คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : หวังจื่อหยา..เพื่อนซี้ของยัยแม่มด
4
ปี 2022 หนึ่งปีต่อมา ในปัจจุบัน
ที่โรงเรียนสอนไอกิโด้สำหรับเด็กเล็ก ย่านจิมซาจุ่ย ฮ่องกง
“ขอบคุณครับ/ค่ะ คุณครู”
เด็กๆที่มาเรียนกันในวันนี้ก้มตัวลงทำความเคารพหญิงสาวคนหนึ่ง เธอส่งยิ้มกว้างขวางให้เด็กๆ และก้มตัวลงเช่นกัน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาบอกลาเด็กๆในคลาสของเธอ
“จ้า แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะจ๊ะเด็กๆ”
แอนนี่ หรืออลิสา ปาดเหงื่อที่ชื้นๆบริเวณใบหน้าออกด้วยสันมือ เธอกำลังเดินกลับไปยังห้องออฟฟิศของบรรดาครู โดยยกมือโบกลานักเรียนตัวน้อยๆ ที่โบกมือให้เธอ และวิ่งกรูกันเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องทางด้านหลัง
นี่เธอเหลือเวลาอีกเท่าไหร่นะ มีเวลากินอะไรสักหน่อยไหมเนี่ย ก่อนจะไปเข้ากะทำงานที่ร้านสะดวกซื้อแถวๆบ้าน ซึ่งอาเจ่เจ้าของร้านที่รู้จักกัน โทรมาตามให้ไปช่วยทำงานแทนลูกจ้างประจำ ที่โทรมาลาป่วยกะทันหันเเมื่อเช้านี้
แอนนี่ทำทุกอย่างนั่นแหล่ะที่ได้เงิน ชีวิตเธอไม่ได้สวยงามหรูหรา เหมือนกับแฝดคนพี่ “แองจี้” เลยสักนิด
เธอก็เลือกเองนี่น่า แอนนี่ส่ายหัวแล้วยิ้ม เมื่อคิดไปถึงความหลัง เมื่อสิบปีก่อน
[ วันนั้นที่พ่อกับแม่แยกทางกัน แม่ยื่นคำขาดให้เธอเลือก ที่จะอยู่กับแม่เหมือนกันแฝดคนพี่ แต่เธอมองพ่อผู้ที่กำลังหอบหิ้วกระเป๋าเดินทาง เตรียมจะออกไปจากบ้านของแม่ ด้วยความเป็นห่วง และตัดสินใจปล่อยมือของแม่ และวิ่งตามพ่อมาเอง
พ่อร้องไห้และบอกให้เธอกลับไปอยู่กับแม่ เพราะพ่อไม่มีอะไรที่จะซัพพอร์ต เลี้ยงดูเธอให้ได้อยู่สุขสบายเช่นกับแม่ แต่เธอส่ายหน้า แล้วกอดพ่อ บอกกับพ่อไปเองว่า
"หนูจะดูแลพ่อเองนะคะ พ่อไม่ต้องร้องไห้นะ"
คำพูดเธอทำให้พ่อปล่อยโฮออกมา แล้วก็กอดร่างเธอไว้ เธอคิดมาเสมอว่า หากกลับไปเลือกใหม่ได้อีกครั้ง เธอก็ยังจะเลือกพ่ออยู่นั่นแหล่ะ แม้ว่าพ่อจะไม่มีเงินให้เธอได้ใช้จ่ายแบบแม่ก็ตาม ]
แอนนี่ส่ายหัว พยายามสลัดเรื่องราวในอดีตออกไป เธอต้องอยู่กับปัจจุบัน เธอต้องสู้ซิ เพื่อพ่อไง
เธอรีบเข้าไปอาบน้ำแล้วเปลี่ยนชุด ที่ห้องอาบน้ำของครูที่ทางด้านหลังห้องพักครูอย่างเร่งรีบ แล้วออกมาลนลานรีบยัดของใส่กระเป๋าเป้ ทั้งที่ผมยังเปียกหยดแหมะๆอยู่
ในขณะที่เธอกำลังออกวิ่ง คาบยางมัดผมไว้ในปาก สะพายเป้ แล้วรีบก้าวออกมาจากห้องพักครู
ควาวมรีบร้อนทำให้แอนนี่นั้น พุ่งเข้าไปชนกับร่างสูงใหญ่ของหวังจื่อหยา ครูพาร์ทไทม์อีกคนที่หน้าห้องพักครู
“ว้าย”
“เฮ้ย แอนนี่”
หวังจื่อหยา รับร่างของแอนนี่ไว้ได้ก่อนที่ทั้งคู่จะล้มลงไปด้วยกัน จื่อหยาใช้ท่อนแขนกันร่างของแอนนี่ไว้ก่อนที่ทั้งคู่จะร่วงลงไปทางพื้น ดีนะที่พื้นห้องตรงนี้ วางแผ่นโฟมกันเด็กๆล้มไว้ จึงไม่ได้แข็งกระด้างเท่าใดนัก
หวังจื่อหยาระเบิดเสียงหัวเราะ เมื่อแอนนี่ทับร่างเขาไว้ แล้วกระพริบตาปริบๆ ยิ้มแหยๆให้เขา เธอพยายามลุกขึ้น แต่ก็ไม่ถนัดนัก เพราะสายกระเป๋าเป้ที่พันแขนไว้ ยังพันอีรุงตุงนังอยู่
“เฮ้อ ใจเย็นแอนนี่ ยัยแม่มดน้อย”
หวังจื่อหยายิ้มอย่างใจเย็น แล้วค่อยๆดันร่างตัวเองขึ้นมานั่ง ใช้แขนจับต้นแขนแอนนี่ไว้มั่น แล้วยกร่างน้อยๆของเธอมานั่งลงตรงหว่างขายาวๆของเขา
“เดี๋ยวผมเอามันออกให้นะ แอนนี่อยู่เฉยๆก่อน”
เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาแล้วพยักหน้า เขาเอื้อมมือไปแกะสายกระเป๋าเป้ด้านหลังของเธอ ที่ม้วนพันกันอยู่ให้คลายออกจากกัน ระหว่างที่แกะให้เขาก็ถามเธอไปด้วย
“แล้วนี่แอนนี่รีบอะไรนักหนา ผมเปียก กระเป๋าพันแขนไปหมดแบบนี้ จะรีบไปไหนเหรอ”
“จะรีบไปเข้ากะที่ร้านสะดวกซื้อ ของอาเจ่หย่งน่ะซิ เขาโทรมาตามว่าคนขาด”
“อ๋อ อือๆ อ่ะออกแล้วล่ะ”
หวังจื่อหยาพยักหน้า รับทราบคำตอบของแอนนี่ เขาแกะมันออกเสร็จพอดี เธอส่งยิ้มให้เขาก่อนจะพยายามลุกขึ้น
“ขอบใจนะจื่อหยา เราไปก่อนนะ เดี๋ยวไม่ทันอ่ะ”
“เดี๋ยวๆ ยัยแม่มด”
แอนนี่ออกตัวไปหน่อยนึงแล้ว แต่ก็ถูกหวังจื่อหยารั้งกระเป๋าสะพายที่หลังเอาไว้ ก่อนเขาจะเดินตามเธอมา
“อะไรอ่ะ จื่อหยาง เรารีบนะอย่าเล่นซิ”
“ผมจะไปส่งแอนนี่ไง จะได้ไปเร็วขึ้น วันนี้ไม่ได้เอาเป๋าเป่ามาไม่ใช่เหรอ ผมไม่เห็นจอดไว้ที่ข้างล่าง"
หวังจื่อหยาออกเดินมาตีคู่กับแอนนี่ เขารู้ว่าเธอไม่ได้เอาไอ้มอเตอร์ไซด์คันเก่าๆนั่น ที่เธอเรียกมันว่าเป๋าเป่ามา จึงคิดจะไปส่งเธอ
“อือ มันเสียอีกแล้วอ่ะจื่อหยา จะไปส่งเราเหรอ ดีจัง ไปทันแน่ๆล่ะคราวนี้”
เขาเอื้อมมือไปขยี้ผมของเธอเบาๆ แล้วหัวเราะไปด้วยกัน เพราะสนิทสนมกันมาสองปีได้แล้ว
………………….
หน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ย่านจิมซาจุ่ย ฮ่องกง
แอนนี่ลงจากรถมอเตอร์ไซด์บิ๊กไบค์ของหวังจื่อหยา เขาก้าวลงมายืนข้างๆด้วย แล้วก้มลงไปช่วยแกะสายรัดหมวกกันน็อคออกให้เธอ
“ใจเย็นๆดิ แอนนี่นี่ยังไง รีบตลอดเลย เอามือออกเลย เดี๋ยวผมแกะเอง”
“ฮ่าๆ ติดนิสัยอ่ะจื่อหยา แบบว่าทำงานหลายที่ ต้องแข่งกับเวลาตลอดเลยน่ะ”
“ยังเหลือเวลาอีกตั้งสิบห้านาที ไม่ต้องรีบเลย ผมบอกแอนนี่แล้วไงว่าทัน ก็ทันซิ”
“อือ ขอบใจนะ ถ้าไม่ได้จื่อหยามาส่ง นั่งรถประจำทางมา สงสัยแอนนี่คงจะเลท”
หวังจื่อหยาหันไปวางหมวกกันน็อคสำรองไว้ที่มอเตอร์ไซด์คันใหญ่ของเขา แล้วหันมาคุยกับเธอต่อ
“แล้วนี่เลิกกี่โมงเนี่ย เข้างานตอนเย็นแบบนี้ ไม่เลิกเกือบเช้าเลยเหรอแอนนี่”
“อือ หกโมงเช้าน่ะจื่อหยา พรุ่งนี้ง่วงแน่ๆ”
หวังจื่อหยาขมวดคิ้ว มองดูแอนนี่ด้วยความเป็นห่วง แล้วก็เอ่ยปากเตือนเธอ แบบที่ก็เตือนมาไม่รู้กี่ร้อยกี่พันครั้งแล้ว ในรอบสองปีกว่าที่รู้จักกันมา
“ทำงานอะไรนักหนาแอนนี่ ถ้าเดือนร้อนก็ยืมผมก็ได้นะ ทำจนไม่ได้กินได้นอนแบบนี้ มันไม่ดีต่อสุขภาพนะเนี่ย แล้วนี่แอนนี่กินข้าวแล้วเหรอ”
"แหะๆ เดี๋ยวหม่ำราเม็งถ้วยเอาก็ได้น่ะจื่อหยา"
“บ้าเหรอ งั้นรอที่นี่นะ ไปเปลี่ยนชุดในร้านก่อน เดี๋ยวผมไปซื้อบะหมี่มาให้กินที่หลังร้าน ผมบอกแล้วไงว่าเดือดร้อนให้ยืมผม อย่าทำงานเป็นบ้าเป็นหลังแบบนี้อ่ะแอนนี่”
หวังจื่อหยาโมโหขึ้นมาทันที เมื่อรู้ว่าแอนนี่ยังไม่ได้กินข้าว ซึ่งก็น่าจะตั้งแต่เที่ยงเลยล่ะมั้งเนี่ย เขาขุ่นเคืองใจจนอยากจะอ้าปากบอกเธอเหลือเกินกว่า เขาไม่ได้ขัดสนแบบที่เธอคิดเลย
“ไม่เอา เดี๋ยวจื่อหยาก็ช็อตน่ะซิ แอนนี่ไหวน่า จื่อหยาเก็บไว้เหอะ นี่ต้องไปจ่ายค่าซื้อมอเตอร์ไซด์ใหม่ นั่นด้วยไม่ใช่เหรอนั่น แอนนี่ไปเปลี่ยนชุดก่อนนะ อ้อ บะหมี่ถ้าไปซื้อมาก็จะรับไว้นะ ช่วยมาส่งช่วยซื้อบะหมี่ให้กินนี่ ก็เกรงใจจื่อหยาจะแย่แล้ว ไม่กล้ายืมเงินหรอก”
“แอนนี่ มัน..”
“ไปเปลี่ยนชุดก่อนนะจื่อหยา แล้วเอาบะหมี่ไปให้แอนนี่ที่หลังร้านนะ ไปล่ะ”
แอนนี่หมุนตัวเดินเข้าไปภายในร้านสะดวกซื้อแห่งนั้นแล้ว เธอกำลังตรงเข้าไปทักทายพนักงานกะเช้า ที่อยู่ภายในร้าน แล้วเดินเข้าไปทางหลังร้าน
หวังจื่อหยา ถอนหายใจออกมาดังเฮือก ขุ่นเคืองใจตัวเองที่ดันโง่บัดซบ ไม่ได้แก้ไขความเข้าใจผิดของแอนนี่ ตั้งแต่แรกเจอกันวันนั้น ทำให้เรื่องพัวพันจนยากจะบอกในตอนนี้
“ไอ้จื่อหยาเอ๊ย เพราะแกนั่นแหล่ะ ดันสนุกกับการความจริงใจของเขา จนเป็นเรื่องจนได้”
………………..
สองปีกว่าก่อนหน้านั้น
เมื่อหวังจื่อหยาไปดูตึกที่แม่บอกว่าจะขายทิ้ง ซึ่งเคยเป็นที่อยู่อาศัยเก่าของเขากับพ่อและแม่ ตอนที่ยังไม่ร่ำรวยเท่าในปัจจุบัน
ด้วยความอาลัยอาวรณ์สถานที่ๆเคยอยู่ในตอนเด็ก จึงไม่อยากให้แม่ขายมันทิ้งไป เขาจึงยืมมอเตอร์ไซด์ของคนงานในบ้าน ขับออกมาดูตึกกลางดึก ทั้งที่ยังอยู่ในชุดนอน
เมื่อเขาก้าวเข้าไปในตึกที่เงียบสงัด จนถึงชั้นสาม ก็ได้ยินเสียงคน และแสงไฟลอดออกมา เขามองเข้าไปด้วยความแปลกใจ นี่มันตีสองแล้ว ใครยังอยู่ในตึกอีกนะ
เขาเปิดประตูกระจกที่ด้านหน้าติดป้ายว่า โรงเรียนสอนไอกิโด้สำหรับเด็ก เข้าไปก็พบกับเธอเป็นครั้งแรก
แอนนี่ฝึกม้วนตัวและตบเบาะอยู่จนดึกดื่น เงยหน้าขึันจากที่นอนแผ่หราอยู่มองมาที่เขา ซึ่งมายืนคร่อมมองเธอด้วยความแปลกใจ
ผู้หญิงคนนี้ทำอะไรน่ะ ดึกขนาดนี้ทำไมยังมาซ้อมอะไรอยู่
“นี่นาย จะมาสมัครเป็นครูพาร์ทไทม์คนใหม่เหรอ”
เธอเด้งตัวขึ้นมานั่งมองเขา และเอ่ยปากถาม เขาก็เลยพยักหน้าหงึกๆไปส่งเดชอย่างนั้นแหล่ะ ก็จะให้ตอบว่าไงล่ะ สภาพชุดนอนของตัวเขา รองเท้าแตะด้วย
“นายมาช้าไปนะ มาก่อนสามทุ่มซิ พี่ไห่จะได้สัมภาษณ์นายได้”
เธอลุกขึ้นยืน ยื่นมือมาเกาะแขนเขาไว้ แล้วยกขาขึ้นมาดึงเศษด้ายที่ติดที่ขาออก
ยัยนี่ ทำตัวสนิทสนมกับเขา ราวกับรู้จักกันมานานได้ยังไง เพิ่งเจอกันครั้งแรก ใช้ร่างเขาแทนเสาได้ด้วยแหะ
“ว่าไง มาใหม่พรุ่งนี้นะพี่ชาย ไม่มีคนมาสมัครหรอก ตึกมันเก่าหน่อย แล้วก็ได้ข่าวว่าเจ้าของตึก อาจจะไม่ให้พี่ไห่ต่อสัญญา นี่ยังไม่รู้เลยว่าฉันจะตกงานรึเปล่า”
“เธอทำงานที่นี่นานรึยัง หน้าตาเธอยังเด็กอยู่เลย อายุเท่าไหร่เนี่ย”
“หือ ก็ปีนึงได้แล้วล่ะ แหม นายโตกว่าฉันสักเท่าไหร่กัน ฉันเรียนมหาลัยขึ้นปีสองแล้วนะ นายล่ะ”
"อ๋อเหรอ งั้นฉันก็โตกว่าเธอปีนึง"
“เหรอเก๋อเกอ ฮ่าๆ ฉันชื่อแอนนี่ นายล่ะ”
“จื่อหยา หวังจื่อหยา”
นั่นแหล่ะ จุดเริ่มต้นของความเข้าใจผิดของแอนนี่ ที่เข้าใจว่าเขาเป็นนักศึกษาจนๆ หางานพาร์ทไทม์ทำเหมือนกันกับเธอ
แล้วเขาก็สนุกกับการมีเพื่อนใหม่ที่น่ารัก จนปล่อยให้มันเลยเถิดมาจนถึงทุกวันนี้
…….จบตอน…..
ความคิดเห็น