกกก ขบวนการโจ๋เรนเจอร์รวมตัว!

                “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!” ฉันจะกรี๊ดทำไม -_-a

                พรวด!

                “เป็นอะไรหรือเปล่าคุณศรัญญา” พยาบาลที่พรวดพราดเข้ามาถึงในห้อง ตรงเข้ามาเช็คนู่นเช็คนี่ฉันอย่างยุ่มย่าม ฉันกรี๊ดเพราะอีตาบ้านั่นทำฉันตกใจต่างหาก -3-

                “พาวไม่เป็นไรค่ะ แต่นู่น...นายเรนเจอร์เขามีอาการคลุ้มคลั่งอีกแล้ว ฉันกลัว T__T” ฉันชี้ออกไปที่ระเบียงทางห้องด้านซ้ายมือ และก็เห็นว่านายเรนเจอร์นั่นพยายามจะแปลงร่างให้ได้

                “โจ๋เรนเจอร์ ได้ยินไหม...รวมตัว!!” นายนั่นยังไม่เลิก -_-‘

                “ย๊ากกกกก!!” แล้วเสียงที่ตามมาคือเสียงปั่กๆ ของคนคลุ้มคลั่งที่ควบคุมตัวเองไม่อยู่ –O-

               

                “ถ้าเอาผมไปยัยนั่นก็ต้องโดนควบคุมด้วยเหมือนกัน!

                “อะไรกัน พูดให้มันดีๆ นะยะ =^=

                “เอาล่ะ งั้นคุณทั้งสองคนต้องย้ายตึกไปอยู่ตึก E ซึ่งเป็นตึกควบคุมความประพฤติของคุณทั้งสอง และในขณะที่อยู่ที่ตึกนั่นคุณก็ต้องทำบางอย่างร่วมกัน และถ้าความประพฤติพวกคุณดีขึ้นเราอาจจะให้คุณทั้งสองกลับบ้านได้” หมดสุเถิกพูดจบก็หันมามองที่แล้วส่ายหน้าอย่างเอือมระอา

                “คุณศรัญญา...น่าเสียดายนะครับ อีกสองวันคุณก็จะได้กลับบ้านแล้วแท้ๆ”

                “อะไรกันคุณหมอ พาวไม่อยากอยู่ต่อแล้วนะ TT^TT

    โฮๆๆ ทั้งๆ ที่ฉันควรจะได้กลับบ้านแล้วแท้ๆ แต่เป็นเพราะอีตาเรนเจอร์นี้แต่เพียงผู้เดียว เลยพาลทำให้ฉันต้องอยู่ต่ออีกถึงสี่อาทิตย์ TOT

                “อ้อ...หมอลืมบอกพวกคุณไปว่าตึกนั้นจะมีแค่พวกคุณสองคนและพยาบาลประจำอีกราวๆ สี่คน เพื่อดูแลความประพฤติของพวกคุณ”

                “หา =O=

                “อ้อแต่ไม่ต้องห่วงนะครับ เพราะตึกนั้นออกจะเป็นบ้านธรรมดาๆ ไม่ใหญ่ไม่เล็ก ดูแลทั่วถึง บริการถูกใจคนทุกวัย ^^b

                เอ่อ...หมอจะเปิดบ้านพักเลยดีกว่าไหมคะ -_-;

                “เมื่อกี้หมอว่าไงนะ ตึกนั้นมีคนไข้คนอื่นอีกมั้ยหมอ?” นายเรนเจอร์พูดขึ้นหลังจากเงียบเอ๋อ (?) ไปนาน

                “ไม่มีแล้ว หมอบอกว่ามีแต่คุณสองคนแล้วก็พยาบาลอีกประมาณสี่คน”

                “ห๊า =[]=!!

                “บ้าไปแล้ว หมอบ้าไปแล้วแน่ๆ”

                ให้ฉันไปอยู่กับอีตาบ้านี่สองคนเพื่อดูแลความประพฤติเนี่ยนะ! เชื่อสิว่าไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์คงต้องย้ายตึกอีกเป็นตึกห้องขังแน่ๆ !

    __________________________________________
    let's talk with justamp :)
    ฮ่าๆ มันบ้าจริงๆ นั่นแหละเนอะ _ _'' 
    อินโทรก็สนุกขนาดนี้แล้ว อย่าพลาดที่จะติดตามบทต่อไปล่ะ >O<!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×