NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ร่ายเวทรัก(จางอี้หาน)

    ลำดับตอนที่ #7 : ชะตาของเหรียญสองด้าน

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.ย. 65


    7

     

    ห้างสรรพสินค้าK11 ย่ายจิมซาจุ่ย ฮ่องกง

    จางอี้หานไม่ได้หนีไป จนถึงเวลานัดเซ็นสัญญา นั่นก็ถือว่า เขาปราณีกับแผนจับคู่ ดูตัวของคุณนายจางมากแล้ว

    เขายอมที่จะอยู่เจอ ยัยเซเล็บคนดังนั่น ก็เพราะเห็นแก่หม่าม้าและอาเจ่เหม่ยหลิง ผู้ล่วงลับไปแล้วหรอกนะ 

    ก็แม่ของยัยเซเล็บนั่น คือเพื่อนสนิทของอาเจ่เหม่ยหลิง เขาก็ควรให้เกียรติเพื่อนอาเจ่สักหน่อย นี่ถ้าไม่มีความเกี่ยวพันกับเอาเจ่ของเขาแล้วล่ะก็  อย่าหวังเลยว่า เขาจะยอมอยู่จนถึงเวลานัดแบบนี้

    เขาเกลียดการคลุมถุงชน และไม่พิศมัยวิธีการโบราณๆอะไรแบบนี้เลย 

    ให้ตายเหอะ นี่มันยุคไหนแล้ว จะไปนัดเดตกัน ที่ดาวอังคารอยู่แล้ว ยังจะมามีแม่สื่อแม่ชัก นัดมองหน้า ดูตัวอะไรกันอีก เฮ้อ

    จางอี้หานนั้น ไม่ใช่ไม่มีผู้หญิงเข้ามาในชีวิต ก็มีบ้างแหล่ะ เขาเป็นผู้ชายน่ะนะ แต่เขานิยมแบบครั้งเดียวจบไปเลย 

    ก็เพราะเคยทดลองแล้วพบว่า พอติดต่อกันเกินสองครั้ง สาวเจ้าก็แปลงร่างเป็นปลาหมึก เกาะติดเขาแทบทุกราย 

    “เดี๋ยวอี้หานก็อย่าพูดอะไร ที่มันน่าตกใจนะ น้องเขาเพิ่งจะสิบเก้า เดี๋ยวเขาจะตกใจแย่”

    “อ๋อ ยังเด็กอยู่เลยนี่ครับ สิบเก้า ผมยี่สิบหกแล้วนะครับหม่าม้า นี่หม่าม้าจะให้ผมไอ คุกๆๆ รึเปล่าครับเนี่ย”

    จางอี้หานก้มลงไปกระซิบกระซาบ ที่ห้างหูนางจางเหมี่ยน จนอาเฟิงที่เดินตามมาติดๆ หลุดหัวเราะออกมา เพราะเจ้านายเขา จงใจยั่วโมโหคุณนายจางชัดๆ

    ดูท่างานเซ็นสัญญา และดูตัวไปด้วยในวันนี้ คงจะจบไม่สวยเป็นแน่ อาเฟิงคิดอย่างขบขัน

    “ตายแล้ว อี้หาน ทำไมพูดแบบนี้ สิบเก้าจะยี่สิบแล้ว ถ้าพ่อแม่เขาอนุญาต ก็แต่งงานได้ ไม่ได้พรากผู้เยาว์สักหน่อย น้องเขาเรียนมหาลัยปีสุดท้ายแล้ว เหลือแค่เดือนสองเดือนก็จะจบแล้วล่ะ”

    “อ่อ ข้อมูลเพียบเลยนะครับ ทำการบ้านกันมาดีเชียวนะเนี่ย”

    จางอี้หานพยักหน้าหงึกๆ ประชดคุณนายจางนิดๆ ที่วางแผนมาดิบดี พอเขาจี้จุดเข้าหน่อย ก็รีบให้ข้อมูลใหญ่โตเลย

    “ไม่ใช่นะอี้หาน แหม หม่าม้าก็ถามมาแค่นิดๆหน่อยๆเอง เพียบอะไรกันล่ะหึ”

    “ครับๆ ผมจะพยายามเชื่อหม่าม้า อย่างเต็มกำลังอยู่นี่ไงครับ แล้วไงครับ วันนี้ดูตัว วันไหนแต่งดีล่ะครับ”

    “หา อี้หานอยากแต่งแล้วเหรอลูก”

    นั่นไง คุณนายจางเหมี่ยนตาลุกวาวขึ้นมาทีเดียว จางอี้หานขบขัน แม่บุญธรรมของตัวเองเหลือเกิน 

    เฮ้อ นี่เขาจะทำยังไงกับนางจางเหมี่ยน ที่อยากจะเห็นเขาเป็นฝั่งเป็นฝา อยากอุ้มหลานก่อนตายดีล่ะเนี่ย 

    ไอ้คนที่อยากจะให้เขา ไปผลิตลูกร่วมด้วยแต่ละคน มันก็ไม่มีที่ถูกใจเขาเลยสักราย

    “ใจเย็นๆนะครับคุณนายจาง ผมแค่ประชดถามเฉยๆ เห็นไปเอาข้อมูลเขามาหมด ก็เลยจะถามว่า ได้เอาดวงผมไปผูกกับเขาด้วยรึยัง แค่นั้นเองครับ”

    “อี้หานรู้ได้ยังไง ว่าหม่าม้าเอาดวงไปผูกกันน่ะลูก อาเฟิงปากสว่างบอกอี้หานเหรอ”

    คุณนายจางเหมี่ยนหันไปมองหน้าอาเฟิง ด้วยความขุ่นเคืองใจ จนจางอี้หานต้องรีบเฉลย ก่อนที่คนสนิทของเขา จะต้องกลายเป็นเป้า กลายเป็นมารงานจับคู่ของแม่เขา

    “โอ๊ะๆๆ ไม่ใช่ครับหม่าม้า อย่าไปมองอาเฟิงมันแบบนั้นครับ มันขนลุกแล้วนั่น ผมเก่ง เดาถูกเองต่างหาก ก็หม่าม้าชอบเอาดวงผมไปผูกกับคนโน้นคนนี้ จนผมจำไม่หวาดไม่ไหวแล้ว แล้วไงครับคนนี้เรียบร้อย ผูกเรียบร้อยแล้วซินะครับ”

    “แหะ ก็นิดหน่อยน่าอี้หาน ก็ดูเล่นๆเพื่อความสบายใจของหม่าม้าแหล่ะ”

    “ครับ หม่าม้าสบายใจ ก็ดีแล้วครับ”

    “เอ่อ พูดเรื่องนี้ ก็ดีแล้วอี้หาน แต่ตอนเอาดวงยัยหนูนี่ไปดูนะ อาซินแสแกทัก แปลกกว่าทุกคนเลยนะ”

    นางจางเหมี่ยน หันหน้ามาทำหน้านึกๆ ขมวดคิ้ว ก่อนจะเปรยบอกกับลูกชาย ถึงดวงที่ไปดูมาเมื่อวันก่อน

    “คราวนี้ สมพงษ์กันอีกแล้วเหรอครับ”

    “ไม่ใช่ซิ เขาไม่ได้บอกว่าสมพงษ์กันน่ะซิ เขาบอกว่าดวงอี้หานน่ะ เหม่ยหลิงเคยเอามาให้เขาดูแล้ว เมื่อหลายปีก่อน หม่าม้าก็งง เพราะเข้าไปถึง พอวางกระดาษวันเกิดอี้หานไปปุ๊บ เขาก็มองหน้าหม่าม้า แล้วถามว่าเป็นอะไร กับอาเหม่ยหลิงเลย”

    “หา อาเจ่เหม่ยหลิง เคยไปดูดวงผมเหรอครับหม่าม้า กับซินแสคนไหนครับ”

    “อือใช่ อาซินแสแกจำได้แม่นเลย เพราะเขาบอกว่า ดวงเด็กผู้ชายสองคน ที่อาเหม่ยหลิงเอาไปดูน่ะ แปลกทั้งคู่ น่าจะเป็นอาหลง กับลูกแหล่ะอี้หาน”

    “ครับ แล้ว แล้วไงครับ ผมอยากฟังเรื่องอาเจ่”

    จางอี้หานดึงมือนางจางเหมี่ยน ให้นั่งลงกับเก้าอี้ เขาดูนาฬิกาที่ข้อมืออีกที

    ยังพอมีเวลาเหลือ อีกยี่สิบนาที ก่อนถึงเวลานัดเซ็นสัญญานั่น เขาสนใจเรื่องที่อาเจ่เขาไปทำไว้ ก่อนที่เธอจะเสียชีวิตไปนั่นมากกว่า

    “ซินแสบอก เหม่ยหลิงไปดูเรื่องตัวเอง เรื่องอาหลง แล้วก็อี้หานน่ะลูก เขายังทักเลยว่า อาเหม่ยหลิงเสียไปตอนไหน แล้วก็บอกเรื่องอี้หาน ว่าไม่ต้องห่วงเรื่องคู่ครอง เพราะเดี๋ยวลูกก็เจอกันเอง แต่เหรียญมันมีสองด้านนะ ให้ระวัง หม่าม้าก็งง ถามว่าเหรียญอะไร เขาก็บอกว่า เขาบอกได้แค่นี้ บอกว่า ให้บอกกับเจ้าของดวง ว่าให้เชื่อในความรู้สึกของตัวเอง มันจะนำเจ้าของชะตา ไปหาคู่ครองที่ถูกต้องเอง”

    “เชื่อความรู้สึกของตัวเองเหรอครับ เหรียญสองด้าน แล้วก็คู่ครอง”

    “จ๊ะ ฟังแล้วเข้าใจไหมลูก หม่าม้าฟังแล้วก็ยังงง ไม่เห็นเข้าใจที่อาซินแสพูดเลย ทำไมคนบอกว่าแกทำนายแม่น แต่ไม่ค่อยยอมทำนายให้นะ นี่อาเจ่เรา เขาก็ไปตื้อซินแสอยู่หลายรอบนะ กว่าแกจะยอมดูให้น่ะ”

    “ครับ อาเจ่คงห่วงผม นะครับหม่าม้า”

    “ก็รีบๆแต่งซะทีซิ อี้หาน  หม่าม้าจะรอได้อีกกี่ปีล่ะลูก จะได้อุ้มหลานก่อนไหมเนี่ย”

    ว่าแล้วนางจางเหมี่ยน ก็ค้อนบุตรบุญธรรมทันที ที่มีโอกาสต่อว่าเขาในเรื่องนี้ 

    จางอี้หานกอดคุณนายจาง แล้วหอมฟอดเข้าที่แก้มของนาง

    “หม่่าม้าห้ามเป็นอะไรนะครับ ถ้าผมเจอแม่นางเหรียญสองด้านนั่น ก็จะรีบแต่ง รีบผลิตหลานให้นะครับ”

    “ตายแล้ว ไปเรียกคู่ตัวเองแบบนั้นได้ไงน่ะอี้หาน”

    “ฮ่าๆๆ ก็หม่าม้าไปดูมาเองนะครับ ยัยเหรียญสองด้าน ผมพูดอะไรผิดเหรอครับ”

    …………….

    สองแม่ลูกมัวแต่หัวเราะกันคิกคัก จนสองแม่ลูกอีกคู่หนึ่ง ที่เดินเข้ามาเห็นเข้า ก็ถึงกับต้องทัก

    “แหม แม่ลูกคู่นี้ ดูท่าทางมีความสุขกันจริงๆนะคะ สวัสดีค่ะอาหม่าม้า”

    คุณนายลี่หยางและบุตรสาวแองจี้นั่นเอง  คุณนายจางเหมี่ยนลุกขึ้นรับไหว้จากคนทั้งคู่ ส่วนจางอี้หานนั้นหรี่ตามองดู คู่ดูตัวของตัวเอง ด้วยความตกตะลึง

    อั้ยย่ะ นี่น่ะเหรอ สาวสิบเก้าผู้โฉมงามของหม่าม้า ใครก็ได้ ช่วยมาตีหัวเขา แล้วลากเขาออกไปที

    “สวัสดีค่ะ คุณนายลี่หยาง อ้อนี่ลูกชายค่ะ จางอี้หานค่ะ”

    คุณนายลี่หยางหันไปมองชายหนุ่มสูงใหญ่หน้าตาหล่อเหลา ที่ไม่มีส่วนใดละม้ายคล้ายกับคุณจางเหมี่ยน เลยสักนิดอย่างทึ่งๆ

    อ้อ คนนี้กระมัง ผู้สืบทอดเพียงคนเดียว ที่ได้ข่าวว่าคุณนายจางนั้น รับมาเป็นบุตรบุญธรรม

    “จ้า แหมลูกชายหล่อมากเลยนะคะอาหม่าม้า เอ๊ะ นี่ก็ต้องนับเป็นน้องรึเปล่า น้องของอาเหม่ยหลิง ก็เป็นน้องของอาเจ่หยางด้วยนะแบบนี้”

    “ครับ อาเจ่หยาง ผมอี้หานครับ”

    “อ้อ นี่ลูกสาวเจ่หยางเองจ๊ะ แองจี้จ๊ะ เขาเป็นลูกครึ่งไทยจีนนะ พ่อเขาเป็นคนไทย เขาชื่ออรัญญาจ๊ะ เรียกแองจี้ก็ได้นะจ๊ะ”

    “ครับ คุณแองจีี้ สวัสดีครับ”

    แองจี้นั้นถึงกับตาค้างไปเลย คนอะไรหล่อชะมัด ตอนแรกหม่าม้าบอกว่าอายุยี่สิบหก เธอก็ยังค่อนแคะว่าแก่เกินไป สำหรับเธอที่เพิ่งจะสิบเก้าย่างยี่สิบ

    แต่พอเจอตัวจริงใกล้ๆแบบนี้  โอ้ย ไม่แก่เลยสักนิด หล่อเป็นบ้าเลย ทั้งรูปร่างหน้าตาผิวพรรณ พวกนายแบบที่เคยมาจีบเธอเนี่ย ตกรอบไปเลยในพริบตา

    “คุณแองจี้ครับ”

    จางอี้หานขมวดคิ้ว เมื่อเขาทักทายแล้วแม่สาวสิบเก้า ที่แต่งตัวราวกับสักสามสิบเก้าเงียบไป เขาจึงเรียกเธออีกครั้ง ด้วยควาสงสัย 

    อะไรวะ ยังไม่ยี่สิบ ก็เอ๋อซะแล้วเหรอเนี่ย ไม่ไหวๆ

    “ค่ะ แองจี้ค่ะ อรัญญาค่ะ อยู่ปีสี่ค่ะ เรียนดีไซน์อยู่นะค่ะ พี่อี้หานค่ะ ตอนนี้แองจี้โสดค่ะ”

    “หือ คะ ครับ คุณแองจี้ อ่อ รับทราบครับ”

    จางอี้หานถึงกับสะดุด ในคำพูดเกินวัยของแม่สาวสิบเก้า 

    เฮ้อ จบแล้วจบ ไม่มีอะไรผ่านเลย 

    จริงๆหน้าตาก็ดีนะ แต่ท่าทางเอย การแต่งตัว คำพูด และความคิดความอ่าน ไม่ผ่านเลย จะมีดีก็แค่หน้าตาสวยดี แต่แต่งหน้าจัดไปหน่อย ทำตัวเกินวัยไปมาก

    “คุณพี่อี้หาน มีแฟนรึยังค่ะ”

    จางอี้หานได้แต่ยิ้ม และหันไปมองหน้าหม่าม้าเขา ด้วยแววตาที่รู้กันว่า ไม่ผ่านนะไม่ผ่าน คนนี้น่ะ

    คุณนายจางเหมี่ยนรีบออกตัว ก่อนที่เจ้าลูกชายตัวดีจะแผลงฤทธิ์ เธอรีบชวนคุณลี่หยางไปเซ็นสัญญาให้เสร็จๆไป 

    ทางด้านแองจี้ ก็แทบจะหมดความสนใจในตัวมารดาไปเลย เธอเดินตามติด ผู้ชายที่หล่อ ราวกับตกลงมาจากสวรรค์ไป แล้วก็เจื้อยแจ้วพูดไปตลอดทาง 

    จางอี้หานได้แต่กัดฟันอดทน ยัยสาวสิบเก้า ที่เยอะไปซะทุกสิ่ง ตั้งแต่แต่งหน้า แต่งตัว คำพูด 

    มีแค่สองสิ่งเท่านั้นในร่างหล่อนที่น้อย นั่นก็คือ อายุ และสมองนั่นเอง 

     

    ……จบตอน……

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×