NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ร่ายเวทรัก(จางอี้หาน)

    ลำดับตอนที่ #20 : งั้นเป็นแฟนกันก่อนก็ได้

    • อัปเดตล่าสุด 4 ต.ค. 65


    20

     

    ห้องทำงานของจางอี้หาน ห้างสรรพสินค้าK11 ย่านจิมซาจุ่ย

    “นั่งตรงนี้ก่อนนะ”

    จางอี้หานวางร่างของแอนนี่ ลงบนโซฟารับแขกในห้องทำงาน ซึ่งเขาจัดมุมนี้ไว้นั่งเล่นริมหน้าต่าง 

    ด้านนี้ของห้องทำงานเขานั้น เป็นกระจกใสมองเห็นวิวยาวไปถึง ที่อ่าววิคตอเรียได้ถนัดตา

    คลิ้ก!!

    เขาเดินกลับไปล็อกประตูห้องทำงาน แล้วก็สั่งให้อาเฟิงปิดปากให้สนิท เรื่องที่เขาพาแอนนี่มาคุยกันในห้องนี้

    แอนนี่มองจางอี้หานที่เดินไปล็อกห้อง เธอยกมือขึ้นมาปาดน้ำตา ของตัวเองออกจากแก้ม พยายามสงบจิตใจ แล้วหันไปมองรอบๆห้อง 

    ห้องนี้กว้างมาก แล้วก็สวยมากด้วย วิวด้านนอกที่มองออกไปนั่น ก็สวยจริงๆ

    เขาเป็นเจ้าของที่นี่จริงๆซินะ คนที่จะใช้ห้องหรูหราแบบนี้ทำงานได้ คงต้องมีระดับพอสมควรเลย ห้องนี้มันยังกว้างกว่าบ้านของเธอกับพ่อ ทุกห้องรวมกันซะอีก

    “วิวสวยไหม หิวรึยังล่ะครับ”

    จางอี้หานเดินกลับมา เขาเห็นแอนนี่มองดูวิวนอกหน้าต่าง แล้วก็ยืนยิ้มอยู่เหนือร่างเธอ 

    ไอ้ท่าทางป้ายน้ำตาเป็นเด็กๆนั่น ดูยังไงก็ไม่เหมือนยัยแองจี้เลยสักนิด 

    ความรู้สึกของเขา มันถูกต้องแล้วซินะ ที่รู้สึกมาตลอดว่า คนที่เขาชอบ ไม่ใช่ยัยเซเลบคนดังนั่น

    “ไม่ค่ะ ไม่หิวเท่าไหร่ค่ะ”

    แอนนี่เงยหน้าขึ้นมองจางอี้หาน แล้วก็พึมพำออกมาเบาๆ เสียงเธอราวกับกระซิบ เขาหัวเราะหึๆ กับท่าทางที่ดูเกรงอกเกรงใจเขา ผิดกับตอนครั้งแรกที่พบเจอกัน 

    “นั่งด้วยนะ ไม่ชอบนั่งไกลๆกันเลย”

    จางอี้หานทิ้งตัวนั่งลงไปบนโซฟาตัวเดียวกับแอนนี่ เขานั่งปุ๊บก็หมุนตัว ไปช้อนร่างเธอขึ้นมานั่งบนตักของตัวเอง 

    “อุ๊ย! คุณ! อื้อ”

    แอนนี่สะดุ้ง เธอตกใจแล้วหลุดปาก เรียกเขาแปลกๆออกมาอีกแล้ว 

    ก็เขาชอบถึงเนื้อถึงตัวเธอ อยู่ตลอดเวลาเลย นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นเจ้าหนี้ของแม่ เธอก็อยากจะวิ่งหนีไปเลย แต่ก็กลัวว่าเขาจะเล่นงานแม่ อย่างที่เขาบอกเอาไว้

    “คุณอะไร ไหนบอกว่า จะเรียกพี่ไง พี่อี้หาน ไหนเรียกซิครับ แอนนี่”

    แอนนี่เม้มปาก เมื่อจางอี้หานจ้องเธอระยะกระชั้นชิดมาก มือเขาโอบอยู่รอบเอวเธอ และตอนนี้เธอก็นั่งอยู่ บนต้นขาแข็งแรงของเขาด้วย

    “พี่ เอ่อ พี่อี้หาน”

    “อือ เรียกแบบนั้นแหล่ะ ทีนี้เรามาเริ่มเรื่องอะไรกันก่อนดี”

    “เรื่อง เรื่องอะไรค่ะ”

    แอนนี่รีบก้มหน้าลงมองมือตัวเอง  เธอคิดไปว่า เขาจะเอาเรื่องเธอรึเปล่านะ 

    เมื่อปีก่อน ที่เธอเอารีโมทไปเขวี้ยงหัวเขาไว้นั่น เขาจำมันได้รึเปล่านะ แต่เขาก็สะลึมสะลือนี่ตอนนั้น ไม่เห็นหน้าเธอหรอกมั้ง

    “หึ ไม่กล้ามองหน้ากันนี่ ก็แสดงว่า รู้ตัวอยู่ซินะ ว่าก่อเรื่องอะไรไว้มั่ง”

    “ไม่ ไม่ได้ก่อเรื่องอะไรนะคะ ตอนนั้นมันเป็นเรื่องบังเอิญ แล้วแอนนี่ก็กลัวคุณ เอ๊ย กลัวพี่อี้หาน”

    “ตอนไหน หมายถึงที่บนเรือ เมื่อปีที่แล้วน่ะเหรอ แอนนี่กลัวพี่เหรอ”

    แอนนี่หลบสายตา เม้มปากไว้ ไม่กล้าพูดอะไรออกไปอีก  จางอี้หานเชยคางเธอขึ้นมา แล้วก้มไปจูบที่ปากเธอ ซึ่งเม้มไว้นั่นเบาๆ

    “กลัวอะไรพี่ หือ”

    “ก็ ก็พี่ชอบทำแบบนี้ไง ชอบมากอดมาจูบ เราไม่ได้รู้จักกันสักหน่อย ทำไมถึงมาทำแบบนี้ละคะ”

    “ฮ่าๆ อือ แสดงว่าถ้ารู้จักแล้ว ก็ทำได้งั้นเหรอ”

    แอนนี่หน้าตาตื่น รีบส่ายหน้า เขาหรี่ตามองแล้วก็ยิ้มๆ อย่างอารมณ์ดี 

    ตอนนี้ ที่เขามีเธออยู่ในอ้อมแขน เขารู้สึกว่าตัวเองมีความสุขดี แม้ว่าเธอออกจะดูกลัวๆเขาอยู่ก็เหอะ 

    แต่เขาก็ยังชอบ ที่เธอมีตัวตนอยู่ตรงหน้า แล้วก็พูดคุยกับเขาได้แบบนี้

    “ไม่ ไม่ใช่นะคะ ถึงรู้จักกัน ก็ ก็ไม่ควรทำแบบนี้”

    “แล้ว ยังไงถึงจะทำแบบนี้ได้ล่ะ หือ”

    “ก็ ก็คนที่ทำแบบนี้ได้ เขาก็ต้องเป็นแฟน เป็นเอ่อ...”

    “เป็นผัวเมียกันน่ะเหรอ อือ ถ้าระดับนั้น มันจะยิ่งกว่านี้เยอะเลยนะ แอนนี่”

    แอนนี่อ้าปากค้าง กับถ้อยคำของจางอี้หาน เธอรู้สึกว่าเธอเถียงเขา ไม่เคยชนะสักเรื่องเลย เขามีวิธีพูดที่ทำให้เธออาย แล้วก็ต้องยอมแพ้เขาได้ตลอด

    “ฮ่าๆ เงียบเหรอ งั้นก็เป็นแฟนกันก่อนก็ได้ จะได้คุ้นเคยกันก่อน ตอนนี้อายุยี่สิบ แล้วแอนนี่เรียนจบรึยัง”

    แอนนี่ยังงงๆ ที่จางอี้หานพูดรวบรัด แฟนอะไรของเขาน่ะ เปลี่ยนเรื่องไวชะมัด

    “เรียน ยังไม่จบค่ะ เหลืออีกเทอมนึงค่ะ ฝึกงาน แล้วก็มีอีกสองวิชา เอ่อ พี่อี้หานค่ะ เราไม่ได้เป็นแฟนกันสักหน่อยนี่ค่ะ พี่อี้หานจีบพี่แองจี้อยู่ไม่ใช่เหรอค่ะ”

    “หือ ทีละเรื่องนะ เอาเรื่องเรียนก่อน สรุปคือเหลือเทอมนึงที่ต้องฝึกงาน กับวิชาค้างอยู่นิดหน่อย โอเคครับ พี่รับทราบเรื่องเรียนของแอนนี่ ก็คือพี่ต้องรอแอนนี่อีกราวๆ ครึ่งปีซินะ”

    “รอ รออะไรค่ะ”

    แอนนี่กระพริบตาปริบๆ เรื่องเรียนของเธอ มันไปเกี่ยวข้องอะไรกับเขา ตั้งแต่ตอนไหนกัน 

    “หึ ช่างเหอะ ทีนี้เรื่องของแองจี้ พี่ไม่เคยจีบแองจี้นะ เขาเป็นพี่ของแอนนี่เหรอ ตะกี้เรียกว่าพี่”

    “ค่ะ เป็นพี่สาว เราเป็นฝาแฝด แต่เราไม่ค่อยเหมือนกันเท่าไหร่ค่ะ พี่แองจี้เขาสวยกว่าแอนนี่เยอะ”

    จางอี้หานหัวเราะหึๆ เขาพิงร่างลงไปกับโซฟา รู้สึกผ่อนคลายกับเธอที่นั่งบนตัก มือเขาดึงเธอให้พิงตัวเขาไว้ 

    วิธีการพูดจาของเธอ ไม่เหมือนกับแองจี้สักนิด ใช่อยู่เค้าโครงหน้าเหมือนกัน แต่รูปร่าง และทุกอย่างเลยไม่เหมือนกันสักนิด

    “ใครบอก ว่าแองจี้สวยกว่า”

    “ก็ ก็ทุกคนแหล่ะค่ะ ก็ ผู้ชายส่วนมากจะชอบพี่แองจี้ เขาเป็นนางฟ้า ส่วนแอนนี่เป็นแม่มด”

    เธอมองไปที่วิวนอกหน้าต่าง คิดถึงแองจี้ขึ้นมา 

    ตอนนี้เธอไม่ได้กังวล นึกถึงเรื่องที่นั่งอยู่บนตักเขาแล้ว พอเขาทำตัวสบายๆ เธอก็ผ่อนคลายตามเขา 

    เธอพิงร่างเขา ซบไหล่เขา มองวิวนอกหน้าต่าง แล้วพูดคุยเหมือนสนิทกันมานาน

    “อือ แอนนี่ก็เป็นแม่มดจริงๆนั่นแหล่ะ แต่ไม่ได้ไม่สวยสักหน่อย แอนนี่สวยกว่านะ ในสายตาพี่”

    “ฮ่าๆ แหม อย่ามาพูดเอาใจแอนนี่เลยค่ะ แอนนี่รับได้ค่ะ ไม่สวย ก็ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ แอนนี่โอเคค่ะ”

    “หือ อย่างพี่เนี่ยนะ พูดเอาใจใคร ยัยแม่มด เฮ้อ แล้วแม่ล่ะ เมื่อกี้คุยอะไรกันในร้าน พี่ยืนดูเห็นปลอบแม่ร้องไห้ มันเรื่องอะไร”

    แอนนี่ผงกหัวหันไปมองหน้าจางอี้หาน เขาก็ก้มมามองเธอ แล้วก็ประกบปากลงมาจูบเธออีก 

    “อื้อ พี่ อื้อ”

    ปากของจางอี้หานงับที่ริมฝีปากล่างของเธอ แล้วแทรกลิ้นเข้ามา เธอยกมือไปกำเสื้อเชิ้ตของเขาไว้ มือเขาประคองท้ายทอยเธอเอาไว้ แล้วกดปากลงไปหนักๆอีกรอบ

    “พี่ชอบเธอนะแอนนี่ พี่ไม่จำเป็น ต้องโกหกว่าเธอสวย จำไว้ว่า พี่ไม่ชอบพูดโกหก”

    แอนนี่ลืมตามามองเขา ปากเธอเจ่อเพราะจูบจากเขา แก้มแดงๆนั่น เขาเกลี่ยนิ้วกับแก้มของเธอ แล้วดึงตัวเธอซบมาบนไหล่อีกรอบ

    “คุยอะไรกับแม่ หือ แล้วร้องไห้ทำไม”

    “คุย คุยเรื่องหนี้ที่แม่ยืม เอ่อ ยืมพี่อี้หานไปค่ะ”

    “อือ แล้วไงล่ะ ทำไมแม่แอนนี่ถึงต้องร้องไห้”

    “เอ่อ พี่แองจี้หายไปค่ะ เอาค่าตัวที่ เอ่อ ที่พี่อี้หานจ่ายเราไปด้วย แม่ไม่รู้จะทำยังไงค่ะ แอนนี่ ก็ไม่มีเงินมากขนาดนั้นจะช่วยแม่”

    “อ๋อ ไอ้ค่าตัวพรีเซ็นเตอร์สองปี แองจี้เอาไปเหรอ อืม”

    “พี่ พี่อี้หานจะฟ้องแม่รึเปล่าค่ะ แล้ว ที่พี่แองจี้หายไป ให้ ให้แอนนี่ทำงานแทนได้ไหมค่ะ ส่วนเงิน เดี๋ยวแอนนี่จะพยายามหามาใช้ให้ค่ะ ช่วยรออีกหน่อยได้ไหมค่ะ”

    แอนนี่ผงกหัวมามองหน้าเขา สายตาอ้อนวอนนั่น จางอี้หานมองเธอ แล้วก็ครุ่นคิดไปอีกเรื่องแทน

    “ทำงานแทนแองจี้ แล้วก็ต้องฝึกงานด้วยไม่ใช่เหรอ จะเรียนจบแล้วจะมาทำงานแทนพี่สาว จะไหวเหรอ”

    จางอี้หานยกมือขึ้นปัดผมที่ระหน้าของแอนนี่ ไปทัดหูเธอ เธอพยักหน้าหงึกๆ แล้วก็จับมือเขาที่ลูบหน้าเธออยู่ เอามากุมเอาไว้แน่น แล้วเขย่ามือเขา

    “ไหวค่ะ แอนนี่ทำงานเก่งนะคะ นะคะ ให้แอนนี่ทำแทนพี่แองจี้ละกันนะคะ แม่จะได้สบายใจ แล้วเงิน แอนนี่จะพยายามหามาใช้ให้”

    “สามล้าน รวมค่าตัวนั่น ก็สี่ล้านหยวนนะแอนนี่ มันไม่ใช่เงินนิดหน่อย แล้ว จะไปหามาจากไหน หือ”

    “ก็ ก็ยังไม่รู้ แต่จะหามาให้ค่ะ แอนนี่ไม่โกงพี่อี้หานหรอกค่ะ”

    “หึ ก็ไม่ได้พูดว่าแอนนี่จะโกงนี่น่า”

    จางอี้หานหัวเราะ ท่าทางจริงจังของแอนนี่ เธอดูจริงใจ ไม่มีการเสแสร้งในคำพูดคำจา 

    เขาอยู่บนเส้นทางธุรกิจ ที่ทั้งสีขาว สีเทามาจะสิบปีแล้ว นับตั้งแต่เดินตามอาเจ่เหม่ยหลิงตอนวัยรุ่น เขาเจอมาทุกรูปแบบ 

    คนแบบแอนนี่ ไม่เหมาะจะทำธุรกิจเลย เธอแสร้งทำไม่เก่ง ไม่เหมือนพี่สาวเธอสักนิด

    “งั้น พี่อี้หานยืดเวลาจ่ายไปก่อนได้ไหมค่ะ อีกสองอาทิตย์แม่คง หาเงินมาไม่ทันหรอกค่ะ”

    “แล้ว มีข้อเสนออะไรล่ะ จากสองอาทิตย์ จะเลื่อนเป็น..ตอนไหน”

    “ไม่ ไม่รู้ซิค่ะ แอนนี่ยังไม่รู้จะหาเงิน จำนวนเยอะขนาดนั้นมาจากไหน จะลองไปปรึกษาจื่อหยาดูก่อนค่ะ”

    เธอก้มหน้าลงมองฝ่ามือตัวเอง แล้วก็พูดชื่อใครสักคน ออกมาจากปากอวบอิ่มนั่น ที่ทำให้เขาสะดุดหู

    “ใคร คือ จื่อหยา!!”

     

    …จบตอน…

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×